ปราบพยศ
ระหว่างรับประทานอาหารฉันรู้สึกค่อนข้างอึดอัดอยู่ไม่น้อยเมื่อมีสายตาคมกริบแฝงความดุดันจ้องมาที่ฉันบ่อย ๆ
"จะอยู่เที่ยวด้วยกันไหมเทมโป"นั้นเป็นเสียงพ่อฉันจึงทำให้สายตาคมกริบที่มองฉันละไปที่พ่อ
"ผมมีงานที่ต้องทำ..."หันมาที่ฉันแวบนึงก่อนจะหันกลับไปที่พ่อ
"...และที่ผมมาวันนี้เพื่อมาขออนุญาตคุณน้าทั้งสอง"พ่อแม่ฉันขมวดคิ้วมองหน้ากันก่อนจะหันไปที่เทมโป
"มีอะไรเหรอ"แม่เอ่ยถาม
"คือผมจะขอตัวออร์แกนไปช่วยงานน่ะครับ"ตึก ตัก ตึก ตัก หัวใจฉันเกิดเต้นแรงขึ้นมาทันที
"งานอะไรเหรอครับ"ภิสิงห์พูดขึ้นทำให้เทมโปหันไปมองเขาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
"ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย...มันเป็นเรื่องของผมกับออร์แกน"ส่งสายตาดุมาที่ฉันหลังพูดจบ
"ผมก็แค่อยากรู้ ยังไงก็ขอโทษด้วยที่ถาม"ภิสิงห์พูดจบแล้วลอบหายใจเบา ๆ
"แกนอยากอยู่เที่ยวกับพ่อแม่น่ะค่ะ"ฉันรวบรวมความกล้าแล้วพูดขึ้น ทำให้เทมโปมองมาที่ฉันแล้วขบกรามแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปนที่ขมับ คงไม่พอใจสินะที่ฉันปฏิเสธ
"งานที่ฉันให้เธอมันสำคัญมากนะ"เขากัดฟันพูดกับฉัน สีหน้าเอาแต่ใจ
"เท่านี้แกนรู้มารายงานก็ทำเสร็จเรียบร้อยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ"ฉันสวนกลับอย่างไม่เกรงกลัว พอกันทีฉันยอมเขามามากแล้ว และตอนนี้ฉันต้องการที่จะพักผ่อนกับครอบครัว เขายังจะมาขัดขวางเพื่อความต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว มันไม่ยุติธรรมเลย
"เทมโป ถ้างานไม่สำคัญมากน้าก็อยากให้ลูกสาวได้พักผ่อนบ้าง.ยัยแกนเหนื่อยมาหลายวันแล้วน้าสงสารลูก"พ่อพูดขึ้นแล้วหันมายิ้มให้ฉันอย่างเอ็นดู ทำให้เทมโปมีสีหน้าไม่พอใจมาก พร้อมกับลอบหายใจออกมา
"ก็ได้ครับ..."สุดท้ายเขาก็ยอมที่จะไม่ให้ฉันไปกับเขา
"...งั้นผมจะอยู่เที่ยวด้วยล่ะกัน"พูดจบก็หันมาที่ฉันด้วยสายตาดุดันแฝงความร้ายกาจ ฉันรู้สึกใจหวิว ๆ อย่างบอกไม่ถูก
"จะพักโรงแรมเดียวกับเรา หรือจะไปพักโรงแรมที่ภิสิงห์พักดีล่ะ"พอพ่อพูดจบเทมโปก็หันมาที่พ่อแล้วขมวดคิ้วสงสัยก่อนจะหันไปที่ภิสิงห์
"คือโรงแรมที่ภิสิงห์พักจะสะดวกสบายกว่าโรงแรมที่น้าพักน่ะ"
"แบบนี้เอง..."เทมโปยกยิ้มมุมปากสีหน้าราวกับคิดอะไรบางอย่างในใจ
"...ผมพักโรงแรมเดียวกับน้าก็ได้ครับ"
"เอ่อ..."
"ที่ไหนผมก็นอนได้ทั้งนั้นไม่ต้องเป็นห่วงครับ"พ่อมีสีหน้ากังวลเทมโปคงจะดูออกจึงแทรกพูดขึ้นก่อน
"งั้นก็ตามใจ"
หลังจากทานข้าวเสร็จพ่อของฉันก็พาเทมโปไปเปิดห้อง ส่วนฉันก็ออกมาเดินเล่นริมหาดกับภิสิงห์ที่เป็นคนชวน
"แกนเป็นเพื่อนกับเทมโปมานานหรือยัง"อยู่ ๆ ภิสิงห์ก็เอ่ยถามความสัมพันธ์ของฉันกับเทมโปขึ้นมา
"ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วค่ะ"ฉันตอบกลับแล้วก้มหน้าเม้มปากทั้งสองแน่นในหัวก็ผุดภาพตอนปีหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเทมโปแตกต่างกับตอนนี้มาก
"ก็นานพอสมควร..."ภิสิงห์พึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยถามฉันขึ้นอีก
"...ดูเขาเข้ากับพ่อแม่แกนได้ดีเลยนะ"ฉันเงยหน้าหันไปมองคนพูด
"เทมโปช่วยครอบครัวแกนไว้น่ะค่ะ พ่อแม่แกนจึงเอ็นดูเขา"ฉันบอกพร้อมกับลอบหายใจเบา ๆ
"ถ้างั้นเทมโปก็เป็นคนดีคนหนึ่งเลย"
"เหอะ"ฉันกลั้วหัวเราะออกมาทันทีที่ภิสิงห์พูดจบ
"มีอะไรเหรอ"ฉันหันไปฉีกยิ้มกว้างแล้วพูดขึ้น
"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ"
"เอ่อ..เห็นว่าช่วงใกล้จะฝึกงานแล้วใช่ไหม"
"ค่ะ..พี่สิงห์รู้ได้ยังไงคะ"ฉันถามด้วยความสงสัย
"อ๋อ พอดีว่าลูกพี่ลูกน้องของพี่เรียนอยู่ปีสี่และบังเอิญคณะเดียวกับแกนด้วยพี่ก็เลยรู้"
"จริงเหรอคะ ว่าแต่ลูกพี่ลูกน้องพี่สิงห์ชื่ออะไรเหรอคะ"
"ชื่อหว่าหวา แกนเคยเจอไหม"
"อ๋อ หว่าหวาเองเหรอ"ฉันเคยเห็นเพื่อนนักศึกษาคนนี้ในคราสแต่ไม่เคยพูดคุยกัน
"นั่นแหละลูกพี่ลูกน้องพี่เอง เธอเป็นลูกสาวของอาพี่"ฉันผงกหัวรับรู้
"พรุ่งนี้ไปเที่ยวเกาะตรงนั้นกันไหม"ภิสิงห์ชี้ไปที่เกาะกลางทะเลไม่ไกลมาก
"แกนคงต้องถามพ่อกับแม่ก่อนนะว่าท่านจะไปด้วยไหม"
"ได้ครับ"ภิสิงห์พูดแล้วคลี่ยิ้มออกมา
พออาหารเริ่มย่อย ก็ย้ายแยกกันกลับโรงแรม ซึ่งโรงแรมที่ฉันพักกับที่ภิสิงห์พักไม่ห่างกันมาก
ฉันขึ้นลิฟต์มายังชั้นของห้องพักระหว่างทางที่เดินมาที่ห้องก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงยืนกอดอกเอาหลังพิงประตูห้องที่ฉันพักอยู่ตรงหน้า
"เทมโป!"ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ตรงนี้จึงอุทานไปด้วยความตกใจ
"เปิดประตู!"เขาตวาดใส่ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
"นะ นาย..."
"ฉันบอกให้เปิดประตูไงว่ะ"เขาแทรกพูดออกมาเสียงดัง.
"นายคิดจะทำอะไร กลับไปที่ห้องของนายเลย"
"เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรล่ะออร์แกน..."มือหนาเอื้อมมาลูบที่ใบหน้าฉันแล้วแสยะยิ้มร้าย
"...กลัวจนตัวสั่นเลยเหรอ"ฉันสะบัดหน้าหนีออก
"นายกลับไปห้องของนายเถอะ..แล้วอย่าคิดจะทำอะไรแกนเพราะห้องพ่อกับแม่แกนอยู่ห้องข้าง ๆ นะ"
"แล้วไง?"เขาสวนกลับแล้วเอาลิ้นกระพุ้งแก้มสีหน้ายียวน
"แกนขอ กลับไปเถอะนะ"ฉันพูดน้ำเสียงอ่อนลง เพราะไม่อยากให้พ่อแม่ได้รับรู้อะไร
"ฉันจะกลับไปก็ต่อเมื่อ...ฉันได้ปราบพยศเธอ!"
"..."ฉันจ้องมองเขาด้วยความโมโหมือก็กำหมัดแน่น
"เธอกล้าพยศกับฉัน..."เทมโปดึงผมฉันไปพันที่นิ้วเขา
"...เธอต้องโดนฉันปราบจะได้ไม่กล้าพยศอีก"
"เทม..."
"เปิดประตู หรือจะรอให้พ่อแม่เธอมาเห็นว่าฉันจะทำอะไรเธอ"เขาแทรกพูดขึ้นด้วยสีหน้าดุดัน
"..."ฉันกัดฟันยอมเปิดประตูโดยดี
"กล้าพยศกับฉันก็ต้องรับผลที่ตามมาให้ได้"พอประตูเปิดเทมโปก็พลักหลังฉันเข้าไปในห้อง ก่อนที่จะเดินตามเข้ามาแล้วปิดประตูลงกลอนทันที
"ห้องนี้เก็บเสียงดีป่ะ"เขาพูดแล้วแสยะยิ้มชั่วร้าย
"นายหมายความว่าอะไร"ฉันถามออกไปเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือ ด้วยความกลัว
"ก็หมายความว่า เธออาจจะได้ครางเสียงดัง ๆ ทั้งคืน ฉันกลัวว่าพ่อแม่เธออาจจะได้ยิน"
"อย่าทำอะไรแกนเลยนะเทมโป แกนแค่อยากมาพักผ่อนกับครอบครัว"ฉันพยายามขอร้องเขาเพราะคงไม่มีทางไหนที่จะหนีเขาได้
"แล้วงานที่ฉันให้ทำไม่สำคัญ?"
"การที่สั่งให้แกนไปดูแลคนของนายสำคัญนักเหรอ"ฉันขบกรามพูดด้วยความโกรธแม้ในใจจะรู้สึกกล้วก็เถอะ
"ลืมแล้วเหรอว่าเธอต้องทำตามที่ฉันสั่ง"
"แต่...."ฟุ่บ! ยังพูดไม่จบประโยคเทมโปก็ผลักฉันลงที่บนโซฟากลางห้อง
"รู้ไหมว่าเธอทำให้ฉันหงุดหงิดมาก"แคว่ก! พูดจบเทมโปก็กระชากเสื้อที่เป็นผ้าบาติสที่ฉันซื้อไว้เที่ยวทะเลจนขาดวิ่น
"ทะ เทมโป!"
.....
ตอนจบ"เทมโป..." ใบหน้าหล่อคมคายหันมาจ้องที่ฉัน"...แกนจะไม่เป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปใช่ไหม" เทมโปคลี่ยิ้มออกมาหลังจากที่ฉันพูดจบ"เธอไม่ใช่แค่เพื่อน..แต่เธอเป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับฉันแล้ว.." มือหนายกมาลูบผมฉันอย่างอ่อนโยน"..ถ้าฉันขาดเธอ ฉันขาดใจ" ปลั่ก! นั่นเป็นเสียงที่ฉันกำมือทุบไปที่อกของเขา"คนบ้า!""ใช่ ก่อนหน้าฉันเคยบ้ามาแล้ว ตั้งแต่เธอหนีไป" เทมโปพูดสวนกลับ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนัก"มันคงเป็นเวรกรรมที่ฉันเคยทำกับเธอ รู้ไหมว่าฉันทรมานจนดูน่าสมเพชเอามาก ๆ เลย""ออร์แกน...ตอนที่เธอหายไปฉันยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อตามหาเธอ""ทะ เทมโป.." ฉันเอ่ยน้ำเสียงสั่น ๆ แต่ภายในใจมันรู้สึกพองโต"ถ้าเธอไม่หนีไป วันนี้ฉันคงไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน..." คนร่างสูงโน้มหน้ามาจูบที่หน้าผากฉัน"...ขอบคุณที่สอนบทเรียนให้กับฉัน และขอบคุณที่กลับมาไม่ว่าเหตุผลที่เธอกลับมาไม่ใช่เพราะฉัน""..." เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ใบหน้าสดใส"ถึงแม้เธอจะไม่ได้กลับมาเพราะฉัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันได้เจอเธอ ได้ขอโทษและได้บอกความในใจของฉันให้เธอฟัง""เทมโป..แกนก็ไม่เคยลืมนายเลยนะ" ไม่รู้อะไรดลใจ ทำให้ฉัน
จากเพื่อนสู่ผัว"กวิน กรัณย์ ออร์แกน" ฉันและลูกแฝดต่างพากันหันไปที่ต้นเสียง ซึ่งเป็นคนป่วยที่นอนอยู่เอ่ยขึ้นมา เขาลืมตามองมาที่พวกฉันแล้วค่อย ๆ หยัดกายลุกขึ้น"พ่อตื่นแล้ว" กวินบอกกับคนเป็นน้อง ก่อนจะลุกจากโซฟาเดินไปที่เตียง พร้อม ๆ กับฉันที่รีบไปประคองเขาลุกนั่ง.เทมโปคลี่ยิ้มด้วยแววตาที่มีความสุข ขณะที่ลูกแฝดขึ้นบนเก้าอี้แล้วเอ่ยถามอาการพ่อตัวเองทันที"พ่อเจ็บตรงไหนฮับ" แฝดพี่พูดแล้วใช้สายตามองไปที่เรือนร่างคนเป็นพ่อราวกับหาอะไร"พ่อรีบหายนะครับ จะได้มาเล่นกัน...." กรัณย์เอ่ยแล้วหันไปพูดกับกวิน"...ให้พ่อเป็นผู้ร้ายนะพวกเราเป็นตำรวจ""หึหึ" เทมโปหัวเราะออกมาแล้วเอื้อมไปลูบหัวลูกแฝดคนโต แล้วกำลังจะสลับไปลูบหัวคนน้องแต่เขากลับชะงัก คงจะจำวันนั้นได้วันที่กรัณย์ไม่ยอมให้เขาลูบเพราะกลัวผมเสียทรง"พ่อเป็นพ่อของกรัณย์ พ่อลูบได้ครับ" เด็กน้อยแฝดน้องพูดพร้อมกับยื่นหัวให้พ่อของเขาลูบ สร้างรอยยิ้มปนน้ำตาที่คลอเบ้าให้คนเป็นพ่อทันที"วันนี้เธอกับลูกอยู่กับฉันนะ" เทมโปหันมาพูดกับฉัน"อืม" ฉันตอบกลับสั้น ๆ แล้วคลี่ยิ้มให้"ขะ ขอบใจนะ" เทมโปกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ"รับหายนะ..แกนอยากให้เทมโปกลับมาใ
ยังไม่ให้โอกาส"แล้วเด็กฝาแฝดนั้นเป็นลูกใคร"ฉันคลี่ยิ้มหวานแล้วดึงมือหนาเดินเข้ามาด้านในห้อง"รอตรงนี้นะ เดี๋ยวแกนจะไปพากวิน กรัณย์เข้ามา" เทมโปทำสีหน้ามึนงงปนสงสัย แต่ก็ทำตามที่ฉันสั่ง เขาเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟา จากนั้นฉันก็ออกมาจากห้องก็เห็นทุกคนต่างนั่งอยู่กันเป็นกลุ่ม"เทมโปเป็นยังบ้าง ออร์แกน" คุณน้าเรอาลุกขึ้นแล้วรีบเดินมาถามด้วยใบหน้าที่ยังมีความกังวล"ตอนนี้เทมโปโอเคขึ้นแล้วค่ะ..." ว่าจบ ฉันก็หันไปที่ลูกแฝดที่มีผู้ใหญ่ล้อมรอบอย่างอบอุ่น"...แกนขอพากวิน กรัณย์ไปหาพ่อของเขาก่อนนะคะ" คุณน้าเรอาคลี่ยิ้มแล้วเอื้อมมากุมมือของฉัน"ออร์แกน น้าขอโทษแทนเทมโปด้วยนะ..." เธอลอบหายใจเบา ๆ ก่อนที่จะเอ่ยต่อ"...ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีหลานฝาแฝดที่น่ารักแบบนี้ ขอบคุณเธอจริง ๆ ที่เลี้ยงดูที่เกิดมาจากเทมโปมาอย่างดี" คุณน้าเรอาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาคลอเบ้า"กวิน กรัณย์ เป็นยิ่งกว่าชีวิตยังไง แกนก็ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดีที่สุดค่ะ" คุณน้าเรอาผงกหัวรับแล้วหันไปที่ลูกชายฝาแฝดของฉัน"กวิน กรัณย์ มากับแม่" ฉันเอ่ยเรียก ทั้งคู่ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินยิ้มใบหน้าสดใสมาที่ฉัน"ลุงคนนั้นเป็นยังไงบ้างฮับ
ขอร้องOrgan"ทำไมคุณทอยคิดว่าเราสองคนแต่งงานกัน" ภิสิงห์เอ่ยถามขึ้นขณะที่ตอนนี้พวกเราต่างพากันธุระเสร็จจนกลับมาที่บ้านแล้ว ส่วนสองแฝดก็นอนหลับด้วยความเพลีย"หว่าหวาเป็นคนโกหกเองค่ะ" คนเป็นพี่หันไปที่น้องสาวของตนด้วยสีหน้าสงสัย"คือวันนั้นพวกเราเจอกับเทมโป...." หว่าหวาหยุดพูดแล้วหันมาที่ฉัน"...นายนั่นคอยเซ้าซี้แกนไม่เลิก หว่าหวาก็เลยโกหกไปว่า..""พี่กับแกนแต่งงานแล้วกวิน กรัณย์คือเป็นลูกพี่?" ภิสิงห์แทรกพูดขึ้นหว่าหวาก็ผงกหัวรับสีหน้ารู้สึกผิด"อย่าโกรธหว่าหวาเลยค่ะ แกนเองก็ไม่ทักท้วงปล่อยเลยตามเลย" ฉันพูดจบ หว่าหวาก็หันมาฉีกยิ้มให้ ขณะที่ภิสิงห์มีสีหน้าดูเครียด ราวกับมีเรื่องบางอย่างในใจ"พี่สิงห์โกรธหรอกคะ แกนขอโทษ""เปล่า พี่ไม่ได้โกรธ.." ว่าจบ ภิสิงห์ก็ลอบหายใจออกมาเบา ๆ"...ไม่นานทางนั้นก็ต้องรู้ว่าเราไม่ได้แต่งงานกันจริง ๆ""...." ฉันไม่พูดอะไรได้แต่ก้มหน้าเม้มปากทั้งสองเข้ากันแน่น ภายในใจก็คิดไว้อยู่เหมือนกัน ยิ่งวันนี้ที่เจอกับพี่ทอย เขาดูมีสีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย ฉันคิดว่าเขาต้องไปสืบเรื่องแต่งงานที่หว่าหวากุขึ้นมาแน่"แกน..." ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปยังพี่ชายเพื่อน"...พี่ได้ข
กลัววันนี้ฉัน หว่าหวา และภิสิงห์ต่างพากันไปดูสถานที่จัดงานแสดงเครื่องประดับ แน่นอนว่าสองแสบจะต้องไปด้วย กวิน และกรัณย์ค่อนข้างที่จะติดฉัน เพราะฉันดูแลทั้งสองคนอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เขาเกิดมา ให้ความรัก เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับพวกเขา"แม่ฮับ..." บนรถของภิสิงห์ที่อาสาเป็นคนขับพาไปยังสถานที่จัดงาน อยู่ ๆ กวินก็เอ่ยขึ้น"...พ่ออยู่ไหนเหรอครับ" คำถามของลูกชายที่เป็นแฝดพี่ทำให้หัวใจฉันรู้สึกสั่น ๆ"นั่นสิครับ พ่อไปไหนเหรอ" ฉันละสายตาหันไปที่กรัณย์ที่พูดเสริมขึ้นมา หว่าหวาที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ พร้อมกับภิสิงห์หันมาสบตาฉันทันที"เอ่อ...ทำไมอยู่ดี ๆ ถามขึ้นมาล่ะครับ""ก็ลุงคนนั้นถามผมยังไม่ได้ตอบเขาเลย" ลุงคนนั้น ที่กวินเอ่ยถึงก็คือเทมโป พ่อของพวกเขานั้นแหละ"พ่อทำไมไม่มาหาพวกเราเลยล่ะครับ" กรัณย์เอ่ยพร้อมกับสีหน้าเศร้า"...." ฉันนิ่งมองดูทั้งสองด้วยความสงสาร"เด็ก ๆ เดี๋ยวแวะกินไอศครีมคลายร้อนกันนะ" ภิสิงห์เอ่ยขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้า และดูเครียด"เย้ / เย้" พอได้ยินคำว่าไอศครีม เด็ก ๆ ก็ปรับเปลี่ยนสีหน้าดีใจทันทีจากนั้นภิสิงห์ก็ขับรถเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เพื่อพาเด็ก ๆไปทานไอศครีมระห
พ่อของเด็กเป็นใครฉันหยุดชะงักแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อ นิ่ง ๆ เขาก้าวขายาวเดินมายืนตรงหน้าฉันแล้วหลุบตามองไปที่กวิน และกรัณย์สลับกัน ก่อนจะย่อตัวลงคุยกับกวิน แฝดพี่ที่ฉันจับมืออยู่"พ่ออยู่ไหนครับ" เทมโปเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"...." กวินไม่ตอบ แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉันด้วยสีหน้ามึนงง แฝงสงสัย"คุณเป็นใครเหรอครับ" กรัณย์แฝดน้องที่หว่าหวาจับอยู่เอ่ยขึ้น ทำให้เทมโปละสายตาหันไปมองเด็กน้อย"ลุงเป็น...." เขาหยุดพูดแล้วช้อนตาขึ้นมองมาที่ฉัน ก่อนที่จะตอบกลับกรัณย์"...ลุงเป็น พะ เพื่อนแม่เราน่ะ" เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ สีหน้าเจ็บปวด แล้วเอื้อมมือไปลูบที่หัวกรัณย์ แต่ทว่า"อย่าลูบ เดี๋ยวผมเสียทรง" แฝดคนน้องผละหัวหนีออก ทำให้มือหนาชะงักแล้วหัวเราะปนเศร้าเบา ๆ"เหอะ" ไม่รู้ซะแล้วว่ากรัณย์ห่วงหล่อขนาดไหน"แล้วพ่อไปไหนเหรอครับ" ในเมื่อถามกวินแล้วไม่ได้คำตอบ เขาจึงเลือกถามแฝดน้องแทน"...." กรัณย์ ส่ายหัวแล้วก้มหน้าลงด้วยใบหน้าเศร้า ทำเอาหัวใจฉันวูบไหวสงสารลูก"พอสักทีเถอะ..เลิกยุ่งเรื่องของแกนได้แล้ว" พูดจบ ฉันก็พากวิน และหว่าหวาจูงมือกรัณย์เดินหนีมา"ออร์แกน...ออร์แกน""อย่าตามมานะ!" ฉันหันไปตวา