Dua sahabat yang saling menyayangi kini harus terpisah karena situasi yang amat sulit untuk dikatakan. Berpisah dari sahabat yang kita sayangi memanglah sangat berat, apalagi dia sangat berarti dalam hidup kita. Namun setelah dipertemukan kembali mereka seperti tidak mengenal satu sama lain karena ego Kenzo dan trauma Ayu yang membuat dirinya hilang ingatan akibat kecelakaan sewaktu kecilnya. Bisakah Ayu kembali mengingat Kenzo sahabatnya diwaktu kecil? Akankah merekabbisa bersatu dalam ikatan cinta? Baca terus kelanjutan ceritanya ya ....
View Moreเสียงเคาะแป้นพิมพ์จากปลายนิ้วเรียวยาวที่ตบแต่งเล็บเจลด้วยลายดอกซากุระสีหวานดังรัวเป็นปืนกล เพราะเอกสารสรุปรายงานที่หญิงสาวกำลังพิมพ์อยู่ หัวหน้างานของเธอบอกว่าต้องรีบใช้ด่วน
นภิศาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการในบริษัทของลูกชายเจ้านายเก่าของผู้เป็นพ่อทันทีที่เรียนจบ จะว่าไปแล้วจุดงานตำแหน่งนี้เธอถูกจับวางแบบไม่มีสิทธิ์เลือกเองด้วยซ้ำ จะบอกว่าไม่ชอบก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเต็มใจก็ไม่เชิง ใจจริงเธออยากออกไปหางานทำด้วยตัวเอง ไม่อยากเป็นเด็กฝากเด็กฝังอะไรของใคร แต่เป็นเพราะเธอมีอีกหน้าที่ที่ทำด้วยใจจึงได้ยอมอยู่ในจุดที่เขาวางไว้ให้อย่างไม่มีแง่งอน
การุณย์ ประชาพิพัฒน์ ชายหนุ่มผู้แสนใจดี มีความรับผิดชอบ เขาเหมือนพี่ชายที่แสนดีของเธอ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในฐานะเจ้านายก็ตามที ไม่เคยมีครั้งไหนที่ความห่วงใยจะไม่ถูกแสดงออกหากเมื่อไหร่ที่เธอมีปัญหา และการที่เธอมาทำงานอยู่ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความรับผิดชอบที่เขาจะต้องดูแล
“นัท”
ชื่อของเธอถูกเอ่ยเรียกทันทีที่ประตูห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มถูกเปิดออก หญิงสาวชะงักปลายนิ้วที่กำลังรัวแป้นพิมพ์แล้วเงยหน้าขึ้นมามองที่ต้นเสียงโดยสัญชาตญาณ
“คะ”
“เสร็จงานแล้วลงไปรอที่หน้าตึกนะ เดี๋ยวมีรถมารับ”
แน่นอนว่าคำว่าเสร็จงานหมายถึงเฉพาะงานที่ค้างอยู่ในมือตอนนี้เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าเลิกงาน หรืออย่างช้าไม่เกินครึ่งชั่วโมงนับจากที่เธอได้รับสาร เพราะถ้าเกินจากนั้นสิ่งที่เธอจะต้องทำคือการฝากงานต่อ ไม่สามารถอิดเอื้อนหรือขอต่อเวลาออกไปให้นานกว่านั้นได้อีกเพราะมีคนสำคัญที่รออยู่ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เต็มใจ ใบหน้าที่เคร่งเครียดตอนนี้อิ่มเอิบขึ้นด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าเธอจะพยายามอมมันไว้ในแก้มอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถหลบผู้เป็นเจ้านายที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้
“ดีใจมากเหรอที่พี่เกื้อกลับมาแล้ว”
หญิงสาวก้มหน้าหลบตาไม่ตอบรับ เธอไม่กล้าบอกออกไปหรอกว่าคิดถึงเขามากแค่ไหน เกื้อกูล ประชาพิพัฒน์พี่ชายแท้ๆ ของการุณย์ ประชาพิพัฒน์ผู้ที่เป็นคนฝากฝังให้เธอมาทำงานกับน้องชายของเขาที่นี่
มารดาของนภิศาแต่งงานใหม่กับชายหนุ่มรุ่นน้องที่อายุห่างกันค่อนข้างมาก ในตอนที่เธอเรียนจบมัธยมปลายและกำลังจะเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ด้วยความที่กลัวจะมีปัญหาลูกเลี้ยงสาวกับพ่อเลี้ยงหนุ่มจึงได้นำตัวเธอมาฝากกับบ้านเจ้านายเก่าของอดีตสามีเพื่อเล่าเรียนในระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ
ตั้งแต่นั้นมานภิศาจึงกลายมาเป็นเด็กในอุปการะของคุณพรประภา ภรรยาคุณเกรียงศักดิ์ เจ้านายเก่าของบิดาเธอที่เมื่อก่อนทำงานรับใช้ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่กฎหมายของบริษัทเจริญพัฒน์ ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายและปล่อยเช่ารถทุ่นแรงและเครื่องจักรขนาดใหญ่ ปัจจุบันคนที่ดูแลงานแทนก็คือเกื้อกูล ประชาพิพัฒน์
เขาคือชายหนุ่มที่ไม่เคยคิดจะสุงสิงกับเธอเลยตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้าน คุณพรประภาเลี้ยงดูนภิศาเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง ห้องหับที่ให้อยู่ก็เป็นห้องในบ้านใหญ่เพียงแต่อยู่ชั้นล่างเท่านั้น ไม่ได้ให้ไปอยู่รวมกับพ่อบ้านแม่บ้านที่มีห้องพักอยู่ด้านหลังแต่อย่างใด
ระหว่างที่เรียนนภิศาไม่เคยไปค้างอ้างแรมที่อื่นหรือทำเรื่องให้คุณพรประภาต้องลำบากใจ จนกระทั่งปีสุดท้ายที่อยู่ๆ หญิงสาวก็ขอออกไปเช่าหอพักอยู่ข้างนอกโดยการให้เหตุผลว่าต้องทำโปรเจคจบและฝึกงาน ซึ่งนั่นเป็นความจริงแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะคนที่จ่ายค่าคอนโดฯ คือ เกื้อกูล ประชาพิพัฒน์
“เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบในส่วนของค่าที่พักให้นัทเองครับคุณแม่”
นั่นคือความเอื้อเฝื้อแรกที่เขาแสดงออกกับมารดาว่ามีให้กับเธอเหมือนผู้ใหญ่ใจดี แต่ในความเป็นจริงเขานั่นแหละคือเสือร้ายที่เธอเต็มใจที่จะเป็นเหยื่อ
นภิศาตกเป็นของเกื้อกูลอย่างเต็มใจโดยที่เขาไม่ได้ใช้วิธีใดมาหลอกล่อ ที่ผ่านมาเธอเข้าใจว่าชายหนุ่มไม่ชอบหน้าถึงมีท่าทางเฉยเมยเย็นชา แต่เมื่อเห็นว่าเธอมีชายหนุ่มมาติดพัน การแสดงออกว่าต้องการเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของเขาจึงเกิดขึ้น และเธอก็เต็มใจจนเกิดเป็นสัมพันธ์ที่มากกว่าเด็กในบ้านและลูกเจ้านาย
“คุณเกื้อ”
เมื่อเปิดประตูห้องพักเข้ามาเห็นบุรุษร่างสูงยืนหันหลังให้นภิศาก็เอ่ยเรียกและโผเข้ากอดเขาทันทีด้วยความยินดี พอเงยหน้าขึ้นสบตาริมฝีปากร้อนผ่าวก็ประกบจูบลงมาหาอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่แง่งอน ยอมโอนอ่อนให้เขาบดจูบดูดดึงจนพอใจ
“ทำไมรอบนี้คุณเกื้อไปนานจังคะ ไหนว่าไปดูงานแค่อาทิตย์เดียวไง”
เธอเอ่ยถามแง่งอนเมื่อเขาผละจูบจากมา แล้วพาเธอมานั่งที่โซฟาด้วยกัน
“มีงานติดพันเลยต้องอยู่ต่อ”
“ไม่ใช่ว่ามีใครอยู่กับคุณเกื้อที่นู่นด้วยเหรอคะ”
“เหลวไหลน่า ฉันบอกให้เธอไปด้วยเธอไม่ไปเองนี่”
“นัทเกรงใจคุณการุณย์นี่คะ ถ้าไปญี่ปุ่นกับคุณเกื้อนัทก็ต้องหยุดงานไปหลายวัน”
“การุณย์ไม่ว่าอะไรหรอก เขารู้อยู่แล้วว่าฉันฝากเธอให้ทำงานกับเขาเพราะอะไร”
“ทำไมคะ ไม่ให้นัทไปทำงานด้วย แต่ให้มาทำงานกับคุณการุณย์แทนเพราะไม่อยากเป็นสมภารกินไก่วัดเหรอ”
“เรื่องนั้นไม่ได้กลัวหรอก แต่กลัวจะไม่ได้งานซะมากกว่า”
“ทำไมเหรอคะ คิดว่านัทจะทำงานให้คุณเกื้อไม่ได้อย่างนั้นใช่มั้ย”
“เปล่า แต่กลัวว่าห้องทำงานมันจะไม่ได้ใช้ทำแต่งานอย่างเดียวนะสิ”
ว่าแล้วกดจูบลงที่แก้มนวล ทำเอานภิศาเอียงอายเบนหน้าหลบแต่ก็ไม่พ้นเมื่อเขาประกบจูบลงที่ริมฝีปากเธออีกครั้ง คราวนี้เนิ่นนานดูดดื่มหวามหวานยิ่งกว่าครั้งแรกที่เจอกันเสียอีก
ปลายลิ้นอุ่นร้อนชอนไชเข้าไปดูดดึงเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกับลิ้นของเธอในโพรงปากอย่างดูดดื่มหิวกระหาย กายบางถูกเขากอดรั้งเข้าหาตัวอย่างแนบสนิท ลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารถมาตามแนวคางและซอกคออุ่น ริมฝีปากแตะจูบลงที่ซอกคอจนคนถูกจูบขนลุกเกลียว
“อื้อ..คุณเกื้อคะ ไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ นัทพึ่งกลับมาจากทำงานนะ ตัวเหนียวด้วยเนี๊ยะ”
“ไม่เหนียวหรอก ยังหอมอยู่เลย เสร็จแล้วค่อยอาบทีเดียว”
ว่าแล้วลุกขึ้นยืนจับจูงมือของเธอพาเข้าห้องนอน ก่อนที่ร่างบางของนภิศาจะลอยหวือขึ้นจากพื้น แล้วถูกเขาบรรจงวางลงกลางเตียงอย่างนุ่มนวลแผ่วเบา
“คิดถึงจัง”
เขาเอ่ยชิดแก้มนิ่มในตอนที่ขึ้นมานอนเคียงข้างและโอบกอดเธอไว้แนบตัว
นั่นช่างเป็นคำพูดที่หวานซ่านสุขเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้นภิศาอยากจะอยู่กับเขาต่อไปอีกนานเท่านาน แม้ไม่มีคำรัก แม้ไม่ได้ออกหน้าออกตาว่าเป็นเมียหรือคู่ชีวิต ขอเพียงแค่เขาโหยหาเธอ คิดถึงกันในยามที่ต้องไกลห่าง เพียงเท่านั้นนภิศาก็พอใจแล้ว
“คุณเกื้อคิดถึงนัทจริงๆ เหรอคะ”
“คิดถึงจริงๆ สิ คราวหน้าถ้ารู้ว่าจะต้องไปดูงานต่างประเทศนานแบบนี้ฉันจะเอาเธอไปด้วย ไม่ปล่อยให้มีหนุ่มๆ ที่ไหนมาคอยขายขนมจีบตอนที่ฉันไม่อยู่อย่างนี้หรอก”
“หวงนัทเหรอคะ”
“ถามแบบนี้หมายความว่ายังไง หรือว่ามีใครมาจีบจริงๆ” เขาถามอย่างแคลงใจ นภิศาทำเพียงยิ้มให้แล้วโน้มศีรษะเขาลงมาหาก่อนจะยื่นริมฝีปากขึ้นจูบอ้อยอิ่ง
“ถึงจะมีจริงๆ นัทก็รักแค่คุณเกื้อค่ะ คุณเกื้อรู้ใช่มั้ยคะว่านัทรักคุณมาก มากจนยอมที่จะอยู่แบบนี้”
“ลำบากใจมากหรือเปล่า”
เขามองสบตาเอ่ยถามจริงจัง แต่หญิงสาวส่ายหน้าก่อนจะตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่จริงจังไม่แพ้กัน
“ไม่ค่ะ ไม่ลำบากใจเลย ขอแค่คุณเกื้อมีนัทแค่คนเดียวได้มั้ยคะ นัทจะไม่ขออะไรเลย นอกจากขอให้คุณเกื้ออย่าทิ้งนัทได้มั้ยคะ”
“ตอนนี้ฉันก็ไม่มีใครนี่”
“แค่ตอนนี้เหรอคะ”
เธอถามออกไปแผ่วระโหย จากคำว่าคิดถึงของเขาที่เหมือนเป็นน้ำทิพย์ แต่ตอนนี้กลับแห้งหายเพียงแค่เขาตอบว่าตอนนี้ไม่มีใคร แค่ตอนนี้เหรอ เขาไม่ได้ต้องการมีเธอตลอดไปหรือยังไง
เกื้อกูลไม่ตอบคำ เขาทำเพียงลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าแล้วหันมาจัดการกับเธอจนล่อนจ้อนก่อนจะนอนทาบทับลงไปทั้งตัว
“อย่าถามอะไรที่ไร้สาระ”
เอ่ยบอกชิดริมฝีปากอิ่มก่อนจะกดแนบริมฝีปากหยักลึกลงชิดแล้วบดเบียดเคล้าคลึง ดูดดึงเหมือนต้องการลงโทษคนที่กำลังน้อยใจ นภิศาแอ่นกายหยัดสู้มือเมื่อเขาลูบไล้ที่อกอวบแน่นตึงของเธอด้วยความกระสันซ่าน
“อื้อ...คุณเกื้อคะ”
เธอครางเรียกชื่อเขาแผ่วระโหยเมื่อรู้สึกถึงยอดอกที่หายเข้าไปในปากของชายหนุ่ม ปลายลิ้นที่ปัดป่ายดูดดึงสร้างความเสียวซ่านจนนภิศาต้องกำมือขยุ้มขยำที่เส้นผมบนหนังศีรษะของเขาพร้อมกับร่างกายที่บิดเร้าทุรนทุราย เพราะไม่ใช่แค่ปลายลิ้นของเกื้อกูลเท่านั้นที่กำลังทรมานเธอ แต่มืออีกข้างของเขาก็กำลังสอดนิ้วเข้ามาสำรวจช่องทางที่ห่างหายไปนาน กายบางสั่นสะท้าน ดวงตาหวานฉ่ำปรือเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมองสบมา
“ถ้าเธอมีฉันคนเดียว ฉันก็จะมีเธอคนเดียว”
‘ตลอดไปมั้ยคะ’
นั่นคือคำถามที่ดังอยู่แค่ในใจไม่กล้าเอ่ยออกไปให้เขาได้ยิน เธอไม่รู้ว่าสิทธิ์ของเมียบำเรออย่างเธอทำได้มากแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ เธอท้องไม่ได้นั่นคือความจริง เพราะเขาเคยให้ไปทำแท้งมาครั้งหนึ่งแล้วในตอนที่มีสัมพันธ์กันใหม่ๆ โดยให้เหตุผลว่าเธอยังเรียนไม่จบ และมันก็เร็วเกินไป หลังจากนั้นการป้องกันจึงเป็นไปอย่างเข้มงวด แต่ไม่นับรวมการสวมถุงยางเพราะทุกครั้งที่นอนกับเธอเขาไม่แตะต้องมันเลย
“อ๊ะ คุณเกื้อ..อือ..อื้อ”
นภิศาผวาเฮือกสั่นสะท้านเมื่อรู้สึกถึงความแข็งขึงสวมสอดเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“อย่ามัวแต่คิดอะไรไร้สาระสิ” เขาว่าให้พร้อมขยับโยกแบบที่ไม่รอให้เธอพร้อม
“นัทเปล่า อ๊ะ..อ๊า คุณเกื้อ เบาก่อน เจ็บ”
บอกพร้อมกับใช้มือดันที่หน้าท้องของเขาไว้ ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเก เพราะแม้ความฉ่ำชื้นจะเกิดขึ้นแล้วแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงคับแน่นฝืดตึงจนเธอรู้สึกเจ็บ
เกื้อกูลกดจูบลงที่ริมฝีปากอิ่มอีกครั้ง บดจูบดูดดึงปิดเสียงประท้วงนั้น พร้อมกับส่ายวนสะโพกสอบกดคลึงหน่วงหนักเนิบช้าให้เธอผ่อนคลายแล้วเอ่ยถามเสียงพร่า
“อ๊า ดีขึ้นมั้ย”
“ค่ะ อือ อื้อ เสียว คุณเกื้อ อ๊า”
นภิศาแอ่นหยัดสะโพกสวนเข้าหา สองมือโอบประคองบั้นท้ายของเขาไว้แล้วลูบไล้บีบขยำด้วยความเสียดซ่าน นั่นยิ่งเพิ่มความซ่านเสียวให้เกื้อกูลอยากขยับโยกตอกตรึงเธอให้ถึงใจ
ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่ง จับขาเธอให้กางอ้าออกแล้วกดสะโพกเบียดเข้าหาแนบแน่นแอ่นหยัดขยับโยกจนความฉ่ำชื้นของเธอไหลทะลักอาบลำลึงค์จนมันวาว เสียงขยับเข้าออกเพราะความเปียกชื้นดังมาให้ได้ยินเป็นระยะสร้างความกระสันซ่านจนต้องกัดฟันเพราะแรงตอดรัดที่รุนแรง ก่อนจะก้มจูบที่ปากเธออีกครั้งแล้วบีบขยำที่ทรวงงามอย่างมันมือ สะโพกสอบเร่งสาวถี่ระรัวยิ่งโยกยิ่งมันในอารมณ์ทำเอานภิศาถึงกับครางระงมอื้ออึงอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะความสุขซ่านจากช่องทางรักที่เขาลุกล้ำ มิหนำซ้ำยังใช้ปลายนิ้วบดบี้ติ่งเนื้ออ่อนของเธอให้สั่นสะท้าน
“อ๊า คุณเกื้อ อ๊ะ อ๊า! เสียว นัทเสียวคุณเกื้อ”
“อย่าคิดอะไรเลอะเทอะอีก เข้าใจมั้ย”
เขาก้มบอกที่ข้างหูแล้วจูบแก้มเธอไปหนักๆ ก่อนจะอุ้มร่างบางขึ้นมากอดรัดจับวางเธอให้นั่งคร่อมตักแล้วขยับโยกสะโพกมนอัดใส่ความแข็งขึงของเขาด้วยความรุนแรงหนักหน่วง นภิศาเสียวซ่านจนต้องกดฟันสู้ เธอซบหน้าลงกับไหล่ของเขาขยับโยกเอวบางบิดส่ายเร่งเร้าเมื่อความเสียวกระสันวิ่งพล่านเล่นงานเธออย่างหนักจนแทบทนไม่ไหว
หญิงสาวผลักไหล่เขาให้นอนราบแล้วทำหน้าที่เป็นฝ่ายบดคลึงเองด้วยความรนราน สองมือค้ำยันที่หน้าอกแกร่งขยับสะโพกส่ายสะบัดขย่มโยกเป็นจังหวะถี่กระชั้น เรียกเสียงคำรามด้วยความพอใจของเกื้อกูลให้ดังมาเป็นระยะ ยิ่งทำเอานภิศามีกำลังใจอยากทำให้เขามีความสุขและพอใจเธอที่สุด หญิงสาวเอนตัวไปด้านหลังแล้วเด้งเอวเข้าหาเขาถี่ๆ ซ้ำๆ เปิดขาอ้ากว้างให้เขามองเห็นจุดเชื่อมประสานจนเกื้อกูลอดใจไม่ไหวลุกขึ้นเอาศอกค้ำยันแล้วใช้มืออีกข้างลูบไล้ที่เนินนางบดบี้ติ่งกระสันจนนภิศาถึงกับครางระงม
“อ๊า ซี้ด..อ๊า..คุณเกื้อขา..ช่วยนัทหน่อย ช่วยทีไม่ไหวแล้ว” เธอร้องขอเขาเมื่อความเสียวกระสันเสียดซ่านเล่นงานจนเธอแทบทรงตัวไม่ไหว
เกื้อกูลลุกขึ้นนั่งสลับให้เธอนอนราบลงไปก่อนจะจับเอวคอดกิ่วไว้แล้วสาวสะโพกใส่แบบไม่ยั้งตามแรงอารมณ์ที่โหมกระพือ
“อ๊า..อ๊า..ซี้ด..โอ้ว”
“อ๊ะ...อ๊ะ..อร๊าย คุณเกื้อ อ๊า...อร๊ายยย”
สองมือของเธอกำที่ผ้าปูที่นอนแน่นแอ่นหยัดสะโพกเข้าใส่ เมื่อความสุขสมวิ่งเข้ามาใกล้ร่างกายเธอยิ่งเกร็งสะท้าน และไม่นานความเสร็จสุขนั้นก็แตกผลิพร่างพรายเมื่อเขาตอกตรึงเข้าใส่แบบไม่ออมแรง
ร่างบางของนภิศาอ่อนระโหยโรยแรงหอบหายใจถี่ระรวย หันมองสบตาเขาที่กำลังหอบถี่อยู่เช่นกัน เกื้อกูลเห็นแบบนั้นก็ก้มลงกอดจูบซุกไซร้อย่างอดใจไม่ไหว ก่อนจะพลิกกายบางให้คว่ำหน้าโก้งโค้งรับเอาการตอกตรึงจากเขาอีกครั้งจนสุดท่อนลำ
“อ๊ะ..อ๊า..คุ..คุณเกื้อ อื้อ”
นภิศาสั่นสะท้านเสียววาบเมื่อเขากดอัดเข้ามาอีกครั้งจากด้านหลังจนสุดทาง
“ยังไหวอยู่หรือเปล่า ฉันยังไม่พอ” เอ่ยกระซิบบอกข้างหู สองมือโอบอุ้มที่ปทุมงามบีบขยำเคล้นคลึงอย่างเอาแต่ใจ
“หวะ..ไหวค่ะ นัทไหว”
แม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยแต่เธอก็ตอบรับด้วยความเต็มใจหากว่าจะทำให้เขาพอใจได้ มันไม่เหลือบ่ากว่าแรงเลยกับการที่จะให้ความสุขกับคนที่เธอรักในทุกช่วงจังหวะและความปรารถนาที่เขาต้องการ ขอเพียงได้อยู่ในอ้อมกอดของเขา ขอเพียงได้ยินความสุขสมของเขาที่เกิดจากตัวเธอ เพียงเท่านี้นภิศาก็ยินดีที่จะพลีให้เขาได้ทุกอย่างตามที่เขาร้องขอมา
Kenzo mendengarkan cerita Tante Vina tentang Ayu. Kenzo sangat terkejut saat Tante Vina memberitahunya bahwa Ayu mengalami kecelakaan saat Ayu mengejar mobil yang membawa Kenzo pergi. "Lalu, setelah itu apa yang terjadi pada Ayu Tante?" Kenzo terus bertanya pada Tante Vina. "Tante dan almarhumah Mama kamu membawa Ayu kerumah sakit. Dan dokter bilang Ayu mengalami trauma berat sehingga membuat dia kehilangan sebagian ingatannya." Jelas Tante Vina. "Jadi ... Ayu tidak dengan sengaja melupakan aku? Dia mengalami trauma karena kecelakaan waktu dia kecil," kata Kenzo. Tante Vina menganggukkan kepalanya. Betapa menyesal dan merasa bersalahnya Kenzo pada Ayu. Karena dirinya Ayu sampai harus kehilangan ingatannya, termasuk ingatan masa kecil bersama dengan Kenzo. "Ini semua salahku Tan, seharusnya aku tidak meninggalkan Ayu waktu itu. Dan semua ini tidak akan mungkin terjadi,"
"Ken ... Tunggu!!!" teriak Leon. Kini Leon sungguh bingung harus mencari Ayu kemana, ia sungguh menyesal karena tidak mau mendengarkan penjelasan dari kekasihnya itu. "Ayu, maafkan aku," Leon menyerah karena ia tak kunjung menemukan Ayu. Tidak berapa lama Leon duduk dibangku taman, Dea datang dan menyapa Leon. "Leon, kamu ngapain disini sendirian? Oh iya, gimana keadaanmu? Semalam aku yang mengantarkanmu pulang, kamu mabuk berat jadi aku tidak bisa membiarkan kamu mengemudia mobil sendirian." jelas Dea sambil duduk disamping Leon. Leon yang mendengar suara Dea langsung menanyakan keberadaan Ayu tanpaenjawab satu patah pertanyaan Dea tadi. "De, kamu sahabat Ayu kan?! Kamu harusnya tahu Ayu ada dimana sekarang?" tanpa basa - basi Leon langsung bertanya pada Dea. "Ayu! Aku tadi bertemu dia didepan," jawab Dea.
"Makasih Ken, sudah mengantarkan-ku pulang," kata Ayu. "Sama - sama. Istirahatlah, semoga besok harimu cerah," ucap Kenzo. Kenzo langsung mengemudi mobilnya kembali untuk pulang. Ayu hanya melihat dari jauh mobil Kenzo yang melaju. 'Kamu terlalu baik Ken, aku sendiri juga tidak mengerti kenapa aku merasa nyaman bersamamu.' gumam Ayu. Ayu masuk kedalam rumahnya, ia melihat mamanya sedang tertidur, jadi ia langsung masuk kedalam kamarnya dan beristirahat. Ayu masih mengingat kata - kata Leon yang menyakiti hatinya. Tapi Ayu tidak mau pertengkarannya berlarut dengan Leon. Ia berniat untuk menjelaskan semua yang terjadi pada Leon dikampus besok. Ayu merebahkan tubuhnya diatas kasur kesayangannya, ia lalu memejamkan mata dan tertidur lelap. *** Keesokan harinya dikampus Ayu melihat Leon yang baru keluar dar
"Apa maksud kamu bilang seperti itu?" Ayu terkejut Leon berbicara kasar padanya didepan umum."Jangan kira aku tidak tahu kamu dan Kenzo ngapain aja tadi. Kamu pikir aku bisa dibodohi? Tidak Ayu, kamu perempuan tidak punya harga diri. Mau saja kamu dipeluk sma Kenzo sedangkan kamu masih punya aku!" Leon sangat kesal, tanpa ia sadari ia membentak Ayu.Leon sedang mabuk, ia tidak tahu apa yang ia katakan pada Ayu. Ia hanya mengikuti kata hatinya yang sangat kesal melihat kekasihnya berpelukan dengan lelaki lain meskipun itu adalah kakaknya sendiri.Kenzo melihat Ayu menangis langsung mendatangi mereka berdua. Kenzo mendorong Leon yang membentak Ayu dan menyalahkan Ayu terus - menerus sedari tadi."Apa - apaan kamu Leon, sadar!" bentak Kenzo pada Leon."Oh ... Wah, pahlawanmu sudah datang Ayu." Leon berjalan sempoyongan mendekati Kenzo yang berdiri didekat Ayu.
"Ayu, apa ada yang salah dari ucapan mama? Kenapa kamu jadi bersedih," tanya Mama Ayu."Mmmm, begini ma. Sebenarnya Ayu bingung harus pergi dengan siapa," jawab Ayu."Kenapa begitu? Bukannya barusan Kenzo yang mengajakmu," ucap Mama Ayu. Ia merasa putrinya sedang menyembunyikan sesuatu padanya."Katakan sama mama ada apa sebenarnya." Mama Ayu penasaran dengan sikap anaknya itu."Kenzo dan Leon ... Mereka adalah saudara ma," jawab Ayu.Mama Ayu terkejut mendengar jawaban putrinya itu. Jadi Leon adalah saudara kandung dari Kenzo."Kenapa mama jadi melamun," tanya Ayu."Ah ...tidak apa -apa sayang. Jadi kamu memilih untuk pergi dengan siapa?" tanya Mama Ayu."Aku akan datang dengan dia yang datang terlebih dulu ma, aku sudah terlanjur berjanji pada Kenzo juga," jawab Ayu, lalu ia pergi kekamarnya untuk bersiap - siap.
Kenzo tidak Kuasa menahan kerinduan didalam dirinya pada Tante Vina yang sudah ia anggap sebagai ibunya sendiri.Mama Ayu- pun merasa aneh pada Kenzo, ia merasa seperti mengenal laki - laki yang mengantar putrinya pulang itu.'Siapa anak ini? Kenapa dia tidak asing bagiku, padahal kita baru saja bertemu.' gumam Mama Ayu."Ma, Ayu masuk dulu ya." Ayu meminta izin mama-nya untuk masuk kedalam dan berganti pakaian."Iya sayang, mandi terus ganti pakaianmu biar tidak sakit," kata Mama Ayu.Ayu menganggukkan kepalanya, sebelum masuk kedalam rumah, Ayu menyapa Kenzo terlebih dahulu. "Btw, thank you," kata Ayu sambil tersenyum."No problem, istirahatlah, nanyi malam biar aku yang menjemputmu, kata Kenzo."Ok," jawab Ayu.Ayu-pun masuk kedalam rumahnya. Mama Ayu yang masih penasaran pada Kenzo, kini ia mendekatinya.&n
Selamat datang di dunia fiksi kami - Goodnovel. Jika Anda menyukai novel ini untuk menjelajahi dunia, menjadi penulis novel asli online untuk menambah penghasilan, bergabung dengan kami. Anda dapat membaca atau membuat berbagai jenis buku, seperti novel roman, bacaan epik, novel manusia serigala, novel fantasi, novel sejarah dan sebagainya yang berkualitas tinggi. Jika Anda seorang penulis, maka akan memperoleh banyak inspirasi untuk membuat karya yang lebih baik. Terlebih lagi, karya Anda menjadi lebih menarik dan disukai pembaca.
Comments