วันต่อมา...
“ทำไมกลับกันเร็ว อย่าบอกนะว่า...” “ไม่มีไรทำ” เฮียแม็คตอบกลับพี่เฟรย์ที่ดูตกใจ พอเราทุกคนมารวมกันที่คอนโดเฮียเชน แทนที่จะเป็น Dark Shadow Castle ประเทศไทย ปราสาทขนาดย่อมที่รวบรวมความสะดวกสบายต่างๆเอาไว้ ซึ่งฝั่งหนึ่งของปราสาทนั้นเป็นที่อยู่ของรักษาการผู้มีอภิสิทธิ์เหนือใคร “แล้วไม่ได้ดำน้ำ?” พี่เฟรย์ยังคงถามเซ้าซี้ ส่วนฉันแค่มองเธอนิ่งๆ เพราะเฮียแม็คทำหน้าที่ตอบไปเรียบร้อยแล้ว “ยังกล้าถามอีก” “อะไร นี่งอนเหรอเนี่ย มาๆหันมาจะง้อ โอ๋ๆ” “ไม่ใช่เด็กแล้วมั้ย” ฉันมองทั้งสองคนคุยกันกระหนุงกระหนิงแล้วได้แต่ข่มใจหันมองผ่านไป เฮียเชนก็เดินยกน้ำยกขนมเข้ามาแซวสองคนนั้นขำๆ “ไม่ใช่เด็กแต่รักตั้งแต่เด็กไม่ใช่เหรอวะ?” “.......” คำพูดธรรมดาแต่เจ็บเหมือนมีดคมๆสิบเล่มพุ่งแทงใจฉันพร้อมกัน เฮียแม็คพอได้ฟังเขาก็ผลักหัวพี่เฟรย์เหมือนหมันไส้เต็มที พี่เฟรย์ก็ทำหน้าล้อเลียน ชูนิ้วก้อยมายื่นตรงหน้า เหมือนตอนที่ฉันเคยขอให้เขาสัญญาไม่มีผิด “นะ...ดีกัน มาเร็วเจ้าหนู” เฮียแม็คเห็นแค่นั้นเขาก็หลุดขำทันที ก่อนจะใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ ทำมือเป็นคืบเล็กๆล้อเลียน “หึ...ชูเก่งตั้งแต่นิ้วก้อยยังสั้นแค่นี้” พูดจบนิ้วก้อยของเฮียแม็คก็เลื่อนไปเกี่ยวกับพี่เฟรย์ ก่อนจะกุมมือนั้นเอาไว้แบบไม่มีทีท่าจะปล่อยสักที หึ...รักมาตั้งแต่เด็กงั้นเหรอ? นี่ฉันควรดีใจหรือเสียใจ? ฟา...คือฟาร์ดาเหรอ? ตลกร้ายจริงๆ “เอ้อ อันนี้ของเดียนะ เวียนนิสช็อคโกแลตเค้ก” ถัดจากการง้อเฮียแม็คที่มือพวกเขายังจับกัน พี่เฟรย์ก็สลับจานเค้กที่เฮียเชนยกมาและวางผิดตำแหน่งมาตรงหน้าฉัน “เห็นเดียชอบลองเมนูใหม่ๆ พอดีที่ร้านเพิ่งมี...” “ที่จริงไม่ชอบเวียนนิสเค้กเท่าไหร่” ฉันชิงตัดบทและสลับจานเค้กไปให้เฮียเชนแทน ก่อนจะหันไปพูดกับเขา “เฮียเปลี่ยนกับเดียได้มั้ย?” เฮียเชนก็หันมองหน้าพี่เฟรย์อย่างรู้กัน สุดท้ายเขาก็พยักหน้ากลับมา “ได้ แล้วเย็นนี้อยากกินไรมั้ย เฮียตามใจเดียเลย โทษฐานที่เฮียไม่ได้ไป” “เดียขอผ่านละกัน นั่งรถเหนื่อย” ฉันบอกปัดแบบขอไปที แต่พี่เฟรย์ก็ยังมาเซ้าซี้ “งั้นกินเร็วหน่อยแล้วก็แยกย้ายดิ” “ขอผ่านคือไม่กิน” โทนเสียงฉันเริ่มแข็งขึ้นจนเฮียเชนเอื้อมมือมาจับมือฉัน และส่งสายตาประนีประนอมมาแบบสุดฤทธิ์ “คงเหนื่อยจริงๆ” เฮียแม็คเห็นท่าทางทุกคน เขาก็พูดขึ้นมา แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีบทสนทนาของใครมาวุ่นวายกับฉันอีกไม่กี่วันต่อมา...
@ Airport “เดินทางปลอดภัย ถึงแล้วไลน์บอกเฮียนะ” น้ำเสียงอบอุ่นถูกส่งมา พร้อมกันกับฝ่ามือของเฮียเชนที่ลูบผมฉันเบาๆอย่างอ่อนโยน ส่วนข้างๆน่ะ... “ฝากน้องด้วย” “รู้แล้วน่า” “ไว้จะไปหา” “มาเร็วๆเหอะว่ะ” “เอาน่า ไม่นานหรอก” เฮ่อ.... พรึ่บ! เสียงน่ารำคาญพวกนั้นทำให้ฉันโผเข้ากอดเฮียเชนเอาดื้อๆเลยเนี่ยแหละ ว่าจะไม่คิดอะไร แต่ทำไมรู้สึกจุกๆข้างในจังแฮะ “ไว้เจอกันนะเฮีย” ฉันพูดเสียงอู้อี้ออกไป เฮียเชนก็พยักหน้าแล้วเอามือยีผมกันเป็นเด็กๆ “อื้ม แค่คิดว่าต้องไปก็คิดถึงแล้วเนี่ย” แขนแกร่งกระชับอ้อมกอดและพูดกับฉัน สิ่งที่พอจะเรียกรอยยิ้มบางๆได้บ้าง ก็คงเป็นอ้อมกอดนี้ที่ยังอบอุ่นไม่ว่าเมื่อไหร่ ไม่ว่าที่ไหน ถ้ามันไม่มีเรื่องอื่นๆ ไม่มีความสัมพันธ์ที่ฉันคาดหวังว่าอยากจะใกล้เฮียแม็คมากขึ้นเข้ามา เฮียเชนคงเป็นพี่ชายที่ฉันรักและเคารพมากๆ เชื่อเถอะว่าตอนนี้ฉันกำลังหาวิธีรักษาเขาเอาไว้ เพราะก็ไม่อยากให้เฮียเชนต้องบอบช้ำกับความรู้สึกที่ฉันมีต่อใคร “โห อิจฉาเดียเลยอ่ะ” เสียงพี่เฟรย์พูดแซวขึ้นมา และพอหันไปเฮียแม็คเองก็กำลังมองมาที่เรา แล้วสายตาที่ไม่รู้สึกอะไรแบบนั้น ก็ยังมีอานุภาพให้ฉันผละออกจากอ้อมกอดเฮียเชนได้ “เออเดีย อ่ะ” พอเราผละออกจากกัน เฮียเชนก็ล้วงกระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตและยื่นลูกอมเป็นกำมือมาให้ฉัน “เดี๋ยวเฮีย เยอะไปมั้ยเนี่ย เดียจะฟันผุเอา” “มันจะสักเท่าไหร่กันเชียว แค่ค่าทำฟัน” เฮียเชนพูดมาขำๆ แล้วยังคงลูบหัวฉันด้วยท่าทางอบอุ่นเหมือนเดิมอยู่หลายครั้ง “แหวะ รวยมาก กูเกลียดความมั่น” “อืม ก็ว่างั้น” พรึ่บ! พี่เฟรย์พูดนำ เฮียแม็คพูดตาม แล้วอยู่ๆเฮียแม็คก็คว้าลูกอมในมือเฮียเชนไปเพียบ แถมยังแกะมันกินต่อหน้าต่อตาเขาซะอย่างนั้น “อ้าวไอ้แม็ค!” “ขอแค่เม็ดสองเม็ดทำเป็นเสียงดัง” หึ...ถึงจะแอบเซ็งที่พวกเขากุ๊กกิ๊กกัน แต่ท่าทางเฮียแม็คที่ทำเป็นลอยหน้าลอยตาแกล้งเฮียเชนก็ทำฉันหลุดขำ “เม็ดสองเม็ดของมึงคือครึ่งกำเหรอวะ -_-” “พูดมาก มึงมีเยอะ เป๋าตุงขนาดนั้น” เฮียแม็คตอบเฮียเชนพร้อมกับมองไปที่กระเป๋าเสื้อแจ๊คเก็ตของเขา ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากๆที่มันจะตุง เพราะฉันเคยบอกเฮียเชนว่าเวลาเดินทางถ้ามีลูกอมเยอะๆ มันอมเพลินดี นี่คงเป็นเหตุผลที่เขาขนมันมาให้ “รู้มากนะมึงเนี่ย อ่ะเดีย” เฮียเชนบ่นๆแล้วควักลูกอมจากกระเป๋าเสื้อมาอีกกำมือนึง เฮียแม็คทำท่าจะคว้าอีก เขานี่เอียงตัวหลบพัลวัน “มึงเอาไปแล้วไอ้ห่า!” “น้องมันไม่มีกระเป๋า” เฮียแม็คพูดและแว๊บหนึ่งเขาก็หันมามองฉัน ก็นะ... “เดียเอาเม็ดเดียวละกันเฮีย ที่เหลือฝากเฮียแม็คไปก็ได้” ฉันเอื้อมมือไปรับลูกอมจากมือเฮียเชนมาทั้งหมด และหยิบมันมาแค่เม็ดเดียว ก่อนจะส่งที่เหลือทั้งกำไปให้เฮียแม็ค เขาก็ยักคิ้วสะใจให้เฮียเชนเป็นเด็กๆ “เดี๋ยวมันก็แย่งกินหมด” “ขี้หวงจังวะ” พี่เฟรย์พูดมา เฮียเชนก็ยังดุๆเฮียแม็คก่อนจะดึงฉันเข้าไปโอบอีก “เอาไปแล้วให้ตกถึงท้องแฟนกูมั่ง” “ชั่วโมงละเม็ดละกัน” “อ้าวไอ้เวรนี่!” “พอแล้ว” พอสองคนตั้งท่าจะเถียงกัน ฉันเลยห้ามทัพแล้วมองจากนาฬิกาข้อมือเฮียแม็คนี่ก็ได้เวลาพอดี ไม่นานเราก็มาอยู่บนเครื่อง ฉันได้นั่งข้างเขาบนที่นั่งเฟิร์สคลาสเลยล่ะ ถึงแม้พอขึ้นมาเฮียแม็คจะชิงหลับก่อนเลยอ่ะนะ ว่าจะขอลูกอมอีกเม็ดแต่ไม่กวนดีกว่า พรึ่บ! แล้วอย่างกับเฮียแม็คได้ยินสิ่งที่ฉันคิดเลยแฮะ เขายื่นลูกอมเม็ดหนึ่งข้ามฉากกั้นระหว่างที่นั่งมาให้ ทั้งที่ยังหลับตาต่อได้ “ทำไมเฮียรู้ล่ะ” “ก็จ้องกันเกิน 30 วิ ต้องมีเรื่องไรแน่ๆ” “เก่งจังเลยเนาะ หลับตาก็รู้ แล้วจะให้กันทีละเม็ดจริงเหรอเนี่ย??” ฉันรับลูกอมจากเฮียแม็คมา แล้วมันก็อดเทียบกันไม่ได้จริงๆเลยนะ ลูกอมจากเฮียเชนในมือข้างนึง กับลูกอมจากเฮียแม็คในมืออีกข้างน่ะ “อืม เดี๋ยวฟันผุ” “ไม่ใช่จะเก็บไว้กินเองหรอกเหรอ??” ฉันยังชวนเฮียคุยทั้งที่เขานั่งหลับตา เพราะในชั้นเฟิร์สคลาสมันเหงามาก มีแค่ฉันกับเขาสองคนเองอ่ะ “อย่าเสียงดังไปเดี๋ยวไอ้เชนมันรู้” “เดียจะฟ้องเฮียเชนแน่นอน” “อย่าฟ้องฟาร์ดาก็พอเดี๋ยวงอน ยิ่งง้อยากอยู่” “.......” พอได้ฟังสิ่งที่เขาพูดมา ฉันก็เลือกจะเงียบและไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่จ้องมองเฮียแม็คที่ไม่รู้ตัวสักที ว่าทุกครั้งที่พูดชื่อนี้คือเขากำลังทำร้ายจิตใจกันอยู่ “...สามโมง” “หื้ม?” แล้วพอฉันเงียบ เฮียแม็คก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมา ก่อนจะย้ำมันอีกครั้งเพราะฉันไม่เข้าใจ “สามโมงห้องซ้อม #2” “วันนี้?” “ก็มาแค่สองสามวันเองนี่” “แต่เดียยังไม่พร้อมเลย” ให้ตายเถอะ คิดว่าเฮียแม็คจะลืมไปแล้ว ไอ้สิ่งที่เขาเคยพูดเอาไว้ว่าจะสอนฉันฝึกสกิลอะไรพวกนั้น และต่อให้ปฏิเสธยังไง คนอย่างเฮียแม็คถ้าเขาตั้งใจจะทำอะไรแล้ว... “ไม่สน บอกแล้วถือว่ารับรู้” “เฮียแม็คเอาแต่ใจ!” มันดูเหมือนฉันงี่เง่าที่พูดแบบนี้ออกไป แต่นั่นก็เพราะไม่อยากจะเหมือนไงเล่า ฉันไม่อยากจะเหมือนรักษาการคนเก่งของเขา! แค่หน้าตาที่คล้ายมากๆ ยิ่งเวลาที่ผมสีเดียวกัน บางคนแยกเราไม่ออกด้วยซ้ำ ฉันถึงต้องเปลี่ยนสีผม และไม่ยุ่งกับการฝึกใดๆ เราสองคนมันต้องมีความแตกต่างบ้าง ฉันสูญเสียอะไรหลายอย่างไปเพราะความคล้าย และหนึ่งในนั้นก็คือเฮียแม็คไง! “โดนตามใจซะเคยมากกว่าล่ะมั้ง” “ไม่มีใครตามใจอย่างที่คิดหรอกน่า” เฮียแม็คพูดมาเหมือนตั้งท่าจะดุกัน ยิ่งสายตาที่เขาลืมตาขึ้นมาเหมือนตั้งใจตำหนินั่นด้วย... “อย่างน้อยก็ท่านเซนจิกับไอ้เฮย์โซ ไหนจะคนอื่นๆ เขาเรียกคุณหนูฟาเดียกันทั้งสังกัด” “ไม่ใช่สักหน่อย เฮียนี่ไงที่ไม่ได้เรียก” ฉันย้อนไป แล้วเฮียแม็คก็ดูจะไม่ชอบใจเท่าไหร่เลยนะเนี่ย เหมือนเขาจะหาเรื่องกันยังไงอย่างงั้น “ก็ไม่อยากให้เคยชิน ว่าอยากได้อะไรต้องได้ เช่นไม่อยากฝึกก็ไม่ต้องฝึก” “เรื่องฝึกมัน...” “เป็นเรื่องที่ควรต้องทำ” เฮียแม็คสวนมา ฉันก็สวนกลับแบบเริ่มหงุดหงิดแล้วเหมือนกัน “แต่เดียไม่ใช่ Dark Shadow!” “ถ้าฝึกก็ใช่เลย แต่เราไม่ทำ” แล้วทำไมเขาถึงต้องอยากให้ฉันเป็นนัก ไอ้ Dark Shadow Member อะไรนั่น! แต่พอฉันจะอ้าปากเถียงอีก เฮียแม็คก็... “สังกัดสภากฎ เป็นสังกัดที่ใครๆก็อยากอยู่ เพราะเราควบคุมความถูกต้องของทุกคนในนั้น” “แล้วไงต่อ” ฉันทำหูทวนลม แต่ที่จริงก็ฟังอยู่นั่นแหละ เฮียแม็คถึงจะดุ แต่ก็ดูเหมือนเขากำลังสอนกัน “คิดดูดีๆ แม้แต่ท่านผู้นำยังต้องเคารพกฎ แล้วตามลำดับความสัมพันธ์ เราเป็นถึงลูกบุญธรรมท่านเซนจิ ถ้าฝึกจนได้การยอมรับอย่างไอ้เฮย์โซ ตำแหน่งเมมเบอร์ระดับสูงก็ไม่ได้ยากมากมายขนาดนั้น” “แต่...” “แค่ต้องเลิกหาข้ออ้าง เลิกเอาแต่ใจ เลิกคิดว่าตัวเองจะทำอะไรก็ได้ อยากได้อะไรก็ต้องได้ทุกอย่าง” “นี่เฮียว่าเดียอยู่ รู้ตัวมั้ยอ่ะ?!” ยิ่งฟังคำพูดเฮียแม็คที่ไม่เข้าใจอะไรเลยแต่มาตัดสินกันแบบนี้ ก็ทำฉันมีน้ำโหขึ้นมาเหมือนกัน นี่ในสายตาเขา ฉันดูงี่เง่าขนาดนั้นเลยสินะ “รู้ ก็เพราะมันไม่มีใครกล้า แม้แต่ไอ้เชน หรือฟาร์ดา” “เกี่ยวไรกับ...” “นั่นพี่นะ บางทีคำพูดคำจา ท่าทางของเรามันไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ รู้ตัวรึเปล่า?” คำถามยอกย้อนถูกส่งมา พร้อมกับท่าทีที่ต้องการปกป้องพี่เฟรย์จากการกระทำต่างๆของฉัน สรุปคือไม่ได้เกี่ยวกับการฝึกร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เกี่ยวกับสิ่งที่ฉันแสดงออกกับพี่เฟรย์ว่างั้น? นั่นทำให้ฉันฟึดฟัดเอาที่กั้นลงแล้วจ้องหน้าเฮียแม็คไปตรงๆแบบไม่คิดหลบตา “เกินไปแล้วเฮียแม็ค!” “อยากตะคอกก็ตามใจ ที่นี่ไม่มีไอ้เชน ไม่มีใครเบรคหรอก สบายใจได้” เฮียแม็คที่ท่าทางสุขุมจ้องกลับมา แต่ก็ไม่ได้ดุขนาดนั้นหรอก เขาแค่กำลังเตือนกัน ในฐานะคนที่อยากปกป้องคนรักของตัวเองล่ะมั้ง! เหอะ! คงจะอยากดุฉันเต็มที่ แต่กลัวพี่เฟรย์จะว่า เลยมาดุที่นี่! ทำลายบรรยากาศดีๆได้อีก :( “เฮียเข้าใจผิดละ ใครว่าได้ทุกอย่าง เดียยังมีสิ่งที่เดียอยากได้ แต่คนอื่นได้ไปตั้งหลายอย่าง!” ฉันเริ่มขมวดคิ้วและคงจะดูไม่น่ารักสำหรับเขาเลยสักนิด เพราะเฮียแม็คถึงกับถอนหายใจเซ็งๆใส่ “คนเราจะครอบครองทุกอย่างได้ยังไง?” “ได้สิ! แล้วถ้ามีสิ่งที่เฮียมีสิทธิ์จะได้ แต่คนอื่นมาเอาไป เฮียจะทำยังไงล่ะ?!” ใช่...ฉันหมายถึงเขานั่นแหละ! นี่แหละที่ฉันอยากได้ อย่างอื่นจะเป็นยังไงก็ช่าง Dark Shadow น่ะ...ฉันไม่ได้อยากเป็นมันสักหน่อย ฉันยอมมาที่นี่ มาอยู่ท่ามกลางแก๊งค์มาเฟียแบบนี้ ก็เพราะตามเขามาทั้งนั้น! “...มีสิทธิ์จะได้?” เฮียแม็คทวนคำพูดของฉัน แล้วเขาก็หยุดคิดนิดนึง ส่วนความรู้สึกฉันตอนนี้น่ะเหรอ “ใช่! มีสิทธิ์! แล้วคนอื่นมาแย่งไป!” ฉันเริ่มหน้ามุ่ยคาดคั้นเอาคำตอบ เฮียแม็คก็ไม่ได้คิดนาน เขาพูดสวนมาทันที ซึ่งนั่นมันก็เป็นคำตอบที่ฉันชื่นชอบ “ก็ไปเอาคืน” “นี่ไง! เป็นใครก็ต้องทำแบบนั้น แล้วถ้าสิ่งนั้นไม่รับรู้ถึงความเป็นเจ้าของของเฮียล่ะ แต่เฮียมีสิทธิ์ที่จะครอบครอง เฮียจะทำยังไง? ปล่อยไปเหรอ? ปล่อยไปทั้งที่มีสิทธิ์? จะยินดี จะทำดีกับคนที่ได้ไป ใจดีไปมั้ย?!” เอาสิ...ทีนี้เฮียจะตอบยังไง อยากจะมองว่าฉันมันเอาแต่ใจมากนักก็เชิญเลย แต่ช่วยไกด์มาหน่อยว่าฉันต้องทำยังไงกับเขา! เวลาที่เห็นเขาปกป้องใครอีกคน แล้วหาว่าฉันไปก้าวร้าวทำตัวไม่น่ารัก มันน่าหงุดหงิดรู้รึเปล่า :( “ก็ต้องดูว่าเป็นคน สัตว์ หรือสิ่งของ แต่ถ้าบอกว่าไม่รับรู้ แปลว่ามีความรู้สึก เป็นคน...” “เปล่า! แค่สิ่งของ” ฉันตัดบทแล้วเลือกจะเอาที่กั้นขึ้นอีกครั้ง ปล่อยให้เขานั่งงงอยู่แบบนั้นจนตั้งคำถามมาเอง “แล้วเป็นของสำคัญแค่ไหน?” “จะอยากรู้ทำไม ก็แค่แหวนวงหนึ่ง...” ฉันเปรียบเปรยออกไปแบบประชดประชัน ทั้งที่อยากบอกใจจะขาดว่าเป็นคนให้แหวน! พอได้ฟังเฮียแม็คก็เงียบไปสักพัก แล้วสิ่งที่เขาพูดมาต่อจากนั้นนั่นแหละ ที่ทำให้ฉันน้อยใจเขามากขึ้นซ้ำๆ “แหวน? นี่ไม่เข้าใจจริงๆสินะ ถึงเอาเรื่องผู้หญิงกับการช้อปปิ้งมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่เฮียสอนเราตอนนี้” “.......” หึ...นี่เขามองว่าแหวนที่ว่า เป็นแค่แหวนที่คนอื่นแย่งฉันซื้อไปจากการช้อปปิ้งเนี่ยนะ? นี่เขามองว่าฉันมันไร้เหตุผล ที่เพิกเฉยเย็นชากับคนรักของเขา มองว่ามันไม่น่ารัก มองว่าฉันมันงี่เง่า มองแค่นั้นเองสินะ... “อืม...เดียเองแหละที่เอาแต่ใจ เดียเอง...ที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลยจริงๆ” ฉันตอบกลับไปเสียงเรียบ และยุติการสนทนาทันที เกลียด...เกลียดตัวเองที่น้ำตามันคลอง่ายแบบนี้ การวิ่งไล่ตามคนที่อยู่นิ่งๆนี่มัน...ยิ่งวิ่งยิ่งห่าง...ยิ่งวิ่งยิ่งเหนื่อยจังวันต่อมา“ไม่ค่อยเห่อกันเลยนะครับ”คิระแกล้งแซวอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงที่ถึงแม้จะผ่านไปหลายปีก็ยังดูแข็งแรงอยู่ แถมวันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงเมมเบอร์นับร้อยก็แต่งตัวสวยหล่อเป็นพิเศษ บรรยากาศโดยรอบของหอประชุมที่ถูกรีโนเวทใหม่ดูเป็นทางการและไม่มีที่นั่งส่วนไหนแบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายอย่างเดิมเตโช โมเน่ต์ คิระ ลิซ่า เลโอ และเฟรย่า นั่งประจำในที่ของตัวเองโดยมีอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงนั่งตรงกลาง ราวกับเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานถัดจากทั้ง 6 คนมีตำแหน่งที่ว่างอยู่ทั้ง 2 ที่ ซึ่งอยู่ในระนาบเดียวกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือลำดับความสำคัญกำลังรอการกลับมาของมาโครและฟาเดีย มีเพียงพื้นที่ที่ถูกจัดให้ระดับความสูงไม่มากเกินไปอย่างด้านซ้ายมือของเหล่าพ่อแม่ที่ถือครองตำแหน่งต่างๆเท่านั้น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กๆทั้ง 5 คนเรียงตามลำดับ ประกอบไปด้วยไคโร – ลูกชายของคิระกับลิซ่าโซลาร์ – ลูกสาวของเตโชกับโมเน่ต์มาร์คัส – ลูกชายของมาโครกับฟาเดียริคกิ – ลูกชายของเฟรย่ากับเลโอ และลิมา – ลูกสาวของคิระกับลิซ่าซึ่งตอนนี้ เด็กๆที่สนิทกันอย่างรวดเร็วต่างก็กำลังแย่งกันพูดคุยกับมาร์คัสที่ชะเง้อหน้
@ เซฟต์เฮ้าส์อดีตผู้นำ“เดีย!”เฟรย่าที่ได้สติและถูกนำตัวกลับมารักษาลุกพรวดด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นน้องเดินเข้ามาส่วนฟาเดีย เธอนิ่งเงียบและดูเฉยชา แม้แต่หน้าเฟรย่าตอนนี้ยังมองไม่ชัด ม่านน้ำตาของเธอบดบังทุกสิ่งจนถ้าไม่ได้มาโครเดินจูงมือเข้ามา เธอก็มองไม่เห็นทางด้วยซ้ำ“ร้องไห้ทำไม เจ็บตรงไหนบอกพี่ หมอ!”เสียงเฟรย่าตะโกนดังลั่น มาโคร เตโช คิระ รวมถึงเลโอที่แยกตัวออกไปช่วยดูเลล่าให้ก็ไม่มีใครปริปาก จนกระทั่งอดีตผู้นำ ท่านผู้หญิง โมเน่ต์ และลิซ่าเดินเข้ามา“ขอหนูไปอยู่ที่อื่นสักพักได้ไหมคะ”ฟาเดียเห็นหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ เธอก็ตั้งคำถามอย่างเลื่อนลอย แต่ลึกๆก็คาดหวังให้พวกเขาที่มองมาอย่างนึกสงสารช่วยเห็นใจเธอบ้าง“หนูอยู่ที่นี่ไม่ไหวเลย…หนูรับ...อะไรพวกนี้ไม่ไหว...มัน…”เธอส่ายหน้าส่งสัญญาณต่อต้านสิ่งรอบตัวขึ้นมาฉับพลัน ก่อนอดีตผู้นำจะเดินเข้ามา พร้อมกันกับที่เธอพุ่งเข้าไปกอดและทรุดลงปล่อยโฮออกมาจนตัวสั่น“หนูเหนื่อย...หนู...”“ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร”นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ทุกคนได้เห็นอดีตผู้นำหน้าเครียดที่สุดจากที่รับมือกับเรื่องอะไรต่อมิอะไรมามากเฟรย่าที่ได้ฟังแม้จะรู้เ
"นี่สำหรับเมียกู!ต่อไป...ก็มึงสินะ""ขอเรากับคุยเฮซก่อน"พอเห็นมาโครเดินท่าทางเอาเรื่องกลับมา ฟาเดียก็ตัดสินใจเอาตัวเองเข้าไปขวาง เขาหยุดเดินมองเธอนิ่งๆ แต่ถึงแววตาดุร้ายคู่นั้นมันน่ากลัวกว่าทุกครั้งฟาเดียก็ยัง“ได้ไหม”"รักมันรึไง"เสียงห้วนและเยือกเย็นที่เขาไม่เคยใช้กับเธอตั้งคำถาม ยิ่งเห็นเธออึ้งจนอึกอักมาโครก็ยิ่งตะคอก"ถามว่ารักมันไหม?!"พรึ่บ!ฟาเดียตกใจ รีบเลื่อนมือไปทาบอกแกร่งเพื่อให้เขาใจเย็นลงก่อนตอบอย่างหนักแน่น"ไม่""ชัดไหม?!"แค่นั้นเองที่มาโครเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงเธอไปถามเฮย์โซที่มองเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน"ปล่อยมัน"เขาสั่งลูกน้องให้แก้มัดเฮย์โซเช่นเดียวกับที่แก้มัดคาร์เตอร์ ก่อนจะพุ่งเข้าไปกระชากคอเฮย์โซมาเผชิญหน้าอย่างเหลืออดมานาน"มึงมีโอกาสตั้งมากมายที่จะปกป้อง! แต่มึงจ้องจะเอาคนของกูให้ได้!""คนของมึง ใครวะ กูไปยุ่งกับรักษาการตอนไหน"ผลัวะ!หมัดหนักๆของมาโครซัดเข้าหน้าเฮย์โซเต็มแรงไม่มียั้ง"ไม่ต้องมาเล่นลิ้น""งั้นกูเล่นเมียมึงได้ไหม”เฮย์โซไม่ลดละเลยที่จะต่อปากต่อคำเพราะไม่ชอบหน้ามาโครเหมือนกัน อีกอย่างเขารู้ตัวดีว่านาทีนี้ไม่มีอะไรจะเสีย"คำว่าเมียกูที่มึงพูด ก็
5 นาทีต่อมา“ไม่เจอเลย กำลังเสริมก็มาไม่ทัน 10 นาทีนี้แน่ ไหนจะตู้ที่ซ้อนกันไว้อีก”เลล่ารายงานไปพร้อมกับก้าวขาตามมาโครที่แยกกับทุกคนซึ่งตอนนี้ช่วยกันหาฟาเดียและเฟรย่าอย่างร้อนใจ“ท่านผู้หญิงกับอดีตผู้นำกำลังช่วยคิดอีกแรง แต่นายรู้ใช่ไหมยังไงมันก็เสี่ยงเพราะเวลากระชั้นชิดเกินไป”“มันเอาเข้าไปตอนไหน”กึก!มาโครหยุดเดินทันทีที่ฉุกคิดขึ้นได้ และกวาดสายตาอย่างใช้ความคิดท่ามกลางตู้คอนเทนเนอร์เป็นร้อยๆที่สูงท่วมหัวเขา พลางคิดว่าถึงคนของ Dark shadow ที่เอามาจะไม่มากพอสำหรับการเช็คทุกตู้ชั้นล่างทั้งหมดพร้อมกัน แต่อย่างน้อยตู้ชั้นล่างกว่า 60% ก็ถูกเช็คอย่างเร่งด่วนแล้วและไม่มีใครหาเจอ“เฟรย์สู้กับไอ้เวรนั่นอยู่ก่อนเราจะมาไม่เกิน 30 นาที ประเมินจากความสามารถของเฟรย์ ถึงสู้แรงไม่ไหวก็ใช่ว่าการสู้จะจบง่าย รอยแผลบนตัวไอ้ยักษ์มีไม่น้อย แปลว่าเฟรย์สู้เต็มกำลัง จากสถิติและทักษะที่ฝึกมา การสู้หนักระดับนี้เฟรย์ยื้อได้เกิน 20 นาที ซึ่งก็แทบจะเท่ากับเวลาที่เรามาถึงนี่”“หมายความว่า...”“มันบอกว่า 2 ตู้ แปลว่าแยกไว้คนละตู้ ถ้าต้องการถ่วงเวลาให้เราหาไม่เจอ มันคงไม่เอาไว้ตู้ใกล้กันแน่ และหรือถ้าจะเอาไว้ตู้ช
ไม่กี่นาทีต่อมาโครม!!!ประตูโกดังสะเทือนลั่น พร้อมกันกับร่างของไอ้ยักษ์ที่เคยทำร้ายเฟรย่ากระเด็นจากด้านนอกเข้ามาด้วยฝีมือมาโครที่เดินเข้ามานิ่งๆพลั่ก!“เมียกูอยู่ไหน!”หลังจากผลักเฮย์โซที่ลากคอเข้ามาเองกับมือ เลโอก็ตั้งคำถามเสียงห้วนอย่างไม่เกรงกลัวลูกน้องของคาร์เตอร์ที่ตอนนี้มีจำนวนเยอะกว่าในคลิปแบบทวีคูณ“มึง...”คาร์เตอร์คุ้นหน้ามาโครอยู่แล้ว แต่มันหยุดคิดนิดหน่อยพอเห็นเลโอที่มาด้วย ก่อนลูกน้องคนสนิทจะเข้ามากระซิบ“อ๋อ ไอ้พวก Nightshade แล้วที่เหลือล่ะวะ หรือพวกมึงกล้ามาแค่นี้”ใช่ คำถามนี้ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วเพราะท่ามกลางคนกว่า 20 คนตรงนี้ อีกฝั่งมีแค่มาโครและเลโอที่มาพร้อมเฮย์โซในสภาพอิดโรยเท่านั้นและแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ไอ้ยักษ์ แต่มาโครกับเลโอจัดการพวกหน้าประตูโกดังจนเกลี้ยงด้วยสองมือเปล่าเท่านั้น“ถามโง่ๆ ถ้ามาก็เห็นแล้วป่ะ ความลับเลยนะ ที่จริงเพื่อนกูไม่ให้ค่ามึงเลยว่ะ”เลโอตอบยียวนอย่างตั้งใจกวนประสาท ส่วนมาโครก็ยกยิ้มมุมปากจนคาร์เตอร์เสียเซลฟ์ที่ผู้มาเยือนไม่มีทีท่าจะหวั่นอะไรกองทัพของเขาด้วยซ้ำ“มั่นใจขนาดนี้แปลว่าสั่งคนล้อมพวกกูไว้แล้วสินะ”“อยากรู้ไม่ให้คนไปดูวะ”“เห็นด้
@ โกดังร้าง ท่าเรือ X“ดี! ก็ให้มันรู้ไปว่าพวก Dark shadow จะเปิดหน้าสู้กับกูตรงๆไหม ฮ่าๆๆๆ”เสียงคาร์เตอร์หัวเราะลั่นโกดังอย่างชอบใจ ก่อนจะมองสภาพหมดสติเพราะถูกทำให้สลบอย่างไม่ทันตั้งตัวของเฟรย่าและฟาเดียที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล“อีนี่ใช่ไหมที่สั่งระเบิดโกดังเก็บยากู!”ฝ่ามือหยาบกระด้างของคาร์เตอร์จิกผมเฟรย่าขึ้นมาจ้องแล้วสะบัดออกอย่างหัวเสีย ก่อนจะใช้อีกมือบีบแก้มฟาเดียขึ้นมาอย่างเคียดแค้น“ส่วนอีนี่ อีตัวดีที่เอาเงินกูไปงั้นสิ”เพี๊ยะ!พูดจบคาร์เตอร์ก็ใช้หลังมือตบเรียกสติฟาเดียจนสะดุ้งตื่น สิ่งแรกที่เธอทำ คือกวาดสายตามองหาเฟรย่าที่เจ็บหนักกว่า เพราะจำได้ว่ากระสุนสาดเข้ากระจกฝั่งนั้นเต็มๆ“พี่เฟรย์! พี่เฟรย์เป็นไรมากรึปะ...”“หุบปาก! เงินกูอยู่ไหน!”ไม่เว้นช่วงให้ฟาเดียพูดจบประโยคด้วยซ้ำ คาร์เตอร์ก็ตรงเข้ามาบีบคอเธออย่างคาดคั้น“เงินอะไร”“มึงอย่าทำเป็นไม่รู้”จริงอย่างที่คาร์เตอร์พูด ฟาเดียรู้ว่ามันคือเงินซื้อขายยาเสพติดระหว่างคาร์เตอร์กับสภา เงินที่เธอถูกพ่อบุญธรรมอย่างท่านเซนจิและเฮย์โซรวมหัวกันโอนเข้าบัญชีตัวเองที่ไม่ได้ใช้งาน และอดีตผู้นำเป็นคนได้ข้อมูลพวกนั้นมาทำให้เธอตาสว่