Episode 16
ซง จุงฮีล
“ไปไหนต่อ” ฮีลถามขึ้นในระหว่างที่เรากำลังขับรถกลับ
“กลับคอนโด แต่หาไรกินก่อน” พอฉันตอบกลับมันก็ไม่ได้ตอบรับ แต่ความเงียบของฮีลก็ทำให้เข้าใจไปเองโดยอัตโนมัติว่ามันต้องพาแวะทานข้าวก่อนแน่ ๆ
“แวะเซเว่นดีกว่า หาอะไรขบเคี้ยวกับมาม่าเกาหลีกิน” วันนี้ฉันไม่ได้อยากกินอะไรเป็นพิเศษนอกจากอาหารขยะ
อารมณ์แบบอยากนอนโง่ ๆ ดูซีรีส์เกาหลีกับกินอะไรอร่อย ๆ ไปด้วยอะ
ช่วงเป็นเมนส์ก็งี้ กินแหลก รอหายก่อนไว้ค่อยลด
เดี๋ยวไอ้ฮีลมันก็ชวนออกกำลังกาย หุหุ
ไม่นานนักฮีลมันก็ตบไฟเลี้ยวแล้วจอดเทียบริมฟุตพาท ฉันจึงลงไปจัดการกวาดขนมขบเคี้ยวและมาม่าเกาหลีมาหนึ่งตะกร้าเบา ๆ
“กินหมด?” คนที่รออยู่ในรถเอ่ยถามพลางมองไปที่ถุงขนมมากมาย ฉันจึงส่ายหน้าเป็นคำตอบ กินไม่หมดหรอก แต่ไม่แน่อาจจะแกะทุกห่อแก้อาการอยากสักหน่อย
หลังจากนั้นเราก็ขับรถกลับคอนโดกัน ในคราแรกฉันกะว่าจะดูซีรีส์เกาหลีฟิน ๆ แล้วบิดตัวอยู่คนเดียว แต่ไม่รู้อีท่าไหน ไอ้ฮีลมันบอกว่าไม่มีไรทำจึงขอมาอยู่ด้วย
อะจ้า เรื่องของมัน
ดังนั้นเมื่อมาถึงฉันก็จัดการให้มันทำมาม่ามาให้ แล้วทานไปด้วยไประหว่างดูซงจุงกิ
“หุ้ยยยยยย คะ…แค่ก ๆ”
“ขอบใจ” ฮีลยื่นแก้วน้ำเปล่ามาให้
เหตุการณ์เมื่อครู่คือฉันสำลักความเผ็ดในระหว่างที่กำลังจะชื่นชมพระเอกอย่างซงจุงกิในซีรีส์เกาหลี คนอะไร โคตรหล่อ! โคตรเท่! โคตรเก่ง! แถมยังไหวพริบดีอีกต่างหาก
หุ้ยยย อีมินนี่อยากมีผัวเป็นทนายมาเฟียเลย
“กินให้หมดก่อนไหม”
“เรื่องของฉัน!”
“ชอบเหรอหน้าแบบนั้นอะ”
“มากกกกก” ฉันหันไปมองมัน ก่อนจะทำหน้าฟินใส่ “ผู้ชายอะไร หล๊อหล่อ เห็นหน้าแล้วฟินจิกหมอนไปเลยจ้า”
“หึ” ฮีลร้องหึในลำคอแล้วขยับตัวมาหาฉัน พร้อมกันนั้นก็สอดแขนเข้ามาโอบเอวเอาไว้
“อะไรของนายเนี่ย!” ช่วงนี้มันลวนลามฉันบ่อยไป
ไม่ได้! ตอนนี้ไม่ได้ เดี๋ยวได้ผ่าไฟแดงอีก
“ไม่ต้องจิกหมอน มาจิกฉันแทน”
“หา!” ฉันร้องหาออกมาอย่างตกใจ ส่วนมันทำหน้านิ่งเหมือนเคย “ฉันจะเป็นซงจุงฮีลให้เธอเอง”
ฮ่า ๆ ฉันละอยากจะขำกร๊ากไปถึงดาวอังคาร
ก็รู้ว่ามันหล่อแต่หน้าตาแบบนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาฉันเลยสักนิด มีอย่างเดียวที่เข้าตาฉันก็คือความใหญ่ของมันนั่นแหละ
“ถามจริง? นี่นายกำลังฝึกเอาไปใช้จีบผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”
“…” อะ มันเงียบ
งั้นคราวนี้ฉันจะถือว่าความเงียบเป็นคำตอบละกัน
“ถ้านายจีบเธอ เราก็คงต้องหยุดเรื่องของเราใช่ไหม” ฉันละสายตาจากซงจุงกิมามองหน้าฮีล เวลาของเราสองคนใกล้จะหมดลงแล้วจริง ๆ สินะ
เฮ้อออ สักวันมันก็ต้องมีวันนั้น
ฉันคงไม่ขอให้มันอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ หรอก เพราะยังไงฮีลมันก็ต้องมีแฟน มีครอบครัวเป็นของตัวเอง
“อือ”
“อีกนานไหม” ฉันกัดปากแน่น มองหน้ามันซึ่งฮีลเองก็ตั้งใจฟังฉันพูดอยู่ “อีกนานไหมที่นายจะรวบรวมความกล้าไปจีบเธอ”
“ไม่รู้”
มันตอบสั้น ๆ ก่อนก้มตัวลงมาประกบจูบฉันอย่างบางเบา จูบแบบทะนุถนอมจนฉันเผลอเคลิบเคลิ้ม ขยับจูบตอบอย่างยาวนาน งับกลีบปากของฮีลไปมาสลับกับขบเม้มไปทั่วเรียวปากกระทั่งเราสองคนผละออกจากกัน
“เผ็ด!” ฉันถอนหายใจ มันก็ต้องเผ็ดสิก็ฉันพึ่งทานมาม่าเกาหลี พูดเลยว่าเผ็ดขนาดที่แสบดากไปสามวันเลยแหละ
“แต่ฉันชอบ” แล้วมันก็ก้มตัวลงมาประกบจูบฉันอีกหน แต่ครั้งนี้เป็นจังหวะที่ร้อนแรงมาก ทั้งรสจูบ ทั้งการสัมผัสที่เริ่มจะลวนลามฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ จนฉันต้องทุบหลังมันอย่างแรง
ปึก!
“ไอ้บ้า! พอเลย ฉันไม่ยอมให้นายผ่าไฟแดงรอบสองหรอก”
เชื่อเลยว่าถ้าฉันหมดเมนส์มันได้ขย้ำฉันทั้งวันทั้งคืนแน่ ๆ ช่วงนี้มันหื่นแรงจริงจัง หื่นเหมือนคนเสพติดการสกินชิปที่จะต้องหาเรื่องลวนลามฉันตลอดเวลาอะ
ไม่ไหวเลยจริง ๆ
“ไงคะ กว่าจะมาเรียนได้”
“อื้อ พอดีไม่รีบจบ” ฉันตอบลูกปลา หลังจากหยุดเรียนไปสามวันติดวันนี้ฉันก็ไปเรียนตามปกติ ความขี้เกียจฉันคงจะอ้างมันไม่ได้ตลอด ฉันยังมีหน้าที่ที่จะต้องทำ แต่ที่ตอบเมื่อกี้ก็แค่ขำขันเท่านั้นแหละ
“จ้า อีคุณหนู อีคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่ต้องเรียน ไม่ต้องทำมาหากิน รวยจนต้องมาสายประจำ” ลูกปลาประชดต่อ อะไรของยัยคนนี้ บ่นเก่งยิ่งกว่าคนแก่ซะอีก
“ไม่สายสักหน่อย รอกันหน่อยก็ไม่ได้จะได้ติดรถมาด้วยไม่ต้องเปลืองน้ำมัน อยู่คอนโดเดียวกันแท้ ๆ” ฉันไหวไหล่แล้วตอบลูกปลา ในเวลาเดียวกันมันก็กระทบลูกพีชไปด้วย
“เมื่อวานลูกพีชกลับไปนอนบ้าน”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรลูกพีชเลย ว่าลูกปลามัน”
“ลูกพีชดูมันดิ ใครจะไปรอได้ ตื่นก็สายแถมยังต้องลุ้นอีกว่ารอแล้วจะเสียเที่ยวหรือเปล่า ขี้เกียจเรียนจริง คิดว่ามีผัวเป็นลูกเจ้าของมหา’ลัย จะทำอะไรก็ได้ไง้!”
ในเวลาเดียวกันคนที่ถูกพาดพิงซึ่งมาสายกว่าฉันก็เดินมาถึง “ไอ้นี่ก็อีกคน พอกันทั้งผัวทั้งเมีย”
ฉันหันไปเบะปากใส่ หมั่นไส้มันเรื่องเมื่อวานมาก จับจนฉันตัวเหลวไปหมดทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าฉันเป็นเมนส์ มาทำให้อยากแล้วก็จากไป
“ไม่นอนนี่เหรอจ๊ะผัวจ๋า”
“ไม่อะ เธอเป็นเมนส์”
“โวะ! ก็เป็นเมนส์แล้วนายจะมาจับทำหอกอะไร ไอ้ซงจุงฮีล ไอ้ผัวบ้า!”
ฉันจำได้ดี เมื่อวานฉันด่ามันไปตั้งหลายประโยค คอยดูเถอะ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างนะ จะเอาให้ผู้ชายหน้านิ่งอย่างมันชักตายไปเลย
หุหุ คงจะสาแก่ใจอีช้อยน่าดู
“ปากเป็นสันนิบาต” ฉันหันขวับไปมองไอดี ไม่ทันจะได้สั่งสอนแสนดีก็ตบป๊าบเข้าให้
ป๊าบ!
“บูลลี่เพื่อนเหรอฮะ”
“เปล่าครับคุณแสนดี แค่รำคาญปากมัน”
“รำคาญมากไหม ปิดตาดิ โวะ!” ฉันทำท่าจะฟาดซ้ำ ไอดีจึงรีบเอนตัวหลบ
“หัวรุนแรงนะเดี๋ยวนี้ โกรธผัวก็อย่ามาลงกับคนอื่นดิ๊!” ไอดีว่าต่อ ฉันจึงหันไปมองไอ้ฮีลแล้วจิ๊ปากใส่มัน
“ไม่ได้โกรธโว้ยยยยย! จะเข้าเรียนไหม สายแล้ว!” ฉันตัดบท หลังจากนั้นทุกคนก็ดีดตัวลุกเก็บข้าวของพร้อมเข้าเรียน
“ทำเป็นกระตือรือร้น”
ป๊าบ! หมั่นไส้ ฉันจึงฟาดหนังสือใส่ซ้ำรอยแสนดีอีกฉาดหนึ่งเมื่อไอดีมันบ่นกระปอดกระแปดไม่หยุด
“เจ็บนะโว้ยยย ถ้าสมองกระทบกระเทือนทำไง” คนโดนตบว่าพลางยกมือลูบหัวตัวเอง
เหอะ หมั่นไส้
“เออ แค่นี้มันยิ่งโง่ ๆ อยู่” แล้วแสนดีก็ซ้ำ
“ได้ข่าวว่าเริ่มก่อน” ฉันเลิกคิ้วถาม แสนดีจึงได้เกาแก้มแก้เก้อคล้ายคนลืมตัว “นั่นดิ ลืมไป แฮร่!”
ฉันส่ายหน้า ถัดจากนั้นก็เดินตามหลังพวกเพื่อนเข้าห้องเรียน
วันนี้ฉันหัวรุนแรงอย่างไอดีว่าจริง ๆ นั่นแหละ แต่ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะคนที่เดินตามหลังฉันอยู่ไง
มันควรต้องแคร์ฉันสักหน่อยไหม จะมาเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ไม่ได้ เรื่องเซ็กซ์ก็เหมือนกัน มันจะมาจับเล่น ๆ ให้อยากในวันที่ฉันเป็นเมนส์ไม่ได้
“อ๊ะ! อะไรเนี่ย! ปล่อย!” ฮีลเข้ามาโอบไหล่ฉัน ก่อนก้มลงมากระซิบข้างหู
“โกรธ?”
“เปล่า!”
“อ๊ะ!” ไอ้ห่านี่! มันจะรุนแรงเกินไปแล้ว พอฉันบอกเปล่ามันก็ผลักฉันชนกับกำแพง
“ฉันไม่ชอบให้นายจับนายลูบแบบเมื่อวานถ้าไม่ได้เอากัน” ฉันถอนหายใจออกมาแล้วบอกความจริง ถ้ายังดื้อดึงไม่ยอมตอบ มันคงได้ล็อกตัวฉันติดกำแพงทั้งวันทั้งคืนแน่ ๆ
“เธออยาก?” ใช่ดิ
“ขี้งอนนะเดี๋ยวนี้” มันว่าต่อ มีการยกมือขึ้นมาปัดผมหน้าม้าให้อีกต่างหาก “งั้นวันนี้ฉันจะให้อม เธอจะได้ไม่ต้องเสียเปรียบ เคนะ?”
“อะ…โอเค เอ๊ย! ไอ้บ้า ไม่โอเค” ฉันแหวใส่ เมื่อกี้เผลอตกลงปลงใจไปได้ยังไงก็ไม่รู้
“หึ” ฮีลร้องหึในลำคอ
มันขำฉันเหรอ เดี๋ยวเถอะ!
“ตลกนักหรือไง เมื่อกี้ฉันแค่ตอบผิด”
“แต่ฉันคิดว่าเธอตอบจากใจ”
“ไอ้บ้า ไม่ใช่!” แต่ในใจลึก ๆ อะเหรอ ฉันแอบคิดว่าของมันก็น่ากินอยู่
“อ้าว ๆ สองผัวเมีย มัวแต่พลอดรักกันอยู่ได้ เข้าเรียน!”
“ปล่อยเลย! ไปเรียนได้แล้ว”
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น