“เธอไม่พูด พี่ไม่พูด ไม่มีใครรู้หรอก”
“แต่ว่า...”
“หรืออยากเห็นพี่ทะเลาะกับคำรัก” เขาขู่และดูเหมือนจะได้ผลทำให้คำหวานยอมปิดปากเงียบ “เรื่องของพี่ไม่ต้องห่วงหรอก หวงเรื่องของตัวเองเถอะ”"
“เรื่องอะไรคะ”
“กับไอ้ธามไทนั้นไง” เขาเค้นเสียงพูดอย่างไม่พอใจนัก แสดงความหึงหวงออกมา
“ก็ไม่มีอะไรนี่คะ” เธอไม่ได้บอกว่ากดส่งข้อความบอกเลิกไป
“ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองถูกหลอก”
“หลอกอะไรคะ พี่รบพูดเรื่องอะไรกัน” คำหวานเอียงคอมองอย่างแปลกใจ
“ไอ้หมอนั้นมันหลอกหวานอยู่นะ” เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าน้องเมียจะใสซื่อได้ขนาดนี้ “ไม่เชื่อพี่เหรอ จะพาไปให้เห็นกับตาเลยดีไหม”
คำหวานไม่แน่ใจว่าพี่นักรบหมายถึงเรื่องอะไร เท่าที่คบกันถ้าไม่นับเรื่องที่ธามไทละเลยความรู้สึกเธอ เขาก็ไม่เคยหลอกเอาเงินหรือให้เธอไปทำอะไรไม่ดีเลยนี่ เธอเห็นสีหน้ามั่นใจของนักรบแล้วก็พยักหน้ารับ เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าธามไททำอะไรที่ไม่รู้บ้าง
นักรบหยิบชุดกระโปรงสีดำยาวเหนือเข่าให้คำหวานผลัดเปลี่ยน มันเป็นชุดเดรสสีดำแขนกุดที่ดูเรียบร้อยที่สุดเท่าที่คำหวานพอจะนึกออก เพราะชุดเที่ยวกลางคืนของพี่คำรักเซ็กซี่มากกว่านี้ ที่เธอรู้ว่าเธอเป็นคนซักรีดเสื้อผ้าให้คนในบ้าน
“ใส่ไปก่อน เอาไว้พี่ซื้อให้ใหม่” เขาพูดยิ้มๆ แล้วดึงมือเล็กมากุมไว้พลางพาเดินไปที่รถ ไม่ใช่ครั้งแรกที่ขึ้นรถของเขาแต่อาจเพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ออกไปข้างนอกด้วยกันแบบนี้
คำหวานนั่งเงียบไปตลอดทาง เธอไม่รู้ว่าเขาจะพาเธอไปไหน ได้แต่เตรียมทำใจไว้ก่อน คนที่คบหากันก็อาจไม่ได้รู้จักกันทุกแง่มุม เหมือนที่เธอ...มีใจให้พี่เขย
รถเก๋งคันหรูไปสู่จุดหมายที่ผับแห่งหนึ่ง นักรบเปิดประตูให้คำหวานลงมา เขาเอื้อมมือไปดึงยางรัดผมออกปล่อยให้เส้นผมยาวสยายแล้วโอบไหล่หญิงสาวเข้าไปในผับ พนักงานต้อนรับยกมือไหว้ราวกับคุ้นเคยกับแขกที่มาใหม่ นักรบแค่พยักหน้ารับ เธอไม่ได้ยินว่าเขาพูดอะไร แต่พนักงานผายมือเชิญเข้าไปด้านใน ทั้งคู่เดินขึ้นบันไดเล็กๆ ที่พาไปสู่ชั้นสองเป็นห้องรับรองแบบVIP ด้านหนึ่งเป็นกระจกใสมองเห็นเหล่านักเที่ยวที่กำลังเต้นรำอยู่ด้านล่าง คำหวานไม่เคยมาเที่ยวแบบนี้ เพราะเธอไม่มีเงินและไม่ชอบเสียงดังจึงดูแตกตื่นอยู่บ้าน นักรบรอจนพนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟแล้วจึงเดินไปดึงคนตัวเล็กมานั่งบนโซฟาหนังสีแดงสดซึ่งสามารถมองเห็นด้านล่างได้ถนัดเต็มตา
“ไม่ต้องกลัว ข้างนอกมองไม่เห็นในนี้หรอก” เขายกเบียร์ขึ้นจ่อริมฝีปากสวย “ดื่มสิ”
“หวานดื่มไม่เป็นนะคะ” เธอพูดไปตามตรง
“อยากลองไหมล่ะ” เขาไม่บังคับ แต่ท่าทางอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาหัวเราะแล้วให้เธอดื่มเบียร์จากแก้วของเขา
รสขมทำให้คำหวานเบ้หน้า เธอส่ายหน้าไปมาแล้วหันไปหยิบถั่วทอดขึ้นมากินแทน “พี่รบชอบมาเที่ยวแบบนี้เหรอคะ”
“เมื่อก่อนบ่อย” เขายอมรับ “ก็เจอคำรักที่แบบนี้แหละ”
คำหวานมองเขาอย่างแปลกใจ เธอไม่ค่อยรู้ชีวิตของพี่สาวเท่าไรนัก
“แล้ว...ให้หวานมาดูอะไรคะ”
นักรบหยิบมือถือขึ้นดูเวลาแล้วพยักหน้าให้มองไปที่ด้านนอก หญิงสาวโน้มตัวไปใกล้จนหน้าแทบชิดกระจก กวาดตามองไปทั่วๆ แรกทีเดียวก็ไม่เห็นมีอะไรผิดปกติ นักเที่ยวนักดื่มเต้นรำกันสนุกสนาน แต่ครู่ต่อมา เธอก็เห็นคนคุ้นตาเดินเข้ามาแล้วโอบกอดหญิงสาวคนหนึ่งท่าทางสนิทสนม
“ธาม...” เธอเรียกชื่ออดีตแฟนอย่างแปลกใจ เธอไม่เคยรู้ว่าธามไทเที่ยวกลางคืน จะว่าไปก็ไม่แปลกหรอกถ้าธามไทจะมาเที่ยวที่แบบนี้ แต่ที่สะดุดตาก็คือเขานัวเนียกับผู้หญิงอีกคนอยู่
หญิงสาวพูดไม่ออก เธอหันไปมองนักรบที่ยกเบียร์ขึ้นดื่มแล้วขยับตัวมาใกล้ โอบเอวของเธอไว้ ส่วนอีกมือลูบไล้หน้าขาของเธอเบาๆ แต่ทำให้ร่างกายหญิงสาวร้อนวูบวาบขึ้นมา เธอเหลือบมองไปทางประตูอย่างระแวงแล้วพยายามดันแขนของเขาออก แต่พี่เขยกลับหัวเราะชอบใจ จูบแก้มนุ่มเบาๆ
“ไม่มีใครเข้ามาหรอก ห้องVIP จะทำอะไรก็ได้” มือข้างนั้นเลื่อนเข้าไปแตะกลีบดอกไม้ของน้องเมีย “แยกขาให้พี่หน่อยสิครับ”
“ไม่เอาค่ะ” คำหวานส่ายหน้ารัวๆ “นี่ไม่ใช่ที่บ้านนะคะ”
“เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง สนุกดีออก” เขายิ้มแล้วจูบต้นคอของหญิงสาว “ไอ้หมอนั้นไม่เคยสอนเหรอ”
คำหวานส่ายหน้าไปแล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วกลางเรียวยาวแทรกเข้าไปในร่องรัก ถึงปากจะปฏิเสธแต่ถูกกระตุกจุดอ่อนไหว ร่างกายก็อ่อนระทวยและเผลอครางออกมา
“พี่รบ...เบา..เบามือหน่อยค่ะ”
“ฮือ? เธอชอบแรงๆ ไม่ใช่เหรอ” เขาแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ เพิ่มนิ้วเป็นสองนิ้ว “พี่รู้ว่าเราชอบ”
“อือ...” คำหวานครางออกมา พยายามยื้อสติไม่ให้เตลิดไปเพราะเขา “พี่รบรู้เรื่องธามมาก่อนแล้วเหรอคะ”
“อืม...มันไม่ได้คบหวานคนเดียว...ก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่หวานจะรู้ตัว” เขาตอบเอื้อมมือไปหยิบแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม เขายังต้องขับรถกลับจึงไม่อยากเมามากไป นิ้วที่สอดเข้าไปในช่องรักชุ่มฉ่ำด้วยน้ำรัก
“หวานคงดูโง่มากสินะคะ” เธอพูดกระท่อนกระแท่น สะโพกส่ายไหวตามแรงเสียดเสียวที่ได้รับ “อ่าส์...สะ เสียวจัง”
“ซื่อจนไม่อยากคิดว่าเป็นน้องของคำรักต่างหาก”
เขาขบติ่งหูของเธอเล่นพลางแย่งลิ้นตวัดเลียใบหู เขารูดนิ้วเข้าออกช่องรักรัวๆ น้ำรักยิ่งหลั่งออกมาจนเยิ้มออกมาที่ปากถ้ำ
“ผับที่นี้รู้กันในหมู่นักเที่ยวนัดกันมามีเซ็กส์ พี่เองก็เจอคำรักที่นี่ เหมือนกับที่มาเจอไอ้หมอนั้นนั้นแหละ”
“คะ...” คำหวานตามไม่ทันเพราะตอนนี้หัวสมองเธอเบลอไปหมด เขาทำให้เธอเสียวซ่านจนแยกเรียวขาออกกว้างอย่างไม่รู้ตัว
“เวลาอยู่กับไอ้หมอนั้น...มันใช้ถุงไหม”
เขาถามเพราะรู้ดีว่าผู้หญิงซื่อๆอย่างคำหวาน ถ้าแฟนขออะไรก็คงให้ไปหมด เขารู้ว่าเธอไปทำความสะอาดซักเสื้อผ้าให้ไอ้ธามไทที่ห้องเช่าของมันด้วยซ้ำไป เขาเองก็ไม่ได้คิดต้องการผู้หญิงเวอร์จิ้น แต่เขาชอบผู้หญิงสะอาด หมายถึงปลอดโรคทางเพศสัมพันธ์ แม้กับคำรักที่เป็นภรรยาในทะเบียน เขายังสวมถุงยางทุกครั้ง แม้คำรักยืนยันว่าเธอฝังเข็มคุมกำเนิด เขาไม่ไว้ใจคำรัก กลัวว่าจะถูกจับด้วยการตั้งท้องให้เขารับผิดชอบ
“สะ...ใส่...ใส่ค่ะ”
“แต่ในใบเสร็จซื้อของใช้ เห็นมีซื้อยาคุมด้วยนี่” “อ๊า!” เธอร้องเมื่อถูกเขารัวนิ้วอย่างแรง “หวาน...หวานกินกันไว้ค่ะ กะ...กลัวพลาด...ท้อง”“ดี” เขายิ้มกริ่มแล้วกระแทกนิ้วจนได้ยินเสียง แจ๊ะๆ น้ำรักหลั่งจนเปื้อนนิ้ว ร่างบอบบางเกร็งกระตุกและหวีดร้องออกมา เขาถอนนิ้วแล้วมองคำหวานทำตาเหม่อลอยมอง เขาดันเธอออกเบาๆ แล้วปลดเข็มขัดออก เพียงแค่นั้น คำหวานก็รู้แล้วว่าเขาต้องการอะไร“ขย่มพี่หน่อย”“แต่...” เธอกวาดตามองไปรอบๆ ไม่มั่นใจนัก“ถ้าไม่ขย่มลำให้พี่ ก็ใช้ปาก”คำหวานเม้มริมฝีปาก เธอเหลือบมองไปด้านนอก เห็นธามไทกับผู้หญิงคนนั้นเต้นรำนัวเนียกันอย่างสนุก ธามไทเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้เธอแค่อยากหาความสุขให้ตัวเอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นพี่เขยของเธอก็ตามหญิงสาวหมุนตัวกลับมา เธอค่อยนั่งลงที่พื้นมองแท่งเอ็นที่เขาควักมันออกมานอกกางเกง ลำเอ็นยาวใหญ่ตรงปลายมีน้ำใสๆ เธอยื่นลิ้นไปแตะส่วนปลายตวัดลิ้นไล้เลียอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่พอได้ยินเสียงครางซี๊ด ของเขาแล้ว เธอก็ยิ่งลำพองใจ อ้าปากกว้างแล้วส่งลำเอ็นเข้าไปจนสุด“โอ้ว เด็กดี เก่งมาก มิดลำแล้ว อ่าห์” นักรบก้มมองริมฝีปากสวยที่กลืนดุ้นของเขาไปจนหมดลำแล้วค่อยๆ ขยับช้
“คุณเคยรักฉันบ้างไหม?” จู่ๆ คำรักก็ถาม แล้วก็ยิ้มเศร้าออกมา “ไม่เคยเลยสินะ” “ก็เคยคิดว่าจะลองรักดู แต่เรื่องพนันออนไลน์ผมรับไม่ไหวจริงๆ คุณหมดไปกี่แสนแล้ว ยังหยุดไม่ได้ ต้องหมดเท่าไหร่ถึงจะหยุดได้” “คุณไม่ลองให้โอกาสฉันสักครั้งล่ะคะ” “ผมให้ทั้งเวลาและโอกาสกับคุณแล้ว แต่คุณไม่เคยคว้ามันไว้เลย ทุกวันนี้หนี้สินคุณรุงรังไปหมดแล้ว ต่อให้ไม่ใช่ผม คนอื่นก็ทนไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องเป็นพวกศีลเสมอกันถึงจะอยู่กับคุณได้” “ถ้าฉันเซ็นใบหย่า คุณจะปิดหนี้ให้ฉันใช่ไหม” “อืม แค่ก้อนเดียว อย่างอื่นผมไม่ช่วยแล้ว” คำรักพยักหน้ารับ อย่างน้อยเธอก็รอดจากเจ้าหนี้ที่ทวงตามเงินเธอทุกเช้าเย็น และไม่เสี่ยงกับการถูกฟ้องหย่าซึ่งอาจไม่ได้อะไรกลับมาเลย “คุณชอบยัยหวานจริงๆเหรอ” “ถามบ่อยจัง” “ถึงฉันจะทำตัวไม่ดีกับน้อง แต่คำหวานก็เป็นน้องฉัน” “งั้นคุณควรสบายใจที่ผมจะดูแลคำหวานอย่างดี” เขาแค่ยิ้มบางๆ “ก็ได้ค่ะ เรานัดวันไปเซ็นใบหย่ากัน” เธอยิ้มเศร้าแล้วเดินไปหยิบกระดาษโน้ตมาเขียนที่
เรื่องสั้น เมียเด็กของคุณป๋า เจ้าของบ้านเปิดประตูห้องนอนเบาๆ ด้วยเกรงว่าคนที่หลับอยู่จะตื่น แม้จะพยายามให้เบาที่สุด แต่หญิงสาวก็รู้สึกตัวและงัวเงียลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนขนาดใหญ่ ชุดนอนเป็นเสื้อยืดลายตุ๊กตาหมีสีเหลืองสดใสแต่ไหล่เสื้อเลื่อนหล่นเผยให้เห็นหัวไหลกลมมน และไร้สายเสื้อชั้นในทำให้มั่นใจได้ว่าเรือนร่างอวบอิ่มนี้สวมแค่ชุดนอนตัวหลวมแค่ชิ้นเดียว “คุณป๋ากลับมาแล้วเหรอคะ” แพรวาเอ่ยถามแล้วลุกขึ้นเดินไปหา ผมยาวสลวยยุ่งเหยิงอยู่บ้างแต่ดูน่าเอ็นดูจนชายหนุ่มวัยสี่สิบแปดอดไม่ไหวยื่นมือไปลูบผมเบาๆ “ทำให้หนูแพรตื่นเลย” “หนูแพรรอคุณป๋าแต่ไม่รู้หลับไปตอนไหน” หญิงสาวยื่นมือไปช่วยปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออก “ป๋าก็บอกแล้วว่าคืนนี้ป๋ากลับดึก” เขายิ้มและปล่อยให้มือเล็กๆ ช่วยถอดเสื้อเชิ้ตออก เธอเอาเสื้อของเขาไปหย่นลงตะกร้าใส่ผ้าแล้วหยิบผ้าขนหนูส่งให้ “ก็หนูแพรเป็นห่วงคุณป๋านี่คะ” เธอส่งยิ้มหวาน “ไปอาบน้ำนะคะ หรือจะไม่อาบก็ได้” “ป๋าไม่อาบน้ำแล้วหนูแพรจะไม่เหม็นป๋าแย่เหรอ” เขาหัวเราะออกมากับท่าทางขี้อ้อน
นั้นเป็นประโยคที่เขาไม่ได้พูดออไป ได้แต่เด้งเอวรัวใส่ร่องที่ร้อนและเปียกแฉะ แพรวาครางไม่ได้ศัพท์ร่างเล็กกระเด็นกระดอนตามแรงกระแทก ถูกสามีวัยสี่สิบแปดตอกลำเอ็นจนเสียวไปทั่วร่าง เพียงไม่กี่อึดใจ เธอก็กรีดร้องออกมาอีกรอบพร้อมกับชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘ผัว’ แม้จะอายุห่างกันถึงยี่สิบหกปีก็ตาม “โอ้ววว สุดยอด หนูแพรของป๋าเด็ดจริงๆ” น้ำรักขาวขุ่นไหลทะลักล้นจนเปื้อนเปรอะ แพรวาหอบหายใจแรงก่อนค่อยๆ ยกตัวออกจากร่างแกร่งแล้วนอนแผ่หราบนเตียง ตรัยภูมิหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี ดึงเมียเด็กเข้ามากอดใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน “คุณป๋าแกล้งหนูแพร” หญิงสาวต่อว่าไม่จริงจังนักแต่วาดวงแขนกอดเขาทั้งที่ร่างเปลือยเปล่า “แกล้งอะไรกัน ก็ป๋าบอกว่ามันดึกแล้วให้หนูแพรนอน หนูแพรก็ไม่เชื่อ” แพรวาเอ่ยอย่างเพิ่งนึกได้ “อ้อ คุณดารินให้เตือนคุณป๋าว่าอย่าลืมนัดไปตรวจสุขภาพประจำปีด้วยนะคะ” “อื้ม ป๋าลืมไปแล้ว” “ถึงวันนัดแล้วหนูแพรจะเตือนอีกทีค่ะ” หญิงสาวได้แต่ก้มหน้าเข้ากับอกอุ่น หน้าที่ของเธอคือเป็นเมียของเขา แม้ว่าจะไม่ได้มีฐานะใด
เธอไม่รู้ว่าตรัยภูมิรู้ไหมว่าเธอพยายามอ่อยและให้ท่าเขามากขนาดไหน เคยมีครั้งหนึ่งที่เธอรอแม่จนแอบนอนเล่นบนโซฟาในห้องทำงานของเขาเพราะคิดว่าเขากลับไปแล้ว แต่จู่ๆ เขาก็กลับเข้ามาในห้อง เธอทำอะไรไม่ถูกเลยแกล้งหลับไปเสียอย่างนั้น กระโปรงนักเรียนม.ปลายร่นขึ้นเห็นเรียวขาขาวผ่อง เธอหลับตานิ่งทำเป็นกรนเบาๆ คิดว่าเขาจะลวนลามหรือทำอะไรเธอบ้าง ซึ่งถ้าตอนนั้นเขาทำจริงเธอก็เต็มใจล่ะ แต่เธอได้ยินเสียงถอนหายใจแรงๆ ตามด้วยเสื้อสูทตัวนอกคลุมช่วงเอวไว้ก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป เธอได้ยินเสียงปิดประตูและกลั้นใจรออยู่ครู่หนึ่ง ไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะกลับเข้ามาจึงลุกขึ้นนั่ง ตอนนั้นเองที่เธอมั่นใจว่าวิธีการอ่อยไม่ได้ผลกับหนุ่มใหญ่ เธอจึงใช้กลยุทธ์สาวใสไร้เดียงสาเข้าใกล้ อาศัยว่าตัวเองหัวดี เอาผลการเรียนไปให้เขาดูบ้าง เห็นเขายิ้มใจก็เต้นแรง บางครั้งเขาก็ยื่นมือมาลูบหัวอย่างเอ็นดู ตอนนั้นเธอจึงลงสนามการประกวดสารพัดเพื่อให้ได้รางวัลไปอวดเขา หรือถ้าไม่ติดรางวัลก็ทำหน้าเศร้า เขาก็คอยปลอบใจ ที่บริษัทมีการให้ทุนการศึกษาลูกๆของพนักงานที่เรียนดีเป็นประจำ เธอได้ทุกปี แต่ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ก็คือเขาให้ทุนเธอพิเศ
จาก ‘ฉัน’ กลายเป็น ‘ป๋า’ ยกสะโพกให้เธอรูดกางเกงออกไปพ้นขา แก่นกายแข็งขันตั้งโด่ แพรวาเลียริมฝีปากตัวเองก่อนค่อยๆ ยื่นหน้าไปใกล้ ใกล้จนแลบลิ้นเลียส่วนปลายหัวบาก เขาเอื้อมมือมารวบผมของเธอขึ้นเผื่อให้เห็นสีหน้าของเธอได้ชัดๆ ใบหน้าหวานแดงก่ำ ลิ้นสีชมพูตวัดลำเอ็นจนเปียกชุ่ม ไล้เลียลำเอ็นราวกับเป็นไอติมแท่งโปรดแสนอร่อย เลียไปสุดฐานไม่ลืมลูกบอลสองลูกก็ถูกเลียจนเปียก เธอได้ยินเสียงครางในลำคออย่างพอใจ ก็อ้าปากอมลำเอ็นค่อยดันเข้าไปในโพรงปาก “ค่อยๆ ระวังอย่าให้โดนฟัน อ่า...แบบนั้นแหละ ดูดมันด้วย อย่างนั้น...อ่า...เสียวลำดีจริงๆ” เขาเอ่ยชมสลับกับส่งเสียงครางทุ่มต่ำ นังหนูนี้ทั้งอมทั้งดูดจนเขาเสียวไปทั่วตัว สลับกับใช้ลิ้นดุนปลายหัวอีก เขาเสียวจนจับศีรษะเธอแล้วโยกเบาๆ เมื่อรู้ว่าเขาเริ่มยั้งตัวไม่อยู่ แพรวาที่ศึกษาจากสารพัดคลิปโป๊ก็ดูดดึงลำเอ็นที่คับเต็มปาก ความเสียวสุดยอดทำให้เขาทนต่อไปไม่ไหวโยกเอวถี่ยิบเมื่อจวนเจียนเขื่อนพังเขาก็ดึงลำเอ็นออกจากปากสวย แต่น้ำรักก็กระฉูดออกมาเปื้อนเปรอะริมฝีปากและใบหน้าของเธอ “หนูแพร” เขาไม่ได้อยากจะทำแบบนี้แต่ก็ยอมรับว่าห่างเรื่องพวกนี้มา
แพรวาทำหน้ายุ่งกับช่อดอกไม้ตรงหน้า เธออ่านการ์ดใบเล็กที่แนบมาด้วยแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจหนักๆ ดอกไม้ช่อที่เท่าไหร่แล้วนะ จะทิ้งก็เสียดาย เพราะดอกไม้ไม่ได้ทำอะไรผิด เธอจึงให้เด็กในร้านเอาไปใส่แจกันประดับร้านกาแฟไป เธอฝากงานให้ผู้จัดการร้านดูแลต่อแล้วออกมารอรถหน้าร้าน ถ้าวันไหนที่คุณตรัยภูมิกลับช้าหรือมีงานที่อื่น เธอจะให้คนที่บ้านขับรถมารับ ก็ทำไมเธอต้องขับรถเองด้วยเล่า ในเมื่อมีคนให้ใช้อยู่แล้วนี่ คุณตรัยภูมิไม่ใช่คนขี้เหนียว ตรงกันข้าม เขาใจสปอร์ตเปย์หนักด้วยซ้ำ เงินเดือนเธอโอนเข้าบัญชีตรงเวลาทุกเดือน อาหารการกินเธออยู่บ้านเขาอยู่แล้วไม่ต้องเสียเงิน หากจะซื้อของใช้ส่วนตัวหรืออยากออกไปกินข้าวนอกบ้าน เธอสามารถใช้บัตรเครดิตที่เขาทำไว้ให้สบายๆ รวมทั้งซื้อเครื่องประดับหรือของแบรนด์เนมที่ถูกใจแต่แพรวาไม่ได้ทำอะไรแบบนั้น เธอรู้ว่าสถานะของเธอเป็นแค่เมียลับๆ ก่อนหน้านี้เขาเอ็นดูสงสารเพราะเธอยังเรียนไม่จบ แต่ตอนนี้ เธอเรียนจบแล้ว เขาจะหมดความสงสารเธอเมื่อไหร่ก็ได้ จะไปบังคับให้เขารับเธอเป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายก็ทำไม่ได้ และต่อให้ทำได้ มันจะมีความหมายอะไร ถ้าใจเขาไม่
ตรัยภูมินั่งที่โซฟารับแขกแล้วกดมือถือเพื่อจองโต๊ะสำหรับดินเนอร์ งานพวกนี้เขาไม่เคยต้องทำเองแต่เพราะครั้งนี้เป็น ‘เดทแรก’ ของเขากับแพรวา เลือกร้านไม่ไกลนัก เขานั่งรอไม่นานแพรวก็ออกมาในชุดเดรสเกาะอกสีไวน์แดง หน้าอกหน้าใจแทบล้นทะลักแต่ยังดีที่มีผ้าคลุมไหล่ช่วยปกปิดทำให้เขาพอหายใจหายคอคล่องขึ้น ใครว่าเขาไม่หวงแพรวา เขามันขั้น ‘ขี้หวง’แต่ต้องทำใจกว้างเพราะเขาอายุมากกว่าเธอตั้งหลายปี“ผ่านไหมคะ” แพรวายิ้มทะเล้น ตรัยภูมิลุกขึ้นเดินวนรอบตัวหญิงสาวแล้วพยักหน้ารับอย่างพอใจ แต่ก็อดยื่นมือไปแตะลำคอของเธอไม่ได้“คอโล่งไปนะ เดี๋ยวหาสร้อยใส่สักเส้นสิ เอาต่างหูที่เข้าชุดกันด้วยนะ”“คุณป๋า...” “ตามใจป๋าหน่อย” เขาหัวเราะแล้วยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน ไม่นานพนักงานเอาถุงกระดาษหรูหราใส่เสื้อผ้าชุดเดิมของแพรวามาส่งพร้อมคืนบัตรเครดิต ตรัยภูมิถือของให้แพรวาด้วยตนเอง เขาจับมือเธอแล้วมองใบหน้าหวาน“ป๋าไม่ได้เดินจับมือใครมานานมากแล้ว” เขาพูดยิ้มๆ “จะอายไหมถ้าป๋าจะจับมือหนูแพร”แพรวาส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มกว้าง เธอกระชับมือเขาแน่น ไม่ว่าเขาจะพาไปไหน เธอก็ไม่ขัดใจแม้เขาจะบอกว่าวันนี้จะตามใจเธอ ตรัยภูมิพาแพรวาเ
“อื้ม! มีต้มแซ่บกระดูกอ่อนเป็นพยานไง” อัคคีทำหน้าจริงจัง “กูชอบมึง ชอบเวลาอยู่กับมึง ชอบที่มึงเป็นตัวเองแบบนี้ด้วย” “มาพูดแบบนี้ก็เขินแย่” น้ำมนต์อายจึงเอาแต่ก้มหน้าก้มตากินอาหารของตัวเอง “กินเยอะๆ” อัคคีใช้ส้อมจิ้มเสื้อร้องไห้วางใส่จานของน้ำมนต์ “จะได้มีแรง” “แรง? แรงอะไร” “มาถึงนี่แล้วก็ขึ้นห้องกูไง” “ไอ้ลามก” “มึงก็เอาของใช้เสื้อผ้าของมึงมาไว้ห้องกูบ้างก็ได้” อัคคีกลับมาพูดเหมือนเดิม “กูก็เอาเสื้อผ้าของกูไว้ห้องมึงไง” “เอางั้นก็ได้”“หรือไม่ก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน” “บ้าสิ พ่อแม่รู้ได้ด่าตาย” “พ่อแม่มึงน่ารักจะตาย ตอนนั้นกูไปบ้านมึงยังทำกับข้าวให้กูกิน เรียกกูลูกทุกคำเลย” “พ่อแม่กูเรียกเพื่อนกูว่าลูกทุกคน” “ก็อีกหน่อยก็เป็นลูกเขยไง” “มึงนี่...” “กูจริงจังแล้วก็จริงใจด้วย” เขายิ้ม “สาบานต่อหน้าตำหอยแครงเลย” “อย่าพูดเล่น” น้ำมนต์ทำตาดุใส่ “กูไม่อยากเล่นกับไฟ” “มึงก็เป็นน้ำ น้ำก็คู่กับไฟ” เขาพูดไ
หน้าตึกคณะ “ไม่ต้องมารับก็ได้” น้ำมนต์บ่นจ้องหน้าคนที่ยืนรออยู่หน้าคณะ เพื่อนคนอื่นๆของน้ำมนต์ต่างพากันหัวเราะคิกคัก พวกเขาเห็นทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทกันมานาน พอรู้ว่าตกลงเป็นแฟนกันก็อดหยอกล้อกันไม่ได้ “ก็เป็นแฟนไงถึงต้องมารับ” เพื่อนคนอื่นแซวแล้วแกล้งผลักไหล่น้ำมนต์ให้เข้าไปใกล้อัคคี “ไปเถอะๆ พวกเราจะกลับแล้วเหมือนกัน” “อื้ม” อัคคีส่งยิ้มให้เพื่อนของน้ำมนต์แล้วหันมาสบตากับ...เอ่อ..แฟนหมาดๆ ของตัวเอง “ทำไมไม่อยากให้มารับ หรือกลัวคนอื่นรู้ว่าเราคบกัน หรือว่าแอบมีใครอีก” “ละเทอะน่า” น้ำมนต์ส่ายหน้าไปมา “ก็เรียนคนละคณะอยู่คนละฟากเลย เลิกเรียนก็ไม่ตรงกัน ไหนจะมีกิจกรรมอีก ไม่ต้องมาเทียวรับเทียวส่งก็ได้ คุยกันเหมือนเดิมนั้นแหละ อีกอย่างกูขับรถมา มึงจะขับรถตามกูอีกเหรอ” “งั้นคราวหน้ากูขับรถไปรับมึงมาเรียนดีไหม แล้วตอนกลับกูก็จะได้ไปส่งมึงไง” “ไอ้ไฟ กูไม่ได้เป็นง่อย” บ่นแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ “มึงเองก็งานเยอะนี่ ปีสามแล้ว แล้ว...ตอนดึกมึงก็มาหากูอยู่แล้วนี่” ท้ายประโยคเสียงแผ่วเบาแถมแก้มยังแดงเรื่อ
น้ำมนต์ก็อธิบายไม่ถูก แค่รู้สึกแปลกๆ ปกติอัคคีมาห้องเธอไม่กี่ครั้ง ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันแต่เรียนคนละคณะ ก็เจอกันน้อยลง เพียงแค่ยังคุยเล่นผ่านไลน์หรือทักไปที่เฟซบุ๊คอยู่เสมอ แล้วเธอก็เจ็บทุกครั้งที่เห็นมันลงรูปคู่กับแฟน“เป็นไรไปอยู่ดีๆก็เงียบ”“เปล่า” น้ำมนต์ส่ายหน้า “แล้วมึงล่ะเป็นยังไง คราวนี้ง้อแฟนด้วยอะไร”อัคคีหน้าตึงขึ้นมาทันที “ทำไมกูต้องง้อเขาด้วย”“ทุกทีมึงง้อเขานี่” น้ำมนต์ทำหน้าเบื่อหน่อย “ซื้อกระเป๋าถือให้ รองเท้าใหม่ นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ น้ำหอม เครื่องสำอาง...”“พอๆ มึงไม่ต้องรื้อฟื้นแล้ว” อัคคีกุมขมับ นี่เขาเป็นบ้าไปจริงๆ ทำไมต้องทุมเทให้ผู้หญิงที่ไม่ได้จริงใจกับเขาขนาดนี้“ดูมึงซื้อให้กูดิ แคนตาลูป แตงโม แก้วมังกร มะม่วงดอง ฝรั่งแช่บ๊วย”“แล้วมึงอยากได้อะไร กูซื้อให้ก็ได้”“แล้วมึงจะมาซื้อของให้กูทำไม วันเกิดกูก็เลยมาแล้วด้วย”“อ้าว...ทำไมมึงไม่บอกกู”“แล้วทำไมกูต้องบอกมึง” น้ำมนต์เบ้ปากใส่ “เพื่อนกันลืมวันเกิดกันก็ไม่ตายหรอก”“เป็นเพื่อนกันยิ่งต้องห้ามลืมวันเกิด” อัคคีรู้สึกผิดไม่น้อย “วันเกิดกู มึงยังจำได้”‘เพราะเป็นคนสำคัญไง’แต่น้ำมนต์ไม่ได้พูดอย่างที่คิ
“ไอ้ไฟ” “พอเห็นหน้ากูยิ้มไม่ออกเลยหรือไง” “มึงมาทำอะไรที่นี่” น้ำมนต์กดเสียงให้เบาลงเกรงว่าจะไปรบกวนคนอื่น แต่เธออยู่ในซอกด้านในแทบไม่มีใครเดินผ่านมา “คนมาห้องสมุดให้มาทำอะไรล่ะ” อัคคีถามยิ้มๆ เริ่มอารมณ์ดีขึ้นที่เห็นใบหน้าหวานแดงระเรื่อ ท่าทางเขินอายอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก ยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักยังไงไม่รู้ น้ำมนต์ไม่รู้จะทำหน้ายังไง หลังจากเรื่องคืนนั้น ก็ไม่เคยคุยเรื่องความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอีก หรือจะว่าไปเธอก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไร มันก็คงเป็นแค่เซ็กส์เท่านั้น ซึ่ง...เวลานั้นอาจ...ต่อให้ไม่ใช่เธอ เขาก็คงมีอะไรกับใครก็ได้ “มีอะไรหรือเปล่า” อัคคีถามอย่างเป็นห่วง แล้วก้มหน้ากระซิบที่ข้างหู “ยังเจ็บอยู่ไหม” “ถามอะไรของมึง” น้ำมนต์ขึงตาใส่ แต่ไม่อาจสะกดไม่ให้ตัวเองหน้าแดง ถึงจะพูดออกมาไม่หมดแต่ก็เข้าใจได้ว่าอัคคีหมายถึงเรื่องอะไร “ก็กูเป็นห่วงนี่”เขาพูดไปตามที่คิด ถึงจะผ่านมาหลายวัน แต่พอนึกถึงคืนนั้น ที่เขาจับร่างอวบอิ่มกินหลายรอบ ตอนเช้าตื่นมาเห็นสภาพอ่อนเพลียจนน่าสงสาร จากเดิมที่คิดว่าจะ
อัคคีครางอย่างพอใจที่รู้ว่าเพื่อนสาวเสร็จคาลำเอ็นไปแล้ว เขาเปลี่ยนท่าจับเรียวขาลงจากบ่า เรียวขางามรัดเอวไว้ เขาเร่งจังหวะกระแทกสุดๆ น้ำมนต์เด้งเอวรับ เธอเพิ่งเสร็จไปและถูกเขากระหน่ำจวนจะเสร็จไปอีกรอบ ร่องเสียวขมิบบีบรัดแก่นกายที่ผลุบเข้าออกสร้างความเสียวซ่าน เสียงครางของคนสองคนดังผสานกัน มือใหญ่บีบเคล้นหน้าอกอวบอิ่ม ลีลาการกระแทกลำทำให้น้ำมนต์สะบัดหน้าไปมา ร่องรักปล่อยน้ำเสียวออกมามาก ความรู้สึกคับตึงหายไปหมดสิ้น เหลือแต่ความเสียวที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง“ไฟ...จะ...จะเสร็จอีกแล้ว”“เสร็จพร้อมกัน กูจะแตกแล้ว อ๊ะ ...”“อร๊ายยย” น้ำมนต์แอ่นกายขึ้นเกร็งกระตุกปับๆๆๆๆเขาโหมแรงเด้าเนินเนื้อไม่ยั้ง บดขยี้โหนกเนื้อที่เปียกชุ่มคราบน้ำรักที่แยกไม่ออกว่าของใคร ก่อนที่จะน้ำแตก เขาชักลำเอ็นออกจากร่องเสียวแล้วใช้มือชักลำเอ็นต่อจนน้ำรักขาวขุ่นพุ่งออกมาเปื้อนเปรอะหน้าท้องของน้ำมนต์ น้ำรักอุ่นร้อนทำให้เธอปรือตาขึ้นมอง เห็นอัคคีแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสมขณะที่เธอหอบหายใจจนตัวโยน เขาปรับลมหายใจครู่หนึ่งแล้วโน้มหน้าลงจูบหน้าผากของเธอก่อนจะดึงร่างเปลือยเปล่าเข้ามาไว้ในอ้อมกอด แต่มือไม้ที่เปะที่หน้าอกและ
อัคคีเรียกเพื่อนเพราะเห็นว่าเงียบไป เขายันตัวขึ้นก้มมองจึงรู้ว่าน้ำมนต์หลับไปแล้ว เอื้อมมือข้ามร่างเล็กไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะเพื่อดูเวลาซึ่งก็เลยเที่ยงคืนมาแล้ว เขาวางโทรศัพท์ลงที่เดิม ก้มมองคนที่นอนเบียดอยู่จึงพบสายตาของเพื่อนสนิทจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว“กูทำมึงตื่นเหรอ” น้ำมนต์สบตากับอัคคี นี่มันคงคิดว่าแฟนเก่าจะส่งข้อความมาหาละมั้งถึงได้วางโทรศัพท์ไว้ห่างมือไม่ได้ เธออ้าปากเหมือนจะพูดแต่เปลี่ยนใจ ขยับตัวนอนหงายแล้วยกมือขึ้นคล้องคออัคคีไว้ เหนี่ยวตัวให้มันก้มลงมาหา แล้วยื่นริมฝีปากไปประกบกับริมฝีปากหยักสวยของชายหนุ่มอัคคีทำตาปริบๆ แต่แรงขบเม้มที่ริมฝีปากทำให้รู้ว่าเขาไม่ได้ฝันไป น้ำมนต์ผละริมฝีปากอุ่นแล้วพูดเบาๆ“...มึง...โสดแล้วนี่...ก็ทำแบบนี้ได้ใช่ไหม...”ในห้องที่มีเพียงแสงสว่างจากหน้าจอโทรทัศน์ แต่ก็ยังทำให้เห็นแก้มนวลแดงปลั่ง ท่าทีเขินอายดูน่ารักและน่าแทะเล็ม สายตารอคอยทำให้เขาตัดสินใจได้ในทันที“อืม กูโสดแล้ว”ลิ้นร้อนแทรกเข้ามาโพรงปากของหญิงสาว หัวใจของน้ำมนต์เต้นแรงเมื่อมือใหญ่เลื่อนเสื้อนอนของเธอขึ้นเพื่อลูบไล้หน้าอกอวบอิ่มที่ไร้บราเซียปกปิด เสียงครางหวานห
“อย่าเพิ่งหลับนะ กูแบกคนเมาขึ้นคอนโดไม่ไหว” หญิงสาวแสร้งทำเสียงดุทั้งที่ใจสั่นไหว ขับรถเก๋งคันเล็กมุ่งหน้าสู่คอนโดที่อยู่ไม่ไกลมหาวิทยาลัยนัก เพราะบ้านอยู่ไกลที่เรียน พ่อกับแม่จึงตัดสินใจซื้อคอนโดให้ลูกสาวอยู่ ตั้งใจว่าถ้าลูกเรียนจบก็เอาไว้ปล่อยให้เช่าได้ ถนนยามค่ำคืนรถราไม่มากนักจึงใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงที่หมาย หญิงสาวจอดรถเรียบร้อยก็หันไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้เพื่อน เพราะคิดว่าอีกฝ่ายหลับ แต่เขากลับลืมตามองเธออีกครั้ง “มึงก็ยังดีกับกูเสมอเลยนะ” “พูดอะไรเพ้อเจ้อน่า” น้ำมนต์หันไปหยิบกระเป๋าของตัวเองแล้วลงจากรถ รอจนเพื่อนชายลงมายืนแล้วจึงล็อกรถแล้วเดินนำมาที่ลิฟต์ แต่เห็นท่าทางเดินโซเซทำให้ต้องเดินย้อนกลับมาประคองไหล่ของเพื่อนให้เข้าไปด้านใน “มึงตัวหนักขึ้นอีกหรือเปล่าวะ” หญิงสาวบ่นเพราะรู้สึกว่าเพื่อนตัวหนักขึ้น “เมื่อก่อนหิ้วปีกมึงกูยังหิ้วได้สบาย” “เมื่อก่อนนะ มันสมัยออกค่ายปีหนึ่งไม่ใช่เหรอ” อัคคีหัวเราะแล้วเปลี่ยนมาโยกหัวเพื่อนสาวเล่น ถึงจะเรียนคนละคณะ แต่อยู่ชมรมเดียวกัน ได้ไปทำค่ายอาสาด้วยกันอยู่สองสามครั
เสียงหวานครางสุดเสียงร่องรักขยิบรัวทำให้ตรัยภูมิคำรามไปด้วย เขาถอนแก่นกายออกจากร่องสวาท น้ำเมือกวาวใสอาบลำเอ็นเปียกชุ่ม ชายหนุ่มลงไปยืนข้างเตียงแล้วจับข้อเท้าของแพรวา ดึงร่างเล็กมาที่ขอบเตียง แยกเรียวขาออกกว้างจนเห็นกลีบเนื้อสีอ่อนที่บวมแดงเพราะถูกบดขยี้ แพรวากัดริมฝีปาก เวลานี้เธอไม่สนใจว่าอีกด้านของผนักกระจกจะนัวเนียสลับคู่กันขนาดไหน แต่เวลานี้เธอมีแต่เขาเท่านั้นหนุ่มใหญ่จับเอวคอดไม่ให้หลบหนีแล้วเสียบลำเอ็นเข้าไปจนมิดด้าม หญิงสาวขย้ำหน้าอกตัวเองพลางส่งเสียงเผ็ดร้อนออกมา เขากระแทกลำเอ็นจนร่างเล็กสั่นไหว ในห้องแอร์ที่เย็นฉ่ำแต่ร่างเปลือยสองร่างเปียกไปด้วยเหงื่อและน้ำกาม“ป๋าขา...”“เรียกผัวสิ” เขาสั่งอย่างเอาแต่ใจ น้ำรักไหลอาบลำเอ็นทำให้เขายิ่งซอยเอวได้สาแก่ใจ“ผัว...ผัวขา...”เขากระแทกหนักหน่วงขึ้น เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง ตับ ตับ ตับ เคล้ากับเสียงครางกระเส่า ความเสียดเสียวทำให้โพรงสาวร้อนฉ่าเช่นเดียวกับแก่นกายของเขาที่ร้อนระอุจนในที่สุดก็พ่นลาวาออกมาพร้อมกับร่างเล็กที่เกร็งกระตุกเพราะถึงจุดสุดยอดอีกครั้งตรัยภูมิค่อยๆ ถอนแก่นกายออกช้าๆ มองคราบรักที่ไหลออกมา เขาประคองร่างที่ไร้เรี่ย
“ใจเย็นๆหนูแพร เพิ่งเริ่มเอง”เขาหัวเราะในลำคอแล้วเบี่ยงกางเกงชั้นในตัวน้อยออกไปเพื่อสอดใส่แท่งสีชมพูให้มันสั่นในโพรงสวาท มือเรียวเล็กจิกที่โซฟา ดวงตาคู่หวานจ้องมองภาพเบื้องหน้า สาวสวยหุ่นเร้าใจ สองมือประคองหน้าอกอวบใหญ่เข้าหาจนปลายถันเสียดสีกันไปมา ตรัยภูมิใช้อีกมือที่ว่างขย้ำหน้าอกให้แพรวา หญิงสาวเสียวซ่านได้แต่ครางกระเส่า ร่องรักหลั่งน้ำหวานออกมามาก แพรวาไม่เหลือความอดทนใดๆอีก เธอยกสะโพกขึ้นรับจังหวะจ้วงแทงแท่งสีชมพู สายตาของเธอมองสองสาวที่อยู่หลังบานกระจกใช้แท่งเสียวเสียบในร่องรักของกันและกัน ช่วยกันกระแทกดุ้นสวาทขณะจูบปากแลกลิ้น “อา ซี๊ดดด คุณป๋า หนูแพรจะแตก...อ๊า”เธอหวีดร้องเมื่อถูกเขาปรนเปรอจนน้ำแตก ร่างกายเกร็งกระตุกคาแท่งสีชมพู ริมฝีปากอิ่มเผยอขึ้น ตรัยภูมิไม่รอช้าโน้มหน้าลงจูบกลีบปากหวานฉ่ำ เธอจูบตอบเล่นลิ้นอย่างเร้าร้อน มือใหญ่เลื่อนรูดซิปชุดเดรสของเธอลงเพื่อให้ชุดกระโปรงสีไวน์แดงออกไปพ้นร่าง หน้าอกคู่สวยมีจุกปิดปลายถันอยู่ เขาจัดการมันออกแล้วบี้ปลายถันเล่นทำให้ร่างอรชนบิดเร้าไปมา เธอเสียวซ่านจนต้องขย้ำต้นขาใหญ่ของเขา “ป๋าขา...ใส่เถอะ หนูแพรอยาก