สุดท้ายผมก็พาตัวเองเข้ามาอยู่ในที่อโคจรจนได้ สายตากวาดมองไปรอบๆ หามุมสงบๆ สักที่นั่งลง ก่อนจะสั่งเหล้ามา 1 ขวด และกับแกล้มอีกนิดหน่อย ระหว่างที่นั่งรอก็ปลดกระดุมเสื้อสูทออกจากตัว โยนพาดไว้ที่พนักพิง ดึงรั้งเนกไท ก่อนจะโยนไปในทิศทางเดียวกัน ปลดกระดุมคอบนออก 2 เม็ด ยกฝ่ามือขึ้นเสยเส้นผมสีดำสนิทของตัวเอง
พอแก้วใบเล็กถูกวางลงตรงหน้าพร้อมกับขวดเหล้าราคาแพง ผมก็จัดการเทลงใส่แก้ว ยกดื่มขึ้นทันที ไม่มีอารัมภบทใดๆ ทั้งสิ้น นั่งดื่มเพียงลำพัง ในมุมมืดของร้าน อาหารที่สั่งมาไม่มีการแตะต้องใดๆ สิ่งที่ขยับเคลื่อนไหวมีเพียงแก้วใบเล็ก ขวดเหล้า และผู้ที่เป็นเจ้าของซึ่งครอบครองโต๊ะในมุมอับสายตาเท่านั้น
ผมนั่งดื่มไปเรื่อยๆ จนดวงตาฉ่ำเยิ้ม เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ แต่ก็นานพอให้ปริมาณแอลกอฮอลล์ในร่างกายพุ่งขึ้นสูงจนเกินขีดจำกัดในการควบคุมสติสัมปชัญญะ ในตอนนี้ปริมาณน้ำสีอำพันในขวดเหล้าใบสวยลดลงมากกว่าครึ่งขวด ทำให้คนที่เดินเข้าร้านมาด้วยมาดที่หล่อ เนี๊ยบ และดูดี กลายเป็นคนที่ดูขี้เมาในทันที ใบหน้าหล่อคมคายฟุ้บลงกับโต๊ะ นอนอย่างเกียจคร้าน แต่มือก็ยังคงรินเหล้าใส่แก้วอย่างต่อเนื่อง แม้ว่ามันจะล้นออกจากแก้วจนโต๊ะนั้นเปรอะเปื้อน ผมก็ไม่ได้ให้ความสนใจแต่อย่างใด ยังคงขยับยกแก้วจรดริมฝีปากอย่างต่อเนื่อง
“ทำไมมานั่งตรงนี้ละ” เสียงๆ หนึ่งถามขึ้น ทำให้ผมหันหน้าไปมอง ก่อนจะพยายามปรือตามอง
“ครายว๊าาาา รู้จากกูหรอออออออ” น้ำเสียงพูดคุยติดจะยานค้าง กว่าจะเค้นแต่ละคำออกมาได้ คนฟังก็ลุ้นจนเหนื่อย
“เป็นอะไร ทำไมสภาพเป็นแบบนี้”
“หึหึหึ ฮะฮะ” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ในทางกลับกัน ผมกลับหัวเราะขบขัน ทำให้อีกฝ่ายส่ายหัวไปมา ก่อนจะเดินจากไป
“ตกลงครายน้าาาาาา” พูดพึมพำ แล้วเทแก้วเหล้ายกขึ้นดื่มอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
“ไม่มันเลยวู้ววววว” พูดพลางยกขวดเหล้า จรดริมฝีปาก ปล่อยให้น้ำสีอำพันที่แสบร้อนคอไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนหมดขวด วางลงกับโต๊ะดังตึง! แล้วหยิบกระเป๋าเงินออกมา หยิบเงินมาจำนวนหนึ่ง
“หมดนี่เท่าไหร่หว่า อ่อๆ ๆ เท่านี้พอไหมอ่ะ อื้อๆ ๆ พอเน๊อะ” ยันตัวขึ้นจากที่นั่ง ยืนพูดพึมพำคนเดียว พยักหน้ารับไปพลาง ก่อนจะค่อยๆ เดินโซเซ ตั้งใจจะออกจากร้าน
“น้องครับ น้องๆ น้องครับ!”
“หนวกหูจริง มันเรียกครายมึงก็ตอบไปดิว่ะ!!” พอเดินออกมาได้ไม่ไกลเท่าไหร่ เสียงตะโกนก็ดังขึ้นที่ข้างหลัง ทำให้ผมตะโกนด่าออกมา ก่อนจะเดินต่อไป
“น้องครับ เดี๋ยวครับ!!”
“อ้ายห่าเอ้ยยยยย มึงงงงงงงงก็ตอบไปดิว่ะ ปากมึงเป็นใบ้รึไง!!” ผมตะโกนด่าออกมาอีกครั้ง ยืนโงนเงน อยู่กับที่ พอมั่นใจว่าเดินตรงแน่ๆ ละก็เริ่มสาวเท้าต่อทันที
หมับ!
“อะ”
“น้องครับ น้องจ่ายไม่ครบนะครับ”
“ไม่ครบที่หนายยย ให้ไปต้างงงเยอะ” ผมปรือตามองคนตรงหน้า ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นใคร แต่แม่งหล่อจังว่ะ
“ครับ ให้เยอะครับ แต่นี่มันเหรียญนะครับน้อง มันไม่พอครับ” อีกฝ่ายพูดพลางแบมือออก ให้เห็นเหรียญมากมายในกำมือ
“อะนี่ อยากได้เท่าไหร่ เอาไปเล้ยยยยย” พูดพลางหยิบกระเป๋าสตางค์ส่งให้ อีกฝ่ายเปิดกระเป๋าออก แล้วพูดด้วยความลำบากใจ
“คือ มันมีแต่แบงค์ยี่สิบครับ”
“ยากเจงโว้ยร้านเน้ เอาบัตรดิ บัตรอ้ะ บัตรห่าอะไรก็หยิบๆ ไปเถอะ” พูดพลางแย่งกระเป๋ากลับมา หยิบบัตรส่งให้หนึ่งใบ
“อ่อ อันนี้บัตรร้านหนังสือครับ” งุ้ยยย หยิบใหม่
“อันนี้บัตรสะสมแต้มชานมไข่มุกครับ” อ้ะ อีกละ เอาใหม่
“เฮ้อ อันนี้บัตรเข้าคอร์สเสริมความงามครับ” เอ้าาาาาาา
“นี่มันบัตรโรงพยาบาลครับ” โอ้ยยยย อะไรนักหนาหว้าาาาา
“อ่า เอ ไหนน้าาาา ออกมาหาป๊ะป๋าเร็วววววว อะนี่”
“น้องครับ กวนตีนหรอครับ นี่มันบัตรประชาชน”
“โว้ยยยยยยยย มึงเอาไปดูเองเลยไป๊ มึงอยากได้บัตรอะไรก็หยิบเอาเล้ยยยยย” พูดพลางทิ้งตัวลงนั่งรอ นั่งแม่งกับพื้นนี่แหละ ตาปรือจะหลับแหล่มิหลับแหล่อย่างรอคอย
“เสร็จยางงงงงง”
“ครับ กรุณารอตรงนี้สักครู่นะครับ”
“อื้ออออออ” ผมนั่งรอจนกระทั่งหลับไป
กว่าจะรู้ตัว ก็ตอนที่แขนสองข้างแกว่งไปมา ตัวลอยเหนือพื้นดิน ปรือตามองหนทางข้างหน้า ร้องออกมาอย่างดีใจ
“ลอยได้ กูลอยได้ กูลอยด้ายยยยยยยยยยย เหี้ยยยยย อิสระๆ ๆ ๆ ๆ อ๊า อิสระ!” ผมร้องพลางดีดดิ้นใจมุ่งหวังให้ไปได้เร็วกว่านี้ ทำท่าซูเปอร์แมนกำลังบิน
“อยู่เฉยๆ ได้ไหมห๊ะ!! มึงจะดีดดิ้นทำไม!!” เสียงดุๆ นั้นพูดกลับมา ทำให้ผมก้มลงมองที่ด้านล่าง
“ไอ้หัวส้มมมมม ไอ้หัวส้มมมมม สีแม่งน่าเกลียดฉิบหายยยยยย อะไรทำให้มึงตัดสินใจทำทรงเน้นนนนนน” พูดพลางดึงทึ้งหัวของมันไปมา
“มึงไม่ชอบแต่กูชอบ จบป้ะ สัส อย่ามาเล่นหัวกู” อีกฝ่ายพูดพลางสะบัดหัวไปมา ให้หลุดพ้นจากฝ่ามือของผม ผมจึงหยุดมือ วางมือลงบนบ่าช้าๆ ซุกหน้าลงกับต้นคอของคนที่กำลังแบกผมอยู่ในตอนนี้
“ถ้ากูแต่งงาน มึงจะว่าไงว่ะ” ประโยคคำถาม ถูกเปล่งออกจากริมฝีปากบางแผ่วเบา
“อะไรนะ?” อีกคนถามเหมือนกับไม่แน่ใจเท่าไหร่
“.....”
“.....”
“.....”
เราต่างคนต่างเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนกระทั่งมันเอาผมมาโยนทิ้งไว้บนเตียงนุ่ม ภายในห้องของผมเอง แล้วกำลังจะผละตัวออกไป แต่ผมกลับจับคว้าชายเสื้อของมันเอาไว้ กระตุกหน่อยๆ ก่อนจะเงยหน้าทำแววตาเว้าวอน
“กอดหน่อย” วงแขนแข็งแรงตวัดโอบกอด มันแน่นหนาไม่อาจหลุดออกไปได้ง่ายๆ แต่ก็ไม่ได้แน่นจนทำให้อึดอัดเกินไป ในทางกลับกัน มันกลับทำให้รู้สึกวางใจ อยากนอนซบไปเรื่อยๆ
“จูบหน่อย” ผมผละออก เงยหน้าขึ้นร้องขออีกครั้ง อีกฝ่ายกดจูบลงมาเร็วๆ แล้วผละไป ทันทีที่ริมฝีปากแตะกัน ทำให้ผมเบะปาก เริ่มสะอื้น
“มะเอาแบบนี้ มะใช่แบบนี้ ฮึก”
“ไม่ใช่แบบนี้แล้วแบบไหน”
“มะรู้ แต่มะเอาแบบนี้ ฮือออ” ผมยกมือขึ้น ปาดน้ำตาตัวเองปอยๆ ไม่รู้ทำไม ยิ่งพยายามลบมันออกไปมากเท่าไหร่ น้ำตายิ่งไหลออกมามากเท่านั้น
“....”
“ฮือออออ ฮืออออ ไม่เอา ฮืออออ ไม่เอาแบบนี้ ฮือออออ” ผมก็ไม่รู้ว่าคำว่าที่ว่าไม่เอานั้น หมายถึงการจูบครั้งนี้ หรือไม่อยากเห็นคนตรงหน้าไปเป็นของคนอื่น หรือการถูกบังคับให้แต่งงานอย่างไม่เต็มใจ รู้เพียงแค่ยิ่งได้ร้องมากแค่ไหน ภายในใจก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวดที่เท่ากัน ผมนั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น ปาดน้ำตาของตัวเองไปมา จนจมูกเริ่มขึ้นสีแดงจัด และดวงตาที่เริ่มบวมเป่ง
หมับ!
จ๊วบบบบบบบบบบ
ฝ่ามืออุ่นร้อนจับเข้าที่ใบหน้าทั้งสองข้าง ปรับให้ผมเงยหน้าขึ้นแล้วทาบทับริมฝีปากลงมา ประกบจูบดูดดื่มราวกับจะช่วงชิงวิญญาณ ราวกับจะปราบปรามเสียงร้องสะอื้นไห้ ราวกับไม่อยากจะให้เสียใจ ไม่รู้หรอกว่าเรื่องอะไร แค่ทำให้หยุดร้องไห้ได้เป็นพอ เมื่อจูบนานจนพอใจ ถึงได้ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกช้าๆ หยาดน้ำสีใสถูกดึงยืดก่อนจะขาดออกจากกัน ฝ่ามือร้อนลูบนิ้วหัวแม่โป้งมือ เกลี่ยริมฝีปากเช็ดน้ำลายออกให้อย่างอ่อนโยน
“ซัน รักคุณเบสหน่อย ได้ไหม ฮึก ฮึก” ถามพลางเจือเสียงสะอื้น เงยหน้ามองทั้งน้ำตา ทำให้อีกฝ่ายโน้มตัวดึงรั้งเข้าไปไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะค่อยๆ ดันตัวให้นอนลงบนที่นอนช้าๆ ตามประกบจูบไม่ห่าง นิ้วมือเลื่อนไปปลดกระดุมจากเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มของคนเมาที่ขาดสติ ก่อนที่นิ้วร้ายๆ จะขยับมาบีบเคล้นที่อกข้างหนึ่ง ราวกับว่าเป็นปทุมถันของหญิงสาวก็ไม่ปาน นิ้วมือสะกิดเขี่ยยอดอกไปมา ทั้งๆ ที่ริมฝีปากก็ยังคงบดจูบอยู่ ไม่ห่างหายไปไหนไกล
“อึก อะ อื้ออออ อ่าาาาา” เสียงครางอื้ออึงในลำคอ พร้อมกับมือน้อยๆ ที่เรียวยาวย้ายไปกำเสื้อด้านหลังของคนที่มีเส้นผมสีส้มอิฐเอาไว้แน่นทั้งสองข้าง ปลายเท้างองุ้มลง จิกลงที่เตียง ริมฝีปากถูกเลื่อนลงมา ยอมขยับย้ายออกจากริมฝีปากที่เจ่อบวม กดจูบซับมาตามซอกคอ ดูดดึงทำรอยไว้อย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะเลื่อนลงมาที่ไหปลาร้า ใช้ฟันกัดเบาๆ ตามแนวกระดูก จนต้องร้องออกมาประท้วง
“อะ จะ เจ็บ” ลิ้นร้อนๆ ตวัดเลียตามรอยฟันที่ปรากฏราวกับปลอบใจ ก่อนจะดูดซับลงไปหวังให้หายเร็ววัน จนเมื่อทำรอยที่แผ่นอกจนพอใจ จึงได้ขยับขยายไปที่ยอดอกดูบ้าง อ้าปากงับพร้อมขบกัดอย่างหมั้นเขี้ยวเสียเต็มประดา แต่ทำให้ใต้ร่างนั้นตัวกระตุกเกร็ง
“อะ อ๊า สะ เสียว อ้ะ เสียววววว อื้ออออ” คนเมาบิดตัวไปมาอย่างทรมาน คนที่มีเส้นผมสีส้มอิฐจึงระบายความทรมานนั้นด้วยการปลดตะขอกางเกงออกช้าๆ รูดซิปลงจนสุด ดึงรั้งออกเล็กน้อย ก่อนที่มือร้ายจะค่อยๆ คืบคลานเข้าไปสัมผัสตัวตนที่ตื่นขึ้นพองขยาย คว้าเข้าที่แก่นกลางของร่างกาย ลูบไล้ไปมาเบาๆ จนคนใต้ร่างบิดตัวหนักขึ้น พยายามบดเบียดสะโพกเข้ากับมือหนานั้นอย่างร้อนรน
“ฮืออออออ เสียว อะ เสียววว อื้อออ ขยับ” ร้องครวญครางไม่ได้สติ เมื่ออีกฝ่ายทำเพียงแกล้งปัดผ่านมา ก่อนจะสะดุ้งสุดตัว เมื่อถูกคว้าหมับเข้าให้ ความรุ่มร้อนแผ่ออกไปทั่วทั้งลำกาย ก่อนที่จะถูกรูดรั้งตามมา
“อะ อะ อ่า อ้ะ ซี้ดดดดด เสียว คุณเบสเสียว อื้อออออ” ปากร้องคราง พร้อมกับพยายามแปะป่ายไปตามเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระดกตัวขึ้นเล็กน้อย อ้าปากงับลงบนหัวไหล่ผ่านเนื้อผ้า
“ซี้ดดดด แม่ง ไม่ไหวแล้ว” อีกคนร้องบอก ก่อนจะผละออกไปอย่างร้อนรน ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจากกาย ก่อนจะขยับมาถอดให้ผมด้วย จนเมื่อร่างกายเปลือยเปล่า ก็ถูกทาบทับด้วยคนตัวใหญ่อีกครั้ง มอบความอบอุ่นมาให้ผ่านผิวเนื้อที่แนบชิด
กึด!
“อ๊าาาาาาาาาาาาา เจ็บ ฮื้ออออ คุณเบสเจ็บ” ร้องออกมาทันทีเมื่อมีสิ่งแปลกปลอมดุนดันเข้าที่ช่องทางคับแคบสีชมพูอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนที่จะถูกกดลึกเข้ามาเรื่อยๆ จนทำให้ตัวเกร็งแน่น ปลายเท้าเหยียดออกก่อนจะงองุ้มลง สลับกันไปมา มันเป็นความรู้สึกที่แปลก ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ปลายนิ้วนั้นถูกดันเข้ามาจนสุด ก่อนจะกดแช่ค้างเอาไว้นิ่งๆ
“แฮ่กๆ ซัน คุณเบสเจ็บ” ร้องบอกทั้งน้ำตา อีกฝ่ายกดจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน
“ซันขอโทษนะครับ ซันจะทำเบาๆ นะ แต่ให้เลิกตอนนี้ซันทำไม่ได้นะครับ เบสอดทนหน่อยได้ไหม?” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความอ่อนโยน จนทำให้พยักหน้ารับน้อยๆ ยกมือเช็ดน้ำตาปอยๆ อีกฝ่ายก็ลูบศีรษะกลับมาเบาๆ ก่อนที่นิ้วร้ายนั้นจะเริ่มต้นขยับเข้าออกช้าๆ จนทำให้คนใต้ร่างผวาเฮือก มือถูกยกขึ้นจิกลงที่ต้นแขนของผู้กระทำทั้งสองข้างอย่างไม่ออมแรง
“ซี้ดดดด อย่ารัดแน่นสิครับ”
“อ๊าาาาา เสียว สะ เสียว อ๊าาาาาา”
“อึก ซี้ดดดดด แม่ง จะแน่นไปไหนวะ” พูดพลางกดนิ้วเข้าออกช้าๆ อย่างเอาใจ จนเมื่อช่องทางเริ่มคุ้นชิ้น ก็ส่งนิ้วที่สองตามเข้าไปติดๆ
“อะ อะ เจ็บ งื้อออออ เจ็บ อึก”
“อ่า อดทนหน่อยนะครับเมีย” คำพูดที่เปล่งออกมาถูกมอบให้พร้อมกับจูบเบาๆ ที่ข้างแก้ม ทำให้คนใต้ร่างกัดริมฝีปากอย่างอดทน คนที่กำลังขยับนิ้วมือก็ไม่ได้ปล่อยให้ปากว่าง เริ่มดูดดุนยอดอกของอีกฝ่ายอย่างเมามันและลุ่มหลงอยู่ในที
“อ๊า เจ็บ ฮือออออ เจ็บจะตายแล้ว อ๊าาา” มือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นทุบตุ้บตับ ทรมานกับนิ้วมือทั้ง 3 ที่สอดแทรกเข้ามาในกาย
“อยากจะให้ซันหยุดไหมครับ”
ชึ้บ ชึ้บ ชึ้บ
“อ้ะ อะ อ่า อื้อออออ อ้ะ”
“ตอบซันสิครับ อยากให้ซันหยุดไหม”
ชึ้บ ชึ้บ ชึ้บ
ถามพลางขยับนิ้วมือเข้าออกไปด้วย หากแต่คนเมากลับกัดริมฝีปากอย่างชั่งใจ ดังนั้นแล้วคนผมสีส้มอิฐจึงค่อยๆ ถอนมือออกมาช้าๆ จนคนใต้ร่างรู้สึกวูบโหวง พออีกฝ่ายตั้งท่าจะผละออกไป ทำให้คนเมารีบผวา คว้ามือเอาไว้ ก่อนจะกำแน่น เงยหน้าฉ่ำน้ำขึ้นมอง
“ซัน รักคุณเบสนะ นะ รักคุณเบสนะ” พูดพลางดึงรั้งอีกฝ่ายให้กลับมาอยู่ในท่าเดิม ค่อยๆ แยกขาออกกว้าง จนเห็นช่องทางสีชมพู มีรอบจีบพับจับอยู่โดยรอบ และมีน้ำเมือกสีใสปรากฏอยู่ให้เห็น ใบหน้าที่ปกติจะนิ่งเงียบ เฉยชา กำลังแสดงสีหน้าที่แดงก่ำ ไม่กล้าหันมองสบตาคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ตรงหว่างขาของตัวเอง คนผมสีส้มอิฐ คลานเข้าไปหาช้าๆ มือคร่อมคนตัวเล็กกว่านิดหน่อยเอาไว้ ก่อนถามเสียงพร่าข้างใบหู
“แน่ใจหรอครับ พอทำแล้วเราย้อนกลับไปไม่ได้อีกแล้วนะ”
“นะ นะ แน่ ถ้าเป็นซัน คุณเบสมั่นใจ นะ รักคุณเบสนะ” ใบหน้าที่สีแดงระเรื่อลุกลามไปถึงลำคอ และกระจายออกไปจนทั่วตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้คนที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ ขยับรูดรั้งแก่นกายตัวเองให้พร้อมอยู่ในที แล้วจดจ่อปลายหัวบานเข้ากับช่องทางรัก ถูกไถเล็กน้อยเพื่อทำความรู้จัก ก่อนจะค่อยๆ กดแทรกตัวตัวตนเข้าไป
“อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา แหก อื้ออออออ แหกหมดแล้ววววววว” เสียงหวีดร้องดังตามมาติดๆ ก่อนที่เจ้าของร่างที่ถูกรุกล้ำจะล้มตัวลงนอนกับเตียงอย่างหมดแรง ใบหน้าปรากฏร่องรอยน้ำตาที่มาจากความเจ็บปวด ฝ่ามือจิกกำผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น คนที่กำลังรุกล้ำกายกัดฟันอย่างอดทน ไม่ให้กระแทกเข้าไปจนสุด แต่ค่อยๆ กดแทรกเข้าไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งเข้าไปจนหมด คนใต้ร่างก็ตัวกระตุก ปลดปล่อยน้ำรักออกมาจนเปื้อนหน้าท้องแกร่ง
คนที่ฝากฝังแก่นกายเอาไว้ในร่าง จึงกวาดต้อนเอาน้ำรักนั้นมาทาที่ช่องทางด้านล่าง ทำให้เห็นว่ามีรอยเลือดปนอยู่ หันไปเช็ดมือกับเสื้อผ้าที่อยู่ใกล้ๆ โน้มตัวลงไปลูบหัวคนตัวเล็กกว่า ที่ดวงตากำลังลอยคว้างอยู่
“เก่งมาก เด็กดี”
ปึก!
แก่นกายนั้นค่อยๆ ขยับเข้าออกในจังหวะที่เนิบช้า แต่ก็ทำให้คนใต้ร่างนั้นตัวกระตุกได้ทันที
ปึก!
“อะ”
ปึก!
“อ้ะ”
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
จากจังหวะเนิบช้า แปรเปลี่ยนเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามแรงอารมณ์ของคนที่กัดฟันอดทนมาตั้งนาน ในขณะที่อีกคนนั้นหวีดร้องออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“อ๊า อ๊า ฮือออออ แหก แหกหมดแล้ว คุณเบสจะตายแล้ว ฮือออออ”
“อ่า เมียครับ เมียไม่มีทางตายเพราะผัวเอาหรอกนะ”
“อื้อออออ คุณเบสกำลังจะตาย ฮืออออ คุณเบสกำลังจะตาย อ๊าาาา”
สวบ! สวบ! สวบ!
ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ!
“อะ อะ อ้ะ อ๊า ฮือออออ เสียว อ๊า เสียว คุณเบสเสียววววว”
“อืมมมมม” เขาร้องครางเบาๆ พร้อมกับจับอีกฝ่ายให้พลิกตัวนอนคว่ำ ทั้งๆ ที่ยังคงเชื่อมต่อถึงกันอยู่ ก่อนจะบังคับท่าทาง ให้อยู่ในท่าคลานเข่า โดยที่เขาจับยึดเอวเอาไว้ ก่อนจะสวนสะโพกเข้าหาสุดแรง
“อ๊า ลึก ฮือออ ลึก ลึกเกินไป!!! คุณเบสกำลังจะเป็นบ้า อ๊า คุณเบสกำลังจะเป็นบ้า!!”
“ซี้ดดดดด คลั่งสิ คลั่งผัวให้มากๆ กระแทกสวนมา!!!”
เพี้ยะ!!
ฝ่ามือร้อนๆ ตีเข้าที่สะโพกจนขึ้นรอยแดงของนิ้วมือ ก่อนจะจับโยกเอวบางนั้นให้สวนกายเข้าหา ใช้เวลาสอนพักใหญ่ บีบขยำสะโพกกลมกลึงไปพลาง จนกว่าจะเป็นงาน คนที่คลานเข่าก็มีรอยแดงช้ำของนิ้วมือปรากฏอยู่จนเต็ม
“อะ อะ ดี ดี คนเก่ง เด็กดี”
“อ๊า อ๊า ซัน ซัน ฮื้ออออ ซัน รักคุณเบสแรงๆ รักแรงๆ อ๊า”
“ครับๆ รักแรงๆ” ว่าจบ ก็ถอดตัวตนออกอย่างรวดเร็ว จับให้อีกคนนอนตะแคงข้าง ยกขาข้างหนึ่งพาดที่บ่ากว้าง อีกข้างถูกกดเอาไว้จนติดเตียง แล้วแทรกกายเข้าหาทีเดียวจนมิดลำ
“อ๊าาาาาาาาาาาา เสียว เสียวววว มันเสียวเกินไป อ๊า อ๊า อ๊า”
“อ่า รักไงครับ รักแรงๆ”
ฟั่บ! ฟั่บ! ฟั่บ!
“มะ มะ ไม่ไหวแล้ว อ๊า ไม่ไหวแล้ว!!!”
พรวด!!
เพี้ยะ!!
“นิสัยไม่ดี!!! เสร็จก่อนผัวได้ยังไง!! ใครให้เสร็จ!!” จบคำที่ว่าฝ่ามือก็บีบขยำที่ยอดอกรุ่นแรง ดึงทึ้งไปมาจนต้องแอ่นตัวตามแรงดึง พร้อมๆ กับความเร็วที่ด้านล่างที่เพิ่มากขึ้นไปอีกเท่าตัว
สวบ! สวบ! สวบ!
“อ๊า อ๊า ช้า ช้า ฮะ ช้าหน่อย ซันนน อื้อออออ ซัน!!”
“ช้าๆ มันจะไปมันอะไร” พูดพลางถอนแก่นกายออก จับดึงข้อมือขาวให้ลุกขึ้น อีกฝ่ายก็ถลามาตามแรงดึง ก่อนจะถูกล็อกแขนล็อกขา ยกตัวขึ้นสูง แล้วแทรกแก่นกายร้อนผ่าวที่ตั้งตรงเข้าใส่ช่องทางรักในทันที
“อ๊าาาาาาาาา”
พรวด!!!
“ฮึ่มมมมมมมม อีกแล้วนะ!!!” บริภาษพลางกดจูบดูดดึงรุนแรง ราวกับต้องการจะทำโทษ ในขณะที่ด้านล่างก็ขยับแรงขึ้น แรงขึ้น แรงขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คนที่ถูกอุ้มแตงขาดสติจนแทบคลั่ง กรีดร้องออกมาอย่างทรมานและสุขสมในเวลาเดียวกัน
“อ๊า ซัน รักเบส รักคุณเบส อ๊า ซัน ซัน”
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
แรงที่ขยับกายเพิ่มมากขึ้น ก่อนที่จะถูกจับให้ไปนอนลงบนเตียงอีกครั้ง รวบข้อเท้าทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว พาดบนลาดไหล่ แล้วจับยึดเอาไว้แน่น ทำให้ช่องทางรักบีบกระชับตัวตน
“อ๊า แน่น แน่นไปแล้ว!!! เสียว ฮืออออ เสียวจนจะตายอยู่แล้ว!!!”
“ผัวบอกแล้วไง ไม่มีใครตายเพราะโดนเอา!” ฝ่ามือเรียวขาวจิกลงที่ท่อนแขนอีกครั้ง ก่อนจะกรีดลากเป็นทางยาว ทำให้คนที่ถูกฝากฝังรอยซี้ดปาก ก่อนจะเพิ่มแรงโหมกระหน่ำยิ่งขึ้นไปอีก
“ทำผัวหรอ!! ทำผัวใช่ไหม!!”
“ฮะ ฮี้ คุณ อ้ะ อ๊า คุณเบส ฮือออ คุณเบสไม่ได้ตั้งใจ ฮื้อออ” ตำแหน่งถูกเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง จากที่เคยนอนอยู่เบื้องล่าง ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้มันนั่งคร่อมที่ด้านบน พร้อมกับเสียงทรงพลังออกคำสั่งกังวาน
“ขยับ!!”
“อ๊า อ้ะ อ้ะ อ้ะ ฮื้อออ ซัน มันลึก อึก มันลึก อ๊ะ อ๊าาาาาาาา” คนที่นั่งอยู่ด้านบนเสร็จสมอีกครั้งเป็นครั้งที่สี่ ตัวกระตุกรุนแรง จนอีกคนคว้าหมับเข้าที่ลำกาย ปิดส่วนปลายหัวเอาไว้แน่น
“มันจะมากเกินไปแล้ว!!!”
“อ้ะ อ้ะ อ้ะ อ๊า ซัน เบา เบา อ๊า เบา”
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
คนที่นอนอยู่ใต้ร่างกระแทกกายสวนขึ้น ในขณะที่ฝ่ามือก็ปล่อยออกจากแก่นกายน่ารัก ไปจับที่สะโพกมน กดให้กระแทกตัวกลับลงมา ก่อนจะเร่งสปีดจนเร็วจี๋ จนคนด้านบนตัวสั่นตัวคลอน
“ฮืออออ จะตายแล้ว คุณเบสจะตายแล้ว แหก แหกหมดแล้ว ฮืออออ พอแล้ว อ๊าาาาาา”
ปึก!!!!!!!
“อ่าาาาาาาาา” หยาดน้ำแห่งอารมณ์ร้อนๆ สีขาวขุ่น ถูกพ่นรดใส่ภายในร่างกายที่เอนซบลงมาอย่างหมดแรง คนใต้ร่างกระแทกเข้าออกเบาๆ อีก 2 – 3 ครั้ง หยุดค้าง พักหายใจ จนเมื่อลมหายใจกลับมาเป็นปกติ ถึงได้เริ่มต้นจับสะโพกมนอีกครั้ง บังคับให้กระแทกกายสวนกลับทั้งๆ ที่ยังคงนอนเอนซบอยู่ พร้อมๆ กับตัวเขาเองที่กระเด้งกายสวนขึ้นมา
“อื้อออออ ซัน ไม่เอาแล้ว คุณเบสไม่ไหวแล้ว”
“ซันอยากรัก อยากรักคุณเบสให้มากๆ และซันจะรักคุณเบสแรงๆ”
“อะ อะ อ้ะ อ่า อ๊า ซี้ดดดด ซัน ซัน ซัน” เสียงครวญครางของร่างทั้งสองที่โหมบทรักเร่าร้อนรุนแรงดังขึ้นทั้งคืนจนกระทั่งล่วงเลยเข้าวันใหม่ แสงตะวันมาเยือน แต่ทั้งสองร่างก็ยังคงขยับโยกกายเข้าหากันไม่หยุด
“มะ มะ ไม่ ไม่ไหวแล้ว ฮึก ไม่ไหวแล้ว” ริมฝีปากอุ่นร้อนทาบทับลงที่กลางหลัง จับกดสะโพกมนลงกับพื้นเตียง บังคับให้นอนคว่ำหน้าแนบไปกับพื้นเตียงนุ่ม หมอนรองสะโพกเอาไว้เพื่อช่วยยกสูง
“ครับ เสร็จรอบนี้แล้วจะให้นอนครับ” พูดพลางกดกายเข้าหาเป็นครั้งสุดท้าย ปลดปล่อยน้ำรักเข้าใส่ร่างบาง ก่อนจะโน้มตัวลงทาบทับคนตัวเล็กกว่าใต้ร่าง ทิ้งตัวลงนอนตะแคงข้าง กอดก่ายจากด้านหลัง ยกขาข้างหนึ่งมาพาดไว้ จับล็อกขาเอาไว้แน่น แล้วกดกายเข้าหาในจังหวะเนิบช้า แม้ว่าใครอีกคนจะหมดแรงจนสลบไปแล้วก็ตาม
“ซี้ดดด อ่า คุณเบส คุณเบสของซัน เมียครับ อึก ฝันดีนะ” พูดพลางยอมปล่อยขาลงช้าๆ หยิบเอาผ้าห่มมาคลุมกาย นอนก่ายกอดกันสองคน......
Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrr“อืมมมม”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“หนวกหู.......”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“อื้อออออ”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“โว้ยยยยยยย รำคาญจริง!!!”ติ้ด![ไอ้ซัน! ไอ้สัส! มึงอยู่ไหนเนี้ยยยย]“โอ้ยยย เสียงดังฉิบหาย มึงจะโวยวายทำไมวะ”[ไอ้ควาย! มึงนัดเพื่อนมาทำงานเนี้ย แล้วมึงพึ่งตื่นหรอวะ!!!] เสียงไอ้วุฒิพูดด้วยความโมโหดังลอดออกมาจากโทรศัพท์แผ่วๆ“.......”“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย” คนที่กำลังนอนก่ายกอดอยู่ที่ด้านหลัง เด้งตัวออกแล้วผุดลุกขึ้นนั่งทันที ทำให้ช่องทางรักที่ถูกเชื่อมติดเอาไว้เมื่อตอนก่อนจะหลับฝันไป หลุดออกอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงร้องดังออกมาจากคนที่กำลังนอนอยู่ข้างกัน“โอ๊ย!!!” เพราะความเจ็บนั้นปลุกผมให้ตื่นขึ้นจากนิทรา แต่ความรู้สึกแรกที่ลืมตาข
ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งแผ่นหลังทำให้ผมบดเบียดกายเข้าหาอย่างวางใจ จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารินรดบนกระหม่อมทำให้ต้องปรือตามอง เมื่อคืนผมนอนคนเดียว.....ใครวะ!!!คิดพลางลืมตาโตหันกลับไปมองคนที่นอนซ้อนอยู่ข้างหลังในทันที จนใบหน้ามีระยะห่างเพียงลมหายใจกั้น ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมเข้มกำลังปิดพริ้ม ริมฝีปากหนา สันกรามชัดเจน ราวกับภาพวาดของเทพบุตร แสงสีทองของดวงอาทิตย์ตกกระทบกับเส้นผมสีส้ม จนส่องประกายยิ่งกว่าเหมือนกับเจ้าชายในเทพนิยายที่กำลังหลับใหล นอนหลับพักผ่อนผมกะพริบตามองอย่างุนงง เมื่อไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้เข้าห้องมาได้ยังไง เข้ามาตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมถึงเลือกที่จะมานอนกับผม แทนที่จะนอนห้องของตัวเอง แต่ก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป ขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แตะริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อย แล้วจึงซุกตัวลงในอ้อมแขน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และหัวใจที่เต้นกระหน่ำรัว ซุกหน้าเข้ากับอกกว้างนั้นอีกนิด คนที่กำลังกอดอยู่ขยับแขนเข้ามากอดรัดให้มากขึ้น พร้อมกับจับผ้ามาห่มให้ โดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง แต่มันกลับทำให้ผมสงสัย ว่ามันตื่น
ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนด้วยนาฬิกาชีวิต มึนงงเล็กน้อย มองออกไปรอบๆ ห้องๆ อย่างแปลกใจ ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน วิ่งไปที่ห้องนั่งเล่น แย่ละ…แต่พอวิ่งไปถึงแล้วก็ต้องชะงัก ไฟถูกปิดทั้งหมด ทีวี แอร์ ทุกอย่างหยุดการทำงาน ความอบอุ่นของห้อง ทำให้รู้ว่ามันถูกปิดไปนานมากแล้ว ผมยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่กลางห้อง ก่อนจะค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟา ครุ่นคิดเรื่องเมื่อคืน ผมดูซีรีส์อยู่ ผมจำได้ ผมอาจจะง่วงมาก ถึงได้เข้าไปนอนในห้อง แต่มั่นใจมากพอว่าตัวเองไม่ได้เดินปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกนี้แน่“หรือจะมีผีว่ะ?” บ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ไม่หรอก นี่มันตึกพึ่งสร้างนะ ห้องก็ราคาแพง ใช่ห้องถูกๆ ซะที่ไหน ไม่น่าใช่หรอก หรือผมละเมอไปปิดว่ะ ขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนที่จะ ช่างแม่ง....พอคิดได้ดังนั้นก็เลยลุกขึ้น ไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปเรียน ออกมาทำอาหารเช้าทาน พอทานเสร็จก็จัดการล้างเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะขับรถไปที่มหาลัย พอไปถึงผมก็ยังคงนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ จะช่างแม่งมันก็ได้แหละ แต่สงสัยไง เออ ช่างแม่งก็ได้.... คิดพลางสะดุ้งเมื่อมีคนตบลงที่บ่าหนักๆ จน
เอ๋?“อื้อ”ฮะ?“อืม”หืออออออ?“อ่า”หน่าหนิ!?!?!?!?พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!อะ อะไร?? มันเป็นแบบนี้ได้ไง?? งงไปดิครับ!!!“ร้องสิ...... เหมือนวันนั้น”“อะ มะ มึง จะให้ อึก กูร้อง อะ อะไร”“อ่า สงสัย กูคงต้องกรอกเหล้าเข้าปากมึงบ้างแล้วมั้ง? ซี้ดดดด”“อ๊ะ อะไรของมึงเนี้ย” ตอนนี้ผมถูกกดให้นอนอยู่ใต้ร่างของไอ้ซันครับ หัวเข่าทั้งสองข้างโดนมันจับดันจนชิดอก ทำให้ช่องทางรักลอยเด่น และมีแก่นกายของมันกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างเมามัน ต่างจากผมเนี้ย อ๋อแดกและใบ้กินโดยสมบูรณ์ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยทีเดียว“เหนื่อยว่ะ ขยับดิ๊” ไอ้ซันว่าพร้อมกับยกตัวผมขึ้นทั้งๆ ที่ยังเชื่อมติดกัน จัดให้ผมนั่งทับแก่นกายของมัน และมันเองก็จับขยับโยกเอวผมไปด้วยเบาๆ“อะ หะ หะ เหี้ยเถอะ กูจุก อยากก็ทำ
เพี้ยะ!“ถ้าไม่รักจะมาคบกันทำไมว่ะ!!!” ใบหน้าหล่อร้าย มาดนิ่ง หันสะบัดตามแรงตบกระทบ จนใบหน้าขาวๆ นั้นขึ้นรอยฝ่ามือชัดเจน เขาทำเพียงมองตอบกลับไปด้วยใบหน้านิ่งๆ เฉยชา และไร้ความรู้สึก แตกต่างจากหญิงสาวตรงหน้าที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ มือกำแน่น ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า มองจ้องอย่างเจ็บแค้นและโกรธเคือง“เสียชาติเกิด!! ไอ้หน้าตัวเมีย!!” อีกฝ่าตะโกนด่าดังลั่นอีกครั้ง ซึ่งเขาเองก็ทำเพียงยืนมองอยู่เฉยๆ ยอมรับคำกล่าวหา ไม่เถียงอะไรออกไปสักคำ“จบแล้วใช่ไหม กูจะได้ไปสักที” พูดพลางหันหลัง ก้าวเดินจากมา ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น ต่างจากคนที่ด้านหลังกรีดร้องเป็นเจ้าเข้า“ไอ้เบส!! กูขอให้มึงอกหัก!! ไม่สมหวังในความรัก!!! น้ำหน้าอย่างมึงเขาไม่เอามึงหรอก!! อีวิปริต!! อีผิดเพศ!!! ขอให้มึงตกนรกทั้งเป็น!!! กรี้ดๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เขาเดินก้าวจากมาช้าๆ พร้อมๆ กับคิดในใจไปด้วยว่าไม่ต้องแช่งกูหรอก แค่ตอนนี้กูก็ตกอยู่ในสถานะนั้นแล้ว....ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน.....“ไอ้อ้วน!!! ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ ไอ้ลูกหมู!!! ไอ้ขี้มูกกรัง!!” เด็กชายตัวน้อยนั่งลงกับพื้นทรายในสวนสาธารณะ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับที่ ยกแขนป้อมๆ นั้นขึ้นปาดน้ำตาตั
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก”“อึก แฮ่ก แฮ่ก”ตุ้บ!ผมนอนทิ้งตัวบนพื้นที่มีเสื่อโยคะปูเอาไว้อยู่ ใบหน้าหันมองออกไปที่ผืนน้ำสีฟ้าสดใส ลมหายใจหอบกระชั้นถี่ระรัว เป็นผลพวงที่มาจากการฟิตออกกำลังกาย อย่างที่รู้กันว่าแต่เดิมผมนั้นเป็นเด็กอ้วนคนหนึ่ง จะให้ทำยังไงได้ละ ก็อาหารการกินของที่ต่างประเทศนั้นมันไม่เหมือนที่ไทยนี่ ส่วนใหญ่ที่ได้ทานอยู่บ่อยๆ ก็เป็นพวกแป้ง เนื้อ นม ไข่ และขนมปัง มันก็คงไม่แปลกที่ผมจะตัวอ้วนกลมตุ้ยนุ้ยตั้งแต่เด็กถ้าถามว่าผมกลับมามีหุ่นที่ฟิต กระชับ และเฟิร์มทั้งตัวได้ยังไง ก็ต้องยกความดีความชอบให้เพื่อนคนสำคัญ ที่มันจับผมลากออกไปเล่นนอกบ้านทุกวัน แถมการเล่นแต่ละอย่างของมันก็ไม่ใช่จะสนุกสนานสำหรับผม แต่กับมันก็คงจะใช่ ผมคิดพลางขนลุกชันไปทั่วทั้งตัว เมื่อคิดถึงการละเล่นในสมัยก่อน“ไอ้เบส มึงดูนี่! แม่งโคตรน่ารักอ้ะ!”“ออกไปนะ!!! ซัน!! เบสไม่เล่น!!” เขาตะโกนร้องบอกคนที่ด้านหลัง วิ่งหนีสุดชีวิต เมื่ออีกฝ่ายจับคางคกตัวตะปุ่มตะป่ำ พยายามจะยื่นมาตรงหน้าให้เขาได้ดู เพราะเจ้าตัวนั้นดันไปเห็นมันกระโดดเข้ามาในบ้านของตัวเอง และจับมาอวดให้เขาดูตรงหน้า ซึ่งทันทีที่เขาได้เห็นก็ร้องลั่น วิ่งหนีอย่
วันนี้ผมตื่นแต่เช้า พอเวลา 8 โมงก็ให้คนขับรถไปส่งที่มหาลัย โดยไม่ลืมที่จะแวะรับเอาเพื่อนสนิทไปด้วย เพราะไหนๆ ก็ต้องไปที่คณะด้วยกันอยู่แล้ว หากแต่...“อ้าว เบส มาทำอะไรแต่เช้าละลูก”“อ๊ะ ก็วันนี้พวกรุ่นพี่เขานัดให้ไปทำกิจกรรมรับน้องนี่ครับ”“อ้อ งั้นแม่ฝากขึ้นไปปลุกซันทีนะ ยังไม่ลงมาเลย” ผมได้แต่สูดลมหายใจเข้าออกอย่างพยายามข่มกลั้นอารมณ์ เดินมุ่งตรงขึ้นไปที่ห้องนอนของเพื่อนสนิท พอเปิดประตูเข้าไปทำให้กำหมัดจนแขนสั่นระริกอย่างอดทน เชื่อได้เลยว่าถ้าหากในมือผมมีไม้เรียว มันคงจะสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ อยากจะฟาดลงไปที่ผิวเนื้อขาวๆ ของคนที่กำลังนอนเปลือย สวมใส่เพียงกางเกงบ็อกเซอร์นั้นอย่างไม่ยั้งมือ“ซัน!! มึงจะไปไหม รับน้องน่ะห๊ะ!!”โครม!!ฝ่าเท้างามๆ ขาวๆ ยันโครมเข้าที่สีข้างของคนที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว จนมันกลิ้งตกเตียงในสภาพที่มึนๆ งงๆ สับสนกับชีวิตว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองบ้าง“ไปอาบน้ำ กูให้เวลา 15 นาที ไม่เสร็จกูจะทิ้งมึงไว้นี่” ผมพูดพร้อมๆ กับพลิกข้อมือตรวจดูเวลา ในตอนที่กำลังจะหันหลังออกจากห้อง ไอ้คนหัวไฟมันก็ชูมือขึ้นน้อยๆ บอกด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ดวงตาปรือปรอยจะปิดลงอีกครั้ง“
วันนี้วันรับน้องวันสุดท้ายแล้วครับ ผมกับไอ้ซันไอ้วุฒิก็ยังคงเกาะกันเหนียวแน่นเช่นเดิม ไอ้ซันมันก็ไล่คุยไล่ถาม สนิทกับคนนั้นทีคนนี้ที แต่ก็ได้แค่คุยแหละครับ ไม่ได้คนในกลุ่มเพิ่มมาเลยสักคน ผมก็อยู่เรื่อยๆ เอื่อยๆ ของผมไป ส่วนไอ้ซันก็ม่อสาวไปเรื่อย งานรับน้องวันสุดท้ายก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมายซักเท่าไหร่ มีประกวดดาวเดือน ซึ่งพวกผมทั้ง 3 คนก็ถูกทาบทามตัวไปประกวดนะ แต่ไม่มีใครยอมตกลงประกวดเลยนี่สิอ้อ มีการโหวตเลือกประธานรุ่นด้วย และเพราะไปซันมันไปเต๊าะเขาไว้ทั่ว ทำให้เป็นที่รู้จักของทั้งรุ่น หวยก็เลยออกที่มันเต็มๆ พอได้เป็นประธานรุ่นแล้วมันก็โดนพวกพี่ๆ เขาบังคับให้เป็นสมาชิกสโมต่อด้วยเลย เพื่อที่ว่าเวลามีงานอะไรจะได้กระจายข่าวให้เพื่อนๆ ในรุ่นรับรู้ โดยที่มันเองก็ออกไปพูดประโยคหล่อๆ เพื่อขอบคุณเพื่อนๆ ที่เลือกมันให้ทำหน้าที่นี้ ด้วยคำพูดที่ว่า“ขอบคุณนะครับพวกเพื่อนเอี้ย ที่หาภาระมาให้กูครับ” พูดพร้อมฉีกยิ้มหวานๆ ก้มหัวลงหน่อยๆ แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ได้ดี ไม่มีใครถือโทษโกรธมันแม้แต่น้อยหลังจากนั้นจึงเป็นกิจกรรมบายศรี รับขวัญน้องๆ เข้าสู่ครอบครัวบริหาร ก็ผูกข้อไม้ข้อมือ ขอพรกันไป แ
เอ๋?“อื้อ”ฮะ?“อืม”หืออออออ?“อ่า”หน่าหนิ!?!?!?!?พั่บ! พั่บ! พั่บ! พั่บ!อะ อะไร?? มันเป็นแบบนี้ได้ไง?? งงไปดิครับ!!!“ร้องสิ...... เหมือนวันนั้น”“อะ มะ มึง จะให้ อึก กูร้อง อะ อะไร”“อ่า สงสัย กูคงต้องกรอกเหล้าเข้าปากมึงบ้างแล้วมั้ง? ซี้ดดดด”“อ๊ะ อะไรของมึงเนี้ย” ตอนนี้ผมถูกกดให้นอนอยู่ใต้ร่างของไอ้ซันครับ หัวเข่าทั้งสองข้างโดนมันจับดันจนชิดอก ทำให้ช่องทางรักลอยเด่น และมีแก่นกายของมันกระแทกกระทั้นเข้าออกอย่างเมามัน ต่างจากผมเนี้ย อ๋อแดกและใบ้กินโดยสมบูรณ์ จับต้นชนปลายไม่ถูกเลยทีเดียว“เหนื่อยว่ะ ขยับดิ๊” ไอ้ซันว่าพร้อมกับยกตัวผมขึ้นทั้งๆ ที่ยังเชื่อมติดกัน จัดให้ผมนั่งทับแก่นกายของมัน และมันเองก็จับขยับโยกเอวผมไปด้วยเบาๆ“อะ หะ หะ เหี้ยเถอะ กูจุก อยากก็ทำ
ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนด้วยนาฬิกาชีวิต มึนงงเล็กน้อย มองออกไปรอบๆ ห้องๆ อย่างแปลกใจ ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นจากที่นอน วิ่งไปที่ห้องนั่งเล่น แย่ละ…แต่พอวิ่งไปถึงแล้วก็ต้องชะงัก ไฟถูกปิดทั้งหมด ทีวี แอร์ ทุกอย่างหยุดการทำงาน ความอบอุ่นของห้อง ทำให้รู้ว่ามันถูกปิดไปนานมากแล้ว ผมยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่กลางห้อง ก่อนจะค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟา ครุ่นคิดเรื่องเมื่อคืน ผมดูซีรีส์อยู่ ผมจำได้ ผมอาจจะง่วงมาก ถึงได้เข้าไปนอนในห้อง แต่มั่นใจมากพอว่าตัวเองไม่ได้เดินปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าพวกนี้แน่“หรือจะมีผีว่ะ?” บ่นพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ไม่หรอก นี่มันตึกพึ่งสร้างนะ ห้องก็ราคาแพง ใช่ห้องถูกๆ ซะที่ไหน ไม่น่าใช่หรอก หรือผมละเมอไปปิดว่ะ ขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก ก่อนที่จะ ช่างแม่ง....พอคิดได้ดังนั้นก็เลยลุกขึ้น ไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมไปเรียน ออกมาทำอาหารเช้าทาน พอทานเสร็จก็จัดการล้างเก็บให้เรียบร้อย ก่อนจะขับรถไปที่มหาลัย พอไปถึงผมก็ยังคงนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ จะช่างแม่งมันก็ได้แหละ แต่สงสัยไง เออ ช่างแม่งก็ได้.... คิดพลางสะดุ้งเมื่อมีคนตบลงที่บ่าหนักๆ จน
ความอบอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วทั้งแผ่นหลังทำให้ผมบดเบียดกายเข้าหาอย่างวางใจ จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารินรดบนกระหม่อมทำให้ต้องปรือตามอง เมื่อคืนผมนอนคนเดียว.....ใครวะ!!!คิดพลางลืมตาโตหันกลับไปมองคนที่นอนซ้อนอยู่ข้างหลังในทันที จนใบหน้ามีระยะห่างเพียงลมหายใจกั้น ใบหน้าหล่อเหลาคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมเข้มกำลังปิดพริ้ม ริมฝีปากหนา สันกรามชัดเจน ราวกับภาพวาดของเทพบุตร แสงสีทองของดวงอาทิตย์ตกกระทบกับเส้นผมสีส้ม จนส่องประกายยิ่งกว่าเหมือนกับเจ้าชายในเทพนิยายที่กำลังหลับใหล นอนหลับพักผ่อนผมกะพริบตามองอย่างุนงง เมื่อไม่รู้ว่าคนตรงหน้านี้เข้าห้องมาได้ยังไง เข้ามาตั้งแต่ตอนไหน แล้วทำไมถึงเลือกที่จะมานอนกับผม แทนที่จะนอนห้องของตัวเอง แต่ก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป ขยับเข้าไปใกล้อีกนิด แตะริมฝีปากเข้าหากันเล็กน้อย แล้วจึงซุกตัวลงในอ้อมแขน ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ และหัวใจที่เต้นกระหน่ำรัว ซุกหน้าเข้ากับอกกว้างนั้นอีกนิด คนที่กำลังกอดอยู่ขยับแขนเข้ามากอดรัดให้มากขึ้น พร้อมกับจับผ้ามาห่มให้ โดยที่ไม่ได้ลืมตาขึ้นมอง แต่มันกลับทำให้ผมสงสัย ว่ามันตื่น
Rrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrr“อืมมมม”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“หนวกหู.......”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“อื้อออออ”Rrrrrrrrrrr Rrrrrrrrr“โว้ยยยยยยย รำคาญจริง!!!”ติ้ด![ไอ้ซัน! ไอ้สัส! มึงอยู่ไหนเนี้ยยยย]“โอ้ยยย เสียงดังฉิบหาย มึงจะโวยวายทำไมวะ”[ไอ้ควาย! มึงนัดเพื่อนมาทำงานเนี้ย แล้วมึงพึ่งตื่นหรอวะ!!!] เสียงไอ้วุฒิพูดด้วยความโมโหดังลอดออกมาจากโทรศัพท์แผ่วๆ“.......”“เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยย” คนที่กำลังนอนก่ายกอดอยู่ที่ด้านหลัง เด้งตัวออกแล้วผุดลุกขึ้นนั่งทันที ทำให้ช่องทางรักที่ถูกเชื่อมติดเอาไว้เมื่อตอนก่อนจะหลับฝันไป หลุดออกอย่างรุนแรง จนเกิดเสียงร้องดังออกมาจากคนที่กำลังนอนอยู่ข้างกัน“โอ๊ย!!!” เพราะความเจ็บนั้นปลุกผมให้ตื่นขึ้นจากนิทรา แต่ความรู้สึกแรกที่ลืมตาข
สุดท้ายผมก็พาตัวเองเข้ามาอยู่ในที่อโคจรจนได้ สายตากวาดมองไปรอบๆ หามุมสงบๆ สักที่นั่งลง ก่อนจะสั่งเหล้ามา 1 ขวด และกับแกล้มอีกนิดหน่อย ระหว่างที่นั่งรอก็ปลดกระดุมเสื้อสูทออกจากตัว โยนพาดไว้ที่พนักพิง ดึงรั้งเนกไท ก่อนจะโยนไปในทิศทางเดียวกัน ปลดกระดุมคอบนออก 2 เม็ด ยกฝ่ามือขึ้นเสยเส้นผมสีดำสนิทของตัวเองพอแก้วใบเล็กถูกวางลงตรงหน้าพร้อมกับขวดเหล้าราคาแพง ผมก็จัดการเทลงใส่แก้ว ยกดื่มขึ้นทันที ไม่มีอารัมภบทใดๆ ทั้งสิ้น นั่งดื่มเพียงลำพัง ในมุมมืดของร้าน อาหารที่สั่งมาไม่มีการแตะต้องใดๆ สิ่งที่ขยับเคลื่อนไหวมีเพียงแก้วใบเล็ก ขวดเหล้า และผู้ที่เป็นเจ้าของซึ่งครอบครองโต๊ะในมุมอับสายตาเท่านั้นผมนั่งดื่มไปเรื่อยๆ จนดวงตาฉ่ำเยิ้ม เนิ่นนานเท่าไหร่ไม่อาจทราบได้ แต่ก็นานพอให้ปริมาณแอลกอฮอลล์ในร่างกายพุ่งขึ้นสูงจนเกินขีดจำกัดในการควบคุมสติสัมปชัญญะ ในตอนนี้ปริมาณน้ำสีอำพันในขวดเหล้าใบสวยลดลงมากกว่าครึ่งขวด ทำให้คนที่เดินเข้าร้านมาด้วยมาดที่หล่อ เนี๊ยบ และดูดี กลายเป็นคนที่ดูขี้เมาในทันที ใบหน้าหล่อคมคายฟุ้บลงกับโต๊ะ นอนอย่างเกียจคร้าน แต่มือก็ยังคงรินเหล้าใส่แก้วอย่างต
ร้อน....อึดอัด....ขยับไม่ได้.....ผมปรือตาขึ้นช้าๆ เมื่อความรู้สึกราวกับร่างทั้งร่างถูกตรึงไว้อยู่กับที่ แสงสว่างที่ส่องผ่านหน้าต่างบานใส ทะลุผ้าม่านสีขาวเข้ามา ทำให้ต้องหรี่ตามอง ก่อนที่จะพยายามหันหน้าหลบอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อตัวของผมถูกกักเอาไว้ภายใต้วงแขนของใครบางคน ทำให้ผมยกมันขึ้นช้าๆ ก่อนจะหันหน้าไปมองชายรูปร่างสูงใหญ่ รูปกายกำยำสมกับความเป็นบุรุษเพศ นอนซ้อนอยู่ที่ด้านหลัง วงแขนกอดก่ายผมเอาไว้ จนรัดแน่น ผิวเนื้อที่สัมผัสแนบชิดทำให้เกิดความรู้สึกร้อนผะผ่าว เส้นผมสีส้มอิฐนั้นแลดูยุ่งเหยิงไม่เป็นทรง ที่โคนเส้นผมถูกแซมด้วยสีดำสนิทขึ้นมาอีกเล็กน้อย แสดงถึงความแตกต่างของสีที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน ดวงตาคมเข้มกำลังปิดสนิท หลับตาพริ้มอย่างสบายใจ จมูกโด่งเป็นสันรับเข้ากับใบหน้าที่เรียวยาว ริมฝีปากหนา ที่พอรวมเข้ากับใบหน้ากลับดูดีจนน่าตกใจมือของผมไล้ไปบนอากาศตามโครงหน้า โดยที่ไม่ได้โดนผิวเนื้อของคนที่กำลังหลับอยู่แม้แต่น้อย ไม่กล้าที่จะสัมผัส หวาดกลัวความรู้สึก กลัวว่ามันจะปะทุออกมา
วันนี้ผมมีเรียนช่วงบ่ายครับ ตื่นสายได้เต็มที่ พอตื่นแล้วก็นอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้าน จนเมื่อเหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมง ก็ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว ขับรถตรงไปมหาลัย แวะทานข้าวอีกนิดหน่อย แล้วจึงเข้าห้องเรียนของตัวเองพอไปถึง ไอ้ซันมันก็ฟุ้บหน้านอนหลับอยู่ก่อนแล้ว ผมก็นั่งลงที่ข้างๆ มัน เท้าคางนั่งมองเส้นผมสีส้มที่ระไปกับพื้นโต๊ะเรียน ก่อนที่ผมจะนอนตะแคงหันข้าง นอนมองมันนิ่งๆกรี้ดดดดดดดดดดดดดเสียงกรีดร้องดังขึ้น จากที่เบาๆ คนสองคน กลับกลายเป็นกลุ่มก้อน และขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ไอ้ซันหลุดออกจากนิทรา ผมเองก็ผุดตัวไปดูที่หน้าต่างเช่นกัน อยากรู้ว่าสาวๆ เขากรี้ดอะไร อย่างไม่รู้ตัว ไอ้ซันเองก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เช่นกัน จุดประสงค์เดียวกับผม เพราะแขนของมันค้ำยันขอบหน้าต่างเอาไว้ ยืนซ้อนหลังของผมอีกชั้น จนเหมือนว่ามันกำลังโอบกอดผมจากด้านหลัง และผมกำลังมองหน้ามันในระยะประชิด ทำให้ผมรีบก้มหน้าลงทันที ต่างจากไอ้ซันที่ไม่ได้สนใจอะไร สายตามองลงไปที่เบื้องล่าง จนเมื่อคนๆ หนึ่งเดินเข้าตึกมา เสียงกรี้ดเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อฝั่ง
K : สวัสดีครับS : ใครครับ?K : ไม่บอกได้ไหมครับ แต่ผมมีเรื่องจะขอรบกวนคุณนะS : ผมหรอ ให้ช่วยอะไรครับ?K : ไม่ทราบว่าเพื่อนสนิทของคุณชอบอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมเป็นพี่เทคของเขาS : คนไหนละครับ เพื่อนผมมีเยอะแยะK : น้องเบส.....S : อ้อ มันชอบของอร่อยครับ เท่านั้นแหละ ผมดีใจนะที่คุณเริ่มหันมาสนใจมันบางK : ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ พอดีผมยุ่งๆ อยู่ ถ้ายังไง ผมอาจจะขอรบกวนคุณเพื่อสอบถามนะครับ แล้วก็อาจจะฝากของผ่านคุณ ไปให้น้องเบสด้วยS : ไม่เป็นไรครับ ผมยินดีK : แล้วคุณชอบทานอะไรไหมครับ ถือว่าผมติดสินบนก็แล้วกัน....หลังจากที่พี่ท็อปบอกว่าจะตามหาพี่เทคให้ มันก็มีความคืบหน้าจริงๆ นะครับ เพราะหลังจากนั้น 2 – 3 วัน ไอ้ซันก็เดินถือกล่องขนมอะไรสักอย่างมาด้วย ยื่นให้ผมตรงหน้า ผมก็มองมันอย่างงงๆ พร้อมกับถามออกไปเบาๆ ว่าให้เนื่องในโอกาสอะไร มันก็บอกว่ามีคนฝากเอามาให้ เป็นของที่มาจากพี่เทคพอผมถามว่ามันรู้จักคนๆ นั้นไหม มันก็บอกว่าไม่รู้จัก พร้อมกับนั่งลงข้างๆ แล้วหยิบกล่องขนมแบบเดียวกันออกมานั่งทานไปพลาง“อร่อยไหมว่ะ”“ลองแดกดูสิครับ” ผมยู่ปากอย่างขัดใจนิดๆ ก่อนจะเปิดกล่องของตัวเองออกดูบ้าง มากา
“สวัสดีครับ” ผมยกมือสวัสดี ก่อนจะไล่สายตามองไปที่บุคคลที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว มีป๊า ม๊า และอีกฝั่งคือ......อ้าว?“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักอีกครั้ง พร้อมกับผงกหัวไปด้วย ยกมือสวัสดีคุณลุงและพี่ท็อป รุ่นพี่ที่คณะของผมเอง“นั่งสิ” ป๊าของผมเอ่ยบอกเบาๆ ทำให้ผมทรุดตัวลงนั่งอย่างงงๆ จะไม่งงได้ไงครับ ปกติมันต้องเป็นงานดูตัวอะไรแบบนี้ไม่ใช่หรอ ผมต้องพบกับหญิงสาวที่ส่งสายตาหยาดเยิ้ม หรือไม่ก็ก้มหน้าก้มตาด้วยความเขินอายไม่ใช่หรอ ไม่ใช่สายตาที่มองมาด้วยความเอ็นดูแบบนี้??? พอผมนั่งลงได้ ลุงจรัญก็เอ่ยชวนคุยทันที“ลุงคงทำให้ตกใจสินะ ถึงได้ตั้งใจหนีแบบนั้นน่ะ” ลุงจรัญพูดยิ้มๆ ต่างจากผมที่ผงกหัวขึ้น เงยหน้ามองทันที เลยไปทางพี่คม แล้ววกกลับมาที่ป๊าของตัวเอง“ฮึฮึ ตาท็อปก็อยู่ในรถด้วยนะ ตั้งใจจะรับมาทีเดียวนั่นแหละ เห็นตาท็อปบอกว่าพอเจอหน้าพี่เลี้ยงก็วิ่งหนีเลยหรอ”“อ่อ” ป๊าไม่ได้พูดอะไรออกมา ยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบนิดๆ ต่างจากม๊าที่หัวเราะเบาๆ“พี่ไม่คิดจะชวนเบสมาดูตัวหรอกนะครับ” พี่ท็อปพูดขึ้น แล้วยกยิ้มเอ็นดูส่งมาให้“อ่อ แหะๆ ครับ”“พอดีพี่ได้ข่าวมาว่าตอนรับน้อง เบสไม่มีพี่เทคมาสนใจเลยใช่ไหมครับ ให้พี่ช่วยหาใ