Home / โรแมนติก / SiRen เงือกสาว ผจญภัย / #7 ท่านยังอยู่ในใจข้าเสมอ

Share

#7 ท่านยังอยู่ในใจข้าเสมอ

last update Last Updated: 2025-06-15 19:49:46

หลายวันผ่านไปนับจากวันที่ข้าขึ้นมาบนพื้นดินที่ๆมนุษย์เรียกว่าบ้านเเละเมือง

ตอนนี้ ข้าเริ่มเดินได้คล่องขึ้น ใส่เสื้อผ้าได้เอง

แม้บางทีก็ยังใส่ผิดบ้างแล้วก็พอจะทำอาหารง่ายๆได้บ้าง

อีธานบอกว่าข้าพัฒนาเร็ว ส่วนข้าก็เริ่มชินกับการได้ยินเสียงนาฬิกา เสียงรถม้า และแม้แต่เสียงฝนที่ตกลงมากระทบหลังคา

ทุกเช้าอีธานจะตื่นก่อน หยิบเสื้อคลุมมาคลุมให้ข้าที่ชอบหลับฟุบอยู่ตรงระเบียงหน้าบ้าน

ทุกเย็นเขาจะนั่งฟังข้าเล่าเรื่องทะเล เรื่องปะการัง และเรื่องเจ้าเต่าตัวอ้วนที่ข้าเคยช่วยไว้ตอนมันติดหิน

เขาฟังเงียบๆ แล้วหัวเราะบ้าง ยิ้มบ้าง บางทีก็พูดเบาๆ ว่า...

“ถ้าได้เห็นโลกของเจ้าจริงๆ สักวันก็คงดีนะ”

ข้าไม่เคยตอบอะไรนอกจากยิ้มให้เขา แล้วเเสร้งไปล้างจาน หรือทำท่าหาวกลบเกลื่อน

จนกระทั่งวันหนึ่ง ข้าทำขวดแก้วหล่นแตกตอนกำลังเก็บของในห้อง

“อ๊ะ!” ข้าร้องออกมาเพราะโดนบาดนิดหน่อย

อีธานรีบวิ่งมาดูทันที เขาคุกเข่าลงข้างข้า มือจับข้อมือข้าเบาๆ ก่อนจะพูดเสียงนิ่ง

“ให้ตายสิ นีร่า เจ้าต้องระวังตัวมากกว่านี้สิ”

“มันแค่รอยขีดนิดเดียว—”

“ข้าไม่อยากเห็นเจ้าเจ็บ” เขาพูดแทรกขึ้น ก่อนจะชะงักไปเหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกมา

ข้านิ่ง เงยหน้ามองเขา

สายตาอีธานอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด เขามองข้าเหมือนคนที่กำลังต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง

“ข้าแค่...เป็นห่วง” เขาว่าเสียงเบา สายตาหลบไปเล็กน้อย

“ขอบใจนะ” ข้าส่งยิ้มบางๆ แล้ววางมือแตะหลังมือเขาเบาๆ

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะดึงมือกลับช้าๆ ลุกขึ้นยืน

“ข้าจะไปเอายาสมุนไพรมาใส่เเผลให้เจ้า”

หลังจากวันนั้น อีธานก็เริ่มเงียบลงนิดหน่อย เวลาคุยกับข้าเขาชอบชะงักกลางประโยค สายตาบางครั้งก็ดูเหมือนมีอะไรอยากพูด...แต่ก็ไม่พูด

เขาเริ่มมองข้านานขึ้น...บางทีแค่ข้าหัวเราะเบาๆ เขาก็ยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว

ข้ารู้...เขาเริ่มเปลี่ยนไป

และข้าเองก็เริ่มไม่แน่ใจ ว่าหัวใจของข้าที่เคยอยู่ใต้ทะเลลึก มันกำลังจะเต้นแรงเพราะอะไรแน่

ช่วงนี้อากาศดี อีธานเลยชวนฉันออกไปตลาดเช้า

“วันนี้เราจะไปซื้อของมาทำอาหารเย็นกันเอง ลองดูมั้ย?” เขายิ้มตาหยี แล้วสวมหมวกปีกกว้างให้ข้า

ข้าพยักหน้า ยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น ข้าจะทำซุป!”

“เอาแบบที่เจ้าเคยกินในทะเล?” เขาถามขำๆ

เเละเเน่นอนเขารู้ว่าข้าเป็นเงือก ตั้งเเต่วันเเรกที่เขาเจอข้า

เเต่เขาเลือกที่จะช่วยข้าปิดเป็นความลับเเทนการเปิดเผย

“ไม่ใช่! แบบที่ข้าคิดขึ้นมาเอง” ฉันยกคางขึ้นอย่างมั่นใจ

ตลาดเช้าเต็มไปด้วยสีสัน เสียงแม่ค้าหัวเราะคุยกัน เสียงเด็กๆ วิ่งเล่น ฉันเดินดูผักใบเขียวอย่างสนุก ก้มดม กดเบาๆ แล้วก็ชี้แบบมั่วๆ ไปหมด

“อีธาน อันนี้เรียกอะไร?”

“นั่นผักชี”

“แล้วนี่?”

“ต้นหอม”

“แล้วนี่ล่ะ?”

“อันนั้น...เอ่อ ผักกาดขาว แต่เจ้าจะเอาไปทำซุปเหรอ?”

“ทำไมล่ะ ข้าว่ามันดูนุ่มน่ากอดดีออก”

เขาหัวเราะออกมาเต็มเสียง “นุ่มน่ากอดเหรอ นี่เจ้าคิดว่าเราจะกอดผักแทนหมอนรึไง?”

ข้าหัวเราะตาม เราเลือกของกันจนเกือบครบ แล้วเดินกลับบ้านพร้อมถุงเต็มมือ

พอถึงบ้าน ข้าลงมือหั่นผักด้วยความตั้งใจมาก (แม้จะหั่นไม่เท่ากันสักชิ้น) ส่วนอีธานก็กวนซุปในหม้อไปเรื่อยๆ แล้วบางทีก็แอบชำเลืองมองข้า

“อย่ามองข้าแบบนั้น ข้าอายนะ” ข้าพูดทั้งที่มือยังถือมีด

“ข้าแค่มองว่า...เจ้าดูตั้งใจดี” เขายิ้มเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาข้างๆ แล้วจับมือข้าจากด้านหลัง “หั่นแบบนี้ จะได้ไม่โดนนิ้ว”

หัวใจข้าเต้นโครมครามขึ้นมาเฉยๆ ไม่ใช่เพราะกลัวมีด...แต่เพราะอีธานอยู่ใกล้มาก

กลิ่นสบู่อ่อนๆ จากตัวเขาลอยมาแตะจมูก เสียงลมหายใจของเขากระทบหูเบาๆ จนฉันเผลอกลั้นหายใจ

“ขะ...ขอบใจนะ” ข้าพูดตะกุกตะกัก แล้วรีบถอยออกมาเล็กน้อย

เขาเองก็เหมือนเพิ่งรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป “อะแฮ่ม...คือ ข้าแค่ไม่อยากให้เจ้าบาดมือน่ะ”

“อือ ข้ารู้...” ข้าตอบเบาๆ

หลังจากนั้นเรานั่งกินซุปด้วยกันที่โต๊ะเล็กๆ ฉันหัวเราะกับรสชาติตลกๆ ที่ออกเค็มไปหน่อย ส่วนเขาก็บอกว่า “ไม่เป็นไร ซุปนี้มันมีรสของบ้าน”

คืนนั้นก่อนนอน ข้านั่งซักผ้าอยู่ตรงระเบียง อีธานเอาผ้าห่มมาคลุมให้เหมือนเคย

“นีร่า...เจ้าคิดถึงทะเลมั้ย?”

ข้านิ่งไป ก่อนจะตอบเสียงเบา “คิดสิ...แต่ตอนนี้ ข้าเริ่มรู้สึกว่า ที่ตรงนี้ก็ดีเหมือนกัน”

เขาเงียบไป ก่อนจะพูดว่า “ข้าก็คิดเหมือนกัน...เพราะมีเจ้าอยู่”

แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านทุ่งหญ้าใกล้ชายฝั่ง

อีธานชวนข้าออกไปเดินเล่น "อยากให้เจ้าได้เห็นต้นไม้บ้าง นอกจากสาหร่ายกับปะการัง" เขายิ้มอย่างอ่อนโยน

ข้าหัวเราะเบาๆ "ต้นไม้ก็เหมือนพวกปลาปักเป้าเลยนะ เวลาลมพัด ใบไม้พองๆ ดูนุ่มดี"

"เจ้าเปรียบเทียบต้นไม้กับปลาปักเป้าจริงๆ เหรอ?" เขาขำ

เราค่อยๆ เดินเล่นไปเรื่อยๆ มือข้าถือช่อดอกไม้ที่เขาก้มเก็บตามทางมาให้ ทีละก้านรวมกันเป็นช่อใหญ่ ส่วนมือเขาค่อยๆ ทาบเบาๆ บนหลังมือข้าอย่างเป็นธรรมชาติ

"เดินมาตั้งหลายรอบแล้ว เจ้าไม่เหนื่อยเหรอ?" เขาถาม

"ไม่เหนื่อยหรอก อยู่ใต้ทะเลข้าว่ายน้ำทั้งวัน นี่เดินบนพื้นดินแค่นี้สบายจะตาย" ข้ายิ้มให้เขา ก่อนถามกลับ "แล้วเจ้าล่ะ เหนื่อยมั้ย กับการต้องดูแลข้าอีกคนแบบนี้?"

เขาหยุดเดินเล็กน้อย ก่อนตอบเสียงเบา "ไม่เลย...ใจข้ารู้สึกสงบกว่าที่เคย"

ข้าเงียบไป หัวใจเต้นแรงกว่าที่คิด

บางครั้งเวลาที่เราอยู่ใกล้กัน มันเหมือนเวลาหยุดลง

แต่ในใจข้ายังคงมีใครอีกคนที่ไม่เคยจางหายไป

ใครบางคนที่เคยหัวเราะกับข้าใต้น้ำ

ใครบางคนที่เคยจับมือข้าแน่นในความมืดของถ้ำปะการัง

ข้ายิ้มให้เขา แต่รอยยิ้มนั้นแฝงไปด้วยความคิดถึง

"อีธาน..."

"หืม?"

"ขอบใจนะ ที่ทำให้ข้ารู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่ความเจ็บปวด"

เขายิ้มบางๆ "ข้าไม่รู้ว่าความเจ็บปวดในใจเจ้าคืออะไร เเต่ข้าแค่อยากอยู่ข้างๆ ตอนที่เจ้ากำลังหัดยิ้มใหม่"

ข้าก้มมองเงาของเราที่ทอดยาวเคียงข้างกันบนพื้นหญ้า

มันไม่ได้แนบสนิท...แต่ก็ใกล้พอที่จะรู้สึกได้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #19 การตามล่าจากโจรสลัด

    เมืองคอร์เซียร์...เมืองท่าขนาดใหญ่ทางฟากตะวันตกของทวีปที่เหล่าโจรสลัด นักล่าทะเล และพ่อค้าวัตถุต้องสาปต่างพากันมารวมตัว ไม่ใช่เพื่อศีลธรรม...แต่เพื่อผลประโยชน์ เงินทอง และเลือดเรือโจรสลัด “แบล็คดราฟต์” ของกัปตันแบร์กตัน จอดเทียบอย่างลับ ๆ ที่ท่าเรือหมายเลขเจ็ดของเมืองกลางยามสนธยา ท้องฟ้าถูกย้อมด้วยกลุ่มเมฆแดงหม่น แววตาเจ้าของเรือก็ไม่ต่างกัน“ลากของขึ้นฝั่ง!” แบร์กตันสั่งเสียงห้วนลูกเรือสองคนลากกรงเหล็กขนาดใหญ่คลุมด้วยผ้าดำขึ้นจากเรือ แบกผ่านตรอกแคบ ๆ ไปยังด้านในของเมืองที่หมายของพวกเขาคือ — โรงละครสัตว์ใต้ดินซึ่งว่ากันว่าสะสมสิ่งมีชีวิตประหลาดไว้มากกว่ารัฐบาลราชสำนักเสียอีกภายใต้โคมไฟน้ำมันที่ส่องไหวริบ ๆ เจ้าของโรงละครออกมาต้อนรับชายวัยกลางคนตัวเตี้ย ร่างอ้วนท้วน ใบหน้าคล้ายลูกหมู ผูกผ้าพันคอแดงทับเสื้อกำมะหยี่เก่าแก่“เจ้าพาสิ่งนั้นมาหรือยัง?” เขาถามเสียงขุ่น “ข้าจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้ผิดหวังนะ...แบร์กตัน”แบร์กตันโบกมือผ้าคลุมกรงถูกเปิดออก...เผยให้เห็นเพียงเเค่คนเเคระคนนึงเท่านั้น“ไม่มี!?” เจ้าของโรงละครร้องเขาก้าวไปจนหน้าดำหน้าแดง “เจ้ากล้าหลอ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #18 เสียงที่ล่อลวง

    สายลมจากทะเลพัดโชยผ่านใบไม้หนาทึบ กลิ่นเกลือและไอชื้นของป่าไหลเข้าปะทะจมูก แต่นีน่าไม่แม้แต่จะหายใจลึก หัวใจเธอมีเพียงความเร่งรีบ"มาริเบล...ต้องรอด"น้องสาวของนางนอนอยู่ในถ้ำเล็กริมชายหาด ดวงตาร้อนผ่าว ผิวที่เคยสดใสเริ่มซีดจางจากพิษของบาดแผลขณะหลบหนี แม้นีร่าจะใช้ความรู้จากเผ่าตนรักษาเบื้องต้น แต่สมุนไพรที่ต้องการมีเฉพาะในป่าภายในเกาะ ซึ่งแปลกและไม่คุ้นเคยนางจำตำราได้ว่า ใกล้ภูเขาใจกลางเกาะนี้เคยมี “ดอกวารีทอง” — ดอกไม้ขนาดเล็กที่มีกลีบสีเงินสลับทอง ผสมกับราก "เฟินน้ำเที่ยงคืน" แล้วบดกับเกลือ จะถอนพิษจากบาดแผลลึกได้“นางจะต้องไม่เป็นอะไร…” นีร่าพึมพำในใจ ขณะฝ่าไผ่รกและเลื้อยไม้ขึ้นสู่แนวเขาเล็กแต่ทันทีที่นางไปถึงลำธารกลางป่า...เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น—เสียงเพลงแผ่วเบา แฝงความเศร้าโศก ราวเสียงร้องของหญิงสาวใต้ผิวน้ำนีน่าหยุดชะงัก หางตากวาดไปรอบ ๆ — ไม่มีใครแต่ผิวน้ำสั่นเบาเหมือนมีบางสิ่งตื่นขึ้นจากก้นลึก> “...ผู้หลงทางในความมืด… กลิ่นเลือดเจ้าช่างหวานนัก…”เสียงนั้นกระซิบในหัว ไม่ใช่เสียงมนุษย์ ไม่ใช่เงือกธรรมดาทันใดนั้น ผิวน้ำก็แตกกระจาย ร่างหนึ่งพุ่งขึ้นมา—เงือกสาวผิวซีดจ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #17 คำสาปในเกาะลึกลับ

    แสงจันทร์ส่องลงมากระทบลานหินกลางป่าลึก เงาไม้โยกไหวตามแรงลม คืนนี้เงียบผิดปกติ—เงียบเสียจนได้ยินเสียงลมหายใจของผู้ถูกจับไอล่าและรัฟเฟอร์นั่งอยู่กลางวงพิธี แขนทั้งสองข้างถูกมัดด้วยเถาวัลย์ศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยอักขระโบราณ พวกเขาไม่ได้ถูกทำร้าย ไม่แม้แต่รอยขีดข่วนบนร่างกาย...แต่หัวใจกลับสั่นสะท้านด้วยสิ่งที่มองไม่เห็นเพราะรอบตัวพวกเขา...ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่เลยมีเพียง "เงา" — เงาบางเบาของสิ่งที่เคยมีชีวิตเสียงสวดมนต์ต่ำ ๆ ดังขึ้นจากทุกทิศ เสียงนั้นไม่ใช่มนุษย์ ไม่ใช่สัตว์ แต่เป็นเสียงกระซิบของลมหายใจในอดีต เสียงของวิญญาณที่เคยมีเลือดเนื้อ และบัดนี้...หลงเหลือเพียงเศษความตายที่ยังไม่สงบ"พวกมัน...ไม่มีร่าง" รัฟเฟอร์กระซิบเบาไอล่าหันมามอง สีหน้าซีดเผือด "แต่ยังมีเจตจำนง"จู่ ๆ อากาศรอบกายเย็นวาบ ลมหอบหนึ่งพัดผ่าน ก่อนที่แสงสีฟ้าหม่นจะก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่างของหญิงชราโบราณ ใบหน้าซีดเผือดดั่งกระดูก ห้อยลอยอยู่เหนือพื้นเพียงนิ้วเดียว ดวงตาขาวขุ่นไร้แววชีวิต แต่มองตรงมาราวกับมองทะลุหัวใจ“เจ้าจะเป็นสะพาน...” เสียงนั้นดังกังวานโดยไม่มีปากขยับ“สะพานเพื่อพวกข้า...จะกลับมาอีกครั้ง”แท่นหิ

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #16 เผ่าที่โดนสาป

    เปลวแดดยามสายส่องทะลุม่านเมฆครึ้ม ปลายหางเรือเล็กแหวกผืนน้ำอย่างเงียบงัน อีธานนั่งนิ่งบนหัวเรือ สายตาคมใต้คิ้วเข้มทอดมองไปยังผืนป่าแน่นทึบบนเกาะร้างเบื้องหน้า"ตรงนี้แหละ" เสียงไอล่าเอ่ยพลางหยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นดู เธอชี้ไปยังฝั่งที่มีโขดหินเรียงตัวคล้ายประตูธรรมชาติ "ฉันเห็นรอยเท้า...มันมุ่งเข้าไปด้านใน"อีธานพยักหน้า รอยแผลบนแขนยังไม่ทันแห้งดี แต่เขาไม่อาจรอให้บาดแผลสมานก่อน รอยเลือดของพวกโจรสลัดยังเปรอะเปื้อนอยู่บนเสื้อผ้า กลิ่นคาวยังติดปลายจมูก — มันคือเครื่องเตือนใจว่าเขาต้องเร็วขึ้นอีก ก่อนจะสายเกินไปลูกเรืออีกคนที่ยังเหลือ—ชายร่างสูงชื่อรัฟเฟอร์—เป็นคนเงียบขรึม แต่ซื่อสัตย์ เขาหิ้วสัมภาระตามหลัง ไม่เอ่ยถ้อยคำใด นอกจากพยักหน้าอย่างพร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่สามคนขึ้นฝั่ง ใต้ร่มไม้เงียบงัน เย็นยะเยือกผิดกับแสงแดดข้างนอก เสียงใบไม้แห้งลั่นกรอบใต้เท้า พร้อมกลิ่นดินชื้นที่คละเคล้ากลิ่นเกลือทะเล"หยุดก่อน..." เสียงอีธานเบาและกดต่ำ ขณะเขาย่อตัวลง มือหนาแตะบางสิ่งบนพื้นมันคือหยดเลือด...เล็กแต่ยังสดไอล่าถลาเข้ามาอย่างเร็ว "เลือดเหรอ?"อีธานไม่ตอบ เขายืนนิ่ง ขมวดคิ้วแน่น ดวงตาเขาสั่นไหว.

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #16 บาดเเผล

    แสงจันทร์สาดสีเงินลงเหนืออ่าวลับ เงาน้ำพลิ้วไหวใต้ผืนฟ้ายามค่ำคืน ท่ามกลางความเงียบงันที่แทบจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น ข้าค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้นจากแอ่งน้ำข้างหาด ดินเหนียวเปรอะขา เท้าของข้าเหยียบลงไปบนผืนทรายที่เย็นชื้นเท้า—ไม่ใช่หางเงือกอีกต่อไปข้ามองปลายขาตัวเองอย่างอึ้งงัน ผิวเนื้อที่เคยเป็นเกล็ดทองสะท้อนแสงบัดนี้กลายเป็นผิวมนุษย์เรียบเนียน ซีดขาวด้วยไอเย็นของน้ำและความเหน็ดเหนื่อยข้าไม่รู้ว่าสิ่งใดเปลี่ยนร่างข้ากับน้อง…บางที อาจเป็นเวทมนตร์ของโพรงน้ำใต้เกาะ หรือบางสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจ> “พี่…” เสียงเบาเรียกจากข้างหลัง ข้าหันไปเห็นมาริเบลกำลังพยายามพยุงตัวลุกขึ้นเช่นกัน“ข้า…ข้าก็มีเท้าเหมือนเจ้าแล้ว”ข้าประคองนางขึ้นจากน้ำ ดวงตานางเบิกโพลง ขณะจ้องมองปลายเท้าตัวเองเหมือนเด็กน้อยที่เพิ่งเห็นโลกเป็นครั้งแรก ผมของนางเปียกปอนแนบแก้ม หยดน้ำยังเกาะตามขนตาคล้ายหยดน้ำตาข้าจับมือนางไว้แน่น> “เรายังมีชีวิตอยู่ และนั่น…คือสิ่งเดียวที่สำคัญ”สายลมยามค่ำคืนพัดหอบเอากลิ่นทะเล กลิ่นดิน กลิ่นมอส และกลิ่นไม้ผุจากป่าด้านหน้าเข้ามา ด้านหลังของเราคือผืนน้ำกว้างใหญ่เบื้องหลังภูเขาหินสูงชัน ไม่มี

  • SiRen เงือกสาว ผจญภัย   #15 เกาะที่ไร้ชื่อ

    เพลิงลุกไหม้ยอดไม้ โหมกระท่อมริมฝั่งทะเลสาบให้กลายเป็นเศษเถ้าดำราวสรวงสวรรค์เคยทอดทิ้งที่นี่ไปนานแล้ว...ข้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ใต้แสงสีส้มของความสูญเสียข้ารู้สึกราวกับห้วงเวลาหยุดหมุนในชั่วครู่ที่สายตาจับจ้องไปยังร่างหนึ่งบนพื้น—เรน ชายผู้เคยเป็นทั้งเพื่อน ทั้งรัก และบัดนี้…เป็นเพียงซากอดีตที่ไร้คำแก้ตัวเสียงสะอื้นของนีร่าดังแผ่วอยู่เบื้องหลัง หยดน้ำตาสีดำยังร่วงทีละหยดลงสู่ผืนดินที่เปียกชื้นจากทั้งฝนที่เพิ่งจางหาย และเลือดที่ยังไม่แห้งข้าอยากยื่นมือไปปลอบนางแต่ข้ากลับยืนนิ่งอยู่เช่นนั้น...เพราะบางความเจ็บ ก็ไม่มีถ้อยคำใดปลอบประโลมได้> “อีธาน…”เสียงนางเบาเหมือนเสียงคลื่นลมที่ซัดชายฝั่งข้าหันมาช้า ๆ และสบตากับนางดวงตาคู่นั้น—แม้จะยังงดงาม—กลับเต็มไปด้วยร่องรอยของการแตกสลาย> “ข้า…เหนื่อยเหลือเกิน…”นางเอ่ยก่อนจะซบหน้าลงบนบ่าข้า ข้าได้แต่ยกแขนขึ้นโอบประคองแผ่นหลังบางเอาไว้แน่น มาริเบลยืนนิ่งอยู่ด้านข้าง ร่างเล็กที่เปื้อนเลือดและดินเงยหน้ามองพี่สาวอย่างเงียบงัน น้ำตาของนางไม่ไหล…เพราะนางไม่เหลือแม้แรงจะร้องไห้อีกแล้วข้าอยากให้คืนวันสงบกลับมา แต่ในโลกนี้—มันไม่เคยง่ายเช่นนั้นเพร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status