Share

เพื่อนใหม่

Author: Jiraiyajung
last update Last Updated: 2025-10-21 14:53:20

จากสถานการณ์ตอนนี้แค่มองดูก็รู้ว่าบริษัทใหญ่ ๆ หายเจ้ามีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันชัดเจน เพราะแบบนี้ถ้าหากคุณอยากจะอยู่รอด ก็ไม่ควรเป็นหมาป่าเดียวดาย เพราะจะถูกบีบเหมือนบริษัท food & mart

“หลังจากดูข้อมูลบริษัทแล้ว คิดว่าไงหรอ ฉันคิดว่าสามารถลงทุนได้นะ" เอสพูดกับระบบ

“ข้อมูลที่ให้มาก็ไม่เลว จากตัวเลือกบริษัทอื่น ๆ คิดว่านี้คงเป็นบริษัทที่กำไรน้อยสุด แต่จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น หรืออาจะพุ่งทะยานไปเลยก็ได้ คิดถูกแล้วที่เลือกบริษัทนี้”

ขนาดระบบยังสนับสนุน นับว่าเรียนมาไม่เสียเปล่าจริง ๆ ก่อนอื่นต้องสร้างบริษัทบังหน้า และใช้บริษัทนั้นลงทุน แน่นอนว่าระบบสามารถทำได้ และ ไม่มีใครสงสัยด้วย

ระหว่างรองานเริ่มเขาก็เลื่อนดูข้อมูลบริษัทอื่น ๆ ที่น่าสนใจไปด้วย มีหลายบริษัทที่เขาสนใจ

“ สวัสดี ผมขอนั่งด้วยคนนะครับ” 

มีชายหนุ่มสวมชุดสูทดูดี ท่าทางสุขุม แถมอายุก็พอ ๆ กัน หรือเขาจะเป็นคนจนเหมือนเอสถึงไม่มีใครให้นั่งด้วย ทว่าการที่เขามานั่งตรงนี้ก็นับว่าแปลกแล้ว เพราะสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขาไม่ว่าจะเป็นใคร โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทใหญ่ เขาเป็นใครกันแน่

“ตามสบายเลยครับ”

“ขอบคุณครับ ผมชื่ออเล็กซ์ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” 

“ผมเอส ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”

ทั้งสองคจับมือทักทายกันตามมารยาท ก่อนจะหันไปสนใจบนเวที เพราะกลุ่มแรกที่ขึ้นมาเป็นบริษัทอีเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของประเทศ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในตอนนี้

แผนงานที่กล่าวมาน่าสนใจสำหรับเอส และมีความเป็นไปได้ว่าจะสร้างกำไรด้วย และไม่เคยให้ผิดหวัง บริษัทนี้สามารถดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่เกือบสามสิบเปอร์เซ็นต์

“บริษัทนี้คิดว่าไง เหมาะจะลงทุนหรือเปล่า?” 

อเล็กซ์ถามด้วยท่าทางไม่จริงจังเท่าไหร่

“น่าสนใจ ลงทุนต้องได้กำไรแน่นอน” แน่ล่ะเพราะใช้ระบบตรวจสอบดูแล้วด้วย

“ถ้าเป็นบริษัท GP นายคิดว่าไง" หลังจากได้คำตอบเขาก็คิดว่าผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดา เพราะไม่มีใครกล้าฟันธงว่าบริษัทไหนจะได้กำไรแน่นอน เขาจึงอยากรู้

“บริษัทนี้หรอ ไม่ไหว จริงอยู่ที่กำไรเยอะ แต่ระยะยาว กำไรคงลดลงไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ อีกอย่างที่อยากบอกให้รู้คือ ถ้าหากบริษัท F&M (FOOD&MART) ฟื้นตัวขึ้นมาจะเป็นยังไงล่ะ” 

คำตอบของเอสถึงกับทำให้อเล็กซ์นั่งไม่ติด เขาเองก็มีความคิดแบบนี้แต่ไม่มั่นใจ แต่พอมาฟังความคิดของเอส ก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นไปได้อยู่บ้างแต่...

“ก็จริงอยู่ที่บริษัทจะมีกำไรลดลง ในความเป็นจริงแล้ว ถึงแม้บริษัท f&m จะไม่ฟื้นตัวก็ตาม กำไรก็ลดลงอยู่ดี ส่วนที่บอกว่าบริษัทกำลังจะล้มละลายจะฟื้นตัวอีกครั้ง คงเป็นไปไม่ได้หรอก” อเล็กซ์พูดด้วยความมั่นใจ เพราะข่าวของเขาน่าเชื่อถือที่สุด

“ฉันได้ยินว่ามีบริษัทหนึ่งสนใจจะลงทุนอยู่นะ อย่าพึ่งมั่นใจจะดีกว่า...ว่าแต่นายก็เป็นนักลงทุนเหรอ” ถ้าเป็นนักลงทุนคงไม่เอาความคิดคนอื่นมาตัดสินใจหรอกนะ 

“เปล่า ครอบครัวฉันเปิดธนาคารเล็ก ๆ ถ้ายังไม่มีธนาคารประจำ ก็มาใช้บริการได้ นี้นามบัตรของฉัน ถ้านายมาฉันจะต้อนรับอย่างดี” 

เอสหยิบนามบัตรขึ้นมาดู ก่อนจะยิ้มมุมปาก นี้เขากำลังคุยกับทายาทของเจ้าของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียเลยเหรอ

“ได้สิ พอดีผมมีเงินที่ต่างประเทศนิดหน่อยอยากจะโอนมาประเทศพอดีเลย คงต้องรบกวนแล้ว”

“ยินดีมากเลย”

ทำไมเขาเข้าถึงง่าย ไม่เหมือนคนอื่น ๆ ทั้งที่ตัวของเอสเองก็ไม่ได้ดูดี ออกจะจนด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไม่ถือสา แถมยังนั่งดื่มเป็นเพื่อนกันมากกว่า

“แล้วนายจะลงทุน บริษัทแรกใช่ไหม” 

“เปล่าหรอก ฉันถูกบังคับให้เลือก f&m นะสิ” 

อเล็กซ์ถึงกลับตกใจ เพราะจะมีใครกล้าบังคับให้ลงทุนอีกเหรอ หรือนี้เป็นแค่มุก 

“จริงเหรอ หรือว่าเพราะข่าวที่จะมีคนมาลงทุนกับบริษัทนั้น นายจึงอยากลงทุนด้วย” 

“เปล่า อันที่จริง...”

“สวัสดีค่ะคุณอเล็กซ์ ไม่คิดว่าจะได้เจอคุณที่นี่”

ก่อนที่จะได้พูดอะไร เสียงหวานที่คุ้นเคยก็แทรกขึ้นมา เธอมาอีกแล้ว พนิดา ดูจากอายุแล้วก็ไม่ต่างกัน เธอน่าจะอายุน้อยกว่า ส่วนความสามารถเหนือกว่าเห็น ๆ ว่าแต่เธอมาทำอะไรที่นี่

“นางฟ้าแห่งวงการธงนี้เอง มีอะไรหรือเปล่าครับ” 

น้ำเสียงของอเล็กซ์เย็นชาชัดเจน ไม่เหมือนที่พูดคุยกับเอวก่อนหน้านี้เลย ทำเอาใบหน้าหวานของพนิดาหมองลง

“เอ่อ... ถ้าไม่รังเกียจช่วยพิจารณาบริษัทเราด้วยนะคะ ถึงแม้ตอนนี้ภาพลักษณ์อาจจะดูไม่ดี แต่เรากำลังจะพิสูจน์ให้เห็นว่า บริษัทเรามีศักยภาพแค่ไหน” 

“ฉันเองตัดสินใจอะไรไม่ได้หรอกนะ คงต้องรอดูตอนจบว่าเธอจะระดมทุนได้เยอะแค่ไหน”

“เท่านี้ก็อุ่นใจแล้วค่ะ ถ้านั้นขอตัวก่อนนะ”

เธอตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก ไม่คิดว่าคนอย่างเขาจะรู้จักคนจน ๆ อย่างเอส แถมยังพูดคุยกันถูกคอ ทำให้พนิดาสงสัยในตัวเขา

พอมาถึงห้องเตรียมตัวเธอไม่รีรอรีบให้เลขาฯหาข้อมูลเขาอีกที เธอไม่อยากพลาดอะไรไป 

“เป็นไงบ้าง...”

“เขามีเงินใน บัญชีแค่ล้านบาทค่ะ ไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไร”

หรือเธอคิดมากไปเอง ถ้าหากเขาเป็นคนรวยที่ปิดบังตัวตนก็ดีสิ เธอจะได้ผ่านวิกฤตไปได้ แต่จะเป็นไปได้ไง คนรวย ๆ ก็สนใจแต่กำไรอย่างเดียว ส่วนใหญ่ลงทุนกับบริษัทอื่นไปหมด แถมบริษัทเธอได้คิวท้ายสุดอีกด้วย

“ต้องผ่านไปได้สิ ไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ตาม”

เวลาผ่านไปขนงานจบ ก่อนที่จะมีการประกาศว่าบริษัทไหนได้รับเงินทุนครั้งนี้ บนหน้าจอคือรายชื่อบริษัท และจำนวนเงินที่ได้รับ อันดับหนึ่งที่ทุกคนไม่ต้องเดาคือบริษัท tecell  บริษัทแรกที่ขึ้นมารายงาน และเป็นไปตามคาด

“เอาล่ะ วันนี้ขอบคุณมากสำหรับข้อมูลดี ไว้เจอกันวันหลังนะ” 

“ไว้เจอกัน”

งานจบก่อนที่จะแยกย้ายกัน ผู้คนค่อย ๆ เดินออกไป ทว่าระหว่างที่เอากำลังเดินออกมาก็บังเอิญเห็น พนิดาที่นั่งเหม่ออย่างกับคนไร้สติ คงไม่แปลกที่จะเป็นแบบนั้นเพราะเธอระดมทุนได้ไม่ถึง 100 ล้านด้วยซ้ำ

“เธอคงไม่เป็นอะไรหรอกนะ”

“ระบบแนะนำให้กลับไปเตรียมตัวหาข้อมูลดีกว่าจะสนใจผู้หญิง”

“เข้าใจแล้ว ๆ”

“ระบบสามารถใช้เงินทุนซื้อบ้านได้ไหม รถด้วย”

“ไม่ได้”

“นี้ก็เป็นการงทุนไม่ใช่เหรอ ซื้อบ้านไว้ขายตอนราคาขึ้น รถก็เหมือนกัน อย่างน้อยก็ทำให้ไปไหนมาไหนสะดวก นี้ไม่ใช่เป้าหมายของฉันที่ระบบควรให้เหรอ”

“ช่างหา ข้ออ้างจริง ๆ เลยนะ แต่ก็ไม่ได้” 

‘เอาไงดี ระบบขี้เหนียวจริง ๆ ตอนนี้ฉันควรเปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนสภาพแวดล้อม และการใช้ชีวิต แต่เงินล้านแค่นั้นใช้ไม่ถึงปีก็หมดแน่’

“ไม่ว่าจะคิดอะไร ระบบจะไม่อ่อนข้อให้แน่นอน” 

อ่อนข้อเหรอ ถ้างั้นลองแบบนี้ก็ได้ “ระบบ ถ้างั้นฉันขอยืมเงินก่อนได้ไหม ถ้าเกิดลงทุนแล้วได้กำไรนายค่อยหักเอาก็ได้” 

“เป็นความคิดที่ดี แต่คงต้องคิดดอกเบี้ยนะ”

“ได้ ก่อนอื่นขอเงินซื้อบ้านซื้อรถก่อนนะ โอนเข้ามาเลย” 

“โอเค...เรียบร้อย”

‘ใครจะคิดว่าวิธีนี้ก็ได้ผล ไม่เชื่อหรอกว่าฉันจะไม่มีเงินใช้หนี้ เพราะเงินทุนของฉันไม่จำกัดยังไงละ’

รอให้ถึงวันพรุ่งนี้บ้านรถ รอก่อนนะ ระหว่างที่กำลังนั่งรถกลับบ้านเสียงมือถือก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล”

“ฮัลโหล เอสใช่ไหม พรุ่งนี้มางานเลี้ยงรุ่นด้วยนะ พวกเรานัดคุณครูมาด้วย นายคงไม่ปฎิเสธหรอกนะ”

“เอ่อ...”

“พรุ่งนี้ โรงแรม central สองทุ่มอย่ามาสายนะ”

ยังไม่ทันได้ตอบอะไร ก็วางสายไปแล้ว เอสจึงรีบเข้าไปดูในบ้านฟ้า ก็เห็นพวกเขาโพสต์ข้อความ แถมยังแท็กทุกคนที่เป็นลูกศิษย์ 

“ดูเหมือนงานนี้จะพลาดไม่ได้ พอดีเลยอยากทำให้ฉันอับอายใช่ไหม งั้นก็มารอดูกันเถอะ”

“ระบบไม่อยากดูละครคุณธรรม ): ”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   แค่หน้าตาดีก็ชนะแล้ว

    เอสนั่งดื่มไวน์กับสาว ๆ ไม่สนใจพวกเขา เพราะไม่อยากเสียเวลาที่มีค่าไปกับเรื่องไม่สำคัญแต่ก็แอบขัดหูอยู่บ้าง เพราะอีเดนพูดอย่างกับกูรูสอนหุ้น เหมือนเป็นผู้ยังรู้อนาคตจนเขารู้สึกเลี่ยนขึ้นมาส่วนคนอื่น ๆ ก็เห็นตามโดยไร้ข้อกังขา จะต่างอะไรกับเผด็จการที่ไม่มีใครกล้าโต้แย้งความคิดของผู้นำ แต่อีเดนน่าจะเป็นเซียนหุ้นสายมู ใช้ความเชื่อของคนอื่น ทำให้ตัวเองดูมีความสามารถ ไร้เทียมทาน"ก่อนอื่นผมต้องขอบอกว่า การมองตลาดหุ้นต้องมองให้ทะลุปรุโปร่ง ไม่ใช่มองแค่ผิวเผิน ต้องรู้ข้อมูลสำคัญ จนสามารถคาดเดาอนาคตได้อย่างแม่นยำ"อีเดนพูดพลางกดเปิดบัญชีหุ้นทันที แล้วหันมามองเหล่าแฟนคลับที่ยืนให้กำลังใจ โดยเฉพาะพวกสิบบริษัทชั้นนำที่เป็นแฟนตัวยงของเขา"ผมจะใช้แค่สิบล้าน ทำให้เพิ่มขึ้นจนถึงพันล้าน ที่ผมจะบอกคือเงินทุนไม่ใช่ปัญหาถ้าคุณมีความสามารถมากพอ"เมื่อพูดจบก็ได้ยินเสียงปรบมือดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ทำให้อีเดนรู้สึกเหมือนถูกเพิ่มพลัง จนไม่มีใครหยุดยั้งความเทพของตัวเองได้"สมแล้วที่เป็นเทพของวงการหุ้น พวกเราไม่มีใครกล้าเทียบกับคุณเลยครับ""พวกเราจะพยายามให้ถึงที่สุด แม้จะรู้ว่าต้องแพ้ก็ตาม"คนที่เข้าไปแข่งข

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   แตกต่างชัดเจน

    "ผ่านแล้วใช่ไหมคะ คงไม่มีข้อแก้ตัวอะไรอีกนะ"แคทหันมาพูดกับผู้จัดการ แต่แอบพุ่งเป้าไปที่อีเดนที่ยืนมองมาทางนี้ด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว แม้จะได้สร้อยไป แต่เขาก็จ่ายในราคาที่สูงเกินไป เพราะอยากเอาใจผู้หญิงแต่ในสายตาของยาหยีเธอไม่คาดคิดว่าอีเดนจะหลงกลตื้น ๆ แบบนี้ ถูกยั่วยุให้ซื้อของแพง ทั้งที่เธอไม่ได้ต้องการเอาชนะ ขอแค่เป็นของขวัญที่จริงใจก็พอ"เรียบร้อยแล้วครับ ทุกอย่างเป็นไปตามการประมูลก่อนหน้า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ"ผู้จัดการเดินมาหาอีเดนที่โต๊ะ หลังจากคืนบัตรธนาคารของเอสไปแล้วเขาไม่รีรอ รีบเอาบัตรธนาคารออกมาให้พนักงาน บัตรสีทองของเขามีได้เฉพาะผู้ที่มีทรัพย์สินเกินแสนล้าน แสดงให้คนอื่นเห็นว่า เงินแค่นั้นเขาจ่ายได้สบาย"รูดบัตรของฉัน แล้วเอาสร้อยมาให้ ตอนนี้ควรจะเป็นของฉันแล้ว"พนักงานทำการรูดบัตรแล้วนำสร้อยคอทับทิมมาให้อีเดนที่โต๊ะเขาหยิบมันขึ้นมาด้วยความคับแค้นใจ แต่ถ้าหากอนาคตได้ตัวของยาหยี เขาจะได้มามากกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่าแน่นอน ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน"เดี๋ยวพี่สวมสร้อยให้นะ" เขาหันไปยิ้มให้ยาหยี"อย่าดีกว่า ราคามันแพงไปฉันไม่กล้ารับค่ะ แค่รับไว้ด้วยใจก็พอแล้ว"ยาหยียิ้มตอบ

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   สร้อยทับทิม

    สาวชุดแดงเดินถือกล่องเครื่องประดับออกมาจากม่านเวที ก่อนจะเปิดออกให้เห็นข้างใน แสงสว่างของทับทิมส่องกระทบกับแสงไฟ ดูวิบวับสวยงามสร้อยทับทิมน้ำชมพูสีสวย เป็นที่หมายตาของสาว ๆ ในงาน ทว่ามีเงินอย่างเดียวไม่พอหรอก ราคาสร้อยเริ่มต้นก็สูงจน สามารถเปิดบริษัทขนาดเล็กได้แล้ว"นี่คือสร้อยคอทับทิมน้ำชมพูสวยงาม ขอเปิดที่ราคาสองร้อยล้านค่ะ บิดเริ่มต้นที่ 20 ล้าน"ในเวลานั้นทุกคนเงียบกริบ เพราะเกรงใจอีเดนที่ประกาศว่าจะซื้อ"ไม่มีคนประมูลเลยเหรอ หรือว่าจะกลัว...""เปล่าหรอก พวกเขาแค่ดูชั้นเชิงกันก่อน เดี๋ยวก็เปิดประตูมูลเอง"อีเดนตัดบทยาหยี กลัวว่าเธอจะไม่รับถ้ารู้ว่าเขาจงใจกดราคาให้ต่ำ ๆเขาส่งสัญญาณให้ประธานกลุ่มพลังงานให้เริ่มเปิดประตูก่อน แล้วค่อยตามทีหลัง"สองร้อยยี่สิบล้าน" เขายกป้ายขึ้น"สองร้อยสี่สิบ"ราคาดำเนินมาถึงสองรอยแปดสิบล้าน และเป็นราคาที่อีเดนพอใจจะซื้อ เขาจึงยกป้ายขึ้น"สามร้อยล้าน"คนอื่น ๆ ต่างไปกล้ายกมือประมูลต่อ และแสร้งพูดว่าไม่อยากได้เท่าไหร่ หรือ บอกว่าราคาสูงไป ทำให้อีเดนยิ้มอย่างพอใจสาวชุดแดงกวาดสายตามองแขกคนอื่นเพื่อรอให้ยกมือประมูล เพราะจากที่ประเมินสร้อยเส้นนี้มีมูลค่า

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   ขัดหูขัดตา

    ในห้องน้ำหญิงมีเพียงมินนี่ กับพนิดาที่กำลังเติมปากเติมหน้า หลังจากที่เห็นเอสไปคุยกับผู้หญิงอื่น ทั้งสองจึงไม่อยากแพ้ ต้องสวยกว่าผู้หญิงคนนั้น"ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครนะ ทำไมพี่เอสถึงเข้าหาแบบนั้น พี่ดารู้จักไหม" มินนี่ถามพนิดาพลางมองดูตัวเองในกระจก"รู้จักสิ เธอเป็นลูกของผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ เป็นคนมีความสามารถในด้านธุรกิจอีกด้วย"มินนี่รู้สึกว่าเธออาจจะแพ้ได้ ถ้าหากสู้กับผู้หญิงคนนั้น เพราะตัสเธอไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากความสวย แต่ก็ไม่อยากยอมแพ้ แม้จะรู้สึกต่ำต้อยถ้าเทียบกับคนอื่น"ไม่ยอมแพ้หรอก พี่เอสต้องเป็นของเรา" เธอหันมาพูดกับพนิดา"แน่นอนสิ เราตกลงกันแล้ว ว่าแต่ถ้าเธอยอมเข้าฮาเร็มของเอาล่ะ""นั่นสิ ต้องคิดเผื่อไว้ด้วย ยังไงมาที่หลังก็ต้องเป็นน้องเล็กอยู่แล้ว"สองสาวคุยกันถูกคอ โดยไม่รู้ว่ามีชายสองคนเข้ามาในห้องน้ำหญิง พร้อมกับเอาป้าย ปิดทำความสะอาดมาแปะเอาไว้พวกนั้นเดินเข้ามาข้างในก็เห็นพวกเธอยืนอยู่หน้ากระจก จึงไม่รีรอรีบใช้ยาสลบที่ใส่ไว้ในผ้าผืนเล็ก แค่ปิดปากพวกเธอเอาไว้ก็พอแล้ว จากนั้นก็พาพวกเธอขึ้นไปรอที่ห้องพวกนั้นค่อยเดินเข้าไปช้า ๆ ไม่ให้เหยื่อรู้ตัว นะยะห่างกันเพียงสองเ

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   แพ้ต้องทำงานให้ผม

    งานเลี้ยงถูกจัดในโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในห้องโถงจัดงาน มีโต๊ะกลมตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้สวยงาม บนเวทีมีนักดนตรีเล่นเพลงแจ๊ซเบา ๆ ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันของบรรดาแขกที่เข้าร่วมห้องถูกตกแต่งในโทนสว่าง ส่วนแขกที่มาเข้างานแต่งตัวด้วยชุดสูท และ ชุดราตรีเรียบหรูทันใดนั้นเองทุกสายตาหันไปตรงหน้าทางเข้า เมื่อรถหรูสีดำขับมาจอดตรงนั้น เหล่าผู้บริหาร และ ประธานบริษัทต่างพากันออกไปต้อนรับ แม้แต่ประธานของ FP ยังให้เกียรติมาด้วยตนเองนอกจากนี้ยังมีกลุ่มบริษัทระดับประเทศอีกหลายบริษัท ทุกคนมีจุดประสงค์เดียวกันบริษัทอื่น ๆ มาเพื่อแลกเปลี่ยนนามบัตร และพบปะคนอื่น ๆ บางทีก็มีโอกาสเล็กน้อยในนั้นคืนนี้"คนที่ลงจากรถคือใครเหรอ ทำไมประธานของ FP ถึงไปต้อนรับด้วยตนเอง""ไม่รู้จักเหรอ นั่นคือคุณอีเดน นักธุรกิจจากแผ่นดินใหญ่ ที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศเรา บริษัทของเขามูลค่ามากกว่า ห้าสิบล้านล้านบาทเลยนะ""แล้วผู้หญิงสวยข้าง ๆ เขาคือใคร ทำไมคุ้นหน้าจัง""ลูกสาวของคุณณัทพงศ์ไง ได้ข่าวว่าทำงานด้วยกัน แต่น่าจะมากกว่านั้น""เหมาะสมกันจริง มีแต่ระดับคนใหญ่คนโตของประเทศเลยนะ"แขกในงานต่างหันไปสนใจพวกเขา เมื่อเข้ามาข้า

  • [Unlimited Money] ระบบเงินทุนไร้ขีดจำกัด   เตรียมตัวให้พร้อม

    "พูดมันง่ายนะแต่ทำยาก ผมคิดว่าเราควรเจรจากับบริษัท FP เราถึงจะมีทางรอด""ผมเห็นด้วย"คนอื่น ๆ เห็นด้วยกับการเจรจา แต่พวกเขาไม่รู้ว่า FP ไม่ใจดีอย่างที่คิด พวกเขาพร้อมจะควบคุมบริษัททั้งหมด ให้กลายเป็นบริษัทลูกของพวกเขาเอสนั่งลงบนโซฟาอย่างใจเย็น ขณะที่ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นคาดเดาสีหน้าของเขาอย่างระมัดระวัง"เรื่องนี้ผมจัดการเอง รออีกสัปดาห์ทุกอย่างจะสามารถดำเนินการตามกำหนด ให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมให้ดี"พวกเขามองหน้ากันเพราะไม่มั่นใจคำพูดของเอส แม้เขาจะพูดออกมาแล้ว แต่ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า บริษัทจะสามารถดำเนินการผลิตได้จริงเมื่อเห็นความสงสัยบนใบหน้าของพวกเขา ตอนนี้คงต้องทำอะไรสักอย่าง"คุณพนิดา ช่วยรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ของบริษัทซัปพลายเออร์ให้ผมหน่อยนะ และ ฝ่ายบุคคลให้เปิดรับสมัครพนักงานเพิ่มตามแผนของคุณพนิดา รับเต็มโควตาเลยนะครับ ไม่ต้องกลัวงบประมาณไม่พอ""ได้ค่ะ""ไม่ได้นะครับ ถ้าเรารับพนักงาน แต่ถ้าบริษัทไม่สามารถผลิตได้ แบบนี้จะยิ่งเสียหายหนัก""ในเมื่อเราไม่สามารถรับประกันว่าบริษัทจะทำสัญญากับซัปพลายเออร์ได้ เราควรรอก่อนนะครับ นี้เป็นวิธีพื้นฐานของการทำธุรกิจ"พวกเขามองเอสด้วยสายต

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status