เข้าสู่ระบบผับแห่งนี้เงียบสงบ ทั้งร้านมีโต๊ะตัวนี้ตั้งเด่นอยู่ตัวเดียว กับหลอดไฟเพดานที่ฉาบฉายแสงลงมาเพียงกระหย่อมหนึ่ง มันแทบจะยิงลงมาที่กลางหัวของพีผู้เป็นเจ้าของเสียงพูด ประโยคเด็ดจากเขาทำให้ทุกอย่างเงียบงัน เขาชี้นิ้วไปที่แพรวพลันพูดออกมาเป็นใจความสั้น ๆ ที่สรุปได้ว่า
.
ลับหลังนิทานพาฝันอันหวานแหววของแพรว ในช่วงกลางดึกของคืนเดียวกันเปรมกับพีนั้นมักจะออกไปมันส์ด้วยกันอยู่บ่อย ๆ พีก็เหมือนกับแพรวที่ตอนเป็นเฟรชชี่มักจะไปไหนไม่เป็น เขายังไม่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง? , คณะอยู่ตรงไหน? , ห้องสมุดอยู่ตรงไหน? , โรงอาหาร? , ชมรม? , โรงพยาบาล? , หรือแม้กระทั่งร้านเหล้า!
.
ในคืนวันพระเมื่อสองปีก่อนพีในวัย 18 เกิดโหยหารสชาติของสุราขึ้นมากลางดึก เขาเกิดอาการเสี้ยนที่ยังไม่ถึงกับเงี่ยน เพียงแค่ต้องการเหล้าสักกลมหนึ่งมาดื่มย้อมใจเพื่อให้หายคิดถึงบ้าน คิดได้ดังนั้นจึงตัดสินใจแวะไปที่โซนนิ่งที่ทางมหาลัยจัดเอาไว้
.
ลักษณะมันเป็นตรอกถนนเล็ก ๆ เส้นหนึ่ง ที่จะมีห้างร้านมากมายมาจ่ายสัปทานให้แก่สถานศึกษาเพื่อแลกกับการขายสุราและสันทนาการโลกีย์ ว่ากันว่าร้านเหล้าและผับตรงนี้สร้างรายได้ให้แก่สถาบันมากกว่าค่าเทอมที่พวกเด็ก ๆ จ่ายซะอีก ทว่ามีได้ก็ต้องมีเสีย ทุกสิ่งล้วนต้องแลกมาด้วยกฎระเบียบอันเคร่งครัด มีการควบคุมอาวุธ มีการกำหนดอายุผู้เข้าใช้บริการชัดเจน ซึ่งแน่นอนว่าตุ๊ดอายุ 18 ปีอย่างพีย่อมไม่มีสิทธิ์
.
ครานั้นความเสี้ยนเหล้าก็พาเขาไปถึงไนท์คลับแห่งหนึ่งจนได้ พียืนต่อล้อต่อเถียงอยู่กับการ์ดหน้าประตูจนเกือบจะมีเรื่องกัน
.
"แสดงบัตรประชาชนด้วยครับน้อง!"
การ์ดหน้าเข้มในชุดซาฟารีทำเสียงดุยิ่งกว่าหมาเห่า
.
"โหพี่.. หน้าหนูแก่กว่าพี่ปี 4 ทุกคนรวมกันซะอีก ให้หนูเข้าไปเถอะ.. หนูหิว..หนูอยากกรึ๊บ! , ไม่มีใครรู้หรอกน่า ไฟก็ออกจะมืด ให้หนูไปนั่งอยู่หน้าห้องส้วมก็ได้หนูสัญญาว่าจะไม่บอกใคร.. น๊าาาน๊าาาา"
กระเทยควายพยายามต่อรอง แล้วนิสัยดังกล่าวก็ยังติดตัวมาจนถึงปัจจุบัน
.
"ไม่ได้! จากคำพูดเมื่อกี้บวกกับการมาคนเดียวแสดงว่าน้องต้องเป็นเด็กปี 1 พี่ให้เข้าไม่ได้! กรุณารักษากฎด้วยครับ! ถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ไปร้านขายของชำตรงหัวมุมดูสิ กินแบบ "กั๊ก" ก็น่าจะพอแก้ได้อยู่ไม่ใช่เหรอ? , หึๆๆ"
.
แล้วก็เป็นเสียงหัวเราะกับท่าทางเย้ยหยันกึ่งดูถูกนี่แหละที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้น เมื่อจู่ ๆ พีก็รู้สึกโมโหโกธาขึ้นมา เขาเป็นมนุษย์เพศทางเลือกที่ปกติก็โดนเหยียดอยู่แล้ว พอมาโดนไล่ให้ไปเซ็นเหล้าขาวแดกแบบนี้เข้า มันจะต่างอะไรกับแรงงานพม่า! ไม่รู้อะไรเข้าสิง! ตัดภาพมาอีกทีหมัดขวาตรงก็เหวี่ยงออกไปด้วยพิษสงของการบันดาลโทสะซะแล้ว!
.
"ฟิ้วววววววว!!!"
.
การ์ดดึงหลบพ้นอย่างฉิวเฉียด เขาจึงสวนกลับไปด้วยไม้กระบองทั้งดุ้นที่เหน็บอยู่ข้างเอว การง้างฟาดดอกนี้คงไม่แคล้วซัดลงกลางกบาลเป็นแน่ ทำให้พีถึงกับต้องก้มหลบ โดนชัวร์ ๆ แต่ขอให้โดนน้อยที่สุด!
.
"หมับบบ!!!!"
.
เดชะบุญที่เสี้ยวอึดใจนั้นดันมีมือข้างหนึ่งโผล่มารับเอาไว้ จากมุมเสยที่มองขึ้นไปพีจำได้แม่นว่านั่นคือมือของเปรมรุ่นพี่ที่คณะ เสี้ยววินาทีแห่งการหัวร้างข้างแตกที่กระเทยร่างโย่งอยู่ใต้วงแขนของเขา กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ นี่บอกเลยว่าแมนมาก ๆ กายเนื้อที่สัมผัสกันผ่านความบางของเนื้อผ้าทำให้พีรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกแมวตัวน้อย ๆ ที่กำลังถูกปกป้อง ท่อนแขนอันกำยำที่ชูขึ้นรับไม้แม่งโคตรเท่ห์! ไม่ไหวแล้ว! พีพ่ายแพ้ต่อสิ่งนี้ในชั่วขณะจิต เลยจงใจเซถลาเข้าไปให้เปรมโอบ ซึ่งเขาเองก็ตอบรับเป็นอย่างดีโดยไม่ว่าสักคำ
.
เปรมกอดพีไว้ด้วยร่างกายท่อนบนทั้งหมด แล้วใช้กำลังเพียงเศษเสี้ยวดึงกระบองออกจากมือการ์ด พลันจับยัดเสียบเข้าไปในกางเกงตามเดิม ก่อนจะพูดขึ้นว่า
.
"น้องคนนี้มากับผม ขอเข้าไปหน่อยนะครับ โต๊ะเดิมที่บุ๊คไว้"
.
พอการ์ดได้ยินเข้าก็เปลี่ยนท่าทางทันที พลันก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวยิ้มแหย ๆ พร้อมกับพยักหน้าให้หนึ่งทีผายมือเป็นสัญญาณว่า "เชิญครับ"
.
บางทีแกอาจจะหมั่นไส้เด็กกลุ่มนี้อยู่ไม่น้อย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเปรมคือทายาทของร้านยาชื่อดัง กิจการตระกูลเขาควบรวมโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งในประเทศ แล้วโรงพยาบาลพวกนี้ก็เป็นผู้สนับสนุนหลักของมหาลัย กล่าวคือว่ากันว่ารั้วที่ปิดล้อมที่นี่ทั้งหมด , อิฐทุกก้อน , สีที่ทา , แม้กระทั่งช่างที่จ้างมาทำ , ล้วนแต่เป็นเงินที่ตระกูลของเปรมบริจาคให้ทั้งสิ้น
.
ขยายผลไปถึงสถานบริการทั้งหลายในตรอกแห่งนี้ ถ้ามีการต่อยตีกันแล้วมีผู้บาดเจ็บหรือมีอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดขึ้นในละแวก รถมูลนิธิทั้งหลายก็จะเป็นอันรู้กันทันที ว่าจะต้องเอาร่างผู้เคราะห์ร้ายไปส่งที่โรงพยาบาลในเครือของครอบครัวเปรม
.
ไม่มีตระกูลเขามหาลัยนี้ก็จบเห่! นี่คือเรื่องจริง! การ์ดพวกนี้ก็จะตกงาน และนั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมน้าแกถึงยอมอ่อนข้อ ถึงแม้ว่าเปรมจะไม่เคยอวดเบ่งแถมยังสุภาพมาก ๆ แต่ไม่ว่าใครต่อใคร ร้านเหล้าผับบาร์ไหน ก็จะต้อนรับเปรมกับเพื่อนราวกับเป็นบุคคล V.I.P. เสมอ ซึ่งแน่นอนว่ากับครั้งนี้เองก็เช่นกัน
.
พีก็เลยเหมือนถูกหวย เขาได้เข้าไปนั่งร่วมโต๊ะกับเปรมทั้งที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน จบคืนวันพระนั้นทุกอย่างก็เลยเต็มไปด้วยความสับสน ทว่าหลังจากนั้นเป็นต้นมาไม่ว่าพวกเปรมจะกินเหล้ากันครั้งใด พีก็จะถูกชวนไปด้วยตลอด เขาเหมือนแบ็ทแมนที่จะมีตัวตนอยู่แค่ตอนกลางคืนเท่านั้น โฉบเฉี่ยวเป็นเพื่อนกินเพื่อนเที่ยว ใช้เวลาเพียงแค่หน่อยเดียวไม่กี่สัปดาห์พีก็รู้จักย่านโลกีย์รอบมหาลัยทั้งหมด เดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น หนักข้อขึ้นก็ถึงกับไปปาร์ตี้ส่วนตัวกับพวกเปรมถึงคอนโดฯ เลยก็มี
.
อาจจะเป็นเพราะพีเป็นคนเอ็นเตอร์เทนเก่งล่ะมั้ง เป็นกระเทยที่ชอบม้อผู้ชาย ประกอบกับพวกเภสัชตี๋ ๆ ขาวๆ ก็มีพวกเก้งกวางกันเยอะ หลายครั้งมากที่พีโดนจับก้น แต่เขากลับชอบมันซะงั้น เพื่อนของเปรมสลับผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยมากหน้าหลายตา แต่ไม่มีใครรังเกียจพีเลย เขาเป็นน้องปีหนึ่งคนเดียวที่ถูกเชิญเข้าตี้ แล้วก็หวิดจะโดนปี้อยู่หลายทีในตอนที่เมา ถ้าเปรมไม่เข้ามาห้ามเอาไว้ก่อน
.
"ระวังตัวหน่อยสิ.. พี่ดูอยู่นะ"
โดยไม่ทราบเจตนาแต่น้ำเสียงนี่นิ่งมาก เปรมไม่เมาแน่ ๆ และดูเหมือนว่าเขาจะเฝ้ามองพีอยู่ตลอด
.
หลังจากนั้นเป็นต้นมาพีก็เริ่มสังเกตเปรมเป็นระยะ ก่อนจะพบว่าทุกครั้งที่ตนเองนัวกับผู้ชายอื่นเปรมจะมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป มีหันหน้าหนีบ้าง มีการจือปากหงุดหงิด หรือหนักสุดก็ถึงกับลุกหนีไปเลย เป็นแบบนี้เป็นเดือนเป็นปี ไล่มาตั้งแต่เป็นเด็กเฟรชชี่จนตอนนี้ที่แก่พอจะไล่ปี้เฟรชชี่ได้ทุกคนเปรมก็ยังไม่เลิกพฤติกรรม
.
.
"ไม่จริง! แกโกหก! พี่เปรมไม่ใช่เกย์!"
แพรวลุกขึ้นยืนแผดเสียงสูงปรี๊ด
.
"เขาหึงฉัน! สายตาฉันนี่แหละหลักฐาน!"
พีโต้กลับ พลันลุกขึ้นยืนชี้หน้ากลับคืนไปบ้าง
.
"ไม่! , ฉันไม่เชื่อ!"
.
"ก็ตอนที่แกนอนหลับฝันหวานฟังนิทาน พี่เขาก็ออกไปฟันกับฉันตอนกลางคืนไงง่าย ๆ แค่นั้นแหละ!"
.
"อีพี! , มึงนี่มัน!"
.
เกิดการโต้เถียงกันขึ้นอีกหลายยก ต่างคนต่างไม่ยอมกันทั้งที่ต่างก็คิดเองเออเองกันทั้งสองฝ่าย โต๊ะไม้สั่นโครม ๆ ถังน้ำแข็งเทกระจาด ไม่รวมแก้วเหล้าที่โดนเขวี้ยงใส่กันจนบาด แพรวกับพีเหมือนจะวางมวยกันอีกรอบ จนเด็กเฝ้าร้านที่นั่งอยู่หลังเคาท์เตอร์เริ่มขยับตัว เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ทรัพย์สินของทางร้านเสียหายไปมากกว่านี้
.
แต่ทว่ายังไม่ทันจะเดินไปถึงเลย มิวท์ที่นั่งอุดหูดูอยู่ข้าง ๆ ก็ชิงลงมือซะก่อน แต่สิ่งที่เธอเลือกทำนั้นชาวบ้านเขาดันไม่ทำกันก็แค่นั้นเอง
.
"กรี๊ดดดดดด! , หยุดเดี๋ยวนี้นะ.. ทั้งสองคนเลย!"
"นี่แหนะ! , นี่แหนะ!"
.
"ฟู่.. , ฟู่.. , ฟุ่ ๆ ๆ , ฟู่ ๆ ๆ"
.
ใครจะเชื่อว่ามิวท์จะกล้า เมื่อเธอเล่นเอาสเปร์ย์ฆ่าเชื้อฉีดเข้าปากเพื่อนทั้งสองคนโดยไม่สนคำเตือนในฉลากใด ๆ พลางบอกสาเหตุว่าแค่นี้ก็เสี่ยงมากแล้ว Social Distancing ก็ไม่มี ยังจะมาตะโกนพ่นน้ำลายใส่กันอีก หน้ากากอุตส่าห์ให้ไปก็ไม่ยอมใส่โดนซะบ้างจะได้เข็ด
.
"แค๊ก , แค๊ก , แค๊ก , แค๊ก"
.
"ค๊อก , ค๊อก , ค๊อก , ค๊อก"
.
"ยัยมิวท์นี่คิดจะฆ่ากันหรือไง.. ใครเขาทำกันแบบนี้?!"
แพรวสำลอกออกมา น้ำตาแตกขมคอ
.
"ก็ไม่รู้ล่ะ.. ถ้ามิวท์ไม่ป้องกันตัวเองมิวท์ก็อาจจะตายเพราะติดเชื้อ covid ก็ได้ อย่างน้อยมันก็ได้ผล เห็นไหมว่าพวกเธอหยุดทะเลาะกันแล้ว^^"
ยิ้มหวานทำตาบ่องแบ้วเช่นเคย พลางลุกขึ้นยืนเปิดทางให้พนักงานร้านเข้ามาปฏิบัติหน้าที่
.
เด็กหนุ่มหน้าสิวปรี่เข้ามาประชิดตัว เขาแจ้งให้ทั้ง 3 คนทราบว่าขณะนี้เวลา 21.30 น. เหลืออีก 30 นาทีจะถึงกำหนดเคอร์ฟิว ได้โปรดย้ายก้นออกจากที่นี่ตามที่ตกลงกันไว้ด้วย แล้วก็โปรดวางเงินค่าเสียหายพร้อมกับติปสินไหมให้แก่เขาผู้เป็นคนเฝ้าร้านด้วย
.
"รับเป็นโอนจ่ายนะครับ ผมไม่อยากสัมผัสเงินสดของพวกคุณ มันน่าจะสกปรก"
เด็กหนุ่มกำชับ
.
"แค๊ก ๆ , แค๊ก ๆ , ย่ะ! จ่ายเขาไปสิอีแพรวมึงอ่ะตัวก่อเรื่อง! ค๊อก ๆ , ค๊อก ๆ , แค๊ก ๆ"
.
สาวเจ้ามุ่ยหน้ามองบนใส่ เธอชักไม่แน่ใจว่าตัวเองไปตกลงปลงใจคบกระเทยพรรค์นี้เป็นเพื่อนได้ยังไง เพราะเผลอก้มลงมองสมาร์ทโฟนเข้าแอพแป๊บเดียว พีก็ดันตูดมิวท์ให้กลับออกไปทางช่องทิ้งขยะโดยไม่รอเธอเลย
.
.
ตัดภาพออกมาข้างนอก , ภายในรถเก๋งบุโรทั่งคันหนึ่งที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุด
.
ฝ่าเท้ากระทุ้งคันเร่งมันส์อย่างกับเล่นเกมตู้ ถนนเมืองกรุงในช่วงโรคระบาดนี่โล่งพอ ๆ กับหยุดสงกรานต์หรือวันปีใหม่ เบรคมันอยู่ที่ใจก่อนใช้เพียงฝ่าเท้าเล้าโลมอารมณ์ตื่นเต้น พีเป็นคนขับ แพรวนั่งด้านข้าง ส่วนมิวท์นั่งอยู่ข้างหลัง
.
รู้ว่ายากที่จะเชื่อแต่ได้โปรดเชื่อเถอะว่า การหักพวงมาลัยเข้าโค้งแต่ละครั้งเข็มขัดนิรภัยนี่แทบจะกลายเป็นเชือกรัดคอ
.
"บรื๊นนนนน!!!!"
.
ควันดำยิ่งกว่าท้องฟ้า มืดขมุกขมัวแถมยังพ่นออกมาเป็นปื้น ๆ เพราะกลัวจะไม่ทันเคอร์ฟิว พีต้องไปส่งมิวท์ ส่งแพรว แล้วก็ต้องวกกลับเข้าบ้านตัวเองอีก
.
"บริ้นนนนน! ๆ ๆ , บรื้น ๆ ๆ ๆ ๆ !!! , เอี๊ยดดดด!!! , บรื้นนนนน!!!"
.
"มึงช้าลงหน่อยเถอะอีพี! กูขอโทษก็ได้! มึงแค้นกูใช่ไหม? มึงจะเนียนฆาตกรรมอำพรางกูใช่หรือไม่! อีเพื่อนเลว! อร๊ายยยยย!!! ทางโค้งหักศอก!!!!"
.
"แฟร๊บบบบบ!!!!! , ฟิ้ววววว!!!!"
ดริฟท์สไลท์ผ่านสวยงาม สีข้างรถไหลผ่านแท่นแบริเออร์เพียงแค่ 3 มิลลิเมตร!
.
"เฮือกกกก.. หัวใจกูจะวาย.. มึงจอดข้างทางให้กูขับแทนก็ได้อีพีเอ๊ยยย!"
แพรวขอร้องเธอเหงื่อแตกเต็มหน้า แล้วก็ถึงกับต้องดึงเข็มขัดนิรภัยมาพับเป็นสองทบรัดตัวเองให้แน่นขึ้นกว่าเก่า
.
สวนทางกับมิวท์ที่นั่งอยู่เหมาะหลัง เธอโคตรจะนิ่งแล้วก็ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์อยู่ตลอดตั้งแต่ขึ้นรถมา
.
"กูจะให้มึงขับได้ไงในเมื่อมึงเมาเป็นหมา! แหกด่านเคอร์ฟิวแล้วยังโดนจับเมาแล้วขับ มึงบ้าหรือมึงปัญญาอ่อน! หุบปากไปเลยแล้วนั่งเฉย ๆ ทำตัวให้ได้ครึ่งมิวท์เขาสิหัดดูเพื่อนเป็นตัวอย่างซะบ้าง!"
.
ไม่แม้แต่จะฟังคำซักค้านใด ๆ เวลาไม่เคยคอยท่าเคอร์ฟิวไม่เคยคอยใคร กลัวติดโรคตายมากกว่ากลัวรถคว่ำ ตรรกะโคตรป่วยแต่เชื่อเถอะว่าคนไทยหลายคนล้วนเป็นแบบนี้ ฝ่าเท้าใหญ่เท่าใบพายจากชายผู้แอ๊บตุ๊ดยังคงกระทุ้งแป้นเหยียบ เก๋งบุโรทั่งยังคงพุ่งทะยานขึ้นสะพานกระโดดจั๊มเนินราวกับคิดว่าตัวเองเป็นมอเตอร์ไซต์ไต่ถัง
.
ก่อนที่จุดเปลี่ยนของเรื่องจะมาถึง เมื่อพีบึ่งยนตรกรรมคันนี้มาถึงแยกไฟแดงหน้าหมาลัย เขาตีไฟเลี้ยวเตรียมจะเลี้ยวเข้าไปข้างในอยู่แล้ว แต่ก็ไม่แคล้วสังเกตเห็นว่าที่ด้านหน้ามีสัญญาณไฟแดงสว่างโล่อยู่ กฎหมู่ต้องไม่อยู่เหนือกฎหมาย ต่อให้สามคนบนรถจะรีบแทบตายแต่กฎก็ต้องเป็นกฎ
.
"พี! ไฟแดงเบรคคคคค!"
แพรวตะโกนลั่น
.
"เอ้อ! เห็นแล้วน่ะ! จะเบรคเดี๋ยวนี้แหละ!"
.
"เอี๊ยดดดดดดดด!!!"
.
ถ้าเป็นรถแดร็กที่แข่งวัดความเร็วทางตรงจะไม่ว่าเลย แต่นี่อะไร! สภาพรถอย่างกับเศษเหล็กแถมเบิร์นยางซะจนควันขึ้นเป็นรอยไหม้ ตัวมิวท์ถึงกับถลำทะลุออกมาคร่อมคันเกียร์ ในขณะที่แพรวนั้นกลายเป็นพรีเซ็นเตอร์ยาสระผมไปเป็นที่เรียบร้อย! Head & shoulder ไหมละมึง! หัวโขกกระจก ไหล่โขกคอนโซล แพรผมนี่สะบัดพริ้วรังแคกระจาย! ซึ่งคนเดียวที่ไม่เป็นอะไรเลยก็คือพีที่ตัวใหญ่เป็นควายป่าเก๊กหน้าอยู่หลังพวงมาลัยรถ
.
เขาได้แต่นั่งอึ้ง!
.
"มึงชนคนหรอ..?"
แพรวถาม ส่วนมิวท์เองก็กระท่อนกระแท่นตัวเองขึ้นมาจัดแต่งทรงผม โทรศัพท์เธอกระเด็นไปไหนแล้วก็ไม่รู้?
.
"เปล่าหรอก..รถคันนั้นต่างหาก! เขาวิ่งฝ่าไฟแดงตัดหน้าฉันไป!"
.
"อูยยยยย..คงรีบเหมือนเราล่ะมั้ง.. อีกแค่ 10 นาทีจะเคอร์ฟิวด่านตรวจก็อยู่แถวนี้นี่เอง.. โอย..เจ็บ ๆ ๆ"
เพื่อนสาวผมส้มตั้งข้อสังเกต
.
พียกมือขึ้นเท้าคางเขากำลังคิดอะไรบางอย่างระหว่างรอให้สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว ก่อนจะโพล่งคำออกมาว่า
.
"ไม่แพรว.. ฉันว่านั่นมันรถ Honda Civic IVTEC TURBO ปี 2019 สีดำ รถพี่เปรมชัด ๆ ! แกจะไปไหน? แล้วในเวลาแบบนี้เนี่ยะนะ!?"
.
.
แน่นอนว่าสีหน้าแพรวเปลี่ยนไป แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม? เพราะจู่ ๆ มิวท์ก็รีบควานหาสมาร์ทโฟนที่ทำหล่นเป็นการใหญ่
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ
"ซึบ!!!".เสียบ ๆ ๆ ! กระซวก ๆ ๆ ! ย้ำแผลเดิมอีกราวสิบกว่าครั้ง ทำให้ร่างเปลือยของชายที่แน่นิ่งอยู่แล้วกลายเป็นเหมือนหมูที่อยู่บนเขียง กงเล็บของมิวท์ถูกดึงขึ้นมา ความแหลมเฟี้ยวดังกล่าวถูกฉาบเคลือบไว้ด้วยลิ่มเลือดที่หยดติ๋ง ๆ ไหลซึมลงมาถึงข้อศอก.แววตาแดงก่ำไม่เห็นแม้แต่ลูกตาดำ ขนาดฟันเขี้ยวด้านหน้ายังยื่นแหลมงุ้มออกมาพ้นมุมปาก ไม่มีทางเลยที่มิวท์ตัวจริงจะต่อต้านตัวตนใหม่เฉกเช่นปีศาจนี้ได้ มันบังคับร่างกายเธอให้เคลื่อนไหวไปไหนต่อไหนตามอำเภอใจ และครั้งนี้ก็คงจะหิวถึงได้เริ่มคอนโทรลมืออีกข้างของมิวท์ให้ควักลงไปในปากแผล พลันดึงเอาเครื่องในอวัยวะสด ๆ ออกมาจากลำตัว."ควัก!!!""หมึบบบ! , หมับบบ!!!".ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา ไม่ถามดินถามฟ้า พอได้ออกมาก็จับยัดเข้าปากแล้วก็เคี้ยวตุ้ย ๆ แทบจะทันที ซึ่งนั่นก็คือภาพสุดท้ายที่มิวท์หวนคิดถึง....ตัดภาพกลับมา ณ เหตุการณ์ปัจจุบันในเฮลิคอปเตอร์.หญิงสาวลุคคุณหนูกลับมาสวมใส่เสื้อผ้าแล้ว เธออยู่ในอาภรณ์มิดชิด ปากยังคงเคี้ยวเอื้องเอาเศษอวัยวะของพี่พลขับลงคอไปเป็นอาหาร.. อึก.. อึก...ตอกย้ำว่ามิวท์รู้ทุกอย่างว่าที่ผ่านมานั้นคืออะไร เธอถูกเชื้อโค
เหงื่อนองท่วมร่างกาย กะบังลมเคลื่อนตัวเทียวหดเทียวขยายหอบแฮ่ก ๆ กันทั้งสองคน ลำควยยังคงปักเสียบอยู่ในหี เวลาผ่านไปร่วมหนึ่งนาทีเมือกคาวสีขาวขุ่นอันเกิดจากน้ำเชื้อแห่งการผสมพันธุ์ ก็ซึมทะลักออกมาตามช่องว่างระหว่างอวัยวะเพศ."แหมะ! , แหมะ!".มันหลากล้นออกมาเปื้อนพุ่มไหมดงแมกไม้ของพี่พลขับเต็มไปหมด แต่ครานั้นนวลนางผู้คร่อมร่างอยู่ข้างบนก็ยังคงนิ่งไม่ไหวติง มิวท์นิ่งราวกับโดนถอดปลั๊ก! เธอยังคงชูแขนพับข้อศอกอยู่ในท่ามัดผม พลันหลับตากัดริมฝีปากแล้วก็ค้างเติ่งอยู่เช่นนั้น จนพี่เขาชักจะประหลาดใจ."นี่คุณเล่นมุกอะไรของคุณเนี่ยะคุณมิวท์?""แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ "เขาลองตวาดถามดูอีกครั้งถามแม่งทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่หายเหนื่อย และการหอบหายใจสั่นรัวดังกล่าวก็ทำเอาร่างบางที่คร่อมอยู่มูฟตัวเองโยกโยนตามไปด้วย."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ หนอยแน่! ดีล่ะ! ถ้าจะเล่นแบบนี้ล่ะก็..""ผมก็จะง้างปากคุณด้วยแท่งควยของผมเอง..""ให้มันรู้ไปสิว่าคุณจะนิ่งต่อไปได้ ถ้าโดนควยกระทุ้ง!"."แฮ่ก ๆ , แฮ่ก ๆ ""ฮึบ!!!"."สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ! , สวบ!".กัดฟันรวบรวมพลังทั้งหมดส่งจากปลายตีนขึ้นมาถึงบั้นเด้า พี่เขาเอาจริงไม่







