รามสูร พิสิฐกุลวัตรดิลก ลูกชายคนโตของแก้มใสคุณแม่สายเฟียร์ส ผู้ชายเจ้าเล่ห์และแสนเย็นชาที่วันหนึ่งต้องเปลี่ยนจากถือปืนมาถือขวดนม เพราะความเฟียร์สที่ถูกถ่ายทอดมาจากมารดาทำให้รามสูรเกลียดการท้าทายเป็นที่สุด ดื่มเหล้าอะงานถนัดแต่ดื่มจนเมาและเผลอไปมี One Night กับคู่อรินี่น่ะสิ ที่ทำให้ชีวิตของรามสูรต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล จากมาเฟียหน้าโหดเข้าสู่โหมดผัวขี้อ้อน "ใครกล้าแตะเมียกู......มึงตาย" เขา ร้ายกับคนทั้งโลกยกเว้นกับเธอแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เขา เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเมียเด็กอย่างเธอเท่านั้น ม่อนไหม วิจิตรเดชากุลณรงค์ ปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์สาขาเครื่องกล สาวสวยแสนแสบแสนซนที่ต้องเปลี่ยนจากไล่ตีคนมาเป็นคุณแม่ยังสาว ดื่มเหล้าอะเรื่องจิ๊บๆแต่ดื่มจนเมาแล้วเผลอไปมี One Night กับคู่อรินี่น่ะสิ ที่ทำให้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยต้องจบลงอย่างงงๆ จากสาวสวยหน้าโหดเข้าสู่โหมดแมวน้อยขี้อ้อน "ใครกล้าแตะผัวกู...มึงเจอตีน" สวยสะกดตัวแม่คือฉายาของเธอในมหาวิทยาลัย สวยห้าวตีนคือฉายาของเธอที่คู่อริตั้งให้
View MoreRed-Eye PUB
เสียงจังหวะดนตรีสไตล์ EDM ที่ดังขึ้นไปทั่วทั้งผับชื่อดังทำให้ร่างบางของหม่อนไหมอดไม่ได้ที่จะโยกตัวไปตามจังหวะเพลงเบาๆในขณะที่เพื่อนๆในกลุ่มต่างพากันพูดคุยเล่นกันอย่างสนุกสนานพร้อมกับยกแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“ไอ้หม่อนมึงแน่ใจนะว่าวันนี้เฮียรามเขาอยู่เคลียร์งานจนถึงเช้าอะ”
เตยหอมที่นั่งข้างๆหม่อนไหมเอ่ยถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วงเพราะถ้าหากว่ารามสูรเกิดกลับมาที่คอนโดก่อนเวลาที่หม่อนไหมเล่าให้เธอฟังบอกได้คำเดียวเลยว่าเพื่อนของเธอซวยแน่
“แน่ซะยิ่งกว่าแน่อีก เฮียเป็นคนโทรมาบอกกูเองว่าให้เข้านอนได้เลยไม่ต้องรอเพราะวันนี้เฮียติดงานอาจจะไม่ได้กลับ”
หม่อนไหมบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้กำลังตกเป็นเป้าสายตาของใครบางคนๆที่เธอกับเตยหอมกำลังพูดถึงอยู่ รามสูรยกบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างใจเย็นแต่ดวงตาสีดำสนิทกลับลุกวาวอย่างน่ากลัวเมื่อเมียตัวน้อยที่เขาสั่งห้ามไม่ให้เธอออกมาเที่ยวผับอีกเป็นอันขาดกำลังขัดคำสั่งของเขาด้วยการนั่งหัวเราะกับเพื่อนด้วยความสนุกสนาน
วันนี้ที่บริษัทของเขาเกิดปัญหาเมื่อรถรุ่นใหม่ล่าสุดที่มีกำหนดจะเปิดตัวเร็วๆนี้เกิดปัญหาทางด้านขนส่งรวมไปถึงเอกสารที่ผิดพลาดทำให้เขาต้องรีบเข้าบริษัทไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองเมื่อ เขาจึงโทรบอกหม่อนไหมว่าเขาอาจจะกลับถึงคอนโดในช่วงเช้าแต่หลังจากที่เขารื้อเอกสารออกมาดูจนครบทั้งหมดภายในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงปัญหาทุกอย่างก็ถูกแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
ในขณะที่เขาเตรียมตัวจะกลับคอนโดเพื่อไปอ้อนเมียเดลกับลุกซ์ลูกน้องคนสนิทของเขาก็โทรเข้ามาบอกว่าเมียตัวน้อยที่แสนซนแอบนัดให้เพื่อนมารับไปเที่ยวที่ผับประจำของพวกเธอ วินาทีที่ได้ยินประโยคนี้จากปากของลูกน้องกรามของเขาพลันขบเข้าหากันจนเป็นสันนูนนัยน์ตาสีดำสนิทเหมือนมีประกายไฟลุกโชนก่อนที่รามสูรจะรีบออกมาจากบริษัทและตรงมาที่ผับแห่งนี้ทันที
“แล้วถ้าเฮียรามเกิดกลับมาก่อนเวลาที่บอกมึงล่ะ”
เตยหอมยังไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่ายๆเธอยังคงคิดต่อไปว่าถ้าหากรามสูรเสร็จงานก่อนกำหนดและกลับมาที่คอนโดแล้วไม่เจอเพื่อนของเธอล่ะจะเกิดอะไรขึ้น พลันดวงหน้างามที่โดดเด่นไม่แพ้เพื่อนสาวก็ส่ายหน้าไปมาจนผมยาวสลวยกระจายส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณด้วยความรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
เตยหอมจำได้อย่างแม่นยำว่าหม่อนไหมเคยเล่าให้ฟังว่าถ้าหากเธอดื้อกับรามสูรขึ้นมาเมื่อไหร่เขาไม่เคยลงไม้ลงมือกับเธอเลยสักครั้ง แต่เขากลับลากเพื่อนของเธอขึ้นเตียงและลงโทษด้วยการกระแทกด้วยจูบลูบด้วยมือใหญ่และจบลงด้วยท่วงท่าที่แสนเร่าร้อน ซึ่งหม่อนไหมยอมรับกับเตยหอมอย่างตรงไปตรงมาตามนิสัยแมนๆของเธอว่ามันโคตรจะฟินจนแทบไม่อยากจะหลับตาลงเลยล่ะ
คิดมาถึงตรงนี้สาวน้อยที่อายุอานามเพียง 19 ปีและยังไม่เคยมีประสบการณ์รักๆใคร่ๆมาก่อนก็พลันหน้าแดงด้วยความรู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก
“กลับก็กลับมาสิไม่เห็นจะเป็นไรเลยกูก็แค่หนีมาเที่ยวไม่ได้ดื่มเหล้าหรือออกไปเต้นยั่วเยตัวผู้ที่ไหนสักหน่อย ถ้าเฮียจะลงโทษกูเรื่องที่กูแอบหนีเที่ยวก็คงจะดูไร้เหตุผลเกินไปแล้ว”
“ไอ้หม่อนมึงลืมไปหรือเปล่าว่ามึงกำลังทะ ท้อง”
หมับ
มือบางของหม่อนไหมยกขึ้นปิดปากเพื่อนแทบไม่ทันเมื่อความลับที่เธอพยายามปกปิดเอาไว้กำลังจะหลุดออกมาจากปากของเพื่อนสนิทอย่างเตยหอมที่เผลอหลุดปากพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ท่าทีของสองสาวเพื่อนสนิททำให้ธีร์ คินน์ นายน์และเจย์ ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานต่างหันมามองอย่างให้ความสนใจ
“พวกมึงสองคนเป็นเหี้ยไรกัน”
ธีร์เอ่ยถามสองสาวเพื่อนสนิทด้วยความสงสัยก่อนที่หม่อนไหมจะรีบเอามือที่ปิดปากเตยหอมออกทันทีใบหน้าเนียนสวยยามที่ต้องแสงไฟพลันแสร้งยิ้มให้กลุ่มเพื่อนรักราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เปล่าสักหน่อยกูแค่แกล้งไอ้เตยเล่นแค่นั้นเอง”
หม่อนไหมตอบเพื่อนด้วยท่าทีลื่นไหลอย่างเป็นธรรมชาติก่อนที่เธอจะหันไปมองเตยหอมที่พูดโดยที่ไม่ออกเสียงแต่หม่อนไหมกลับจับใจความคำพูดได้ว่า
“แกล้งพ่องมึงสิ”
“พ่อกูตายไปนานแล้วจ้ะ”
คำโต้กลับที่ไร้เสียงของหม่อนไหมทำให้เตยหอมได้แต่เบะปากด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่สาวสวยจะยกแก้วเหล้าที่อยู่ตรงหน้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว
“เห้ย เบาได้เบาเว้ยเตยเดี๋ยวก็เมาแอ๋หรอกจำไม่ได้ไงเวลาเมามึงเรื้อนแค่ไหน”
น้ำเสียงหยอกเย้าหลุดออกมาจากริมฝีปากสีไวน์ของชายหนุ่มที่มีใบหน้าคมคายนามว่าคินน์ทำให้เตยหอมได้แต่เบะปากทำหน้าไร้เดียงสาอย่างไม่รู้ไม่ชี้กับสิ่งที่เพื่อนเอ่ยแซว
“ว่าแต่วันนี้มึงทำตัวแปลกๆนะไอ้หม่อนมาเที่ยวผับทั้งทีใครเขานั่งแดกน้ำส้มกัน”
คนที่ดื่มหนักมากกว่าเพื่อนแต่ใบหน้ากลับไม่เปลี่ยนสีแถมยังพูดจาหยอกเย้าเพื่อนได้อย่างไม่สะทกสะท้านอย่างเจย์เอ่ยถามหม่อนไหมพร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆด้วยความขบขัน เมื่อเพื่อนเอาแต่ดื่มน้ำส้มคั้นซึ่งขัดกับบุคลิกที่ห้าวๆแมนๆของหม่อนไหมเป็นอย่างมาก
“เปลี่ยนบรรยากาศไงดื่มเหล้ามากไปก็ไม่ดีเดี๋ยวโรคตับแข็งจะถามหากูก็เลยเปลี่ยนมาดื่มน้ำส้มคั้นบ้างวิตามินซีจะได้เข้าไปแทนที่แอลกอฮอล์ลิซึม”
ในยามที่ตอบกลับเพื่อนสีหน้าของเธอแฝงด้วยความภาคภูมิใจอย่างปิดไม่มิดในขณะที่เจย์รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูกที่อยู่ๆสาวห้าวของกลุ่มอย่างหม่อนไหมก็หันมาดื่มน้ำส้มคั้นเพราะว่ารักสุขภาพ
“อืม ก็ถูกของไอ้หม่อนมันนะที่ผ่านมากูนึกว่ามันจะแดกแต่เหล้าแทนข้าวซะอีก”
นายน์พูดขึ้นอย่างเห็นด้วยกับคำแก้ตัวข้างๆคูๆของหม่อนไหมที่คิดหาเหตุผลด้วยความรวดเร็วเพื่อเอาตัวรอดจากความสงสัยของเพื่อนที่พากันจ้องหน้าเธออย่างกำลังจับผิด
“อูย ปวดฉี่ๆพวกมึงเดี๋ยวกูมานะ”
ยังไม่ทันที่จะมีใครได้พูดอะไรต่อหม่อนไหมก็แกล้งปวดฉี่ขึ้นมาก่อนที่มือเรียวบางจะจับแขนของเตยหอมพร้อมกับฉุดกระชากเพื่อนให้ลุกขึ้นจากโซฟาตามเธอออกมาทันที ก่อนที่เธอจะโดนธีร์ซักฟอกจนขาวสะอาดเพื่อจับผิดเธอที่กำลังทำตัวน่าสงสัยเพราะปกติแล้วน้ำส้มคั้นคือเครื่องดื่มที่เธอไม่ชอบเอาซะเลยหลายครั้งเวลาที่ไปกินข้าวด้วยกันเธอมักจะสั่งน้ำแตงโมปั่นไม่ก็น้ำมะพร้าวปั่นมากกว่าที่จะมานั่งดื่มน้ำนางเอกอย่างน้ำส้มคั้น
“แล้วมึงจะลากกูออกมาด้วยทำไมเนี่ย”
เมื่อเดินออกมาไกลพอสมควรเตยหอมก็หันมาถามเพื่อนด้วยความสงสัยเพราะปกติแล้วเวลาที่หม่อนไหมอยากจะเข้าห้องน้ำเธอก็มักจะมาคนเดียวเสมอ แต่วันนี้หม่อนไหมกลับลากเธอมาด้วยจนกระทั่งตอนนี้ทั้งคู่มาหยุดยืนอยู่ตรงบริเวณทางเดินซึ่งไกลจากโต๊ะที่พวกเพื่อนๆนั่งอยู่พอสมควร
“แล้วกูจะทิ้งมึงไว้ให้ไอ้ธีร์มันซักจนมึงเผลอหลุดปากพูดออกไปหรือไง”
คำพูดของหม่อนไหมทำให้เตยหอมได้แต่ส่งยิ้มแหยๆมาให้เพื่อนเพราะในกลุ่มของพวกเธอนั้นธีร์คือคนที่จับสังเกตุเพื่อนในกลุ่มเก่งที่สุดและมักจะต้อนเพื่อนด้วยคำพูดจนทำให้จนมุมและเผลอสารภาพออกมาจนหมดเปลือก แต่ก็แปลกที่มีเพียงหม่อนไหมเท่านั้นที่ไม่เคยตกหลุมพลางของธีร์เลยผิดกับเธอที่แค่อ้าปากลิ้นไก่ก็โผล่ให้ธีร์จับผิดได้อย่างง่ายดาย
“แล้วหนีผัวมาเที่ยวแบบนี้สนุกมากไหม”
“มึงก็ถามแปลกๆนะเตยถ้าไม่สนุกกูคงกลับไปนานแล้ว”
คำพูดของหม่อนไหมทำให้เตยหอมได้แต่กระพริบตาปริบๆด้วยความงุนงงก่อนที่สายตาของเธอจะเหลือบไปเห็นร่างสูงของรามสูรที่ยืนอยู่ข้างหลังหม่อนไหม อยู่ๆเตยหอมก็สัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตอันน่าหวาดหวั่นพรั่นพรึงที่พุ่งเข้ามาสู่ตัวเธอนัยน์ตาดุดันที่มองมาทำให้เตยหอมเสียวสันหลังวาบอย่างบอกไม่ถูก
ในขณะที่หม่อนไหมชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเพื่อนของเธอไม่ได้ขยับปากเลยสักนิดแล้วคำถามนั้นที่เธอโพล่งตอบออกไปเป็นคำถามจากใครกันคิดมาถึงตรงนี้ความรู้สึกหวาดกลัวก็ทำให้แผ่นหลังของเธอมีเหงื่อซึมออกมาบางๆ ก่อนที่หม่อนไหมจะค่อยๆหันหน้าไปมองยังด้านหลังของเธอตามสายตาของเตยหอมที่กำลังจ้องมองผู้มาใหม่ตาไม่กระพริบ
“ฮะ เฮียราม”
เสียงที่เปล่งออกไปราวกับเสียงกระซิบหัวใจดวงน้อยพลันเต้นอย่างหวาดหวั่นเมื่อเธอกำลังเผชิญหน้ากับโทสะอันน่าตกใจของเขานัยน์ตาสีดำสนิทสงบนิ่งเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธกำลังจ้องมองมาที่เธอเขม็ง
“อ้อ ยังดีนะที่จำชื่อผัวได้ด้วยนึกว่าจะลืมไปแล้วซะอีก เพราะขนาดผัวคนนี้ย้ำหนักย้ำหนาว่าห้ามหนีออกมาเที่ยวแต่เมียคนดีของผัวก็ยังจะลืม”
ชายหนุ่มหรี่ตาพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงที่หนาวเหน็บยิ่งกว่าสายลมในคืนเดือนแรมท่าทางเย็นเยือกดูแข็งกระด้างดวงตาสีดำสนิทที่มองเธอเป็นประกายวาวโรจน์อย่างน่ากลัว
“คะ คือ คือว่า”
“หนูหม่อนอยากเปลี่ยนสถานที่ก็ไม่บอกจะว่าไปข้างนอกนี่ก็น่าตื่นเต้นดีนะ”
คำพูดของรามสูรทำให้เตยหอมอ้าปากค้างจนกรามแทบค้างในขณะที่หม่อนไหมค่อยๆถอยหลังเพื่อเตรียมจะเผ่นหนีไปจากตรงนี้แต่ช้ากว่ารามสูรที่รู้ทันทุกเสี้ยวความคิดของเธอ มือใหญ่ยื่นออกมากระชากร่างบอบบางหอมกรุ่นของหม่อนไหมเข้ามาแนบชิดก่อนที่เขาจะก้มลงจูบปิดปากที่เตรียมจะร้องกรี๊ดของหม่อนไหมเอาไว้ทันที
ปลายลิ้นเร่าร้อนสอดผ่านริมฝีปากเธอเข้าไปพันเกี่ยวลิ้นเล็กของเธออย่างไม่เกรงใจมือหนาพลันเคล้นคลึงสะโพกเธอเบาๆอุณหภูมิร้อนผ่าวของเขาแทบจะทำให้คนที่หลงใหลไปกับสัมผัสที่คุ้นเคยนั้นแทบหลอมละลาย เตยหอมมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึงพรึงเพริดใบหน้าเนียนสวยของสาวน้อยที่ไร้ซึ่งประสบการณ์ความรักขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายเรียวขาที่เคยวิ่งหนีคู่อริด้วยความรวดเร็วพลันขยับไม่ไปก้าวไม่ออกอย่างไม่รู้สาเหตุ
จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ
ริมฝีปากร้อนผ่าวของรามสูรยังคงเชยชิมรสชาติหวานหอมกรุ่นของหม่อนไหมอย่างพึงพอใจเนิ่นนานที่เขายึดครองปากเล็กเอาไว้คล้ายเป็นทั้งการลงโทษและตักตวง ก่อนที่วงแขนแข็งแรงจะช้อนร่างแบบบางขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด อารมณ์ขุ่นมัวก่อนหน้านี้ดีขึ้นมาทันทีไฟโทสะที่สุมมาพักใหญ่พลันสลายหายไปกว่าครึ่งเพียงแค่ได้สัมผัสกลีบปากที่หอมนุ่มละมุนของหม่อนไหม
“เฮียขออนุญาตพาเมียไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”
รามสูรเงยหน้าขึ้นมาบอกสาวน้อยที่แก้มยังคงขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนที่เขาจะอุ้มหม่อนไหมเดินจากไป ลับหลังหนุ่มสาวทั้งคู่แข้งขาของเตยหอมพลันอ่อนแรงทรุดฮวบนั่งลงบนพื้นทางเดินก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นมาจับที่ตำแหน่งของหัวใจที่กำลังเต้นแรงด้วยความรู้สึกทั้งตื่นเต้น ตกใจระคนหวาดกลัวปะปนกันไปหมดจนแยกไม่ออกว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่
เมื่อทราบว่าลูกชายประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่เจ้าตัวก็ยังลากสังขารมาหาหม่อนไหมที่เพิ่งคลอดวายุก็ถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกในใจอยากจะต่อว่าและหยิบไม้เรียวขึ้นมาฟาดลูกชายหัวดื้อสักสิบครั้งให้หลาบจำแต่มือเจ้ากรรมกลับหยิบได้เพียงมีดและเข็มมือไม้พันกันระวิงด้วยความวุ่นวายเมื่อการผ่าตัดเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเพราะความดื้อดึงของรามสูรทำให้เขาเสียเลือดมากการผ่าตัดจึงเข้าขั้นวิกฤติแต่วายุกลับไม่รู้สึกหวั่นใจแต่อย่างใดเพราะคนที่เขากำลังใช้มีดกรีดลงไปบนผิวหนังสีขาวซีดคือลูกชายของเขาๆไม่มีวันปล่อยให้รามสูรเป็นอะไรแน่นอนต่อให้มัจจุราชที่อยู่ในนรกขุมที่สิบหกต้องการชีวิตของลูกชายเขามากแค่ไหนถ้าเขาไม่ยินยอมใครหน้าไหนก็พรากลูกชายไปจากอกเขาไม่ได้ทั้งนั้น“พ่อขาทำไมนานจังเลยคะ” แก้มใสเริ่มนั่งไม่ติดที่เมื่อการผ่าตัดยืดระยะเวลาออกไปจากเวลาที่บิดาบอกเธอบอกในครั้งแรกว่าเพียงสองชั่วโมงแต่นี่เกือบสามชั่วโมงแล้วไฟหน้าห้องผ่าตัดยังไม่มีทีท่าว่าจะดับลงเลย แก้มใสพลันก้มหน้าพลางวางมือเอาไว้บนหน้าอกราวกับความเจ็บปวดนั้นแล่นไปทั่วร่างอย่างมิอาจทานทนพร้อมกับความรู้สึกแสบท
เมื่อถึงกำหนดคลอดหม่อนไหมกลับไม่มีอาการปวดท้องหรือรู้สึกผิดปกติเลยแม้แต่น้อยเธอยังคงกินอิ่มนอนหลับสบายทำให้รามสูรรู้สึกวิตกกังวลไม่น้อยตรงข้ามกับหม่อนไหมที่ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอรู้สึกว่าลูกคนที่สองของเธอนั้นดื้อมากโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ลูกของเธอเริ่มดิ้นเจ้าตัวน้อยในท้องแทบจะไม่ยอมให้เธอได้พักผ่อนเท้าน้อยๆพยายามถีบเธอทุกวันทั้งช่วงที่กำลังนอนหลับฝันดีจนน้ำลายแทบไหลยืดหรือจะเป็นช่วงพักสายตายามบ่ายเธอก็ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะแรงถีบมหาศาลจากเจ้าเด็กดื้อที่ไม่รู้ว่าเกิดอารมณ์ดีอะไรขึ้นมาถึงได้ชอบคึกคักยามบ่ายและยามดึกและอยู่แบบสุขสงบเพียงแค่ในยามเช้าเท่านั้น“พี่รามไปทำงานก่อนนะคะ”ยามเช้าที่อากาศสดใสรามสูรจำใจบอกลาภรรยาแสนรักที่กำลังนั่งทานผลไม้ที่สามีปอกให้ด้วยความเอร็ดอร่อยหม่อนไหมพยักหน้ารับเล็กน้อยอย่างเข้าใจเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องการให้สามีอยู่ด้วยตลอดเวลาในช่วงที่เธอใกล้จะคลอดถึงแม้ว่าตอนนี้จะเลยกำหนดมาแล้วสามวันก็ตาม“ตั้งใจทำงานนะคะแล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหม่อน หนูหม่อนโอเค”น้ำเสียงผ่อนคล้ายที่คล้ายกับเด็กสาวตัวน้อยคนหนึ่งทำให้รามสูรอดใจไม่ไหวต้องยื่นมือไปบีบแ
“เอามือออกไปจากชุดตัวนี้เดี๋ยวนี้”น้ำเสียงดุดันที่ดูคล้ายคนที่มีนิสัยชอบวางอำนาจจนเคยชินดังขึ้นบอกหม่อนไหมแต่เธอที่วางมือลงไปก่อนคนมาทีหลังมีหรือจะยอมเอามือออกจากชุดที่เธอหมายตาเอาไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน ในเมื่อเธอเป็นคนจับชุดก่อนนั่นก็หมายความว่าชุดตัวนี้ต้องเป็นของเธอไม่ใช่ของคนที่กำลังออกคำสั่งราวกับต้องการอวดอำนาจบาตรใหญ่คนนี้“ฉันวางมือลงไปบนชุดก่อนคุณนะคะไม่ได้วางทีหลังมีสิทธิ์อะไรมาบอกให้คนที่จับชุดก่อนเอามือออก คุณต่างหากที่มาทีหลังตามมารยาทแล้วสมควรต้องเอามือออกค่ะไม่ใช่มาบอกฉัน”จบประโยคเสียงหอบหายใจเบาๆก็ดังขึ้นบ่งบอกว่าผู้พูดกำลังสะกดกลั้นอารมณ์เดือดดาลอย่างเต็มที่ดวงตากลมโตที่เคยมองสามีด้วยสายตารักใคร่ก่อนหน้านี้พลันแปรเป็นเป็นดุดันเต็มไปด้วยความไม่พอใจอย่างไม่ปิดบังเช่นเดียวกันกับคนที่ออกคำสั่งให้หม่อนไหมปล่อยมือเธอก็กำลังใช้สายตาดุดันจ้องตอบกลับคืนอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน“แต่ฉันจะเอาชุดนี้และต้องได้ชุดนี้ด้วย”“ฉันก็ต้องการจะซื้อเหมือนกันค่ะและอีกอย่างฉันจับก่อนเพราะฉะนั้นกรุณาเอามือของคุณออกไปด้วยค่ะ”ดวงตาสีดำสนิทของหม่อนไหมหรี่ลงฉายประกายความเกรี้ยวกราดที่ใก
หลังจากที่เคล้าคลอแนบชิดกันมาทั้งคืนเช้านี้รามสูรกลับทำตัวงอแงราวกับเด็กน้อยที่หาข้ออ้างมาบอกกับภรรยาว่าเมื่อวานเหน็ดเหนื่อยจนหมดแรงวันนี้เขาจึงขออนุญาตตัวเองลางานหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนทำเอาหม่อนไหมถึงกับหัวเราะด้วยความขบขันกับเหตุผลหยุดงานของสามีที่เธอรู้ดีว่าเป็นข้ออ้างแต่กลับไม่ได้ตำหนิหรือเอ่ยห้ามแต่อย่างใดเพราะที่ผ่านมาสามีของเธอก็มักจะหาเหตุผลไร้สาระมาหยุดงานเพื่ออยู่ดูแลเธอที่กำลังตั้งครรภ์กับลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหัดพลิกตัวอยู่บ่อยๆจนบางครั้งแม่แก้มใสต้องมาลากสามีเธอให้กลับไปทำงานรามสูรถึงได้ยอมกลับไปรับบทเป็นท่านประธานบริษัทเหมือนเดิม แต่ถ้าหากว่าแม่แก้มใสเดินทางไปต่างประเทศเมื่อไรสามีของเธอก็จะกลับมารับบทผู้ชายที่คลั่งรักภรรยาและลูกสาวทันทีเช่นกันทำเอาแม่แก้มใสถึงกับหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออกเลยทีเดียว“อู้งานอีกแล้วนะคะ”หม่อนไหมยื่นมือมาบีบจมูกรามสูรเบาๆอย่างมันเขี้ยวในขณะที่คนถูกต่อว่าได้แต่ซุกใบหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่นของภรรยาสาวสวยอย่างออดอ้อน“ก็พี่รามเหนื่อยนี่คะเมื่อคืนออกแรงมากไปหน่อยวันนี้เลยปวดเหมื่อยไปทั้งตัว อูย ตรงนี้ก็เจ็บ ตรงนั้นก็ช้ำไม่เชื่อหนูหม่อนมาดูสิคะ”ร
เมื่อกลับมาถึงบ้านหม่อนไหมกับรามสูรก็ตรงขึ้นไปบนห้องนอนทันทีเพื่อดูว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอหลับหรือยังเพราะปกติเวลานี้แพรไหมจะยังคงเล่นสนุกกับพี่สาลี่ไม่ยอมนอนเป็นประจำแต่วันนี้กลับแตกต่างออกไปเมื่อคุณพ่อยังหนุ่มคุณแม่ยังสาวเปิดประตูเข้ามากลับพบว่าดวงใจของทั้งคู่นั้นนอนหลับสนิทเรียบร้อยแล้วแถมน้ำลายยังไหลยืดจนเปรอะเต็มสองแก้ม“วันนี้เล่นซนเยอะไปหน่อยเลยหลับเร็วใช่ไหมคะลูกสาว”หม่อนไหมค่อยๆใช้ผ้าสะอาดเช็ดน้ำลายที่เปรอะบนแก้มออกให้ลูกสาวอย่างเบามือในขณะที่รามสูรยื่นนิ้วของตนเองไปเกี่ยวนิ้วลูกสาวเอาไว้เบาๆเมื่อถูกสัมผัสอย่างอบอุ่นเด็กน้อยก็ขยับตัวไปมาเล็กน้อยแต่ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาแต่อย่างใดบนใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาบางเบาคล้ายกำลังฝันดี“ไม่เจอกันแค่วันเดียวลูกสาวของพ่อจ้ำม่ำขึ้นหรือเปล่าเนี่ย”เพี๊ยะ“อูยเมียจ๋าพี่รามแค่แซวเล่นลูกไม่รู้เรื่องหรอกคนที่ถูกเมียฟาดจนขึ้นรอยแดงยื่นมือมาลูบแขนตัวเองปอยๆอย่างน่าสงสารในขณะที่หม่อนไหมถลึงตาใส่สามีที่บังอาจมาว่าลูกสาวของเธออ้วนขึ้นเป็นเพราะเขาไม่ใช่เหรอที่ขยันซื้ออาหารบำรุงร่างกายและสมองสำหรับเด็กมาฝากลูกเป็นประจำจนอ้วนจ้ำหม่ำขนาดนี้“แล้วใคร
ไนท์คลับ“อาการแพ้ท้องเป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือยัง?”ธีร์เอ่ยถามหม่อนไหมที่นั่งตรงกันข้ามด้วยความเป็นห่วงเพราะหลังจากที่เพื่อนๆทุกคนทราบข่าวว่าหม่อนไหมตั้งครรภ์ลูกคนที่สองทุกคนก็พากันแห่ไปเยี่ยมเธอถึงที่บ้านคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกับสภาพของเพื่อนที่แพ้ท้องจนแทบหมดแรงทำเอาทุกคนทั้งเป็นห่วงทั้งสงสารจนพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว“ถ้าไม่ดีขึ้นมึงจะเห็นกูมานั่งอยู่ตรงนี้ไหม?”“ลูกสองแล้วยังปากดีเหมือนเดิมเลยนะมึง”ธีร์ส่งค้อนให้หม่อนไหมพร้อมตอกกลับเพื่อไปหนึ่งกรุบอย่างอารมณ์ดีทำเอาคุณแม่ลูกสองหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจก่อนที่หม่อนไหมจะหยิบน้ำส้มขึ้นมาดื่มด้วยความคิดถึงรสชาติและบรรยากาศคุ้นเคยที่เธอห่างหายไปนานถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่ผับที่เธอมาเที่ยวเป็นประจำแต่พวกเธอก็ชอบมาเที่ยวบ่อยๆไม่แพ้ร้านโปรดเลยอาจจะเป็นเพราะว่าเธอกำลังตั้งครรภ์เพื่อนๆจึงเลือกเป็นที่นี่แทนผับที่ค่อนข้างวุ่นวาย“แล้วออกมาเที่ยวผัวไม่ว่าไง”เจย์ที่เพิ่งชงเหล้าให้นายน์เสร็จเอ่ยถามด้วยความแปลกใจที่รามสูรยอมอนุญาตให้หม่อนไหมมาเที่ยวคลับได้ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วรามสูรที่พวกเขารู้จักนั้นแทบจะไม่อนุญาตให้หม่อนไหมออกไปไหนมาไหนเลยด้วยซ้ำตั้งแต
Comments