แชร์

บทที่ 73 : โบ๊ท

ผู้เขียน: L.sunanta
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-13 22:21:23

เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่  Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก

.

“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”

เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก

.

สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้

.

“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”

.

“ไปไหนอ่ะพี่?”

.

“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”

.

แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเท่เร่ แฉลบชนทิวแถวตอม่อเป็นระยะ ก่อนจะหักเลี้ยวลงไปยังซากปรักหักพังของตึกแถวข้างทาง และลอยสูงจากพื้นเพียงแค่ระดับหัวเข่าเท่านั้น

.

พวกแพรวเดินตามไปแบบแช่มช้า ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความระมัดระวัง ไม่งั้นคงไม่เตรียมอาวุธติดตัวกันครบมือ ลางสังหรณ์บอกว่านี่ไม่ใช่กับดัก เซนส์ในตัวแพรวแจ้งชัดว่า Riot โดรนลำนี้คงจะกำลังต้องการความช่วยเหลือ และการนำทางอันทุลักทุเลของมันก็คงจะพาพวกเธอไปเจอกับอะไรสักอย่างที่น่าสนใจ ประกายไฟสว่างวูบวาบราวกับผีกระสือ ยุคนี้สมัยนี้ใครจะเชื่อเรื่องพรรณนี้กันแล้วก็คงจะไม่มีอยู่จริง! ถ้ารูหูทั้งแปดรูของคนสี่คนไม่ได้ยินเสียงร้องครวญครางในแบบเดียวกันเข้า!

.

“โอ๊ยยย~!  , โอ๊ยยย~! ,  โอยยย~ , ช่วยด้วย~!”

.

ห่างออกมาจากจุดแคมป์ไฟใต้ทางด่วนประมาณหนึ่ง บริเวณดังกล่าวห่างไกลจากจุดปะทะของพวก AP กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอยู่พอสมควร แถมยังมืดและเงียบมาก ๆ มีเศษอิฐเศษปูนพังถล่มลงมาขวางทางกลาดเกลื่อนชนิดที่เดินด้วยเท้ายังลำบาก แล้วจู่ ๆ Riot โดรนใกล้เจ๊งก็กระชากตัวเองขึ้นสู่ฟากฟ้าไปด้วยความเร็วสูง!

.

“ฟิ้ววว~~!” 

.

“กรี๊ดดดดด!”

หนึ่งในกลุ่มเด็กหญิงแผดเสียงร้องด้วยความตกใจ คล้ายกันกับแพรวที่รีบผายมือสั่งให้ทุกคนหยุดแล้วเตรียมอาวุธให้พร้อม

.

ทว่าก็ไม่ได้ใช้เพราะโดรนลำดังกล่าวได้ระเบิดตัวเองกลางอากาศ! บางทีนี่อาจจะเป็นพลังงานเฮือกสุดท้ายของมัน เพราะนอกจากเสียงที่ดังพอประมาณแล้ว ชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ยังส่องแสงอำพันออกมาราวกับพลุสนามที่ทหารใช้ในสนามรบ แรงดึงดูดของโลกทำปฏิกิริยากับมวลชิ้นส่วนได้น้อยกว่าปกติ ทำให้กว่าจะตกถึงพื้นต้องใช้เวลานานมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการขมวดเกลียวเศษซาก ให้หมุนวนไปด้วยกันทั้งแสงและควัน ก็เลยทำให้เกิดเป็นสัญลักษณ์ตัวอักษร SOS ขึ้นกลางอากาศด้วย

.

“พลุไฟขอความช่วยเหลือหรอพี่แพรว? อย่างกับอินเดียแดงแหนะ?”

เจนิสชี้ให้ดูเธอแหงนคอมองตาม แล้วลดระดับลงเรื่อย ๆ เมื่อใกล้ถึงจุดตก

.

“นั่นล่ะพวก AP เขาล่ะ! สินค้าแต่ละอย่างถ้าไม่นับก๊าซรักษาโรคโควิดจากเลือด LGBT แล้วล่ะก็ อย่างอื่นก็ถือว่าอเนกประสงค์ ไปเถอะพวกเราตามไปดูกันว่ามันลอยไปตกที่ไหน”

.

“ค่ะ , ค่ะ”

เด็ก ๆ ตอบแบบประสานเสียง ความง่วงนอนอ่อนเพลียหายไปหมดสิ้น อะดรีนาลีนหลั่งความอยากรู้อยากเห็นบวกกับเสียงร้องให้ช่วยเมื่อครู่  ทำให้ทุกคนคิดเป็นสิ่งเดียวกัน

.

นำมาสู่ความเวทนาสงสารที่ประจักษ์ขึ้นแก่ดวงตา แสงจากเศษโดรนสิ้นสุดลง ณ กองซากตึกหลังหนึ่ง ร่องรอยยังใหม่เอี่ยมกลิ่นเหม็นไหม้และฝุ่นจากซีเมนต์ยังคละคลุ้ง ย้ำชัดว่าลูกหลงจากการสู้รบนั้นกระเด็นมาไกลถึงตรงนี้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น! สิ่งที่ทุกคนในแคลนเพ่งความสนใจกลับเป็นปลายนิ้วมือน้อย ๆ ที่กระดิกดุ๊กดิ๊กออกมาจากกองเศษปูนตรงนี้มากกว่า มันขยับได้แคล่วคล่อง บนนิ้วทั้ง 5 ยังใส่แหวนไว้ถึง 5 วงด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่วิสัยของคนปกติ แถมแต่ละวงก็เหมือนจะมีวงจรอะไรบางอย่างที่กำลังทำงานอยู่

.

“นั่นใช่พวกคุณไหม~! ช่วยผมหน่อยสิ! เอาผมออกไปจากที่นี่ทีขอร้อง.. โอ๊ยยย~!”

.

เป็นเสียงเล็ก ๆ แบบเด็กผู้ชายที่ลอดออกมา และแค่ฟังทุกคนในแคลนก็รู้แล้วว่าเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แบบเดียวกับที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้ แพรวก็เลยพูดขึ้น

.

“ได้ ๆ เดี๋ยวพวกเราจะหาทางช่วยนะ ทำใจดี ๆ ไว้ก่อนอย่าขยับตัวมาก เดี๋ยวแผ่นปูนด้านบนจะพังลงมาอีก!”

“ไป! พวกเราช่วยกันหาอะไรมางัดแผ่นปูนพวกนี้หน่อยเร็ว!”

.

สั่งงานยังไม่ทันจบประโยคดี เพียงแค่มือเรียวไปสัมผัสโดนมือของเด็กชายซากตึกทับเข้า ทันใดนั้นเอง! โดรนอีกลำที่จอดอยู่ไม่ไกลมากก็สตาร์ทเครื่อง! มันบินขึ้นฟ้าพลางส่องไฟสีเข้มจัดลงมาใส่พวกแพรวทันที! 

.

“ว๊ายยย! อะไรอ่ะ! ยังมีโดรนอีกหรอ? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะอย่ายิงพวกฉัน!”

เจนิสรีบตะโกนบอก เธอยกมือขึ้นสองมือทิ้งอาวุธลงต่อหน้าโดรนอารักขาที่เตรียมจะลั่นกระสุนใส่

.

“ใช่ ๆ พวกเรามาช่วยเธอแท้ ๆ มีกันกี่ลำกันแน่เนี่ยะ นึกว่ามีแต่ลำ sos เมื่อกี้แค่ลำเดียวซะอีก!”

เพื่อนสาวอีกคนพูดสำทับ

.

เดือดร้อนไปถึงเด็กชายที่โผล่ออกมาแค่มือ เขารีบจัดแจงขยับนิ้วดุ๊กดิ๊กของตัวเองทันที พลางเปล่งเสียงขอโทษพวกพี่ ๆ ไม่ขาดปาก ก่อนที่สักพักแหวนบนนิ้วจะเริ่มทยอยเปลี่ยนสี แล้วโดรนอารักขาที่เกรี้ยวกราดก็เปลี่ยนท่าทีเป็นการฉายไฟส่องสว่าง ให้แก่พวกของแพรวแทน

.

“ขอโทษครับพี่.. ผมแก้รหัสคำสั่งใหม่แล้ว ตอนนี้เหลือเจ้านี่เป็นลำสุดท้าย แค๊ก ๆ ๆ , แค๊ก ๆ ๆ”

“พวกพี่คือทางรอดเดียวของผม มากันสี่คนใช่ไหมครับ? คนที่ผู้ใหญ่สุดมีผมสีส้มอมแดงตัวสูง ถัดไปเป็นกลุ่มเด็กม.ปลายสามคนหน้าออกหมวย ๆ หน่อย แค๊ก ๆ ๆ , แค๊ก ๆ ๆ ”

“เราพวกเดียวกันครับพี่.. ผมแอบดูพวกพี่อยู่ตลอดแหละ.. แค่ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาอยู่ในสภาพนี้”

ไอค็อกไอแค็กส่งท้าย ซึ่งหลังจากนั้นหนูน้อยก็ไม่พูดไม่จาอีกเลยเพราะคงเหนื่อยและหนักแผ่นปูนมาก

.

แต่เท่านี้แพรวก็มั่นใจในระดับหนึ่งแล้วว่าเขาไม่น่าจะโกหก การขยับนิ้วของเขาคือการถ่ายทอดคำสั่งมาที่โดรน และการบอกได้ว่าพวกเธอแต่ละคนหน้าตายังไงทั้งที่ถูกกองอิฐสุมหัวจนมิด ก็บอกถึงความจริงใจและให้ใจต่อกันมากพอดู หมดเหตุผลที่จะปฏิเสธแพรวกับน้อง ๆ จึงจัดแจงช่วยเจ้าเด็กคนนี้ออกมาจากกองซากได้ในท้ายที่สุด

.

.

ดินแทบไม่มีให้เหยียบต้นไม้รายล้อมไม่เหลือสักต้น ใต้ฝ่าเท้ามีแต่แผ่นปูนแตก ๆ กับฝุ่นผงตลบอบอวล แล้วก็ไฟส่องสว่างจากโดรนอารักขาที่เหลืออยู่ลำเดียว เด็กชายนั่งอยู่กลางวงล้อมด้วยเสื้อผ้าที่ทั้งฉีกขาดและมอมแมม เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยแผลถลอกที่จงใจ เพราะจะเป็นจะตายยังไงก็ยอมให้มือกับอุปกรณ์สั่งการบนนิ้วเสียหายไม่ได้ ถ้าไม่มีโดรนเด็กอย่างเขาคงไม่มีชีวิตรอดมาถึงตรงนี้

.

นำมาสู่การซักประวัติกันระหว่างแพรวหัวหน้าแคลน กับเด็กชายคนนี้อีกหลายประโยค ซึ่งพอจะสรุปคร่าว ๆ แบบรวบรัดได้ว่าเจ้าหนูนี่มีชื่อว่า  “โบ๊ท” เขาเป็นเด็กประถมที่มีอายุเพียงแค่ 9 ขวบเท่านั้น เป็นหนึ่งในผู้ที่ยังรอดชีวิตจากการติดเชื้อ COVID -19 ในเมืองหลวง และเคยมีแคลนสังกัดมาก่อนแบบเดียวกับพวกของเจนิสนี่แหละ..

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 121 : ผสมเกสร (18+)

    หน้าท้องแบนราบบดนาบเข้าหากัน มิวท์อยู่บนเจนิสอยู่ล่างการสั่นเทิ้มดังกล่าวค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่ใช้ห้ามหั่นจะเอาชีวิตของมิวท์ก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน เธอค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของคนปกติ จุกหัวถันชูชันเกร็งเสียว และแม้แต่กงเล็บที่ยื่นยาวออกมาก็เริ่มหดสั้นกลับลงไป."พี่มิวท์คะ.."เจนิสกระแอมถามทั้งที่ใบหน้ายังคงบี้อยู่กับร่องนมของมิวท์ เธอผินหน้าเอียงเปลี่ยนมุมไปมาพอให้มิวท์ตื่นตัว สลับกับการแลบลิ้นเลียที่ฐานเต้าด้านล่างพลันลากวนโค้งไปตามความอวบอูมของบัวตูมคู่."แผล็บ.. บ.. บ.. บ!"."อ่าาา..า..า..า..า.."รุ่นใหญ่เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทดแทนไอแห่งความเหม็นสาปจากเชื้อโควิด ตามติดมาด้วยผิวพรรณที่กลับมามีน้ำมีนวลเป็นสีชมพูบานสะพรั่งอีกครั้ง นี่คือผิวแบบลูกคุณหนูขนานแท้ มันคงผ่านการทำสปาร์มาจากหลายสถาบัน จึงไร้ซึ่งรอยด่างรอยดำ กระจ่างใสราวกับหลุดออกมาจากกระปุกครีม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โคตรจะน่าฟัด!.ทว่าพอต้องมานอนคร่อมร่างของเด็กมัธยมอยู่แบบนี้ จิตใต้สำนึกของมิวท์ก็ต้องทำหน้าที่ของมันผ่านการปกป้องตัวเอง ทำให้สาวเจ้าต้องตัวกระตุกอีกหน พลั

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 120 : ประกบ! (18+)

    จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 119 : ขืนใจ (18+)

    ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 118 : พี่มิวท์ (18+)

    ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 117 : หลง

    "ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 116 : วีรสตรี

    ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status