Home / โรแมนติก / SiRen เงือกสาว ผจญภัย / #12 เผ่าพันธุ์ที่หลงเหลือ

Share

#12 เผ่าพันธุ์ที่หลงเหลือ

last update Last Updated: 2025-06-18 12:08:13

ท่านแน่ใจหรือว่า...มันจะได้ผล?" ลูกเรือคนหนึ่งกระซิบถาม อีธานหรี่ตา มองไปยังกลุ่มโจรสลัดที่ยืนขวางหน้าตรอก

ชายเหล่านั้นล้วนสูงใหญ่ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นและรอยสักบางคนมีดาบ บางคนถือปืนคาบศิลา พวกมันเป็นกลุ่มเดียวกับโรงละครสัตว์ ที่กำลังตามหานีร่าเพื่อแลกเหรียญทอง

อีธานยิ้มมุมปาก แสร้งก้าวออกไป มือประสานหลัง ทำท่าเหมือนนักเจรจา

> "ท่านทั้งหลาย ข้าเข้าใจว่าพวกเจ้าโกรธที่เด็กสาวนั่นหนีไป แต่ข้าได้ข่าวว่า—นางยังไม่พ้นเขตเมืองด้วยซ้ำ"

โจรสลัดตัวผู้นำหรี่ตา “เจ้าหมายความว่าไง?”

> "ข้าว่า…นางไปซ่อนตัวอยู่ที่โกดังเหล้าทางตะวันตก พวกท่านน่าจะลองไปค้นดู…ก่อนจะมีใครชิงตัวนางไปก่อน"

คนของอีธานหลายคนเตรียมพร้อมอยู่ข้างหลัง พวกเขาขยับอย่างเงียบงันในเงามืด เหงื่อเม็ดเล็กไหลลงขมับ

หัวหน้าโจรสลัดหัวเราะเสียงต่ำ “โกดังเหรอ…?”

> “แน่นอนท่าน นางกำลังปลอมตัวอยู่กับกลุ่มคนในเมือง

“จับมัน!!” จู่ ๆ โจรสลัดอีกคนตะโกนขึ้น “มันโกหก!!”

อีธานสบถในใจ “โธ่เว้ย!” แล้วตะโกน “หนีไป!!”

เสียงฝีเท้าวิ่งดังขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนด่าทอ เขาและลูกเรือพุ่งพรวดเข้าไปในตรอกซึ่งเต็มไปด้วยลังไม้ หีบเก่า และกลิ่นคาวจากเน่าเปื่อยที่ไม่มีใครเก็บกวาด

พวกเขาวิ่งผ่านย่านตรอกทรุดโทรม แผงขายเนื้อปิ้ง เสียงแม่ค้ากรีดร้องเมื่อร่างของลูกเรือชนล้มไปหลายแผง

สุดท้าย พวกเขาพาตัวเองมาจนถึง...ศอกตัน

“ทางตัน!!” ชายคนหนึ่งหอบแฮ่ก ดวงตาเบิกโพลง

กำแพงไม้สูงตระหง่าน และไม่มีทางขึ้นใด ๆ มีเพียงห้องเก็บของเก่า ๆ ข้างหนึ่ง

เสียงฝีเท้าและเสียงหัวเราะร้าย ๆ ดังใกล้เข้ามา โจรสลัดเริ่มล้อมหน้าปากทางเข้า

> “สิ้นทางแล้วล่ะ พวกหนูทะเล”

อีธานดึงดาบของตนออกจากฝัก เสียงโลหะเฉือนอากาศดัง ชึ่กกกกก

> “ก็ให้มันรู้กันไปว่าใครจะจบก่อน…”

ไฟจากโคมในมือนักล่าพลันสะท้อนใบดาบเป็นประกายแดง พริบตานั้นเสียงดาบกระทบกันดัง เคร้ง!

หนึ่งในลูกเรือของอีธานรับการโจมตีไว้ทัน ก่อนโต้กลับด้วยแรงทั้งหมด ส่วนอีธานเองก็พุ่งเข้าไปเสียบดาบสวน โจรสลัดคนหนึ่งล้มลงพร้อมเสียงร้องโหยหวน

เสียงฝีเท้ากระทืบดังสนั่น แคบของตรอกทำให้พวกเขาขยับตัวได้ลำบาก การประจันหน้ากลายเป็นการชกหมัดต่อหมัด บางคนใช้ท่อนไม้ เศษเหล็ก หรือแม้แต่ขวดเหล้าแตกเป็นอาวุธ

เลือดกระเซ็นเปรอะกำแพง เสียงร้องโอดครวญปะปนเสียงสบถหยาบคาย

> “ข้าจะไม่ตายที่นี่!” อีธานคำราม ก่อนจะคว้าถังไม้โยนใส่คู่ต่อสู้เปิดช่องให้ลูกเรืออีกสองคนวิ่งไปหาช่องระบายเล็กๆ ที่กำแพงไม้ด้านหลัง

“เจอทางออกแล้ว!” หนึ่งในนั้นร้องบอก

ทันทีที่มีช่องให้หนี พวกเขาเริ่มทยอยปีนหนีจากตรอกนรกนี้ แม้จะบาดเจ็บ แต่ก็ยังมีแรงจากสัญชาตญาณเอาตัวรอด

อีธานเป็นคนสุดท้ายที่ปีนขึ้นไป เขาหันกลับไปมองโจรสลัดที่ยังพุ่งเข้ามา แล้วพึมพำเบาๆ

> “ไว้เจอกันใหม่...ในนรก”

ในเงามืดของป่าเขียวครึ้ม รอบเมืองคอร์เซียร์

เสียงฝีเท้าเปื้อนโคลน กระทบผืนดินชื้นแฉะอย่างเร่งรีบ

“เร็วเข้า ไอล่า! ทางนี้!”

นีร่าเอื้อมมือดึงร่างเล็กของหญิงสาวฝ่าแนวพุ่มหนาเข้าไปลึกยิ่งขึ้น หัวใจเต้นแรงราวจะระเบิดออกจากอก

แสงจันทร์เพียงริบหรี่ลอดผ่านหมู่ไม้สูงโปร่ง เสียงนกกลางคืนโหยหวนสลับกับเสียงแมลงป่าดังระงม บางขณะก็มีเสียงฝีเท้าไล่ล่าหลอกหลอนจากเบื้องหลัง

> “ท่านว่า…เขาจะตามมาไหม”

ไอล่ากระซิบถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

นีร่าหยุดหายใจ หันกลับมาสบตาเด็กสาว ใบหน้าของเธอยังเปื้อนดิน เส้นผมกระเซิง

> “ข้าไม่รู้…แต่ถ้าเราหยุดตอนนี้ เขาต้องตามมาทันแน่”

เรน…ชายผู้ครั้งหนึ่งซึ่งเคยเป็นคนที่เธอเฝ้าตามหา

แต่บัดนี้ กลับกลายเป็นผู้ล่า เขาคือคนที่ต้องการจะ “บีบเค้นน้ำตาไข่มุก” จากนีร่าเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แม้ใจจะเจ็บปวด แต่นีร่าก็เลือกจะถอยห่างจากเขา เธอรู้แล้วว่าแววตาอ่อนโยนเหล่านั้นมีพิษร้ายแฝงอยู่

ทั้งสองคนหยุดพักที่โพรงไม้ใหญ่ริมลำธารเล็ก เสียงน้ำไหลเบา ๆ กลายเป็นเสียงเดียวที่ปลอบประโลมใจ

> “นีร่า…ข้ากลัว”

ไอล่ากอดเข่าตัวเอง น้ำตาคลอเบ้า

นีร่ากลั้นลมหายใจยาว เธอก้มลง จับบ่าไอล่าแน่น

> “ข้าก็กลัว…แต่เราต้องรอด ไอล่า เจ้าจะต้องไม่เป็นอะไร ข้าสัญญา”

ท่ามกลางแสงจันทร์ พวกเธอมองหาทางต่อ ลึกเข้าไปในป่าที่ไม่คุ้นเคย บางทีอาจเจอชาวบ้านที่ช่วยได้ หรือกระท่อมร้างสำหรับหลบซ่อน

ทันใดนั้น...เสียงกรอบแกรบจากหลังพุ่มไม้ข้างหลังทำให้หัวใจทั้งสองคนหยุดเต้น นีร่าผวา หันหลังอย่างรวดเร็ว

> “ใครน่ะ!”

เงาร่างหนึ่งโผล่ออกมาจากความมืด...แต่ไม่ใช่เรน

เป็นชายชราหลังค่อม มือถือไม้เท้า แต่งกายด้วยชุดหนังแบบคนป่า

เขายืนเงียบ ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า

> “พวกเจ้าหนีอะไรมา…หรือว่าหนีใคร…”นีร่ากับไอล่ามองหน้ากัน

ก่อนนีร่าจะตัดสินใจตอบ

> “...ข้าขอที่หลบภัย…ข้าไม่ไว้ใจใครอีกแล้ว”

ชายชรายิ้มอย่างมีเลศนัย

> “หึ...ถ้าเจ้ายังไว้ใจหัวใจตัวเองไม่ได้ ก็จงไว้ใจชะตากรรมแทนเถอะ…ตามข้ามา”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #29 การเป็นอมตะ

    กลับสู่ปัจจุบันนีร่าผงะออกจากแท่นหิน ดวงตาเธอเปลี่ยนกลับเป็นปกติ แต่น้ำตาไหลอาบแก้ม“ไม่...ข้าไม่อยากเป็นแบบนั้น” เธอกระซิบ “ข้าไม่อยากฆ่าใคร...ไม่อยากกลายเป็นสัตว์ร้าย”อีธานประคองเธอแน่น “เจ้าคือเจ้าคนเดิม นีร่า...เราเลือกทางเดินของตัวเองได้”ชายชราเพียงเงียบ ก่อนเดินไปยังผนังด้านหลัง เขาดึงแผ่นศิลาออก เผยให้เห็น ตราประทับสุดท้าย — รูปเกล็ดเงือกสีเงินไขว้กับเลือดสีแดง“เลือดเจ้าคือประตูสุดท้ายที่จะเปิดพลังของ ‘อาทรามา’”“แต่หากเจ้าปิดมันด้วยตนเอง — เจ้าจะสูญเสียพลังทั้งหมด... กลายเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา”นีร่าก้มหน้าสั่น “ข้าต้องเลือกระหว่าง ‘เป็นตัวข้า’ หรือ ‘เป็นสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้’...”มาริเบลเดินเข้ามาจับมือพี่สาว“ไม่ว่าพี่จะเลือกอะไร ข้าก็จะอยู่กับพี่...จนกว่าจะถึงที่สุด”เสียงจากเบื้องบนเริ่มดังขึ้นอีกครั้งแสงไฟจากตะเกียงและเสียงรองเท้าเหล็กกระทบพื้นหินสะท้อนเข้ามาในอุโมงค์กองทหารของเจ้าชายเฟอเรส...อีธานหันมามองทุกคนเสียงฝีเท้าเริ่มใกล้เข้ามาทหารของเจ้าชายเฟอเรสกำลังเข้าประชิดอุโมงค์ใต้พระราชวัง พวกอีธานไม่มีเวลาอีกแล้วนีร่ายืนหน้าตรงต่อหน้าตราประทับสุดท้ายเธ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #28 อาทรามาผู้ตื่นขึ้นจากการหลับไหล

    บรรยากาศในวิหารใต้ดินเงียบงันจนได้ยินเสียงลมหายใจของทุกคนชัดเจนแสงจากลวดลายโบราณบนพื้นค่อย ๆ จางลง ทิ้งไว้เพียงแสงสีน้ำเงินสลัวจากแท่นศิลาเบื้องหน้านีร่ายืนเซเล็กน้อย เธอรู้สึกเหมือนร่างกายเบาหวิว แต่ขณะเดียวกันกลับร้อนรุ่มภายในอีธานพยายามประคองเธอ “เจ้าไหวไหม?”“เหมือนข้า...ได้ยินเสียง...” นีร่ากระซิบ ดวงตาของเธอกำลังเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเรืองแสงจาง ๆ โดยที่เธอไม่รู้ตัวมาริเบลเบิกตากว้าง “ตาของเจ้า...นีร่า...เหมือนตาของแม่เราในคืนสุดท้าย...”ทันใดนั้นเอง เสียงบางอย่างดังขึ้นจากมุมมืดของวิหารเสียงฝีเท้าเก่าแก่... และเงาหนึ่งปรากฏออกจากหลังเสาหินชายชราผิวซีดในผ้าคลุมสีดำเดินออกมาช้า ๆ ดวงตาเขาขุ่นมัวคล้ายคนมองทะลุอดีตมาหลายร้อยปี“ในที่สุด... นางก็ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง”ทุกคนชะงัก“เจ้าคือใคร?” ไอล่าถาม มือแตะดาบอย่างระวังชายชราไม่ตอบคำถามตรง เขาจ้องนีร่าแน่นิ่งก่อนพูดเสียงแผ่ว “เงือกแห่งคำสาป...เงือกที่ถูกสร้างขึ้นจากเลือดของราชาและคราบเกลือพันปี”นีร่าถอยหลังไปก้าวหนึ่ง หัวใจเธอเต้นแรงจนรู้สึกชาไปทั้งร่าง“ข้า...ไม่เข้าใจ” เธอพูดเบา ๆชายชราก้าวเข้าใกล้แท่นศิลาเขาวางมือลงบนตราสัญลั

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #27 การเผชิญหน้า

    อีธานนอนไม่หลับ เขาเดินออกมายังระเบียงวังพบกับนักบวชชรานั่งจุดตะเกียงอยู่คนเดียว“ท่านมาจากดาร์กวาเรนใช่หรือไม่?” นักบวชถาม“ใช่” อีธานตอบ “ทำไม?”นักบวชหันมามองเขา ตาเขาขุ่นเหมือนคนที่เห็นอะไรมานาน“พวกเจ้าไม่ควรมีชีวิตรอดออกมา”“และหากเมืองมันปล่อยพวกเจ้ามา... แปลว่า มันเลือกแล้วว่าใครจะนำบางสิ่งติดมาด้วย”อีธานขมวดคิ้ว “หมายถึงอะไร?”นักบวชไม่ตอบ แต่เขายื่นเศษผ้าผืนหนึ่งมาให้“ถ้าเธอเริ่มมีแผล... อย่าให้เลือดของเธอตกบนพื้นหินเมืองนี้เด็ดขาด”เช้ามืดวันถัดมา ฟ้าขาวหม่น เหมือนไม่ได้ผ่านคืนที่แท้จริงนีร่าไม่ได้นอน เธอนั่งอยู่บนระเบียงหินสูง มองออกไปที่ทะเลเบื้องล่างนิ้วมือซ่อนไว้ใต้แขนเสื้อ ผิวเริ่มลอกออกเป็นลายริ้วบางแผ่นเนื้อบาง ๆ คล้ายเกล็ด ค่อย ๆ ปรากฏบนข้อนิ้วทีละชั้นเสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นจากด้านหลัง“ข้านึกว่าเจ้าจะไม่กลับมาอีกแล้ว”อีธานนีร่าไม่หันไปมอง “ข้าเองก็เคยคิดแบบนั้น”อีธานเดินมานั่งข้างเธอเงียบ ๆ ลมทะเลปะทะใบหน้าเขาเหลือบมองเธอ ก่อนถามตรง“เมื่อคืน... เจ้าชายพูดอะไรกับเจ้า?”นีร่ายังคงมองทะเล “เขาบอกว่า ข้ากำลังเปลี่ยน”อีธานนิ่งไปชั่วอึดใจ“เปลี่ยนเป็นอะไ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #26 ผู้ถูกสังเวย

    ทะเลยามรุ่งอรุณนั้นเงียบอย่างผิดปกติเสียงคลื่นซัดฝั่งแผ่วลงจนเหมือนโลกหยุดหายใจ — และเมืองดาร์กวาเรนที่ครั้งหนึ่งเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ บัดนี้เงียบงันดั่งสุสานอีธานยืนอยู่กลางลาน ข้างนีร่า ไอล่า และมาริเบลพวกเขายืนเงียบเหมือนนักโทษที่เพิ่งรู้ว่า "กำแพงรอบตัวไม่ใช่กำแพง" — แต่คือเนื้อของสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นนีร่าหลุบตามองผิวแตกร้าวบนแขนตนเองที่เริ่มแตกกระจายเป็นลวดลายแห้งกรังอีกครั้งน้ำทะเลเมื่อคืนหล่อเลี้ยงเธอได้เพียงครู่... ตอนนี้ผิวเริ่มร่วงหล่นอีกหนเธอไม่พูดอะไร... เพราะทุกคนรู้แล้วว่าต้องหนีแต่หนีไปไหน?จนกระทั่ง...“เรือ!”เสียงของไอล่าเบา แต่เฉียบคมเหมือนใบมีดทุกคนหันขวับไปที่ขอบผาเบื้องหน้า — ที่นั่นฝ่าหมอกยามเช้าบางเบา มีเรือขนาดกลางลำหนึ่งแล่นตรงมาอย่างเชื่องช้าธงบนหัวเสากระพือในลม — เป็นสัญลักษณ์ที่อีธานจำได้… นั่นเรือของมนุษย์” เขาพึมพำทันทีที่เรือเข้าเทียบท่า...กลุ่มชายชุดเกราะสีเข้มกระโดดลงมาพร้อมอาวุธครบมือท่าทางเคร่งขรึม แต่ไม่ใช่เพื่อสู้รบ — แต่เพื่อภารกิจที่เงียบงันยิ่งกว่าหัวหน้ากลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีดำขลิบทองผิวเข้มจากแดดดินแดนไกล และดวงตาสีเทานิ่ง

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #25 ความลับของเมืองนี้

    นีร่าไม่เคยกลัวแสงแดดแต่ยามเช้าของวันที่สามบนแผ่นดินเธอเริ่มหลีกเลี่ยงมัน… อย่างไม่รู้ตัวผิวของเธอเคยเนียนชื้น ดั่งเนื้อปลาในละอองเกลือแต่ตอนนี้ แห้งตึงแห้งจนเมื่อเธอขยับนิ้วแขน เหมือนมีบางอย่าง ลั่นอยู่ใต้ผิวหนังเธอเอามือแตะต้นแขนและพบว่าผิวเริ่มแตกลายบางจุดเส้นรอยแตกเล็ก ๆ ที่เหมือนลายแห้งบนดินร้าง...บางจุดหลุดออกเป็น เศษสะเก็ดบาง ๆ ราวกับเกล็ดปลาที่แห้งกรังเมื่อเธอเกา เศษผิวซีดขาวร่วงลงกับพื้นทรายและจากใต้รอยนั้น... มี เบทะ ของเหลวใสอมเงินที่คล้ายเลือดของเงือกซึมออกมาเงียบ ๆ เหมือนหยดน้ำจากหินในถ้ำเธอหอบเบา ๆหน้าอกกระเพื่อม ผิวตรงซี่โครงขึ้นเงา — ไม่ใช่เหงื่อ แต่เป็นการตอบสนองสุดท้ายของผิวที่ “เคยอยู่ใต้น้ำ”ความเงียบที่ไม่สามารถพูดเธอไม่บอกอีธานเพราะในแววตาของเขามีความสุขและเธอไม่อยากให้เขารู้ว่า ร่างของเธอ กำลังค่อย ๆ แหลกสลายจากภายในเมื่อเขายื่นถ้วยน้ำจืดมาให้ เธอรับไว้แต่ไม่ใช่เพื่อดื่ม เธอรินลงมือ แล้วลูบเข้ากับแขนชะโลมเบา ๆ ให้ผิวไม่ขาดน้ำเปล่าเย็นเฉียบไหลลงมาตามข้อศอกและเธอ... หลับตาในชั่ววินาทีนั้น เหมือนได้หายใจใต้น้ำอีกครั้งหนึ่งคืนที่เธอร้องไห้เงี

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #24 หมู่บ้านที่ปรากฏ

    เสียงไม้ลั่นเอี๊ยดอ๊าดของเรือเก่า ส่งเสียงผสานกับเสียงคลื่นที่สาดซัดเข้ากระดานเรือเป็นระยะ มันไม่ใช่เรือที่มั่นคงนัก แต่พอพาให้พวกเขาหลุดจากผืนแผ่นดินที่แทบพรากชีวิตไปแล้วอีธานกับแบร์กตันช่วยกันกางใบเรือซึ่งผ่านการปะซ่อมอย่างเร่งรีบ เชือกมัดเสาบางจุดแทบจะหลุดออกจากกัน ขณะที่มาริเบลกับนีร่าแยกผลไม้ป่าที่เก็บมาใส่ภาชนะ บางอย่างเริ่มเน่าแล้ว แต่ก็ยังดีกว่าความว่างเปล่า“เรามีเวลาไม่มากก่อนน้ำจะหมด” อีธานกล่าวเรียบ ๆ พลางตรวจถังไม้ที่ใช้รองน้ำค้างจากใบไม้แบร์กตันยืนนิ่ง มองเกาะที่ค่อย ๆ จางหายไปในสายหมอก — ไม่พูดอะไรเลย---วันที่สองกลางทะเลแสงแดดแรงจัด พื้นเรือร้อนจนแผ่นไม้แตกร้าวในบางจุดลูกเรือพยายามใช้ผ้าชุบน้ำพันศีรษะ ลดอาการเพลียแดด อีธานวัดระดับน้ำจืดในถัง แล้วแจกแจง“เหลือพอให้กินได้วันละสองอึก... ถ้าไม่มีฝน เราต้องเริ่มจับน้ำทะเลกลั่นเอง”นีร่าเงยหน้ามองฟ้า “ไม่มีเมฆ... ไม่มีลม... ไม่มีนก...”เหมือนทุกอย่างรอบตัวกลืนหาย — พวกเขาอยู่ท่ามกลางความว่างเปล่า---วันที่ห้าเข็มทิศหมุนช้า ๆ… แล้วหยุด… ก่อนจะหมุนกลับอีกทางอีธานเคาะมันกับขอบเรือ “มันเสียแน่ ๆ”“หรือเรือมันวนเป็นวงกลม”

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status