ของที่เขาบอกว่าน่ารำคาญในวันนั้น กลับกลายมาเป็นของหวงของเขาในวันนี้…ได้ยังไงกัน
View Moreเมื่อตอนยังเป็นเด็กเธอจำความได้ว่า เธอเคยพยายามยัดเยียดสิ่งที่ตัวเองชอบให้กับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างเย็นชา ด้วยการตอบกลับมาว่า ไม่ชอบ แม้ว่าเธอจะพยายามบอกว่ามันน่ารักมากขนาดไหน คำตอบก็ยังคงเหมือนเดิมคือ ไม่ชอบ
แต่แล้วยังไงละ นั่นมันก็เป็นปัญหาของเขา เพราะเธอน่ะ ชอบ ชอบเขามากเลยละ ชอบมากๆ ไม่ว่าจะตอนที่ยังเป็นเด็กหรือแม้กระทั่งตอนนี้ที่โตเป็นสาวสวยที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องตกหลุมรักในความสวยที่มาพร้อมกับความน่ารักของเธอ @London Airport “อยู่ไหนนะ” เสียงหวานพึมพำกับตัวเองพลางกวาดสายตามองหาคนที่มารอรับเธอ ลักษณะเด่นของคนที่มารอรับเธอนั้นเขาเป็นผู้ชายตัวสูงโปร่ง ผิวขาว จมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาเฉียบคมดุจเหยี่ยว ริมฝีปากหยักได้รูปน่าสัมผัส เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ โดยรวมแล้วนั้นเขาเพอร์เฟคทุกอย่าง ทั้งรูปร่างหน้าตาฐานะและชาติตระกูล “อยู่ไหนของเขาเนี่ย” นิวเยียร์ หญิงสาวร่างบางที่บินลัดฟ้ามาไกลตามลำพังยังคงพึมพำกับตัวเองพลางเข็นรถใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปด้วยด้วยความทุลักทุเลไม่น้อย เพราะกระเป๋าที่เธอเอามานั้นมีถึงสามใบใหญ่และอีกหนึ่งใบเล็ก ทั้งที่บินมาคนเดียวแต่เธอขนข้าวของมาอย่างกับบินมาหลายคน “คุณหนูนิวเยียร์ครับ!” ประโยคที่เป็นภาษาไทยและชื่อที่ถูกเรียกมานั้นตรงกับชื่อของเธอเข้าพอดี ทำให้นิวเยียร์ต้องหยุดเดินแล้วมองไปรอบๆ เพื่อหาที่มาของเสียง ก่อนจะต้องขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นชายใส่ชุดสูทสีดำร่างสูงโปร่งคนหนึ่งกำลังยืนโบกมือให้เธออยู่ ในมือมีป้ายที่เขียนชื่อนามสกุลของเธอเป็นภาษาไทยไว้อย่างชัดเจน พอเห็นว่าเธอมองเห็นเขาแล้วเขาก็เดินอาดๆ ตรงมาที่เธอทันที “ยินดีต้อนรับครับ” “ใครอะ คุณเป็นใครคะ?” นิวเยียร์ถามด้วยความตกใจปนความงุนงง ที่อยู่ดีๆ ผู้ชายคนนี้ก็เข้ามาแย่งรถเข็นกระเป๋าไปจากมือเธอ “คุณนิกซ์ส่งผมมารับคุณครับ เชิญทางนี้ครับ เดี๋ยวกระเป๋าผมจัดการเอง” “เดี๋ยวสิ แล้วนิกซ์ไปไหนทำไมไม่มารับเอง” คนที่ควรจะมารับเธอคือเจ้าของชื่อที่เธอกับผู้ชายคนนี้พูดถึงอยู่ไม่ใช่หรือไง นี่มันไม่เหมือนที่คุยกันไว้เลยนี่ “คุณนิกซ์ติดงานด่วนครับ เชิญที่รถเถอะครับ” “แล้วฉันจะไว้ใจคุณได้ยังไง เพื่อความแน่ใจขอฉันโทรหานิกซ์ก่อน” “ได้ครับ เชิญตามสบายครับ” นิวเยียร์ไม่รอช้ารีบเปิดกระเป๋าสะพายข้างใบโปรดของตัวเองค้นหาสมาร์ตโฟนเพื่อติดต่อหาคนที่ผิดคำพูด ทั้งที่บอกว่าจะมารอรับเธอแท้ๆ แต่ดันส่งคนมาแทนซะงั้น กดเบอร์โทรออกครั้งแรกไร้การตอบรับ กดเบอร์เดิมโทรออกเป็นครั้งที่สองก็ยังคงไร้การตอบรับ กดโทรออกอีกครั้งเป็นรอบที่สามถึงได้รับการตอบรับกลับมา และเป็นการตอบรับที่มีเพียงความเงียบจนเธอต้องยกสมาร์ตโฟนที่แนบอยู่กับใบหูออกดูให้แน่ใจ ว่าปลายสายที่เธอติดต่อหานั้นรับหรือสายตัดไปเพราะไร้การตอบรับ แต่พอเห็นว่าสายถูกตอบรับแล้วเธอก็ยกสมาร์ตโฟนขึ้นแนบหูเหมือนเดิมแล้วเป็นฝ่ายกรอกเสียงทักทายไปก่อน “นิกซ์ ได้ยินน้องนิวมั้ยคะ” [อืม] เสียงขานรับกลับมานั้นบ่งบอกถึงอารมณ์ที่เรียบเฉย ไม่ได้รู้สึกถึงความตื่นเต้นดีใจเลยสักนิดที่จะได้เจอหน้ากันในรอบปี แต่เธอชินแล้ว ชินกับความเย็นชานี้แล้วล่ะ “ทำไมนิกซ์ไม่มารับน้องนิวคะ ไหนบอกว่าจะมารอไง” นิวเยียร์ตัดพ้อด้วยความน้อยใจ เดินทางมาตั้งไกลแทนที่จะได้เห็นหน้าเขาคนแรกให้ได้ชื่นใจ แต่ต้องมาหน้าบูดบึ้งยืนตัดพ้อเขาผ่านสายสนทนาแทน [ไม่เคยพูด] “คนใจร้าย ไม่รักษาคำพูด” [ถ้าไม่มาก็กลับบ้าน] ตู๊ดๆๆ ไม่ทันที่นิวเยียร์จะได้พูดอะไรที่ตัดพ้อกลับไปอีกสายก็หลุดไปทันทีที่เขาพูดจบ แถมประโยคที่พูดมานั้นก็ดูไร้เยื่อใยและเย็นชามากด้วย “หื้ย! คนบ้านี่” คนตัวเล็กได้แต่กระทืบเท้าอย่างขัดใจแล้วบ่นกับตัวเองอย่างทำอะไรไม่ได้ ก่อนจะหันไปถามคนที่มารับเธอด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง “รถอยู่ไหนคะ คันไหน” “เดินไปที่ประตูทางออกจะเจอป้ายชื่อแบบเดียวกันครับ” ได้คำตอบคนตัวเล็กก็เดินนำออกไปก่อน อยากจะรีบกลับให้ถึงบ้านเขาเร็วๆ อยากจะเห็นหน้าใจจะขาดอยู่แล้ว แต่มีอย่างที่ไหนเขาดันมาไล่ให้เธอกลับบ้าน ไม่มีทางซะหรอก จะอยู่ให้รำคาญกันให้ตายไปข้างหนึ่งเลยคอยดูสิ “แล้วเจอกันค่ะนิกซ์”เวลาของความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ เผลอแป๊บเดียวก็ครบกำหนดหนึ่งสัปดาห์แล้วที่นิวเยียร์กลับมาที่อังกฤษกับนิกซ์ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้เป็นการกลับมาที่เธอรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมาก เพราะคนที่เคยใจร้ายและเย็นชาอย่างนิกซ์มักจะหาเวลาว่างจากการทำงานที่ค่อนข้างยุ่งของเขาพาเธอไปเที่ยวเล่นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ไปทุกที่ที่เธออยากไป ด้วยเวลาที่มีน้อยและเขาเองก็ยุ่งมากด้วย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าการเป็นนักธุรกิจ เป็นเจ้าของอสังหาต่างๆ นานานั้นทำไมถึงได้ยุ่งและงานหนักขนาดนี้ด้วย เวลาพักผ่อนก็แทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ “พรุ่งนี้นิวเปิดเทอมแล้วนะคะ” คนตัวเล็กที่นอนซุกอกแกร่งอยู่บนเตียงนอนเอ่ยขึ้นเบาๆ เพราะนี่ได้เวลาที่เธอต้องกลับไปทำหน้าที่ตัวเองแล้ว แต่เจ้าของอกแกร่งที่เธอนอนซุกอยู่ตอนนี้ไม่มีทีท่าว่าจะพูดถึงเรื่องที่เธอจะต้องกลับบ้านเลยด้วยซ้ำ “รู้แล้ว” นิกซ์ตอบกลับเสียงเรียบ มือหนาก็คอยลูบผมยาวสลวยของคนตัวเล็กเล่นไปพลาง ยอมรับอย่างไม่อายว่าเสพติดร่างกายของเธอเข้าแล้ว ถ้าวันไหนไม่ได้กอดได้สัมผัสเหมือนจิตใจจะว้าวุ่นไม่เป็นอันทำอะไร ยิ่งตอนนี้ถึงกำหนดที่เธอต้องกลับบ้านตัวเองแล้ว แต่เขาแสร้งทำเหมือนลืม
นิวเยียร์นั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่กับตัวเองมาร่วมชั่วโมง หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จเธอก็มานั่งจมปักอยู่กับสมาร์ทโฟนในมืออย่างคิดไม่ตกว่าจะบอกพอร์ชอย่างไร แล้วเธอกับพายอาร์จะยังคงเป็นเพื่อนกันต่อได้ไหม ความคิดต่างๆ นานา หลั่งไหลเข้ามาปะปนกันให้วุ่นวายไปหมด Rrrrrr~ เสียงสมาร์ทโฟนในมือดังขึ้นท่ามกลางความคิดที่กำลังว้าวุ่น ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งแรงด้วยความตกใจจนเกือบทำสมาร์ทโฟนในมือตกพื้น “ตกใจหมดเลย” คนตัวเล็กยกมือลูบอกตัวเองปอยๆ อย่างปลอบขวัญ ก่อนจะก้มลงมองดูบนหน้าจอว่าเป็นสายของใครที่โทรเข้ามาทำให้เธอตกใจแบบนี้ เพียงแค่ได้เห็นชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอที่ถูกโทรผ่านแอพพลิเคชั่นแชตส่วนตัวมานั้น ก็ทำเอาอาการตกใจเมื่อกี้หายเป็นปลิดทิ้ง แต่อาการประหม่ากลับเข้ามาแทนที่จนต้องเม้มปากแน่นอย่างคิดไม่ตก เพราะคนที่โทรมาคือพอร์ช “สะ สวัสดีค่ะพี่พอร์ช” แต่สุดท้ายเธอก็กดรับสายพร้อมกรอกเสียงทักทายกลับไป พยายามทำให้น้ำเสียงของตัวเองนั้นเป็นปกติที่สุด แต่มันก็ไม่สามารถทำได้เลยจริงๆ [น้องนิว! เป็นอะไรรึเปล่าครับ พี่ติดต่อเราไม่ได้เลย รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงมาก] พอร์ชรัวคำถามกลับมาทันทีที่ได้ยิน
แสงสว่างยามเช้าปลุกให้คนตัวเล็กบนเตียงนอนลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย ดวงตากลมโตกะพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับโฟกัสการมองเห็น ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องที่ไม่คุ้นเคย แต่ถึงจะไม่ใช่ห้องที่คุ้นเคยก็รู้ว่าที่นี่คือห้องนอนของนิกซ์ คิ้วเรียวสวยขมวดเข้้าหากันด้วยความสงสัยที่พบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาบนที่นอนนุ่มของเขาแบบนี้ เพราะเมื่อคืนเธอจำได้ว่าเธอนั่งรอเขาทำงานอยู่ที่ห้องทำงาน ก่อนจะจำอะไรไม่ได้อีก มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนนี้ที่ตื่นมาบนเตียงในห้องของเขา แต่บนเตียงกลับมีเพียงแค่เธอที่นอนอยู่ นอนคิดทบทวนอยู่ได้สักพักคนตัวเล็กก็ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางที่ยังงัวเงีย ก่อนจะได้ยินเสียงกุกกักดังมาจากทางห้องแต่งตัว พอหันไปมองก็เห็นประตูห้องแต่งตัวถูกเปิดออกมาพอดี พร้อมกับร่างสูงโปร่งที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีเดินออกมาจากด้านใน ออร่าของเขาที่ดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าทำให้เธอเผลอจ้องมองไม่วางตา จนกระทั่งคนตัวสูงเดินเข้ามาหยุดยืนที่ข้างเตียงนอนฝั่งที่เธอนั่งอยู่ ทำให้เธอได้กลิ่นหอมสะอาดจากตัวเขาอย่างชัดเจน ชวนให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มจนอยากจะเอาหน้าเข้าไปซุกที่หน้าท้องแกร่งที่มีมัดกล้ามอย่างสวยงามแล้วสูดกลิ่นหอมบนตัวเขา
นิกซ์พานิวเยียร์กลับมาที่อังกฤษด้วยตามที่พูดไว้ คนตัวเล็กที่ได้กลับมาในที่ที่คุ้นเคยอีกครั้งก็รู้สึกดีใจไม่น้อย เพราะเธอไม่คิดว่าจะได้กลับมาเหยียบที่นี่อีกแล้วด้วยซ้ำ “เอากระเป๋าไปเก็บ” “ให้นิวนอนห้องไหนคะ” ร่างสูงโปร่งที่สั่งคนตัวเล็กเอากระเป๋าไปเก็บเสร็จก็เตรียมจะหมุมตัวเดินไปที่ห้องทำงาน แต่ไม่ทันจะได้ก้าวเท้าด้วยซ้ำ คนตัวเล็กก็ย้อนถามกลับมาจนทำให้เขาต้องชะงักหันกลับไปมองเธออีกครั้ง “อยากนอนห้องไหน” “นอนกับพี่นิกซ์ค่ะ” เธอตอบกลับทันทีอย่างไม่รีรอ ว่าตัวเองนั้นอยากนอนกับเขา แค่ได้นอนกับเขาห้องไหนเธอก็นอนได้ สายตาคมจ้องมองคนตัวเล็กที่ตอบคำถามเขาออกมาอย่างเต็มเสียงไร้ความลังเล ก่อนที่ริมฝีปากหยักได้รูปจะยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยด้วยความพอใจในคำตอบของเธอ แล้วเดินไปยกกระเป๋าของคนตัวเล็กเดินตรงไปยังบันไดทางขึ้นห้องนอนของตัวเอง นิวเยียร์ที่เห็นแบบนั้นก็อมยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนจะรีบวิ่งตามหลังคนตัวสูงไปติดๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอจะได้เข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของเขา ไม่รู้ว่าห้องของจอมเย็นชาจะเป็นอย่างไรบ้าง จะเหมือนที่เธอจินตนาการไว้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ มาถึงหน้าห้องคนตัวสูงก็สแกนล
“อ๊ะ~ พี่นิกซ์… พะ พอก่อน” เสียงหวานครวนครางดังกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน มือเล็กดันไหล่กว้างของคนตัวสูงไว้เป็นพัลวันเพื่อบังคับให้เขาหยุดก่อน “ทำไม?” คนถูกห้ามเงยหน้าขึ้นถามเสียงพร่า รู้สึกขัดใจที่คนตัวเล็กไม่ยอมให้เขาทำต่อ ทั้งที่ร่างกายของเธอนั้นสั่นสะท้านเมื่อใกล้ถึงฝั่งฝัน “ยะ ยืนไม่ไหวแล้ว มันจะล้ม” คนตัวเล็กตอบเสียงกระเส่า สองมือจับไหล่กว้างของคนตัวสูงที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าไว้แน่นเพื่อทรงตัว ขาเรียวสวยที่สั่นเทาของคนตัวเล็กทำให้นิกซ์ยกยิ้มอย่างเอ็นดู แต่แทนที่เขาจะหยุดเขากลับตวัดแขนเกี่ยวล็อกโอบประครองสองขาเธอไว้แน่น ก่อนจะขยับใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าหากลางกายสาวที่เฉอะแฉะไปด้วยน้ำหวานของเธออีกครั้ง แล้วตวัดลิ้นร้อนชื้นกวาดต้อนความหอมหวานของเธอเข้าปากอย่างหลงใหลมัวเมาในรสสาวของเธอ “อ๊ะ…อ๊า~ นิกซ์~” ยิ่งคนตัวเล็กครวนครางอย่างคนเสียวซ่านสลับกับเรียกชื่อเขาเสียงกระเส่ายิ่งกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาของเขาให้ลุกโชน ร่างกายแกร่งร้อนลุ่มดังถูกไฟแผดเผา เกร็งลิ้นร้อนที่กำลังกวาดต้อนตวัดน้ำหวานของเธอเข้าปากสอดลึกเข้าไปภายในร่องรักคับแน่นที่กำลังเต้นตุบๆ สองมือเล็กที่เคยดันไหล่ก
7:50 pm นิกซ์เดินเข้ามาภายในโรงแรมที่พักของตัวเองด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า หลังจากที่เขาโหมเคลียร์งานมาหลายวันเพื่อให้เสร็จทันกำหนดเดิม เพราะพรุ่งนี้เขาต้องกลับแล้ว มือหนายกขึ้นบีบนวดต้นคอตัวเองไปพลางขณะที่เดินเข้าประตูโรงแรมไป “คุณนิกซ์คะ” เสียงเรียกชื่อเขาที่ดังมาจากแผนกต้อนรับของโรงแรมหรูดึงให้เขาต้องหยุดชะงัก ก่อนจะหันกลับไปมองด้วยความสงสัย ว่าทำไมพนักงานต้อนรับถึงได้เรียกเขาไว้ “มีคนมารอคุณนิกซ์ตั้งแต่บ่ายแล้วค่ะ” “ใคร?” นิกซ์ขมวดคิ้วถามเสียงเรียบ เพราะเขาไม่ได้นัดใครไว้ อีกอย่างก็ไม่มีคนรู้ว่าเขาพักอยู่ที่ไหน นอกซะจากนิวเยียร์… หรือจะเป็นเธอ? “ผู้หญิงที่เคยมาพักกับคุณนิกซ์ค่ะ” “ที่ไหน” เพียงแค่ได้ยินแบบนั้นก็รีบถามทันที เป็นเธอจริงๆ อย่างที่เขาคิดไว้สินะ “ทางนั้นค่ะ เดี๋ยวดิฉันนำไปค่ะ” พนักงานต้อนรับสาวบอกพร้อมกับผายมือไปยังล็อบบี้ที่เป็นมุมส่วนตัว เตรียมจะเดินนำทางไปอย่างที่พูดแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีน้ำเสียงเรียบนิ่งแทรกขึ้นมา “ไม่ต้อง” “ค่ะ” นิกซ์เดินตรงมายังที่ที่พนักงานบอกก็พบกับร่างบางที่เขาคุ้นเคยนั่งหลับอยู่ที่โซฟาตัวใหญ่ สายตาคมไล่มองสำรวจคนตัวเล
Comments