Share

ตอนที่ 15 ลาก่อน

last update Last Updated: 2025-04-14 09:30:52

หลังจากที่ฉันพาเขามาเจอพี่มีนาและคืนของทุกอย่างให้กับเขา เราก็จะเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯแต่ยายของฉันท่านขอร้องให้เราอยู่กันต่ออีกหนึ่งวันเพราะท่านคิดถึงฉันมากและฉันเองก็อยากอยู่ต่อด้วย ฉันจึงบอกให้เขากลับไปก่อนแล้วฉันจะตามกลับไปทีหลังแต่เขาไม่ยอมกลับคนเดียวเราจึงต้องอยู่ที่นี่กันต่ออีกหนึ่งวัน วันนี้เป็นวันที่อากาศแจ่มใสไร้เมฆหมอกจึงทำให้เหมาะแก่การเที่ยวถ่ายรูปเป็นอย่างมาก ฉันจึงชวนเขาออกไปเที่ยวถ่ายรูปด้วยกันเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ทีแรกเขาก็ไม่ยอมไปแต่ฉันคะยั้นคะยอจนเขายอมไปด้วย ที่ๆเราจะไปเป็นภูเขาที่มีธารน้ำจากน้ำตกไหลผ่านและถ้าเดินขึ้นไปบนยอดน้ำตกก็จะมองเห็นวิวที่สวยงามมาก ฉันตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเที่ยวจึงร่าเริงเป็นพิเศษ เมื่อมาถึงที่หมายฉันก็กระโดดโลดเต้นและซุกซนเหมือนเด็กๆ ฉันหันไปมองเขาที่เดินตามหลังมา เขาแอบยิ้มเล็กน้อยที่เห็นท่าทีของฉัน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขายิ้มออกมา ในที่สุดความเศร้าและความเจ็บปวดที่มีในใจเขามันก็ได้บรรเทาลง แม้มันจะเล็กน้อย ฉันวิ่งไปทั่วป่าเพื่อที่จะถ่ายรูปต้นไม้ ดอกไม้ ธารน้ำและสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่อยู่ในป่า ในขณะที่ฉันถ่ายรูปอยู่เพลินๆและฉันก็บังเอิญแพลนกล้องไปทางที่เขายืนอยู่ ฉันเห็นใบหน้าของเขาดูมีความสุขกับธรรมชาติรอบๆตัวเขา เวลาที่เขายิ้มเขาช่างดูมีเสน่ห์เหลือเกิน ฉันจึงแอบถ่ายรูปเขาไว้หลายรูปเลยทีเดียว และด้วยความที่วิ่งเล่นถ่ายรูปจนเหนื่อยจึงทำให้ฉันหมดแรงฉันจึงตัดสินใจว่าจะนั่งพักกินข้าวกลางวันกันที่นี่ ฉันเตรียมของกินมาเต็มกระเป๋าทั้งแซนวิส ขนมขบเคี้ยว น้ำดื่มและกาแฟ เราเดินหาที่นั่งพักกันอยู่ครู่หนึ่งก็เดินมาใกล้กับน้ำตกเราจึงตัดสินใจนั่งพักกันตรงนั้น “เราพักกินข้าวกันตรงนี้นะคะ คุณจะเอาอะไรคะ แซนวิส ขนมหรือกาแฟดีคะ” ฉันหันไปถามเขา “ฉันขอกาแฟแก้วนึงแล้วกัน เธอกินเถอะ” ฉันพยักหน้าและยื่นกาแฟพร้อมแซนวิสให้เขา “ฉันบอกว่าขอกาแฟแค่แก้วเดียวไง เธอเอาแซนวิสมาให้ฉันทำไม เธอกินไปเถอะ” เขายื่นแซนวิสมาคืนฉันและรับแค่กาแฟแก้วเดียว “คุณต้องกินแซนวิสด้วยสิคะ ฉันอุส่าตั้งใจทำมาให้อย่างสุดฝีมือเลยนะคะ ถ้าคุณไม่กินฉันเสียใจแย่เลย” ฉันยื่นแซนวิสกลับไปยัดใส่มือเขาพร้อมกับตีหน้าเศร้าและเขาก็ใจอ่อนยอมกินแซนวิสของฉัน ด้วยความที่ใช้แรงไปเยอะกับการวิ่งถ่ายรูปรอบป่าฉันจึงกินรีบกินไปหน่อยทำให้แซนวิสติดคอฉัน “แค่ก แค่ก ขอน้ำ ขอน้ำหน่อยค่ะ แค่ก แค่ก” เขาหัวเราะลั่นและส่งน้ำให้ฉัน “ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่เธอหิวมากขนาดนั้นเลยหรือไง ค่อยๆกินก็ได้ฉันไม่แย่งเธอกินหรอก” นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขาหัวเราะ เขาดูดีมีออร่ามากๆทำให้ฉันเคลิ้มไปชั่วขณะ “นี่เธอ อยู่นิ่งๆก่อน มีเศษขนมปังติดอยู่ที่แก้มของเธอหน่ะ” เขาเอื้อมมาเพื่อที่จะเช็ดแก้มให้ฉันแต่ฉันเอียงหน้าหลบ “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวมือคุณจะเลอะเอานะคะ” แต่เขาไม่ฟังที่ฉันพูดกลับเอามืออีกข้างมาล็อคเอวฉันและเอามือมาปาดแก้มที่เปื้อนของฉัน “ฉันบอกแล้วว่าให้อยู่นิ่งๆ ทำไมเธอถึงไมฟังที่ฉันพูดหล่ะ” ในขณะที่เขากำลังเช็ดแก้มให้กับฉันสายตาของเราก็หันมาสบตากัน ด้วยความที่หน้าของเราอยู่ใกล้กันจึงทำให้ได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน วินาทีนั้นทุกสิ่งทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ ไม่รู้ว่าเราจ้องตากันนานเท่าไรจนได้ยินเสียงบางอย่างหล่นดัง ตุบ! เราทั้งคู่สะดุ้งและดีดตัวถอยห่างออกจากกัน และหันไปมองตามเสียงนั้น มันเป็นเสียงของลูกมะพร้าวที่ล่วงจากต้น เราทั้งคู่จึงไม่สนใจและรีบเก็บของเพื่อเดินขึ้นเขากันต่อ ในระหว่างทางที่เดินขึ้นเขาฉันก็กลับมาร่าเริงอีกครั้งจึงไม่ระวังทำให้ก้าวขาพลาดและล้มลง “นี่เธอ! ระวัง!” ฉันได้ยินเสียงเขาตะโกนมาจากข้างหลังแต่ตอนนั้นฉันหยุดตัวเองไม่อยู่แล้วจึงทำให้ล้มลงไปทับเขาและทำให้ปากเรากระแทกกัน ฉันรีบดีดตัวลุกขึ้นและเห็นปากเขามีเลือดออกฉันตกใจมากเพราะเขาต้องมาปากแตกเพราะฉัน “ฉันขอโทษนะคะ ฉันไม่ระวังจึงเป็นแบบนี้ ปากคุณมีเลือดออกด้วยเจ็บมากไหมคะ” ฉันก้มหน้าก้มตาขอโทษเขาและคิดว่าเขาต้องโกรธมากแน่ๆแต่เปล่าเลยเขากลับไม่โกรธฉันสักนิดและบอกกับฉันว่า “เธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว วันนี้เราพอแค่นี้เถอะกลับบ้านกันดีกว่า” และเราก็กลับมาที่บ้านโดยที่ไม่พูดอะไรกันเลยและก็หมดไปอีกวัน เช้าวันต่อมาเป็นวันที่เราต้องเตรียมตัวกลับแต่ฉันไม่เห็นเขาจึงถามยายว่าเห็นเขาหรือไม่ “แม่อุ้ยเจ้า หันคุณศรันย์ก่อเจ้า เช้านี้น้องยังบ่ปะเปิ้ลเลยเจ้า” ยายหันมายิ้มแล้วตอบว่า “หันกา เปิ้ลว่าจะไปวัดสักกำ สงสัยจะไปลาหนูมีนา” และฉันจึงไปวัดตามที่ยายบอกและก็เห็นเขาที่นั่นและได้ยินสิ่งที่เขาพูดกับพี่มีนา “วันนี้ฉันจะกลับกรุงเทพแล้วนะมีนา ฉันจึงมาลาเธอ ไว้ฉันจะมาเยี่ยมเธอบ่อยๆนะ จากนี้ไปเธอไม่ต้องห่วงฉันแล้วนะ ฉันจะมีความสุขและใช้ชีวิตให้ดีเผื่อส่วนของเธอด้วย ลาก่อนนะมีนา” แม้มันเป็นเพียงประโยคสั้นๆแต่มันมีความหมายมากมาย “ลาก่อนค่ะ พี่มีนา”

...โปรดติดตามตอนต่อไป...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 25 ตอนจบ

    ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ จากคนที่เคยคิดว่าไม่น่าจะมารักกันได้ ก็กลับกลายเป็นว่าได้มารักกัน และอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วหลังจากวันที่ฉันและคุณศรันย์ตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน ในทุกๆวันที่เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างสามีและภรรยาเรามีความสุขกันมาก คุณศรันย์เคยขอฉันแต่งงานใหม่ แต่ฉันก็ปฏิเสธไป เพราะเราได้แต่งงานกันไปครั้งนึงแล้ว ถึงแม้ว่าการแต่งงานในตอนนั้นมันจะเป็นงานแต่งงานหลอกๆก็ตาม แต่ความรู้สึกที่เรามีให้กันในตอนนี้มันคือของจริง ฉันจึงคิดว่ามันไม่จำเป็นที่เราจะต้องจัดงานแต่งงานขึ้นมาอีก ปล่อยให้มันเป็นไปแบบนี้ก็ดีอยู่แล้วนี่ก็ใกล้จะถึงวันครบรอบ 30 ปีที่ก่อตั้งบริษัท เดอะวันแล้ว ฉันและคุณศรันย์เรายุ่งกับการเตรียมงานกันอย่างมาก เพราะเราตั้งใจว่าจะทำให้ทุกคนที่มางานได้รับความสุขกลับไป ธีมส์ของงานในครั้งนี้คือ "วันพิเศษ แด่คนที่พิเศษ" รายละเอียดของงานคืออยากให้คนที่มาร่วมงานได้บอกความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่ายได้รับรู้ หากอีกฝ่ายตอบรับความรู้สึกนั้น เรามีของรางวัลให้ไปเที่ยวพักรีสอร์ท 2วัน 1คืน (ซึ่งแน่นอนว่ารีสอร์ทนั้นเป็นของบ้านฉันเอง) ในขณะที่เรากำลังเตรียมง

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 24 สิ้นสุดสัญญา

    ช่วงเวลาในตอนนี้มันช่างพิเศษเสียเหลือเกิน ฉันได้อยู่ในอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นของชายที่ฉันไม่คิดว่าจะได้มารักกัน ใบหน้าของฉันแนบกับหน้าอกของเขาและได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับว่าหัวใจดวงนั้นจะระเบิดออกมาใส่หน้าฉันเสียให้ได้ เรายืนกอดกันอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็พูดกับฉันว่า "ฉันว่าเรามาจบสัญญานี่กันดีกว่านะ" เมื่อฉันได้ยินแบบนั้นก็หน้าซีดและใจสั่น น้ำตาก็ไหลมาคลอๆที่เบ้าตา ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอตอบกลับเขาไปว่า "ที่คุณทำมาทั้งหมดนี้เพียงเพื่ออยากจะจบสัญญานี่หรือคะ ได้ค่ะ! งั้นเรามาจบสัญญากันเถอะ!" ฉันพูดจบก็หันหลังเพื่อที่จะเดินหนีออกไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด เพราะไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาของฉันในขณะที่ฉันกำลังหันหลังเพื่อก้าวเดินหนีไปนั้น เขาก็คว้าแขนของฉันแล้วดึงกลับไปกอดอีกครั้งแล้วพูดว่า "นี่! ฟังฉันพูดให้จบก่อนสิ! เธอจะรีบไปไหน ทำตัวเป็นนางเอกละครไปได้ ที่ฉันหมายถึงก็คือให้เรายุติสัญญาจอมปลอมนี่ แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ต่างหาก ยัยบื้อเอ๊ย!" เมื่อได้ยินแบบนั้นฉันก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก โอ้ย!ทำไมฉันถึงได้ทำอะไรน่าอายแบบนั้นกันนะ! ยัยมาริสายัยโง่เอ๊ย! "ขอโทษนะคะ ที่ฉันด่ว

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 23 คำอธิฐานที่อยากให้เป็นจริง

    ในชีวิตฉันเคยหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีคนมาทำเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ แล้วในวันนั้นฉันคงจะมีความสุขมากๆ แต่ไม่คิดว่าวันนั้นที่ฉันหวังเอาไว้จะมาถึง เพราะเขาคนนี้ทำให้ความหวังของฉันเป็นจริง ความสุขที่คิดไว้ก็เกิดขึ้นจริง และมากกว่าที่คาดคิดไว้เสียอีกในตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจว่าเขาทำทั้งหมดนี้เพื่ออะไร จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่ฉันก็มีความสุขมากกับสิ่งที่เขาทำให้ ไม่ว่าเขาจะทำไปเพื่ออะไรก็ตาม ขอแค่ให้เขาอยู่ข้างฉันแบบนี้ก็พอ คำอธิฐานในวันเกิดปีนี้ที่ฉันอยากจะขอก็คือ ฉันอยากให้เราได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปตลอดกาล และไม่อยากให้สัญญาจอมปลอมนั้นต้องจบลง เพราะตอนนี้ใจของฉันไม่ใช่ของฉันอีกต่อไปแล้วฉันยืนหลับตาและอธิฐานอยู่ครู่หนึ่ง ก็ได้ยินเสียงพูดขึ้นมาว่า "นี่เธอ! จะขออะไรหนักหนา เธอขอนานไปแล้วนะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คงให้เธอไม่ไหวหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า" เสียงนั้นทำเอาฉันต้องรีบลืมตาขึ้นมาทันที เพราะกลัวว่าหากฉันหลับตานานกว่านี้เขาอาจจะพูดแซวฉันอีกก็เป็นได้ "ก็คุณเป็นคนบอกให้ฉันอธิฐานเองนี่คะ ฉันก็เลยขอเยอะหน่อย เผื่อว่าจะสมหวังกับเขาบ้าง" ฉันพูดตอบกลับเขา และเขาก็ถามฉันกลับมาว่า "แล้วเธอขออะไร

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 22 ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป

    หลังจากงานเลี้ยงจบลง ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ วันเวลาผ่านไปได้สองเดือนครึ่งแล้วหลังจากที่เราแต่งงานกัน เหลือเวลาอีก15วันเท่านั้น สัญญาของเราสองคนก็จะจบลงวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ฉันตื่นมาตามปกติ แต่ที่แปลกไปจากเดิมก็คือ ฉันลืมตามมาเจอเขานอนอยู่ข้างๆพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้และพูดทักทายฉันว่า "อรุณสวัสดิ์ ตื่นเสียทีนะยัยขี้เซา ฉันมานอนอยู่ข้างๆตั้งนานยังไม่รู้สึกตัวอีก ถ้าเกิดว่ามีใครทำมิดีมิร้ายกับเธอจะทำยังไง" มันก็จริงอย่างที่เขาว่า เพราะฉันไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาตอนไหน แล้วทำไมเขาถึงได้มานอนอยู่ข้างๆฉันได้หล่ะ? พอคิดได้อย่างนั้นฉันเลยถามออกไป "แล้วคุณเข้ามาห้องฉันได้ยังไงคะ แถมยังมานอนข้างๆฉันอีก นี่คุณคิดจะทำอะไรฉันคะ ไม่ได้นะคุณ! ถึงเราจะเป็นสามีภรรยากันก็จริง แต่มันก็แค่ในนาม คุณไม่มีสิทธิทำอะไรฉันนะคะ" พอฉันพูดจบเขาก็หัวเราะลั่นและพูดว่า "นี่เธอ! เพี้ยนหรือเปล่า? นี่บ้านฉัน ฉันก็ต้องมีกุญแจไขเข้ามาอยู่แล้ว ที่ฉันเข้ามาเพราะฉันเคาะประตูเรียกเธอตั้งนานแล้วไม่มีเสียงตอบรับ ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรเลยรีบเข้ามาดู แต่เห็นเธอยังนอนกรนอยู่แถมละเมอด้วย และฉันขอบอกตรงนี้เล

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 21 งานเลี้ยงเต้นรำ

    เมื่อเราสองคนได้ของขวัญและชุดที่จะใส่ไปออกงานแล้ว เราก็เดินทางไปสถานที่จัดงานทันที เราเดินทางมาถึงสถานที่หนึ่ง ที่เหมือนกับคฤหาสน์ที่ดูหรูหราเหมือนกับในละคร ทางเข้าสองข้างทางมีดอกไม้หลากสียาวไปจนถึงตัวคฤหาสน์ ข้างหน้าก่อนเข้าไปในตัวอาคารมีน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ทุกอย่างมันเหมือนกับเราอยู่ในฉากละครฉากหนึ่ง ที่เป็นฉากของพวกไฮโซมางานเลี้ยงกัน ทุกคนแต่งตัวจัดเต็มไม่มีใครยอมใคร ทั้งหญิงและชายแต่งตัวดูดีกันทุกคน เมื่อเราสองคนเดินเข้าไปในงาน สิ่งที่ฉันเห็นคือ ความสวยงามอลังการงานสร้าง ยิ่งกว่าอยู่ในละครเสียอีก ทุกสิ่งทุกอย่างมีแต่ของแพงๆ จะหยิบจะจับอะไรทีต้องระวังอย่างมาก เพราะกลัวว่าถ้าทำพังจะไม่มีปัญญาจ่าย ในขณะที่ฉันกำลังยืนอึ้งอยู่นั้น เขาก็จับมือฉันและพูดว่า "อย่ายืนอึ้งนาน ถึงเธอจะทำอะไรพังก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันชดใช้ให้ เราไปหาคุณปู่กันเถอะ" เขาพูดพร้อมยิ้มเยาะฉัน และเราก็เดินไปหาคุณปู่เพื่อมอบของขวัญให้ "คุณปู่สวัสดีค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณปู่ ริสาขอให้คุณปู่มีอายุยืนนานอยู่กับหลานๆไปนานๆนะคะ" ฉันกล่าวสวัสสดีพร้อมอวยพรท่าน และท่านก็หัวเราะชอบใจและ

  • The Devil Wedding วิวาห์รักของนายปีศาจ   ตอนที่ 20 ดั่งความฝัน

    ตอนเป็นเด็ก ฉันเคยฝันอยากเป็นเจ้าหญิงที่ได้แต่งงานกับเจ้าชายรูปงามและครองรักกันอย่างมีความสุขตราบนานเท่านาน แต่พอฉันเติบโตขึ้น จึงทำให้ได้รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ความฝัน ในชีวิตจริงการที่เราได้พบเจอคนดีๆสักคน คนที่เขารักเราจริงไม่ทิ้งเราไปไหนไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไรก็ตาม เขาก็จะอยู่เคียงข้างเราเสมอ ถ้าฉันได้เจอกับคนๆนั้นฉันจะรักษาเขาไว้ให้ดีที่สุดในขณะที่ฉันกำลังฝันถึงเจ้าชายรูปงามที่กำลังจะได้จุมพิตกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งตื่นจากฝัน "กริ๊งงงงงงงงง" มันเป็นเสียงโทรศัพท์นั่นเอง แล้วฉันก็ได้ยินเสียงพูดคุยกันอยู่ใกล้ๆฉัน ฉันจึงลืมตาขึ้นดู แล้วฉันก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมแขนของใครสักคน ฉันจึงนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อคืนนี้ ฉันจึงได้รู้ว่าอ้อมแขนนี้เป็นของใครและนั่นก็ทำให้ฉันรู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งหน้า ฉันจึงค่อยๆขยับตัวลุกออกมาจากตรงนั้น แต่ก็มีเสียงพูดขึ้นมาว่า "ตื่นแล้วหรือ หลับสบายไหมยัยขี้เซา" ครั้งนี้เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนพร้อมด้วยรอยยิ้มที่เห็นแล้วละลาย ทำให้ฉันเคลิ้มไปอยู่ครู่หนึ่ง "ขอโทษนะคะ ที่ฉันมานอนตรงนี้ คุณคงจะอึดอันน่าดู ฉันจะรีบกลับห้องตัวเองเด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status