การต่อสู้อันดุเดือดกับเหล่าลูกสมุนปีศาจดำเนินไปอย่างไม่หยุดหย่อน ไอโกะและโชต่างก็พยายามฝ่าวงล้อมของพวกมันไปให้ถึงต้นไม้สูงใหญ่ที่ผ้ายันต์ผืนที่สามแขวนอยู่บนยอด พวกเขาฟันฝ่า ซัดคาถา และหลบหลีกการโจมตีอย่างสุดกำลัง ก้าวแล้วก้าวเล่า ความเหนื่อยล้ากัดกินร่างกาย แต่จิตใจของพวกเขากลับเปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นที่จะคว้าผ้ายันต์มาให้ได้
“อีกนิดเดียวโช! เราใกล้ถึงแล้ว!” ไอโกะตะโกนบอกขณะที่เธอใช้ขวดอาคมฟาดใส่ลูกสมุนปีศาจที่พุ่งเข้ามาจากด้านข้าง โชพยักหน้า เขารวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ พุ่งทะลวงฝ่าวงล้อมของพวกปีศาจออกไปเป็นคนแรก แสงสีทองจาง ๆ จากผ้ายันต์บนยอดไม้ดูเหมือนจะสว่างวาบขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพวกเขาเข้าใกล้ ในที่สุด ทั้งคู่ก็มาถึงโคนต้นไม้ ไอโกะมองขึ้นไปบนยอดไม้ที่สูงเสียดฟ้า ผ้ายันต์ผืนนั้นห้อยอยู่บนกิ่งไม้ที่สูงที่สุด ดูเหมือนจะอยู่แค่เอื้อม แต่ก็ยากที่จะไปถึง “ฉันจะปีนขึ้นไปเองโช!” ไอโกะบอกอย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่าโชเพิ่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ และอาจจะไม่สามารถปีนขึ้นไปได้อย่างปลอดภัยนัก “แต่ไอโกะ! มันสูงมากเลยนะ!” โชโต้แย้ง เขากังวลเรื่องความปลอดภัยของเธอ “ไม่มีเวลาแล้วโช! นายคอยจัดการกับพวกปีศาจที่เข้ามาใกล้ให้ฉันด้วยนะ!” ไอโกะไม่รอช้า เธอเริ่มปีนป่ายขึ้นไปบนลำต้นของต้นไม้ที่เต็มไปด้วยเถาวัลย์และกิ่งก้านที่แข็งแรง เธอปีนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว แม้จะรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกายจากการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง แต่เธอก็ไม่ยอมหยุด โชหันไปเผชิญหน้ากับเหล่าลูกสมุนปีศาจที่ยังคงตามมาไม่ลดละ เขากำมีดอาคมแน่นพร้อมที่จะป้องกันไอโกะอย่างสุดกำลัง เขาฟันและแทงใส่พวกมันอย่างดุเดือด พยายามไม่ให้พวกมันเข้าใกล้ต้นไม้ที่ไอโกะกำลังปีนอยู่ ไอโกะปีนขึ้นไปเรื่อย ๆ เธอคว้าจับกิ่งไม้ที่ยื่นออกมา พยายามทรงตัวบนลำต้นที่สูงชัน ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่ผ้ายันต์ที่อยู่ตรงหน้า เธอเอื้อมมือออกไป คว้ามันไว้แน่น “อีกแค่นิดเดียว…” ไอโกะพึมพำ เธอเอื้อมมือออกไปเกือบจะถึงผ้ายันต์อยู่แล้ว ปลายนิ้วของเธอสัมผัสได้ถึงเนื้อผ้าที่สากเล็กน้อย และพลังงานศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมา แต่จู่ ๆ ทันใดนั้น ลมก็เริ่มพัดแรงขึ้นอย่างกะทันหัน เสียงหอบโหยหวนของลมดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ราวกับพายุที่กำลังก่อตัวขึ้น ลมพัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็น พายุหมุนขนาดใหญ่ ที่พัดกระหน่ำใส่ต้นไม้ที่ไอโกะกำลังปีนอยู่ กิ่งไม้โยกไหวอย่างรุนแรง ลำต้นสั่นสะเทือนราวกับจะหักโค่นลงมา “โอ๊ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย!” ไอโกะร้องด้วยความตกใจ น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนไปจากเดิม เธอพยายามจะยึดเกาะลำต้นไว้ให้แน่นที่สุด แต่แรงลมนั้นรุนแรงเกินกว่าที่เธอจะต้านทานได้ ผมของเธอกระเจิงไปทั่วใบหน้า เสื้อผ้าสะบัดไหวอย่างรุนแรง โชที่อยู่ด้านล่างก็ต้องก้มตัวลงหลบแรงลมที่พัดกระหน่ำ เขาพยายามจะมองขึ้นไปบนต้นไม้ แต่สายลมที่พัดแรงทำให้เขาแทบจะลืมตาไม่ได้ “ไอโกะ! ระวังนะ!” โชตะโกนสุดเสียง และแล้ว สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ด้วยแรงลมที่รุนแรงเกินกว่าจะต้านทานได้ ร่างของไอโกะก็พลันหลุดจากการยึดเกาะ และตกลงมาจากยอดไม้สูงลิ่ว! “กรี๊ดดดดดดดดด!” ไอโกะกรีดร้องลั่น เธอพยายามจะคว้าจับอะไรบางอย่าง แต่ก็คว้าได้เพียงอากาศ “ไอโกะ!!!” โชตะโกนด้วยความตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าลมจะแรงขนาดนี้ แรงลมที่พัดกระหน่ำไม่ได้มีผลกระทบแค่ไอโกะเท่านั้น แต่ยังปะทะเข้ากับร่างของโชอย่างจัง ทำให้เขาทรงตัวไม่อยู่และ ล้มลงไปกองกับพื้น เช่นกัน “โอ้ย! นี่มันอะไรกันเนี่ย!” ไอโกะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและสับสน เธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่วร่างกายจากการตกกระแทกพื้น แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะตั้งตัวได้ทัน เงาปีศาจที่ซ่อนอยู่ในความมืดก็ฉวยโอกาสนี้ พุ่งเข้าจู่โจมพวกเขาอย่างรวดเร็ว พวกมันมีรูปร่างคล้ายสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่ที่มีกรงเล็บแหลมคม และดวงตาสีแดงก่ำเรืองรอง มันพุ่งตรงเข้ามาหาไอโกะที่ยังคงนอนหมดแรงอยู่บนพื้น หวังจะบดขยี้เธอให้แหลกเป็นผุยผง “ไอโกะ!!!” โชตะโกนด้วยความตกใจและสิ้นหวัง เขารู้ว่าเขาไม่มีทางไปช่วยเธอได้ทัน เขาพยายามจะลุกขึ้น แต่ร่างกายของเขากลับไม่ตอบสนอง เงาปีศาจพุ่งตรงเข้าหาไอโกะ กรงเล็บแหลมคมของมันเงื้อขึ้นพร้อมที่จะฟาดฟันลงมาในพริบตา ไอโกะเบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว เธอพยายามจะใช้คาถาป้องกัน แต่ร่างกายของเธอมันไม่ยอมขยับ เธอทำได้เพียงหลับตาลง รอรับความเจ็บปวดที่จะมาถึง แต่ในวินาทีวิกฤตนั้นเอง… ร่างของโชก็พุ่งเข้ามารับการโจมตีแทน! “อ๊ากกกกกกก!!!” โชร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เขายืนอยู่ตรงหน้าไอโกะในสภาพที่แขนทั้งสองข้างยกขึ้นตั้งรับการโจมตีจากเงาปีศาจ กรงเล็บแหลมคมของมันฟาดเข้าใส่แขนของเขาอย่างจัง เสียงกระดูกร้าวเบา ๆ ดังขึ้น พร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลซึมออกมาจากบาดแผลขนาดใหญ่บนแขนของเขา ไอโกะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เธอเห็นเลือดของโชไหลอาบแขนของเขา และเงาปีศาจที่กำลังส่งเสียงคำรามอย่างพึงพอใจ “โช!” ไอโกะกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดใจ เธอพยายามจะลุกขึ้น แต่ร่างกายที่อ่อนล้าจากการตกต้นไม้ทำให้เธอทำได้เพียงทรุดตัวลงอีกครั้ง โชกัดฟันแน่น ใบหน้าของเขาซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงยืนหยัดอยู่ตรงนั้น ราวกับโล่กำบังให้กับไอโกะ ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังเงาปีศาจด้วยความโกรธแค้น “แก…ไม่มีทางทำร้ายไอโกะได้หรอก!” โชคำราม เสียงของเขาแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขายังคงกำมีดอาคมที่อยู่ในมืออย่างแน่นหนา เงาปีศาจไม่สนใจคำพูดของโช มันเห็นว่าโชบาดเจ็บหนักแล้ว จึงพุ่งเข้าจู่โจมซ้ำอีกครั้ง คราวนี้มันมุ่งเป้าไปที่ลำตัวของโช หวังจะสังหารเขาให้สิ้นซาก ไอโกะมองดูภาพตรงหน้าด้วยความสิ้นหวัง เธอต้องทำอะไรบางอย่าง!ลมหายใจแห่งเงามืดที่พัดกรูเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ไอโกะและโชแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะที่ดับสนิท ยิ่งตอกย้ำถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเขาทั้งคู่รู้ดีว่ามันคือสัญญาณเตือนจากการมาถึงของบอสตัวจริง“ไม่นะ…ลมนี้…มันคือพลังของบอสตัวจริง!” ไอโกะพึมพำ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวาดหวั่นแต่แล้ว โชก็เอื้อมมือไปจับมือของไอโกะแน่น ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิดอย่างหนัก“มันยังไม่มาตอนนี้หรอกไอโกะ” โชเอ่ยขึ้นมา เสียงของเขาหนักแน่นและมั่นใจอย่างน่าประหลาด “เชื่อฉันสิ”ไอโกะหันมามองโชด้วยความสงสัย “แน่ใจเหรอโช? พลังงานมันรุนแรงขนาดนี้เลยนะ”“แน่ใจ” โชตอบ “เท่าที่ฉันสันนิษฐาน…บอสพวกนั้นจะต้องรวบรวมพลังงานให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะปรากฏตัวออกมาอย่างสมบูรณ์”ไอโกะขมวดคิ้ว “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”“จำได้ไหมที่มันบอกว่า ‘อาณาเขตนี้คือส่วนหนึ่งของตัวข้า!’” โชอธิบาย “นั่นหมายความว่ามันกำลังดูดกลืนพลังงานจากโรงเรียนทั้งหมด และมันจะไม่ยอมออกมาจนกว่ามันจะแข็งแกร่งที่สุด”“แล้วลมพวกนี้ล่ะ?” ไอโกะถาม“ลมพวกนี้ก็เป็นแค่พลังงานรั่วไหลของมันที่กำลังรวบรวมตัวอยู่” โชตอบ “มันเป
ความรู้สึกสิ้นหวังจากการเผชิญหน้ากับบอสตัวจริงที่แข็งแกร่งเกินจินตนาการยังคงเกาะกุมจิตใจของไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง ผ้ายันต์ทั้งหกผืนที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อกลับดับแสงลงอย่างสิ้นเชิง ราวกับไร้ประโยชน์สิ้นดี แต่คำให้กำลังใจจากโชก็ช่วยจุดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้งในใจของไอโกะ“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขาทั้งคู่พยุงกันลุกขึ้นยืนช้าๆ แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้าและเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับ แต่แรงฮึดสุดท้ายก็ทำให้พวกเขาก้าวต่อไป สู่เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่: อาคารวิทยาศาสตร์“ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะโช” ไอโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…เราต้องรีบแล้ว”พวกเขาเดินออกจากจุดที่ต่อสู้กับเงาปีศาจช้างที่สลายไป สู่ทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง บรรยากาศของโรงเรียนร้างยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องกังวานไปทั่วบริเวณ ราว
หลังจากที่ได้ผ้ายันต์ผืนที่ 6 มาอย่างยากลำบาก และได้วางแผนการทำลายโรงเรียนด้วยระเบิดชำระล้างแล้ว ไอโกะและโชก็ตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังอาคารวิทยาศาสตร์ทันที แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะยุติฝันร้ายทั้งหมดนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเดินหน้าต่อไป“เอาล่ะโช…ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะ” ไอโกะบอก เสียงของเธอหนักแน่นขึ้นเล็กน้อยโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…ยิ่งเร็วยิ่งดี”ทั้งคู่เดินออกจากโรงอาหารที่มืดมิด สู่ทางเดินที่ไร้สิ้นสุดของโรงเรียนร้าง แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซากปรักหักพังและเถาวัลย์ที่ปกคลุมไปทั่วอาคาร บรรยากาศยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน“อาคารวิทยาศาสตร์อยู่ทางนั้นนะโช” ไอโกะชี้ไปทางซ้ายมือของพวกเขา ซึ่งเป็นอาคารที่ดูใหญ่โตและมีโครงสร้างแปลกตาเล็กน้อยพวกเขาเดินไปตามทางเดินที่มืดมิด ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของตัวเองที่ก้องกังวานในความเงียบงัน ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มเกาะกุมจิตใจของพวกเขาอีกครั้งทันใดนั้นเอง เสียงร้องอันน่าสะพรึงกลัว ก็พลันดังขึ้นมาจากด้านหน้าของพวกเขา! เสียงนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับเสียงแตรที่ใหญ่โตและน่ากลั
หลังจากที่แผนการใหญ่เรื่องระเบิดชำระล้างได้ก่อร่างขึ้นในความคิดของไอโกะ ความหิวโหยที่ถาโถมเข้ามาก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพักจากการระดมสมองอันหนักหน่วง เมื่อท้องอิ่มด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำอัดลม ความหวังก็กลับมาส่องประกายในดวงตาอีกครั้ง“รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะโช” ไอโกะพึมพำขณะลูบท้อง “ไม่คิดว่าบะหมี่สำเร็จรูปจะช่วยได้ขนาดนี้”โชพยักหน้าพลางยิ้มแห้ง ๆ “ใช่…มันช่วยได้มาก แต่ฉันว่าเราคงต้องรีบไปหาวัตถุดิบที่อาคารวิทยาศาสตร์นะไอโกะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”“แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น…” ไอโกะก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ แสงสีเขียวยังคงกะพริบอยู่ “สัญญาณของผ้ายันต์ผืนที่หกมันแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยนะโช ฉันว่ามันอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้แหละ…ในโรงอาหารนี่แหละ”โชเบิกตากว้างเล็กน้อย “ในโรงอาหารเหรอ? แต่เราเดินดูมาเกือบจะทั่วแล้วนะ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“บางทีมันอาจจะซ่อนอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้” ไอโกะบอก น้ำเสียงของเธอเริ่มจริงจังขึ้น “มาลองสำรวจให้ละเอียดอีกครั้งกันเถอะ”ทั้งคู่เริ่มออกสำรวจโรงอาหารที่กว้างใหญ่และมืดมิดอีกครั้ง แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาส่องกระทบกับโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ครัวที่พังเสียหายกระจัดกระจายไปท
หลังจากการฟื้นฟูร่างกายและวางแผนการสร้างระเบิดชำระล้างอย่างละเอียด ไอโกะและโชต่างก็รู้สึกดีขึ้นมาก บาดแผลของพวกเขาได้รับการเยียวยา พลังปราณที่เคยร่อยหรอเริ่มกลับคืนมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความหวังที่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้งในใจของพวกเขา“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วโช” ไอโกะบอก เธอหมุนข้อมือเล็กน้อยเพื่อทดสอบพละกำลังโชพยักหน้า “ฉันก็เหมือนกันไอโกะ…แต่ฉันยังรู้สึกหิวอยู่เลย” เขาลูบท้องตัวเองเบา ๆไอโกะหัวเราะเบา ๆ “นั่นสินะ…ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”พวกเขาตัดสินใจที่จะสำรวจโรงอาหารให้ทั่วอีกครั้ง หวังว่าจะเจออะไรบางอย่างที่พอจะบรรเทาความหิวโหยได้ แสงไฟฉายจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซอกมุมของโรงอาหารที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่ล้มระเนระนาดดูน่าหดหู่ยิ่งนัก“ดูสิฉันเจออะไร!” โชร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งของโรงอาหารที่มืดมิด ซึ่งมีตู้เก็บของเก่า ๆ ตั้งอยู่ไอโกะรีบเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ เมื่อโชเปิดตู้เก็บของออก แสงไฟฉายของพวกเขาก็ส่องกระทบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านใน“บะหมี่สำเร็จรูป!” ไอโกะอุทานด้วยความดีใจ ดวงตาของเธอ
ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของบอสตัวจริงยังคงก้องกังวานในหู ราวกับจะย้ำเตือนถึงความพยายามที่สูญเปล่าของพวกเขา การที่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายดับแสงลง ยิ่งทำให้ความหวังที่เคยมีมอดไหม้ไปกับความมืดมิด“ไม่จริงน่า…ทั้งหมดที่เราสู้มา…มันเป็นแค่ภาพลวงตาอย่างนั้นเหรอ?” ไอโกะพึมพำ ใบหน้าของเธอซีดเผือดโชทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาของเขาว่างเปล่า “เรา…เราพลาดไปแล้วเหรอไอโกะ? เราสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”แต่แล้ว ทั้งคู่ก็สบตากัน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ค่อย ๆ จุดประกายความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ยังได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขารวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ พยุงกันลุกขึ้นยืนช้า ๆ และรีบออกจากหอประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่น่าสะพรึงกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะยังคงส่องนำทางพวกเขาไปในความมืดมิด“เราต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนโช” ไอโกะบอก “เราบาดเจ็บหนักเกินไปที่จะส