Share

บทที่ 7

หญิงสาวมองลึกลงไปในดวงตาของลูกสาว...ดวงตาที่เคยใสซื่อบริสุทธิ์ บัดนี้กลับมีแววของความเข้าใจและความมุ่งมั่นบางอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อนฉายชัดอยู่ในนั้น

ภาพของลูกสาวหลังจากรอดชีวิตจากอุบัติเหตุเมื่อวานซ้อนทับขึ้นมา...ทั้งการร้องไห้อย่างเงียบงัน การแสดงความรักความห่วงใยต่อทุกคนในวงข้าวและตอนนี้... คำพูดคำจาที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย...

'ลูกเรา...แปลกไปมากเหลือเกิน' ช่อฟ้าคิดในใจด้วยความรู้สึกที่ทั้งทึ่งและหวาดหวั่นระคนกัน

"ขวัญ...ไปได้ยินคำพูดแบบนี้มาจากไหนลูก" เธอถามกลับไปเสียงแผ่ว พยายามทำใจให้เป็นปกติ

"ก็คุณยายในฝันบอกหนูมาหมดเลยจ้ะแม่" ขวัญรดาตอบอย่างไม่ลังเล เธอรู้ดีว่านี่คือโอกาสเดียวที่จะฝังความคิดนี้ลงในหัวของแม่ได้

"ท่านบอกว่า...เงินเยอะ ๆ ก็เหมือนมีด ถ้าเราใช้เป็นมันก็จะช่วยให้เราสบาย แต่ถ้าเราใช้ไม่เป็น...มันก็จะหันกลับมาทำร้ายเราจนเลือดตกยางออกได้เลยนะจ๊ะ"

ช่อฟ้าถึงกับพูดไม่ออก...คำเปรียบเปรยนั้นคมคายและน่ากลัวเกินกว่าจะเป็นจินตนาการของเด็กน้อย

ขวัญรดาเห็นแม่นิ่งไปจึงขยับเข้าไปกุมมือแม่อีกครั้ง "แม่จ๋า...หนูไม่ได้อยากให้แม่เชื่อหนูทั้งหมดหรอกจ้ะ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริง...ถ้าเกิดว่าสลากที่ป๊าซื้อถูกขึ้นมาแล้วพวกเรามีเงินเยอะ ๆ ขึ้นมาจริง ๆ อย่างที่คุณยายในฝันว่า...แม่อย่าเพิ่งดีใจจนบอกใครได้ไหมจ๊ะ...โดยเฉพาะป๊า หากว่าหนูสามารถนำสลากมาเก็บไว้กับตัวได้...หนูอยากให้แม่เก็บมันไว้เป็นความลับของเราสองคนก่อนนะ...นะจ๊ะแม่"

คำอ้อนวอนที่เต็มไปด้วยความจริงจังนั้นทำให้ช่อฟ้าใจอ่อนยวบ เธอไม่เข้าใจว่าทำไมลูกสาวถึงได้พูดจาแปลก ๆ เช่นนี้ แต่สัญชาตญาณความเป็นแม่บอกเธอว่าแววตาของลูกในตอนนี้ไม่ได้โกหก

เธอจึงตัดสินใจที่จะยุติบทสนทนาที่น่าประหลาดใจนี้ลงก่อน หญิงสาวดึงลูกสาวเข้ามากอดเอาไว้แน่น

"เอาละ แม่เข้าใจแล้ว" เธอกล่าวเสียงเบาเป็นการรับปากแบบไม่เต็มเสียงนัก "ไม่ต้องคิดมากแล้วนะ...ลูกไปช่วยอาม่าดูน้องเถอะ"

ขวัญรดาพยักหน้ารับในอ้อมกอดของแม่ ก่อนจะผละออกมาแล้ววิ่งไปหาน้องชายที่กำลังเล่นอยู่กับอาม่า ทิ้งให้ช่อฟ้ายืนนิ่งอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกสับสนวุ่นวายที่กำลังถาโถมเข้ามาในหัวของตน

'ความฝันของลูก...หรือว่ามันจะเป็นลางบอกเหตุจริง ๆ แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเฮียมนตรีจะซื้อสลากเมื่อไหร่ตอนไหน เพราะหากถามตามตรง...เฮียคงไม่บอกแน่'

ในตอนนี้ขวัญรดาไม่ได้รู้เลยว่า สิ่งที่เธอได้หว่านเมล็ดลงไปในใจของแม่กำลังผลิต้นอ่อนขึ้นมาแล้ว

หลังจากมื้อเย็นที่บรรยากาศค่อนข้างจะแปลกไปเล็กน้อย ทุกชีวิตในครอบครัวต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ป๊ามนตรีเป็นคนแรกที่ล้มตัวลงนอนบนเสื่อผืนเก่า

เนื่องจากเขามีเวลาพักผ่อนเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะต้องลุกขึ้นไปทำงานที่โรงเชือดกลางดึก เสียงกรนที่ดังเบา ๆ ของเขาคือเสียงประกอบของค่ำคืนที่ช่อฟ้าคุ้นเคย

ทางด้านของช่อฟ้ากับสุ่นลั้ง คนทั้งสองก็ช่วยกันเก็บล้างถ้วยชามที่หลังบ้านอย่างเงียบ ๆ ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตัวเอง

โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าหญิงวัยกลางคนคิดถึงเรื่องอะไร แต่สำหรับช่อฟ้าแล้วนั้น ในหัวของเธอมีแต่คำพูดและแววตาที่จริงจังของลูกสาววนเวียนอยู่ไม่หยุด

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เธอจึงเข้ามาในห้องนอนรวม จัดแจงปูที่นอนบาง ๆ และกางมุ้งให้ลูกทั้งสองคน ขวัญรดาทำทีเป็นหลับไปแล้วตามน้องชายที่หลับปุ๋ยไปก่อนหน้านี้

ก่อนที่ช่อฟ้าจะนั่งลงข้างลูก มองใบหน้าที่หลับใหลไร้เดียงสานั้นแล้วก็ถอนหายใจยาว คำเตือนของขวัญรดายังคงก้องอยู่ในหู "บ้านของเราจะแตกเพราะป๊าจะมีผู้หญิงใหม่..."

เธอหันไปมองร่างของสามีที่นอนอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง... จริงอยู่ที่พักหลังมานี้เขาดูหงุดหงิดและพึ่งพาเหล้ามากขึ้น แต่เธอก็ยังเชื่อมั่นในความรักที่เขามีให้ครอบครัว...หรือว่าความเชื่อมั่นของเธอมันกำลังสั่นคลอนกันแน่?

ความไว้ใจที่เคยมีให้สามีเต็มร้อย บัดนี้กลับถูกคำพูดของลูกสาวเจาะเป็นรูโหว่เล็ก ๆ รูโหว่แห่งความระแวงที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน

'แต่ขวัญบอกว่าเฮียจะเปลี่ยนไปก็ตอนที่ถูกรางวัลสลากกินแบ่ง ในเมื่อตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา แต่ถ้าเราไม่ทำตามที่ลูกบอกแล้วถ้าเฮียถูกขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ บ้านของเราจะยังเป็นบ้านได้อีกอย่างนั้นเหรอ' ช่อฟ้าคิดในใจวนไปเวียนมาอย่างเหนื่อยล้า

ก่อนจะตัดสินใจเอนกายนอนลงเคียงข้างลูก พร้อมกับดึงผ้าห่มผืนบางขึ้นมาคลุมให้พวกเขา และดูเหมือนว่าความอบอุ่นจากร่างกายของลูกน้อยทั้งสองจะช่วยปลอบประโลมหัวใจที่ว้าวุ่นของเธอลงได้บ้าง

ซึ่งค่ำคืนนี้คงเป็นค่ำคืนที่ยาวนาน...คืนที่เธอต้องนอนข่มตาให้หลับไปพร้อมกับคำถามและความกังวลที่ขวัญรดา... ลูกสาวตัวน้อยได้ทิ้งเอาไว้ให้

ขวัญรดาที่กำลังแสร้งหลับและทำเป็นนอนนิ่ง ๆ นั้น เธอรับรู้ได้ถึงไออุ่นจากร่างของแม่ที่นอนลงด้านข้างและสัมผัสของผ้าห่มที่คลุมขึ้นมาถึงอก เธอต้องบังคับจังหวะการหายใจของตัวเองให้สม่ำเสมอที่สุดเพื่อไม่ให้แม่จับได้ว่าเธอยังไม่หลับ

ในขณะที่เสียงกรนเบา ๆ ของป๊า...เสียงลมหายใจสม่ำเสมอของน้องชาย...และเสียงถอนหายใจยาวของแม่...ทั้งหมดคือเสียงประกอบของค่ำคืนที่เธอคุ้นเคย แต่ในวันนี้มันกลับเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่มองไม่เห็น

ร่างกายของเด็กห้าขวบกำลังเรียกร้องการพักผ่อนอย่างหนักหน่วง เปลือกตาของเธอเริ่มหนักอึ้งจนแทบจะลืมไม่ขึ้น เธอรู้ดีว่าอีกไม่นานสติของเธอก็จะพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนเพลีย แต่ยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญที่เธอต้องจัดการให้เรียบร้อยเสียก่อน

'เจ้าทอง...' เด็กหญิงเรียกสหายตัวน้อยของเธอในใจ 'เจ้าทอง...อยู่รึเปล่า'

'หนูอยู่นี่จ้ะพี่สาว' เสียงใส ๆ ของกุมารน้อยดังตอบกลับมาในห้วงความคิดทันที ราวกับเขารอคอยคำสั่งอยู่แล้ว

'ดีมาก...' ขวัญรดาสื่อสารต่ออย่างรวดเร็ว 'คืนนี้...ป๊าจะตื่นไปทำงานตอนสี่ทุ่ม ฉันกลัวว่าจะหลับไปก่อน เลยอยากจะย้ำกับเธออีกครั้ง...อย่าลืมตามติดป๊าไปทุกฝีก้าวนะ'

'พี่สาววางใจได้เลย!' เจ้าทองตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

แม้ว่าขวัญรดาจะได้ยินน้ำเสียงจริงจังตอบรับของกุมารทองตัวน้อยแล้วแต่เธอก็ยังรู้สึกไม่วางใจก่อนจะเน้นย้ำออกมาอีกรอบ

'เขาอาจจะแวะซื้อสลากตอนไหนก็ได้ เราจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด เข้าใจไหม'

'เข้าใจจ้ะพี่สาว! หนูจะเฝ้าป๊าของพี่สาวไว้ไม่ให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว! ต่อให้หนูต้องลอยตามเข้าไปถึงในโรงเชือด หนูก็จะไป!'

ความกระตือรือร้นและความภักดีในน้ำเสียงนั้นทำให้ขวัญรดารู้สึกอุ่นวาบในอกขึ้นมาอย่างประหลาด...พร้อมกับคิดว่าโชคดีเหลือเกินที่เธอไม่ได้ต่อสู้อยู่คนเดียว

'ขอบใจนะเจ้าทอง เอาไว้ฉันจะหาขนมอร่อยมาให้กิน' จบคำกล่าวของเธอและหัวใจเริ่มเบาบางลงจากความกังวล ในที่สุดสติของหญิงชราในร่างของเด็กห้าขวบก็ย่อมพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนเพลียต่อร่างกายเล็ก ๆ นี้

ก่อนที่เธอจะจมดิ่งเข้าสู่ห้วงนิทราที่ลึกล้ำอย่างแท้จริง...และรอคอยผลลัพธ์ของแผนการที่จะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

หลังจากนั้นไม่นานเวลาสี่ทุ่มตรงก็ได้มาถึง ร่างสูงใหญ่ของมนตรีลืมตาตื่นขึ้นตามเวลานาฬิกาชีวิตของตนโดยไม่ต้องมีเสียงปลุก เขานอนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ พลิกตัวลุกขึ้นอย่างเงียบเชียบที่สุดเพื่อไม่ให้รบกวนลูกเมียที่ยังหลับอยู่

ช่อฟ้าที่นอนหลับไม่สนิทนักรู้สึกตัวตื่นขึ้นตาม "ป๊าจะไปแล้วเหรอจ๊ะ" เธอถามเสียงแผ่ว

"อืม" นั่นคือคำตอบสั้น ๆ เหมือนกับทุกครั้ง

ช่อฟ้าลุกขึ้นไปเปิดไฟนีออนดวงเล็กที่หัวเสา แสงสีขาวนวลส่องให้เห็นแผ่นหลังกว้างของสามีที่กำลังสวมเสื้อผ้าชุดทำงานตัวเก่า เธอเดินไปยืนส่งเขาที่บันไดเรือนตามความเคยชิน

มนตรีไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแต่พยักหน้าให้เธอเล็กน้อย ก่อนจะก้าวลงบันไดและเดินหายไปในความมืดมิดของค่ำคืนโดยมีแสงตะเกียงดวงเดียวในมือ

คล้อยหลังของสามี ช่อฟ้าจึงได้ปิดประตูลงกลอนอย่างเรียบร้อย ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าคำเตือนอันน่าประหลาดของลูกสาวจะเป็นเพียงแค่ฝันร้าย

แต่เธอก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่าหากเรื่องนั้นเป็นจริงขึ้นมา... เธอจะหาญกล้าพอที่จะเอ่ยปากถามสามีเรื่องสลากกินแบ่งได้อย่างไรโดยไม่ให้เขาระแวง...ซึ่งที่เธอไม่รู้เลยว่าลูกสาวตัวน้อยของเธอได้ส่งผู้ช่วยแสนวิเศษตามหลังสามีของเธอไปเรียบร้อยแล้ว...
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 96

    “กูเองก็เห็นด้วย” เมฆก็ได้เอ่ยเสริมออกมาบ้าง“บางทีเจ้าลายมันอาจจะชอบน้องเขาก็ได้นี่ หรือไม่มันก็รู้สึกผิดที่กัดน้องเขาไปเมื่อวาน” ปฐพีพยายามบอกปัด ก่อนจะทำงานของตนต่อไป ส่วนเจ้าลายที่กำลังอยู่ในอ้อมแขนของขวัญรดาก็หาได้สนใจความคิดของมนุษย์ทั้งสามแต่อย่างใดและเมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองต่างมองมาทางเธอ

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 95

    หลายวันต่อมา ขวัญรดาที่กำลังประหม่าเรื่องของปฐพีก็ได้ถูกลูกตื้อของเพื่อนสาวเอ่ยร้องขอให้เธอไปเป็นเพื่อนที่คณะเกษตรฯ“เธอสองคนไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะขวัญ นะเจ้าจอมนะ ๆ” กิ่งเพื่อนสาวร่างเล็กเอ่ยขอร้องเพื่อนทั้งสองด้วยสายตาอ้อนวอน“พอดีฉันมีชีทเรียนต้องเอาไปให้เพื่อนที่เรียนอยู่คณะเกษตรฯ น่ะ... ไปคนเดี

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 94

    และในขณะที่บทสนทนาของทุกคนกำลังออกรสอยู่นั้นเอง... เจ้าจอมที่นั่งหันหน้าออกไปยังทางเดินก็พลันเบิกตากว้าง...“เฮ้ย! พวกแก...” เธอกระซิบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “นั่นใช่พี่ดิน คณะเกษตรไหมคำกล่าวนี้ของเธอทำให้ทุกคนยกเว้นขวัญรดาที่นั่งหันหลังอยู่ ต่างหันไปมองตามการพยักพเยิดของเจ้าจอมเป็นตาเดียวกัน“โห! ตัว

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 93

    เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มคนนั้นขี่รถจากไปแล้ว ช่อฟ้าและสุ่นลั้งที่ยืนรออยู่บนชานเรือนก็รีบเดินลงมาสมทบทันที“ขวัญ! เป็นยังไงบ้างลูก เจ็บมากไหม!” ช่อฟ้าตรงเข้ามาจับมือลูกสาวพลางดูแผลที่นิ้วของเธอด้วยความเป็นห่วง“หนูไม่เป็นไรแล้วจ้ะแม่ แผลเล็กนิดเดียวเอง” ขวัญรดาตอบพร้อมกับรอยยิ้มออกมา ซึ่งทุกคนเองก็โล่งใ

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 92

    เมื่อสายตาของเจ้าตัวเหลือบไปเห็นตะกร้าในมือของ ลูกสาว... และยิ่งไปกว่านั้น... คือร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มคนเดียวกับที่เคยไปส่งลูกสาวที่บ้าน...“ป๊าจ๋า...” ขวัญรดารีบเป็นฝ่ายอธิบายออกมาก่อนที่พ่อจะเข้าใจผิด “คือว่าเจ้าลาย... หนูหมายถึงแมวของพี่ปฐพีเขาน่ะค่ะ พอดีทางหอพักเลี้ยงสัตว์ไม่ได้ ช่วงนี้ฝนต

  • ขวัญรดาลูกแม่ค้า   บทที่ 91

    คำว่า “รับออกแบบจัดสวน” เหมือนจะไปสะกิดบางอย่างในใจของทั้งคู่โดยไม่รู้ตัว ปฐพีกับขวัญรดาเลยเผลอมองสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง... และช่วงเวลาสั้น ๆ นี้กลับเพียงพอที่จะทำให้เพื่อน ๆ รอบข้างจับสังเกตได้ทันที“เฮ้ย... มึงว่าไอ้ดินมันสนใจน้องเขาหรือเปล่าวะ” ภัทรเอ่ยกระซิบกับเมฆ พลางเหลือบมองเพื่อนตัวเองอย่างไม่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status