หลังจากที่ไนต์เดินออกจากห้องน้ำไปจัสมินก็รีบเปิดน้ำล้างเนื้อล้างตัวของตัวเองให้สะอาดแล้วรีบเดินตามคนตัวสูงออกไป ก่อนจะพบว่าตอนนี้เขานอนคว่ำอยู่บนเตียงของเธอทั้งที่บนตัวมีแค่ผ้าขนหนูพันรอบเอวสอบ อวดแผ่นหลังกว้างที่มีรอยสัก...
รอยสักรูปประหลาดที่อยู่บนแผ่นหลังตรงช่วงไหล่ซ้าย ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเป็นรูปอะไร ทำให้เกิดความสงสัยไม่น้อยเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ดูแล้วเขาน่าจะเพิ่งสักมาหลังจากที่เขากลับอังกฤษไปเมื่อสองอาทิตย์ก่อน
“คุณไปสักมาเหรอคะ”
“…”
ไร้การตอบรับจากคนตัวสูงที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงนอน ทำให้จัสมินต้องเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะนั่งลงที่เตียงเอื้อมมือไปแตะที่รอยสักที่น่าจะเพิ่งลอกได้ไมกี่วัน
“อย่าจับ” น้ำเสียงแหบต่ำของเจ้าของรอยสักดังขึ้นทันทีที่สัมผัสได้ถึงปลายนิ้วของคนตัวเล็กแตะลงบนร่างกาย
“ขอโทษค่ะ” จัสมินดึงมือตัวเองกลับอย่างรวดเร็ว ได้แต่มองด้วยความสงสัยว่ารอยสักนั้นคือรูปอะไร แต่ก็ไม่กล้าถามมากเดี๋ยวเขาจะหาว่าวุ่นวายกับเขาเกินไป
“เสร็จแล้วก็มานอน”
“คุณ…จะค้างที่นี่เหรอคะ” เมื่อได้ยินคนตัวสูงที่ยังนอนคว่ำอยู่เอ่ยขึ้นอีกครั้งก็ได้แต่ถามกลับด้วยความสงสัย เพราะปกติแล้วไนต์จะไม่นอนค้างที่นี่ ต่อให้คืนนั้นจะเสพสุขกันยาวนานจนเกือบจะสว่างเขาก็จะกลับทันทีเมื่อทุกอย่างจบลง
“…”
ความเงียบคือคำตอบที่เธอได้กลับมา และได้แต่ลอบถอนหายใจเบาๆ เธอเองก็เหนื่อยเต็มทนแล้ว ไม่มีแรงที่จะสู้รบกับเขาแล้วเหมือนกัน
จัสมินลุกขึ้นเดินไปปิดไฟในห้องจนมืดสนิทก่อนจะเดินกลับมานั่งบนเตียงนอนที่ถูกยึดไปโดยเจ้าของห้องตัวจริงจนแทบไม่เหลือพื้นที่ให้เธอ มือเล็กดึงชายผ้าห่มที่คนตัวสูงนอนทับอยู่สอดตัวเข้าไปด้านในแล้วล้มตัวลงนอนบนพื้นที่อันน้อยนิด
“ขยับมา” เสียงเข้มดังขึ้นท่ามกลางความมืด ขยับตัวเองไปอีกฝั่งของเตียงนอนเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้คนตัวเล็กได้ขยับเข้ามานอนได้อย่างสบาย
จัสมินขยับตัวตามเข้าไปอย่างไม่เรื่องมาก เธอมองฝ่าความมืดไปที่คนตัวสูงข้างๆ เมื่อเห็นว่าเขานิ่งไปก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ดวงตาที่ปรือปรอยฝืนต่อความง่วงและความเหนื่อยล้าไม่ไหว เปลือกตาค่อยๆ ปิดเข้าหากันช้าๆ จนท้ายที่สุดทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบพร้อมด้วยลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอ
ความเงียบที่เข้าปกคลุมไปทั่วทั้งห้องทำให้คนที่ยังไม่หลับต้องพลิกหน้าหันกลับมามองคนตัวเล็กข้างกาย รับรู้ได้ถึงลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอของเธอบ่งบอกว่าตอนนี้เจ้าตัวได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว…
ช่วงบ่ายของทุกวันคือเวลาตื่นที่ร่างกายคุ้นชิน จัสมินปรือตาขึ้นด้วยความงัวเงีย กะพริบตาถี่เพื่อปรับโฟกัสกับแสงสว่างที่เล็ดลอดเข้ามาภายในห้อง ตั้งท่าจะลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องหยุดชะงักในทุกการกระทำ เมื่อพบว่ามีบางอย่างพาดทับเอวคอดของเธอไว้อยู่
คนตัวเล็กรีบหันขวับมองไปข้างกายตัวเอง ก็พบกับใบหน้าหล่อเหลาที่คุ้นเคยกำลังหลับสนิทอยู่ข้างกัน และสิ่งที่พาดอยู่บนเอวของเธอก็คือท่อนแขนของไนต์
นี่เขานอนหลับบนเตียงเดียวกับเธอมาตลอดทั้งคืนจริงๆ งั้นเหรอ?
เกิดความลังเลว่าจะปลุกเขาดีไหม แต่พอคิดได้ว่าถ้าปลุกแล้วเขาอาจจะหงุดหงิดเธอจึงเลือกที่จะจับแขนที่พาดอยู่บนเอวออกอย่างเบามือ หวังว่าคงจะไม่ทำให้เขาตื่นขึ้นมาหงุดหงิดเธอนะ
หมับ!
“อ้ะ…!” เสียงเล็กร้องขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อเธอพยายามจะยกท่อนแขนของคนตัวสูงออกจากตัว แต่กลับถูกเจ้าของท่อนแขนนี้โอบกอดไว้แน่นพร้อมกับดึงให้เธอเข้าหาจนร่างกายแนบชิดกันมากกว่าเดิม
“จะไปไหน” น้ำเสียงแหบแห้งของไนต์ดังขึ้น ลืมตาขึ้นจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยไร้เครื่องสำอางค์ด้วยแววตาเรียบนิ่ง
“ไปอาบน้ำเตรียมตัวไปทำงานค่ะ”
“…” ได้คำตอบจากคนตัวเล็กไนต์ก็เงียบไม่ได้พูดอะไรต่อ มือที่กอดเอวคอดของเธออยู่ก็ถูกยกออกปล่อยให้เธอเป็นอิสระ
จัสมินที่เห็นว่าอีกคนยอมปล่อยมือออกไปง่ายๆ ก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจแทน ก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งโดยที่มีคนตัวสูงนอนมองเธออยู่ด้วยแววตาเรียบนิ่ง แต่ก่อนจะได้ตวัดขาลงจากเตียงนอนก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานเขาให้ของเธอมา
“ขอบคุณสำหรับของฝากค่ะ”
“หึ” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นอย่างเย้ยหยันที่ได้ยินคนตัวเล็กพูดมาแบบนั้น ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเธอยังไม่ได้เปิดดูของที่เขาซื้อให้อย่างแน่นอน เพราะถ้าดูแล้วเธอคงไม่พูดว่าของฝากแต่จะพูดว่าของสิ่งนั้นคืออะไรแทน “ทำไม ไม่ตื่นเต้นดีใจแล้วเหรอที่ได้ของจากฉัน”
“เปล่าค่ะ เมื่อวานรีบออกไปทำงานเลยไม่ทันได้ดู” คนตัวเล็กที่ถูกจับได้ไล่ทันก็ได้แต่ตอบกลับไปด้วยความจริง โกหกไปก็เท่านั้นในเมื่อเขารู้ทันเธอหมดแล้ว
แต่เอาเข้าจริงเธอเองก็ไม่ได้ตื่นเต้นกับสิ่งของเหล่านี้แล้วจริงๆ อย่างที่เขาว่านั่นแหละ แต่ก็ไม่คิดปฏิเสธหากเขาอยากจะให้
“ก็ดี แต่ถ้าไม่อยากได้ก็บอก ฉันจะได้เลิกซื้อ”
“…” คราวนี้กลับกลายเป็นเธอที่เป็นฝ่ายเงียบ ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิด จ้องมองสบตาคมของคนตัวสูงไปด้วยอย่างไม่คิดหลบสายตา
นานนับนาทีที่จัสมินเอาแต่จ้องมองสบตากับไนต์ ก่อนที่เธอจะขยับตัวโน้มลงไปหาเขาแล้วกดจูบแผ่วเบาลงที่ลำคอหนาขยับไล่จูบต่ำลงมาที่อกแกร่งเปลือยเปล่าจนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หัวนมสีเชอร์รี่บนอกแกร่งที่กระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ
ไนต์นอนนิ่งมองคนตัวเล็กที่กำลังเล่นกับร่างกายของตัวเองโดยไม่คิดห้าม ส่วนกลางกายเริ่มตื่นตัวจากการถูกปลุกเร้าเพียงนิด มือเล็กที่ซุกซนล้วงลงไปใต้ผ้าห่ม ลูบไล้ลงตามร่างกายของเขาจนสัมผัสเข้ากับความเป็นชายที่แข็งขื่น
จัสมินช้อนสายตาขึ้นมองโดยที่ยังคงตวัดลิ้นเล่นกับหัวนมของเขาไม่หยุด มือที่ล้วงลงต่ำกอบกุมแท่งร้อนที่แข็งขื่นไว้แล้วขยับนวดคลึงที่ส่วนหัวจนรู้สึกได้ถึงน้ำหล่อลื่นที่ปริ่มออกมา
จนตอนนี้เธอก็ยังไม่รู้ว่าเขาไปหงุดหงิดอะไรมาจากที่ไหน แต่จากอารมณ์เขาเมื่อคืนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าความหงุดหงิดที่เขามีนั้นไม่น้อยเลย บางทีการได้ปลดปล่อยออกมาอาจจะทำให้ความหงุดหงิดที่เขามีหายไป
“อ่าส์~ จัสมิน” ไนต์กัดฟันแน่นครางเสียว กล้ามเนื้อหน้าท้องหดเกร็งด้วยความกระสันกับสัมผัสจากมือเล็กนุ่มนิ่มที่กำลังนวดคลึงแท่งร้อนของเขาอยู่
“อยากเข้าไปในตัว... หรืออยากให้ฉันใช้ปากช่วยดีคะ?”
แก่นกายใหญ่ถูกดันเข้าไปภายในความคับแน่นของกายสาว ผนังร้อนที่นุ่มหยุ่นด้านในตอดกระตุกรัดแน่นทุกการเคลื่อนไหวที่ผ่านเข้าไป“อ๊ะ อื้อ...”จัสมินครางกระเส่าร่างกายเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่คนตัวสูงส่งผ่านมา สายตาที่พยายามจะโฟกัสที่ท้องฟ้าถูกคนตัวสูงดึงดูดความสนใจไปหมดแล้วการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาสะกดให้เธอเพ่งมองแค่เขาไม่อาจละสายตา มือหนาที่จับขาเธอแยกออกจากกันกว้างเลื่อนขึ้นมาจับเอวคอดของเธอไว้แน่น กดจังหวะรัวเร็วขึ้นตามอารมณ์ปรารถนาที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงไนต์ปล่อยมือจากเอวคอดกิ่วของคนตัวเล็ก โน้มตัวลงหาเธอจนแผงอกแกร่งแนบชิดกับหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น กดริมฝีปากจูบลงที่ไหล่เล็กไล่ขึ้นตามลำคอระหง สองแขนค้ำยันทรงตัวเร่งจังหวะถี่รัวจนคนตัวเล็กเกร็งกระตุกอยู่ใต้พันธนาการ“อ๊ะ คุณไนต์ อื้อ... คะ คุณ...” คนตัวเล็กครางกระเส่า ยกมือขึ้นโอบกอดคนตัวสูงไว้แน่น จิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างระบายความเสียวซ่านที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงใกล้ถึงขีดสุดริมฝีปากหยักได้รูปไล่จูบซับขึ้นตามลำคอระหงจนถึงใบหูเล็ก ตวัดลิ้นเลียที่ใบหูของเธอจนร่างบางสั่นสะท้านหนักขึ้นกว่าเดิม“อื
“อ๊ะ...”เสียงครางแผ่วดังมาจากคนตัวเล็กที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาโกนหนวดด้วยความตั้งใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนตัวสูงไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือ“เป็นอะไร ทำต่อสิ” ไนต์ถามเสียงเรียบทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ความเป็นจริงเขากำลังก่อกวนเธอด้วยการบีบเคล้นสะโพกของเธออยู่“คุณก็อยู่นิ่งๆ ก่อนสิคะ”“สั่งฉัน?”“ถ้าคุณไม่นิ่งฉันก็ทำไม่ได้ เงยหน้าหน่อยค่ะ”ไนต์เงยหน้าขึ้นตามที่คนตัวเล็กบอก หยุดมือที่บีบขย้ำสะโพกของเธอลง ท่าทางตั้งใจนั่นทำให้เขายอมอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เธอโกนหนวดให้ต่อไปจัสมินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่คนตัวสูงยอมเงยหน้าตามที่เธอบอกง่ายๆ แถมยังยอมหยุดขย้ำสะโพกเธอด้วย แต่มือเขาก็ยังวางแหมะอยู่ที่ข้างต้นขาของเธอไม่ยอมขยับออกห่าง“เม้มปากให้หน่อยค่ะ”เป็นอีกครั้งที่ไนต์ทำตามคำสั่งอย่างไม่ถกเถียงอะไร ทำให้การโกนหนวดของจัสมินราบรื่นขึ้นจนใกล้จะเสร็จเรียบร้อยมือเล็กลูบเบาๆ ไปตามกรอบหน้าและปลายคางของคนตัวสูง เพื่อทดสอบดูว่าตัวเองนั้นโกนหนวดให้เขาเกลี้ยงเกลาดีแล้วหรือเปล่าสายตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้ดูจริงจังอย่างตั้งใจไม่วางตา เกิดคำถามขึ้นในใจว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เล่นกับเธอได้นานขน
จัสมินกลับถึงคอนโดตัวเองในช่วงเย็นที่แสงสว่างจากธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยแสงไฟ เธอกับไนต์แยกกันที่ลานจอดรถ และเธอไม่ได้ถามว่าเขาจะไปไหนต่อ หรือเอาง่ายๆ คือเธอไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องส่วนตัวของเขา แม้จะอยากรู้ว่าเขาจะไปไหนทำอะไรก็ได้แต่เก็บความสงสัยที่มีเอาไว้ในใจกล่องนาฬิกาเรือนหรูที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ ถูกหยิบออกมาเปิดดูอีกครั้ง ก่อนจะถูกเก็บเข้าไว้ในตู้โชว์อย่างดิบดี ดวงตาคู่สวยกวาดมองดูตู้เครื่องประดับของตัวเองที่มีทั้งนาฬิกา กำไลข้อมือ สร้อย แหวน รวมไปถึงตุ้มหู และเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย รวมๆ แล้วในตู้นี้มีมูลค่ามากถึงเลขเจ็ดหลัก ถ้ารวมพวกกระเป๋ารองเท้าด้วยราคาก็น่าจะเหยียบแปดหลักได้เธอคงจะเป็นของเล่นราคาแพงอย่างที่เขาว่าจริงๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะสิ่งของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเขาที่ให้มา แต่จะมีกระเป๋าใบหนึ่งที่ลูกค้าประจำที่เธอดูแลซื้อให้เป็นของขวัญ แต่ไนต์ไม่รู้ เขาคิดว่าเธอซื้อเอง และเธอก็ตั้งใจให้เขาเข้าใจแบบนั้น เพราะไม่อยากจะให้มีปัญหาตามมาครืน… ครืน…สมาร์ทโฟนที่ถูกปิดเสียงไว้เกิดแรงสั่นขึ้นให้ได้ยิน จัสมินละสายตาจากตู้เครื่องประดับมองหาสมาร์ทโฟนของตัวเองคิ้วเรียว
จัสมินและเทียร์น่าเดินเลือกซื้อเครื่องสำอางกันอย่างสนุก จากที่แรกๆ จัสมินเกร็งจนไม่กล้าหยิบจับอะไร แต่พอถูกเทียร์น่าจับให้ลองนั่นนี่ก็คลายความเกร็งที่มีลง ไปๆ มาๆ พวกเธอสองคนคล้ายจะคุยกันถูกคอซะแล้ว“เทียร์ว่ากลิ่นนี้เหมาะกับพี่มินมากเลยค่ะ หวานๆ แต่ซ่อนความเซ็กซี่ ดูน่าค้นหาสุดๆ”จัสมินชะงักมือที่กำลังจะหยิบน้ำหอมกลิ่นประจำของตัวเอง หันไปมองตามเสียงของเทียร์น่าที่ยื่นกระดาษเทสกลิ่นน้ำหอมส่งมาให้เธอลองดมดู“หอมดีนะคะ แต่พี่มีกลิ่นประจำที่ชอบอยู่แล้ว” เธอเคยลองเปลี่ยนไปใช้กลิ่นอื่นดูแล้วแต่ไนต์ไม่ชอบ...เลยต้องกลับมาใช้กลิ่นเดิม“กลิ่นไหนคะ ขอเทียร์ลองหน่อยสิ”ได้ยินแบบนั้นจัสมินก็หยิบน้ำหอมกลิ่นที่ตัวเองใช้ประจำส่งให้กับเทียร์น่าได้ลองดมกลิ่นดู“เอ๋...กลิ่นนี้คุ้นๆ เหมือนเคยได้กลิ่นมาจากพี่ไนต์เลยค่ะ” เทียร์น่าเอ่ยด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย พลางลอบสังเกตความผิดปกติของพี่สาวคนสวยที่เพิ่งได้รู้จักกัน“สงสัยคุณไนต์ก็คงใช้กลิ่นนี้ด้วยมั้งคะ”“พี่มินคะ นี่น้ำหอมผู้หญิงค่ะ พี่ไนต์ไม่ใช้อะไรแบบนี้หรอก” เธอว่าเธอมองไม่ผิดแน่ พี่ชายของเธอกับจัสมินต้องมีอะไรมากเกินกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่
จัสมินก้มหน้าก้มตาทานราเมงที่สั่งมา กะว่ารีบทานให้เส็จเร็วๆ จะได้รีบออกไปจากร้านนี้ แต่ทว่าขณะที่เธอกำลังเร่งรีบ คนที่นั่งอยู่โต๊ะในระดับสายตาก็พากันลุกขึ้นแล้วเดินออกไปก่อนเธอแล้วคนตัวเล็กมองตามสองคนหนุ่มสาวที่เดินออกจากร้านอาหารไป แล้วแอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดในการทานอาหารมื้อนี้ตอนแรกก็กะว่าจะรีบทานรีบออกไป แต่พอเห็นคนทั้งคู่ลุกไปก่อนเลยเลือกที่จะนั่งทานอาหารมื้อแรกของวันต่ออย่างใจเย็น แต่ในหัวก็ยังเอาแต่นึกถึงภาพของสองคนนั้นอยู่ตลอดเวลา อยากจะรู้ใจจะขาดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ถ้าเป็นคนรักของเขา เธอจะได้รีบจัดการตัวเองออกจากความสัมพันธ์นั้นโดยเร็ว ก่อนที่คนของเขาจะรู้ตัว...ฟุ่บ!ขวับ!ใบหน้าสวยหันขวับด้วยความรวดเร็วเมื่ออยู่ๆ ที่ว่างข้างกายก็มีคนเดินมานั่ง ความตกใจทำให้เธอรีบขยับออกห่างอย่างอัตโนมัติ และเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งลงเป็นใครก็ไม่ได้ทำให้ความตกใจของเธอลดน้อยลงเลย“คุณไนต์?!” ทำไมเขาถึงกลับมาได้ล่ะ เขากลับมาหาเธอเหรอ หรือว่าลืมของไว้แล้วแค่เดินกลับมาเอาไนต์จ้องมองคนตัวเล็กที่ดีดตัวออกห่างด้วยแววตานิ่งเฉย ก่อนจะละสายตาจากร่างบางมองไปบนโต๊ะที่มีถ้วยรา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะเข้ากับผิวกายที่โผล่พ้นออกมานอกผ้าห่ม ปลุกให้คนตัวเล็กที่หลับไหลไปด้วยความอ่อนเพลียรู้สึกตัว มือเล็กเอื้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายตัวเองจนถึงคอทั้งที่ตายังหลับ ขยับขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยความรู้สึกหนาวเย็นแรงขยับตัวของเธอดึงความสนใจจากคนตัวสูงที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ให้ละสายตาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือหันไปมอง ไนต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางการนอนของคนตัวเล็กผ่านรูปร่างของผ้าห่มผืนใหญ่ เธอขดตัวเข้าหากันจนแทบจะเป็นก้อนกลมๆ อยู่แล้วสายตาคมเหลือบมองที่รีโมทคอนโทรลของเครื่องปรับอากาศ เอื้อมมือหยิบขึ้นมากดปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เพราะตอนแรกที่เขามาถึงเขาเปิดทิ้งไว้ที่ 18 องศา จากนั้นก็มีกิจกรรมเข้าจังหวะกันไปไม่น้อยกว่าสองรอบ ทำให้ไม่ได้รู้สึกว่าอุณหภูมินั้นเย็นเกินไป แต่ตอนนี้กิจกรรมนั้นจบลงแล้ว และคนตัวเล็กเจ้าของห้องก็หมดแรงไปแล้วอย่างที่เห็นหมับ!ไนต์รีบหันกลับมามองเมื่อมีแรงกอดกระชับลงบนขาที่อยู่ใต้ผ้าห่ม คนที่เคยนอนขดตัวอยู่ข้างๆ ตอนนี้ขยับตัวเองมาแนบชิดกอดขาเขาไว้แน่นแล้วซุกใบหน้าลงที่ข้างเอวสอบของเขาไปด