My engineer เกียร์ล็อคกาวน์

My engineer เกียร์ล็อคกาวน์

last updateLast Updated : 2025-04-01
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
53Chapters
3.0Kviews
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

พอ.เอาความโกรธแค้นพี่ชายนอ.ทั้งหมดที่เคยทำไว้กับเขา มาลงกับคนเป็นน้องสาว นั่นก็คือนอ.ด้วยการหลอกบังคับให้นอ.เป็นแฟนหลอกให้รัก และจับนอ.จ้ำจี้จนได้นอ.ตามที่ได้วางแผนเอาไว้ แต่กลับหลงรักนอ.เข้าให้ เมื่อนอ.รู้ความจริงว่าพอ.มาหลอกจึงบอกเลิกและให้พอ.ออกไปจากชีวิต พอ.เลยโบ้หนักมากเพราะง้อยังไงนอ.ก็ไม่ยอมเข้าใจ แถมยังเอาผช.คนใหม่มาเย้ยอีกนี่สิมันยิ่งเจ็บกว่า สปอย นอ.แอบได้ยินพี่ชายทะเลาะกับพอ.เกี่ยวกับเรื่องของตัวเองจึงรู้ความจริงทั้งหมดว่าพอ.แค่มาหลอก นอ.จึงบอกเลิกกับพอ.ท้นที "เมื่อสาแก่ใจของนายแล้ว ต่อไปก็อย่ามายุ่งกับฉันอีก ในเมื่อทุกอย่างที่นายทำลงไป มันก็แค่ระบายความไค.ร่กับผู้หญิงไร้ค่.าที่น่าขย ะแข ยง นายแสดงได้เหมือนจริงจนฉันเชื่อสนิทใจ ฉันจะทิ้งทุกอย่างไว้ที่นี่ และตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป ฉันและนาย...เรา...ขาดกัน!...ล่าก่อน...ตองเก้า ” “อันนา!...”

View More

Chapter 1

มือใหม่

{Unna part}

ปัง!...ปัง!..ปัง!

“ อันนา!..อันนาตื่นสิวะ ” 

เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นติดๆ กันหลายครั้ง อีกทั้งยังมีเสียงตะโกนเรียกชื่อฉันถี่ๆ ดังตามมาอีกรัวๆ นั่นบ่งบอกถึงลักษณะนิสัยห่ามๆ ของเจ้าตัวเขาได้ และมันก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นอกเสียจากพี่ชายตัวดีของฉัน...ที่มีชื่อว่า อุลตร้า

“ อันนา!..”

“ มีอะไรกับฉันเหรอพี่อุล ” ฉันถามพี่ชายกลับไปด้วยน้ำเสียงติดจะงัวเงีย

เพราะรู้สึกเสียอารมณ์ผสมกับความหงุดหงิด ฉันจึงขยุ้มผ้าห่มขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้าง อย่างที่ไม่ต้องการจะรับรู้อะไรทั้งนั้น

จะไม่ให้หงุดหงิดได้อย่างไรกัน ในเมื่อฉันเพิ่งจะล้มตัวลงนอน ไปได้แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แล้วยังกล้ามาทุบประตูห้องของฉันจนแทบพัง

“ แกไม่ได้ฟังรายงานวิทยุจากศูนย์หรือไงฮะ ว่าตรงสี่แยกไฟแดงถนนราชภัฐเกิดอุบัติเหตุน่ะ ศูนย์ได้รายงานเข้ามาว่ามีรถเก๋งชนกับเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างทาง  และตอนนี้เขากำลังต้องการเครื่องตัดถ่าง เพราะมีคนติดอยู่ภายในแล้วออกมาไม่ได้ แกรีบตื่นขึ้นมาช่วยพี่ยกมันใส่รถของเราทีเถอะ”

เมื่อได้ฟังดังนั้น ฉันจึงรีบพาตัวเองลงมาจากที่นอน ก่อนจะคว้าชุดหมีกู้ภัยมาสวมใส่ทับเสื้อตัวใน ขณะตะโกนบอกพี่ชายเสียงดังพอกันกลับไปว่า

“ ฉันตื่นแล้ว แต่พี่รอฉันเดี๋ยวนะ ”

ฉันเหลือบตามองนาฬิกาที่ข้างหัวนอน ซึ่งมันได้บ่งบอกเอาไว้ว่าตอนนี้คือเวลาตีสองกว่าๆ และฉันก็เพิ่งจะกลับมาจากงานเลี้ยงฉลอง รับน้องปีหนึ่งของคณะแพทย์ ที่ตัวเองพึ่งจะสอบเข้ามาได้ไม่นานเท่าไหร่ ถึงนอนหลับลึกจนไม่รู้สึกตัวได้ขนาดนี้ อีกทั้งยังไม่ได้ยินเสียงรายงาน ที่ดังมาจากวิทยุสื่อสาร จากทางศูนย์ของมูลนิธิ ที่ฉัน พ่อ และพี่ชายได้สังกัดอยู่

ครอบครัวของเราชอบช่วยเหลือผู้อื่น ด้วยการเป็นจิตอาสากู้ภัย อยู่ในสังกัดมูลนิธิ เพชรมรกต

ฉันยังอยู่ในช่วงฝึกงาน จึงมีรหัสขึ้นวิทยุประจำตัวว่า มรกต 013 ส่วนคนเป็นพี่ชายมีรหัสเรียกขานว่ามรกต 316

ฉันเป็นอาสาฝึกหัดที่ยังไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นรหัสของฉันจึงมีศูนย์นำหน้า

ด้วยความที่ไฝ่ฝันเอาไว้ว่าฉันอยากจะเป็นหมอ ฉันจึงขอพ่อและแม่เข้ามาฝึกใจ กับการที่จะได้เห็นคนเจ็บและคนตายในหลายๆ รูปแบบ

เครื่องตัดถ่างคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดถ่าง เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะที่ยังติดอยู่ภายใน และไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยต้วเอง ประโยชน์ที่ใช้งานของมัน ก็คือชื่อที่มีความหมายตรงตัวเลยนั่นแหละ

“ อันนา แกช่วยพี่ออกแรงยกให้มันมากกว่านี้หน่อยสิวะ ”

“ ฉันเป็นผู้หญิงนะพี่  แล้วทีลูกข่ายคนอื่นๆ ทำไมถึงไม่มาช่วยกันบ้าง หายหัวกันไปไหนหมด”

ฉันอดเถียงพี่ชายกลับไปไม่ได้ เพราะเครื่องตัดถ่างมันมีขนาดใหญ่และค่อนข้างหนักมาก ฉันเองก็อยากช่วยคนเหมือนกันนั่นแหละ แต่แรงของฉันมันก็มีอยู่แค่นี้ ไม่ได้ออมแรงเหมือนกับที่กำลัง ถูกเขากล่าวหาออกมานั่นเลยสักหน่อย

“เออๆ ถ้าแกรู้ว่าแรงน้อย ก็ไม่ต้องพูดมากได้มั้ยวะ? เขาไปงานเปิดมูลนิธิเพชรน้ำหนึ่งกันนะสิ..เราอยู่ เราก็ทำเท่าที่เราทำได้ อย่ามัวแต่บ่นเป็นยายแก่ได้มั้ยวะ เสียเวลาว่ะ”

พี่อุลต้าว่าฉันบ่นแต่ตัวเองก็ไม่เบาเท่าไหร่ ซึ่งความจริงมันก็น่าจะแบ่งกันไปงาน เพราะเวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทีไร คนก็มักจะมีไม่พอที่จะเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังดึงเวลาให้ช้าเข้าไปอีก

เมื่อช่วยกันยกเครื่องตัดถ่างขึ้นมาได้ พี่ชายของฉันมันก็เหยียบรถจนแทบจะหมดไมล์

“ จะรีบไปตายหรือไงฮะ? พี่จะต้องให้ฉันคอยบอก จนปากฉีกไปเลยใช่มั้ย? ”

ฉันว่าพร้อมกับเหล่ตามองเลขไมล์ที่ขึ้นไปถึงร้อยยี่สิบ และมันยังคงกระดิกต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสุดความเร็วของรถที่มี

“ แกเป็นแม่ฉันหรือไงฮะ? ฉันก็จะรีบไปช่วยคนเจ็บน่ะสิ ” ปากพูด ตาค้อน แต่เท้าไม่ได้เบาคันเร่งลงเลยสักนิด

“ คิดบ้างสิพี่อุล ว่าตัวเราก็ต้องปลอดภัยเอาไว้ก่อน ประเมินความเสี่ยงน่ะเป็นไหม ขับรถเร็วขนาดนี้ถ้าเกิดอุบัติเหตุเอง อาจจะมีคนสมน้ำหน้าเอาได้ โดยเฉพาะคนที่พี่ไม่ชอบขี้หน้าเขาไง เอาความเร็วที่เราสามารถบังคับรถได้ ก็น่าจะพอแล้วนะพี่ อุจจาระ

ที่ฉันจงใจเน้นชื่อของพี่ชายในตอนท้าย...เพราะอะไรนะเหรอ?...

เพราะความจริงชื่อของพี่ชาย ที่พ่อกับแม่อุตส่าห์ตั้งให้มีชื่อว่า อุลตร้า แต่ในกลุ่มเพื่อนสนิทของพี่ชาย ต่างก็พร้อมใจกันเรียกว่า ไอ้ อุนจิ ซึ่งมันแปลว่าขี้ญี่ปุ่น ที่มีความหมายตรงตัวเลยนั่นแหละ   

“ อันนา!ถ้าแกไม่ใช่น้องฉันนะ..ฮื่มมม ”

พี่อุลตร้าว่าฉัน ก่อนจะเบาคันเร่งลงมาอยู่ในระดับปกติ จากนั้นจึงหันมาถลึงตาใส่ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรฉันได้             

“ฉันเตือนพี่เพราะความหวังดีหรอกน่า...ไม่อยากให้ใครมาหัวเราะเยาะเราทีหลัง แม้เขาจะถึงก่อน แต่ยังไงก็ต้องรอเราอยู่ดี เพราะเครื่องตัดถ่างมันอยู่ที่เรานี่ ”

เครื่องตัดถ่างของจุด อยู่ที่บ้านของฉันเอง เพราะสะดวกในการดูแลรักษา และง่ายต่อการเอาออกเหตุในแต่ละครั้ง

หวอ!ๆ

ต๊อด!ๆ 

เสียงเปิดไฟไซเรนขอทาง จากรถกู้ภัยคันหนึ่งลากยาวมาแต่ไกล    พร้อมกับเสียงบีบแตรไล่เชิงส่งสัญญาณขอทาง ให้รถของพี่ชายของฉันหลบเขา

ฟิ้ววววว!....

และรถคันดังกล่าวที่วิ่งผ่านไป ด้วยความไวปานแสงนั่น มันก็คือรถกู้ภัยของนาย ตองเก้า

"ขับรถไวยังกับจะรีบไปตายที่ไหน! แต่ฉันว่าไอ้คนแบบนี้ มันท่าจะตายยากเนอะพี่..ว่ามั้ย?"

ฉันกร่นด่าก่อนเลื่อนสายตามองเลขไมล์ ที่มันกำลังไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ของพี่ชายตัวดี 

“ พี่อุล!...หยุดเร่งความเร็วเดี๋ยวนี้นะ! ”

ฉันตวาดใส่ พลางจับมือพี่ชายที่กุมพวงมาลัยรถนั่นยึดไว้ แล้วถลึงตาใส่เชิงเตือนพี่ชายด้วยสีหน้าจริงจัง ทั้งอย่างนั้นพี่อุลต้ราก็ยังเถียงฉันกลับมา อย่างไม่คิดจะยอมกัน

“ แกไม่เห็นหรือไงว่าไอ้เก้า มันกำลังบีบแตรเย้ยหยันเรา ป่านนี้ไอ้ฝรั่งขี้นกนั่นมันคงกำลังคิดว่าเราช้าเหมือนเต่าอยู่แน่ๆ ”

“ แต่เราอย่าไปใส่ใจ แล้วเอาเรื่องช่วยคนเจ็บหรือคนตายมาต่อรอง และเอามาปนกับเรื่องส่วนตัวของเราสิ ในเมื่อเราต้องการช่วยเหลือคนไม่ใช่หรือไง? ”

ฉันให้เหตุผลซึ่งทำให้พี่อุลตร้าพยักหน้ารับอย่างจำใจ และได้ลดระดับความเร็ว ให้กลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้ง นั่นก็รวมไปถึงอารมณ์ของเจ้าตัวเขาด้วยนั่นแหละ

ตองเก้า เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัว เขาถึงได้เอาแต่ใจตัวเองมาตั้งแต่เด็ก

ที่พี่อุลตร้าเรียกเขาว่าฝรั่งขี้นก เพราะว่าพ่อของตองเก้าเป็นลูกครึ่ง ซึ่งเรื่องนี้คนเป็นพี่ชาย ได้เล่าให้ฉันฟังแค่เพียงคร่าวๆ

ดังนั้นตองเก้าจึงมีหน้าตา กระเดียดไปทางลูกครึ่งลูกเสี้ยวทั่วไป ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแต่ทว่าร้ายกาจ แบบที่ไม่ขาดอะไรเลยสักอย่าง กระทั่งรูปร่างของเขาก็ยังสูงโปร่งและผิวขาว เพราะอย่างนี้นี่เล่าพี่ชายของฉัน ถึงได้ไม่ชอบขี้หน้า หรือว่าอาจอิจฉานายนั่น อันนี้ฉันก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน

{End part Unna}

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
53 Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status