หลังจากที่เงาปีศาจหมูป่าสลายไปในความมืดมิด ไอโกะและโชต่างก็ทรุดตัวลงด้วยความเหนื่อยล้าขั้นสุด ลมหายใจของพวกเขาหอบแรง ร่างกายสั่นระริกราวกับจะล้มลงได้ทุกเมื่อ ไอโกะรู้ดีว่าคาถาฟื้นฟูและคาถาถ่ายโอนพลังที่เธอร่ายให้โชกำลังจะเสื่อมลงในไม่ช้า และความเจ็บปวดจากบาดแผลของเขาก็จะกลับมาอีกครั้งอย่างรุนแรง
“โช…ไหวไหม?” ไอโกะถาม เสียงของเธอแผ่วพร่า แต่แววตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยความเป็นห่วง โชพยักหน้าอย่างยากลำบาก “ไหว…แต่…ฉันคิดว่าเราต้องหาที่พักก่อนนะไอโกะ…ฉันไม่ไหวแล้วจริง ๆ” เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่ ไอโกะมองไปรอบ ๆ สภาพอากาศยังคงมืดมิดไร้แสงดาว ความหนาวเย็นที่กัดกินเข้ามาในกระดูกทำให้เธอรู้ว่าพวกเขาไม่สามารถอยู่นอกอาคารนานกว่านี้ได้ เธอเหลือบไปเห็นเงาของอาคารพละที่อยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ มันเป็นอาคารที่ดูแข็งแรงกว่าอาคารอื่น ๆ ที่พังทลายไปแล้ว “โอเคโช…ไปที่อาคารพละกันเถอะ” ไอโกะตัดสินใจ เธอใช้แรงทั้งหมดที่เหลืออยู่พยุงโชให้ลุกขึ้นช้า ๆ “มันน่าจะปลอดภัยกว่าตรงนี้” ทั้งคู่เดินโซซัดโซเซไปตามทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง การเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ดูเหมือนจะเป็นระยะทางที่ยาวไกลแสนไกลสำหรับพวกเขา ก้าวแล้วก้าวเล่า เสียงหอบหายใจของพวกเขาดังก้องไปทั่วความเงียบงัน ไอโกะสัมผัสได้ถึงน้ำหนักของโชที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อพลังจากคาถาของเธอเริ่มเสื่อมลง ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงประตูทางเข้าของอาคารพละ มันเป็นประตูไม้เก่า ๆ ที่มีรอยขีดข่วนมากมาย ไอโกะใช้ไหล่กระแทกมันให้เปิดออก เสียง "เอี๊ยดอ๊าด" ดังลั่นไปทั่วบริเวณ ภายในอาคารพละกว้างใหญ่และมืดมิดกว่าที่คิด แสงไฟฉายจากนาฬิกาของไอโกะส่องไปกระทบกับพื้นไม้ที่เต็มไปด้วยฝุ่นและอุปกรณ์กีฬาที่พังเสียหาย ไอโกะพยุงโชไปนั่งลงที่มุมหนึ่งของห้อง โดยใช้เสาคอนกรีตขนาดใหญ่เป็นที่พิง มันเป็นจุดที่ดูปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะหาได้ในตอนนี้ “ดีขึ้นไหม?” ไอโกะถามอีกครั้ง หลังจากที่โชนั่งลงได้แล้ว เธอรีบหยิบตำราคาถาของแม่เธอออกมาทันที เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาลังเล โชพยักหน้าอย่างช้า ๆ “ดีขึ้นกว่าเมื่อกี้มาก…ขอบใจนะไอโกะ” เสียงของเขาเบาลง แต่ก็ยังคงเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง เขาพยายามจะขยับแขนที่เคยบาดเจ็บ แต่ก็ทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไอโกะหลับตาลง เธอรวบรวมสมาธิทั้งหมดที่เหลืออยู่ เธอรู้ว่าครั้งนี้เธอต้องใช้คาถารักษาที่ลึกซึ้งกว่าเดิม เพื่อให้โชสามารถฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บและฟื้นฟูพละกำลังที่สูญเสียไปจากการต่อสู้ เสียงสวดคาถาของเธอดังก้องแผ่วเบาในความมืดของอาคารพละ แสงสีเขียวอ่อน ๆ เริ่มเปล่งประกายออกมาจากฝ่ามือของเธอ แสงนั้นค่อย ๆ แผ่ซ่านเข้าสู่ร่างของโชอย่างช้า ๆ โชรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาในร่าง ความเจ็บปวดที่เคยแล่นแปลบไปทั่วเริ่มทุเลาลงอย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อที่เคยตึงเครียดค่อย ๆ คลายตัว รอยฟกช้ำบนร่างกายเริ่มจางหายไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้น เขาหายใจได้ลึกขึ้น ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นกว่าเดิมมาก ราวกับได้พักผ่อนมาอย่างเต็มที่ เมื่อคาถาจบลง ไอโกะก็ลืมตาขึ้น ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด เหงื่อผุดพรายเต็มหน้าผาก เธอหอบหายใจเล็กน้อยจากการใช้พลังงานมหาศาล แต่แววตาของเธอก็ยังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “เป็นไงบ้างโช?” ไอโกะถามอีกครั้ง โชลองขยับร่างกาย แขนของเขาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ หลงเหลืออยู่แล้ว “ดีขึ้น…ดีขึ้นมากเลยไอโกะ…ขอบใจนะ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจและซาบซึ้งใจ ไอโกะยิ้มจาง ๆ “ไม่เป็นไร…นายพักตรงนี้ก่อนนะ ฉันจะลองสำรวจดูว่ามีอะไรผิดปกติในอาคารนี้อีกไหม” ขณะที่ไอโกะกำลังจะลุกขึ้น เพื่อสำรวจรอบ ๆ ทันใดนั้น สายตาของเธอก็พลันไปสะดุดเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านนอกอาคาร ผ่านช่องหน้าต่างบานใหญ่ที่แตกร้าว ซึ่งมองออกไปเห็นลานโล่งด้านหลังอาคาร “นั่นมัน…!” ไอโกะอุทานเสียงแผ่ว ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง เธอชี้มือออกไปนอกหน้าต่าง “โช! นั่นมันผ้ายันต์อาคม!” โชรีบหันไปมองตามที่ไอโกะชี้ และเขาก็เห็นเช่นเดียวกัน ท่ามกลางความมืดมิดที่ไร้สิ้นสุด มีแสงสีทองจาง ๆ เปล่งประกายอยู่บนยอดของ ต้นไม้สูงใหญ่ ต้นหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลจากอาคาร มันคือ ผ้ายันต์อาคมผืนที่สาม! ผ้ายันต์นั้นแขวนอยู่บนกิ่งไม้ที่สูงที่สุด ราวกับมันจงใจจะรอคอยให้พวกเขาไปถึง “จริงด้วย! นั่นมันผ้ายันต์ผืนที่สาม!” โชอุทานด้วยความดีใจ เขาลุกขึ้นยืนอย่างกระฉับกระเฉง พลังจากคาถารักษาของไอโกะทำให้เขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ “เราไปเอากันเถอะ!” โชบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น เขาไม่รอช้า พุ่งตรงไปยังหน้าต่างที่แตกร้าวหวังจะกระโดดออกไปทันที “เดี๋ยวก่อนโช!” ไอโกะร้องห้าม เธอรีบคว้าแขนเสื้อของโชไว้ “ใจเย็น ๆ สิ! เราไม่รู้ว่ามันมีอะไรดักรอเราอยู่ข้างนอกนั่นอีกหรือเปล่านะ!” “แต่ไอโกะ! ผ้ายันต์มันอยู่ตรงหน้าแล้วนะ!” โชโต้กลับ น้ำเสียงเขาบ่งบอกถึงความอดใจไม่ไหว “ฉันรู้! แต่เราต้องระวังให้มากกว่านี้! สถานที่แห่งนี้มันไม่เคยปลอดภัยเลยนะโช!” ไอโกะย้ำเตือน แม้จะอยากได้ผ้ายันต์ใจจะขาด แต่สัญชาตญาณของเธอก็ยังคงเตือนให้ระวังภัยที่อาจจะมาถึง ในที่สุด โชก็ยอมทำตาม ไอโกะเดินนำหน้าออกไปจากอาคารพละอย่างระมัดระวัง พวกเขาเดินย่องไปตามพื้นดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง สายตาของพวกเขาจับจ้องไปที่ผ้ายันต์ที่แขวนอยู่บนยอดต้นไม้อย่างไม่คลาดสายตา แต่ไม่ทันที่พวกเขาจะก้าวไปถึงต้นไม้ต้นนั้น ทันใดนั้น พื้นดินรอบ ๆ ตัวพวกเขาก็เริ่มสั่นสะเทือน เสียงกรีดร้องแหลมสูงหลายสิบเสียงดังขึ้นจากความมืดมิดรอบตัวพวกเขา “แคว๊กกกกกกกก!” “อ๊ากกกกกก!” ร่างของ เหล่าลูกสมุนของเงาปีศาจ นับสิบตนก็พุ่งเข้าใส่พวกเขาจากทุกทิศทาง พวกมันมีรูปร่างคล้ายสัตว์ร้ายต่าง ๆ ทั้งหมาป่า แมว หรือแม้กระทั่งหนูตัวมหึมา แต่ทั้งหมดล้วนเป็นเงาดำทมิฬที่มีดวงตาสีแดงก่ำเรืองรอง มันพุ่งเข้าใส่พวกเขาพร้อมกัน หวังจะรุมทึ้งพวกเขาให้แหลกเป็นชิ้น ๆ “แย่แล้ว! มาเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!” โชสบถ เขาดึงมีดอาคมขึ้นตั้งท่าเตรียมพร้อม แสงไฟฉายจากนาฬิกาของไอโกะส่องให้เห็นร่างของพวกมันที่กำลังโอบล้อมพวกเขาไว้ “โช! ระวังตัว!” ไอโกะเตือน เธอรีบตั้งสมาธิเพื่อเตรียมร่ายคาถาป้องกัน ลูกสมุนปีศาจตัวแรกพุ่งเข้าใส่โชอย่างรวดเร็ว มันมีรูปร่างคล้ายหมาป่าตัวใหญ่ เขี้ยวแหลมคมของมันพุ่งตรงเข้ามา โชหลบหลีกการโจมตีอย่างฉิวเฉียด เขาตวัดมีดอาคมสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว มีดของเขาเฉือนผ่านร่างของมันไปอย่างง่ายดาย ทำให้มันส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะสลายไปในอากาศ แต่ทันทีที่ตัวแรกสลายไป ตัวที่สองและสามก็พุ่งเข้าใส่ทันที โชต้องต่อสู้กับพวกมันอย่างดุเดือด เขาฟัน สับ แทง ใส่พวกมันอย่างไม่หยุดหย่อน ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและคล่องแคล่ว berkat พลังที่ไอโกะถ่ายโอนมาให้ แต่จำนวนของพวกมันมีมากเกินไป “พวกมันเยอะเกินไปโช! เราต้องหาทางจัดการพวกมันทีเดียว!” ไอโกะตะโกนบอก เธอเห็นว่าโชกำลังถูกพวกมันรุมล้อม ดวงตาของเธอเหลือกมองไปที่ผ้ายันต์บนยอดไม้ที่ยังคงเปล่งแสงจาง ๆ ลูกสมุนปีศาจตัวหนึ่งพุ่งเข้าใส่ไอโกะจากด้านข้าง มันมีรูปร่างคล้ายหนูตัวมหึมา ดวงตาสีแดงก่ำจ้องมองมายังเธออย่างหิวโหย ไอโกะใช้ขวดอาคมฟาดเข้าใส่ มันกรีดร้องด้วยความตกใจก่อนจะถอยห่างออกไป “ฉันรู้แล้วโช!” ไอโกะตะโกนบอก “เราต้องไปให้ถึงต้นไม้ต้นนั้น! ผ้ายันต์บนยอดไม้น่าจะมีพลังบางอย่างที่ช่วยเราได้!” โชพยักหน้า เขารวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ เขาพุ่งเข้าใส่พวกปีศาจที่กำลังล้อมเขาอยู่ และแหวกทางออกไปอย่างรวดเร็ว โดยมีไอโกะวิ่งตามหลังอย่างกระชั้นชิด พวกเขาวิ่งฝ่าดงปีศาจที่พยายามจะขัดขวางทุกย่างก้าว เสียงกรีดร้องของพวกปีศาจดังก้องไปทั่วบริเวณ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมหยุด การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดกลางสนามที่มืดมิด ไอโกะและโชต่างก็ใช้ทักษะของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อหาทางไปให้ถึงต้นไม้ต้นนั้นให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเขาก็ต้องคว้าผ้ายันต์ผืนที่สามมาให้ได้ลมหายใจแห่งเงามืดที่พัดกรูเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ไอโกะและโชแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะที่ดับสนิท ยิ่งตอกย้ำถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเขาทั้งคู่รู้ดีว่ามันคือสัญญาณเตือนจากการมาถึงของบอสตัวจริง“ไม่นะ…ลมนี้…มันคือพลังของบอสตัวจริง!” ไอโกะพึมพำ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวาดหวั่นแต่แล้ว โชก็เอื้อมมือไปจับมือของไอโกะแน่น ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิดอย่างหนัก“มันยังไม่มาตอนนี้หรอกไอโกะ” โชเอ่ยขึ้นมา เสียงของเขาหนักแน่นและมั่นใจอย่างน่าประหลาด “เชื่อฉันสิ”ไอโกะหันมามองโชด้วยความสงสัย “แน่ใจเหรอโช? พลังงานมันรุนแรงขนาดนี้เลยนะ”“แน่ใจ” โชตอบ “เท่าที่ฉันสันนิษฐาน…บอสพวกนั้นจะต้องรวบรวมพลังงานให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะปรากฏตัวออกมาอย่างสมบูรณ์”ไอโกะขมวดคิ้ว “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”“จำได้ไหมที่มันบอกว่า ‘อาณาเขตนี้คือส่วนหนึ่งของตัวข้า!’” โชอธิบาย “นั่นหมายความว่ามันกำลังดูดกลืนพลังงานจากโรงเรียนทั้งหมด และมันจะไม่ยอมออกมาจนกว่ามันจะแข็งแกร่งที่สุด”“แล้วลมพวกนี้ล่ะ?” ไอโกะถาม“ลมพวกนี้ก็เป็นแค่พลังงานรั่วไหลของมันที่กำลังรวบรวมตัวอยู่” โชตอบ “มันเป
ความรู้สึกสิ้นหวังจากการเผชิญหน้ากับบอสตัวจริงที่แข็งแกร่งเกินจินตนาการยังคงเกาะกุมจิตใจของไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง ผ้ายันต์ทั้งหกผืนที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อกลับดับแสงลงอย่างสิ้นเชิง ราวกับไร้ประโยชน์สิ้นดี แต่คำให้กำลังใจจากโชก็ช่วยจุดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้งในใจของไอโกะ“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขาทั้งคู่พยุงกันลุกขึ้นยืนช้าๆ แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้าและเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับ แต่แรงฮึดสุดท้ายก็ทำให้พวกเขาก้าวต่อไป สู่เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่: อาคารวิทยาศาสตร์“ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะโช” ไอโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…เราต้องรีบแล้ว”พวกเขาเดินออกจากจุดที่ต่อสู้กับเงาปีศาจช้างที่สลายไป สู่ทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง บรรยากาศของโรงเรียนร้างยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องกังวานไปทั่วบริเวณ ราว
หลังจากที่ได้ผ้ายันต์ผืนที่ 6 มาอย่างยากลำบาก และได้วางแผนการทำลายโรงเรียนด้วยระเบิดชำระล้างแล้ว ไอโกะและโชก็ตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังอาคารวิทยาศาสตร์ทันที แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะยุติฝันร้ายทั้งหมดนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเดินหน้าต่อไป“เอาล่ะโช…ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะ” ไอโกะบอก เสียงของเธอหนักแน่นขึ้นเล็กน้อยโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…ยิ่งเร็วยิ่งดี”ทั้งคู่เดินออกจากโรงอาหารที่มืดมิด สู่ทางเดินที่ไร้สิ้นสุดของโรงเรียนร้าง แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซากปรักหักพังและเถาวัลย์ที่ปกคลุมไปทั่วอาคาร บรรยากาศยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน“อาคารวิทยาศาสตร์อยู่ทางนั้นนะโช” ไอโกะชี้ไปทางซ้ายมือของพวกเขา ซึ่งเป็นอาคารที่ดูใหญ่โตและมีโครงสร้างแปลกตาเล็กน้อยพวกเขาเดินไปตามทางเดินที่มืดมิด ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของตัวเองที่ก้องกังวานในความเงียบงัน ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มเกาะกุมจิตใจของพวกเขาอีกครั้งทันใดนั้นเอง เสียงร้องอันน่าสะพรึงกลัว ก็พลันดังขึ้นมาจากด้านหน้าของพวกเขา! เสียงนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับเสียงแตรที่ใหญ่โตและน่ากลั
หลังจากที่แผนการใหญ่เรื่องระเบิดชำระล้างได้ก่อร่างขึ้นในความคิดของไอโกะ ความหิวโหยที่ถาโถมเข้ามาก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพักจากการระดมสมองอันหนักหน่วง เมื่อท้องอิ่มด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำอัดลม ความหวังก็กลับมาส่องประกายในดวงตาอีกครั้ง“รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะโช” ไอโกะพึมพำขณะลูบท้อง “ไม่คิดว่าบะหมี่สำเร็จรูปจะช่วยได้ขนาดนี้”โชพยักหน้าพลางยิ้มแห้ง ๆ “ใช่…มันช่วยได้มาก แต่ฉันว่าเราคงต้องรีบไปหาวัตถุดิบที่อาคารวิทยาศาสตร์นะไอโกะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”“แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น…” ไอโกะก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ แสงสีเขียวยังคงกะพริบอยู่ “สัญญาณของผ้ายันต์ผืนที่หกมันแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยนะโช ฉันว่ามันอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้แหละ…ในโรงอาหารนี่แหละ”โชเบิกตากว้างเล็กน้อย “ในโรงอาหารเหรอ? แต่เราเดินดูมาเกือบจะทั่วแล้วนะ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“บางทีมันอาจจะซ่อนอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้” ไอโกะบอก น้ำเสียงของเธอเริ่มจริงจังขึ้น “มาลองสำรวจให้ละเอียดอีกครั้งกันเถอะ”ทั้งคู่เริ่มออกสำรวจโรงอาหารที่กว้างใหญ่และมืดมิดอีกครั้ง แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาส่องกระทบกับโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ครัวที่พังเสียหายกระจัดกระจายไปท
หลังจากการฟื้นฟูร่างกายและวางแผนการสร้างระเบิดชำระล้างอย่างละเอียด ไอโกะและโชต่างก็รู้สึกดีขึ้นมาก บาดแผลของพวกเขาได้รับการเยียวยา พลังปราณที่เคยร่อยหรอเริ่มกลับคืนมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความหวังที่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้งในใจของพวกเขา“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วโช” ไอโกะบอก เธอหมุนข้อมือเล็กน้อยเพื่อทดสอบพละกำลังโชพยักหน้า “ฉันก็เหมือนกันไอโกะ…แต่ฉันยังรู้สึกหิวอยู่เลย” เขาลูบท้องตัวเองเบา ๆไอโกะหัวเราะเบา ๆ “นั่นสินะ…ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”พวกเขาตัดสินใจที่จะสำรวจโรงอาหารให้ทั่วอีกครั้ง หวังว่าจะเจออะไรบางอย่างที่พอจะบรรเทาความหิวโหยได้ แสงไฟฉายจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซอกมุมของโรงอาหารที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่ล้มระเนระนาดดูน่าหดหู่ยิ่งนัก“ดูสิฉันเจออะไร!” โชร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งของโรงอาหารที่มืดมิด ซึ่งมีตู้เก็บของเก่า ๆ ตั้งอยู่ไอโกะรีบเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ เมื่อโชเปิดตู้เก็บของออก แสงไฟฉายของพวกเขาก็ส่องกระทบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านใน“บะหมี่สำเร็จรูป!” ไอโกะอุทานด้วยความดีใจ ดวงตาของเธอ
ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของบอสตัวจริงยังคงก้องกังวานในหู ราวกับจะย้ำเตือนถึงความพยายามที่สูญเปล่าของพวกเขา การที่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายดับแสงลง ยิ่งทำให้ความหวังที่เคยมีมอดไหม้ไปกับความมืดมิด“ไม่จริงน่า…ทั้งหมดที่เราสู้มา…มันเป็นแค่ภาพลวงตาอย่างนั้นเหรอ?” ไอโกะพึมพำ ใบหน้าของเธอซีดเผือดโชทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาของเขาว่างเปล่า “เรา…เราพลาดไปแล้วเหรอไอโกะ? เราสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”แต่แล้ว ทั้งคู่ก็สบตากัน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ค่อย ๆ จุดประกายความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ยังได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขารวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ พยุงกันลุกขึ้นยืนช้า ๆ และรีบออกจากหอประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่น่าสะพรึงกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะยังคงส่องนำทางพวกเขาไปในความมืดมิด“เราต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนโช” ไอโกะบอก “เราบาดเจ็บหนักเกินไปที่จะส