แชร์

บทที่ 9

ผู้เขียน: ซุปเม็ดบัวน้ำตาลกรวด
แต่ถึงแม้เยว่สือจะบ่นอยู่ในใจ ทว่าเขาก็ยังกระทุ้งก้นอาชาหนุ่มสีเขียว เจ้าอาชาส่งเสียงร้องออกมา รู้สึกแสบร้อนราวกับถูกทะลวงเข้าจุดสำคัญ ขาทั้งสี่ข้างไม่ต่างจากเหาะเหินเดินอากาศอยู่บนปุยเมฆ พรวดเดียวก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุด

เยว่เจี้ยนเวยเกือบจะถูกเหวี่ยงตกลงไป

เจ้าอาชาหนุ่มสีเขียวตัวนี้สมกับเป็นราชาแห่งอาชา แม้อยู่ท่ามกลางพื้นหิมะหนาก็ยังเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่นานก็แซงหน้าหัวหน้าปีศาจน้ำแข็งที่กำลังวิ่งวุ่นด้วยความบ้าคลั่ง

เยว่สือรวบรวมลมปราณไว้ที่จุดตันเถียน กล่าวว่า “พอถึงเชิงกำแพง ข้าจะพานายน้อยเหินขึ้นไปตามกำแพง เจ้าอาชาตัวนี้คงรักษาไว้ไม่ได้แล้ว”

เยว่เจี้ยนเวยตอบรับเบา ๆ พลันสังเกตเห็นคันธนูที่กระจัดกระจายอยู่ในกองเลือดด้วยความตาไว

เยว่เจี้ยนเวยคิดอะไรบางอย่างในใจ แส้เส้นหนึ่งที่เดิมพันอยู่รอบข้อมือเขาก็ปรากฏขึ้นในมือ “ควับ” เสียงแส้ดังขึ้นในอากาศ พุ่งเข้าไปม้วนรัดคันธนูยาวที่ตกอยู่บนพื้นคล้ายงูวิเศษ แล้วธนูก็ลอยหวือมาอยู่ในมือเขา

เยว่สือเห็นเช่นนั้นก็เกือบจะกระอักเลือด กล่าวว่า “ท่านกินยานั่นอีกแล้ว!”

เยว่เจี้ยนเวยหัวเราะฮ่า ๆ เคลื่อนไหวรวดเร็วดังกระต่ายป่า ร่างลอยขึ้นเฉกเช่นนกกระเรียนวิเศษจากหลังอาชา เขาใช้เท้าข้างเดียวเหยียบบนหัวอาชา จับจ้องหัวหน้าปีศาจน้ำแข็งที่ค้นพบการมีอยู่ของเขาแล้วด้วยแววตาดุดัน มันกำลังก้มตัวโบกกระบี่น้ำแข็ง เตรียมจะโจมตีเขาให้ตาย เยว่เจี้ยนเวยพลันน้าวสายธนู ท่วงท่างดงามดุจสายรุ้ง

“คนผู้นั้นจะทำอะไรน่ะ?” ผู้อาวุโสจื่อชวนย่อมมองเห็นชัดเจน ในใจพลันตกตะลึง

“หยุดก่อน” โม่ชางหลานขมวดคิ้วเล็กน้อย ปล่อยผีเสื้อสีนิลให้ไปรวมตัวอยู่รอบกายเยว่เจี้ยนเวยเพิ่มขึ้น

ลูกธนูลมน้ำแข็งสีน้ำเงินที่หมุนวนทำให้สายธนูขึงตึง แม้เยว่เจี้ยนเวยจะยืนด้วยขาข้างเดียว เจ้าอาชาใต้เท้าก็ยังคงวิ่งด้วยความเร็วปานสายฟ้า แต่เขากลับยืนได้อย่างมั่นคงราวกำลังยืนอยู่บนแท่นหิน ผ้าคลุมศีรษะถูกสายลมพัดเปิด เสื้อคลุมพลิ้วไหวตามลม ผมยาวสีดำสนิทปลิวไสวในสายลมอย่างบ้าคลั่ง

กระบี่น้ำแข็งของหัวหน้าปีศาจน้ำแข็งที่แฝงไปด้วยความหนาวเย็นไร้ขีดจำกัดฟันลงมาจากด้านบน ปีศาจน้ำแข็งตัวเล็ก ๆ รอบข้างกลับได้รับบาดเจ็บจากไอเย็นนี้ แต่ละตนถูกฟันตัวขาดหลายท่อน เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นไม่ขาดสาย

อาชาหนุ่มสีเขียวใต้เท้าเริ่มร้องโหยหวน เยว่เจี้ยนเวยพลันปล่อยสายธนู ได้ยินเพียงเสียง “ฟิ้ว” แหวกอากาศดังขึ้นราวกับทะลุทั่วทั้งทะเลทรายแดนเหนือ พุ่งทะลวงกระบี่น้ำแข็งที่ใหญ่กว่ากันนับหมื่นเท่าพร้อมปลดปล่อยเปลวไฟสีฟ้าหมุนวน ก่อนพุ่งตรงเข้าไปในศีรษะของหัวหน้าปีศาจน้ำแข็งผ่านทางลำคอ

หลังจากนั้น เสียงระเบิด “ตู้ม” ก็ดังขึ้น ศีรษะครึ่งซีกของหัวหน้าปีศาจน้ำแข็งถูกระเบิดกระจายออกไป

“เฮือก—”

ไม่ทราบว่าผู้ใดบนกำแพงเมืองสูดลมหายใจเฮือกด้วยความตกตะลึง เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังตะลึงลานกับพลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวของเยว่เจี้ยนเวย

วรยุทธ์ระดับนี้ เกรงว่ามีเพียงท่านเจ้าเมืองเท่านั้นที่เทียบได้ แต่เด็กหนุ่มคนนั้นดูเหมือนเป็นเพียงเด็กอายุสิบกว่าปีเท่านั้น!

เยว่เจี้ยนเวยเห็นว่าหัวหน้าปีศาจน้ำแข็งเพียงโซเซคุกเข่าลงบนพื้น แต่ยังดิ้นรนพยายามจะลุกขึ้นมาต่อสู้จนตัวตาย เขาไม่อยากใช้โอสถรวมวิญญาณเพลิงมรกตอันมีค่าอีก จึงฉวยโอกาสชักแส้ออกมา กระโดดขึ้นไปกลางอากาศ สะบัดแส้ออกไปม้วนพันรอบศีรษะของหัวหน้าปีศาจน้ำแข็งโดยตรง แล้วกระชากครึ่งศีรษะที่เหลืออยู่ออกมาทันที

“...” บรรดาทหารบนยอดกำแพงเมืองต่างอ้าปากค้างตกตะลึงราวกับถูกบีบคอ

เสียง “ตึง” ดังหนึ่งครั้ง หัวหน้าปีศาจน้ำแข็งล้มคว่ำลงบนพื้นดินตายสนิท ปีศาจน้ำแข็งที่เหลือก็ไม่ได้โง่เขลาทั้งหมด เมื่อเห็นว่าหัวหน้าตายแล้ว ต่างพร้อมใจกันวิ่งหนีอุตลุดด้วยความเร็วที่ไม่ทราบว่าเร็วกว่าตอนโจมตีกี่เท่า

เยว่เจี้ยนเวยสะบัดสายแส้ในอากาศด้วยความภาคภูมิใจ แล้วกระโดดกลับลงไปนั่งบนหลังเจ้าอาชาหนุ่มสีเขียวตัวเดิม

เยว่สือกำลังจะอ้าปากชมเชย เสื้อคลุมบนตัวเขาก็พลันถูกเยว่เจี้ยนเวยซึ่งตัวสั่นงันงกดึงออกไปคลุมตนเอง
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 84

    อย่างไรก็ตาม หลังถูกเยว่เจี้ยนเวยแทรกเช่นนั้น โม่อวิ๋นเจ๋อก็มัวแต่โกรธจนไม่อยากร้องไห้ต่อแล้วเยว่เจี้ยนเวยและโม่อวิ๋นเจ๋อจึงอยู่ในศาลบรรพบุรุษอย่างเงียบงัน ต่างฝ่ายต่างนิ่งเงียบเป็นเวลาหลายชั่วยามจากนั้น เยว่เจี้ยนเวยก็ทนไม่ไหว กล่าวว่า “ไหนเจ้าบอกมาสิ เหตุใดจึงต้องคอยหาเรื่องข้าด้วย มันก็แค่เตาปรุงยาเก่า ๆ ที่ไม่มีใครใช้แล้ว ขอยืมสักหน่อยจะเป็นไรไป? ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของเจ้า ทำไมต้องมาทำให้ข้าตกใจด้วย เวลานี้ดีแล้ว พวกเราต่างถูกลงโทษด้วยกันทั้งคู่ เจ้าคงพอใจแล้วสินะ?”โม่อวิ๋นเจ๋อถ่มน้ำลาย “ถุย” ทีหนึ่ง พลางกลอกตากล่าวว่า “ข้าย่อมยืนอยู่ข้างความถูกต้อง ไม่อาจปล่อยให้คนเช่นเจ้าสมความปรารถนา”เยว่เจี้ยนเวยจึงหัวเราะด้วยความเจ้าเล่ห์เขาหัวเราะจนโม่อวิ๋นเจ๋อขนลุกซู่ ซ้ำยังขยับเข้าไปใกล้โม่อวิ๋นเจ๋อมากขึ้นอีกหลังจากนั้น โม่อวิ๋นเจ๋อก็เห็นว่า เยว่เจี้ยนเวยค่อย ๆ หยิบเตาปรุงยาอีกใบหนึ่งออกมาจากกำไลสรรพภพของตนเอง“ข้าลืมบอกท่านไป ข้าขโมยเตาปรุงยามาสองใบ ถูกยึดไปหนึ่งใบ ก็ยังเหลืออีกหนึ่งใบ ฮ่าๆๆๆๆๆ!”โม่อวิ๋นเจ๋อ “...”ย๊ากกกกกก!โม่อวิ๋นเจ๋อแทบคลั่ง ตนเองเพิ่งหยุดร้องไห้ได้

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 83

    โม่ชางหลานเลิกคิ้วเล็กน้อย ถามว่า “พลังวิญญาณของเขา แข็งแกร่งถึงระดับนั้นเชียวหรือ?”ผู้อาวุโสซางตอบ “เป็นไปได้สูง แต่ยังต้องสังเกตการณ์ต่อไปสักระยะ คุณชายใหญ่ หากพลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้จริง อีกทั้งยังเป็นพลังวิญญาณสองธาตุทั้งไฟและไม้ นั่นก็หมายความว่าเขาคือยอดอัจฉริยะที่หาได้ยากยิ่งนัก”ต้องรู้ไว้ว่า แม้แต่ระดับตบะของผู้อาวุโสซางเซวียนปัจจุบัน ก็ไม่สามารถทำให้ศิลาทดสอบพลังระเบิดได้เลยโม่ชางหลานนึกถึงภาพที่เยว่เจี้ยนเวยถือยาวิเศษลงจากเขาไปขาย ก็รู้อยู่แล้วว่าเยว่เจี้ยนเวยต้องมีความลับบางอย่าง แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งถึงขั้นน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้โม่ชางหลานครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวว่า “เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา เรื่องนี้รบกวนผู้อาวุโสซางอย่าเพิ่งเปิดเผยต่อผู้ใด”ผู้อาวุโสซางพยักหน้า กล่าวว่า “เข้าใจแล้วขอรับ”ยามนี้ ศาสตร์การหลอมโอสถทั่วทั้งทวีปชางหมางมีแต่เสื่อมถอย หากปรากฏอัจฉริยะผู้มีพลังวิญญาณด้านการปรุงยาขึ้นที่ใด ก็จะดึงดูดสายตาผู้คนให้แอบจับตามองนับไม่ถ้วนในอดีตเคยมีปรมาจารย์นักปรุงยาอัจฉริยะผู้โด่งดังเพียงชั่วครู่ ถูกผู้อื่นแอบขโมยพลังวิญญาณด้านก

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 82

    โม่อวิ๋นเจ๋อเบิกตากว้างทันที ร้องเสียงหลงว่า “ไม่ได้นะพี่ใหญ่ เตาปรุงยาพวกนั้น คงทำให้ข้าไม่มีเบี้ยเลี้ยงไปอีกเป็นสิบปีเลยนะ!”โม่ชางหลานกล่าว “สิบปีไหนเลยจะพอ ต้องร้อยปีถึงจะครบถ้วนต่างหาก”โม่อวิ๋นเจ๋อพลันชะงักกึกเยว่เจี้ยนเวยหัวเราะร่าอยู่ในใจ พลางคิดว่าเหตุใดไม่ทำตัวโอหังแล้วล่ะ? ให้ตายเถอะ คิดจะถอดเสื้อผ้าข้าใช่หรือไม่ คิดจะเปิดโปงข้าใช่หรือไม่ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า พี่ชางหลานของข้าช่างเด็ดขาดและยุติธรรมโดยแท้!ใบหน้าของโม่อวิ๋นเจ๋อแทบจะร้องไห้ออกมา แต่เขาคิดว่าถ้าตนเองร้องไห้ตอนนี้ นอกจากพี่ใหญ่จะไม่สนใจความรู้สึกแล้วคงต้องดุด่าเขาอีกชุดใหญ่เป็นแน่ จึงอดทนอดกลั้นเอาไว้ขณะที่เยว่เจี้ยนเวยกำลังแสร้งทำตัวน่าสงสารอย่างสุดความสามารถ ก็ได้ยินโม่ชางหลานกล่าวว่า “เยว่เจี้ยนเวย เหตุการณ์วันนี้ เจ้าก็มีส่วนผิดด้วยเช่นกัน”เยว่เจี้ยนเวยเงยหน้าขึ้น ตอบรับอย่างว่าง่าย “พี่ชางหลาน ข้ารู้ตัวแล้วว่าทำผิด ข้าไม่ควรขโมยของ รอให้ข้าหาเงินได้ในภายหลัง ย่อมชดใช้ให้แก่ผู้อาวุโสซางแน่นอน และต่อไปก็จะไม่ทะเลาะกับพี่อวิ๋นเจ๋ออีกแล้วขอรับ”โม่อวิ๋นเจ๋อเกร็งคอตะเบ็งเสียงว่า “ผู้ใดเป็นพี่เจ้ากัน? เจ้าอย่

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 81

    เยว่เจี้ยนเวยรีบกระชับอาภรณ์ของตน พร้อมกับร้องตะโกนว่า “มีคนลวนลาม! ช่วยด้วย คุณชายรองตระกูลโม่รังแกเด็กหนุ่มบริสุทธิ์แล้ว!”“หุบปากเดี๋ยวนี้! อย่าส่งเสียงโวยวายไปทั่ว!”“ข้าไม่หุบปาก เจ้าช่างไร้ยางอาย กล้าคิดถอดเสื้อผ้าข้ากลางวันแสก ๆ !”“ถ้าเจ้าไม่หุบปาก ข้าจะต่อยเจ้าเดี๋ยวนี้!”“ต่อยเลยสิ ดูว่าผู้ใดต้องเป็นฝ่ายกลัวกันแน่!”“...”..................ครึ่งชั่วยามต่อมา ในเรือนชมธาราเมื่อโม่ชางหลานมองเด็กหนุ่มสองคนที่เสื้อผ้าและทรงผมยุ่งเหยิง กำลังนั่งคุกเข่าแผ่นหลังเหยียดตรงพร้อมเพียงกันอยู่บนพื้น ก็ให้รู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันทีด้านข้าง ยังมีผู้อาวุโสซางเซวียนที่เพิ่งรับประทานโอสถบำรุงหัวใจไปหลายเม็ดยืนอยู่ด้วย“ข้าแค่ลงไปหยิบของครู่เดียว กลับขึ้นมา ทั้งห้องก็อยู่ในสภาพยุ่งเหยิงไปหมด พวกเขาทั้งสองคนกอดกันกลิ้งไปมาอยู่บนพื้น เฮ้อ หัวใจข้าแทบจะระเบิดเสียให้ได้”ผู้อาวุโสซางเซวียนถอนหายใจไม่หยุด รู้สึกเจ็บปวดใจยิ่งนัก กล่าวว่า “เตาปรุงยาที่ข้าสะสมมาด้วยความยากลำบากหลายปี เสียหายไปสี่เตา หนึ่งในนั้นยังเป็นถึงวัตถุเวทมนตร์... ซึ่งก็คือเตาที่ดูสวยงามแต่ใช้งานจริงไม่ได้เตานั้นเอง”โ

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 80

    ผู้อาวุโสซางแปลกใจจนเคราแทบร่วง พร้อมกับกล่าวว่า “เหลวไหล หินก้อนนี้ใช้งานมาหลายร้อยปีไม่เคยมีปัญหาอะไร ข้าว่า เป็นเพราะพลังวิญญาณในร่างกายเจ้ามากไปต่างหากที่ทำให้มันรับไม่ไหวจนระเบิดเช่นนี้”เยว่เจี้ยนเวยรู้สึกว่าเหตุผลนี้ก็มีความเป็นไปได้ ถึงแม้ในตอนที่เขาปรุงยาจะไม่ได้รู้สึกสัมผัสถึงว่าพลังวิญญาณจะมีความมหาศาลอะไร แต่นอกจากเหตุผลนี้ก็ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วเยว่เจี้ยนเห็นดังนั้นจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงร่าเริงว่า “ท่านอาวุโสซาง หรือเป็นไปได้ไหมว่าข้าคืออัจฉริยะด้านการปรุงยาเพียงหนึ่งเดียวในโลก? เอาตรง ๆ ช่วงนี้เวลาข้านอนหลับข้าก็รู้สึกอยู่ว่าร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณอบอวลอยู่ในร่างกายข้าจนแทบจะระเบิด ณ เวลานั้นข้าอยากจะลุกขึ้นมาหยิบเตาปรุงยามาฝึกจนใจจะขาด วันนี้ในเมื่อไม่ใช่ความผิดของก้อนหิน งั้นก็คงเป็นข้าเองที่เก่งกล้าเกินไป ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”ผู้อาวุโสซาง “…”เขาแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองถึงแม้ว่าผู้อาวุโสซางจะพอเดาพรสวรรค์ของเยว่เจี้ยนเวยได้อยู่ แต่พอได้ยินเจ้าเด็กที่อยู่ตรงหน้ากล่าวโอ้อวดตนอย่างไม่เขินอาย ก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกปากอย่างไม่เห็นด้วยก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า

  • การเกิดใหม่ของอสูรผู้ไร้เทียมทาน   บทที่ 79

    ผู้อาวุโสซางเซวียน “...”ไม่เป็นความจริงเลยสักนิด เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนที่ผ่านมา โม่อวิ๋นเจ๋อยังมาหาเขาพร้อมกับสาบานอย่างคับแค้นใจด้วยความโกรธว่าจะหักเงินจากค่าขนมของเยว่เจี้ยนเวยในแต่ละเดือนเพื่อมาชดใช้ค่ายาที่แสนแพงชิ้นนี้และแน่นอน ในเมื่อเยว่เจี้ยนเวยเอ่ยชมเชยโม่อวิ๋นเจ๋อขนาดนี้ ผู้อาวุโสซางจึงเล็งเห็นว่าการปกป้องภาพลักษณ์อันเฉลียวฉลาดและเก่งกล้าสามารถของคุณชายรองนั้นสำคัญกว่า จึงพนักหน้าพร้อมกับกล่าวต่อว่า “ใช่แล้ว คุณชายรองเป็นคนเช่นนี้แหละ เจ้าโชคดีจริง ๆ ”เมื่อผู้อาวุโสซางสอนวิชาเสร็จ จึงเดินมาดูเยว่เจี้ยนเวยและกล่าวขึ้นว่า “ข้าได้ยินมาว่า เจ้าตั้งใจจะศึกษาเคล็ดโอสถวิเศษ”เยว่เจี้ยนพยักหน้าพร้อมตอบกลับว่า “ใช่ขอรับ ข้าสนใจเคล็ดโอสถวิเศษอย่างมาก”ผู้อาวุโสซางกล่าวต่อว่า “เคล็ดโอสถวิเศษค่อนข้างน่าเบื่อ ในระหว่างการฝึกฝนต้องใช้ความอดทนอย่างสูง เจ้ายังเด็ก กำลังอยู่ในวัยชอบเล่นสนุก เจ้าคิดว่าตัวเองสามารถนั่งอยู่เฉย ๆ เป็นเวลาสิบชั่วโมง หรือเป็นวัน เป็นเดือน เป็นปีได้สักเท่าไร?”เยว่เจี้ยนเวยฉีกยิ้มที่ดูนอบน้อมและน่ารัก รอยยิ้มที่กว้างจนเผยให้เห็นลักยิ้มเล็ก ๆ บนแก้มของเขา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status