LOGINบทที่ 6 พิษเกรี้ยวโกรธ
หลังจากเซียวอี้หรานกลับไปแล้ว หลี่อวี้เหิงได้กลับมาเศร้าโศกดังเดิม ซูหลิงและซูหมิง เห็นพระชายากลับมามีสีหน้าโศกเศร้าก็อดสงสารไม่ได้ หากพระชายาไม่แต่งงานกับฉินอ๋อง คงไม่ต้องมานั่ง ทุกข์ระทมถึงเพียงนี้.. หลี่อวี้เหิงนั่งใช้ตะเกียบคีบอาหารเข้าปากแค่สองสามคำ ก็วางตะเกียบลง “พระชายาเสวยอีกสักหน่อยเถิดเพคะ” ซูหลิงพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง หมู่นี้พระชายากินน้อยจนน่าใจหาย “ข้าอิ่มแล้ว..พวกเจ้ายกออกไปเถอะข้าอยากพักผ่อน..” ซูหลิงได้ยินเช่นนั้นก็ได้ถอนหายใจเบาๆ และยกถาดอาหารออกไป ซูหมิงจึงเตรียมอ่างน้ำไว้ให้เขาบ้วนปากก่อนจะเดินออกไปก็ไม่ลืมเตรียมน้ำให้เขาอาบ หลังจากที่ชำระกายเสร็จเข้าก็รีบดับตะเกียงเข้านอนทันที .... ยาวซวี 19.00 – 21.00 น. ไท่ฉางจวินเดินมาที่เรือนอนของหลี่อวี้เหิง เขาไม่สนใจบ่าวรับใช้ที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงหน้าประตู แต่กลับผลักประตูเข้าไปเองในทันที ภายในห้องโถงเล็กว่างเปล่า จึงเดินอ้อมฉากกั้นไปยังห้องนอน หลี่อวี้เหิงนอนหลับอยู่บนนั้นถึงขนาดกรนออกมาเล็กน้อยอีกด้วย ไท่ฉางจวินเห็นแบบนั้นก็ยิ่งเดือดดาลมากขึ้นไปอีก เหตุใดคนที่เอาแต่ทุกข์ตรมถึงหลับสนิทได้ถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าหลายวันที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะไม่ได้มาเหยียบย่างมาที่เรือนแห่งนี้แต่ก็ได้รับข่าวไม่ขาด แต่ถึงอย่างนั้นก็คิดว่าไม่ได้สลักสำคัญถึงเพียงนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมาด้วยตัวเอง ดูจากหลับสบายขนานี้คงไม่ได้เศร้าโศกสักเท่าใด “ลุกขึ้นมา” ไท่ฉางจวินฉุดเขาลุกขึ้นหลี่อวี้เหิงที่เพิ่งหลับได้ไม่นานก็ปรือตาขึ้น ก่อนจะหย่อนขาลงจากเตียง เผยให้เห็นฝ่าเท้าขาวเนียนเรียวยาว “ท่านอ๋อง มีอะไรหรือขอรับ” “มีอะไรงั้นหรือ เจ้า!! หลี่อวี้เหิง หัดวางตัวให้สมกับเป็นพระชายาเสียบ้าง อย่าได้ทำตัวร่านเยี่ยงชายคณิกาในหอโคมแดง เที่ยวนัดแนะชายอื่นให้มาหา” หลี่อวี้เหิงจากที่งัวเงียอยู่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาทันทีเมื่อจู่ๆ ก็โดนหาเรื่อง “ท่านอ๋อง!! ท่านบ้าหรืออย่างไรถึงได้มาหาเรื่องด่าทอกันเช่นนี้!” “ข้ามิได้ทำดังเช่นท่านว่า หากแต่อี้อ๋องมีเมตตามาเยี่ยมข้าเพราะเสียลูกไปก็เท่านั้น” “เจ้าคงใช้มันเป็นข้ออ้างสินะ ทำตัวให้ดูน่าสงสาร ให้ใครต่อใครคิดว่าพวกข้ารังแกเจ้า” “กระหม่อมหาได้คิดเช่นนั้นไม่ แต่เอาเถอะ ไม่ว่าข้าจะพูดอย่างไรท่านก็ไม่เชื่ออยู่ดี” หลี่อวี้เหิงเชิดหน้าจ้องเขาโดยที่ไม่หลบสายตาเขาแต่น้อย เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเหตุใดจึงต้องยอมด้วยเล่า! “แน่นอนว่าข้าไม่เชื่อคนชั้นต่ำอย่างเจ้า อัครเสนาบดีสอนมาแบบไหนกัน” เพี๊ยะ!! หลี่อวี้เหิงได้ฟังเขากล่าวล้วงถึงบุพการีก็บังเกิดโทสะบ้างแล้ว เขาตบหน้าอีกฝ่ายอย่างแรง ก่อนหน้านี้ไท่ฉางจวินไม่ดูดำดูดีก็แล้วไปเถอะ แต่ตอนนี้ไม่เพียงไม่ถามก็เอาความกับเขาแล้ว “ท่านจะด่าจะว่าข้า ข้าย่อมยอมได้แต่อย่ามาล่วงเกินท่านพ่อของข้า” ไท่ฉางจวินหาได้ยอมให้ใครมาทำเช่นนี้ไม่ เขาคว้าคอหลี่อวี้เหิงอย่างแรง ก่อนจะออกแรงบีบด้วยความลืมตัว “เจ้ากล้าดีอย่างไรมาตบข้า ข้าพูดความจริงทำเป็นรับไม่ได้หรือ เดิมทีข้าคิดว่าจะอดทนกับเจ้าอีกสักหน่อยแต่ตอนนี้ข้ากลับคิดว่าเจ้ามีอะไรให้ข้าต้องทำเช่นนั้น” ไท่ฉางจวินยิ้มเยาะก่อนจะพูดต่อด้วยใบหน้าทะมึนตึงอีก “รู้หรือไม่ แค่เจ้ารักษาลูกข้าเอาไว้ไม่ได้ก็มีความผิดแล้ว บัดนี้ยังกล้ามาทำร้ายร่างกายข้าอีก เบื่อจะมีชีวิตแล้วหรือไร” หลี่อวี้เหิงมองเขาสองมือจับมือคนที่บีบคอตนอยู่ แม้ว่าไท่ฉางจวินจะมีความคิดสังหาร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่ร้องขอชีวิต สิ่งที่ไท่ฉางจวินพูดมามันทำให้หลี่อวี้เหิงเสียใจยิ่งกว่าเดิมเท่าทวี มือที่จับอยู่จึงปล่อยตกลงไปข้างลำตัว แถมยังหลับตาลงอย่างปลงตก อยากฆ่าก็ฆ่าเถิด ไท่ฉางจวินไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะยอมง่ายเช่นนี้ เขากวาดสายตาไปทั้งดวงหน้า ในใจบังเกิดความรู้สึกหนึ่งขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะขบคิดว่าคืออะไร มือที่เคยบีบคอแน่นก็รีบปล่อยออกไปแล้ว “ข้า....” คำขอโทษติดอยู่ตรงลำคอ ไท่ฉางจวินทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย “แค่ก แค่ก!! อึก” หลี่อวี้เหิงหอบไอจนตัวโยน เขาไม่อยากฟังคำนั้นจากไท่ฉางจวิน จึงผลักอีกฝ่ายออกไปจากเรือนของตนเอง “ออกไปให้พ้นหน้าข้า ไท่ฉางจวินข้าเกลียดท่าน!!” ร่างสูงยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย ในใจมีความรู้สึกผิด และรู้ตัวว่าทำรุนแรงกับพระชายาของตนเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังปลอบใจตัวเองว่า ‘เดิมทีเรื่องนี้เขาไม่ผิด’ คิดได้ดังนั้นจึงเงยหน้าขึ้นก่อนจะตะโกนอยู่ที่หน้าประตู “เกลียดข้าก็เรื่องของเจ้า แต่อย่าเที่ยวไปหว่านเสน่ห์ใส่ชายใดอีก จงอย่าลืมว่าตัวเองเป็นใคร มันจะพานให้จวนของข้าเสียเกียรติไปด้วยเอา” วันต่อมาหลังจากที่หลี่อวี้หมิงกลับจากว่าราชการช่วงเช้า เขาก็รุดหน้าไปเยี่ยมน้องชายที่จวนอ๋อง เดิมทีเขาอยากจะมาหลายวันแล้วแต่ราชกิจในกององครักษ์เสื้อแพรยุ่งมาก เขาที่เป็นถึงผู้บัญชาการหน่วยจึงไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้ หลี่อวี้เหิงรับรองเขาที่เรือนด้านข้างของตนเอง หลี่อวี้หมิงเห็นใบหน้าน้องชายซีดเซียวลำคอระหงมีรอยช้ำขึ้นมา เขาก็บังเกิดความไม่สบายใจ ก่อนจะรู้ว่ามีอะไรผิดปกติ “เจ้าแท้งบุตรหรือ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” เดิมทีสองพี่น้องไม่มีเรื่องใดที่พูดกันไม่ได้ หลี่อวี้หมิง จึงถามออกไปตรง ๆ หลี่อวี้เหิงได้ฟังก็เริ่มจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “พี่ใหญ่..” หลี่อวี้เหิงร้องไห้โฮออกมา ผู้เป็นพี่ชายอย่างเขาจึงรีบดึงน้องชายเข้ามาลูบหัวกอดปลอบ “แล้วฉินอ๋องว่าอย่างไร” หลี่อวี้เหิงไม่ตอบคำ แต่หลี่อวี้หมิงก็พอจะเดาได้ เขาจึงบังเกิดอารมณ์โมโหในทันที “เจ้าอ๋องสุนัข!!” เขาปลอบน้องชายไปด่าไป “น้องพี่ ข้าว่าเจ้าไม่จำเป็นต้องทนอยู่ที่แห่งนี้แล้ว ในเมื่อฉินอ๋องดูแลเจ้าไม่ดีก็กลับบ้านของเรากันเถอะ” ในขณะที่หลี่อวี้หมิงกำลังพูดอยู่นั้น ไม่รู้เลยว่าไท่ฉางจวินได้ยืนอยู่ที่นอกเรือนนานแล้ว ไช่เสี่ยวเหมิงเพิ่งไปแจ้งเข้าว่าพี่ชายของพระชายามาเยี่ยม เขาจึงรีบรุดหน้ามาเพราะรักษามารยาท ไม่คิดเลยว่าพวกต่ำช้าพวกนี้จะด่าเขาลับหลัง กำลังจะเข้าไปแสดงตัว แต่ประโยคต่อมาของหลี่อวี้เหิงทำเอาเขาโมโหจนไม่อยากจะฟังต่อเสียก่อน ‘เจ้าอยากไปก็ไปเสียสิ ใครอยากให้เจ้าอยู่กัน’ พึมพำกับตัวเองก็สะบัดแขนเสื้อจากไปในทันที กลับมาที่ทั้งสองคน หลี่อวี้หมิงบอกยังคงเกลี่ยกล่อมแต่หลี่อวี้เหิงกลับส่ายศีรษะก่อนจะตอบ “ทำเช่นนั้นไม่ได้พี่ใหญ่ก็รู้ หากข้าตัดสินใจโดยพลการ อาจทำให้ทั้งตระกูลต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งท่านพ่อกับท่านแม่ต้องมาเสียใจและผิดหวังในตัวข้า” “แต่เจ้าอยู่ที่นี่ไม่มีความสุขพี่ก็ไม่ว่างใจ เรื่องพวกนี้เจ้าไม่ต้องกังวลไป ข้าจะพูดกับท่านพ่อท่านแม่ให้เอง” “ขอบคุณพี่ใหญ่ แต่ข้ายังทนไหว เดิมทีแม้ข้ากับท่านอ๋องจะไม่ได้รักใคร่กัน แต่ถึงวันนี้เขาก็ยังไม่ได้เอาใครมาแย่งชิงตำแหน่งพระชายาไปจากข้า” “น้องพี่ ถึงแม้จะไม่แย่งในตอนนี้ก็ใช่ว่าภายหน้าจะไม่แย่งกับเจ้า อีกอย่าง ถ้าเขาเห็นแก่หน้าพระชายาอย่างเจ้า แล้วเขาจะเอาสตรีอื่นเข้ามาอยู่ในจวนหรือ ไม่แน่ว่าตำแหน่งชายารองคงอีกไม่ไกลแล้ว” สิ้นคำของพี่ชายหลี่อวี้เหิงก็มีใบหน้าสลดลง เรื่องนี้ไม่ใช่เขาไม่รู้ ไม่ใช่ว่าเขาดูไม่ออก แต่เพราะคิดว่ามันยังมาไม่ถึงก็เลยพยายามไม่ติดใจ “น้องพี่ เมื่อนั้นเจ้าจะไม่ยิ่งขมขื่นหรือยังไง” “พี่ใหญ่ ท่านเลี้ยงข้ามาตั้งแต่เล็ก ๆ ก็น่าจะรู้นิสัยของข้าดีกว่าใคร ท่านคิดจริง ๆ หรือว่าข้าเป็นคนใจดีปานนั้น” หลี่อวี้หมิงได้ฟังก็หยักยิ้มมุมปาก ชายหนุ่มมองตาก็รู้ว่าน้องชายจะต้องมีแผนการอะไรในใจอย่างแน่นอน เขาจึงไม่พูดถึงอีกแต่กลับจับมือน้องมาบีบเบา ๆ แล้วบอกว่า “ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรพี่ใหญ่คนนี้พร้อมจะสนับสนุนเจ้าเสมอ มีอะไรให้ช่วยก็ให้บ่าวไปแจ้งกับข้า” “ขอบคุณพี่ใหญ่ ในโลกใบนี้ก็มีแต่ท่านกับท่านแม่ที่ดีกับข้ามาก แต่ต่อไปนี้ท่านไม่ต้องกังวลข้าสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดี ไม่ให้ท่านต้องเป็นห่วงอีก” อีกหลายวันต่อมาไท่ฉางจวินเดินไปเดินมาในห้องหนังสือของตนเองอย่างคิดไม่ตก เขาอยากทูลขอไท่ฉางจิ้งเรื่องแต่งชายารองแต่กลับไม่รู้ว่าจะกราบทูลอย่างไร เวลาก็กระชั้นเข้ามาเรื่อย ๆ ก่อนหน้านี้จำต้องโกหกเว่ยหนิงจื่อว่ากราบทูลไปเรียบร้อยแล้วก็เพราะไม่อยากให้นางเสียใจ บัดนี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้วหากไม่มีอะไรคืบหน้านางจะต้องเสียอีกเป็นแน่ เดี๋ยวจะหาว่าตนเองไม่รักนางถึงได้ปล่อยปละละเลยเช่นนี้ ไม่ได้การ เขาคิดว่าจะต้องหาคนช่วย แล้วหนึ่งในนั้นก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากหลี่อวี้เหิง ตั้งแต่อีกฝ่ายตบแต่งเข้ามาในจวนอ๋อง การดูแลเรื่องในจวนก็ไม่ขาดตก แถมตอนที่พาไปเข้าเฝ้าเสด็จแม่ครั้งก่อน พระนางซีกุ้ยเฟยยังชมเขาว่างดงาม กิริยามารยาทดีไม่ขาดปาก หากตนให้หลี่อวี้เหิงไปทูลขอเสด็จแม่ แบบนั้นเสด็จแม่คงเห็นแก่หน้าลูกสะใภ้อยู่บ้าง เดิมทีเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีอะไรไม่เหมาะสม เพราะอีกฝ่ายก็เป็นถึงพระชายาเอก การทูลขอให้สามีรับชายารองก็เป็นเรื่องสมควร อีกทั้งไม่เป็นการไม่ไว้หน้าอัครเสนาบดีหลี่ เพราะบุตรชายของตนเองเป็นคนพูดด้วยตนเอง เพียงเท่านี้ก็ราบรื่น ไม่ได้ล่วงเกินใครแล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงรีบไปหาหลี่อวี้เหิงที่เรือนในทันที ภายในเรือนตกอยู่ในความเงียบในทันทีที่ไท่ฉางจวินพูดจบ หลี่อวี้เหิงยกน้ำชาขึ้นดื่ม ร่างสูงเห็นเช่นนั้นจึงร้อนใจ แต่ก็ต้องอดทนอดกลั้นเอาไว้ “ท่านอยากให้ข้าช่วยพูดกับซีกุ้ยเฟยหรือ” “อืม เดิมทีข้าทูลเรื่องนี้กับเสด็จแม่ แต่เสด็จแม่กลับเห็นแก่หน้าเจ้า เช่นนั้นเจ้าก็ไปช่วยข้าพูดด้วยตัวเองเถิด” หลี่อวี้เหิงยิ้มมุมปาก ก่อนจะตอบ “ได้ ข้ารับปาก” “ดี..” ไท่ฉางจวินยังไม่ทันดีใจหลี่อวี้เหิงกลับพูดต่อ “แต่ท่านต้องส่งคุณหนูเว่ยกลับจวนของนางไปก่อน” “เหตุใด” “เหตุผลที่ซีกุ้ยเฟยไม่ยินยอมก็เพราะเห็นแก่หน้าข้ามิใช่หรือ เช่นนั้นถ้ายังให้นางรั้งอยู่จะไม่เป็นการแสดงว่าพวกท่านไม่ให้เกียรติข้าหรอกหรือ แค่ให้นางกลับไปก่อนชั่วคราวเท่านั้น แค่นี้ซีกุ้ยเฟยก็จะยกมาเป็นข้ออ้างไม่ได้แล้ว” ไท่ฉางจวินได้ฟังก็เห็นด้วยกับคำพูดของพระชายา ร่างสูงจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง “เช่นนั้นข้าจะไปบอกให้เว่ยหนิงจื่อกลับจวนเดี๋ยวนี้เลย” หลังจากที่ไท่ฉางจวินลุกไป หลี่อวี้เหิงก็เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา นี่เขาจะบีบข้าออกหน้าอย่างนั้นรึ ......บทที่ 32 สัมฤทธิ์ผลไท่ฉางจวินพาครอบครัวล่องเรือกลับเมืองหลวง ไท่อวี้หลินกับไท่ฉางชุนดูตื่นเต้นและมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาชี้ชมทิวทัศน์รอบตัวที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ น้ำใสสะท้อนแสงแดดระยิบระยับราวกับภาพวาด ขณะที่ภูเขาและท้องฟ้ากว้างใหญ่โอบล้อมพวกเขาไว้“ท่านพ่อ! ท่านแม่! พวกเราชอบมาเที่ยวแบบนี้มากเลย!” ไท่อวี้หลินกับไท่ฉางชุนพูดอย่างตื่นเต้น ยิ้มแย้มพร้อมเสียงหัวเราะสดใสไท่ฉางจวินหันมามองลูกๆ ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ถ้าพวกเจ้าชอบ พ่อจะพามาเที่ยวแบบนี้บ่อย ๆ” เขาสัญญาด้วยน้ำเสียงอบอุ่น หลี่อวี้เหิงยืนมองเด็ก ๆ ทั้งสองด้วยสายตาเปี่ยมไปด้วยความรักและความสุข เขายิ้มบาง ๆ สายลมเย็นพัดผ่าน เสียงน้ำกระทบเรือเบา ๆ ขณะที่พวกเขาล่องเรือผ่านผืนน้ำไหลเอื่อย เหมือนเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สงบและงดงามเมื่อเรือลอยลำเข้าใกล้เมืองท่าเรือ บ้านเดิมของหลี่อวี้เหิงปรากฏอยู่ในสายตา ริมชายฝั่งมีบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งอยู่เรียงราย สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและคุ้นเคย ทำให้หลี่อวี้เหิงรู้สึกทั้งตื่นเต้นและวิตกกังวลในเวลาเดียวกัน“ท่านพี่ ทำไมเราถึงแวะที่นี่หรือ”หลี่อวี้เหิ
บทที่ 31 ไม่ลดละเวลาผ่านไปสองปี ไท่ฉางจวินยังคงพยายามตามง้อภรรยาอย่างไม่ลดละ หลี่อวี้เหิงเองก็เริ่มเปิดใจให้เขามาอยู่ใกล้ลูก ๆ ได้มากขึ้น ทุกครั้งที่ร่างบางเห็นไท่ฉางจวินเล่นกับลูกน้อย หลี่อวี้เหิงก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความสุขที่มีในครอบครัว แต่ถึงอย่างนั้นในใจก็จะยังมีความวิตกกังวลแอบแฝงอยู่บ้างหลี่อวี้เหิงยืนอยู่ห่าง ๆ มองดูฉากตรงหน้า ด้วยแววตาที่มีความสุขปนเศร้า เขารู้สึกดีใจที่ไท่ฉางจวินกลับมารักลูก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้สึกถึงความหวั่นไหวในหัวใจด้วยเช่นกัน ยังไม่กล้าเปิดใจแม้จะเห็นถึงความพยายามของอีกฝ่าย เพราะกลัวว่าความรู้สึกดี ๆ นี้อาจจะกลับกลายเป็นความเจ็บปวดอีกครั้ง“เขาจะเปลี่ยนไปได้จริง ๆ นะหรือ?”หลี่อวี้เหิงคิดในใจ ขณะที่แอบมองไท่ฉางจวินที่กำลังเล่นกับลูก ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยนวันหนึ่งขณะที่ไท่ฉางชุนและไท่อวี้หลินกำลังนั่งฟังไท่ฉางจวินเล่านิทานใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้าน เสียงหัวเราะใส ๆ ของพวกเขาก็ดังขึ้นไม่หยุด ชายหนุ่มมักเล่าเรื่องสนุก ๆ แต่แฝงไปด้วยข้อคิดดี ๆ “ท่านพ่อ พวกเราชอบฟังเรื่องของท่านมาก!” ลูกคนโตพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “จริงหรือ?” ไท่ฉางจวินยิ้มบาง “พ่อดีใจที่พว
บทที่ 30 เฝ้าบุปผางามหลังจากที่ทุกอย่างคลี่คลาย ไท่ฉางจวินถูกเฮ่อหลานซีเรียกตัวไปเข้าเฝ้า พระสนมซีมองบุตรชายที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย แต่ก็เต็มไปด้วยความหวัง“ไท่ฉางจวิน.... เจ้ารู้ตัวหรือไม่ ว่าสิ่งที่เจ้าทำกับหลี่อวี้เหิงและลูก ๆ นั้นสร้างบาดแผลใหญ่หลวงเพียงใด?”ไท่ฉางจวินโขลกศีรษะอย่างสำนึกผิด “กระหม่อมรู้ตัวแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อม... หน้ามืดตามัว เข้าข้างเว่ยหนิงจื่อมากเกินไป จนทำให้พระชายาและลูก ๆ ต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่แปลกที่หลี่อวี้เหิงจะเกลียดกระหม่อม...”เฮ่อหลานซีถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยว่า “เจ้าได้ทำผิดพลาดไปแล้ว แต่หากยังต้องการใช้ชีวิตคู่กับหลี่อวี้เหิงและลูก ๆ เจ้าต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจ พยายามง้อขอคืนดี หากเจ้ายังรักเขาและลูกอยู่ จงใช้ความพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้พวกเขากลับมา”ไท่ฉางจวินเงยหน้าขึ้น สายตาของเขาฉายแววความมุ่งมั่น “กระหม่อมจะทำเช่นนั้นพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไม่ยอมแพ้อย่างเ็ดขาด จะตามไปคืนดีให้จงได้”เฮ่อหลานซีพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวเพิ่มเติม “เช่นนั้นเจ้าจงไปตามเมียและลูกกลับมาให้จงได้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าได้ไปตามตอแยเขาอีก”ร่างสูงคุกเข่า
บทที่ 29 ความอัปยศที่รออยู่ไท่ฉางจวินพักรักษาตัวอยู่ที่ชายแดนเหนือ หลังจากที่เขาฟื้นตัว ก็พบว่าตนเองไม่ได้อยู่ในจวนของเซียวอี้หรานอีกต่อไป แต่กลับถูกย้ายออกมาอยู่ในบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ห่างออกมาจากตัวจวน แม้เขาจะไม่ได้อยู่ใกล้ชิดกับหลี่อวี้เหิงเหมือนก่อน แต่ไท่ฉางจวินก็ไม่คิดจะถอดใจ อีกฝ่ายอยากจะหย่าก็หย่าไปแต่เขาจะไม่หย่า แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไร ข่าวที่ให้องครักษ์ไปสืบมาเมื่อคราวก่อนก็ส่งมยังเขาอย่างเงียบเชียบ “ท่านอ๋อง ข้ามีข่าวมาแจ้ง” องครักษ์กล่าวพร้อมก้มศีรษะอย่างนอบน้อม “หลังจากสืบสวนและติดตามเบาะแส เราพบว่ามีกลุ่มคนลึกลับที่เกี่ยวข้องกับการลอบทำร้ายลูก ๆ ของพระองค์ พวกเขาเชื่อมโยงกับพระสนมเว่ยและรับคำสั่งจากนางโดยตรง”ไท่ฉางจวินได้ยินเช่นนั้นก็เกิดความโกรธเกรี้ยว “เว่ยหนิงจื่อเป็นคนสั่งการจริงหรือ?”“ขอรับ หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่นาง พวกเราพบว่ามีการว่าจ้างนักฆ่าและการวางแผนอย่างละเอียดจากนางเพื่อจัดการกับลูก ๆ ของพระองค์”ไท่ฉางจวินกัดฟันแน่น เขารู้สึกทั้งโกรธและเสียใจที่คนที่เขาเคยเชื่อใจกล้าทำเรื่องเช่นนี้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่าเขาต้องเผชิญกับความจริง“ข้าจะไม่ยอมให้เร
บทที่ 28 เงาของความเจ็บปวดหลี่อวี้เหิงเดินทางไปหาลูก ๆ ที่ชายแดน แต่ระหว่างทางที่เขาผ่านเข้าไปในป่าเขียวขจี ความสงบที่ควรจะมีกลับถูกทำลายด้วยเสียงคำรามของคนร้ายที่ซุ่มอยู่ในเงามืด ทันใดนั้นเองมีเสียงขยับจากพุ่มไม้ข้างทาง ตามด้วยเสียงตะโกนจากองครักษ์ที่เซียวอี้หรานส่งมาคุ้มกัน “ระวัง!” เสียงตะโกนจากองครักษ์ดังขึ้น ขณะที่คนร้ายพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว หลี่อวี้เหิงรู้สึกตื่นตระหนก แต่ก็พยายามตั้งสติให้ดี เขาไม่ใช่ผู้ที่มีทักษะด้านการต่อสู้ จึงพยายามหลบเลี่ยงการโจมตีอย่างเต็มที่“ปกป้องคุณชาย!” องครักษ์ที่เหลืออยู่พยายามพุ่งเข้ามาขวาง เพื่อปกป้องหลี่อวี้เหิง แต่จำนวนของคนร้ายมากกว่าจึงทำให้การต่อสู้เต็มไปด้วยความโกลาหล องครักษ์หลายคนถูกทำร้ายจนบาดเจ็บเสียงดาบกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณ ความวุ่นวายเกิดขึ้นข้างกาย ขณะที่หลี่อวี้เหิงได้แต่แอบยืนอยู่ข้างหลังองครักษ์คนหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกรงกลัวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น “อย่าห่วงข้า!” เขาร้องบอกองครักษ์ที่กำลังต่อสู้อย่างดุเดือด “ไปจัดการพวกเขา!”องครักษ์ยังคงตอบโต้อย่างเต็มที่ ทว่าคนร้ายกลับมีจำนวนมากกว่า พวกเขาจึงไม่สามารถทำให้คนร้ายถ
บทที่ 27 ถึงเวลาแก้แค้นหลายวันต่อมา ไท่ฉางจิ้งมีราชโองการส่งถึงไท่ฉางจวิน ให้เขาเดินทางไปแคว้นโจวในฐานะทูตเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างสองแคว้นแทนพระองค์ เมื่อไท่ฉางจวินทราบข่าว ก็รู้สึกไม่สบายใจนักที่จะต้องละทิ้งเรื่องราวในจวน แต่นี่เป็นภารกิจสำคัญที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้จะมีเรื่องราววุ่นวายมากล้นก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างหลี่อวี้เหิงกับเว่ยหนิงจื่อ ซึ่งสถานการณ์ยังคงคาราคาซัง ก่อนออกเดินทาง ไท่ฉางจวินพยายามพูดคุยกับหลี่อวี้เหิงอีกครั้ง แม้รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังไม่ดีขึ้นนัก“ข้าต้องเดินทางไปแคว้นโจวตามพระประสงค์ของเสด็จพ่อ” ไท่ฉางจวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยังคงความจริงจัง“เจ้าต้องรอข้ากลับมา อย่าได้ทำอะไรเกินไปกว่านี้”หลี่อวี้เหิงฟังด้วยสายตาเย็นชา ไม่แม้แต่จะตอบกลับ เขามองไท่ฉางจวินด้วยความไม่ไว้วางใจเหมือนเดิม“ท่านขังข้าเช่นนี้จะยังทำอะไรได้อีกหรือ”“เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าออกมานอกเรือนได้ แต่ห้ามออกจากจวน ดีหรือไม่”ไท่ฉางจวินกล่าวอย่างประณีประนอมเพราะหลายวันที่ถูกขังหลี่อวี้เหิงไม่ได้พยายามหนีหลังจากที่ไท่ฉางจวินออกเดินทางไปแคว้นโจว หลี่อวี้เหิงตัดสินใจเด็ดขาดที่จะจัดการ





![ผมไม่ได้ยั่ว เสี่ยต่างหากที่ห้ามใจไม่ได้[Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

