Share

บทที่ 73 : โบ๊ท

Author: L.sunanta
last update Last Updated: 2025-09-13 22:21:23

เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่  Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก

.

“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”

เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก

.

สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้

.

“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”

.

“ไปไหนอ่ะพี่?”

.

“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”

.

แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเท่เร่ แฉลบชนทิวแถวตอม่อเป็นระยะ ก่อนจะหักเลี้ยวลงไปยังซากปรักหักพังของตึกแถวข้างทาง และลอยสูงจากพื้นเพียงแค่ระดับหัวเข่าเท่านั้น

.

พวกแพรวเดินตามไปแบบแช่มช้า ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความระมัดระวัง ไม่งั้นคงไม่เตรียมอาวุธติดตัวกันครบมือ ลางสังหรณ์บอกว่านี่ไม่ใช่กับดัก เซนส์ในตัวแพรวแจ้งชัดว่า Riot โดรนลำนี้คงจะกำลังต้องการความช่วยเหลือ และการนำทางอันทุลักทุเลของมันก็คงจะพาพวกเธอไปเจอกับอะไรสักอย่างที่น่าสนใจ ประกายไฟสว่างวูบวาบราวกับผีกระสือ ยุคนี้สมัยนี้ใครจะเชื่อเรื่องพรรณนี้กันแล้วก็คงจะไม่มีอยู่จริง! ถ้ารูหูทั้งแปดรูของคนสี่คนไม่ได้ยินเสียงร้องครวญครางในแบบเดียวกันเข้า!

.

“โอ๊ยยย~!  , โอ๊ยยย~! ,  โอยยย~ , ช่วยด้วย~!”

.

ห่างออกมาจากจุดแคมป์ไฟใต้ทางด่วนประมาณหนึ่ง บริเวณดังกล่าวห่างไกลจากจุดปะทะของพวก AP กับกองกำลังไม่ทราบฝ่ายอยู่พอสมควร แถมยังมืดและเงียบมาก ๆ มีเศษอิฐเศษปูนพังถล่มลงมาขวางทางกลาดเกลื่อนชนิดที่เดินด้วยเท้ายังลำบาก แล้วจู่ ๆ Riot โดรนใกล้เจ๊งก็กระชากตัวเองขึ้นสู่ฟากฟ้าไปด้วยความเร็วสูง!

.

“ฟิ้ววว~~!” 

.

“กรี๊ดดดดด!”

หนึ่งในกลุ่มเด็กหญิงแผดเสียงร้องด้วยความตกใจ คล้ายกันกับแพรวที่รีบผายมือสั่งให้ทุกคนหยุดแล้วเตรียมอาวุธให้พร้อม

.

ทว่าก็ไม่ได้ใช้เพราะโดรนลำดังกล่าวได้ระเบิดตัวเองกลางอากาศ! บางทีนี่อาจจะเป็นพลังงานเฮือกสุดท้ายของมัน เพราะนอกจากเสียงที่ดังพอประมาณแล้ว ชิ้นส่วนต่าง ๆ ก็ยังส่องแสงอำพันออกมาราวกับพลุสนามที่ทหารใช้ในสนามรบ แรงดึงดูดของโลกทำปฏิกิริยากับมวลชิ้นส่วนได้น้อยกว่าปกติ ทำให้กว่าจะตกถึงพื้นต้องใช้เวลานานมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นด้วยการขมวดเกลียวเศษซาก ให้หมุนวนไปด้วยกันทั้งแสงและควัน ก็เลยทำให้เกิดเป็นสัญลักษณ์ตัวอักษร SOS ขึ้นกลางอากาศด้วย

.

“พลุไฟขอความช่วยเหลือหรอพี่แพรว? อย่างกับอินเดียแดงแหนะ?”

เจนิสชี้ให้ดูเธอแหงนคอมองตาม แล้วลดระดับลงเรื่อย ๆ เมื่อใกล้ถึงจุดตก

.

“นั่นล่ะพวก AP เขาล่ะ! สินค้าแต่ละอย่างถ้าไม่นับก๊าซรักษาโรคโควิดจากเลือด LGBT แล้วล่ะก็ อย่างอื่นก็ถือว่าอเนกประสงค์ ไปเถอะพวกเราตามไปดูกันว่ามันลอยไปตกที่ไหน”

.

“ค่ะ , ค่ะ”

เด็ก ๆ ตอบแบบประสานเสียง ความง่วงนอนอ่อนเพลียหายไปหมดสิ้น อะดรีนาลีนหลั่งความอยากรู้อยากเห็นบวกกับเสียงร้องให้ช่วยเมื่อครู่  ทำให้ทุกคนคิดเป็นสิ่งเดียวกัน

.

นำมาสู่ความเวทนาสงสารที่ประจักษ์ขึ้นแก่ดวงตา แสงจากเศษโดรนสิ้นสุดลง ณ กองซากตึกหลังหนึ่ง ร่องรอยยังใหม่เอี่ยมกลิ่นเหม็นไหม้และฝุ่นจากซีเมนต์ยังคละคลุ้ง ย้ำชัดว่าลูกหลงจากการสู้รบนั้นกระเด็นมาไกลถึงตรงนี้ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น! สิ่งที่ทุกคนในแคลนเพ่งความสนใจกลับเป็นปลายนิ้วมือน้อย ๆ ที่กระดิกดุ๊กดิ๊กออกมาจากกองเศษปูนตรงนี้มากกว่า มันขยับได้แคล่วคล่อง บนนิ้วทั้ง 5 ยังใส่แหวนไว้ถึง 5 วงด้วยกัน ซึ่งไม่ใช่วิสัยของคนปกติ แถมแต่ละวงก็เหมือนจะมีวงจรอะไรบางอย่างที่กำลังทำงานอยู่

.

“นั่นใช่พวกคุณไหม~! ช่วยผมหน่อยสิ! เอาผมออกไปจากที่นี่ทีขอร้อง.. โอ๊ยยย~!”

.

เป็นเสียงเล็ก ๆ แบบเด็กผู้ชายที่ลอดออกมา และแค่ฟังทุกคนในแคลนก็รู้แล้วว่าเป็นเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แบบเดียวกับที่ได้ยินมาก่อนหน้านี้ แพรวก็เลยพูดขึ้น

.

“ได้ ๆ เดี๋ยวพวกเราจะหาทางช่วยนะ ทำใจดี ๆ ไว้ก่อนอย่าขยับตัวมาก เดี๋ยวแผ่นปูนด้านบนจะพังลงมาอีก!”

“ไป! พวกเราช่วยกันหาอะไรมางัดแผ่นปูนพวกนี้หน่อยเร็ว!”

.

สั่งงานยังไม่ทันจบประโยคดี เพียงแค่มือเรียวไปสัมผัสโดนมือของเด็กชายซากตึกทับเข้า ทันใดนั้นเอง! โดรนอีกลำที่จอดอยู่ไม่ไกลมากก็สตาร์ทเครื่อง! มันบินขึ้นฟ้าพลางส่องไฟสีเข้มจัดลงมาใส่พวกแพรวทันที! 

.

“ว๊ายยย! อะไรอ่ะ! ยังมีโดรนอีกหรอ? ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะอย่ายิงพวกฉัน!”

เจนิสรีบตะโกนบอก เธอยกมือขึ้นสองมือทิ้งอาวุธลงต่อหน้าโดรนอารักขาที่เตรียมจะลั่นกระสุนใส่

.

“ใช่ ๆ พวกเรามาช่วยเธอแท้ ๆ มีกันกี่ลำกันแน่เนี่ยะ นึกว่ามีแต่ลำ sos เมื่อกี้แค่ลำเดียวซะอีก!”

เพื่อนสาวอีกคนพูดสำทับ

.

เดือดร้อนไปถึงเด็กชายที่โผล่ออกมาแค่มือ เขารีบจัดแจงขยับนิ้วดุ๊กดิ๊กของตัวเองทันที พลางเปล่งเสียงขอโทษพวกพี่ ๆ ไม่ขาดปาก ก่อนที่สักพักแหวนบนนิ้วจะเริ่มทยอยเปลี่ยนสี แล้วโดรนอารักขาที่เกรี้ยวกราดก็เปลี่ยนท่าทีเป็นการฉายไฟส่องสว่าง ให้แก่พวกของแพรวแทน

.

“ขอโทษครับพี่.. ผมแก้รหัสคำสั่งใหม่แล้ว ตอนนี้เหลือเจ้านี่เป็นลำสุดท้าย แค๊ก ๆ ๆ , แค๊ก ๆ ๆ”

“พวกพี่คือทางรอดเดียวของผม มากันสี่คนใช่ไหมครับ? คนที่ผู้ใหญ่สุดมีผมสีส้มอมแดงตัวสูง ถัดไปเป็นกลุ่มเด็กม.ปลายสามคนหน้าออกหมวย ๆ หน่อย แค๊ก ๆ ๆ , แค๊ก ๆ ๆ ”

“เราพวกเดียวกันครับพี่.. ผมแอบดูพวกพี่อยู่ตลอดแหละ.. แค่ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาอยู่ในสภาพนี้”

ไอค็อกไอแค็กส่งท้าย ซึ่งหลังจากนั้นหนูน้อยก็ไม่พูดไม่จาอีกเลยเพราะคงเหนื่อยและหนักแผ่นปูนมาก

.

แต่เท่านี้แพรวก็มั่นใจในระดับหนึ่งแล้วว่าเขาไม่น่าจะโกหก การขยับนิ้วของเขาคือการถ่ายทอดคำสั่งมาที่โดรน และการบอกได้ว่าพวกเธอแต่ละคนหน้าตายังไงทั้งที่ถูกกองอิฐสุมหัวจนมิด ก็บอกถึงความจริงใจและให้ใจต่อกันมากพอดู หมดเหตุผลที่จะปฏิเสธแพรวกับน้อง ๆ จึงจัดแจงช่วยเจ้าเด็กคนนี้ออกมาจากกองซากได้ในท้ายที่สุด

.

.

ดินแทบไม่มีให้เหยียบต้นไม้รายล้อมไม่เหลือสักต้น ใต้ฝ่าเท้ามีแต่แผ่นปูนแตก ๆ กับฝุ่นผงตลบอบอวล แล้วก็ไฟส่องสว่างจากโดรนอารักขาที่เหลืออยู่ลำเดียว เด็กชายนั่งอยู่กลางวงล้อมด้วยเสื้อผ้าที่ทั้งฉีกขาดและมอมแมม เนื้อตัวเขาเต็มไปด้วยแผลถลอกที่จงใจ เพราะจะเป็นจะตายยังไงก็ยอมให้มือกับอุปกรณ์สั่งการบนนิ้วเสียหายไม่ได้ ถ้าไม่มีโดรนเด็กอย่างเขาคงไม่มีชีวิตรอดมาถึงตรงนี้

.

นำมาสู่การซักประวัติกันระหว่างแพรวหัวหน้าแคลน กับเด็กชายคนนี้อีกหลายประโยค ซึ่งพอจะสรุปคร่าว ๆ แบบรวบรัดได้ว่าเจ้าหนูนี่มีชื่อว่า  “โบ๊ท” เขาเป็นเด็กประถมที่มีอายุเพียงแค่ 9 ขวบเท่านั้น เป็นหนึ่งในผู้ที่ยังรอดชีวิตจากการติดเชื้อ COVID -19 ในเมืองหลวง และเคยมีแคลนสังกัดมาก่อนแบบเดียวกับพวกของเจนิสนี่แหละ..

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 73 : โบ๊ท

    เสมือนหนึ่งสิ่งมีชีวิตที่กระเสือกกระสนหาทางรอด ตัวเป็นจักรกลทว่าข้างในคงมีจิตวิญญาณของปลาช่อนที่กำลังจะโดนทุบหัวบรรจุอยู่ Riot โดรนถึงได้แสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดดังที่เห็น เปลวไฟพ่นออกมารอบทิศราวกับลูกข้างที่รวมร่างกับกระบองไฟ มันพ่นขู่คำรามแล้วก็ได้ผล เมื่อกลุ่มเรดี้ทั้ง 4 นางต่างก็ถอยกรูออกห่างไปทุกที พอเจนิสลองสืบเท้าเข้าไปใกล้มันก็พ่นไฟออกมาใส่อีก.“อ๊ายยย! ไม่ได้เลยพี่แพรวไฟร้อนมากค่ะ!”เธอรีบผินหน้ากลับมาบอก.สวนทางกับแพรวที่มีประสบการณ์มากกว่า หลังจับสัญญาณได้จากไฟสถานะบนตัวโดรนที่มีการกระพริบเปลี่ยนจังหวะไป พลางบอกให้น้อง ๆ ตระเตรียมอาวุธขึ้นมือเอาไว้.“ไม่เป็นไรเจนิส.. ไม่ต้องเข้าไปหรอก.. เราแค่ต้องตามเจ้านี่ไปก็พอ”.“ไปไหนอ่ะพี่?”.“เดี๋ยวก็รู้! เจ้าโดรนนี่ไม่มีทางทำแบบนี้ได้ถ้าไม่มีใครบังคับ.. เชื่อฉัน!”.แล้วก็จริงอย่างที่แพรวสันนิษฐาน ผ่านไปราว 3 นาทีกับอีกนิดหน่อยแก๊สในตัวก็หมดลง จากไฟพุ่ง ๆ ตอนนี้แค่ถ่มถุยออกมายังยากลำบาก ไหนจะท่วงท่าการบินที่กระท่อนกระแท่นเต็มทีนั่นอีก เพดานบินเริ่มลดระดับต่ำลง Riot โดรน เริ่มเบี่ยงเส้นทางบินหนีออกไปอีกฝั่งผ่านการร่อนที่เอียงกระเ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 72 : นักบินโดรน

    เหลือเชื่อว่าจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดแทนที่กระสุนปืน เจนิสส่งทุกคนเข้านอนและตอบแทนความไว้ใจจากแพรวด้วยการห่มผ้าให้กับพี่สาว แม้จะรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้คงยากที่จะข่มตาหลับ แต่ชีวิตนั้นก็ต้องก้าวต่อไป แพรวอุตส่าห์นำทุกคนให้รอดมาถึงพื้นที่ใต้ทางด่วนตรงนี้ได้ แล้วมีหรือที่สายแข็งนักนอนเช้าอย่างเจนิสจะไม่ตอบแทนกลับไปบ้าง.เธอค่อย ๆ ย่องห่างออกมาจากจุดพัก สอดส่ายสายตาผ่านทะลุไปตามซอกหลืบต่าง ๆ ที่คิดว่าน่าสงสัย พลันตั้งคำถามกับตัวเองในใจว่าเสียงจิ้งหรีดนั้นมาจากไหน ถ้าเป็นเสียงปืนหรือเสียงคนฆ่ากันตายยังจะเป็นไปได้มากกว่า.“นั่นน่ะสิ! แปลกมากเลย? โควิดมันกินได้แม้กระทั่งผนังปูน แล้วกับสิ่งมีชีวิตเปลือกหุ้มอย่างจิ้งหรีดกลางคืนเนี่ยะนะ ไม่ใช่ล่ะ! เป็นไปไม่ได้!”“ถ้าเราไม่หูแว่วไปเอง เราควรจะตรวจสอบทุกจุดที่น่าสงสัยให้ละเอียดที่สุด”.กระชับหน้ากากครอบแก้วให้ติดแน่น ตัวเลขสถานะก๊าซลดลงเล็กน้อยเพราะความตื่นเต้น ส่วนในมือที่ถืออยู่ก็คือพลองไม้ขนาดยาวที่เป็นเหมือนอาวุธประจำกายของเธอ มันทั้งง่อนแง่นแล้วก็ดูบอบบางจนจินตนาการไม่ออกว่าถ้าเอาไปฟาดหัวใครเข้า Damage จะเข้าสักเท่าไหร่ แต่ครานั้นเจนิสก็

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 71 : ยาม

    ฝุ่นตลบอบอวลควันโขมงโฉงเฉง ต่างคนต่างกรี๊ดกันไม่ออกด้วยเพราะถูกแพรวใช้ฝ่ามือปิดปากเอาไว้ 4 ชีวิตรอดตายแบบเฉียดฉิว รอจนกระทั่งทุกอย่างเริ่มเจือจาง และแสงจันทร์เริ่มจะสาดแสงทุกสายตาถึงเริ่มขยับเขยื้อน แผ่นปูนผืนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านเป็นกำบังให้ ส่วนพวกสาว ๆ เองก็ต่างพยายามจะชะเง้อออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังการถล่มของตึกหลังใหญ่ผ่านพ้น.“เบา ๆ นะระวังด้วย..”แพรวกระซิบเตือน.ความอยากรู้อยากเห็นนี่แหละที่เป็นทั้งคุณและโทษ มันทำให้เกิดความกระตือรือร้นก็จริง แต่ก็ทำให้เกิดช่องโหว่ได้ในคราวเดียวกัน เพราะสิ่งที่ทุกคนเห็นก็คือขบวนรถพยาบาลที่วิ่งเข้ามากันอย่างขวักไขว่ สัญลักษณ์ AP บนตัวถังเด่นหลา มีการขนคนเจ็บรายทางออกมา แถมยังมีบางส่วนที่วิ่งตรงเข้าไปยังจุดปะทะเพื่อไปเอาคนเจ็บที่ตกค้างออกมาจากสมรภูมิ ไฟไซเรนหมุนติ้ววนวกคล้ายกันกับความสับสนแน่นอก ว่าจะเอายังไงต่อไปดี.พิจารณาแล้วคงเป็นไปไม่ได้หากแพรวจะยังดันทุรังทำตามแผนเดิม ถึงจะไม่รู้ว่าพวก AP กำลังสู้อยู่กับอะไร แต่ยังไงซะถ้าเข้าไปในสภาพแบบนี้ก็เท่ากับไปตายเปล่า แคลนของแพรวจะเอาอะไรไปสู้ ลำพังอาวุธที่มีอยู่ในมือก็ทำได้แค่ป้องกันตัวเอง

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 70 : ท้องฟ้าสีดำ

    จะสิ่งใดสิงอยู่ในใจเจนิสก็แล้วแต่ จริตจะก้านของเธอ ไลฟ์สไตล์ รวมไปถึงรสนิยมทางเพศที่เหมือนจะสปาร์คทุกทีที่เจอหญิงที่ใช่ ล้วนเป็นสิ่งที่เธอยังคงปกปิด บางทีอาจจะเป็นเพราะแพรวสนิทกับมิวท์ก็เป็นได้เจนิสถึงยังคงอยู่ เธอไม่เคยบอกใครแม้แต่กลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน ก็เป็นเพียงแค่เพื่อนร่วมชะตากรรมเท่านั้น ไม่ใช่คนที่จะคุยเปิดอกหรือเปิดใจอะไรได้.“เสร็จแล้วจะเอาไงกันต่อดีคะพี่แพรว?”อีกครั้งที่เจนิสเลี่ยงความรู้สึก ในขณะที่แพรวนั้นเห็นเธอเหมือนเป็นตัวเอง แต่หารู้ไม่ว่าเจนิสกลับเห็นแพรวเป็นตัวแทนของมิวท์ไปซะแล้ว.“ก็คงต้องรีบหาที่พักให้ได้ก่อนค่ำ เสียงปืนเมื่อกี้ทำให้เราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้ มันเรียกแขกเกินไป”แพรวตอบเสียงห้วน ต่อด้วยการสอดปืนเข้าไปเก็บด้านหลังสลับกับควักแผนที่อันเดิมออกมา เธอกวัดแกว่งสายตาแคล่วคล่องเช็คพิกัดไปพลาง ส่วนกลุ่มเด็กสาวก็จัดแจงแพ็คเสบียงลงกระเป๋าไปด้วย .จวบจนเวลาผ่านไปราว 10 นาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย ศพลุงกับป้าไม่ได้ถูกเผาพวกเขาไม่ได้ทำพิธีใด ๆ ทางศาสนาให้เลยด้วยซ้ำ แต่กลับเลือกที่จะทิ้งไว้เช่นนั้นเพื่อให้เชื้อโควิดกัดกินไปเอง เศร้าและโคตรน่าสงสาร แต่ก็ต้องเข้าใจว่า

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 69 : ต่อรอง

    “พวกแกมีของอะไรบ้างส่งมาให้หมด! เดี๋ยวนี้! อย่าลีลา!”กดมีดคัตเตอร์จมคอจนเลือดซิบ คอเหี่ยว ๆ ของลุงสั่นสะบั้นไม่มีทางเลยที่คนแก่ แถมยังเป็นตัวประกอบอย่างแกจะสู้แรงคนหนุ่มได้.และก่อนที่พวกเจนิสจะกระดุกกระดิกหรือทำอะไรลงไป ชายในเสื้อฮูดอีกคนที่ถือปืนอยู่ในมือก็ได้ย้ายปลายกระบอกมาจ่อเข้าที่ขมับของลุง เพื่อเพิ่มแรงกดดันให้ถาโถมขึ้นไปอีก เขาตะคอกใส่หน้าไปอีกคำรบ.“แล้วพวกเอ็งมีกันกี่คน?! ยังมีคนอื่นอีกรึเปล่า?!”“ห๊าาา!”“บอกมาสิโว๊ยยย!”.ฝอยน้ำลายฟุ้งกระจาย ทว่าสิ่งที่สกปรกกว่านั้นกลับเป็นการเหนี่ยวขึ้นลำกระสุนเพื่อเตรียมยิง เหลือเพียงออกแรงเหนี่ยวไกหัวของลุงก็คงจะเละเป็นลูกแตงโมไม่ต่างจากป้า.เจนิสกับเพื่อนเลยเลือกที่จะเงียบ เธอพยายามเบี่ยงสายตามองด้านข้าง ก่อนจะพบว่าแพรวเองก็ไม่ได้อยู่ตรงตู้กดก๊าซหยอดเหรียญแล้ว หัวหน้าแคลนหายไปอย่างไร้ร่องรอย แถมยังไม่มีแม้แต่เสียงฝีเท้าสักแอะ พอหันหน้ากลับมามองตรงตามเดิมพลางเพ่งสายตาให้ยืดยาวออกไป จนทะลุผ่านร่างของชายทั้งสองจนลึกสุดทางเดินด้านในได้ เธอก็ได้พบกับบางสิ่งบางอย่างที่เด็กไม่ควรจะเห็นเข้า.คุณพระช่วย! มันคือศพที่แห้งทับถมกันนับสิบ ๆ ศพ

  • Covid-19 มะรุมมะตุ้มรุมรัก (Nc18+)   บทที่ 68 : มินิมาร์ท

    ปาดดวงเนตรก้มลงมองแผนที่ในมือด้วยความฉับไว ระบบประมวลผลจากแกนสมองสอดประสานกับภาพจำในเมมโมรี่ ได้ออกมาเป็นเส้นทางเดินแบบสามมิติที่แพรวนั้นมองเห็นอยู่คนเดียว มันกระพริบวูบวาบเป็นจุดนำทางราวกับระบบค้นหาในวีดีโอเกมแบบโอเพนท์เวิร์ล เพียงแค่นำทุกคนเดินไปตามนั้นความปลอดภัยก็จะบังเกิด.“ข้างหน้ามีร้านมินิมาร์ท ทุกคนตามฉันมา เราจะหาก๊าซเพิ่มกันที่นั่นแล้วก็พักกันสักแป๊บ”แพรวออกคำสั่งไปพลาง แล้วก็เดินนำหน้าทุกคนไปด้วย.ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในมือสาวเจ้า จะมีเพียงไม้หน้าสามที่ฝังตะปูไว้ตรงหัวเป็นอาวุธเท่านั้น นั่นแสดงว่าแพรวค่อนข้างมั่นใจในแผนที่ของตัวเองอยู่พอสมควร เธอไม่กลัวเลยสักนิดว่าจะมีพวก AP ดักอยู่รึเปล่า แล้วก็ไม่กลัวด้วยว่าจะมีคนจากแคลนอื่นซุ่มดูอยู่หรือไม่ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างรวดเร็ว สถิติที่บันทึกไว้บวกกับประสบการณ์ที่เคยปะทะกับกลุ่มต่าง ๆ ตรงนี้มาก่อน ทำให้แพรวค่อนข้างคุ้นชินกับพื้นที่ จนกระทั่งเจนิสต้องขอขัดจังหวะขึ้น.“ช้าหน่อยพี่แพรว! พวกเราตามไม่ทันข้างหลังยิ่งมีแต่คนแก่ ๆ”ที่ต้องบอกเพราะทุกครั้งที่ผินหน้ามองกลับหลัง คนที่รั้งท้ายขบวนดันกลายเป็นลุงกับป้าที่ชรามากแล้ว คนจาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status