@ Dark Shadow Castle (JAPAN)
ก๊อกๆๆ ฉันยืนเคาะประตูหน้าห้องท่านเซนจิหลังจากกลับมาถึง Castle พร้อมความน่าเบื่อ เพราะกับเฮียแม็ค...เราไม่ได้คุยกันอีกตลอดทาง แต่ในห้องดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ แกร๊ก... “อ้าว เข้ามารอข้างในได้เลยค่ะคุณหนูฟาเดีย ท่านสั่งไว้” จังหวะที่กำลังจะเคาะประตูอีกครั้ง แม่บ้านก็เปิดประตูสวนมาและเอ่ยปากบอกฉัน นั่นทำให้ฉันพยักหน้าให้เธออย่างเป็นมิตรและเปิดประตูเข้ามา ซึ่งในห้องก็เงียบกริบและสะอาดสะอ้านอย่างเคย แต่ขอเข้าห้องน้ำหน่อยละกัน “เรื่องที่ให้จัดการไปถึงไหน” ฉันใช้เวลาในห้องน้ำพักใหญ่ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามา แต่ที่น่าสนใจคือมันมากกว่าหนึ่งคน และเรื่องที่คุยกัน ฉันก็ได้ยินมันแบบไม่ตั้งใจ เสียงของท่านเซนจิและเฮย์โซ “ล็อตแรกเริ่มทดลองกับสัตว์แล้วครับ แต่กับคน...” “เทสกับคิระรึยัง?” หืม...เทสเหรอ? ล็อตแรกเริ่มทดลอง? สองคนนั้นหมายถึงอะไร? “ยังครับ” ฉันแอบแง้มประตูห้องน้ำไปดู ซึ่งก็เป็นมุมที่เห็นได้อย่างพอดิบพอดี ท่านเซนจิพอได้ฟังคำตอบก็หัวเสียทันที ส่วนเฮย์โซก็ก้มหน้านิ่ง “จิ๊! แกมันไม่ได้เรื่อง” “ขอโทษครับท่าน ผมแค่คิดว่าฟาเดียจะช่วยเราได้เรื่องนี้” ...ฉันเหรอ? “เรื่องอะไรงั้นเหรอ?” เพราะความสงสัยล้วนๆ ทำให้ฉันเลือกจะเปิดประตูและตั้งคำถามกับเฮย์โซออกไป แปลกที่คำพูดและท่าทางที่คุยกันก่อนหน้านั้นดูมีลับลมคมใน แต่พอเจอหน้าฉัน ทั้งคู่ก็ไม่ได้มีท่าทางตกใจ “กลับมาเมื่อไหร่?” “สักพักแล้วค่ะ” ท่านเซนจิหันมองฉันนิดนึงแล้วทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้โต๊ะทำงานอย่างใจเย็น ไม่สิ... บุคลิกแบบนั้น ใช้คำว่าสุขุมเยือกเย็นเกินกว่าคนธรรมดาจะเข้ากว่า “มาโครล่ะ” ชื่อที่เจาะจงมาทำให้ฉันได้แต่พยักหน้ารับและตอบกลับอย่างเลี่ยงไม่ได้ “กลับมาพร้อมกันค่ะท่าน” “ดี...หลังจากนี้ก็จัดการคิระซะ” ท่านเซนจิพูดกับฉันและหันไปหาเฮย์โซที่ตกปากรับคำ “ได้ครับท่าน แต่อาจจะมีมาโครเป็นตัวถ่วงนิดหน่อย เพราะหมอนั่น...” “ค่อนข้างระวังตัวตามสัญชาตญาณ” น้ำเสียงรู้ดีของท่านเซนจิพูดสวนขึ้นมา เฮย์โซก็พยักหน้า ท่านเลยกระตุกยิ้มมุมปากและเบนความสนใจมาที่ฉัน “ก็แยกมันออกไปซะ” “คะ?” ฉันเลิกคิ้วถามกลับอย่างไม่เข้าใจว่าทั้งสองคนกำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่ แต่ท่านเซนจิก็ไม่สนใจ “เธอ! แยกมควินทร์ออกไป แล้วเรื่องคิระให้เฮย์โซจัดการ” “จัดการ?” ใครเป็นฉันในตอนนี้ก็คงจะงงพอกันนั่นแหละนะ แต่ที่น่าแปลกใจยิ่งกว่า ก็คือสิ่งที่ท่านเซนจิพูดต่อมา “ใช่...จัดการ ใช้ความสนิทสนมในวัยเด็กให้เป็นประโยชน์สักทีเถอะน่า ยอมมาที่นี่เพราะมันแท้ๆ น่าแปลกที่ทุกวันนี้เดินห่างกันเป็นวา” ยอมมา... ทำไมถึงรู้ล่ะ O_O! “นี่ท่าน...” “ต้องรู้สิ บางอย่างในตาเธอตอนมองมาโครกับเฟรย่า มันบอกชัดว่าฉันต้องเลือกเธอนี่นา :)”ไม่กี่นาทีต่อมา...
“ไอ้ที่ว่าจัดการนี่มันยังไง?” ฉันถามเฮย์โซที่เดินนำทางออกจากห้องอย่างไม่รู้จุดหมาย รู้แค่หมอนี่พาลงมาที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งตามปกตินอกจากเอกสารและอาวุธเก่าเก็บทั้งหลาย ที่นี่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด แต่พอก้าวขาลงมาที่นี่ สิ่งที่ดึงความสนใจจากฉันไป หนึ่งเลย...คือสภาพแวดล้อมทึ่ไม่เหมือนชั้นใต้ดินที่ฉันเคยเห็นมาก่อน จริงอยู่ มันยังคงมีเอกสารเก่าเก็บและอาวุธที่ไม่ได้ใช้แล้วมากมาย แต่ดูเหมือนชั้นใต้ดินนี้จะถูกขยายอาณาเขตให้ลึกเข้าไป แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรนอกจากกำแพงแข็งๆ หมอนี่พาฉันมาเดินดูกำแพงเพื่ออะไรกัน ติ๊ดดดด! หืม? ไม่ปล่อยให้ฉันสงสัยนาน อยู่ๆเฮย์โซก็ยื่นฝ่ามือไปแตะที่จุดหนึ่งของกำแพงที่ราบเรียบ และมันก็ส่งสัญญาณรับกับฝ่ามือนั้น หรือว่า... เออแฮะ เพิ่งรู้ว่าชั้นใต้ดินต้องมีการแสกนนิ้วมือแบบนี้ แล้วหมอนี่...ทำไมต้องมองซ้ายมองขวาเหมือนคนกำลังสังเกตการณ์อะไร พิลึกคนจริงๆ แต่แอบขำกับท่าทางของเฮย์โซได้ไม่เท่าไหร่ ก็กลายเป็นฉันซะเองที่ต้องอึ้งไป เพราะกำแพงนี้ไม่ได้ส่งแค่สัญญาณเตือนเท่านั้น แต่มันยังเปิดออกและมีทางเดินให้เดินเข้าไป เรียกความสงสัยจากฉันที่ก้าวขาตามเฮย์โซซึ่งเป็นคนเดินนำ “นี่มัน....” หลังจากก้าวขาเข้ามาเรื่อยๆ ฉันว่าฉันพอเข้าใจแล้ว ว่าทำไมเฮย์โซถึงต้องมองซ้ายมองขวาเช็คความผิดปกติก่อนจะเข้ามา เพราะตอนนี้บริเวณห้องกว้างตรงหน้าฉัน มันเต็มไปด้วยบุคลากรและอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์และเคมี ราวกับเป็นห้องแลปที่แฝงตัวอยู่ภายใต้องค์กร พรึ่บ! เฮย์โซไม่ปล่อยให้ฉันเสียเวลาอึ้งกับสิ่งน่าสนใจลำดับที่สอง หมอนี่ส่งเอกสารปึกหนึ่งซึ่งหนามากๆมาให้ ฉันเลยรับมันมาเปิดอ่าน พร้อมกันกับเดินตามหมอนี่ที่พาเดินดูรอบๆ 'อ๊ากกกกกกก!' เสียงร้องโหยหวนเรียกให้ฉันละสายตาจากเอกสารตรงหน้าและเงยหน้าไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังถูกจับเอายาบางอย่างกรอกปาก เขาดิ้นขลุกขลักอยู่สักพัก จากนั้นก็ล้มลงเอามือกุมหัวใจอย่างทรมาน เนื้อตัวที่สั่นระริกเรียกสีหน้าลุ้นๆของบุคลากรในชุดกาวน์แลปได้ดีมาก พวกเขาทำหน้าเหมือนมีหวัง ผิดกับฉันที่พอเห็นก็เลือกจะก้าวขาเข้าไปช่วย แต่ก็โดนเฮย์โซออกตัวห้าม หมับ! “รอดูไปเถอะน่า” ตึงงงง! สิ้นสุดเสียงเฮย์โซ ผู้ชายคนนั้นก็ล้มตึงลงไปที่พื้น ท่ามกลางท่าทางไม่ค่อยพอใจของบุคลากรในห้องแลปสักเท่าไหร่ แต่มันจะไม่น่าสะเทือนใจเลย หากสิ่งมีชีวิตที่ล้มลงนั้น ไม่มีน้ำลายฟูมปากและชักดิ้นชักงอ ก่อนจะนิ่งราวกับคนไร้ลมหายใจไปแล้ว “เฮย์โซ...” “ตาย” น้ำเสียงเย็นยะเยือกพูดมาทำฉันตาโตกลืนน้ำลงไปอึกใหญ่ๆ จริงอยู่ ความตายเป็นเรื่องธรรมดาของ Dark Shadow แต่การเห็นอะไรแบบนี้ตรงหน้า ก็ทำเอาฉันลมแทบจับไปดื้อๆ พรึ่บ! จังหวะที่ฉันขาอ่อนลงเพราะช็อคกับสิ่งที่เห็น เฮย์โซก็เข้ามาคว้าฉันไว้ แต่ตาหมอนี่ยังคงจ้องมองผู้ชายที่คนที่กำลังโดนแบบเดียวกัน คนพวกนั้นเอายาอะไรไม่รู้กรอกเข้าปากผู้ชายที่ถูกจับมัดแขนมัดขาอีกครั้ง ฉันเลยรีบขยับตัวไปหลบหลังเฮย์โซทันที แต่คำพูดที่หมอนี่พูดมาก็ทำเอาชะงัก “อ่อนแอแบบนี้ ก็แพ้รักษาการตั้งแต่ยังไม่สู้เลยน่ะสิ” “นาย!” 'อ๊ากกกกกกก!' ฉันตะคอกไปอย่างหัวเสีย แต่เสียงทรมานของชายคนนั้นก็ทำให้ฉันมุดหน้าซุกหลังเฮย์โซอยู่ดี “รอบนี้ไม่น่าพลาด” “พอสักที! นายคิดอะไรอยู่ถึงล้อเล่นกับชีวิตคนแบบนี้!” “นั่นมันก็แค่ตัวยาที่ผิดพลาด” ฉันฟังเฮย์โซพูดแล้วก็ไม่เข้าใจอยู่ดี พอเริ่มได้สติฉันเลยรีบเปิดเอกสารหลายหน้าที่หมอนี่ให้มา มันดูเหมือนเป็นผลการทดลองยาตัวหนึ่งที่ชื่อ... 'Madden Whiz ล็อต 2 ค้นพบสำเร็จ!' ชะ...ใช่ Madden Whiz ฉันหันไปตามเสียง และพบว่าชายที่ถูกกรอกยาคนที่สองไม่ได้นอนแน่นิ่งเหมือนคนแรก เพียงแต่เขา... โครมมมมม! ปังงงงง! เสียงข้าวของกระจัดกระจายเพราะชายคนนั้นอยู่ๆก็อาละวาดขึ้นมา ทำให้เมมเบอร์สังกัดสภากฎพุ่งเข้าล็อคตัวเขาแทบไม่ทัน “Fantastic!” เฮย์โซเห็นแบบนั้น หมอนี่ดีใจจนออกนอกหน้า ผิดกับที่สติแตกเพราะตกใจกลัว ท่าทางของผู้ชายคนนั้นเหมือนอสูรร้ายไม่มีผิด เขาเกรี้ยวกราดและดูขัดแย้งกับอะไรในหัวตัวเองจนฉันนึกกลัวจนตัวสั่น เฮย์โซเลยคว้ามือฉันเดินออกจากห้องทดลองนี่เพื่อมาดึงสติหลังกำแพงกั้น “นี่มันอะไรกัน?! ยานั่น...” “ก็อย่างที่เห็น” คำตอบที่ได้จากเฮย์โซดูเรียบง่าย ทั้งที่ฉันถามไปด้วยปากสั่นๆเกินเยียวยาแบบนั้น “นอกจากจะเอาชีวิตคนมาล้อเล่น นายยังกล้าทำผิดกฎหมายทั้งที่เราเป็นผู้คุมกฎ Dark Shadow! ทำไมถึงได้....!” “ท่านเซนจิต่างหากที่ทำ ไม่ใช่ฉัน!” เฮย์โซตะคอกกลับมา ทำเอาฉันงงกับสิ่งที่ได้ฟัง “หมายความว่าไง ท่านเซนจิ? ถ้างั้นเรื่องที่บอกให้จัดการ...” “ใช่ เธอต้องเอายานั่นไปให้ไอ้คิระกิน” “นายจะบ้ารึไง!” ฉันโพล่งออกไปเสียงดัง เฮย์โซก็ยังทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทั้งที่เจตนาออกชัดขนาดนั้น “หรือจะเอาไปให้ไอ้มาโคร? ได้นะ ถ้าอยากให้มันเป็นหนูทดลองแทนก็ได้” พรึ่บ! “เฮย์โซ!” สิ่งที่ได้ฟังทำฉันกระชากคอเสื้อเฮย์โซขึ้นมาอย่างไม่เกรงกลัว หมอนี่...จะยุ่งกับใครก็ได้แต่ไม่ใช่...! “ที่จริงยาตัวใหม่เหมาะกับเธอมาก ว่างๆก็ลองศึกษาเอาไว้” พรึ่บ! เฮย์โซสะบัดฉันออกแล้วดึงเอกสารในมือฉันเปิดไปหน้าท้ายๆ ก็จะโยนมันกลับมาด้วยสีหน้าสะใจ Lust Wizard... ฉันก้มอ่านชื่อและสรรพคุณของตัวยาแล้วถึงกับหัวร้อนจนจะเอาเรื่องหมอนี่ให้ได้! แต่เฮย์โซรู้ทัน เลยดันร่างฉันติดกำแพง แถมยังยั่วโมโหด้วยการยื่นหน้าเข้ามาใกล้ พร้อมกับส่งน้ำเสียงวาบหวามที่โคตรน่าหงุดหงิดมาให้ “ยาปลุกเซ็กส์...จะได้รวบหัวรวบหางมันง่ายๆ” เพี๊ยะ!!! ได้ยินคำพูดที่ดูถูกทั้งฉันและเฮียแม็คแบบนั้น ฉันก็ฟาดฝ่ามือลงบนหน้าเฮย์โซเต็มแรงจนหน้าสะบัด รอยเลือดซิบที่มุมปากหลังจากหมอนี่หันกลับมามันบอกชัดว่าฉันหัวเสียกับยานรกที่ว่าแค่ไหน ไม่พอแค่นั้น ฉันยังจ้องหน้าท้าทายเฮย์โซ เพราะรู้ว่าคนอย่างหมอนี่ไม่ยอมแน่ อย่างเลวร้ายที่สุดก็คงตบฉันคืน แต่หมอนี่กลับแสยะยิ้มและ... พลั่ก! เฮือก O_O! ร่างฉันถูกดันให้กระแทกกำแพงอีกครั้งด้วยสีหน้ายิ้มแย้มของเฮย์โซในจังหวะที่ฉันตั้งตัวไม่ทัน ฝ่ามือหนาเลื่อนมาลูบหัวฉันเหมือนกำลังเจรจากับลูกแมวตัวน้อยๆ ถึงริมฝีปากจะเปื้อนยิ้มก็จริง แต่แววตาของเฮย์โซบอกชัดว่ากัดไม่ปล่อย หมับ! “อ๊ะ!” “ขวัญเอ๊ยขวัญมานะสาวน้อย...” พริบตาเดียวเฮย์โซก็พุ่งเข้ามาบีบแก้มฉันแรงมาก แต่ก็ยังทำเสียงใจดีเหมือนคนโรคจิตหน่อยๆ “ปล่อย!” “อะไรกัน ทำไมตะคอกใส่พี่ชายแบบนั้น...” เกลียดจริงๆ เสียงแหบพร่ายั่วโมโหที่หมอนี่ชอบทำ! “ไอ้บ้าเฮย์โซ! ปล่อย!” ฉันออกแรงปัดมือเฮย์โซเต็มแรง แล้วง้างมือจะฟาดหน้าหมอนี่อีกครั้งแต่ก็... หมับ! “ถ้าเข้ามาที่นี่แล้ว จำไว้! เธอลงเรือลำเดียวกันแล้ว” ตึง! “โอ๊ย!” น้ำเสียงเย็นเฉียบส่งมา พร้อมกันกับที่เฮย์โซล็อคข้อมือฉันติดกำแพงเต็มแรงจนเสียงดังสนั่น ถึงตรงนี้ฉันเข้าใจแล้วจริงๆ ว่าอภิสิทธิ์และเกียรติของผู้คุมกฎที่เฮียแม็คพูดถึงบนเครื่องวันนี้ มันมีค่าแค่ไหนกัน “นายเป็นเมมเบอร์ระดับสูงนะเฮย์โซ! สังกัดเราควบคุมความถูกต้องของที่นี่!” แต่ยิ่งพูด เฮย์โซก็ยิ่งทำเหมือนกลั้นขำและไม่มีท่าทางสำนึกอะไรทั้งนั้น “เมมเบอร์ระดับสูงงั้นเหรอ? น่าตลกจริงๆ ดูสภาสูงสุดพ่อเราสิ ท่านก็ยังไม่เห็นจะอินกับสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิด” “แต่นาย...” “อย่าโง่น่า! นี่มันแหล่งขุมทรัพย์ชั้นดีของเราเลยนะ คิดถึงวันที่ไม่มีท่านแล้วสิ” หมอนี่...เฮย์โซที่ล็อคแขนฉันตอนนี้ ทั้งสีหน้าและคำพูด ดูโรคจิตซะไม่มี มิหนำซ้ำยังจะแช่งท่านเซนจิซะอีก “นาย....” แล้วราวกับรู้ว่าฉันกำลังจะตำหนิ เฮย์โซก็ยอมปล่อยมือและลอยหน้าลอยตา แถมตบท้ายด้วยคำพูดน่าสะอิดสะเอียน ก่อนจะเดินนำฉันออกไปอีก “ก็แค่คิดเผื่อไว้ มีแค่พี่ชายกับน้องสาว...มันก็อบอุ่นดี ฮ่ะๆๆๆ” เหอะ! พี่ชายกับน้องสาวงั้นเหรอ? ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาหลังถูกปล่อยตัวเป็นอิสระ แต่พอหันไปเจอกับชื่อหนูทดลองที่เด่นหราในเอกสารพวกนั้น ก็บอกตามตรงว่ายากจริงๆ อย่างเฮียแม็ค...คงไม่ยอมให้ใครทำร้ายเพื่อนรักอย่างคิระแน่ๆ และถึงฉันจะไม่ชอบหน้าหมอนั่นด้วยเหตุผลบางอย่าง แต่เรื่องยาพวกนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ฉันอยากให้เกิดขึ้นกับหมอนั่นอยู่ดี และที่สำคัญกว่านั้น...ถ้าต้องเปลี่ยนตัวหนูทดลองเป็นเฮียแม็ค นั่นก็เป็นเรื่องที่ฉันยอมรับไม่ได้เข้าไปอีก นี่ฉัน...จะทำยังไงดี?วันต่อมา“ไม่ค่อยเห่อกันเลยนะครับ”คิระแกล้งแซวอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงที่ถึงแม้จะผ่านไปหลายปีก็ยังดูแข็งแรงอยู่ แถมวันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงเมมเบอร์นับร้อยก็แต่งตัวสวยหล่อเป็นพิเศษ บรรยากาศโดยรอบของหอประชุมที่ถูกรีโนเวทใหม่ดูเป็นทางการและไม่มีที่นั่งส่วนไหนแบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายอย่างเดิมเตโช โมเน่ต์ คิระ ลิซ่า เลโอ และเฟรย่า นั่งประจำในที่ของตัวเองโดยมีอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงนั่งตรงกลาง ราวกับเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานถัดจากทั้ง 6 คนมีตำแหน่งที่ว่างอยู่ทั้ง 2 ที่ ซึ่งอยู่ในระนาบเดียวกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือลำดับความสำคัญกำลังรอการกลับมาของมาโครและฟาเดีย มีเพียงพื้นที่ที่ถูกจัดให้ระดับความสูงไม่มากเกินไปอย่างด้านซ้ายมือของเหล่าพ่อแม่ที่ถือครองตำแหน่งต่างๆเท่านั้น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กๆทั้ง 5 คนเรียงตามลำดับ ประกอบไปด้วยไคโร – ลูกชายของคิระกับลิซ่าโซลาร์ – ลูกสาวของเตโชกับโมเน่ต์มาร์คัส – ลูกชายของมาโครกับฟาเดียริคกิ – ลูกชายของเฟรย่ากับเลโอ และลิมา – ลูกสาวของคิระกับลิซ่าซึ่งตอนนี้ เด็กๆที่สนิทกันอย่างรวดเร็วต่างก็กำลังแย่งกันพูดคุยกับมาร์คัสที่ชะเง้อหน้
@ เซฟต์เฮ้าส์อดีตผู้นำ“เดีย!”เฟรย่าที่ได้สติและถูกนำตัวกลับมารักษาลุกพรวดด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นน้องเดินเข้ามาส่วนฟาเดีย เธอนิ่งเงียบและดูเฉยชา แม้แต่หน้าเฟรย่าตอนนี้ยังมองไม่ชัด ม่านน้ำตาของเธอบดบังทุกสิ่งจนถ้าไม่ได้มาโครเดินจูงมือเข้ามา เธอก็มองไม่เห็นทางด้วยซ้ำ“ร้องไห้ทำไม เจ็บตรงไหนบอกพี่ หมอ!”เสียงเฟรย่าตะโกนดังลั่น มาโคร เตโช คิระ รวมถึงเลโอที่แยกตัวออกไปช่วยดูเลล่าให้ก็ไม่มีใครปริปาก จนกระทั่งอดีตผู้นำ ท่านผู้หญิง โมเน่ต์ และลิซ่าเดินเข้ามา“ขอหนูไปอยู่ที่อื่นสักพักได้ไหมคะ”ฟาเดียเห็นหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ เธอก็ตั้งคำถามอย่างเลื่อนลอย แต่ลึกๆก็คาดหวังให้พวกเขาที่มองมาอย่างนึกสงสารช่วยเห็นใจเธอบ้าง“หนูอยู่ที่นี่ไม่ไหวเลย…หนูรับ...อะไรพวกนี้ไม่ไหว...มัน…”เธอส่ายหน้าส่งสัญญาณต่อต้านสิ่งรอบตัวขึ้นมาฉับพลัน ก่อนอดีตผู้นำจะเดินเข้ามา พร้อมกันกับที่เธอพุ่งเข้าไปกอดและทรุดลงปล่อยโฮออกมาจนตัวสั่น“หนูเหนื่อย...หนู...”“ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร”นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ทุกคนได้เห็นอดีตผู้นำหน้าเครียดที่สุดจากที่รับมือกับเรื่องอะไรต่อมิอะไรมามากเฟรย่าที่ได้ฟังแม้จะรู้เ
"นี่สำหรับเมียกู!ต่อไป...ก็มึงสินะ""ขอเรากับคุยเฮซก่อน"พอเห็นมาโครเดินท่าทางเอาเรื่องกลับมา ฟาเดียก็ตัดสินใจเอาตัวเองเข้าไปขวาง เขาหยุดเดินมองเธอนิ่งๆ แต่ถึงแววตาดุร้ายคู่นั้นมันน่ากลัวกว่าทุกครั้งฟาเดียก็ยัง“ได้ไหม”"รักมันรึไง"เสียงห้วนและเยือกเย็นที่เขาไม่เคยใช้กับเธอตั้งคำถาม ยิ่งเห็นเธออึ้งจนอึกอักมาโครก็ยิ่งตะคอก"ถามว่ารักมันไหม?!"พรึ่บ!ฟาเดียตกใจ รีบเลื่อนมือไปทาบอกแกร่งเพื่อให้เขาใจเย็นลงก่อนตอบอย่างหนักแน่น"ไม่""ชัดไหม?!"แค่นั้นเองที่มาโครเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงเธอไปถามเฮย์โซที่มองเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน"ปล่อยมัน"เขาสั่งลูกน้องให้แก้มัดเฮย์โซเช่นเดียวกับที่แก้มัดคาร์เตอร์ ก่อนจะพุ่งเข้าไปกระชากคอเฮย์โซมาเผชิญหน้าอย่างเหลืออดมานาน"มึงมีโอกาสตั้งมากมายที่จะปกป้อง! แต่มึงจ้องจะเอาคนของกูให้ได้!""คนของมึง ใครวะ กูไปยุ่งกับรักษาการตอนไหน"ผลัวะ!หมัดหนักๆของมาโครซัดเข้าหน้าเฮย์โซเต็มแรงไม่มียั้ง"ไม่ต้องมาเล่นลิ้น""งั้นกูเล่นเมียมึงได้ไหม”เฮย์โซไม่ลดละเลยที่จะต่อปากต่อคำเพราะไม่ชอบหน้ามาโครเหมือนกัน อีกอย่างเขารู้ตัวดีว่านาทีนี้ไม่มีอะไรจะเสีย"คำว่าเมียกูที่มึงพูด ก็
5 นาทีต่อมา“ไม่เจอเลย กำลังเสริมก็มาไม่ทัน 10 นาทีนี้แน่ ไหนจะตู้ที่ซ้อนกันไว้อีก”เลล่ารายงานไปพร้อมกับก้าวขาตามมาโครที่แยกกับทุกคนซึ่งตอนนี้ช่วยกันหาฟาเดียและเฟรย่าอย่างร้อนใจ“ท่านผู้หญิงกับอดีตผู้นำกำลังช่วยคิดอีกแรง แต่นายรู้ใช่ไหมยังไงมันก็เสี่ยงเพราะเวลากระชั้นชิดเกินไป”“มันเอาเข้าไปตอนไหน”กึก!มาโครหยุดเดินทันทีที่ฉุกคิดขึ้นได้ และกวาดสายตาอย่างใช้ความคิดท่ามกลางตู้คอนเทนเนอร์เป็นร้อยๆที่สูงท่วมหัวเขา พลางคิดว่าถึงคนของ Dark shadow ที่เอามาจะไม่มากพอสำหรับการเช็คทุกตู้ชั้นล่างทั้งหมดพร้อมกัน แต่อย่างน้อยตู้ชั้นล่างกว่า 60% ก็ถูกเช็คอย่างเร่งด่วนแล้วและไม่มีใครหาเจอ“เฟรย์สู้กับไอ้เวรนั่นอยู่ก่อนเราจะมาไม่เกิน 30 นาที ประเมินจากความสามารถของเฟรย์ ถึงสู้แรงไม่ไหวก็ใช่ว่าการสู้จะจบง่าย รอยแผลบนตัวไอ้ยักษ์มีไม่น้อย แปลว่าเฟรย์สู้เต็มกำลัง จากสถิติและทักษะที่ฝึกมา การสู้หนักระดับนี้เฟรย์ยื้อได้เกิน 20 นาที ซึ่งก็แทบจะเท่ากับเวลาที่เรามาถึงนี่”“หมายความว่า...”“มันบอกว่า 2 ตู้ แปลว่าแยกไว้คนละตู้ ถ้าต้องการถ่วงเวลาให้เราหาไม่เจอ มันคงไม่เอาไว้ตู้ใกล้กันแน่ และหรือถ้าจะเอาไว้ตู้ช
ไม่กี่นาทีต่อมาโครม!!!ประตูโกดังสะเทือนลั่น พร้อมกันกับร่างของไอ้ยักษ์ที่เคยทำร้ายเฟรย่ากระเด็นจากด้านนอกเข้ามาด้วยฝีมือมาโครที่เดินเข้ามานิ่งๆพลั่ก!“เมียกูอยู่ไหน!”หลังจากผลักเฮย์โซที่ลากคอเข้ามาเองกับมือ เลโอก็ตั้งคำถามเสียงห้วนอย่างไม่เกรงกลัวลูกน้องของคาร์เตอร์ที่ตอนนี้มีจำนวนเยอะกว่าในคลิปแบบทวีคูณ“มึง...”คาร์เตอร์คุ้นหน้ามาโครอยู่แล้ว แต่มันหยุดคิดนิดหน่อยพอเห็นเลโอที่มาด้วย ก่อนลูกน้องคนสนิทจะเข้ามากระซิบ“อ๋อ ไอ้พวก Nightshade แล้วที่เหลือล่ะวะ หรือพวกมึงกล้ามาแค่นี้”ใช่ คำถามนี้ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วเพราะท่ามกลางคนกว่า 20 คนตรงนี้ อีกฝั่งมีแค่มาโครและเลโอที่มาพร้อมเฮย์โซในสภาพอิดโรยเท่านั้นและแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ไอ้ยักษ์ แต่มาโครกับเลโอจัดการพวกหน้าประตูโกดังจนเกลี้ยงด้วยสองมือเปล่าเท่านั้น“ถามโง่ๆ ถ้ามาก็เห็นแล้วป่ะ ความลับเลยนะ ที่จริงเพื่อนกูไม่ให้ค่ามึงเลยว่ะ”เลโอตอบยียวนอย่างตั้งใจกวนประสาท ส่วนมาโครก็ยกยิ้มมุมปากจนคาร์เตอร์เสียเซลฟ์ที่ผู้มาเยือนไม่มีทีท่าจะหวั่นอะไรกองทัพของเขาด้วยซ้ำ“มั่นใจขนาดนี้แปลว่าสั่งคนล้อมพวกกูไว้แล้วสินะ”“อยากรู้ไม่ให้คนไปดูวะ”“เห็นด้
@ โกดังร้าง ท่าเรือ X“ดี! ก็ให้มันรู้ไปว่าพวก Dark shadow จะเปิดหน้าสู้กับกูตรงๆไหม ฮ่าๆๆๆ”เสียงคาร์เตอร์หัวเราะลั่นโกดังอย่างชอบใจ ก่อนจะมองสภาพหมดสติเพราะถูกทำให้สลบอย่างไม่ทันตั้งตัวของเฟรย่าและฟาเดียที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล“อีนี่ใช่ไหมที่สั่งระเบิดโกดังเก็บยากู!”ฝ่ามือหยาบกระด้างของคาร์เตอร์จิกผมเฟรย่าขึ้นมาจ้องแล้วสะบัดออกอย่างหัวเสีย ก่อนจะใช้อีกมือบีบแก้มฟาเดียขึ้นมาอย่างเคียดแค้น“ส่วนอีนี่ อีตัวดีที่เอาเงินกูไปงั้นสิ”เพี๊ยะ!พูดจบคาร์เตอร์ก็ใช้หลังมือตบเรียกสติฟาเดียจนสะดุ้งตื่น สิ่งแรกที่เธอทำ คือกวาดสายตามองหาเฟรย่าที่เจ็บหนักกว่า เพราะจำได้ว่ากระสุนสาดเข้ากระจกฝั่งนั้นเต็มๆ“พี่เฟรย์! พี่เฟรย์เป็นไรมากรึปะ...”“หุบปาก! เงินกูอยู่ไหน!”ไม่เว้นช่วงให้ฟาเดียพูดจบประโยคด้วยซ้ำ คาร์เตอร์ก็ตรงเข้ามาบีบคอเธออย่างคาดคั้น“เงินอะไร”“มึงอย่าทำเป็นไม่รู้”จริงอย่างที่คาร์เตอร์พูด ฟาเดียรู้ว่ามันคือเงินซื้อขายยาเสพติดระหว่างคาร์เตอร์กับสภา เงินที่เธอถูกพ่อบุญธรรมอย่างท่านเซนจิและเฮย์โซรวมหัวกันโอนเข้าบัญชีตัวเองที่ไม่ได้ใช้งาน และอดีตผู้นำเป็นคนได้ข้อมูลพวกนั้นมาทำให้เธอตาสว่