สองชั่วโมงผ่านไป...
“ทำไมเฮียถึงชอบทะเลเหรอ” ฉันที่เดินถือรองเท้าแตะเซไปเซมา ถามเฮียแม็คท่ามกลางเสียงคลื่นกระทบหาดทราย เฮียเองก่อนจะตอบก็มองมาแบบส่ายหัวยิ้มๆนิดหน่อย เพราะตอนแรกเขาอาสาจะให้ฉันขี่หลังกลับด้วยซ้ำ หลังจากโลกของฉันมันเริ่มหมุนติ้วๆอย่างตอนนี้ ฮ่ะๆ “...ฟาร์ดาชอบ” แล้วคำตอบจากเฮียแม็คก็ทำให้ฉันที่ยิ้มกว้างๆต้องหุบยิ้มลงทันควัน แต่ทั้งที่น่าจะรู้คำตอบอยู่แล้วนี่นะ “อืม แค่ชอบตามพี่เฟรย์...แค่นั้น?” “เปล่า เพราะโดนบังคับให้ชอบก็เลยต้องชอบ” “บังคับให้ชอบ? ยังไงเหรอ” ฉันตั้งคำถามออกไปอีกครั้ง และยิ่งรู้สึกชาๆอย่างบอกไม่ถูก ดีจัง...ขนาดถูกบังคับยังเลือกจะทำตาม ถ้าฉันคือคนที่บังคับเขาบ้าง ก็คงไม่มีวันที่เขาจะทำมันหรอกมั้ง “เรื่องไรจะบอก” เฮียแม็คเลื่อนมือมาผลักหัวฉันเบาๆ คงเพราะหมันไส้กันเต็มทีที่ฉันดันทุรังจะเดินเองแต่เดินไม่ตรงแบบนี้ “อย่ามาแกล้งนะเฮีย!” “เสียงดังจริง” พอฉันทำเป็นโวยวาย เฮียก็ขำแล้วทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่น่าหมันเขี้ยวชะมัดเลย ไอ้สีหน้ายิ้มกรุ้มกริ่มแบบนี้ “เดียไม่ได้เสียงดังสักหน่อยยยย!” ฉันเพิ่มระดับเสียงให้ดังขึ้นอีก เฮียแม็คที่มองมาก็ถึงกับส่ายหัวซ้ำทันที “เหรอ ไม่ได้ประชดเลยสักนิด” “อารายยยย!!! เดียไม่ได้ประชดด้ว....อ๊ะ!” ตุ้บ! ฉันจะแกล้งพูดให้ดังอีกกว่าเดิมอีกครั้ง แต่แล้วอยู่ๆก็ถูกเฮียแม็คคว้าแขนแล้วกระชากเข้าไปกระแทกแผงอกเขาเข้าอย่างจัง อึก... O_O เพราะใกล้กันมากเลยแหละ ใกล้กันมากๆอีกแล้ว ถึงภาพตรงหน้าจะมึนๆ แต่ฉันก็ยังรู้สึกเขินที่ต้องจ้องมองเฮียระยะใกล้ เลยได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเบาๆ แถมตอนนี้ใจมันก็เริ่มสั่น “ขวดแก้ว” จังหวะที่ฉันยังอึ้งอยู่และไม่รู้จะพูดอะไร เฮียแม็คก็พูดมาทันที แถมมือเขายังชี้ไปที่พื้นทราย ซึ่งมีขวดแก้วแตกเกลื่อนเต็มพื้นอยู่จริงๆ “อะ...อื้อ มากับเฮียมีเรื่องให้หวาดเสียวทุกที” ฉันตอบกลับแล้วเลือกจะหลบตา แต่ฟ้ามืดขนาดนี้เขามองเห็นมันด้วยเหรอ เก่งจริงๆ :) “โทษกันซะงั้น ไม่ใช่เพราะถอดรองเท้าเดินแบบนี้?” เป็นอีกครั้งที่เฮียแม็คผลักหัวฉันเบาๆ แต่มือยังคงประคองเอาไว้ เพราะตอนกระชากเข้าไปฉันก็เสียหลักพอตัว ยิ่งในสภาวะมึนงงแบบนี้ “หึหึ ก็เดินแบบนี้มันถนัดกว่านี่ ^_^” “มาขี่หลังได้แล้ว” เฮียแม็คเลือกจะตัดบท และพอพูดจบเขาก็หันหลังให้ฉันทันที แต่... “ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้มั้งเฮีย” “ไม่เป็นไร” เขาส่ายหัวแล้วพูดมา “ไอ้เชนมันฝากให้ดูแลอย่างดี” “......” ได้ยินแบบนี้ฉันก็เลือกที่จะเงียบ มันจะมีนาทีไหนมั้ยนะ ที่ไม่มีชื่อฟาร์ดา ชื่อเชน มีแค่ฉันกับเขาสองคนสักที “ถามหน่อยสิ เฮียอึดอัดรึเปล่าที่มากับเดียแบบนี้” ไวเท่าความคิด อยู่ๆฉันก็หลุดปากถามไป รู้ตัวอีกทีเฮียแม็คก็มองมาด้วยใบหน้าที่ดูเรียบเฉยมากจริงๆ “ก็ไม่หนิ” หึ...ตอบแบบขอไปทีอย่างนี้ เดาไม่ยากเลยสักนิด “อืม เดินไปด้วยกันนี่แหละเฮีย เดียจะระวังมากกว่านี้” ฉันเลี่ยงจะพูดอะไรออกไปอีก และส่งยิ้มบางๆให้เฮียแม็ค ก่อนจะค่อยๆก้าวขาเดินนำเขามา เฮียแม็คก็เดินตาม แต่จะระวังให้มากกว่านี้งั้นเหรอ พูดออกไปได้นะฉัน น่าตลกตัวเองจริงๆ ทั้งที่ทุกวันนี้...ฉันก็ระวังจนไม่รู้จะระวังยังไงแล้ว ระวังไม่ให้เขา...คิดหนักเมื่อต้องรับรู้ความจริง03.12 AM
แม้จะกลับมาถึงห้องนานแล้ว และความรู้สึกมันกรึ่มๆมากพอควร แต่ฉันก็ยังข่มตานอนไม่หลับอยู่ดี คงเพราะมันตื่นเต้นแปลกๆ ที่มีเฮียแม็คมานอนอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลกันแบบนี้ แกร๊ก~ ฉันแอบแง้มประตูห้องนอนและมองไปที่โซฟา ร่างสูงที่นอนทอดยาวแถมยังไม่ยอมห่มผ้าท่ามกลางแอร์เย็นจัดแบบนี้ ทำให้นึกเป็นห่วงเขาขึ้นมาทันที แล้วความรู้สึกก็นำพาให้ฉันเดินผ่านประตูมาหยุดตรงหน้าเฮีย ก่อนจะค่อยๆทิ้งตัวนั่งคุกเข่าที่พื้น ดึงผ้าห่มมาห่มให้เขาอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวเฮียจะตื่น แต่ชั่วนาทีพอจ้องมองใบหน้าที่คุ้นเคย เรือนร่างแข็งแกร่งที่แม้แต่ด้านหลังของเขาฉันยังจดจำได้ดี ลมหายใจที่สม่ำเสมอกันของเฮียแม็คตอนนี้ ทำให้ฉันตกอยู่ในภวังค์ทันที 'ฟา...ถ้าโตแล้วแต่งงานกันนะ' ภาพแหวนดอกไม้บิดเบี้ยวที่ถูกทำขึ้นจากความพยายามมากๆของเขาตอนนั้น ทำเอา 'คุณป้ามาร์ธา' ผู้เป็นแม่หลุดยิ้มด้วยความเอ็นดูให้กับมือเล็กๆที่ยื่นมันมาให้ฉัน ใช่...แหวนดอกไม้ แหวนนั่นเป็นของฉัน ฉันยังเก็บมันไว้จนวันนี้ ใครว่ารักแรกพบเป็นเรื่องงี่เง่าสิ้นดี ...ไม่เป็นความจริง เพราะในวันที่ฉันไม่เหลือใครเลย แหวนดอกไม้วงเล็กๆนั่น มันเหมือนมีมนตร์วิเศษ ทุกครั้งที่ฉันจมปลักอยู่กับความสิ้นหวังทั้งหลาย แหวนดอกไม้ทำมือของเฮียแม็คช่วยฮีลความเจ็บปวดต่างๆให้ฉัน จนข้ามผ่านมันมาถึงวันนี้ได้ ...เพราะฉันคิดว่ายังมีเขาอยู่เสมอไง ...เพราะฉันคิด ว่าวันนึงเฮียแม็คจะจำได้ 'ถ้าโตขึ้นเธอก็ลืมเราแล้ว” ถึงจะพูดไปแบบนั้น มือฉันก็รับแหวนจากมือเฮียแม็คด้วยความปลาบปลื้มใจเท่าที่เด็กคนนึงจะรับรู้มันได้ 'ลืมได้ไง ใครจะไปลืมคนๆนึงได้ง่ายๆ' 'งั้นสัญญาได้มั้ย...' นิ้วก้อยของฉันถูกส่งออกไปด้วยรอยยิ้ม มืออีกข้างก็ยังกำแหวนดอกไม้เอาไว้อย่างหวงแหน ไม่รู้เหมือนกันว่าจะใช้คำว่าหัวใจพองโตอย่างตอนนี้ได้มั้ย รู้แค่ยิ้มหน้าบานเลยจริงๆ พอเฮียแม็คตอนนั้นพยักหน้าออกมาอย่างหนักแน่นและตั้งใจ 'อื้ม สัญญาเลยนะฟา' เรื่องราวในภวังค์ยังคงฉายต่อไป ส่วนในปัจจุบัน มือฉันก็ค่อยๆเลื่อนไปปัดไรผมที่ปรกหน้าเฮียอย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ 'สัญญา...สัญญาว่าอะไร' ถึงตรงนี้รอยยิ้มของฉันในปัจจุบันมันเศร้ามากจริงๆนะ เพราะมันยากมากๆเลย พอนึกย้อนไปถึงสิ่งที่เขาเคยกล่าวเอาไว้ 'สัญญาว่าจะเป็นเจ้าบ่าวของฟาคนเดียวเลย' นิ้วก้อยของเฮียเลื่อนมาเกี่ยวก้อยรับปากกับฉันอย่างหนักแน่นจนคุณป้ามาร์ธาเอื้อมมือมาลูบหัวเราทั้งคู่อย่างเอ็นดู ก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มน้อยใหญ่ 'แล้วถ้าแม็คโกหก...' 'ฟาก็ไปทวงเราคืนสิ' 'หืม? ทวงคืนเหรอ...ทวงคืนแปลว่าอะไร?' หมับ! เฮือก O_O! แล้วอยู่ๆฉันก็หลุดจากภวังค์ทันที หลังจากถูกคว้าข้อมือไว้อย่างแรงด้วยมือหนาของเฮียแม็คที่รู้สึกตัวขึ้นมา “ฮะ...เฮีย เดียขอโทษ” เพราะไม่รู้ว่าเขาจะคิดจะยังไง ฉันเลยชิงขอโทษไปก่อน เฮียเองก็จ้องมา “ทำไมยังไม่นอน” “กะ...กำลังจะไปแล้ว เดียเดินออกมากินน้ำ เลยแวะห่มผ้า...ให้” เป็นอีกครั้งที่ฉันหลบตา เพราะกลัวสายตาของคนตรงหน้ายิ่งกว่าใครๆ นี่เขาเป็นทุกอย่างไปแล้วจริงๆสินะ เป็นทั้งความอบอุ่น และความน่ากลัวที่บางทีทำฉันถึงกับกลั้นหายใจ “ถ้าเป็นเมมเบอร์คนอื่นคิดว่าจะรอดมั้ย?” เฮียแม็คที่นอนมองฉันแบบไม่ขยับตัวพูดมา ฉันเลยส่ายหัวแทนคำตอบเพราะรู้ดีว่า Dark Shadow Member ว่องไวมากๆเรื่องสัญชาตญาณ ยิ่งกับคนที่ฉวยโอกาสแบบนั้น “งั้นเดียไปนอน...” พรึ่บ! ฉันกำลังจะลุกขึ้น แต่เพราะยังถูกเฮียแม็คจับข้อมือเอาไว้อยู่ เพียงแค่เขาออกแรงเบาๆ ร่างฉันก็ถูกรั้งไว้ด้วยแรงดึง “จะกลับ Castle เมื่อไหร่?” “ยัง...ไม่รู้” “ไอ้เชนบอกว่าจะกลับพร้อมกัน” “แล้วได้มั้ย?” ฉันตอบคำถามด้วยคำถาม ตามที่ตัวเองก็อยากจะรู้ เพราะการที่ต้องมาอยู่ด้วยกันแบบนี้ เขาเองก็ดูเซ็งๆเอาเรื่องอยู่ แล้วเฮียแม็คก็พยักหน้า “แต่มากวนคนอื่นตอนนอน ต้องชดใช้ในห้องซ้อม” “เดียไม่...” “จะสอน” ถึงประโยคนี้ เฮียแม็คพูดมาเสียงเข้มจนฉันเงียบปากลงซะเอง แต่ฉันไม่ชอบจริงๆนะ ห้องซ้อมที่ว่าคือห้องซ้อมของ Dark Shadow ฉันไม่ชอบ ไม่อยาก ไม่คิดจะฝึกต่อสู้หรือใช้อาวุธใดๆให้เป็น ฉัน...ไม่อยากต้องซ้ำรอยกับใครอีกแล้ว ฉันอยากเป็นตัวฉัน... ไม่อยากเหมือนใคร... ฉันอยากเป็นตัวเอง... “...การป้องกันตัวเบื้องต้นมันจำเป็น” เฮียแม็คพูดมาเพราะเขาก็รู้ว่าฉันไม่ชอบ ที่ผ่านมาฉันปฏิเสธทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นใครที่เสนอตัวมาสอนให้ ฉันถึงขั้นอ้อนวอนขอท่านเซนจิพ่อบุญธรรม จนได้รับการละเว้นเรื่องการต่อสู้ การใช้อาวุธ แต่มันก็แลกมากับการที่ฉันจะไม่มีชื่อในผังครอบครัวของ Dark Shadow ไม่มีประวัติ ไม่มีตัวตน เพราะไม่มีคุณสมบัติคู่ควรที่จะเป็นเมมเบอร์ในสังกัดได้ “......” คำพูดเกลี้ยกล่อมนั้นทำฉันนิ่งไปแต่ก็รับฟัง ก่อนที่ฝ่ามืออุ่นที่จับข้อมือไว้จะค่อยๆปล่อยมือฉัน “ทำไมถึงอยากให้ฝึกนัก?” คำถามโง่ๆถูกส่งไปอีกครั้ง เฮียแม็คก็สวนกลับมาทันทีแบบไม่ต้องคิด “เพราะยังไงก็ต้องอยู่ Dark Shadow ไปอีกนาน” “แล้วถ้าวันนึงเดียหายไปล่ะ...หายไปจาก Dark Shadow” “.......” เฮียแม็คเงียบไปพอได้ฟังคำถาม ผิดกับฉันที่คาดหวังเหลือเกิน คาดหวังในสิ่งที่เขาจะตอบกัน แต่แล้วในความคาดหวังนั้น...ก็มี 'คนอื่น' เข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนเดิมซ้ำๆ “...ฟาร์ดาต้องตามหาเราแน่ เฮียเชื่อแบบนั้น” คำพูดของเฮียแม็คทำให้ฉันนิ่งยิ่งกว่าเดิมสิบเท่า ก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับเข้ามาในห้องนอน ดึงประตูปิดอย่างคนไร้ความรู้สึก ในขณะที่เสียงในหัวเอาแต่ตอกย้ำ หึ... ฟาร์ดา อะไรก็ฟาร์ดา ในหัวของเขา มันจดจำแต่ชื่อนั้น...วันต่อมา“ไม่ค่อยเห่อกันเลยนะครับ”คิระแกล้งแซวอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงที่ถึงแม้จะผ่านไปหลายปีก็ยังดูแข็งแรงอยู่ แถมวันนี้ทุกคนที่เกี่ยวข้องรวมถึงเมมเบอร์นับร้อยก็แต่งตัวสวยหล่อเป็นพิเศษ บรรยากาศโดยรอบของหอประชุมที่ถูกรีโนเวทใหม่ดูเป็นทางการและไม่มีที่นั่งส่วนไหนแบ่งฝั่งแบ่งฝ่ายอย่างเดิมเตโช โมเน่ต์ คิระ ลิซ่า เลโอ และเฟรย่า นั่งประจำในที่ของตัวเองโดยมีอดีตผู้นำและท่านผู้หญิงนั่งตรงกลาง ราวกับเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกหลานถัดจากทั้ง 6 คนมีตำแหน่งที่ว่างอยู่ทั้ง 2 ที่ ซึ่งอยู่ในระนาบเดียวกันโดยไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือลำดับความสำคัญกำลังรอการกลับมาของมาโครและฟาเดีย มีเพียงพื้นที่ที่ถูกจัดให้ระดับความสูงไม่มากเกินไปอย่างด้านซ้ายมือของเหล่าพ่อแม่ที่ถือครองตำแหน่งต่างๆเท่านั้น ที่ถูกออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กๆทั้ง 5 คนเรียงตามลำดับ ประกอบไปด้วยไคโร – ลูกชายของคิระกับลิซ่าโซลาร์ – ลูกสาวของเตโชกับโมเน่ต์มาร์คัส – ลูกชายของมาโครกับฟาเดียริคกิ – ลูกชายของเฟรย่ากับเลโอ และลิมา – ลูกสาวของคิระกับลิซ่าซึ่งตอนนี้ เด็กๆที่สนิทกันอย่างรวดเร็วต่างก็กำลังแย่งกันพูดคุยกับมาร์คัสที่ชะเง้อหน้
@ เซฟต์เฮ้าส์อดีตผู้นำ“เดีย!”เฟรย่าที่ได้สติและถูกนำตัวกลับมารักษาลุกพรวดด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นน้องเดินเข้ามาส่วนฟาเดีย เธอนิ่งเงียบและดูเฉยชา แม้แต่หน้าเฟรย่าตอนนี้ยังมองไม่ชัด ม่านน้ำตาของเธอบดบังทุกสิ่งจนถ้าไม่ได้มาโครเดินจูงมือเข้ามา เธอก็มองไม่เห็นทางด้วยซ้ำ“ร้องไห้ทำไม เจ็บตรงไหนบอกพี่ หมอ!”เสียงเฟรย่าตะโกนดังลั่น มาโคร เตโช คิระ รวมถึงเลโอที่แยกตัวออกไปช่วยดูเลล่าให้ก็ไม่มีใครปริปาก จนกระทั่งอดีตผู้นำ ท่านผู้หญิง โมเน่ต์ และลิซ่าเดินเข้ามา“ขอหนูไปอยู่ที่อื่นสักพักได้ไหมคะ”ฟาเดียเห็นหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ เธอก็ตั้งคำถามอย่างเลื่อนลอย แต่ลึกๆก็คาดหวังให้พวกเขาที่มองมาอย่างนึกสงสารช่วยเห็นใจเธอบ้าง“หนูอยู่ที่นี่ไม่ไหวเลย…หนูรับ...อะไรพวกนี้ไม่ไหว...มัน…”เธอส่ายหน้าส่งสัญญาณต่อต้านสิ่งรอบตัวขึ้นมาฉับพลัน ก่อนอดีตผู้นำจะเดินเข้ามา พร้อมกันกับที่เธอพุ่งเข้าไปกอดและทรุดลงปล่อยโฮออกมาจนตัวสั่น“หนูเหนื่อย...หนู...”“ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร”นี่เป็นครั้งแรกด้วยซ้ำที่ทุกคนได้เห็นอดีตผู้นำหน้าเครียดที่สุดจากที่รับมือกับเรื่องอะไรต่อมิอะไรมามากเฟรย่าที่ได้ฟังแม้จะรู้เ
"นี่สำหรับเมียกู!ต่อไป...ก็มึงสินะ""ขอเรากับคุยเฮซก่อน"พอเห็นมาโครเดินท่าทางเอาเรื่องกลับมา ฟาเดียก็ตัดสินใจเอาตัวเองเข้าไปขวาง เขาหยุดเดินมองเธอนิ่งๆ แต่ถึงแววตาดุร้ายคู่นั้นมันน่ากลัวกว่าทุกครั้งฟาเดียก็ยัง“ได้ไหม”"รักมันรึไง"เสียงห้วนและเยือกเย็นที่เขาไม่เคยใช้กับเธอตั้งคำถาม ยิ่งเห็นเธออึ้งจนอึกอักมาโครก็ยิ่งตะคอก"ถามว่ารักมันไหม?!"พรึ่บ!ฟาเดียตกใจ รีบเลื่อนมือไปทาบอกแกร่งเพื่อให้เขาใจเย็นลงก่อนตอบอย่างหนักแน่น"ไม่""ชัดไหม?!"แค่นั้นเองที่มาโครเบี่ยงตัวเดินเลี่ยงเธอไปถามเฮย์โซที่มองเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน"ปล่อยมัน"เขาสั่งลูกน้องให้แก้มัดเฮย์โซเช่นเดียวกับที่แก้มัดคาร์เตอร์ ก่อนจะพุ่งเข้าไปกระชากคอเฮย์โซมาเผชิญหน้าอย่างเหลืออดมานาน"มึงมีโอกาสตั้งมากมายที่จะปกป้อง! แต่มึงจ้องจะเอาคนของกูให้ได้!""คนของมึง ใครวะ กูไปยุ่งกับรักษาการตอนไหน"ผลัวะ!หมัดหนักๆของมาโครซัดเข้าหน้าเฮย์โซเต็มแรงไม่มียั้ง"ไม่ต้องมาเล่นลิ้น""งั้นกูเล่นเมียมึงได้ไหม”เฮย์โซไม่ลดละเลยที่จะต่อปากต่อคำเพราะไม่ชอบหน้ามาโครเหมือนกัน อีกอย่างเขารู้ตัวดีว่านาทีนี้ไม่มีอะไรจะเสีย"คำว่าเมียกูที่มึงพูด ก็
5 นาทีต่อมา“ไม่เจอเลย กำลังเสริมก็มาไม่ทัน 10 นาทีนี้แน่ ไหนจะตู้ที่ซ้อนกันไว้อีก”เลล่ารายงานไปพร้อมกับก้าวขาตามมาโครที่แยกกับทุกคนซึ่งตอนนี้ช่วยกันหาฟาเดียและเฟรย่าอย่างร้อนใจ“ท่านผู้หญิงกับอดีตผู้นำกำลังช่วยคิดอีกแรง แต่นายรู้ใช่ไหมยังไงมันก็เสี่ยงเพราะเวลากระชั้นชิดเกินไป”“มันเอาเข้าไปตอนไหน”กึก!มาโครหยุดเดินทันทีที่ฉุกคิดขึ้นได้ และกวาดสายตาอย่างใช้ความคิดท่ามกลางตู้คอนเทนเนอร์เป็นร้อยๆที่สูงท่วมหัวเขา พลางคิดว่าถึงคนของ Dark shadow ที่เอามาจะไม่มากพอสำหรับการเช็คทุกตู้ชั้นล่างทั้งหมดพร้อมกัน แต่อย่างน้อยตู้ชั้นล่างกว่า 60% ก็ถูกเช็คอย่างเร่งด่วนแล้วและไม่มีใครหาเจอ“เฟรย์สู้กับไอ้เวรนั่นอยู่ก่อนเราจะมาไม่เกิน 30 นาที ประเมินจากความสามารถของเฟรย์ ถึงสู้แรงไม่ไหวก็ใช่ว่าการสู้จะจบง่าย รอยแผลบนตัวไอ้ยักษ์มีไม่น้อย แปลว่าเฟรย์สู้เต็มกำลัง จากสถิติและทักษะที่ฝึกมา การสู้หนักระดับนี้เฟรย์ยื้อได้เกิน 20 นาที ซึ่งก็แทบจะเท่ากับเวลาที่เรามาถึงนี่”“หมายความว่า...”“มันบอกว่า 2 ตู้ แปลว่าแยกไว้คนละตู้ ถ้าต้องการถ่วงเวลาให้เราหาไม่เจอ มันคงไม่เอาไว้ตู้ใกล้กันแน่ และหรือถ้าจะเอาไว้ตู้ช
ไม่กี่นาทีต่อมาโครม!!!ประตูโกดังสะเทือนลั่น พร้อมกันกับร่างของไอ้ยักษ์ที่เคยทำร้ายเฟรย่ากระเด็นจากด้านนอกเข้ามาด้วยฝีมือมาโครที่เดินเข้ามานิ่งๆพลั่ก!“เมียกูอยู่ไหน!”หลังจากผลักเฮย์โซที่ลากคอเข้ามาเองกับมือ เลโอก็ตั้งคำถามเสียงห้วนอย่างไม่เกรงกลัวลูกน้องของคาร์เตอร์ที่ตอนนี้มีจำนวนเยอะกว่าในคลิปแบบทวีคูณ“มึง...”คาร์เตอร์คุ้นหน้ามาโครอยู่แล้ว แต่มันหยุดคิดนิดหน่อยพอเห็นเลโอที่มาด้วย ก่อนลูกน้องคนสนิทจะเข้ามากระซิบ“อ๋อ ไอ้พวก Nightshade แล้วที่เหลือล่ะวะ หรือพวกมึงกล้ามาแค่นี้”ใช่ คำถามนี้ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วเพราะท่ามกลางคนกว่า 20 คนตรงนี้ อีกฝั่งมีแค่มาโครและเลโอที่มาพร้อมเฮย์โซในสภาพอิดโรยเท่านั้นและแน่นอนว่าไม่ใช่แค่ไอ้ยักษ์ แต่มาโครกับเลโอจัดการพวกหน้าประตูโกดังจนเกลี้ยงด้วยสองมือเปล่าเท่านั้น“ถามโง่ๆ ถ้ามาก็เห็นแล้วป่ะ ความลับเลยนะ ที่จริงเพื่อนกูไม่ให้ค่ามึงเลยว่ะ”เลโอตอบยียวนอย่างตั้งใจกวนประสาท ส่วนมาโครก็ยกยิ้มมุมปากจนคาร์เตอร์เสียเซลฟ์ที่ผู้มาเยือนไม่มีทีท่าจะหวั่นอะไรกองทัพของเขาด้วยซ้ำ“มั่นใจขนาดนี้แปลว่าสั่งคนล้อมพวกกูไว้แล้วสินะ”“อยากรู้ไม่ให้คนไปดูวะ”“เห็นด้
@ โกดังร้าง ท่าเรือ X“ดี! ก็ให้มันรู้ไปว่าพวก Dark shadow จะเปิดหน้าสู้กับกูตรงๆไหม ฮ่าๆๆๆ”เสียงคาร์เตอร์หัวเราะลั่นโกดังอย่างชอบใจ ก่อนจะมองสภาพหมดสติเพราะถูกทำให้สลบอย่างไม่ทันตั้งตัวของเฟรย่าและฟาเดียที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล“อีนี่ใช่ไหมที่สั่งระเบิดโกดังเก็บยากู!”ฝ่ามือหยาบกระด้างของคาร์เตอร์จิกผมเฟรย่าขึ้นมาจ้องแล้วสะบัดออกอย่างหัวเสีย ก่อนจะใช้อีกมือบีบแก้มฟาเดียขึ้นมาอย่างเคียดแค้น“ส่วนอีนี่ อีตัวดีที่เอาเงินกูไปงั้นสิ”เพี๊ยะ!พูดจบคาร์เตอร์ก็ใช้หลังมือตบเรียกสติฟาเดียจนสะดุ้งตื่น สิ่งแรกที่เธอทำ คือกวาดสายตามองหาเฟรย่าที่เจ็บหนักกว่า เพราะจำได้ว่ากระสุนสาดเข้ากระจกฝั่งนั้นเต็มๆ“พี่เฟรย์! พี่เฟรย์เป็นไรมากรึปะ...”“หุบปาก! เงินกูอยู่ไหน!”ไม่เว้นช่วงให้ฟาเดียพูดจบประโยคด้วยซ้ำ คาร์เตอร์ก็ตรงเข้ามาบีบคอเธออย่างคาดคั้น“เงินอะไร”“มึงอย่าทำเป็นไม่รู้”จริงอย่างที่คาร์เตอร์พูด ฟาเดียรู้ว่ามันคือเงินซื้อขายยาเสพติดระหว่างคาร์เตอร์กับสภา เงินที่เธอถูกพ่อบุญธรรมอย่างท่านเซนจิและเฮย์โซรวมหัวกันโอนเข้าบัญชีตัวเองที่ไม่ได้ใช้งาน และอดีตผู้นำเป็นคนได้ข้อมูลพวกนั้นมาทำให้เธอตาสว่