หลังจากที่ทั้งไอโกะและโชสามารถเอาชนะภูตปีศาจแห่งเขาวงกตและคว้าผ้ายันต์ผืนที่สองมาได้อย่างยากลำบาก ความเหนื่อยล้าก็ถาโถมเข้าใส่พวกเขาอย่างหนัก แต่ด้วยความรู้สึกเร่งรีบจากข้อจำกัดของเวลา พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเดินหน้าต่อไปในความมืดมิดอันไร้สิ้นสุดของโรงเรียนร้างแห่งนี้
“สัญญาณจากนาฬิกามันนำเรามาทางอาคารเรียนที่สามนะโช” ไอโกะพึมพำ เสียงของเธอแหบพร่าจากความเหนื่อยล้า แสงจากหน้าปัดนาฬิกาข้อมือยังคงส่องประกายสีเขียวอ่อน ๆ นำทางพวกเขา “เป็นอาคารที่เรายังไม่ได้สำรวจเลย” โชพยักหน้า เขากำมีดอาคมแน่น “ไปกันเถอะไอโกะ” เขาเดินนำหน้าไอโกะเล็กน้อย เพื่อเป็นโล่กำบังให้กับเธอ “ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างกำลังรอเราอยู่ข้างในนั้น” พวกเขาเดินผ่านทางเดินที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังและความเงียบที่น่าขนลุกเข้าไปยังอาคารเรียนที่สามซึ่งตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า มันเป็นอาคารที่ดูเก่าแก่กว่าอาคารอื่น ๆ ผนังมีรอยร้าวขนาดใหญ่ หน้าต่างทุกบานแตกละเอียดและมีเถาวัลย์หนาทึบปกคลุมจนแทบจะมองไม่เห็นด้านใน ทันทีที่ก้าวเท้าผ่านธรณีประตูเข้าไป บรรยากาศวังเวงน่ากลัว ก็เข้าปะทะอย่างจัง ความเงียบสนิท ปกคลุมไปทั่วทั้งอาคาร ไม่มีแม้แต่เสียงลมพัด หรือเสียงกรอบแกรบของฝุ่นละออง ราวกับเวลาได้หยุดนิ่งไปแล้ว “เงียบชะมัด” โชกระซิบ เสียงของเขาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน “เงียบกว่าที่อื่น ๆ ที่เราเจอมาอีกนะเนี่ย” ไอโกะพยักหน้า เธอรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่างที่แตกต่างไปจากที่อื่น ๆ มันไม่ใช่พลังงานด้านลบที่คุ้นเคยจากพวกเงาปีศาจ แต่เป็นความรู้สึกที่กดดันและอึดอัด เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างถูกเก็บซ่อนไว้ในความเงียบนี้ พวกเขาเดินสำรวจไปตามโถงทางเดินที่มืดมิดและไร้ที่สิ้นสุด แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาเป็นสิ่งเดียวที่ให้ความสว่าง ห้องเรียนต่าง ๆ ที่พวกเขาเดินผ่านล้วนอยู่ในสภาพทรุดโทรม มีโต๊ะเรียนเก้าอี้ล้มระเนระนาด แต่กลับไม่มีร่องรอยของการต่อสู้รุนแรงเหมือนในอาคารเรียนหลัก ในที่สุด นาฬิกาของไอโกะก็ส่งสัญญาณถี่ขึ้น เมื่อพวกเขาเดินมาถึงประตูบานหนึ่งที่ดูแตกต่างไปจากบานอื่น ๆ มันเป็นประตูเหล็กที่หนาและดูแข็งแรงกว่าประตูไม้ทั่วไป มีสัญลักษณ์ประหลาดบางอย่างถูกสลักไว้บนนั้น “สัญญาณแรงมากที่นี่เลยโช” ไอโกะบอก “น่าจะเป็นห้องที่เราต้องเข้าไป” โชใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักประตูเหล็กให้เปิดออก มันส่งเสียงดัง “เอี๊ยดดดดดดดด!” ลั่นไปทั่วอาคาร ก่อนจะเผยให้เห็น ห้องทดลองร้าง ขนาดใหญ่ภายใน ห้องเต็มไปด้วยเคมีภัณฑ์ที่หกเลอะเทอะ เครื่องแก้วที่แตกหัก และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่ไม่รู้จักที่พังเสียหาย เศษซากปรักหักพังกระจัดกระจายไปทั่วพื้น กลิ่นสารเคมีบางอย่างยังคงคละคลุ้งอยู่ในอากาศแม้จะผ่านไปนานหลายปีแล้วก็ตาม “ห้องทดลองงั้นเหรอ?” โชพึมพำด้วยความประหลาดใจ เขาเดินสำรวจไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ไอโกะเดินตามเข้าไป เธอใช้ไฟฉายส่องไปที่โต๊ะทดลองเก่า ๆ ตัวหนึ่ง และสายตาของเธอก็พลันไปสะดุดเข้ากับ สมุดบันทึกบางอย่าง ที่วางอยู่บนโต๊ะ มันเป็นสมุดปกแข็งสีดำที่ดูเก่าแก่ แต่ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีอย่างน่าประหลาด “ดูนี่สิโช” ไอโกะบอก เธอหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาเปิดอ่านอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเธอไล่อ่านตัวอักษรที่เขียนด้วยลายมือหวัด ๆ โชเดินเข้ามาดูข้าง ๆ เขาหรี่ตาอ่านข้อความบนสมุดบันทึก และทันทีที่เขาเห็นคำบางคำบนหน้ากระดาษ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง “นี่มัน…การทดลองสร้างระเบิด!” โชเอ่ยออกมาด้วยเสียงอันดัง น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ ไอโกะพยักหน้า สีหน้าของเธอยังคงซีดเผือด “บ้าน่า…นี่มันโรงเรียนมัธยมนะโช จะมีการทดลองแบบนี้ได้ยังไงกัน?” เธอพลิกหน้ากระดาษไปเรื่อย ๆ พบกับไดอะแกรมและสูตรเคมีที่ซับซ้อน ซึ่งดูไม่เหมือนวิชาวิทยาศาสตร์ระดับมัธยมปลายเลยแม้แต่น้อย “มันอาจจะเป็นการทดลองที่ใหญ่กว่าที่เราคิดก็ได้ไอโกะ” โชบอก เขามองไปรอบ ๆ ห้องทดลองที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์แปลก ๆ “บางที…มันอาจจะเป็นการทดลองเพื่อนำไปเสนอให้กองทัพ หรือหน่วยงานลับบางอย่างก็ได้” ไอโกะเงียบไปครู่หนึ่ง เธอพยายามประมวลผลข้อมูลทั้งหมดที่เห็นในสมุดบันทึก “จริงที่นายพูด…ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แสดงว่าโรงเรียนนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องเหนือธรรมชาติอย่างเดียว แต่มันยังมีความลับบางอย่างที่มืดมิดซ่อนอยู่ด้วย” เธอเหลือบมองไปยังซากปรักหักพังและคราบเขม่าบนผนัง “อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เงาปีศาจพวกนี้แข็งแกร่งขึ้น…เพราะมันดูดกลืนพลังงานที่ชั่วร้ายเหล่านี้เข้าไปด้วย” “แล้วเราจะทำยังไงกับสมุดบันทึกนี่ดี?” โชถาม “เดี๋ยวฉันจะเก็บเอกสารนี่ไว้” ไอโกะตัดสินใจ เธอปิดสมุดบันทึกและเก็บมันลงในกระเป๋าอย่างระมัดระวัง เธอรู้ว่าข้อมูลในนี้อาจจะเป็นเบาะแสสำคัญบางอย่างที่จะช่วยพวกเขาไขปริศนาทั้งหมดได้ “เรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนจะดีกว่าโช…ก่อนที่พวกเงาปีศาจจะมารู้เข้า แล้วทำลายหลักฐานสำคัญพวกนี้ไป” หลังจากเอ่ยจบ ทั้งคู่ก็รีบหันหลังออกจากห้องทดลองและตัวอาคารทันที ความเงียบวังเวงยังคงติดตามพวกเขาไปทุกที่ จนกระทั่งพวกเขาเดินพ้นประตูเหล็กบานใหญ่ออกมายังสนามหญ้าด้านนอกอาคาร และยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนไกล ทันใดนั้น เสียงคำรามต่ำ ๆ ที่ฟังดูเหมือนเสียงสัตว์ป่าก็ดังขึ้นจากความมืดมิดที่ไร้สิ้นสุดเบื้องหน้า ไอโกะและโชหยุดชะงักพร้อมกัน ไฟฉายจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะกะพริบถี่ขึ้นอย่างรวดเร็ว บ่งบอกถึงพลังงานด้านลบที่พุ่งสูงขึ้นอย่างกะทันหัน ร่างของ เงาปีศาจหมูป่า ขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นจากความมืด มันมีเขี้ยวที่แหลมคมยาวผิดปกติ ดวงตาของมันเปล่งแสงสีแดงก่ำดุจถ่านไฟ และมีขนสีดำที่แข็งกร้าวราวกับหนามแหลม มันคำรามอย่างดุดัน ก่อนจะกระทืบเท้าลงบนพื้นดินและพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขาด้วยความเร็วอันบ้าคลั่ง “บ้าจริง! มาอีกแล้วเหรอเนี่ย!” โชสบถ เขาดึงมีดอาคมขึ้นตั้งท่าเตรียมพร้อม “คราวนี้มาเป็นหมูป่าเลยงั้นเหรอ! ไม่ให้เราได้พักหายใจกันบ้างเลยรึไงนะ!” ไอโกะไม่ได้ตอบอะไร เธอสัมผัสได้ถึงพลังงานของเงาปีศาจหมูป่าที่แข็งแกร่งกว่าเงาปีศาจหมูที่เคยเจอมาหลายเท่า และในความมืดมิดนี้ มันดูน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว เธอรู้ว่าการต่อสู้ครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น และครั้งนี้เดิมพันอาจจะสูงกว่าที่เคยลมหายใจแห่งเงามืดที่พัดกรูเข้ามาอย่างกะทันหัน ทำให้ไอโกะและโชแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะที่ดับสนิท ยิ่งตอกย้ำถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้ พวกเขาทั้งคู่รู้ดีว่ามันคือสัญญาณเตือนจากการมาถึงของบอสตัวจริง“ไม่นะ…ลมนี้…มันคือพลังของบอสตัวจริง!” ไอโกะพึมพำ น้ำเสียงของเธอสั่นเครือด้วยความหวาดหวั่นแต่แล้ว โชก็เอื้อมมือไปจับมือของไอโกะแน่น ดวงตาของเขาฉายแววครุ่นคิดอย่างหนัก“มันยังไม่มาตอนนี้หรอกไอโกะ” โชเอ่ยขึ้นมา เสียงของเขาหนักแน่นและมั่นใจอย่างน่าประหลาด “เชื่อฉันสิ”ไอโกะหันมามองโชด้วยความสงสัย “แน่ใจเหรอโช? พลังงานมันรุนแรงขนาดนี้เลยนะ”“แน่ใจ” โชตอบ “เท่าที่ฉันสันนิษฐาน…บอสพวกนั้นจะต้องรวบรวมพลังงานให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะปรากฏตัวออกมาอย่างสมบูรณ์”ไอโกะขมวดคิ้ว “ทำไมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ?”“จำได้ไหมที่มันบอกว่า ‘อาณาเขตนี้คือส่วนหนึ่งของตัวข้า!’” โชอธิบาย “นั่นหมายความว่ามันกำลังดูดกลืนพลังงานจากโรงเรียนทั้งหมด และมันจะไม่ยอมออกมาจนกว่ามันจะแข็งแกร่งที่สุด”“แล้วลมพวกนี้ล่ะ?” ไอโกะถาม“ลมพวกนี้ก็เป็นแค่พลังงานรั่วไหลของมันที่กำลังรวบรวมตัวอยู่” โชตอบ “มันเป
ความรู้สึกสิ้นหวังจากการเผชิญหน้ากับบอสตัวจริงที่แข็งแกร่งเกินจินตนาการยังคงเกาะกุมจิตใจของไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง ผ้ายันต์ทั้งหกผืนที่ได้มาด้วยหยาดเหงื่อและเลือดเนื้อกลับดับแสงลงอย่างสิ้นเชิง ราวกับไร้ประโยชน์สิ้นดี แต่คำให้กำลังใจจากโชก็ช่วยจุดประกายความหวังขึ้นมาอีกครั้งในใจของไอโกะ“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขาทั้งคู่พยุงกันลุกขึ้นยืนช้าๆ แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้าและเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับ แต่แรงฮึดสุดท้ายก็ทำให้พวกเขาก้าวต่อไป สู่เป้าหมายเดียวที่เหลืออยู่: อาคารวิทยาศาสตร์“ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะโช” ไอโกะบอก เสียงของเธอแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…เราต้องรีบแล้ว”พวกเขาเดินออกจากจุดที่ต่อสู้กับเงาปีศาจช้างที่สลายไป สู่ทางเดินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง บรรยากาศของโรงเรียนร้างยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน เสียงฝีเท้าของพวกเขาก้องกังวานไปทั่วบริเวณ ราว
หลังจากที่ได้ผ้ายันต์ผืนที่ 6 มาอย่างยากลำบาก และได้วางแผนการทำลายโรงเรียนด้วยระเบิดชำระล้างแล้ว ไอโกะและโชก็ตัดสินใจที่จะมุ่งหน้าไปยังอาคารวิทยาศาสตร์ทันที แม้ร่างกายจะยังคงอ่อนล้า แต่ความมุ่งมั่นที่จะยุติฝันร้ายทั้งหมดนี้ก็เป็นแรงผลักดันให้พวกเขาเดินหน้าต่อไป“เอาล่ะโช…ไปอาคารวิทยาศาสตร์กันเถอะ” ไอโกะบอก เสียงของเธอหนักแน่นขึ้นเล็กน้อยโชพยักหน้า “ไปกันเลยไอโกะ…ยิ่งเร็วยิ่งดี”ทั้งคู่เดินออกจากโรงอาหารที่มืดมิด สู่ทางเดินที่ไร้สิ้นสุดของโรงเรียนร้าง แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซากปรักหักพังและเถาวัลย์ที่ปกคลุมไปทั่วอาคาร บรรยากาศยังคงน่าขนลุกและเต็มไปด้วยความเงียบสงัดที่กดดัน“อาคารวิทยาศาสตร์อยู่ทางนั้นนะโช” ไอโกะชี้ไปทางซ้ายมือของพวกเขา ซึ่งเป็นอาคารที่ดูใหญ่โตและมีโครงสร้างแปลกตาเล็กน้อยพวกเขาเดินไปตามทางเดินที่มืดมิด ท่ามกลางเสียงฝีเท้าของตัวเองที่ก้องกังวานในความเงียบงัน ความรู้สึกไม่สบายใจเริ่มเกาะกุมจิตใจของพวกเขาอีกครั้งทันใดนั้นเอง เสียงร้องอันน่าสะพรึงกลัว ก็พลันดังขึ้นมาจากด้านหน้าของพวกเขา! เสียงนั้นดังก้องไปทั่วบริเวณ ราวกับเสียงแตรที่ใหญ่โตและน่ากลั
หลังจากที่แผนการใหญ่เรื่องระเบิดชำระล้างได้ก่อร่างขึ้นในความคิดของไอโกะ ความหิวโหยที่ถาโถมเข้ามาก็ทำให้ทั้งคู่ต้องพักจากการระดมสมองอันหนักหน่วง เมื่อท้องอิ่มด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและน้ำอัดลม ความหวังก็กลับมาส่องประกายในดวงตาอีกครั้ง“รู้สึกดีขึ้นเยอะเลยนะโช” ไอโกะพึมพำขณะลูบท้อง “ไม่คิดว่าบะหมี่สำเร็จรูปจะช่วยได้ขนาดนี้”โชพยักหน้าพลางยิ้มแห้ง ๆ “ใช่…มันช่วยได้มาก แต่ฉันว่าเราคงต้องรีบไปหาวัตถุดิบที่อาคารวิทยาศาสตร์นะไอโกะ ยิ่งเร็วยิ่งดี”“แน่นอน แต่ก่อนหน้านั้น…” ไอโกะก้มมองนาฬิกาข้อมือของเธอ แสงสีเขียวยังคงกะพริบอยู่ “สัญญาณของผ้ายันต์ผืนที่หกมันแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยนะโช ฉันว่ามันอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้แหละ…ในโรงอาหารนี่แหละ”โชเบิกตากว้างเล็กน้อย “ในโรงอาหารเหรอ? แต่เราเดินดูมาเกือบจะทั่วแล้วนะ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย”“บางทีมันอาจจะซ่อนอยู่ในที่ที่เราคาดไม่ถึงก็ได้” ไอโกะบอก น้ำเสียงของเธอเริ่มจริงจังขึ้น “มาลองสำรวจให้ละเอียดอีกครั้งกันเถอะ”ทั้งคู่เริ่มออกสำรวจโรงอาหารที่กว้างใหญ่และมืดมิดอีกครั้ง แสงไฟฉายจากอุปกรณ์ของพวกเขาส่องกระทบกับโต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ครัวที่พังเสียหายกระจัดกระจายไปท
หลังจากการฟื้นฟูร่างกายและวางแผนการสร้างระเบิดชำระล้างอย่างละเอียด ไอโกะและโชต่างก็รู้สึกดีขึ้นมาก บาดแผลของพวกเขาได้รับการเยียวยา พลังปราณที่เคยร่อยหรอเริ่มกลับคืนมา แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความหวังที่จุดประกายขึ้นมาอีกครั้งในใจของพวกเขา“ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วโช” ไอโกะบอก เธอหมุนข้อมือเล็กน้อยเพื่อทดสอบพละกำลังโชพยักหน้า “ฉันก็เหมือนกันไอโกะ…แต่ฉันยังรู้สึกหิวอยู่เลย” เขาลูบท้องตัวเองเบา ๆไอโกะหัวเราะเบา ๆ “นั่นสินะ…ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”พวกเขาตัดสินใจที่จะสำรวจโรงอาหารให้ทั่วอีกครั้ง หวังว่าจะเจออะไรบางอย่างที่พอจะบรรเทาความหิวโหยได้ แสงไฟฉายจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะส่องนำทางพวกเขาไปตามซอกมุมของโรงอาหารที่มืดมิดและเต็มไปด้วยเศษซากปรักหักพัง โต๊ะและเก้าอี้ไม้ที่ล้มระเนระนาดดูน่าหดหู่ยิ่งนัก“ดูสิฉันเจออะไร!” โชร้องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เขาชี้ไปที่มุมหนึ่งของโรงอาหารที่มืดมิด ซึ่งมีตู้เก็บของเก่า ๆ ตั้งอยู่ไอโกะรีบเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ เมื่อโชเปิดตู้เก็บของออก แสงไฟฉายของพวกเขาก็ส่องกระทบเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ด้านใน“บะหมี่สำเร็จรูป!” ไอโกะอุทานด้วยความดีใจ ดวงตาของเธอ
ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมไอโกะและโชอย่างหนักหน่วง เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของบอสตัวจริงยังคงก้องกังวานในหู ราวกับจะย้ำเตือนถึงความพยายามที่สูญเปล่าของพวกเขา การที่ผ้ายันต์ผืนสุดท้ายดับแสงลง ยิ่งทำให้ความหวังที่เคยมีมอดไหม้ไปกับความมืดมิด“ไม่จริงน่า…ทั้งหมดที่เราสู้มา…มันเป็นแค่ภาพลวงตาอย่างนั้นเหรอ?” ไอโกะพึมพำ ใบหน้าของเธอซีดเผือดโชทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ดวงตาของเขาว่างเปล่า “เรา…เราพลาดไปแล้วเหรอไอโกะ? เราสู้กับสิ่งที่ไม่มีตัวตนจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?”แต่แล้ว ทั้งคู่ก็สบตากัน แววตาที่เคยเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ค่อย ๆ จุดประกายความมุ่งมั่นขึ้นมาอีกครั้ง“ไม่นะไอโกะ…เรายังไม่แพ้” โชกล่าว น้ำเสียงของเขาหนักแน่น “เราอาจจะถูกหลอก…แต่เราก็ยังได้ผ้ายันต์มาครบทุกผืนแล้วนี่นา”ไอโกะพยักหน้า เธอกำมือของโชแน่น “ใช่โช…เราต้องทำได้ เราจะทำมันให้สำเร็จด้วยกัน!”พวกเขารวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่ พยุงกันลุกขึ้นยืนช้า ๆ และรีบออกจากหอประชุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยพลังงานด้านลบที่น่าสะพรึงกลัว แสงจากนาฬิกาข้อมือของไอโกะยังคงส่องนำทางพวกเขาไปในความมืดมิด“เราต้องหาที่ซ่อนตัวก่อนโช” ไอโกะบอก “เราบาดเจ็บหนักเกินไปที่จะส