Beranda / รักโบราณ / ขอทุกข์เพียงชาติเดียวพอ / ท่านพี่จะเชื่อข้าหรือไม่

Share

ท่านพี่จะเชื่อข้าหรือไม่

Penulis: l3oonm@
last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-11 08:47:57

บุตรชายของหูซื่อก็คือ ท่านอารองของนาง การที่นางจะรักและเชื่อหวงซื่อกับจินหร่วนก็ไม่ผิด

“น้องสาวเจ้าบอกข้า ข้าเป็นพี่ชายเจ้า ย่อมจะต้องเชื่อเจ้า” จินหว่านอดที่จะมองชุยจิ้นอย่างซาบซึ้งไม่ได้

“เจ้าค่ะ พวกท่านก็เห็น เครื่องประดับข้ามีน้อยเสียที่ไหน เพียงดอกไม้ผ้าไหมเพียงดอกเดียวนับเป็นอันใด อาหร่วนอยากได้จากข้า หากขอข้าดีๆ มีหรือที่ข้ามีทุกสิ่งจะไม่แบ่งปันนาง แต่นางหมายเข้ามาแย่งข้าจากมือ ข้าทนไม่ได้เจ้าค่ะ” อย่างน้อยเรื่องดีเรื่องหนึ่งของจินหว่าน คือครอบครัวนางยอมรับฟังนางเสมอ

“หึ เป็นเช่นที่ข้าคิดไม่ผิด หากหว่านวานของข้าไม่หมดสติถึงสามวัน ท่านแม่ก็คงให้นางไปคุกเข่าอยู่ที่ศาลบรรพชนแล้ว”

“อาเหลียน” ชุยเซียวอดที่จะตำหนิภรรยารักไม่ได้ ต่อให้หูซื่อที่มีความเกี่ยวข้องกับเขา แต่นางก็ได้ชื่อว่ามารดาจะตำหนินางลับหลังคงจะดูไม่ดี หากผู้ใดมาได้ยินเข้า ไม่แคล้วเขาคงได้ถูกร้องเรียนว่าไม่มีความกตัญญู “ครอบครัวอารองของเจ้ามิได้มีบุตรีเพียงแค่อาหร่วนเพียงผู้เดียว บุตรของอนุก็มีอีกหลายคน นางคงไม่ได้มีเครื่องประดับมากเหมือนเจ้า แล้วอีกอย่างนางก็เพียงเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เรื่องในหนนี้ก็ให้แล้วกันไปเถิด”

บิดาของนางก็เป็นเช่นนี้ แม้จะโกรธแค้นแต่ก็ยอมลงให้บ้านรองเสมอ ด้วยรู้สึกผิดที่ชุยหมิ่นต้องระหกระเหินไปอยู่ต่างเมืองเกือบสิบปี แต่ทั้งหมดก็เป็นที่ตัวเขาเองไม่ใช่หรือ หากไม่รับสินบนจะถูกย้ายไปเป็นเพียงนายอำเภอต่างเมืองเล็กๆ ได้อย่างไร ท่านย่าที่แสนดีของนางก็ร่ำร้องโวยวายกับบิดาอยู่บ่อยครั้ง เพื่อให้ช่วยดึงท่านอารองของนางกลับมาเป็นขุนนางในเมืองหลวง

แต่เรื่องเพิ่งจะเกิดขึ้น จะให้เขากลับมาเร็วเพียงนั้นได้อย่างไร สุดท้ายก็ต้องรอให้ฮ่องเต้ลืมเลือนเรื่องที่เกิดในปีนั้นไปเสียก่อน จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ตำแหน่งในกรมพิธีการว่างลง ถึงจะเป็นเพียงขุนนางขั้นห้า ไม่ค่อยได้มีบทบาทในราชสำนักเท่าใด แต่ก็ดีว่าอยู่ต่างเมืองที่ไม่อาจมีผลงานให้เติบโตได้ ชุยหมิ่นจึงได้เดินทางกลับมาเมืองหลวงตามที่ปรารถนา

บิดามารดาเอ่ยถามจินหว่านอีกเพียงไม่กี่ประโยค เมื่อเห็นสีหน้าที่เหน็ดเหนื่อยของนางต่างก็พากันออกไป แต่มือคู่น้อยดึงรั้งพี่ชายของตนเอาไว้เพื่อให้อยู่พูดคุยกันเสียก่อน

“มีอันใดหรือ” ชุยจิ้นหันมาถามอย่างไม่เข้าใจ

“พี่ใหญ่ ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน” ชุยจิ้นนั่งลงข้างเตียงพร้อมมองน้องสาวอย่างตั้งใจ จินหว่านนางส่งสายตาให้สาวใช้ออกไปจากห้อง แล้วให้เสี่ยวผิงเฝ้าหน้าห้องของนางไว้ ด้วยกลัวว่าจะมีผู้ใดแอบฟังเรื่องที่นางจะพูด

“เหตุใดเจ้าถึงได้ระวังเช่นนี้” ชุยจิ้นคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ

“หากข้าเล่าเรื่องใดให้พี่ฟัง พี่จะเชื่อข้าหรือไม่” มีเพียงพี่ชายวัยสิบสี่หนาวของนางเท่านั้นที่จะพึ่งพาได้

นางเป็นเด็กอายุเพียงสิบหนาวในตอนนี้หากออกไปพูดเรื่องที่บ้านรองคิดจะทำร้ายบ้านใหญ่ทั้งหมดออกมาให้บิดามารดาฟัง พวกเขาจะต้องคิดว่านางป่วยจนเพ้อไปแล้วเป็นแน่ นางจึงเลือกพูดกับชุยจิ้นแทน

“ว่ามาเถิด” เมื่อเห็นสีหน้าของน้องสาวจริงจัง ชุยจิ้นก็คิดเอาไว้แล้วว่าจะต้องเกิดเรื่องไม่ดีแน่

จินหว่านจำได้ว่า หลังจากที่ท่านอารองเดินทางกลับมาเมืองหลวงไม่นาน เขาจะก่อเรื่องขึ้นอีกครั้ง เมื่อทบทวนดูแล้วยามนี้มันคงยังไม่เกิดขึ้น แต่ดูท่าคงจะเร็วๆ นี้แล้ว

ชุยหมิ่นเมื่อกลับมาถึงเมืองหลวงก็เริ่มสานสัมพันธ์กับสหายเก่าทันที ทั้งส่งของกำนัล พาไปเลี้ยงที่เหลาอาหารและเหลาสุราอย่างใจกว้าง ไหนจะซื้อข้าวของเพื่อเอาใจขุนนางตำแหน่งใหญ่โตเพื่อปูทางให้กับตำแหน่งของตนเองในภายหน้า โดยไม่คำนึงถึงเสียงคัดค้านของพี่ชายต่างมารดาเลย

ก่อนหน้านี้ชุยเซียวทะเลาะกับชุยหมิ่นไปแล้วหนึ่งรอบ ก็เป็นเรื่องเงินกองกลางที่ชุยหมิ่นถลุงไปไม่น้อย ชุยเซียวถึงขนาดจะขอแยกบ้านมาแล้ว แต่หูซื่อนางไม่ยอม หากโดยชุยเซียวถอดทิ้งบุตรชายของนางจะมีหน้าอยู่ในราชสำนักได้อย่างไร หูซื่อย่อมรู้ดีว่าทุกวันนี้ขุนนางในเมืองหลวงยอมพูดคุยกับชุยหมิ่นก็เพราะตำแหน่งของชุยเซียว สุดท้ายหูซื่อก็ต้องยอมนำสินเดิมของนางที่เก็บเอาไว้อย่างหวงแหนออกมาทดแทนส่วนที่ชุยหมิ่นผลาญไป หวงซื่อแทบอยากจะฉีกหน้าไป๋ซื่อยามที่นางเอ่ยพูดจำนวนเงินออกมา แต่ก็ต้องข่มใจเอาไว้ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่นางจะวางท่าได้

“ท่านพี่ อีกไม่นานท่านอารองจะเข้าไปพัวพันเรื่องลอบค้าของเถื่อน”

“ห๊ะ!!! เจ้าพูดอันใด จะเป็นไปได้อย่างไร” ชุยหมิ่นไม่อยากจะเชื่อ ด้วยก่อนหน้านี้ที่ท่านอารองของตนถูกลดขั้นก็เป็นด้วยเรื่องที่เขาเข้าไปพัวพันเรื่องติดสินบน แล้วครั้งนี้ยังจะกล้าหาญถึงขั้นค้าของเถื่อนเลยหรือ

“ท่านฟังข้าก่อน ท่านยังไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้ ข้ารู้ว่าท่านฉลาดไม่ต่างจากท่านพ่อ เพียงแค่ส่งบ่าวที่ไว้ใจได้ให้ติดตามดูท่านอารองเพียงไม่กี่วันก็คงจะทราบเรื่อง แต่ท่านพี่ ท่านรู้ใช่หรือไม่ ท่านจะบอกท่านพ่อไม่ได้ว่าข้าบอก ท่านต้องทำให้ท่านพ่อล่วงรู้เสียก่อน”

“แล้วเจ้ารู้ได้อย่างไร” ชุยจิ้นมองใบหน้าซีดขาวของน้องสาวอย่างค้นหา

“ข้าฝัน แต่เหตุการณ์เหมือนจริงมาก หากท่านไม่เชื่อข้า ผลที่ตามมาท่านรู้ใช่หรือไม่ แม้จะไม่ใช่ความผิดของท่านพ่อ อย่างไรก็ตระกูลชุยเหมือนกัน ย่อมไม่อาจหลีกหนีภัยได้ ถึงครั้งนี้ท่านอารองจะหาหนทางปิดบังไม่ให้เรื่องมาถึงตัวได้ แต่ต่อไปผู้ใดจะรับรองว่าเขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก” แววตาของจินหว่านเยือกเย็นลง ครั้งนี้ไม่เกิดเรื่องร้ายแรง แต่คนที่เกี่ยวข้องล้วนถูกตัดสินโทษอย่างโหดร้าย

ชุยเซียวช่วยจัดการหลักฐานที่จะสาวมาถึงตัวของชุยหมิ่นเอาไว้ได้ทัน แต่เขาก็ต้องยอมรับผลที่ถูกฮ่องเต้เพ่งเล็งจนไม่อาจก้าวเดินได้อย่างเต็มฝ่าเท้า สุดท้ายก็ยังเป็นชุยหมิ่นที่สร้างเรื่องจนตำแหน่งขุนนางของชุยเซียวถูกลดขั้น แต่ก็เป็นเรื่องในภายหลัง จินหว่านไม่ต้องการให้เรื่องร้ายเกิดขึ้นสักเรื่องเดียว นางต้องการให้บิดาของนางแยกตระกูลชุยเป็นสายหลักกับสายรอง ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับบ้านรองอีก เพื่อจะได้ไม่ต้องหาเรื่องใส่ตัว

“ข้าจะลองเอาไปคิดดู”

จินหว่านก็ไม่ได้คิดว่าพี่ชายนางจะเชื่อทั้งหมด เพียงแต่นางต้องการให้พี่ชายของนางตรวจสอบเรื่องราวเสียก่อน อย่างน้อยหากเขาเชื่อนางในครั้งนี้ก็ย่อมแก้ไขได้ทัน หากไม่เชื่อนาง...เมื่อเกิดเรื่องขึ้นเขาจริง ต่อไปไม่ว่านางจะพูดเรื่องใด เขาย่อมต้องเชื่อนางอย่างสุดใจ

ชุยจิ้นกลับออกจากเรือนจินหว่านไปด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาไม่ได้เชื่อน้องสาวที่บอกว่ารู้เหตุการณ์จากความฝันทั้งหมด แต่เมื่อนึกย้อนดูสิ่งที่อารองทำทั้งหมดก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

“เจ้าแอบติดตามอารองไปอย่าให้เขาจับได้” เขาหันไปสั่งบ่าวที่อยู่ข้างกายที่ติดตามมาตั้งแต่เล็กทันที

จินหว่านแม้จะฟื้นขึ้นมาแล้ว แต่ร่างกายของนางยังอ่อนแออยู่จึงไม่ต้องไปคารวะหูซื่อเช้าเย็นตามธรรมเนียม และนางยังปิดประตูเรือนไม่รับแขกอีกด้วย นอกจากคนในครอบครัวของนาง จินหร่วนที่อยากมาดูอาการของจินหว่านทันทีที่นางตื่นขึ้นก็ถูกขวางเอาไว้อยู่ที่หน้าเรือน

“เหตุใดข้าถึงเข้าไม่ได้ หากพี่หญิงใหญ่รู้สึกผิดที่ผลักข้าตกน้ำ เจ้าไปบอกนางข้าไม่ถือ” นางยิ้มออกมาอย่างใจกว้าง

“มิใช่เจ้าค่ะ ร่างกายของคุณหนูใหญ่ยังลงเหลือไอเย็นอยู่ไม่น้อย หากคุณหนูรองกับคุณหนูสามเข้าไปในยามนี้ บ่าวเกรงว่าจะติดไข้เอาได้เจ้าค่ะ” เสี่ยวผิงอยากจะเบ้ปากใส่จินหร่วนที่โยนความผิดให้คุณหนูของนางโดยไม่กะพริบตา แต่ก็ต้องกดข่มเอาไว้

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ขอทุกข์เพียงชาติเดียวพอ   ภาพฝันของเจ้าเป็นจริง

    "ข้าไม่คิดว่าพี่หญิงใหญ่จะอ่อนแอเพียงนี้ ตกน้ำเหมือนกับพี่หญิงรองแต่นางถึงกับสลบไปสามวัน นี่ก็ยังมีไข้อยู่อีกหรือ” จินหลัน ลูกอนุของบ้านร้องเอ่ยถามอย่างสงสัย นางมองไปที่พี่สาวร่วมบิดาของนางอย่างไม่เข้าใจ ช่วยขึ้นมาพร้อมกันแต่อีกคนเป็นหนัก อีกคนดูเหมือนจะไม่เป็นอันใดเลยจินหลันรู้ดีว่าจินหร่วนมีนิสัยเช่นใด ที่อยากมาดูจินหว่านก็เป็นเพราะต้องการเห็นสภาพของคุณหนูใหญ่ชุยในตอนย่ำแย่เท่านั้นไม่ได้อยากจะมาเยี่ยมอย่างที่ปากนางพูด ส่วนนาง...มาเพื่อชมความสนุกเท่านั้น“เหอะ ไม่ให้เข้าก็ไม่เข้า” จินหร่วนสะบัดหน้าหนีไปอย่างไม่ไยดี จินหลันทำได้เพียงเร่งฝีเท้าตามกลับไปชุยจิ้น ส่งบ่าวข้างกายไปติดตามชุยหมิ่นอยู่สองวันเต็มๆ ก็พบความผิดปกติแล้ว บ่าวข้างกายของชุยหมิ่นเข้าออกร้านเครื่องลายครามและภาพวาดโบราณอยู่หลายหน มีทั้งที่ถือสิ่งของติดมือกลับมาและนำสิ่งของเข้าไปเลือกเปลี่ยนเป็นเงิน ชุยจิ้นเมื่อได้ฟังรายงานสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นกังวลทันที ที่น้องสาวพูดออกมาเป็นเรื่องจริง เขาไม่อาจเสียเวลาต่อได้แม้แต่เพียงอึดใจเดียว เมื่อสอบถามได้ความว่าบิดาเดินทางกลับมาถึงจวนแล้วก็ออกไปพบทันที“ท่านพ่อ”“มีเรื่องใด”

  • ขอทุกข์เพียงชาติเดียวพอ   ท่านพี่จะเชื่อข้าหรือไม่

    บุตรชายของหูซื่อก็คือ ท่านอารองของนาง การที่นางจะรักและเชื่อหวงซื่อกับจินหร่วนก็ไม่ผิด“น้องสาวเจ้าบอกข้า ข้าเป็นพี่ชายเจ้า ย่อมจะต้องเชื่อเจ้า” จินหว่านอดที่จะมองชุยจิ้นอย่างซาบซึ้งไม่ได้“เจ้าค่ะ พวกท่านก็เห็น เครื่องประดับข้ามีน้อยเสียที่ไหน เพียงดอกไม้ผ้าไหมเพียงดอกเดียวนับเป็นอันใด อาหร่วนอยากได้จากข้า หากขอข้าดีๆ มีหรือที่ข้ามีทุกสิ่งจะไม่แบ่งปันนาง แต่นางหมายเข้ามาแย่งข้าจากมือ ข้าทนไม่ได้เจ้าค่ะ” อย่างน้อยเรื่องดีเรื่องหนึ่งของจินหว่าน คือครอบครัวนางยอมรับฟังนางเสมอ“หึ เป็นเช่นที่ข้าคิดไม่ผิด หากหว่านวานของข้าไม่หมดสติถึงสามวัน ท่านแม่ก็คงให้นางไปคุกเข่าอยู่ที่ศาลบรรพชนแล้ว”“อาเหลียน” ชุยเซียวอดที่จะตำหนิภรรยารักไม่ได้ ต่อให้หูซื่อที่มีความเกี่ยวข้องกับเขา แต่นางก็ได้ชื่อว่ามารดาจะตำหนินางลับหลังคงจะดูไม่ดี หากผู้ใดมาได้ยินเข้า ไม่แคล้วเขาคงได้ถูกร้องเรียนว่าไม่มีความกตัญญู “ครอบครัวอารองของเจ้ามิได้มีบุตรีเพียงแค่อาหร่วนเพียงผู้เดียว บุตรของอนุก็มีอีกหลายคน นางคงไม่ได้มีเครื่องประดับมากเหมือนเจ้า แล้วอีกอย่างนางก็เพียงเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เรื่องในหนนี้ก็ให้แล้วกันไปเถิด”บ

  • ขอทุกข์เพียงชาติเดียวพอ   ผู้มีพระคุณ

    จินหร่วนยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน แม้ภายในร่างกายของนางจะถูกแผดเผาจนไม่เหลือชิ้นดี ดวงตาของนางยังเบิกกว้างจ้องมองมู่ฮองเฮาให้ชัดเจน“ขอบใจจะ เจ้า เจ้ามากที่ช่วยให้ ขะ ข้าหลุดพ้น”แววตาของมู่ฮองเฮามีประกายความตกใจไหลผ่านอยู่ครู่ เมื่อเห็นรอยยิ้มของจินหว่านที่ยินดียอมรับความตายหลังจากนั้นจินหว่านนางไม่รู้แล้วว่ามู่ฮองเฮาจัดการร่างของนางเช่นใด และหาข้อแก้ตัวกับฮ่องเต้เช่นใดเมื่อนางหายตัวไป แต่อย่างว่า การหายตัวไปของนางอาจจะไม่กระทบกับหลี่หรงฝูเลยสักนิด เขามีสตรีข้างกายมากมายเพียงนั้น จะหาคนมาแทนที่นางเมื่อใดก็ย่อมได้แต่หากมู่ฮองเฮาได้ล่วงรู้ว่านางมิได้ตายในครั้งนั้นไม่รู้จะมีสีหน้าเช่นใด นางถูกคนช่วยเหลือเอาไว้ แต่พิษที่ได้รับทำให้ต้องสูญเสียการมองเห็นและตัวนางไม่อาจพูดได้อีกเลย นางรู้จากผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือนางเอาไว้ ว่าร่างของนางถูกทิ้งอยู่ที่สุสานนอกวังหลวงถึงแม้จะช่วยเอาไว้ได้ แต่พิษที่ได้รับก็เริ่มกัดกินร่างกายของนางไปมากแล้ว หมอที่เขาพามารักษาบอกว่านางอยู่ได้มากที่สุดคงไม่เกิดสามเดือน นางเองก็ไม่ประสงค์ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เมื่อมองสิ่งใดก็ไม่เห็น ทั้งยังไม่เหลือเรี่ยวแรงให้ก้าวเดิ

  • ขอทุกข์เพียงชาติเดียวพอ   บทนำ

    ขนตาหนาเป็นแพขยับอย่างหงุดหงิด เมื่อได้ยินเสียงวุ่นวายที่อยู่ด้านนอกสิ่งแรกที่ปรากฏคือแสงสว่างของอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนคิ้วงามขมวดอย่างมึนงง ก่อนจะเริ่มขยี้ตาเพื่อปรับให้เห็นภาพตรงหน้าชัดเจนขึ้น พอข้าวของเครื่องใช้ สิ่งต่างๆ ที่เริ่มคุ้นเคยปรากฏขึ้นในสายตา ชุยจินหว่าน ก็เกือบจะกรีดร้องออกมาเป็นไปได้อย่างไร!!! ยามนี้นางอยู่ภายในห้องนอนของตนเอง เมื่อยกมือขึ้นมาสำรวจก็พบว่ามือของตนเองช่างเล็กและบอบบางนักสาวใช้ด้านนอกเหมือนจะได้ยินเสียงของคุณหนูเคลื่อนไหวจึงได้เดินเข้ามาดูอย่างรีบร้อน“โถ่ คุณหนูของบ่าว สวรรค์เมตตาแล้ว ดีเพียงใดที่ท่านฟื้นขึ้นมา” เสียงสะอื้นของเสี่ยวผิง สาวใช้ข้างกายของจินหว่านร้องอย่างดีใจอยู่ข้างเตียงของนาง“เกิดอันใดขึ้น” เสียงเล็กแหลมทั้งยังแหบพร่า ทำให้จินหว่านนิ่งอึ้งชะงักไปทันที“คุณหนูจำมิได้หรือเจ้าคะ คุณหนูกับคุณหนูรองทะเลาะกันแล้วตกลงไปในสระน้ำกันทั้งคู่ แต่คุณหนูรองได้สติตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนแล้ว เหลือเพียงแค่คุณหนูของบ่าวที่ยังมิได้สติจนมาถึงวันนี้”พอเสี่ยวผิงอ้าปากเล่าออกมา ความโกรธแค้นของนางที่ไม่อาจจะเข้าช่วยคุณหนูของตนไว้ได้ก็ออกม

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status