Share

หนี

last update Last Updated: 2025-07-31 23:57:41

หลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะตามเงาปีศาจเข้าไปในรอยแยกเล็กๆ นั้น พวกเขาก็พบว่าทางเดินที่ทอดยาวไปเบื้องหน้ามันซับซ้อนและวกวนกว่าที่คิด รากไม้ขนาดมหึมาพันเกี่ยวกันเป็นอุโมงค์มืดมิด ไอเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาในอากาศเริ่มกัดกินจนรู้สึกถึงความเจ็บปวด กระดูกของพวกเขาเริ่มสั่นสะท้านจากความหนาวเหน็บ

ทันทีที่ก้าวพ้นปากทางออก พวกเขาก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ใต้ดินอีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยแสงสีม่วงดำจากรอยแยกมิติขนาดใหญ่ที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่กลางอากาศ และที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นคือมี เงาปีศาจจำนวนมหาศาลยืนอยู่รายล้อม แท่นบูชาที่พวกเขาเคยเจอในถ้ำก่อนหน้านี้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของพิธีกรรมที่เต็มไปด้วยพลังงานอันมืดมิด

"โอ้...ไม่นะ" ดาอิพึมพำเสียงสั่น เธอเหลือบมองนาฬิกาอาคมบนข้อมือ ซึ่งตอนนี้หน้าปัดขึ้นเป็นสัญลักษณ์เตือนภัยสีแดงอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับตัวเลขที่ระบุจำนวนปีศาจที่ไม่อาจจะนับได้

"ให้ตายสิ...มันเยอะกว่าตอนแรกเสียอีก!" ไดชิกล่าวเสียงเครียด เขากระชับมีดอาคมในมือแน่น ท่ามกลางเสียงคำรามต่ำๆ ที่ประสานกันของเหล่าเงาปีศาจที่เริ่มหันมามองพวกเขาด้วยดวงตาสีแดงก่ำ

"กร๊าซซซซซ!"

เสียงคำรามดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งห้องโถง เงาปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าใส่พวกเขาจากทุกทิศทาง มันเร็วเกินกว่าที่ดวงตาจะมองทัน ราวกับฝูงผึ้งที่กำลังพุ่งเข้าโจมตีรังของศัตรู

"ฮึ่ย!" ไดชิคำราม เขาฟันมีดอาคมออกไปอย่างสุดกำลัง ตัดผ่านร่างเงาของปีศาจไปสองสามตัวก่อนที่ร่างของมันจะแตกสลายเหลือเพียงดวงวิญญาณสีม่วงเข้ม

"ดาอิ! เร็ว!" เขาตะโกนเตือน

ดาอิไม่รอช้า เธอชูขวดอาคมขึ้นเหนือหัว พึมพำคาถาอย่างรวดเร็วเพื่อกักเก็บดวงวิญญาณ แต่เพียงเสี้ยววินาที เงาปีศาจอีกหลายตัวก็พุ่งเข้ามาประชิดตัวเธออย่างกะทันหัน

"โอ๊ย!" ดาอิร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อกรงเล็บแหลมคมของปีศาจตัวหนึ่งเฉียดเข้าที่แขนของเธอจนเกิดรอยแผลเป็นสีแดงยาว เธอพยายามดึงขวดออกมาแต่ก็ถูกเงาปีศาจที่พยายามจะฉีกกระชากขวดของเธอออกไปจากมือ

"อย่าเข้ามานะ!" ดาอิร้องเสียงหลง พยายามใช้เท้าถีบเงาปีศาจออกไปให้พ้นทาง แต่มันกลับแข็งแรงเกินคาด

"ดาอิ!" ไดชิเห็นดังนั้นก็รีบพุ่งเข้าไปช่วยทันที เขาฟันมีดอาคมออกไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้เงาปีศาจที่รุมดาอิสลายไปอีกหลายตัว

"เธอเป็นอะไรรึเปล่า?!" ไดชิถามด้วยความตกใจ ขณะที่ดาอิรีบใช้ผ้าพันแผลที่เตรียมมาพันบาดแผลที่แขนอย่างเร่งด่วน

"ฉันไม่เป็นไร...แต่พวกมันเยอะเกินไปจริงๆ ไดชิ" ดาอิกล่าวเสียงสั่น เธอพยายามกักเก็บดวงวิญญาณปีศาจที่ลอยคว้างอยู่ แต่ก็ถูกเงาปีศาจอีกตัวที่เข้ามาโจมตีจากทางด้านหลัง

"ให้ตายเถอะ! นี่มันไม่จบไม่สิ้นเลยหรือไง!" ไดชิสบถออกมาอย่างหงุดหงิด เขาก้มตัวหลบการโจมตีจากข้างบน ก่อนจะหมุนตัวฟันมีดออกไปอีกครั้ง "เราจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ได้! เราต้องหาทางตั้งหลัก!"

การต่อสู้ดำเนินต่อไปอย่างยาวนานจนพวกเขาเริ่มรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าที่กัดกินพลังงานทั้งหมดที่มี ไดชิเริ่มมีอาการหอบหนักขึ้นเรื่อยๆ แขนของเขาก็เริ่มอ่อนแรงลง มีดอาคมในมือเริ่มสั่นเล็กน้อย ส่วนดาอิก็ต้องใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีในการหลบหลีกและกักเก็บวิญญาณให้ทัน

"กี่ตัวแล้ว..." ไดชิพึมพำกับตัวเอง เขารู้สึกเหมือนมีดอาคมของเขากำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ พลังงานจากอาคมเริ่มพร่องไปอย่างรวดเร็ว

"สิบห้าตัวแล้วไดชิ! แต่พวกมันยังมีอีกเป็นร้อย!" ดาอิตะโกนตอบ เธอรู้สึกเหมือนพลังงานจากขวดอาคมของเธอกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

ทันใดนั้นเอง...ก็มีเสียงคำรามที่รุนแรงกว่าปกติ เงาปีศาจตัวหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าของพวกมันปรากฏตัวขึ้น มันมีขนาดใหญ่กว่าตัวอื่นๆ ถึงสองเท่า มีเขาแหลมบนศีรษะ และมีดวงตาถึงสามดวงที่เปล่งแสงสีแดงก่ำราวกับเพลิงนรก

"นั่นมัน...ปีศาจระดับสูง!" ดาอิร้องออกมาด้วยความตกใจ นาฬิกาอาคมของเธอส่งเสียงเตือนระดับสูงสุด

"เราสู้มันไม่ไหวแน่! ถอยก่อน!" ไดชิกล่าวอย่างเด็ดขาด เขาดึงมือดาอิให้วิ่งไปทางด้านหลังของห้องโถง ซึ่งมีทางแยกเล็กๆ อีกทางหนึ่งซ่อนอยู่

"ไม่นะ! อย่าหนีนะเว้ย!" เสียงคำรามของเงาปีศาจระดับสูงดังก้องไปทั่วถ้ำ มันพุ่งเข้าใส่พวกเขาอย่างรวดเร็วราวกับขีปนาวุธที่กำลังจะพุ่งชนเป้าหมาย ไดชิใช้มีดอาคมฟันไปที่มันแต่กลับไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

"ฮึ่ย! ทำไมมันไม่โดน!" ไดชิสบถออกมา เขาพยายามฟันมีดใส่เงาปีศาจอีกครั้ง แต่คราวนี้มันกลับใช้กรงเล็บแหลมคมปัดมีดของเขาจนกระเด็นไปตกไกล

"มีด!" ดาอิร้องออกมาด้วยความตกใจ

"ช่างมันก่อน! หนี!" ไดชิคว้ามือดาอิแน่นและพุ่งตัวเข้าไปในทางแยกเล็กๆ นั้นทันที

เสียงคำรามของเงาปีศาจไล่ตามหลังมาติดๆ พวกเขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตไปตามอุโมงค์ที่มืดมิดและวกวน รากไม้ที่พันกันเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนทำให้พวกเขาเดินทางได้ลำบาก แต่ก็เป็นอุปสรรคสำหรับเงาปีศาจที่ตามมาด้วยเช่นกัน

"ทางนี้!" ไดชิชี้ไปยังช่องทางเล็กๆ ที่อยู่ด้านขวา พวกเขาแทรกตัวเข้าไปในช่องทางนั้นอย่างรวดเร็ว

เมื่อคลานผ่านช่องทางนั้นออกมา พวกเขาก็พบว่าตัวเองมาอยู่ในถ้ำขนาดเล็กอีกแห่งหนึ่ง ที่นี่เงียบสงัดและเต็มไปด้วยแสงสว่างจากตะเกียงหินที่เปล่งแสงเรืองรองอยู่บนผนังถ้ำ

"ปลอดภัยแล้ว..." ดาอิพึมพำด้วยความโล่งอก เธอทรุดตัวลงกับพื้นหินเย็นๆ หายใจหอบอย่างหนัก

"ให้ตายสิ...ถ้าไม่ถอยมาคงแย่แน่" ไดชิกล่าว ใบหน้าของเขาซีดเซียวไปด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดกลัว เขาเหลือบมองไปที่รอยแผลบนแขนของดาอิด้วยความกังวล

"แผลไม่ลึกมากหรอก...แต่เจ็บชะมัดเลย" ดาอิกล่าวพร้อมกับยิ้มแห้งๆ เธอเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ ถ้ำที่พวกเขาเข้ามาหลบซ่อน

ถ้ำนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่กลับมีบรรยากาศที่แตกต่างจากถ้ำอื่นๆ ที่พวกเขาเคยเจอ ที่นี่ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า แต่กลับมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนกลิ่นของดอกไม้อะไรบางอย่าง ผนังถ้ำเต็มไปด้วยภาพวาดโบราณที่สลักเสลาอย่างประณีต แต่ภาพวาดเหล่านี้ไม่ใช่ภาพการต่อสู้ แต่เป็นภาพการทำพิธีกรรมบางอย่างที่ดูเหมือนจะเป็นการปกป้อง

"ที่นี่มันอะไรกัน?" ดาอิพึมพำด้วยความประหลาดใจ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นและเดินไปสำรวจภาพวาดเหล่านั้น

"ดูเหมือนจะเป็นที่หลบภัยนะ..." ไดชิกล่าว เขาสังเกตเห็นว่าบนผนังถ้ำมีสัญลักษณ์บางอย่างที่คล้ายกับสัญลักษณ์บนหีบปริศนาที่พวกเขาค้นพบ แต่สัญลักษณ์ที่นี่มีขนาดใหญ่กว่าและมีรูปร่างที่ซับซ้อนกว่ามาก

"ดูนี่สิไดชิ!" ดาอิร้องขึ้นด้วยความตื่นเต้น เธอส่องไฟฉายไปที่ผนังถ้ำอีกด้านหนึ่ง และพบว่ามีข้อความบางอย่างสลักไว้บนผนัง เป็นภาษาโบราณที่พวกเขามองไม่คุ้นตา แต่กลับรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

"มันคืออะไร?" ไดชิถาม

"ฉันก็ไม่รู้...แต่เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย..." ดาอิตอบ ใบหน้าของเธอฉายแววครุ่นคิด "มันคล้ายกับอักษรบนหน้าหนังสือเก่าๆ ในห้องสมุดของโรงเรียนเรา"

"เป็นไปได้...มันอาจจะเป็นเรื่องราวของเกาะนี้ก็ได้" ไดชิกล่าว เขาเดินเข้าไปใกล้ผนังถ้ำนั้น และใช้มือสัมผัสตัวอักษรโบราณเหล่านั้น "มันมีพลังงานบางอย่างนะดาอิ...มันรู้สึกอุ่นๆ"

ในขณะที่พวกเขากำลังสำรวจผนังถ้ำอย่างตั้งใจอยู่นั้น เสียงคำรามของเงาปีศาจก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เสียงมันเบาลงกว่าเดิมมาก ราวกับมันอยู่ห่างออกไปหลายเมตร

"พวกมันยังตามเรามาอยู่!" ดาอิกล่าวด้วยความกังวล

"แต่ทำไมมันถึงไม่เข้ามาที่นี่นะ?" ไดชิสงสัย เขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานถ้ำ และพบว่าบนเพดานมีสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงเรืองรองอยู่ สัญลักษณ์นั้นคล้ายกับโล่ที่กำลังปกป้องบางสิ่งบางอย่าง

"หรือว่าที่นี่จะเป็นเขตปลอดภัย?" ดาอิเดา เธอยกนาฬิกาอาคมขึ้นมาดู ซึ่งตอนนี้มันก็ยังคงนิ่งสนิท ราวกับไม่มีเงาปีศาจอยู่ในบริเวณนี้เลย

"เป็นไปได้...สัญลักษณ์นี้อาจจะสร้างอาคมป้องกันบางอย่างเอาไว้" ไดชิกล่าว เขาเดินเข้าไปใกล้สัญลักษณ์นั้น และใช้มือสัมผัสดู "มันมีพลังงานที่บริสุทธิ์มาก...แตกต่างจากพลังงานมืดของพวกปีศาจอย่างสิ้นเชิง"

ในขณะที่พวกเขากำลังยืนสำรวจสัญลักษณ์อยู่นั้น เสียงคำรามของเงาปีศาจก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้เสียงมันอยู่ไกลออกไปมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับพวกมันกำลังถอยกลับไป

"ดูเหมือนเราจะปลอดภัยจริงๆ ด้วย" ดาอิกล่าวด้วยความโล่งใจ "อย่างน้อยก็ในตอนนี้"

"ใช่...แต่เราจะทำยังไงต่อล่ะ?" ไดชิถาม เขาเหลือบมองไปที่รอยแยกมิติที่ยังคงสั่นสะเทือนอยู่ไกลๆ "มีดอาคมของฉันก็หายไปแล้ว"

"เราต้องหาทางกลับไปเอาคืนมาให้ได้" ดาอิกล่าว "มีดอาคมเป็นกุญแจสำคัญในการจัดการพวกมัน"

"แต่เราจะไปสู้อีกรอบไม่ได้แล้วนะ! เราไม่มีทางชนะแน่" ไดชิโต้แย้ง

"ฉันรู้...แต่เราต้องทำอะไรสักอย่าง" ดาอิกล่าว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "ดูนี่สิ" เธอชี้ไปยังภาพวาดบนผนังถ้ำอีกครั้ง "ดูเหมือนว่าภาพวาดเหล่านี้จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับหีบปริศนา และวิธีการที่จะใช้พลังของมันในการกำจัดพวกปีศาจ"

"เธอคิดว่ามันคืออะไร?" ไดชิถามอย่างสนใจ

"ฉันยังไม่รู้...แต่เราอาจจะต้องถอดรหัสอักษรโบราณพวกนี้ก่อน" ดาอิตอบ "และฉันรู้สึกว่ามันเกี่ยวข้องกับเราสองคน" เธอกล่าวพร้อมกับมองไปที่สัญลักษณ์ฝาแฝดที่ปรากฏอยู่บนภาพวาด

"ฝาแฝดงั้นเหรอ?" ไดชิถามอย่างประหลาดใจ

"ใช่...ในภาพวาดมีรูปฝาแฝดสองคนกำลังใช้พลังบางอย่างในการปิดรอยแยกมิติ" ดาอิกล่าว "ฉันคิดว่า...เราสองคนอาจจะเป็นคนสำคัญที่จะต้องทำภารกิจนี้ให้สำเร็จ"

"ถ้าอย่างนั้น...เราต้องอยู่ที่นี่ก่อน" ไดชิกล่าว "เราต้องใช้เวลาถอดรหัสข้อความพวกนี้ และทำความเข้าใจกับพลังของหีบให้ได้ก่อนที่จะกลับไปสู้กับพวกมัน"

"นายพูดถูก" ดาอิพยักหน้า "เราต้องใช้ความรู้นี้ในการเอาชนะพวกมันให้ได้"

ทั้งสองนั่งลงบนพื้นถ้ำ และเริ่มพิจารณาภาพวาดและตัวอักษรโบราณเหล่านั้นอย่างจริงจัง พวกเขาใช้ไฟฉายส่องไปที่ภาพวาดต่างๆ พยายามหาเบาะแสและคำตอบจากสิ่งเหล่านี้ แม้จะเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ที่ดุเดือด แต่ความหวังที่จะหาทางหยุดยั้งเงาปีศาจก็ยังคงลุกโชนอยู่ในใจของพวกเขา

ถ้ำที่เคยเป็นเพียงที่หลบภัยชั่วคราว ตอนนี้กลับกลายเป็นที่มั่นสุดท้ายที่จะทำให้พวกเขารอดพ้นจากอันตราย และที่สำคัญที่สุดคือ...เป็นกุญแจที่จะไขความลับทั้งหมดของเกาะมรณะแห่งนี้

ในขณะที่ความมืดมิดภายนอกถ้ำยังคงถูกปกคลุมด้วยเงาปีศาจที่พร้อมจะฉีกกระชากพวกเขาเป็นชิ้นๆ สองฝาแฝดก็กำลังเริ่มการเดินทางครั้งใหม่...การเดินทางเพื่อไขปริศนาที่จะนำไปสู่หนทางแห่งการเอาชนะและกลับบ้านอย่างปลอดภัย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   ความลับ

    หลังจากทำข้อตกลงกับหัวหน้าเผ่าสึนะ ไคลด์ ไดชิ และดาอิ ก็เริ่มต้นภารกิจที่อันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเผชิญมา การเดินทางสู่ แหล่งพลังอาคมแห่งเงาที่แท้จริง ซึ่งซ่อนอยู่ลึกใต้เกาะแสงอรุณ มีเพียงไคลด์เท่านั้นที่รู้ทางเข้า ซึ่งต้องเดินทางผ่านทางน้ำใต้ดินที่ซับซ้อน"พวกเราทุกคนต้องรู้ว่าความมืดมิดที่พวกเจ้าเคยทำลายไปนั้น...เป็นแค่ เปลือกนอก ของพลังงานทั้งหมด" ไคลด์กล่าวขณะนำทางพวกเขาไปยังปากถ้ำที่ถูกซ่อนไว้ใต้รากต้นไม้ใหญ่ริมทะเลสาบ "พลังเงาที่แท้จริงไม่ได้มีไว้เพื่อทำลายล้าง แต่มีไว้เพื่อ รักษาสมดุลของผืนดิน เมื่อหลายศตวรรษก่อน ผู้พิทักษ์รุ่นก่อนได้ผนึกมันไว้ไม่ให้ถูกผู้ใดครอบครอง"ปากทางสู่ความมืดปากถ้ำนั้นแคบและมืดมิด มีเพียงแสงจากตะเกียงอาคมที่ดาอิสร้างขึ้นเท่านั้นที่ช่วยให้พวกเขามองเห็นได้ ไคลด์ลงไปในน้ำก่อน ตามมาด้วยไดชิและดาอิ พวกเขาต้องว่ายน้ำตามกระแสน้ำใต้ดินที่เย็นเฉียบและมืดสนิทไปนานหลายนาทีเมื่อกระแสน้ำสงบลง พวกเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ใน อุโมงค์หินขนาดใหญ่ ที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำค้างและเสียงสะท้อนที่น่าขนลุก พื้นผิวของผนังถ้ำเต็มไปด้วย คริสตัลเงาสีดำ ที่ส่องแสงสลัว ๆ บ่งบอกถึงความหน

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   สันติภาพ

    หลังจากที่พิธีสืบทอดตำแหน่งเสร็จสิ้น ไคลด์ก็กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งเกาะแสงอรุณอย่างเป็นทางการ แต่ภัยคุกคามจากชนเผ่าแห่งเงาก็ยังคงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ ไดชิ ดาอิ และไคลด์ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า การเจรจาคือหนทางเดียวที่จะนำความสงบสุขที่แท้จริงมาสู่เกาะนี้พวกเขาตัดสินใจเดินทางไปยัง ป่าสนทมิฬ อีกครั้ง สถานที่ที่พวกเขาเคยถูกซุ่มโจมตี โดยมี ปู่เฒ่าดาฟ ร่วมเดินทางไปด้วยในฐานะตัวแทนของชาวเกาะ"การเจรจานี้อันตรายยิ่งกว่าการต่อสู้กับปีศาจ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะเดินนำ "ความบาดหมางระหว่างเรากับชนเผ่าแห่งเงาฝังรากลึกมาตั้งแต่สมัย จอมเวทแห่งเงามืด ยังเป็นมนุษย์""ท่านปู่ ช่วยเล่าเรื่องราวความบาดหมางนั้นให้พวกเราฟังได้ไหมครับ" ไดชิถาม"ได้สิ..." ปู่เฒ่าดาฟเริ่มเล่าด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย "ในอดีต จอมเวทที่ทรยศนั้นเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มนักเวทที่แข็งแกร่งที่สุดบนเกาะ แต่เขามองว่าชาวเกาะธรรมดาและชนเผ่าแห่งเงาที่อาศัยอยู่ในป่าลึกเป็นเพียง เครื่องมือ และ พลังงาน ที่ไร้ค่า เขาต้องการให้ทุกคนกราบไหว้บูชาเขาเพียงผู้เดียว""แล้วชนเผ่าแห่งเงาเกี่ยวข้องอย่างไรคะ" ดาอิถาม"ชนเผ่าเหล่านั้นเป็นกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   การรับตำแหน่ง

    หมู่บ้านแสงอรุณกลับมาสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง แต่ความเงียบสงบในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน ๆ มันคือความสงบที่มาพร้อมกับความตึงเครียดและความเตรียมพร้อม ชาวบ้านช่วยกันพาไดชิ ดาอิ และไคลด์ไปที่วิหารเก่า ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่รักษาพยาบาลชั่วคราวบาดแผลและการเยียวยาไคลด์มีอาการหนักที่สุด พิษจากศรของชนเผ่าแห่งเงาได้เริ่มซึมซาบเข้าสู่กระแสเลือดของเขา แม้ร่างกายจะแข็งแกร่งดุจหินผา แต่พิษร้ายก็ทำให้เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก"นี่มันพิษจาก พฤกษามรณะ" ปู่เฒ่าดาฟกล่าวขณะที่กำลังทำความสะอาดบาดแผลอย่างระมัดระวัง "ชนเผ่าแห่งเงาใช้สารนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อทำให้เหยื่ออ่อนแรง...แต่ดีที่เจ้าเป็นบุตรแห่งทะเล ร่างกายจึงต้านทานได้ดีกว่าคนอื่น"ดาอิที่เฝ้าดูอาการของไคลด์อยู่ไม่ห่างรู้สึกผิดที่เธอไม่สามารถปกป้องเขาได้ เธอจึงตัดสินใจใช้พลังอาคมของตนเองเข้าช่วยในการรักษา ไดชิที่ถูกชนเผ่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่แขนและขา ก็พยุงตัวเองมานั่งข้าง ๆ น้องสาว"ดาอิ...บาดแผลของนาย" ไดชิกล่าวด้วยความเป็นห่วง"ฉันไม่เป็นไรหรอกพี่ไดชิ" ดาอิส่ายหน้า เธอจ้องมองไปที่บาดแผลของไคลด์อย่างตั้งใจ ก่อนจะหลับตาลงเพื่

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   เพลิงแค้นของชนเผ่า

    การเดินทางกลับหมู่บ้านเริ่มต้นขึ้นพร้อมกับ ไคลด์ ผู้พิทักษ์แห่งท้องทะเล ชายหนุ่มลึกลับคนนี้ยังคงเดินนำหน้าอย่างเงียบ ๆ ร่างกายของเขาสง่างามและเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ราวกับว่าเขาไม่ได้เดินอยู่บนพื้นดิน แต่กำลังล่องลอยไปตามกระแสลม ไดชิและดาอิเดินตามหลังเขาไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยความตื่นเต้นและกังวลใจ"ไคลด์..." ไดชิเริ่มต้นบทสนทนาหลังจากที่เดินทางมาได้พักใหญ่ "นายช่วยบอกเราได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่ทะเลเมื่อวานนี้ คลื่นนั่นมันไม่ใช่คลื่นธรรมชาติใช่ไหม"ไคลด์ไม่หยุดเดิน แต่ตอบด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉยแต่แฝงด้วยความหนักแน่น "คลื่นนั้นคือ การปฏิเสธของจิตวิญญาณแห่งทะเล พวกมันไม่ยอมรับผู้ที่ไม่ได้มาจากท้องทะเลให้เข้าใกล้พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเห็นว่าพวกเจ้าไม่ยอมแพ้...พวกมันจึงอนุญาตให้ข้าช่วยนำทางพวกเจ้ากลับมา""แล้วศรเพลิงที่ช่วยเราจากอสูรหินล่ะ" ดาอิถามอย่างกระตือรือร้น "นั่นเป็นของนายใช่ไหม"ไคลด์หันมามองพวกเขาเล็กน้อย ดวงตาสีน้ำทะเลนั้นสบตาไดชิและดาอิอย่างช้า ๆ "ศรนั่นทำจาก ไม้แห่งภูเขาไฟ ที่ไม่ไหม้ไฟ และอาบด้วยพิษแห่งความมืดที่สามารถทำลายสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากพลังตกค้างได้...นั่นคือสิ่งที

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   ร่องรอย

    หลังจากที่เรือกลับถึงฝั่งอย่างปลอดภัย ไดชิและดาอิรีบวิ่งขึ้นจากหาดทรายทันที หัวใจของพวกเขายังเต้นรัวจากความตื่นเต้นและความฉงนสนเท่ห์ที่ได้เห็นชายหนุ่มลึกลับคนนั้น ชายที่สามารถควบคุมพลังของทะเลและซ่อมแซมเรือได้ในพริบตา"เขา...เขาต้องเป็นผู้พิทักษ์คนต่อไปที่เราตามหาแน่ ๆ!" ดาอิกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดขีด"ใช่" ไดชิพยักหน้าอย่างเห็นด้วย "แต่เขาไม่ได้อยากให้เราเจอเลย และการที่เขาพาเรือเรากลับเข้าฝั่งอย่างรวดเร็วขนาดนี้ หมายความว่าเขาอาจจะมุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะแล้ว"สองพี่น้องตัดสินใจเริ่มต้นการตามล่าทันที โดยมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่พวกเขาเชื่อว่าจะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุดสู่ถ้ำของปู่เฒ่าดาฟและหมู่บ้าน ซึ่งพวกเขาเดาว่าชายหนุ่มคนนั้นน่าจะไปที่นั่นก่อนเพื่อพบกับผู้อาวุโสอุปสรรคแรก: ลานหินอัปลักษณ์พวกเขาต้องผ่าน ลานหินอัปลักษณ์ ที่เต็มไปด้วยก้อนหินแหลมคมและเศษซากของต้นไม้ที่ตายแล้ว ซึ่งเคยเป็นอาณาเขตของปีศาจหินก่อนที่เกาะจะฟื้นฟู พวกเขาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะพื้นผิวที่ลื่นและไม่มั่นคง"ดาอิ ระวังให้ดี" ไดชิเตือนขณะที่ใช้มือจับดาบอาคม "พลังงานมืดที่นี่จางหายไปแล้ว แต่พลังอาคมของธาตุหิน

  • 5/B เกาะร้างต้องคำสาป   คลื่นคำราม

    หลังจากผ่านบททดสอบที่โหดร้ายทั้งสองครั้ง ไดชิและดาอิก็เข้าใจแล้วว่าการค้นหาผู้พิทักษ์ที่แท้จริงไม่ใช่แค่การต่อสู้ แต่เป็นการ ทดสอบปัญญาและจิตวิญญาณ ของผู้ถูกเลือก ไดชิและดาอิใช้เวลาในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนที่สามในการฝึกฝนร่างกายและจิตใจอย่างหนักหน่วง พวกเขาตระหนักว่าอาคมของพวกเขาจำเป็นต้องผสานเข้ากับธรรมชาติอย่างแท้จริงตามคำแนะนำของปู่เฒ่าดาฟและรูฟ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทะเลของเกาะ พวกเขาจึงตัดสินใจพาเรือเล็กออกไปฝึกฝนกลางมหาสมุทร"ท่านปู่บอกว่าพลังที่แท้จริงของเกาะแสงอรุณไม่ได้อยู่บนพื้นดินเท่านั้น แต่อยู่ใน ท้องทะเลที่ลึกที่สุด ด้วย" ดาอิกล่าว ขณะที่เธอกำลังตรวจสอบผืนผ้าใบเรือที่ถูกเย็บอย่างแข็งแรง"ใช่" ไดชิกล่าวพร้อมกับดึงเชือกใบเรือให้ตึง ใบหน้าของเขาเปื้อนไปด้วยเหงื่อ "ที่นี่คือสถานที่ที่ไม่มีกำแพงและไม่มีภาพลวงตา มีเพียงพลังงานบริสุทธิ์ของคลื่นและลมเท่านั้น"พวกเขาแล่นเรือออกไปไกลจากชายฝั่งหลายชั่วโมงจนมองไม่เห็นเกาะแล้ว มีเพียงผืนน้ำสีครามที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ไดชิปิดตาลง พยายามใช้จิตสัมผัสถึงพลังอาคมที่แผ่กระจายอยู่ใต้น้ำ ในขณะที่ดาอิฝึกร่ายคาถาควบคุมสายลม เพื่อให้เรือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status