หมับ!
ไนต์เอื้อมมือไปจับมือเล็กที่กำลังเล่นกับส่วนนั้นของตัวเองไว้ให้หยุด ก่อนจะขยับตัวขึ้นดันคนตัวเล็กให้พลิกกลับไปนอนลงที่เดิม ขยับตัวขึ้นคร่อมเธอไว้ กดข้อมือเล็กลงกับที่นอนนุ่ม สายตาคมจ้องมองใบหน้าสวยนิ่งๆ
“ตอนที่ฉันไม่อยู่… เธอคงไม่ได้ให้ใครทำแบบที่ทำกับฉันใช่ไหม”
“ฉันมีแค่คุณ” จัสมินตอบกลับทันทีเมื่อถูกถามมาแบบนั้น
เธอไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ เขาถึงได้มาถามเธอแบบนี้ ทั้งที่เขาน่าจะรู้ดีว่าเธอไม่ได้มีใครนอกจากเขาคนเดียว ถึงจะเป็นแค่ของเล่น แต่เธอก็เป็นของเล่นของเขาแค่คนเดียว
“รู้ไหมว่าเมื่อคืนเธอทำฉันหงุดหงิดแค่ไหน”
“ฉันทำอะไรคะ?” จัสมินถามกลับด้วยสีหน้างุนงงเมื่อได้ยินว่าที่เขาหงุดหงิดนั้นเป็นเพราะเธอ
ไนต์ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่มองเธอนิ่งๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียงครวนหาสิ่งของที่อยู่ด้านใน
ฟุ่บ!
กล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กกว่าฝ่ามือถูกโยนลงข้างศีรษะของคนตัวเล็ก ไนต์ดึงตัวกลับแล้วขยับขึ้นนั่งบนส้นเท้าตัวเอง หยิบกล่องสี่เหลี่ยมเล็กขึ้นมาแกะไปพลาง พร้อมกับจ้องมองไปที่คนตัวเล็กที่เอาแต่มองเขาด้วยสีหน้ามีแต่คำถามเต็มไปหมด
“อย่าให้เห็นว่าเธอไม่คิดจะปฏิเสธลูกค้าอีก”
“อ๋อ...” จัสมินถึงกับลากเสียงยาวเมื่อได้ยินสิ่งที่คนตัวสูงพูดออกมา
ที่แท้ก็หงุดหงิดเธอเพราะเรื่องงานของเธอเองสินะ
“อะไร?” ไนต์ชะงักมือที่กำลังฉีกซองถุงยางอนามัย เงยหน้าขึ้นขมวดคิ้วมองไปที่คนตัวเล็กที่ลากเสียงยาว
“คุณหงุดหงิดเพราะเรื่องนี้สินะคะ”
“รู้แล้วก็ดี” เขาตอบก่อนจะหยิบถุงยางอนามัยสวมลงบนแท่งร้อนของตัวเอง
“แต่นั่นมันงานฉันนี่คะ”
“อยากตกงานมั้ยจัสมิน”
“ไม่ค่ะ” คนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธทันที
ถึงจะมีความคิดที่อยากจะเลิกทำงานที่เปลืองตัวแบบนี้ แต่ถ้าต้องมาตกงานกะทันหันแบบนี้เธอไม่เอาด้วยหรอก เพราะเคยชิมรสชาติของความขมขืนที่แสนลำบากมาแล้ว
“ถอดเสื้อ” คนตัวสูงสั่งเสียงพร่า ก่อนจะเอื้อมมือดึงกางเกงชุดนอนพร้อมกับชั้นในตัวบางของเธอลงจนสุดปลายเท้า
จัสมินยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อชุดนอนของตัวเองออกตามสั่ง เพียงแค่กระดุมเสื้อหลุดออกก็เผยให้เห็นความนุ่มนิ่มของอกอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ เพราะเธอไม่ได้ใส่บรา
ไนต์ขยับแทรกกายเข้าไปนั่งระหว่างขาของคนตัวเล็ก สายตาคมจดจ้องไปที่กลางกายสาว ยกมือขึ้นลูบไล้ที่เนินเนื้อจนคนตัวเล็กแอบสะดุ้งเบาๆ ลากมือต่ำลงก่อนจะค่อยๆ สอดแทรกนิ้วเข้าไปสำรวจภายในช่องทางรักที่คุ้นเคย ทุกครั้งที่ได้สัมผัสแนบชิดผนังร้อนนุ่มหยุ่นด้านในก็ตอดกระตุกรัดแน่นเขาทุกที
ไม่ว่าจะเป็นนิ้วหรือแท่งร้อนลำใหญ่
“อ๊ะ~” เสียงเล็กหลุดครางออกมาด้วยความเสียวที่ทนไม่ไหว
ริมฝีปากหยักได้รูปยกยิ้มร้าย ดันนิ้วเข้าลึกจนถึงจุดอ่อนไหวด้านใน ขยับนิ้วกระแทกเข้าใส่จุดอ่อนไหวซ้ำๆ จนช่องทางรักของคนตัวเล็กตอดกระตุกถี่พร้อมกับร่างกายที่บิดเร้ากระสับกระส่ายไปมา
ไนต์รีบดึงนิ้วที่เคลือบไปด้วยน้ำหวานของคนตัวเล็กออกจากช่องทางรักคับแน่น จับแท่งร้อนที่ขยายใหญ่ถูไถกับช่องทางรักที่เปียกแฉะ แล้วกดส่วนหัวเข้าไปด้านในดันความใหญ่โตฝ่าความคับแน่นเข้าไปจนถึงจุดลึกสุด
“อะ อื้อ...!” เสียงเล็กครางกระเส่า สองมือกำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อร่างกายสั่นสะท้านด้วยความเสียวซ่าน
“อย่าเพิ่งรีบเสร็จล่ะ ฉันยังไม่ทันได้กระแทกเลย” แรงกระตุกรัดแน่นจากด้านในทำให้เขาต้องรีบเงยหน้าขึ้นบอก กลัวว่าคนตัวเล็กจะชิงเสร็จไปก่อนทั้งที่เขายังไม่ทันจะได้ขยับตัวด้วยซ้ำ
สะโพกสอบดึงจังหวะการเคลื่อนไหวอย่างเนิบนาบเพื่อนำทาง และเริ่มถี่รัวเมื่อความเสียวซ่านเข้าเล่นงานหนักขึ้น
“อ๊ะ บะ เบาหน่อยค่ะ อ๊า...”
“แน่ใจเหรอว่าอยากให้เบากว่านี้” ไนต์ถามพร้อมรอยยิ้มร้าย
เขารู้ว่าเธอชอบแบบไหน แบบไหนที่จะทำให้คนตัวเล็กถึงพร้อมกันกับเขาได้ และแทนที่เขาจะผ่อนแรงกระแทกกระทั้นให้เบาลงแต่กลับยิ่งเร่งจังหวะถี่รัวขึ้นอีก
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงครางเสียวของคนตัวเล็ก ร่างบางสั่นสะท้านตอบรับแรงกระแทกที่หนักหน่วงด้วยการยกสะโพกลอยสูงเข้าใส่จังหวะที่คนตัวสูงส่งมา
“ยังอยากให้เบาอยู่มั้ย?”
“มะ ไม่ อะ...อื้อ!” จัสมินส่ายหน้ารัว ปฏิเสธทันทีว่าไม่อยากให้เขาผ่อนแรงลง เพราะเธอจะเสร็จแล้ว
ไนต์เลื่อนสองมือจับเอวคอดไว้มั่น โหมแรงที่มีกระแทกกระทั้นถี่รัวจนคนตัวเล็กร่างกายสั่นคลอนไปตามแรงของเขา ใบหน้าหล่อเหลาเชิ่ดสูงส่งเสียงคำรามในลำคอหนาด้วยความเสียวที่ทนไม่ไหว กายแกร่งกระตุกเกร็งพร้อมกับร่างบางที่สั่นสะท้านอย่างหนักเมื่อกำลังจะถึงจุดสุดยอด
“อ๊ะ... คะ คุณ อะ อร๊าย~”
เสียงครางหวานของจัสมินดังลั่นพร้อมกับร่างกายที่กระตุกเฮือก ปลดปล่อยความสุขที่ปรารถนานำหน้าคนตัวสูงมาก่อน เพียงแค่เสี้ยววินาทีต่อมาเขาก็แตะถึงความสุขสมตามเธอไปติดๆ
“อ่าส์...!”
คนตัวเล็กหอบหายใจถี่พร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยลงอย่างคนหมดแรง หน้าอกอวบอิ่มกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะของลมหายใจที่รุนแรง ไม่ต่างจากคนตัวสูงที่หอบหายใจแรงไม่แพ้กัน มือหนาทั้งสองข้างยังคงจับยึดเอวคอดไว้มั่น ปล่อยให้ช่องทางรักของเธอกระตุกตอดรัดแท่งร้อนของเขาอยู่แบบนั้น จนทุกอย่างเริ่มสงบลงจึงถอดถอนตัวตนออกจากความคับแน่น แล้วถอดถุงยางอนามัยที่เต็มไปด้วยของเหลวสีขาวขุ่นโยนทิ้งลงพื้น
ไนต์เอื้อมหยิบกล่องถุงยางที่วางอยู่เหนือศีรษะคนตัวเล็ก เทถุงยางส่วนที่เหลือในกล่องลงบนที่นอน ละสายตาจากสิ่งป้องกันหันไปมองคนตัวเล็กที่นอนหน้าแดงระเรื่อมองเขาอยู่
“คุณจะทำอีกเหรอคะ” จัสมินเอ่ยถามเสียงแผ่ว เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงกำลังฉีกซองถุงยางอนามัยอันใหม่
“ทำไม ทำอีกไม่ได้?”
“แต่ฉันต้องเตรียมตัวไปทำงาน เอาไว้คืนนี้...”
“ไม่ต้องไป” ไนต์พูดแทรกทันควันพร้อมกับมือหนาที่รูดเกราะป้องกันบางเบาลงบนแท่งร้อนที่ยังไม่ยอมสงบ “หรือถ้าอยากไปก็ใช้ให้หมดค่อยไป”
จัสมินมองไปที่ซองถุงยางอนามัยอีกหนึ่งชิ้นที่ยังไม่ได้แกะ รวมที่เขาเพิ่งจะสวมใส่ไปเมื่อกี้ก็เป็นสอง ถ้านับหมดก็คงสามรอบ ถ้าเขาทำถึงสามรอบเธอคงไม่มีแรงเหลือไปทำงานแน่
“แล้วถ้าไม่ไปล่ะคะ”
“ก็ใช้จนหมดอยู่ดี”
สุดท้ายก็เป็นข้อบังคับให้เธอต้องหยุดงานอยู่ดี เพราะต่อให้จะไปหรือไม่ไปก็มีค่าเท่าเดิม คือถูกเขาตักตวงความปรารถนาอย่างเอาแต่ใจเหมือนเดิม
เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กไม่ได้พูดอะไรต่อจึงเอื้อมมือหนาไปจับแขนเธอแล้วดึงให้ลุกขึ้น ก่อนจะจับร่างบางให้พลิกหันหลังให้ในท่าคลานเข่า
จัสมินเอี้ยวหน้ากลับไปมองด้านหลัง ริมฝีปากอวบอิ่มถูกกัดไว้แน่นเมื่อความใหญ่โตกำลังแทรกผ่านเข้ามาภายในช่องทางรักที่ชุ่มฉ่ำ ก่อนที่คนตัวสูงจะเริ่มจังหวะตักตวงความปรารถนาจากเธออีกครั้ง...
แก่นกายใหญ่ถูกดันเข้าไปภายในความคับแน่นของกายสาว ผนังร้อนที่นุ่มหยุ่นด้านในตอดกระตุกรัดแน่นทุกการเคลื่อนไหวที่ผ่านเข้าไป“อ๊ะ อื้อ...”จัสมินครางกระเส่าร่างกายเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้นที่คนตัวสูงส่งผ่านมา สายตาที่พยายามจะโฟกัสที่ท้องฟ้าถูกคนตัวสูงดึงดูดความสนใจไปหมดแล้วการเคลื่อนไหวร่างกายของเขาสะกดให้เธอเพ่งมองแค่เขาไม่อาจละสายตา มือหนาที่จับขาเธอแยกออกจากกันกว้างเลื่อนขึ้นมาจับเอวคอดของเธอไว้แน่น กดจังหวะรัวเร็วขึ้นตามอารมณ์ปรารถนาที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงไนต์ปล่อยมือจากเอวคอดกิ่วของคนตัวเล็ก โน้มตัวลงหาเธอจนแผงอกแกร่งแนบชิดกับหน้าอกอวบอิ่มที่กระเพื่อมเคลื่อนไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น กดริมฝีปากจูบลงที่ไหล่เล็กไล่ขึ้นตามลำคอระหง สองแขนค้ำยันทรงตัวเร่งจังหวะถี่รัวจนคนตัวเล็กเกร็งกระตุกอยู่ใต้พันธนาการ“อ๊ะ คุณไนต์ อื้อ... คะ คุณ...” คนตัวเล็กครางกระเส่า ยกมือขึ้นโอบกอดคนตัวสูงไว้แน่น จิกเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างระบายความเสียวซ่านที่กำลังพุ่งทยานขึ้นสูงใกล้ถึงขีดสุดริมฝีปากหยักได้รูปไล่จูบซับขึ้นตามลำคอระหงจนถึงใบหูเล็ก ตวัดลิ้นเลียที่ใบหูของเธอจนร่างบางสั่นสะท้านหนักขึ้นกว่าเดิม“อื
“อ๊ะ...”เสียงครางแผ่วดังมาจากคนตัวเล็กที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาโกนหนวดด้วยความตั้งใจ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อคนตัวสูงไม่ค่อยจะให้ความร่วมมือ“เป็นอะไร ทำต่อสิ” ไนต์ถามเสียงเรียบทำหน้านิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่ความเป็นจริงเขากำลังก่อกวนเธอด้วยการบีบเคล้นสะโพกของเธออยู่“คุณก็อยู่นิ่งๆ ก่อนสิคะ”“สั่งฉัน?”“ถ้าคุณไม่นิ่งฉันก็ทำไม่ได้ เงยหน้าหน่อยค่ะ”ไนต์เงยหน้าขึ้นตามที่คนตัวเล็กบอก หยุดมือที่บีบขย้ำสะโพกของเธอลง ท่าทางตั้งใจนั่นทำให้เขายอมอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เธอโกนหนวดให้ต่อไปจัสมินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่คนตัวสูงยอมเงยหน้าตามที่เธอบอกง่ายๆ แถมยังยอมหยุดขย้ำสะโพกเธอด้วย แต่มือเขาก็ยังวางแหมะอยู่ที่ข้างต้นขาของเธอไม่ยอมขยับออกห่าง“เม้มปากให้หน่อยค่ะ”เป็นอีกครั้งที่ไนต์ทำตามคำสั่งอย่างไม่ถกเถียงอะไร ทำให้การโกนหนวดของจัสมินราบรื่นขึ้นจนใกล้จะเสร็จเรียบร้อยมือเล็กลูบเบาๆ ไปตามกรอบหน้าและปลายคางของคนตัวสูง เพื่อทดสอบดูว่าตัวเองนั้นโกนหนวดให้เขาเกลี้ยงเกลาดีแล้วหรือเปล่าสายตาคมจ้องมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้ดูจริงจังอย่างตั้งใจไม่วางตา เกิดคำถามขึ้นในใจว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เล่นกับเธอได้นานขน
จัสมินกลับถึงคอนโดตัวเองในช่วงเย็นที่แสงสว่างจากธรรมชาติถูกแทนที่ด้วยแสงไฟ เธอกับไนต์แยกกันที่ลานจอดรถ และเธอไม่ได้ถามว่าเขาจะไปไหนต่อ หรือเอาง่ายๆ คือเธอไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องส่วนตัวของเขา แม้จะอยากรู้ว่าเขาจะไปไหนทำอะไรก็ได้แต่เก็บความสงสัยที่มีเอาไว้ในใจกล่องนาฬิกาเรือนหรูที่เพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ ถูกหยิบออกมาเปิดดูอีกครั้ง ก่อนจะถูกเก็บเข้าไว้ในตู้โชว์อย่างดิบดี ดวงตาคู่สวยกวาดมองดูตู้เครื่องประดับของตัวเองที่มีทั้งนาฬิกา กำไลข้อมือ สร้อย แหวน รวมไปถึงตุ้มหู และเครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ อีกมากมาย รวมๆ แล้วในตู้นี้มีมูลค่ามากถึงเลขเจ็ดหลัก ถ้ารวมพวกกระเป๋ารองเท้าด้วยราคาก็น่าจะเหยียบแปดหลักได้เธอคงจะเป็นของเล่นราคาแพงอย่างที่เขาว่าจริงๆ อย่างปฏิเสธไม่ได้ เพราะสิ่งของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเขาที่ให้มา แต่จะมีกระเป๋าใบหนึ่งที่ลูกค้าประจำที่เธอดูแลซื้อให้เป็นของขวัญ แต่ไนต์ไม่รู้ เขาคิดว่าเธอซื้อเอง และเธอก็ตั้งใจให้เขาเข้าใจแบบนั้น เพราะไม่อยากจะให้มีปัญหาตามมาครืน… ครืน…สมาร์ทโฟนที่ถูกปิดเสียงไว้เกิดแรงสั่นขึ้นให้ได้ยิน จัสมินละสายตาจากตู้เครื่องประดับมองหาสมาร์ทโฟนของตัวเองคิ้วเรียว
จัสมินและเทียร์น่าเดินเลือกซื้อเครื่องสำอางกันอย่างสนุก จากที่แรกๆ จัสมินเกร็งจนไม่กล้าหยิบจับอะไร แต่พอถูกเทียร์น่าจับให้ลองนั่นนี่ก็คลายความเกร็งที่มีลง ไปๆ มาๆ พวกเธอสองคนคล้ายจะคุยกันถูกคอซะแล้ว“เทียร์ว่ากลิ่นนี้เหมาะกับพี่มินมากเลยค่ะ หวานๆ แต่ซ่อนความเซ็กซี่ ดูน่าค้นหาสุดๆ”จัสมินชะงักมือที่กำลังจะหยิบน้ำหอมกลิ่นประจำของตัวเอง หันไปมองตามเสียงของเทียร์น่าที่ยื่นกระดาษเทสกลิ่นน้ำหอมส่งมาให้เธอลองดมดู“หอมดีนะคะ แต่พี่มีกลิ่นประจำที่ชอบอยู่แล้ว” เธอเคยลองเปลี่ยนไปใช้กลิ่นอื่นดูแล้วแต่ไนต์ไม่ชอบ...เลยต้องกลับมาใช้กลิ่นเดิม“กลิ่นไหนคะ ขอเทียร์ลองหน่อยสิ”ได้ยินแบบนั้นจัสมินก็หยิบน้ำหอมกลิ่นที่ตัวเองใช้ประจำส่งให้กับเทียร์น่าได้ลองดมกลิ่นดู“เอ๋...กลิ่นนี้คุ้นๆ เหมือนเคยได้กลิ่นมาจากพี่ไนต์เลยค่ะ” เทียร์น่าเอ่ยด้วยสีหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย พลางลอบสังเกตความผิดปกติของพี่สาวคนสวยที่เพิ่งได้รู้จักกัน“สงสัยคุณไนต์ก็คงใช้กลิ่นนี้ด้วยมั้งคะ”“พี่มินคะ นี่น้ำหอมผู้หญิงค่ะ พี่ไนต์ไม่ใช้อะไรแบบนี้หรอก” เธอว่าเธอมองไม่ผิดแน่ พี่ชายของเธอกับจัสมินต้องมีอะไรมากเกินกว่าคำว่าเจ้านายกับลูกน้อง แต่
จัสมินก้มหน้าก้มตาทานราเมงที่สั่งมา กะว่ารีบทานให้เส็จเร็วๆ จะได้รีบออกไปจากร้านนี้ แต่ทว่าขณะที่เธอกำลังเร่งรีบ คนที่นั่งอยู่โต๊ะในระดับสายตาก็พากันลุกขึ้นแล้วเดินออกไปก่อนเธอแล้วคนตัวเล็กมองตามสองคนหนุ่มสาวที่เดินออกจากร้านอาหารไป แล้วแอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่ต้องรู้สึกอึดอัดในการทานอาหารมื้อนี้ตอนแรกก็กะว่าจะรีบทานรีบออกไป แต่พอเห็นคนทั้งคู่ลุกไปก่อนเลยเลือกที่จะนั่งทานอาหารมื้อแรกของวันต่ออย่างใจเย็น แต่ในหัวก็ยังเอาแต่นึกถึงภาพของสองคนนั้นอยู่ตลอดเวลา อยากจะรู้ใจจะขาดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ถ้าเป็นคนรักของเขา เธอจะได้รีบจัดการตัวเองออกจากความสัมพันธ์นั้นโดยเร็ว ก่อนที่คนของเขาจะรู้ตัว...ฟุ่บ!ขวับ!ใบหน้าสวยหันขวับด้วยความรวดเร็วเมื่ออยู่ๆ ที่ว่างข้างกายก็มีคนเดินมานั่ง ความตกใจทำให้เธอรีบขยับออกห่างอย่างอัตโนมัติ และเมื่อเห็นว่าคนที่นั่งลงเป็นใครก็ไม่ได้ทำให้ความตกใจของเธอลดน้อยลงเลย“คุณไนต์?!” ทำไมเขาถึงกลับมาได้ล่ะ เขากลับมาหาเธอเหรอ หรือว่าลืมของไว้แล้วแค่เดินกลับมาเอาไนต์จ้องมองคนตัวเล็กที่ดีดตัวออกห่างด้วยแววตานิ่งเฉย ก่อนจะละสายตาจากร่างบางมองไปบนโต๊ะที่มีถ้วยรา
หนึ่งสัปดาห์ต่อมา...ไอความเย็นจากเครื่องปรับอากาศปะทะเข้ากับผิวกายที่โผล่พ้นออกมานอกผ้าห่ม ปลุกให้คนตัวเล็กที่หลับไหลไปด้วยความอ่อนเพลียรู้สึกตัว มือเล็กเอื้อมดึงผ้าห่มขึ้นคลุมร่างกายตัวเองจนถึงคอทั้งที่ตายังหลับ ขยับขดตัวอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ด้วยความรู้สึกหนาวเย็นแรงขยับตัวของเธอดึงความสนใจจากคนตัวสูงที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ให้ละสายตาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนในมือหันไปมอง ไนต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทางการนอนของคนตัวเล็กผ่านรูปร่างของผ้าห่มผืนใหญ่ เธอขดตัวเข้าหากันจนแทบจะเป็นก้อนกลมๆ อยู่แล้วสายตาคมเหลือบมองที่รีโมทคอนโทรลของเครื่องปรับอากาศ เอื้อมมือหยิบขึ้นมากดปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เพราะตอนแรกที่เขามาถึงเขาเปิดทิ้งไว้ที่ 18 องศา จากนั้นก็มีกิจกรรมเข้าจังหวะกันไปไม่น้อยกว่าสองรอบ ทำให้ไม่ได้รู้สึกว่าอุณหภูมินั้นเย็นเกินไป แต่ตอนนี้กิจกรรมนั้นจบลงแล้ว และคนตัวเล็กเจ้าของห้องก็หมดแรงไปแล้วอย่างที่เห็นหมับ!ไนต์รีบหันกลับมามองเมื่อมีแรงกอดกระชับลงบนขาที่อยู่ใต้ผ้าห่ม คนที่เคยนอนขดตัวอยู่ข้างๆ ตอนนี้ขยับตัวเองมาแนบชิดกอดขาเขาไว้แน่นแล้วซุกใบหน้าลงที่ข้างเอวสอบของเขาไปด