Share

#6 ความลับของข้า

last update Last Updated: 2025-06-15 19:33:59

เช้าวันแรก ฉันยังไม่ค่อยชินกับร่างกายที่ต้องเดินแทนว่าย ต้องหายใจด้วยจมูกแทนเหงือก ทุกอย่างดูแปลกไปหมด แม้แต่เสื้อผ้าที่ใส่ก็รู้สึกอึดอัดนิดๆ เหมือนกำลังห่อหุ้มตัวเองไว้ด้วยอะไรบางอย่าง

อีธานยื่นเสื้อคลุมมาให้ “หนาวมั้ย ใส่นี่ไว้นะ ลมแรงนิดนึง”

“ขอบใจนะ” ฉันรับมาใส่แบบเก้ๆ กังๆ เขายิ้มบางๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“วันนี้ข้าจะพาเดินดูรอบเมือง เจ้าจะได้รู้จักโลกของฉันมากขึ้น”

ฉันพยักหน้าเบาๆ แล้วก้าวตามเขาไป

เมืองบนพื้นดินไม่เหมือนอะไรที่ฉันเคยเห็นมาก่อน ตึกเรียงรายสองข้างถนน สีสันสดใส ผู้คนเดินสวนกันไปมา บ้างก็หัวเราะ บ้างก็อุ้มเด็กเล็กไว้ในอ้อมแขน กลิ่นหอมของขนมปังลอยมากับลม ฉันเงยหน้าขึ้นมองป้ายร้านเบเกอรี่ที่อีธานบอกว่า “อร่อยที่สุดในเมือง”

“ตรงนี้เป็นร้านขนมปัง ข้าชอบมาซื้อเวลาหิวตอนบ่าย” เขาชี้ไปที่ร้านกระจกใส

“กลิ่นมันหอมมากเลย” ฉันพูดอย่างตื่นเต้น ดวงตายังไม่ละไปจากขนมที่โชว์อยู่หลังตู้

“ไว้วันหลังเราค่อยลองด้วยกัน” เขาว่า แล้วเดินต่อไปช้าๆ ให้ฉันได้มองทุกอย่างรอบตัวอย่างเต็มตา

ขณะที่เรากำลังจะเดินข้ามถนน เสียงหนึ่งก็ดังมาจากอีกฟาก

“อีธาน! เจ้ามากับใครน่ะ?”

ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินข้ามถนนมาอย่างเร็ว ผมยุ่งๆ เหมือนไม่ได้หวีมาหลายวัน แต่ใบหน้ายิ้มทะเล้นดูเป็นมิตร

“นีร่า นี่ไคล์ เพื่อนข้าเอง” อีธานแนะนำ

“สวัสดีจ้ะ” ฉันยิ้มให้เขาอย่างเก้อๆ

“ว้าว…หน้าตาเหมือนหลุดมาจากหนังสือนิทานเลยนะ” ไคล์หัวเราะเบาๆ “เจ้ามาจากไหนเหรอ?”

“ไกลมากเลยจ้ะ” ฉันตอบแบบไม่คิดจะโกหก แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง

“แล้วมาอยู่กับอีธานได้ยังไงล่ะเนี่ย?”

อีธานตอบแทนด้วยเสียงเรียบๆ “ฉันแค่ช่วยดูแลนางชั่วคราว นางยังไม่ค่อยคุ้นกับที่นี่เท่าไหร่”

ไคล์พยักหน้าช้าๆ มองฉันสลับกับอีธาน ก่อนจะยิ้มอย่างรู้ทัน “อ๋อ…งั้นฝากดูแลดีๆ ล่ะกัน นายดูอารมณ์ดีผิดปกตินะตอนอยู่กับนาง”

ฉันหลบสายตาเล็กน้อย ส่วนอีธานทำเป็นไม่สนใจ แต่ฉันเห็นหูเขาแดงแวบๆ

“ข้าว่าเราไปเดินเล่นต่อดีกว่า” เขาพูดพร้อมพยักหน้าให้ไคล์

“ไปเลย เดี๋ยวข้าไปหาอะไรเย็นๆ กินดีกว่า” ไคล์ยกมือบ๊ายบายแล้วเดินจากไปแบบสบายๆ

เมื่อกลับมาเดินกันสองคนอีกครั้ง อีธานหันมาถามเสียงเบา “เจ้าเหนื่อยมั้ย?”

ฉันส่ายหน้าแล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า “ไม่เลย…แค่รู้สึกเหมือนได้เจอโลกอีกใบ”

“แล้วเจ้าชอบมั้ย โลกใบนี้”

ฉันนิ่งไปนิด ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้ม “ชอบ…เพราะมีเจ้าอยู่ด้วย”

หลังจากเดินชมเมืองกันสักพัก ฉันก็เริ่มรู้สึกถึงกลิ่นหอมบางอย่างลอยมาแตะจมูกอีกครั้ง มันหวานละมุนจนทำให้ท้องร้องเบาๆ แบบที่ฉันไม่เคยเป็นมาก่อน

อีธานหัวเราะเบาๆ พลางเอ่ยขึ้น “หิวแล้วสินะ เสียงท้องเจ้าไม่โกหกเลย”

ฉันหน้าแดงนิดๆ รีบหลบตาอย่างเขินๆ “มันหอมจนอดไม่ได้น่ะ…”

“งั้นไปลองขนมที่ร้านนั่นกันเลยดีกว่า รับรองว่าเจ้าจะติดใจ”

เขาพาฉันเดินเข้าไปในร้านขนาดเล็กที่อบอุ่นด้วยกลิ่นขนมปังและเสียงเพลงเบาๆ โต๊ะไม้เล็กๆ กับแสงแดดที่ส่องผ่านกระจกใสทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกนิทาน

“รับอะไรดีคะ?” สาวหน้าร้านถามพร้อมรอยยิ้ม

“ขอครัวซองต์หนึ่ง กับนมอุ่นหนึ่งแก้วครับ” อีธานหันมาถามฉันเบาๆ “เจ้าเอาด้วยมั้ย?”

“ขเาขอแบบเดียวกับเจ้าก็ได้ ฉันไม่รู้ชื่ออะไรเลย…”

ไม่นาน ขนมหอมๆ ก็มาเสิร์ฟตรงหน้า ฉันจ้องมันเหมือนเป็นสิ่งประหลาด ก่อนจะหยิบขึ้นมากัดคำเล็กๆ แล้วต้องเบิกตากว้าง

“อร่อยมากเลย!”

อีธานหัวเราะเบาๆ “ฉันบอกแล้ว ว่าเจ้าต้องชอบ”

ฉันยิ้มกว้าง พลางจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ รู้สึกแปลกดีที่ร่างกายอบอุ่นขึ้นจากข้างใน ไม่ใช่เพราะแสงแดดหรืออากาศ แต่เพราะอะไรบางอย่างที่เรียกว่า “ความสุขเล็กๆ”

ระหว่างที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับรสชาติแสนใหม่ เสียงกระดิ่งหน้าประตูร้านก็ดังขึ้น

“ไคล์?” อีธานหันไปมองก่อนจะถอนใจ “ไม่คิดว่าจะตามมาถึงนี่นะ”

ไคล์เดินมานั่งที่โต๊ะใกล้ๆ พร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ “ข้าไม่ได้ตามหรอก แค่หิวเหมือนกัน พอเห็นพวกเจ้าเดินเข้าร้านนี้ก็เลย…ตามมานิดนึง”

เขาหันมาหาฉัน “แล้วเป็นไงบ้างนีร่า โลกของข้าน่ากลัวมั้ย?”

ฉันส่ายหน้าช้าๆ “ไม่น่ากลัวเลย มีแต่ของแปลกๆ น่ารักเต็มไปหมด”

“นั่นสินะ” ไคล์พยักหน้าเหมือนกำลังสังเกตอะไรบางอย่าง “นางนี่แปลกดี เหมือนคนที่เพิ่งหัดยิ้มกับโลก…”

ฉันชะงักนิดหนึ่ง แต่ยังคงยิ้ม “อาจจะใช่ก็ได้…”

ไคล์หรี่ตาเล็กน้อย เหมือนเริ่มสงสัยบางอย่างในใจ

แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ อีธานก็ขัดขึ้นเบาๆ “นางยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ไคล์ อย่าเพิ่งถามอะไรเยอะนัก”

ฉันหันไปมองอีธาน เขามองกลับมาด้วยสายตาอ่อนโยน แบบที่ทำให้ใจฉันสั่นวูบอย่างไม่มีเหตุผล

หลังจากอิ่มอร่อยกับขนมหอมๆ และนมอุ่น ฉันกับอีธานก็เดินออกจากร้านมาแบบสบายใจ ลมยามบ่ายพัดผ่านใบไม้ดังกรุ๊งกริ๊งเบาๆ เหมือนกำลังเล่นดนตรี

ฉันหันไปมองน้ำพุเล็กๆ กลางลาน เดินเข้าไปใกล้ก่อนจะเอื้อมมือแตะหยดน้ำใสๆ ที่กระเด็นขึ้นมา

เย็น...ใส...และเหมือนมันเรียกฉันกลับบ้าน

“นีร่า...” อีธานเรียกเบาๆ ฉันรีบชักมือกลับทันที ไม่รู้ว่าเผลอแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป แต่เขาก็เดินเข้ามาใกล้ แล้วยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้

“ไม่เป็นไรหรอก แค่น้ำเอง” เขายิ้ม

ฉันพยักหน้า รับผ้าเช็ดมือมาอย่างเก้อๆ

“นายเคยสงสัยมั้ย...” ฉันเอ่ยเบาๆ ขณะมองสายน้ำที่ไหลลงบ่อ “ว่าคนบางคนอาจมาจากที่ที่เราไม่รู้จักเลย”

อีธานนิ่งไปนิด ก่อนตอบเสียงนุ่ม “เคยนะ แต่ถ้ามาจากไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าข้าหรือเปล่า”

ฉันหันไปสบตาเขาโดยไม่ตั้งใจ และรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างในอกมันเต้นแรงกว่าปกติ

“โอ๊ย!”

เสียงลั่นจากอีกมุมทำให้เราทั้งคู่หันไปมอง — ไคล์สะดุดขอบกระถางต้นไม้เข้าอย่างจัง จนล้มลงกองกับพื้น

“ฉันแค่จะเดินตามดูเฉยๆ ไม่ได้แอบฟังสักหน่อย!” เขารีบลุกขึ้นแล้วปัดฝุ่นตัวเองแรงๆ

“เจ้าตามเรามาตั้งแต่เมื่อไหร่?” อีธานขมวดคิ้ว

“ก็...ไม่ได้นานนัก” ไคล์หัวเราะแห้งๆ แล้วหันมามองฉัน “เจ้า...เคยว่ายน้ำมั้ยนีร่า?”

ฉันชะงัก หัวใจเต้นแรงขึ้นกะทันหัน “เอ่อ...เคยสิ” ฉันตอบรวบรัด แล้วเบือนหน้าหนีเล็กน้อย

“รู้สึกว่าเจ้าชอบน้ำมากเลยนะ ฉันเห็นเจ้ามองมันนานมาก…”

ฉันไม่ตอบอะไร นิ่งเงียบไปพักหนึ่ง

ไคล์ยิ้มบางๆ อย่างคนเริ่มจับจุดได้

“แปลกดีนะ เจ้าไม่คุ้นกับของบนำพื้นดิน แต่ดูคล่องกับน้ำมากกว่าคนธรรมดาซะอีก”

อีธานพูดแทรกขึ้นมาทันที “พอเลยไคล์ อย่าเล่นอะไรแปลกๆ กับนางแบบนั้น”

“แค่สงสัยนิดหน่อย” ไคล์ยกมือยอมแพ้ “แต่ถ้านางมีความลับจริงๆ...ข้าก็ไม่ว่าหรอกนะ ข้าเป็นพวกเก็บความลับเก่ง”

“ฉันไม่ได้มีความลับอะไร...” ฉันรีบพูด แต่ในใจกลับสั่นระรัว

แม้ปากจะพูดไปแบบนั้น แต่สายตาของไคล์กลับบอกว่า...เขาเริ่มรู้แล้ว ว่าฉันไม่เหมือนคนอื่น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #34 บททดสอบของผู้สืบทอด

    เงาร่างนั้นค่อย ๆ ก้าวออกจากเงามืดผิวเธอเป็นสีมุกจางเรืองแสง ผมยาวราวกับสาหร่ายทะเลไหลลู่ไปตามกระแสน้ำเบา ๆดวงตาของเธอ...คล้ายกับนีร่า ราวกับกำลังมองตนเองในอดีตหรืออนาคต“ยินดีต้อนรับ...ทายาทแห่งสายเลือดโบราณ” เสียงของหญิงผู้นั้นหวานแต่ทรงพลัง ดังก้องไปทั่วโถงหินนีร่าใจเต้นแรง“ท่านคือใคร?”หญิงสาวยิ้มเศร้า“ข้าชื่ออัลเธีย” เธอพูดเสียงแผ่ว “ข้าคือผู้คุมกฎคนก่อน...และครั้งหนึ่ง ข้าเคยเลือกผิด”โทรันยืนเงียบ มองพวกเธอด้วยสายตาหนักแน่น“เธอ...คือผู้ที่เคยพยายามหยุดสงครามครั้งก่อน”นีร่าเม้มริมฝีปาก “แต่ท่านล้มเหลวใช่ไหม?”อัลเธียพยักหน้าเบา ๆ“ข้าลังเลเกินไป...และสุดท้ายข้ากลายเป็นหนึ่งในต้นเหตุของการล่มสลายแห่ง 'วาเลอริน' เมืองหลวงแห่งเงือก”เงียบงันก่อตัวขึ้นระหว่างพวกเธอ“แต่เจ้า...ยังมีโอกาส”อัลเธียยื่นมือออกมา แล้วแสงบางอย่างก็ลอยออกจากฝ่ามือเธอมันคือ "เกล็ดแห่งสมดุล" — เกล็ดเงือกสีทองอมฟ้า ส่องแสงวูบวาบอยู่กลางอากาศ“จงรับไว้ มันจะเปิดทางให้เจ้าเห็น ‘อดีตที่ถูกลืม’ และ ‘อนาคตที่อาจเกิด’”นีร่ายื่นมือไปรับอย่างลังเลทันทีที่สัมผัสกับเกล็ดนั้น นิมิตแห่งอดีตเธอร่วงสู่โลกแห่งแสง

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #33 ผู้คุมกฏเเห่งทะเล

    เสียงดาบชนดาบ ปะทะกับคำสาปและพลังโบราณท้องฟ้าถูกฉีกเป็นสองขั้วแสงและเงาผสานกันในสมรภูมิครั้งนี้“สงครามแห่งสองโลก…เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าอีธานกับนีร่าและมาริเบล รวมถึงไอล่า ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในถ้ำเล็ก ๆ ริมผาเสียงคลื่นกระทบโขดหินเป็นจังหวะช้า ๆ คล้ายกล่อมให้ใจเย็นลงนีร่านั่งลงบนโขดหินขรุขระ มือยังสั่นจากพลังที่ไหลเวียนในตัวผิวเกล็ดเงินยังส่องแสงริบหรี่ในความมืด“ข้าไม่เคยรู้ว่าพลังนี้จะรุนแรงขนาดนี้...” เธอพูดเสียงเบา“ทุกครั้งที่ใช้...มันเหมือนข้ากำลังสูญเสียตัวเองไปทีละน้อย”อีธานนั่งลงข้าง ๆ“ข้าเข้าใจดี...แต่เจ้าไม่ได้อยู่คนเดียว”เขาวางมือทาบลงบนมือของนีร่า“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะผ่านมันไปด้วยกัน”มาริเบลเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะพูด“พี่สาว...เรากลัวนะ กลัวว่าเจ้าอาจเปลี่ยนไปจนเราจำไม่ได้”นีร่าหันไปมองน้องสาวด้วยสายตาอบอุ่น“ข้าเองก็กลัว...กลัวว่าจะกลายเป็นสิ่งที่ข้ากลัวที่สุด”ไอล่ายืนเงียบ ๆ ข้างหลัง ก่อนพูดขึ้น“แต่ข้ารู้ว่า...พลังที่เจ้าได้รับ ไม่ใช่คำสาปอย่างเดียว มันคือโอกาส”“โอกาสอะไร?” อีธานถามด้วยความสงสัย“โอกาสที่จ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #32 ผู้ที่ตื่นจากการหลับไหล

    ขณะเดียวกัน แบร์กตันยืนอยู่หน้าชายฝั่งเขาโยนหินก้อนหนึ่งลงทะเล ไม่กี่วินาทีต่อมา ฟองน้ำจำนวนมากผุดขึ้นและสายลมเย็นผิดธรรมชาติก็พัดมา เขาหัวเราะแผ่วเบา“ข้าไม่ต้องการทองคำอีกแล้ว”“ข้าอยากเป็น...สิ่งที่ไม่มีวันตาย ใต้ท้องทะเล…” คืนแรม...ลมเย็นจนทะลุผิวกระดูกบนฝั่ง ม่านหมอกบาง ๆ คลุมผืนทรายราวผ้าขาวคลุมศพอีธานสะดุ้งตื่นเสียงอะไรบางอย่างดังจากริมหาดแอ่ด...เสียงโซ่ครูดพื้นหินเสียงหายใจลึกเหมือนจากปอดของสัตว์ที่ไม่เคยหายใจบนบกเขาคว้าดาบทันที“นีร่า?”ไม่มีเสียงตอบเขาวิ่งออกมานอกถ้ำและภาพตรงหน้าทำให้หัวใจเขาชะงักกลางหมอกหนามีเงาร่าง 3–4 ตน สูงโปร่ง ผิวซีดเหมือนเปลือกหอยพวกมันเดินช้า ๆ บนทรายเสียงก้าวแต่ละก้าวลากเหมือนขาไม่มีพละกำลังแต่ในดวงตา — ไม่มีแววชีวิตใด ๆพวกมัน...ไม่ใช่เงือกธรรมดา เงือกพวกนี้มีรอยเย็บตามข้อมือเหมือนถูกฝังและเย็บปิดปากกว้างกว่าปกติ และเต็มไปด้วยฟันแหลมที่ไม่ควรอยู่ในร่างเงือกอีธานก้าวถอยหลังอย่างเงียบเชียบ แล้วทันใดนั้น — พวกมันหันขวับมาทางเขา“เราต้องหนี!” เขาตะโกนวิ่งกลับเข้าถ้ำไอล่า กับมาริเบลลุกขึ้นคว้าอาวุธ“เกิดอะไรขึ้น?”“พวกมัน...ขึ้

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #31 เงาสะท้อนของสายเลือด

    ภายในคือห้องกลวงขนาดใหญ่มีแคปซูลแก้วโบราณเจ็ดใบเรียงอยู่กลางห้องภายใน…คือร่างของเงือกอีกเจ็ดตน — ที่อยู่ในสภาพกึ่งหลับ กึ่งตื่นร่างพวกมันไม่เน่า ไม่ชรามีร่องรอยการดัดแปลงร่างกายคล้ายกับนีร่า แต่รุนแรงกว่าหลายเท่าเสียงในหัวเธอดังขึ้นอีกครั้ง“เลือดของเจ้า…คือสิ่งสุดท้ายที่ขาดไป”“พวกเรา...จะตื่นอีกครั้ง”นีร่าก้าวถอยหัวใจเธอเต้นแรงคำถามคือ…เธอควรจะ “ปลุก” พวกนี้จริง ๆ หรือไม่?เสียงก้องในหัวของเธอเบาลง จนเหลือเพียงคำเดียว “...เลือก...”เสียงจากใต้ทะเลเงียบลงนีร่าค่อย ๆ ว่ายออกจากห้องโบราณที่ฝังอยู่ใต้ผืนน้ำหัวใจยังเต้นแรง…แต่ครั้งนี้เป็นเพราะความหวั่นไหว ไม่ใช่ความกลัวในหัวเธอมีคำถามเต็มไปหมด"พวกเขาคือเผ่าพันธุ์ของข้า...หรือคือฝันร้ายของข้า?""ข้าควรปลุกพวกเขาไหม...หรือปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นตายไปตามกาลเวลา?"เธอไม่ได้ให้คำตอบเธอเลือกที่จะ "ปิดประตู" นั้น…ชั่วคราวเมื่อกลับขึ้นฝั่งอีธานรีบวิ่งเข้ามาหาเธอทันที“เจ้าโอเคไหม!?”นีร่าพยักหน้าเบา ๆ แต่แววตาเธอยังว่างเปล่าเล็กน้อยเหมือนคนที่กลับมาจากการเห็นบางสิ่ง…ที่ไม่ควรมีอยู่ในโลกนี้เธอไม่พูดถึงห้องนั้นไม่พูดถึงเงือกเจ็ดตน

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #30 เสียงเรียกจากใต้ทะเล

    เสียงดังจากข้างใน มาริเบลวิ่งออกมา พร้อมไอล่า“อย่าเข้าใกล้นาง” ไอล่ากัดฟันแต่ช้าไปแบร์กตันสะบัดมือทหารกลุ่มหนึ่งโผล่จากป่า กระชับปืนหอกทะเลในมือเขาไม่ได้มาคนเดียว... เขาวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น ในกระท่อมนีร่าสะดุ้งตื่น ดวงตาเธอยังแดงเรืองนิด ๆเธอรู้...พลังของเธอเรียกใครบางคนมาเสียงของแบร์กตันดังลอดเข้ามา “นีร่า — ออกมาเถอะ ข้าไม่ใช่ศัตรูของเจ้า ข้าแค่ต้องการให้เจ้าช่วย...แบ่งเลือดของเจ้าให้ข้าสักหยด”“แค่นั้นจริง ๆ ข้าสาบาน”นีร่าลุกขึ้นช้า ๆเธอรู้ดี...เขาโกหกสายตาแบบนั้น แววโลภแบบนั้น — ไม่มีใครหยุดเพียงแค่ “หยดเดียว”นีร่าเดินออกมาเธอยืนต่อหน้ากัปตันแบร์กตันดวงตาเธอยังคงมีลายสีเงินอ่อน แผ่นผิวบนแขนยังเผยเกล็ดบาง ๆ“เจ้ากลัวตายงั้นหรือ?” เธอถามเบา ๆแบร์กตันหัวเราะ“ไม่ใช่กลัว...แค่เบื่อการรอคอยอย่างไม่มีจุดจบ”เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดเรียบ ๆ“ข้าไม่ให้เลือดข้าแก่คนที่เห็นชีวิตเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน”“ข้าเกิดมาเพื่อหยุด...ไม่ใช่ส่งต่อมัน”แบร์กตันขมวดคิ้ว“งั้นข้าจะเอาเลือดเจ้าด้วยตัวข้าเอง”เขาดึงมีดออกจากข้อมือ — และทหารทั้งหมดกรูก้าวหน้าอีธานร้อง “นีร่า อย่า!”แต่สายไ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #29 การเป็นอมตะ

    กลับสู่ปัจจุบันนีร่าผงะออกจากแท่นหิน ดวงตาเธอเปลี่ยนกลับเป็นปกติ แต่น้ำตาไหลอาบแก้ม“ไม่...ข้าไม่อยากเป็นแบบนั้น” เธอกระซิบ “ข้าไม่อยากฆ่าใคร...ไม่อยากกลายเป็นสัตว์ร้าย”อีธานประคองเธอแน่น “เจ้าคือเจ้าคนเดิม นีร่า...เราเลือกทางเดินของตัวเองได้”ชายชราเพียงเงียบ ก่อนเดินไปยังผนังด้านหลัง เขาดึงแผ่นศิลาออก เผยให้เห็น ตราประทับสุดท้าย — รูปเกล็ดเงือกสีเงินไขว้กับเลือดสีแดง“เลือดเจ้าคือประตูสุดท้ายที่จะเปิดพลังของ ‘อาทรามา’”“แต่หากเจ้าปิดมันด้วยตนเอง — เจ้าจะสูญเสียพลังทั้งหมด... กลายเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา”นีร่าก้มหน้าสั่น “ข้าต้องเลือกระหว่าง ‘เป็นตัวข้า’ หรือ ‘เป็นสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้’...”มาริเบลเดินเข้ามาจับมือพี่สาว“ไม่ว่าพี่จะเลือกอะไร ข้าก็จะอยู่กับพี่...จนกว่าจะถึงที่สุด”เสียงจากเบื้องบนเริ่มดังขึ้นอีกครั้งแสงไฟจากตะเกียงและเสียงรองเท้าเหล็กกระทบพื้นหินสะท้อนเข้ามาในอุโมงค์กองทหารของเจ้าชายเฟอเรส...อีธานหันมามองทุกคนเสียงฝีเท้าเริ่มใกล้เข้ามาทหารของเจ้าชายเฟอเรสกำลังเข้าประชิดอุโมงค์ใต้พระราชวัง พวกอีธานไม่มีเวลาอีกแล้วนีร่ายืนหน้าตรงต่อหน้าตราประทับสุดท้ายเธ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status