Share

DEEP LOVE : 03 (2/2)

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-19 19:29:31

ในที่สุดเขาก็ลากฉันเข้ามาในร้านอาหารจนได้ เขากดไหล่ฉันทั้งสองข้างให้นั่งลงก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งฝั่งตรงข้าม

“เอา…ข้าวต้มปลาหนึ่งครับ” เขาสั่งก่อนจะรับเมนูมาเปิดดูแล้วเงยหน้าขึ้นถามฉัน

“เธออยากกินอะไร”

“...” ฉันเงียบพลางยกมือขึ้นกอดอกหันหน้าหนี ก็บอกว่าไม่หิว ยังจะลากมาอยู่ได้

“งั้นเอาข้าวผัดกุ้ง ไม่ผัก อ้อ..ไม่ใส่กระเทียมด้วยนะ น้ำเปล่าหนึ่ง น้ำส้มหนึ่ง แค่นี้ครับ” เขาฉีกยิ้มหวานให้พนักงานพร้อมพับเมนูส่งให้ แล้วดูสายตา…เขานี่มันเหลือเกินจริงๆ ฉันแอบตกใจนิดหน่อยที่เขากินแบบเดียวกับฉัน เขาคงไม่ได้สั่งมาให้ฉันหรอกมั้ง…เขาจะรู้ได้ไง

แล้วเขาก็ก้มหน้าก้มตาจิ้มมือถือไม่สนใจอะไร ระหว่างนั้นก็ยังคงมีแต่ความเงียบวนอยู่รอบตัวเราสองคน

ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะโดยผู้หญิงคนเดิม

เหอะ…ไม่เห็นฉันอยู่ที่นี้ด้วยเลยมั้ง สายตาจับจ้องไปที่เขาแต่เพียงผู้เดียว จนกระทั่งยกอาหารวางบนโต๊ะจนครบทุกรายการ ขนาดเดินไปแล้วยังเหลียวกลับมามอง อะไรจะขนาดนั้น

“อะ…กินซะ รู้ว่าหิว” เขายกจานข้าวผัดกุ้งมาวางตรงหน้า คิ้วบางขมวดเป็นปม มองหน้าเขาอย่างจับผิด เขารู้ได้ยังไงกันนะ…ว่าฉันกินอะไร ไม่กินอะไร แต่เขาตอบด้วยการยักคิ้วให้ฉันแบบกวนๆ หนึ่งที เหอะ...แต่จะว่าไป ก็หอมเหมือนกันนะ ข้าวผัดกุ้งเนี่ย ฉันหลุบมองเมนูโปรดในจานพลางลอบกลืนน้ำลายไปหลายอึก แต่…ฉันจะไม่ยอมเสียฟอร์มเด็ดขาด

“ไม่ ฉันไม่กิน”

“ทิ้งบ้างเหอะ ทิฐิอะ มันไม่ได้ทำให้เธออิ่มหรอกนะ” มือเรียวยาวเอื้อมมาหยิกแก้มฉันอย่างถือวิสาสะ

“อ๊ะ….อื้ออออ” ฉันปัดมือเข้าออก ลูบแก้มตัวเองปอยๆ ช้ำหมดแล้วมั้ง อย่างเจ็บ หมอนี่กล้าดียังไงมาแตะตัวฉัน อยู่ใกล้เขาเปลืองตัวชะะมัด...

“ลองยิ้มให้คนอื่นซะบ้าง มันไม่ตายหรอก” เขาบอกพร้อมฉีกยิ้มกว้าง ทำท่าทางเหมือนล่อให้เด็กน้อยทำตาม แต่โทษที...ฉันไม่ใช่เด็กอมมือ ใครจะไปยิ้มตามที่่เขาบอก จากนั้นเขาก็ก้มลงกินอาหารของตัวเองด้วยความเอร็ดอร่อย ส่วนฉันยังคงมองกุ้งตัวโตๆในจาน ถ้าไม่กินก็คงต้องทิ้ง เสียดายแย่เลยเนอะ

เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้สนใจ ฉันเลยเลื่อนจานข้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอย่างเบามือ แล้วลองตักข้าวเข้าปากชิมดู…อืม ก็อร่อยอยู่นะ

ฉันตวัดตามองตนตรงหน้าเพราะรู้สึกถึงการโดนจับจ้อง ก่อนที่เขาจะรีบหลุบมองข้าวต้มของตัวเอง โคตรจะไม่เนียน...แต่ก็ช่างเหอะ ถือเสียว่าเป็นการขอบคุณสำหรับข้าวผัดกุ้งอร่อยๆจานนี้ละกัน ก่อนจะหันมาสนใจอาหารตรงหน้าต่อ ความจริงแค่ของอร่อยก็เยียวยาได้ทุกอย่างแล้วนะ คนเราจะต้องการอะไรเยอะแยะไปทำไมกัน

....

“ลลิล”

ฉันเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงเรียกจากผู้มาเยือน ปรากฏร่างหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับฉันที่คลับคล้ายคลับคลา ว่าจะรู้จัก…ขอนึกก่อน

“....”

“ลลินจริงๆด้วย กลับมาเมื่อไหร่เนี่ย ไม่เจอกันนานเลย คิดถึงว่ะ” เธอพูดต่อด้วยท่าทางตื่นเต้น

“เพิ่งมาถึงวันก่อนอะ” ฉันตอบกลับเมื่อนึกออก…ว่าเธอคือเพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนม.ปลาย ที่ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ก็พอได้คุยกันบ้าง แต่อย่าถามชื่อนะ ในห้องฉันจำได้แค่จ๊ะจ๋าคนเดียว ฉันไม่ได้สนิทหรืออยากเป็นเพื่อนกับใครไปทั่ว

“อ๋อ…ได้ข่าวว่าจะแต่งงาน นี่เจ้าบ่าวใช่มะ” เธอถามและจบด้วยการหันไปหาผู้ชายที่ลากฉันมาที่นี่

“ครับ” เขายิ้มแล้วตอบรับทันที

“หู้ยยย เจ้าบ่าวหล่อนะคะเนี่ย” แล้วเธอก็หันไปคุยกับหมอนั่นแบบจริงจัง เหมือนลืมไปเลยว่าเจอฉันก่อนหน้านี้ ฉันเลื่อนจานข้าวออกห่างตัว ก่อนจะหยิบน้ำส้มขึ้นดื่ม ดีนะ…อิ่มพอดี ไม่งั้นคงกินไม่ลงแหงๆ ฉันแอบเบ้ปากใส่พวกเขาด้วยนะ ไม่รู้ดิ…ปั้นหน้ายิ้มไม่เป็น ถ้าไม่ถูกใจ ให้ตายฉันก็ไม่ยิ้มให้หรอก

“ขอบคุณครับ เป็นเพื่อนลลิลเหรอครับ”

“ใช่ค่ะ เพื่อนตอนม.ปลาย” สรุปเธอเข้ามาทักฉันหรือเขากันแน่ คุยซะสนิทเชียว

“บังเอิญจังเลยนะครับ ทานข้าวด้วยกันไหม” นี่ก็อัธยาศัยดีไปไหนก่อน ฉันไม่ชอบนั่งร่วมโต๊ะกับคนไม่สนิทนะ ไม่คิดจะถามความเห็นกันเลยรึไง!!

“เสียดายจัง เพิ่งทานอิ่มพอดีเลย” คำตอบของเพื่อนไม่สนิททำให้มุมปากฉันยกขึ้นนิดหน่อย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นตึงเพราะประโยคของผู้ชายที่นั่งตรงข้าม

“นั่งคุยกันเฉยๆก็ได้นะครับ” เขาบอกเธอแต่ดันทำหน้ายียวนส่งมาให้ฉัน

“ได้เหรอคะ”

“ไม่ได้” ฉันแทรกขึ้นกลางคันจนเธอหน้าเจือน เขาขมวดคิ้วส่งสายตาดุก่อนจะหาข้อแก้ต่างแทน

“อ๋อ ลลิลหมายถึงไม่ได้เจอกันนาน นั่งคุยกันก่อนก็คงจะดีกว่านะครับ”

“คุณนี่น่ารักจังเลยนะคะ” เธอเอ่ยชม ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นบังหน้าและโน้มตัวเล็กน้อยพูดบอกเขาเสียงแผ่วเบา “ฉันพอรู้ค่ะ ว่าเธอเป็นยังไง”

แต่เผอิญฉันหูดีและได้ยินชัดเจนทุกคำ ยัยนี่วอนซะแล้ว...

“นี่!!…” ฉันเผลอตะคอกใส่เธอเสียงลั่น เขาเอื้อมมาจับมือฉันและบีบเบาๆเป็นเชิงปราม ก่อนฉันจะสังเกตรอบข้าง ตอนนี้พวกเรากลายเป็นจุดสนใจไปแล้ว ฉันหยุดไม่พูดต่อและสะบัดมือออกพลางยกขึ้นกอดอกตัวเอง หันมองไปอีกทางอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อไหร่จะไปสักที…ร้านตั้งเยอะแยะทำไมต้องมาเจอคนรู้จักที่ไม่ได้อยากรู้จักด้วยนะ

“เอ่อ เราจัดปาร์ตี้ สละโสดกันดีมะ เพื่อนๆคงอยากเจอแกเหมือนกัน” เธอเสนอความคิดที่ไม่เคยมีอยู่ในหัวฉันเลยสักนิด

“ไม่” ฉันปฏิเสธแต่มีคนตอบรับ เขาพูดขึ้นแทบจะพร้อมกันกับฉัน

“ดีเลยนะครับ”

“ใช่ไหมคะ งั้นเป็นพรุ่งนี้เลยนะ เดี๋ยวฉันนัดเพื่อนให้ เป็นที่ไหนดี…” และเธอก็หันไปหาคนที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรกว่าทันที

“Sosay Pub ดีไหมครับ” เขารีบเสนอ เพราะนั่นมันคงเป็นที่ที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีสินะ วันแรกที่ฉันเจอเขาหลังจากกลับมาไทยก็เป็นที่นี่

“ดีเลยค่ะ ฉันไปที่นั่นบ่อย โอเค ตามนี้นะแก” ประโยคสุดท้ายเธอหันมาบอกฉัน

“หะ..” พูดจบก็หันไปหาผู้ชายทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบจากฉันสักคำ ปล่อยให้ฉันหน้าเหวออยู่กลางอากาศซะงั้น

“ไปด้วยกันได้นะคะ ถ้าสะดวก” ดี…ไปกันเลยจ้า ฉันไม่ไปแน่ๆ

“อ่อ ได้ครับ ยินดีเลย” เขาก้มศีรษะให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะแยกจากกัน สุภาพกับทุกคนยกเว้นฉันสินะ…

….

พอจ่ายเงินเรียบร้อยเราก็พากันเดินกลับมาที่รถ ฉันมองแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าอย่างคิดไม่ตก เขาอยากจะเอาชนะถึงขนาดเอาทั้งชีวิตของตัวเองลงมาเล่นแบบนี้จริงเหรอวะ มันไม่คุ้มสักนิด ไม่ว่าจะคิดกี่ตลบฉันก็ว่ามันไม่คุ้ม...ทำไมเขายังยืนกรานจะแต่งงานกับฉันให้ได้นะ

“ฉันขอถามเธออีกครั้ง” เขาเริ่มประโยคคำถามหลังจากที่เราขึ้นรถและหันมาหาฉันหน้าตาจริงจัง

“อะไร”

“เธออยากแต่งงานกับฉันไหม”

“ไม่ ฉันจะไม่แต่งงานกับคุณ” ฉันตอบแบบไม่ต้องคิดเพราะคำตอบมันผุดขึ้นมาในหัวฉันตลอดเวลาอยู่แล้ว

“ให้คิดอีกที”

“ไม่”

“โอเค เธอเลือกเองนะ”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • DEEP LOVE รักสุดใจ...นายแบดบอย   DEEP LOVE : 35 (2/2)

    “แต่ถ้าถามกูว่าเขาเกี่ยวอะไรกับพ่อคุณหนูลลิล กูไม่รู้นะ เพราะป๊าก็ไม่รู้เหมือนกัน” ดินพูดพลางเหลือบมองฉัน“เรื่องนั้นช่างมันเถอะ” ฉันว่าพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย เมื่อฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าความจริงเราควรจบแค่เรื่องปัจจุบันก็พอ เพราะถึงจะรู้ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี“รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์” ฉันพูดต่อ“อันนี้กูเห็นด้วย” เฮียหมอไวน์ที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้ามเสริมขึ้นและทุกคนก็พยักหน้ารับ เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกันแล้วดินก็ก้มลงไปกดดูอะไรบางอย่างใน Macbook ของตัวเองอีกครั้ง“เออนี่ รูปมัน”ทุกคนพากันลุกมาเป็นไทยมุงโดยอัตโนมัติแบบที่ไม่ต้องได้รับคำเชิญฉันเพ่งมองใบหน้าของคนในรูปที่ดินเปิดขึ้น มันเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ไหนสักที่ ถึงมันจะไม่ได้ชัดมากแต่ก็ระบุตัวตนได้ ถ้าบังเอิญเดินส่วนกัน ที่สำคัญมันใส่หน้ากากปิดหน้าซีกซ้ายตั้งแต่ช่วงหน้าผากลงมาถึงขอบปากก่อนจะเหลือบไปเห็นน้องมิณที่มีอาการแปลกไป เธอก้าวถอยหลังออกห่างไปสักระยะ หลังจากนั้นเธอก็สาวเท้าออกไปจากคอนโดโดยไม่พูดไม่

  • DEEP LOVE รักสุดใจ...นายแบดบอย   DEEP LOVE : 35 (1/2)

    วันต่อมา…10:00 น.ครืดดด...ครืดดดฉันรู้สึกตัวตื่นเพราะการสั่นของสายเรียกเข้าจากใครสักคน ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าสิ่งรบกวนการนอนมาจ่อตรงหน้า หรี่ตาขึ้นเล็กน้อยเฌอณารีน…?ปลายนิ้วเรียวเลื่อนรับสายและเอาแนบหู กรอกเสียงแหบแห้งไปยังปลายสาย“ว่าไงเฌอ”[พี่ลลิล เฮียดินฝากให้โทรตามพี่กับเฮียแม็กซ์มาที่คอนโดเฮียดินค่ะ]“อ๋อ โอเคๆ” แน่นอนว่าฉันตื่นเต็มตาทันทีที่ได้ยินชื่อดิน[ด่วนเลยนะคะ]“อือ พี่จะไปเดี๋ยวนี้”ฉันวางสายและทิ้งมือถือไว้บนเตียง ก่อนจะหันไปเขย่าตัวปลุกคนข้างๆ“เฮียๆ ตื่นเร็ว”“อื้อออ…” คนถูกรบกวนส่งเสียงครางเล็กน้อย นั่นจึงเป็นตอนที่ฉันก้าวลงจากเตียง เพราะคิดว่าเขาน่าจะรู้สึกตัวแล้ว“ดินมีเรื่องด่วน” ฉันพูดขณะสาวเท้าไปยังตู้เสื้อผ้า“ห่ะ…อ้อ” พอได้ยินชื่อดินคนที่สะลึมสะลือก็ดีดตัวขึ้นนั่งราวกับสปริงและโดดลงจากเตียงด้วยความเร็วฉันจัดการธุระส่วนตัวด้วยความเร่

  • DEEP LOVE รักสุดใจ...นายแบดบอย   DEEP LOVE : 34 (2/2)

    ฉันแอบแยกเขี้ยวใส่เขาด้วยนะ แต่มือก็ยังลูบหัวคนบนตักอย่างอ่อนโยน ฉันไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยนะจะบอกให้…เขาเป็นคนแรกและคงเป็นคนเดียวด้วยที่ฉันจะยอมทำให้ทุกอย่างบางทีเขาก็มีมุมที่ดูเป็นเด็ก คล้ายกับตอนที่เขาอ้อนแม่ของตัวเองยังไงยังงั้นเลยพอคิดแบบนี้แล้วก็รู้สึกแปลกๆเขาคงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นแม่เขาอีกคนหรอกใช่ไหมผ่านไปหลายนาที ร่างหนาไม่ไหวติงจนฉันเริ่มสงสัย“เฮีย หลับแล้วเหรอ” ฉันถามเสียงแผ่ว“ยัง” ไม่หลับแต่ทำไมนิ่งขนาดนี้…“เฮียว่า…ทุกอย่างมันกำลังจะจบแล้วใช่ไหม” ฉันเริ่มประเด็นที่ยังค้างคาในใจ บางทีการได้คุยกับเขาอาจทำให้ฉันสบายใจขึ้น เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา“แน่นอน” เขาตอบ ขณะพลิกตัวกลับมานอนหงายและเอ่ยถาม“ทำไม กังวลเหรอ”“ไม่รู้สิ มัน…” ฉันหยุดไว้แค่นั้น พ่นลมหายใจยาวผ่านปลายจมูกเลื่อนสายตาโฟกัสท้องฟ้าสีน้ำเงินเข็มด้านนอกตรงช่องว่างของม่านที่แง้มไว้ไม่กว้างนัก ไม่ใช่ไม่อยากบอกเขา แต่ฉันไม่รู้จะพูดยังไง เพราะเร

  • DEEP LOVE รักสุดใจ...นายแบดบอย   DEEP LOVE : 34 (1/2)

    ดวงตากลมโตยังเบิกกว้างท่ามกลางความมืดสลัวภายในห้อง ทั้งที่ล่วงเลยเวลาเข้านอนมาหลายชั่วโมง ลมหายใจยังคงถูกพ่นทิ้งซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องราวต่างๆ บวกคำถามมากมายที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ วนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุดหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ครอบครัวใหม่ของแม่จะเป็นยังไงท่านจะอยู่ได้ไหม ไม่มีใครรู้เลยว่าแม่รักสามีใหม่ของตัวเองมากแค่ไหน ความสูญเสียกำลังจะเกิดขึ้นกับท่านอีกแล้ว แถมยังมีเด็กไร้เดียงสาคนนั้นอีก จากที่เธอจะได้มีครอบครัวสมบูรณ์ก็คงพังทลายตั้งแต่ยังไม่รู้ความ เธอต้องเติบโตมาโดยไม่มีพ่อไหนจะธุรกิจหนักอึ้งที่ต้องแบบรับความเป็นจริงฉันควรวางใจ โล่งใจ ที่หัวหน้ามาเฟียใหญ่ตอบรับที่จะยื่นมือเข้ามาช่วยสะสางเรื่องที่มนุษย์ตัวเล็กๆ อย่างฉันหรือเฮียแม็กซ์ไม่อาจจัดการได้ ต่อจากนี้เรืองขจรจะได้อยู่แบบสงบสุขจริงๆสักที แต่ไม่เลย...ฉันยังรู้สึกกังวลใบหน้าหวานสะบัดไปมาเล็กน้อยเพื่อไล่ความคิดที่ยังไม่เกิดขึ้นออกจากหัวก่อนจะใช้มือเล็กค่อยๆ ยันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอย่างเชื่องช้าและระแวดระวังสุดชีวิตฉันหยุดนิ่งชั่วขณะ ในตอนที่รับรู้ได้ถึงแรงยุบของฟูกจาก

  • DEEP LOVE รักสุดใจ...นายแบดบอย   DEEP LOVE : 33 (2/2)

    “คุณรู้จริงๆ ด้วย” ฉันเผลอพูดออกมาด้วยความตกใจ ไม่ต้องถามย้ำว่าพิมพ์เล็กหรือพิมใหญ่ ไม่ต้องถามว่า ไฟว์ ที่ว่านั่น ตัวเลขหรือตัวอักษร ถ้าเป็นคนปกติที่ไม่รู้คงตอบว่า พีอีดีห้า เพราะรหัสมันคือตัวเลข แต่ตอบเป๊ะขนาดนี้ ไม่ได้เกิดจากความคาดเดาแน่ๆ อีกอย่างท่านตอบได้ในทันทีโดยไม่การคิดไตร่ตรอง แสดงว่าท่านมีคำตอบในใจอยู่แล้ว“ฉันจะบอกอะไรให้นะสาวน้อย รหัสนี้ไม่ใช่รหัสที่พ่อเธอตั้งขึ้นมาหรอก แต่คนบอกรหัสมันคือเจ้าของล็อกเกตนี้ต่างหาก” ท่านพูดขณะยกมือดันแผงอกเฮียแม็กซ์ให้ถอยออกห่างจากฉัน ก่อนจะออกคำสั่งเสียงเข้ม“เอามาให้ฉัน”“ยะ…ยังมีอีกเรื่องค่ะ” ฉันว่า“อะไรอีก” น้ำเสียงท่านเริ่มหงุดหงิดอีกครั้ง“ฉันจะไม่สนใจว่าฉันต้องตายเพราะเหตุผลอะไร แต่ฉันอยากให้คุณช่วยพวกเราได้ไหมคะ”เสียงแค้นหัวเราะในลำคอดังขึ้นทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบประโยค“คิดว่าฉันเป็นนักบวชรึไง”“เอาการ์ดมาให้ฉัน เดี๋ยวนี้!!” ท่านออกคำสั่งซ้ำ“ป๊า” ดิ

  • DEEP LOVE รักสุดใจ...นายแบดบอย   DEEP LOVE : 33 (1/2)

    “เธอเอามาจากไหน”หัวหน้ามาเฟียใหญ่เอ่ยถามเสียงแข็ง ขณะเอื้อมคว้าล็อกเกตในมือไปด้วยความไว จนฉันตั้งตัวไม่ติด อยากจะกำไว้แต่ไม่ทัน เพราะในฝ่ามือตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า และก็ไม่แปลกใจด้วยที่ไม่มีใครกล้าห้ามหรือขัดขว้าง บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัดในชั่วพริบตา นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกำลังเผชิญหน้าอยู่กับผู้มีอิทธิพลของจริง ไม่ใช่พวกมาต๊อกต๋อยแบบปลิงที่เกาะตัวแม่ฉันไม่ยอมปล่อยนั่นมันต่างกันลิบลับ รังสีทรงพลังแผ่กระจายทั่วร่าง ดวงตาทอประกายโหดเหี้ยมจนน่ากลัว ฝ่ามือค่อยบีบล็อกเกตแน่นขึ้น…แน่นขึ้น ราวกับท่านอยากให้มันแหลกสลายคามือทุกอย่างตรงหน้าส่งผลให้ฉันเผลอกลืนคำตอบที่เตรียมไว้กลับลงไปในลำคออีกครั้ง ฉันคิดว่าเขาคงไม่ต้องการฟังแล้ว…แต่“ฉันถามว่า ไปเอามาจากไหน!!!” ท่านตวาดด้วยเสียงดังกังวานจนเกิดการสะท้อนกลับฉันสะดุ้งโหย่ง ทำอะไรไม่ถูก เสียงนั่นทำให้ฉันคิดว่าสามารถผลักวิญญาณใครสักคนหลุดจากร่างได้เลยแหละ ท่านน่ากลัวมากจริงๆ แต่น่าแปลกที่ทั้งโรงพยาบาลตอนนี้เหมือนมีแค่เรา ไม่มีใครได้ยินอะไรเลยรึไงนะไม่นานร่างกายฉันก็ถูกดึงหลบไปอยู่ด้านหลัง เฮียแม็กซ์เ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status