LOGINโครงหน้าสวยคมที่ซ่อนอยู่ภายใต้ไขมันเผยออกมาอย่างชัดเจน เธอไม่ได้เป็น "หลิงเหม่ยเม่ยคนอ้วน" อีกต่อไปแล้ว การเปลี่ยนแปลงของหลิงเม่ยเม่ยสร้างความตกตะลึงให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าหญิงสาวที่เคยอ้วนฉุ จะสามารถ ผอมเพรียวได้ถึงขนาดนี้ในเวลาอันสั้น
"นั่นมันหลิงเหม่ยเม่ยหรือนี่! นางผอมลงไปได้อย่างไรกัน! ปีศาจ นางต้องเป็นปีศาจแน่ๆ" ป้าหลิวและป้าจางที่เคยนินทาเธอ ต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจและอิจฉา แต่นั่น ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรกับเธอ เมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเช่นนี้ หลิงเหม่ยเม่ยก็ตัดสินใจ ที่จะนำสูตรสมุนไพรลดความอ้วนที่เธอคิดค้นขึ้น ไปขายให้กับเถ้าแก่หลี่ที่ร้านขายยาสมุนไพร
"เถ้าแก่หลี่ ข้ามีสูตรยาดีมาให้ท่านดู" หลิงเหม่ยเม่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงมั่นใจ เถ้าแก่หลี่มองหญิงสาวตรงหน้า พร้อมกับครุ่นคิดว่าเขาเคยรู้จักสตรีที่งดงามเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขามองหลิงเม่ยเม่ยตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยความประหลาดใจ ไม่ว่าจะมองยังไง เขาก็จำไม่ได้เลยว่าหญิงสาวตรงหน้าคือ หลิงเหม่ยเม่ยคนเดิมที่เคยอ้วนฉุ
"เถ้าแก่... ท่านจำข้าได้หรือไม่ " "ข้าคิดแล้วคิดอีก แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก ไม่รู้ว่าท่านเป็รคุณหนูจากจวนไหน?" "ดูดีๆสิเถ้าแก่..ข้าหลิงเหม่ยเม่ย" “นี่...นี่เจ้าคือหลิงเหม่ยเม่ยหรือนี่! เจ้าผอมลงได้อย่างไรกัน!" หลิงเหม่ยเม่ยยิ้ม "ข้าดื่มสมุนไพรสูตรพิเศษที่ข้าคิดค้นขึ้นมาเองนะสิ" เมื่อเถ้าแก่หลี่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งของนาง เขาก็เชื่อมั่นในสูตรยาในทันที จึงตกลงรับซื้อสูตรสมุนไพรลดความอ้วนของหลิงเหม่ยเม่ยในราคาที่สูงลิ่ว ทำให้ครอบครัวหลิงมีเงินทองมากมายอย่าง ที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อครอบครัวเริ่มมีเงินทองมากพอหลิงเหม่ยเม่ยก็เริ่มคิดถึงการขยายกิจการและสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว นางตัดสินใจซื้อที่ดินผืนใหญ่ที่อยู่ติดกับบ้านของพวกเข เพื่อขยายพื้นที่สำหรับปลูกพืชผักและสมุนไพร "เราจะสร้างรั้วรอบขอบชิด ในที่ดินของเรา และจะปลูกผักในสวนที่บ้านด้วย " หลิงเหม่ยเม่ยบอกน้อง ๆ อย่างมีความสุข “ เราจะปลูกได้ยังไงกันท่านพี่…ทุกวันนี้ น้ำกินน้ำใช้ก็ยังแทบจะไม่มี เพราะไม่มีฝนตกมาถึงสองปีแล้วนะขอรับ จะเอาน้ำที่ไหนมารดผัก"
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง พี่จะยกบ่น้ำพุศักดิ์สิทธิ์มาไว้หลังบ้านเลย เราจะจ้างช่างจากในเมืองมาสร้างรั้วและสร้างบ้านใหม่" หลิงห้าวจื่อและน้อง ๆ ต่างก็ดีใจ พวกเขาไม่เคยคิดฝันว่าจะมีบ้านและที่ดินเป็นของตัวเองที่ใหญ่ขนาดนี้ หลิงเม่ยเม่ยให้ผู้ใหญ่จัดการเรื่องที่ และหาช่างจากในเมืองให้
ผู้ใหญ่บ้านจ้างช่างฝีมือดีมาสร้างรั้วและปรับปรุงบ้านตามแบบที่เธอออกแบบไว้ เธอใช้ความรู้ด้านการออกแบบ และสถาปัตยกรรมจากยุคปัจจุบันมาประยุกต์ใช้ ทำให้บ้านและสวนของเธอออกมาดูทันสมัยแต่ยังคงกลมกลืนกับยุคสมัยนั้นอยู่ ช่างจากในเมืองทำงานอย่างขยันขันแข็ง ภายในเวลาไม่นาน รั้วอิฐแข็งแรงก็ถูกสร้างขึ้นล้อมรอบที่ดินผืนใหญ่ บ้านหลังใหม่กำแพงอิฐ ดูสะอาดตา และพื้นที่สวน ก็ถูกปรับปรุงให้พร้อมสำหรับการเพาะปลูก แต่ถึงแม้ชีวิตของหลิงเม่ยเม่ยและน้อง ๆ จะดีขึ้นมาก แต่ก็ยังไม่วายที่จะถูกคนขี้อิจฉานินทา ป้าหลิวกับป้าจางยังคงเป็นหัวหอกในการปล่อยข่าวลือและนินทาเรื่องของหลิงเหม่ยเม่ยราวกับเป็นศัตรูข้ามชาติกันมา
"ดูสิ นางอ้วนน่านั่นอยู่ดีๆ ก็ผอมลง แถมยังมีเงินทองมากมาย สงสัยจะไปทำอะไรไม่ดีมาแน่ๆ" พวกเธอกระซิบกระซาบกันในหมู่ชาวบ้าน และที่เลวร้ายกว่านั้นคือ ป้าสะใภ้และย่าของร่างเดิมของ หลิงเหม่ยเม่ย ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ที่เคยทอดทิ้งพวกเธอในยามยากลำบาก ก็เริ่มปรากฏตัวขึ้น พวกเธอได้ยินข่าวลือเรื่องความร่ำรวยของตระกูลหลิง จึงพยายามหาทุกวิถีทางที่จะเข้ามาเบียดเบียนและขอส่วนแบ่ง
วันหนึ่ง ป้าสะใภ้และย่าก็บุกเข้ามาในบ้านของหลิงเหม่ยเม่ย โดยไม่ได้รับอนุญาต "หลิงเหม่ยเม่ย! เจ้ามีเงินมีทองมากมายขนาดนี้ ทำไมไม่แบ่งให้ญาติผู้ใหญ่บ้าง!" ย่าตะโกนเสียงดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความโลภ ลืมบุญคุณกระดูกแก่ๆไปแล้วหรือยังไง
"ใช่แล้ว! พวกเราเป็นญาติกันนะ เจ้าต้องดูแลพวกเราสิ!" ป้าสะใภ้เสริมขึ้น พลางพยายามจะคว้าเอาของมีค่าในบ้าน หลิงเหม่ยเม่ยยืนนิ่ง เธอจ้องมองญาติผู้ใหญ่ทั้งสอง ด้วยแววตาเย็นชา "พวกท่านเคยดูแลพวกเราบ้างไหมในยามที่เราอดอยาก? ตอนนี้พวกเรามีกินมีใช้ พวกท่านกลับจะมาเบียดเบียน ตอนพวกเราอดอยาก แม้แต่ขนมปังขึ้นรา พวกท่านก็ไม่เคยแบ่งหรือหยิบยื่น!ให้"
"แกพูดอะไรอย่างนั้น! แกเป็นเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่!" ย่าตะโกนเสียงแหลมและพยายามจะตบหน้าหลิงเหม่ยเม่ย แต่หลิงเม่ยเม่ยไม่หลบ เธอคว้ามือของย่าไว้ได้อย่างรวดเร็ว พลังที่เธอมีในตอนนี้ไม่ใช่พลังของหญิงที่อ่อนแออีกต่อไปแล้ว
"อย่าคิดว่าจะมาทำอะไรตามอำเภอใจในบ้านของข้า!" หลิงเหม่ยเม่ยกล่าวเสียงกร้าว หลิงห้าวจื่อที่ยืนอยู่ข้างๆพี่สาวก็ก้าวออกมาข้างหน้าปกป้องคนในบ้าน ในฐานะผู้ชายคนเดียวในบ้าน
“ถ้าอย่างนั้นเรากลับพร้อมกันเลย” “น้อง ๆ แน่ใจหรือว่าไม่เสียดายชีวิตในวัง” “ไมเสียดายเลย แต่จะเสียดายมากถ้าจะไม่มีบะหมีซองให้กินอีก” “ดี ถ้าอย่างนั้นพี่มีข่าวดีจะบอกพวกเจ้า " “ข่าวดี!..ข่าวดีอะไรหรือพี่ใหญ่?” “ก็ข่าวดีที่ว่าระบบของพี่ สามารถอัพเกรดขั้นสูงสุดแล้วนะสิ “..”จริงหรือๆ…ข้าดีใจยิ่งนัก แล้วระบบใหม่สามารถทำอะไรได้บ้างละเจ้าคะ ”. “สามารถทำได้ทุกอย่างเลย โดยเฉพาะ สามารถไปไหนก็ได้ และพาใครไปก็ได้ พี่จะพาน้อง ๆ ไปยังอีกโลกหนึ่ง ถือเป็นการพักผ่อนและท่องเที่ยว น้องสองคนจะไปกับพี่ไหม?” “ไปสิ ๆ พี่ใหญ่ ไม่ว่าท่านพี่จะไปไหน ที่นั่นต้องมีของอร่อยที่นั่นแน่ๆ" …"งันดีเลย พี่จะพาน้องไปช้อปปิ้งไปเสริมสวย ไปกินของอร่อยๆมากมาย และที่สำคัญจะพาไปเที่ยวบาโฮสด้วยดีไหม?” ทั้งสองพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้นเอาไว้จะไปเมื่อไหร่พี่จะบอก" "เจ้าค่ะท่่านพี่ ถ้าอย่างนั้นหลับตาแล้วจับมือกัน หากว่าพี่ไม่บอกให้ลืมตาก็อย่าลืมตาขึ้นมาเด็ดขาด"เมื่อมาถึง แล้ว ทั้งสามปรากฏตัวในห้องของโรงแรมหรู ก่อนที่จะบอกให้น้องๆลืมตาขึ
วันหนึ่ง อ๋องอี้ส่งเทียบเชิญพิเศษมายังหลิงเหม่ยเม่ย เขาจัดงานเลี้ยงสำคัญระดับสูง เพื่อต้อนรับทูต จากแคว้นเพื่อนบ้าน และตัดสินใจเชิญหลิงเหม่ยเม่ย เข้าร่วมในฐานะ นักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์และมีส่วนช่วย ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของเมืองหลวง นี่เป็นโอกาสสำคัญที่เธอจะได้ก้าวเข้าสู่สังคม ชั้นสูงอย่างเต็มตัว หลิงเหม่ยเม่ยตื่นเต้นกับงานเลี้ยงนี้ เป็นอย่างมาก เธอรู้ว่านี่ไม่ใช่แค่การเข้าร่วมงานเลี้ยง ธรรมดาๆ แต่เป็นการประกาศสถานะ และบทบาทของเธอในสังคม เธอตัดสินใจใช้เงินจากระบบ เพื่อซื้อชุดราตรีที่สวยงามและทันสมัยที่สุดเท่าที่จะหาได้ในยุคนี้ ชุดนั้นทำจาก ผ้าไหมเนื้อดี สีครามเข้ม ปักลวดลายดอกโบตั๋นสีเงิน อย่างประณีต การออกแบบเรียบหรูแต่สง่างาม เน้นรูปร่างที่เพรียวบางของเธอให้เด่นชัดและงดงามยิ่งนัก และยังช่วยขับผิวพรรณ ที่เปล่งปลั่งให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น ในวันงานเลี้ยง หลิงเหม่ยเม่ยปรากฏตัวในชุดราตรีสีครามเข้ม เธอเดินเข้ามาในห้องโถงจัดเลี้ยงด้วยท่าทางสง่างามและมั่นใจ ผมเผ้าถูกเกล้าขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่ดูมีรสนิยม ประดับด้วยปิ่นปักผมเงินฝังอัญมณีเล็กน้อย ใบหน้าของเธอแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง
ร้านผักดองของเธอยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ชื่อเสียงของเธอในฐานะ แม่ค้าผักดองอัจฉริยะ และ คุณหนูหลิงผู้พิทักษ์" ยิ่งทำให้มีลูกค้าหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย หลิงเม่ยเม่ยบริหารจัดการธุรกิจด้วยความสามารถ ที่เหนือกว่าคนในยุคนี้ เธอใช้หลักการบริหารจัดการสมัยใหม่ การตลาด และการควบคุมคุณภาพ ทำให้ธุรกิจของเธอเติบโตอย่างก้าวกระโดด เธอขยายกิจการด้วยการเปิดสาขาเพิ่มในย่านการค้าสำคัญของเมืองหลวง และเริ่มมองหาโอกาสในการส่งออก ผักดองและสินค้าเกษตรแปรรูป ไปยังเมืองอื่นๆ อีกด้วย เธอจ้างคนงานเพิ่มขึ้นและดูแลพวกเขาเป็นอย่างดี ทำให้คนงานทุกคนรักและภักดีต่อเธอ ส่วนน้อง ๆ ของเธอ จินเป่าและหงส์เป่า ได้รับการดูแลอย่างดีในวัง พวกเธอปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความเฉลียวฉลาดจากน้ำยาอัจฉริยะ ทำให้พวกเธอเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและโดดเด่น กว่าเด็กคนอื่นๆ ในโรงเรียนสตรี ในวัง อิงอ๋องเองก็ให้ความเมตตาและดูแลพวกเธอประหนึ่งลูกแท้ๆ ทำให้ชีวิตของเด็กหญิงทั้งสองเต็มไปด้วยความสุขและโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนหลิงห้าวจื่อ เองก็เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำนักศึกษาเหวินอี้
เธอเล็งและยิงออกไปอย่างต่อเนื่อง สังหารนักฆ่า ไปจนหมดสิ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงร่างไร้วิญญาณ ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นดิน ความเงียบเข้าปกคลุมทั่วป่าหลังเสียงปืนนัดสุดท้ายสิ้นลง อ๋องอี้และองครักษ์ต่างก็มองหลิงเม่ยเม่ยด้วยแววตา ที่เต็มไปด้วยความสงสัยและตกตะลึงในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ดูบอบบางเช่นนี้ จะครอบครองอาวุธที่ร้ายกาจเช่นนี้ได้อย่างไร"นี่... นี่มันคืออะไรกันคุณหนูหลิง" อ๋องอี้ถามเสียงแผ่วเบา ดวงตาจับจ้องไปที่ปืนในมือของเธอ หลิงเม่ยเม่ยเก็บปืนกลับเข้าไปในระบบอย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่าเธอต้องหาคำโกหกที่น่าเชื่อถือที่สุด "ท่านอ๋อง... มันคืออาวุธประหลาดที่ข้าได้ซื้อมาจากพ่อค้าชาวตะวันตกเมื่อไม่กี่วันก่อนเพคะ" เธอพยายามทำสีหน้า ให้เป็นธรรมชาติที่สุด"พวกเขาบอกว่ามันเป็นเครื่องมือป้องกันตัวที่หาได้ยากยิ่ง ข้าไม่คิดว่าจะได้ใช้มันในสถานการณ์เช่นนี้" อ๋องอี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย "พ่อค้าชาวตะวันตกอย่างนั้นหรือ." เขาทบทวนในใจ เขาเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อค้าแปลกหน้า ที่นำของแปลกๆ เข้ามาในแผ่นดินอยู่บ้าง แต่ไม่คิดว่าจะมีอาวุธที่ร้ายกาจถึงเพียงน
บัดนี้ จินเป่าและหงส์เป่าอยู่ในฐานะที่สูงส่งกว่าบรรดา คุณหนูจากตระกูลขุนนางเหล่านั้นไปแล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าดูถูกหรือกลั่นแกล้งพวกเธออีกต่อไป ในงานเลี้ยง ดวงตาของจินเป่าและหงส์เป่า ฉายแววความสุข พวกนางสวมชุดที่สวยงามปราณีต ได้รับการดูแลอย่างดี และมีรอยยิ้มบนใบหน้าตลอดเวลา หลิงเหม่ยเม่ยมองภาพน้อง ๆ ที่มีความสุขด้วยความอบอุ่นในหัวใจ เธอรู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้ของอ๋องอี้ คือของขวัญอันล้ำค่าที่สุดสำหรับครอบครัวของเธอท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย คุณหนูที่โดดเด่นคนหนึ่งในงานคือ รั่ว ม่านอี้ บุตรสาวของเสนาบดีกรมคลัง นางเป็นหญิงสาวที่งดงามและเติบโตมาในตระกูล ที่ร่ำรวยและมีอำนาจ และเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายคน และมักจะเป็นที่หนึ่งในหมู่คุณหนูทั้งหลายเสมอ รวมถึงเป็นคนที่เคยชินกับการเป็นที่สนใจและได้รับการปฏิบัติอย่างพิเศษ เธอเองก็เป็นหนึ่งในนักเรียนของโรงเรียนสตรีในวัง และเป็นหนึ่งในผู้ที่เคยดูถูกจินเป่าและหงส์เป่า เมื่อรั่วม่านอี้ ได้เห็นภาพของเด็กหญิงสองคนนั้น ที่นางเคยดูถูกเหยียดหยาม บัดนี้กลับได้รับการยกย่องให้มีฐานะเทียบเท่าเชื้อพระวงศ์ ดวงตาของเธอก็ลุกวาวด้วยความ ไม่พอใจปนความอิจฉ
หลังจากที่หลิงเม่ยเม่ยได้ส่งน้อง ๆ ทั้งสามคน เข้าสู่เส้นทางของการศึกษา หลิงห้าวจื่อเข้าเรียนที่สำนักศึกษาเหวินอี้ ของอ๋องอี้ ส่วนจินเป่าและหงส์เป่าได้รับโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้เข้าศึกษาในโรงเรียนสตรีในวังของอิงอ๋อง แม้นั่นจะเป็นเพียงโรงเรียนสำหรับเด็กหญิง แต่ก็เป็นสถานที่ ที่รวมลูกหลานของเหล่าขุนนาง และเชื้อพระวงศ์น้อยใหญ่ไว้ด้วยกัน เด็กหญิงทั้งสองที่เพิ่งก้าวเข้ามาจากชีวิตที่ยากไร้ ย่อมเป็นเป้าสายตาของเด็กผู้หญิงที่เติบโตมาในกรอบของสังคมชั้นสูง ผู้ที่คุ้นชินกับการแข่งขันและแบ่งชนชั้นเพียงไม่กี่วันผ่านไป อิงอ๋องก็ได้รับข่าวจากเหล่าพี่เลี้ยง และครูบาอาจารย์ในโรงเรียน เกี่ยวกับพฤติกรรม ของนักเรียนบางคน ที่เริ่มแสดงออกถึงความรังเกียจ และดูถูกจินเป่ากับหงส์เป่า พวกคุณหนูเหล่านั้นนินทาเรื่องฐานะที่ต่ำต้อยของสองพี่น้อง ตลอดจนรูปลักษณ์ ที่ยังคงผอมบางเล็กน้อย เมื่อเทียบกับเด็กที่ได้รับการดูแลมาอย่างดี และแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่หลิงเม่ยเม่ยเลือกสรรมาให้แล้วอย่างดีที่สุด ก็ยังคงถูกมองว่าไม่คู่ควรกับ "สถานที่สูงส่ง" เช่นในวัง อิงอ๋องผู้เป็นน้องสาวของอ๋องอี้ เป็นคนใจดี และมีคุณธรรมสูงส่งไม่







