ฝ่ายพิมแก้วนั้นที่ตรงเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำอันหรูหรา เพิ่งสังเกตได้ว่าตนเองนั้นอยู่ในชุดแปลกตาที่แสนบางเบา ผ้าแพรที่มีลายดอกไม้ถักมือวิจิตรนั้นดูดีถ้าเกิดเนื้อผ้าไม่บางราวกับผ้าแพรเช่นนี้ เสื้อผ้าที่ดูไม่คุ้นตาแต่แสนจะบัดสีบัดเถลิงเหลือเกิน ราวกับหญิงสาวในย่านโคมเขียวก็มิปาน
เจ้าคุณพ่อมาเห็นแบบนี้ มีหวังจับเราเฆี่ยนจนหลังหักเป็นแน่
นางคิดแล้วซับน้ำตาที่รื้นขึ้นมาบนดวงตากลมโตเนื่องด้วยอยู่ดีๆ ตนเองก็ต้องมาเจอกับที่ที่ไม่เคยอยู่ มันกะทันหันจนตั้งตัวมิทัน สาวเจ้าทำใจอยู่นาน ก่อนที่จะสวมชุดคลุมอาบน้ำทับผ้าแพรด้านนอกที่แทบจะปิดสรีระไม่มิดนั่น พยายามดูอยู่หลายครั้งจึงรู้ว่าต้องผูกสายตรงสะบั้นเอวให้แนบชิดติดกับสะโพกผาย
แกรก
เมื่อแต่งตัวอย่างมิดชิดสำเร็จ เจ้าตัวเล็กจึงค่อยๆ แง้มประตูไม้สักทองเปิดออกอย่างกล้าๆ กลัวๆ พลางสอดส่องไปยังภายในห้องนอนโทนสีหม่นทึบ จึงเห็นว่าชายผู้นั้นกำลังใช้มวนยาสูบที่บ่าวไพร่มักใช้กันพ่นควันปุ๋ยๆ อยู่ด้านนอกระเบียง
“เอ่อ... คือเราต้องทำเช่นไรต่อไปดีเจ้าคะ” เธอละล้าละหลังอยู่นานจึงตัดสินใจโพล่งถามขึ้นมาท่ามกลางความเงียบสงัดน่าอึดอัดและกลิ่นม่านควัน ชายหนุ่มในแว่นสายตากรอบดำเหลือบมามองหล่อนอย่างเย็นชา
“หมายความว่าอะไร”
“มะ... หมายถึงว่าท่านจักพาเรากลับไปหาเจ้าคุณพ่อหรือไม่ เจ้าคุณพ่อเราอยู่เรือนใหญ่ในพระนคร เราน่าจักพอจำทางไปได้อยู่เจ้าค่ะ”
แววตาสีดำทมิฬมองเธอที่พูดจาเพ้อเจ้อออกมาเป็นต่อยหอย ก่อนที่เขาจะพ่นควันขุ่นออกมาเป็นวงยาว
“ที่นี่ไม่ใช่พระนครอะไรที่ว่า” แต่เพราะความใจดีในกมลสันดานเป็นทุนเดิม สามก๊กท่องพุทโธในใจ พลางพยายามอธิบายสิ่งที่ไม่คิดว่าชาตินี้ตัวเองจะต้องมานั่งพูดเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อน “ที่นี่คือกรุงเทพมหานคร เมืองแห่งแสงสี ที่มีแต่กลิ่นควัน มลพิษ อีกอย่าง... กูก็ไม่ใช่คนปกติที่เดินอยู่บนถนนข้างล่างนั่น”
พูดพลางเขี่ยก้นบุหรี่ ขยี้ลงกับราวระเบียงเหล็ก
“...”
“ถ้าเธอบอกว่าเป็นลูกสาวคนใหญ่คนโต กูก็คือมาเฟียที่อยู่ขั้วตรงข้ามกับเธอ” อยากจะพูดกับเด็กสาวแบบที่ผู้ใหญ่โตๆ เขาพูดกันนะ แต่เพราะสามก๊กนั้นมีนิสัยไม่ยอมลงให้ใคร เขาติดพูดคำหยาบคายและแทนตัวด้วยมึงกูกับลูกน้องและคู่ค้าเสมอ จึงลดทอนสรรพนามให้ได้แค่นี้
“มาเฟีย? คือกระไรกันเจ้าคะ เรามิเข้าใจ”
“กูให้คนไปสืบประวัติเธอ” เขายอมรับออกมาตามตรง พลางโยนบุหรี่ที่เหลือเพียงก้นมวลทิ้งลงจากราวระเบียง เดินอาดๆ มานั่งบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ที่นอนได้สองคนก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือ
ประวัติที่ลึกลับแค่ไหน เขาก็หามาได้เสมอ จะยิ่งใหญ่คับฟ้า แต่สุดท้ายก็มาตายรังที่การพนัน และการฉ้อโกง
ต้องขออภัยต่อท่านท้าวเวสสุวรรณที่อาจจะมีการเข่นฆ่าพวกที่ไม่จำเป็นทิ้งไปบ้าง ไม่ว่าจะเป็นลูกน้องหรือศัตรูที่คิดจะเหยียบหัวขึ้นมาเหนือกว่า อาชีพที่ทำอยู่นั้นคือการแข่งขันที่อันตราย แต่เขาก็รักษาศีล ทำบุญทำทานอยู่เสมอ
เด็กผู้หญิงคนนี้ ถึงจะเป็นคนบ้า ลูกน้องก็จะค้นประวัติของเธอมาได้แน่นอน
แล้วมารอดูกัน ว่ายัยนี่มันคือใครกันแน่
“พิมแก้ว เธอบอกว่าอายุสิบแปดใช่มั้ย” และอีกห้านาทีวิลลี่ก็คงจะโทรมารายงานประวัติโดยละเอียดของเธอ สามก๊กเดาะลิ้นพลางคุยกับเธอไปพลางระหว่างรอ แม้ว่าอีกฝ่ายจะยังคงแอบอยู่หลังบานประตูห้องน้ำไม่ออกมาประจันหน้ากับเขาก็ตาม “งั้นเธอก็คงเรียนอยู่มัธยมปลาย ใช่หรือเปล่า”
“เจ้าคุณพ่อสอนให้เรียนอ่านเขียนเพียงเท่านั้น ด้วยหน้าที่ของหญิงสาวในกรุงศรีอโยธยาต้องเป็นเมียที่ปรนนิบัติผัวเป็นอย่างดี แต่ด้วยที่เราเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของเจ้าคุณพ่อ ทุกวันเราจักทำเพียงแค่กรองมาลัย แลใช้รสมือทำสำรับให้เจ้าคุณพ่อทานเจ้าค่ะ” เธอกลั้นใจอธิบายออกมาตาใส แต่ท้ายประโยคก็เอ่ยเสียงแผ่วเบา “ส่วนมัดทะยม เรามิเข้าใจที่ท่านพูด”
“เธออ่านเขียนได้” เขาปล่อยเบลอคำพูดมากมายที่เธอเพ้อพกออกมา และสรุปได้ว่าแบบนั้น
“พออ่านจดหมายได้บ้างเจ้าค่ะ”
“ถ้ากูสืบประวัติเธอ แล้วรู้ว่าไม่มีหัวนอนปลายเท้า”
“...”
“กูเลี้ยงเธอได้ใช่มั้ย”
“เรามิใช่วิฬาร์ที่จักมาขอเลี้ยงดูได้ตามใจชอบนะเจ้าคะ” เจ้าตัวจ้อยตัวสั่นหนักกว่าเก่า ชายผู้นี้พูดอันใดประหลาดแท้ อยู่ดีๆ มาบอกว่าจะเลี้ยง อยู่ดีๆ ก็มากล่าวหาว่าไม่มีหัวนอนปลายเท้าอีก ทั้งที่พ่อของเราเป็นถึงออกญาเชียวนะ
ครืด ครืด
สมาร์ทโฟนของสามก๊กดังขึ้นในระหว่างนั้น เขายกมือใหญ่ขึ้นเต็มทั้งห้านิ้วเพื่อให้เธอเงียบเสียงลง ก่อนที่จะรับสายเมื่อเห็นว่าเป็นวิลลี่ สงสัยว่าจะสืบประวัติมาได้แล้ว
ติ๊ด
“ว่าไง”
[แปลกมากครับนาย ไม่มีชื่อของเด็กคนนี้ในทะเบียนราษฎร์ ประวัติหลบหนีจากต่างแดนก็ไม่มี ผมไปสืบค้นมาจากทุกที่แล้ว]
“ได้ยังไง”
[ไม่ทราบครับนาย ถ้านายจะเลี้ยงก็ต้องดูๆ กันไป เพราะประวัติพ่อแม่ บ้านเกิด คดีอาชญากรรม ไม่มีเลยสักอย่างครับ]
แววตาคมเงยหน้าขึ้นสบใบหน้าที่สวยสะกดของพิมแก้ว เขากำลังประเมินเด็กสาวอย่างเงียบเชียบ แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไร เธอก็ดูไม่มีพิษไม่มีภัยอะไรเลยสักนิด กลับกันถ้าเลี้ยงไว้จนอายุยี่สิบ ส่งเสียเล่าเรียนจนเติบโต เลี้ยงไว้เป็นนางบำเรอที่ช่วยเหลือเขาได้ในทางที่ผู้หญิงสามารถทำได้
ก็น่าสนใจดี ลึกลับแบบนี้
“ได้ งั้นกูจะเลี้ยงมันไว้เอง”
ประวัติของเธอ ไม่ว่าจะคร่าวๆ หรือโดยละเอียดไม่มีปรากฎอยู่เลยสักนิด ราวกับเธอคือบุคคลสาปสูญลึกลับโดยสมบูรณ์ ด้วยความสนใจต่อเด็กสาวอย่างแรงกล้า สามก๊กตัดสินใจที่จะเลี้ยงดูเธอไว้ในสถานะเด็กเลี้ยงที่อนาคตเมื่ออายุบรรลุนิติภาวะจะผันตัวมาเป็นนางบำเรอ มอบคำสั่งให้เมดรับใช้ส่งเด็กสาวเข้านอนที่ห้องที่เขาหวงแหนใช่ เพราะห้องนั้นที่จัดให้เธอนอน เป็นห้องที่ถูกจัดมาเพื่อ ‘ลูกสาวคนแรก’ ของเขา ที่บัดนี้ได้เสียชีวิตไปแล้วฝ่ายพิมแก้วยังคงนั่งอยู่ภายในห้องนอนโดยเต็มไปด้วยความรู้สึกสับสน เธอถูกสามก๊กส่งมายังห้องใหญ่เทียบเท่ากับห้องนอนเจ้าคุณพ่อ แต่มีเครื่องนอนและการตบแต่งผิดแผกไปจากที่ที่เธอเคยอยู่เด็กสาวยังนั่งนึกถึงคำพูดของสามก๊กคนนั้น ที่บอกชื่อสถานที่แห่งนี้ที่เธอกำลังอยู่“ที่นี่คือกรุงเทพมหานคร เมืองแห่งแสงสี ที่มีแต่กลิ่นควัน มลพิษ อีกอย่าง... กูก็ไม่ใช่คนปกติที่เดินอยู่บนถนนข้างล่างนั่น”กรุงเทพมหานคร ชื่อคล้ายๆ พระนคร แต่ทำไมไม่คุ้นเคยเลย“หรือเราจักต้องหลบหนีออกไปหาเจ้าคุณพ่อด้วยตนเอง ชายผู้นั้นอาจจักเป็นแขกขาว หรือเขมรเมืองมอญมาจับเราไปเป็นเชลยก็เป็นได้” เนื่องด้วยข่าวเรื่องการรบรากับเขมรทำ
ออพิมแก้วนั้นอายแสนอาย บุรุษตรงหน้าต้องการเกี้ยวพาราสีหล่อนหรืออย่างไร ถึงได้มาป้อนสำรับกับข้าวใส่ถึงปากเช่นนี้ แต่ถ้าหล่อนจะเป็นเชลยก็ไม่แปลก ด้วยความที่เป็นผู้หญิง พอมีศักดิ์เป็นเชลยศึก เขาจะต้มยำทำแกงอะไรเราก็ย่อมได้ด้วยความที่ตกเป็นรองชายเถื่อนตรงหน้าอยู่มากโข เด็กสาวที่หน้าแดงก่ำเลยอ้าปากเพื่องับข้าวบดอุ่นๆ ในช้อนสแตนเลสตรงหน้า แต่กลับตะลึงพรึงเพริด รสมือแม่ครัวของเขาช่างถึงเครื่องนัก หล่อนทำตาโต ดวงตากลมโตสุกใสมีแววเจือประกาย“โจ๊กหมูหรือ ทำอย่างไรเจ้าคะ” ชิมไปคำแรกก็ถามคนตรงหน้าที่ไม่เคยแม้แต่จะจับมีดทำครัวมาก่อนนอกจากมีดที่ไว้ป้องกันตัว สามก๊กตีสีหน้าเรียบเฉย เขาไม่ตอบอะไรแล้วตักโจ๊กอีกคำมาเป่าพลางยกชิดกลีบปากนวล ถือคติที่ว่าถ้าไม่รู้จะไม่ตอบสาวเจ้าหน้าเสียที่เห็นว่าบุรุษตรงหน้าช่างเย็นชาน่าหวั่นกลัว คราวนี้เลยสงบปากสงบคำ กินเอาๆ ตามจังหวะที่เขายกป้อนจนหมดถ้วยนางอิ่มแปล้ อร่อยเหลือเกิน ผู้หญิงในชุดกระโปรงใส่ผ้าคลุมขาวคนเมื่อกี้น่าจะเป็นแม่ครัวสินะถ้าถามอะไรจากคุณสามคนนี้ไม่ได้ เราจะไปถามจากแม่ครัว“เอ่อ...” เธอโพล่งขึ้นมาเมื่อเห็นว่าสาวเจ้ากินเกลี้ยง สามก๊กจึงโทรศัพท์ให้แม
Sk : ถ่ายรูปเขาส่งมาอีกแล้ว ข้อความนั้นแม้จะเป็นแค่ตัวอักษรแต่ใจความห้วนสั้นก็กดดันเด็กสาวได้ดี เธอเริ่มเลิ่กลั่ก นั่งครุ่นคิดในห้องนอนของตนอยู่นาน จนสุดท้ายจึงตัดสินใจเดินไปเคาะประตูห้องก็อกๆๆ“ว่ายังไงครับ” เสียงทุ้มของการ์ดที่ยืนเฝ้าหน้าประตูสำรวจความเรียบร้อยของเด็กเลี้ยงคุณสามดังขึ้นมา ชวนให้เด็กสาวตัวสั่นที่ไม่ใช่เสียงคุณเมดอย่างที่คิดเอาไว้ แต่ก็ทำใจดีสู้เสือถามออกไป“ท่านรู้จักการ ‘ถ่ายรูป’ หรือไม่เจ้าคะ”บุรุษหนุ่มในชุดดำตรงหน้าขมวดคิ้วจนพันเป็นปม เพิ่งเคยเห็นคนในสมัยดิจิตอลไม่รู้จักคำว่าถ่ายรูปมาก่อน จึงทวนคำถามเพื่อความแน่ใจ“อะไรนะครับ”“ท่านรู้จักการถ่ายรูปหรือไม่เจ้าคะ” คำถามยังคงเป็นคำถามเดิม ชายหนุ่มผงะไปชั่วอึดใจ ก่อนที่จะกุมขมับ“คุณหนูรู้จัก ‘กล้องถ่ายรูป’ มั้ยครับ”พิมแก้วที่ยืนอยู่อีกฝั่งของบานประตูไม้สักทองเอียงคอฉงน เธอส่ายหน้าทั้งที่เขาไม่เห็น พร้อมกับตอบฉะฉาน“กล้องถ่ายรูปคือกระไรหรือเจ้าคะ”เอาล่ะ สงสัยต้องเข้าไปด้านใน และอธิบายให้สาวเจ้าได้รู้จักกับคำว่า ‘กล้องถ่ายรูป’ เสียก่อน‘แม็คกี้’ ลูกน้องที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของสามก๊กมานับสามปี เปิดประตูเข้าไปในห้องนอ
“สัตตบรรณไม่ต้อนรับมึงอีกต่อไปแล้วพิศุทธิ์” เขาพูดกับชายวัยกลางคนตรงหน้า ที่ถึงจะเคยมีศักดิ์เป็นอดีตคู่ค้าที่แสนดี แต่ถ้าหักหลังกันเมื่อไหร่ ความเป็นมิตรนั้นจะถูกพังทลาย เขาจะทรมานมันทุกทางเท่าที่จะทำได้ฝ่ามือนั้นกดมีดลงพร้อมเสียงกรีดร้องโหยหวนของพิศุทธิ์ แต่ก่อนที่ส่วนแหลมคมของมีดพกจะกดลงที่นิ้วชี้หยาบอ้วนของเขา เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นรัวๆ สามครั้ง จนสามก๊กต้องหยุดมีดไว้กลางอากาศ โดยที่เกือบจะเฉียดเนื้อของชายผู้นั้นไปแค่เพียงไม่กี่เซน“วิลลี่ โทรศัพท์” เขาหันไปออกคำสั่งกับมือขวา ชายหนุ่มกำยำหัวโล้นส่งสมาร์ทโฟนราคาแพงให้นายตัวเอง ก่อนที่สามก๊กจะเลื่อนสลับหน้าจอทัชสกรีนเป็นรูปหน้ากล่องแชทไลน์แต่ก็แทบจะผงะไป ใจกระตุกอย่างรุนแรงเมื่อเด็กสาวที่หายไปร่วมสิบห้านาที กลับส่งรูปภาพวาบหวิวขยี้ใจมายั่วยวนเขาในเวลาสำคัญเสียนี่!รูปแรก นั้นเป็นรูปที่พอเร่งระดับเลือดลมให้สูบฉีดประมาณหนึ่ง เป็นรูปที่เธอยกกล้องเซลฟี่ถ่ายด้วยมือตัวเอง รอยยิ้มโก๊ะๆ ถูกเผยออกมา พร้อมกับหน้าอกหน้าใจที่ทะลักจากชุดวาบหวิวที่สามก๊กโปรดปรานราวกับจงใจรูปที่สอง เป็นรูปที่ทรวงอกกลมโตหกลงจากขอบเสื้อคอกว้างมากขึ้น ความข
ชายหนุ่มส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เดินเข้าไปหลบที่หลังม่านที่อยู่ใกล้บานหน้าต่างใหญ่ที่มองลงไปด้านล่างได้ถนัด เขาคิดว่าหล่อนคงไม่ก้าวเข้ามาก็ต่อเมื่อตนนั้นก้าวเข้าไปเอง จึงตัดสินใจขยับรองเท้าหนังจระเข้มันวาวเข้าใกล้หล่อนที่อยู่หลังผ้าม่าน“เฮือก!” เจ้าตัวเล็กสะดุ้งโหยง เอาหน้ามุดผ้าม่านหนาที่แทบจะปิดตัวเองไม่มิด จนโดนฝ่ามือหนาของสามก๊กดึงมันออก ปรากฏความงดงามเต็มตา ท่ามกลางแสงแดดจ้าที่สาดส่องเข้ามาผ่านบานหน้าต่างเด็กสาวนั้นสวยจนแทบปฏิเสธไม่ได้ว่ากระตุ้นโสตประสาทความรับรู้ทางเรื่องเพศให้ตื่นได้ดี เธอในชุดสายเดี่ยวคอเสื้อแหวกต่ำ ผ่าหน้าผ่าหลัง ผ่าขานั้นสวยจนไม่มีที่ติ พาลทำให้กายแกร่งของสามก๊กนั้นเกร็งเครียดการถุกกระตุ้นโดยที่รู้ตัวว่ามันจะไม่สำเร็จดั่งใจหวัง มันช่างทรมานเหลือเกินปึง!“อ๊ะ!” เสียงหวานหวีดร้องในลำคอเมื่อคนตัวใหญ่กว่ายันและดันเธอจนไปชิดกับบานหน้าต่างใหญ่ดังปึง แดดร้อนลามไล้แผ่นหลังนวลเนียนจนเธอหยีตา คุณสามหรี่ตาลงมองใบหน้าของหล่อนที่แต่งเติมเมคอัพไปเพียงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูสวยพิฆาตสิ้นดี“อย่ามาว่ากูโหดร้ายแล้วกัน ในเมื่อเธอยั่วยวนกูก่อน” ริมฝีปากหยักลึกข
เอมมิกาเป็นสาวสังคมระดับสูงที่ชุบตัวมาจากเด็กเสี่ยในอดีต เธอมีความทะเยอทะยานสูง อาชีพเด็กเสี่ยไม่มีใครผิด ทุกคนต้องการหาความสะดวกสบายให้ชีวิตตัวเอง หากแต่เอมมิกานั้นกลับเปลี่ยนผู้ชายไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ถูกขัดใจ สามก๊กคืออดีตเพื่อนของเธอก่อนที่จะกลายเป็นสามีเก่าที่เคยมีลูกด้วยกันเอมมิกาทำแท้งเนื่องจากเธอไม่อยากมีลูก แต่พอพลาดท้องกับสามก๊ก เธอไตร่ตรองแล้วว่าไม่สามารถเป็นแม่คนได้จริงๆ จึงตัดสินใจกินยาขับเลือดตอนตั้งครรภ์ จนสามก๊กที่ถึงกับเล่นใหญ่ซื้อห้องให้ลูกคนแรกของเธอกับเขาถึงกับจมอยู่กับความเจ็บปวด เขาไม่ทำงานทำการและยึดติดกับลูกคนนี้มาก จึงทำให้ชีวิตในช่วงนั้นของสามก๊กตกต่ำ เอมมิกาจึงตีปีกไปจากเขาอย่างรวดเร็วสามก๊กเคยให้สัญญากับเธอว่า ไม่ว่าเธอกับเขาจะตกอยู่ในสถานะแบบไหน ความเป็นเพื่อนก็ยังอยู่เหมือนเดิม เขาเป็นคนที่อบอุ่นกับคนรัก แต่เพราะเธอไม่รู้จักพอ เอมมิกาจึงอยากมาขอโทษแต่เธอใช้วิธีขอโทษที่ผิดไปหน่อย เนื่องจากตัวเองมีความเอาแต่ใจจากการโดนเอาใจสูง ยิ่งกับสามก๊กที่เคยรักเธอแล้วด้วย เธอคิดว่าไม่ต้องทำอะไรมากหรอก แค่เห็นเธอเขาก็คงจะมานอนจูบแทบเท้าเธอแล้วก็สามก๊กน่ะเป็นสุนัขผู้
คราวนี้เอมมิกาหน้าแตกดังเพล้ง ทั้งที่เด็กสาวคนนี้มีดีแค่ความสวยซึ่งอาจไม่มากไปกว่าเธอสักเท่าไหร่ แต่สามก๊กกลับหยามหน้ากันถึงขนาดนี้ ไม่อยากกลับมาควงหล่อนถึงขนาดต้องดึงคนบ้ามามีอะไรด้วย ตั้งตนให้มันแล้วเรียกว่าเมีย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ“แล้วสามจะต้องเสียใจ ที่คิดหักหน้าเอมด้วยอีเด็กสติไม่ดีนี่” เธอปรามาสอย่างฉุนเฉียว หมดมาดแม่ชีไปไหนทันใด ยิ่งเห็นว่าแม่เด็กสาวคนนั้นทำท่าจะหนีไปแต่กลับถูกสามก๊กรั้งเอวคอดกิ่วกลับมาทันควัน ก็ทำเอาหึงหวงหน้ามืดตามัวแทบควันออกหูทั้งที่สามเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ของเธอมาตลอดแท้ๆจำเอาไว้เถอะ นังพิมแก้ว!หลังจากพ้นจากหลังเอมมิกาไป สามก๊กก็ทรุดตัวลงไปนั่งบนโซฟา ทั้งๆ ที่ยังรั้งเอวคอดของพิมแก้วอยู่ จนทั้งคู่ล้มลงไปด้วยกัน“นี่ท่าน!” เธอทำท่าจะปรามาส หากแต่ฝ่ามือที่สั่นเทาของผู้ชายที่ดูเหมือนจะเข้มแข็งและน่ากลัวกลับทำให้เจ้าหล่อนชะงัก “... ท่านมิเป็นกระไรใช่หรือไม่”คำพูดหวังปรามาส จึงแปรเปลี่ยนไปเป็นเนื้อเสียงแห่งความเป็นห่วงแทน“เปล่า” เขาผละฝ่ามือออกจากเธอทันทีที่รู้สึกตัว ค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นไปถอดแว่นตาออกอย่างเหนื่อยล้า ตลอดหลายปีที่เอมมิกาตามมารังควานจนนางบ
“เท้าคุณหนูไซส์ 35 หารองเท้าไซส์นี้ยากมากเลยค่ะคุณท่าน”“งั้นไว้ไปซื้อใหม่ ขึ้นมา” เขาหันไปออกคำสั่งกับพิมแก้วด้วยน้ำเสียงห้วนจัดตามนิสัย เด็กสาวเม้มกลีบปาก ก่อนที่จะยืนเหรอหราอยู่ตรงนั้น จนแม็คกี้ต้องเดินไปเปิดประตูรถอีกฝั่งให้“ขึ้นทางนี้ครับคุณหนู” ออพิมแก้วพยักหน้ารับพร้อมกับค่อยๆ เข้าไปในรถอย่างทุลักทุเล ประตูรถถูกปิดลงอย่างเรียบร้อย ในขณะที่สามก๊กเคลื่อนตัวรถออกไปอย่างรวดเร็วไม่นานนักก็มาถึงที่หมาย ทั้งสองคนนั่งไม่พูดไม่จากันตลอดทาง เพราะออพิมมัวแต่สนใจวิวข้างนอกที่แปลกตา ส่วนสามก๊กก็เอาแต่ท้าวคางบังคับพวงมาลัยข้างเดียวเคร่งเครียดอะไรเรื่อยเปื่อยบรรยากาศของคลับในช่วงเย็นนั้นยังคงไม่ค่อยมีใครเข้ามา สามก๊กไม่ได้ต้องการอินบรรยากาศ แค่ปรารถนาจะจิบแอลกอฮอล์ย้อมใจก็เท่านั้น ตรงหน้าคลับของจิณพรต เพื่อนของเขานั้นเต็มไปด้วยการ์ดคุมนับสิบด้านหน้า ซึ่งพอรถของสามก๊กขับมาจอดด้านหน้า พวกเขาก็พร้อมใจกันโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียง“ผมขับให้ครับท่าน” การ์ดคนหนึ่งเข้ามาเคาะกระจกเบาๆ เพื่อจะบริการขับรถไปจอดในที่จอดรถ Vip ให้เขา สามก๊กพยักหน้ารับ กำชับแว่นสายตาตอนที่เปิดประตูรถแหงนขึ้น แล้วการ์ดดำอ
แต่จะไปนึกถึงแม่งทำไม นึกให้หงุดหงิดใจเปล่าๆชายร่างใหญ่ทิ้งตัวลงข้างๆ ร่างเล็กที่หอบหายใจยั่วยวน อยากต่ออีกรอบนะแต่ร่างกายเธอคงบอบช้ำแทบตาย เพราะไม่เคยด้วยนี่สิ สามก๊กรวบเธอเข้ามากอดเอาไว้แน่น มือหนากุมฝ่ามือเล็กประสานมืออย่างนุ่มนวลราวกับต้องการปลอบประโลมเป่าความเมื่อยล้าพิมแก้วนั้นสับสนเหลือเกิน ราวกับถูกรังแก แต่เธอไร้สติอีกต่อไป เด็กสาวหลับปุ๋ยไปทันทีด้วยความเหนื่อยอ่อน และโดนตระกองกอดด้วยกายใหญ่ของอีกคนอยู่ตลอดทั้งค่ำคืนเช้าวันต่อมา แสงแดดจากบานหน้าต่างกระจกใสจนเห็นวิวทิวทัศน์ของตึกรามบ้านช่องสาดเข้าตาจนเด็กสาวในเรือนกายเปลือยเปล่าปรือตาขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นออพิมแก้วหยัดกายลุกขึ้นด้วยความง่วงงุน เธอรู้สึกปวดหน่วงที่ท้องน้อยอยู่นิดหน่อย คิดว่าระดูคงมาแน่ๆ เลยพยายามจะเรียกหาบ่าวไพร่ให้เตรียมของให้สำหรับกันระดู แต่เมื่อเหลียวไปมองข้างๆ ก็เห็นชายตัวใหญ่ที่นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างๆ แผ่นหลังกำยำที่มีรอยสักรูปมังกรและปลาคาร์ฟอยู่ด้านหลังทำให้เธอตื่นตะลึงมานั่งทบทวนกับตนเอง ถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่เมืองอื่นที่ไม่ใช่กรุงศรีอโยธยานี่นาแถม... ตอนนี้เธอเองก็เปลือยเปล่าล่อนจ้
“อื้อ... นายท่าน” เสียงหวานล้ำหลุดรอดออกมาจากกลีบปากบางที่บัดนี้เปื้อนลิปสติกเป็นปื้นจากการโดนจูบที่รุนแรง ทรวงอกทั้งสองข้างที่หนาวเหน็บถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหยักของมาเฟียหนุ่ม สร้างความอบอุ่นและเสียดเสียวให้เด็กสาว แอ่นกายอย่างทรมานเมื่อถูกตรึงข้อมือทั้งสองข้างไม่ให้ดิ้นหนีความเมามาย ส่งผลให้สติสัมปชัญญะของเธอหลุดลอยไป ในเวลานี้เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ สอดแทรกเข้ามาตลอดระยะเท่านั้น“อ๊ะ” เมื่อเรียวขางามถูกเปิดออกกว้าง สาวน้อยก็สะดุ้งโหยง ปลายนิ้วของอีกฝ่ายครอบครองส่วนเกสรดอกลำดวนหวานของเธอ ที่บัดนี้ชุ่มชื้นผ่านชั้นในตัวบาง มันถูกแหวกข้างและปลายนิ้วก็เข้าไปตรวจสอบด้านในที่นุ่มหยุ่น“ไม่ต้องเกร็ง พิมแก้ว” ริมฝีปากที่ครอบครองความอ่อนนุ่มที่แปรเปลี่ยนมาชูชันของเธอผละออกเพื่อประโลมเด็กสาว ที่บัดนี้เมื่อปลายนิ้วใหญ่สอดเข้าไป กลับสร้างความเจ็บให้เธอ จนต้องนอนหลับตาปี๋ตัวเกร็งสั่นอย่างน่าสงสาร“นะ... นายท่าน ทำเราเบาๆ หน่อย เรา... เจ็บ”ความอบอุ่นครอบครองอยู่รอบทรวงอกเล็ก เด็กสาวนอนหอบหายใจ ควานหาออกซิเจนอย่างหนักหน่วง ความอ่อนโยนนุ่มนวลแต่กลับร้อนแรงของมาเฟียหนุ่มกำลังทำให้เธอเป็นบ้า เธอ
ด้วยความเชื่อใจ สามก๊กไม่ได้สนใจตรวจดูว่ามียาปลุกกำหนัดในวิสกี้หรือเปล่า มารู้สึกตัวอีกทีตัวเองก็แทบไปไม่เป็น เมื่อพาสาวเจ้าที่เมามายเข้ามาภายในห้องรับรองที่หรูหรา มาเฟียหนุ่มถึงกับกุมขมับ เมื่อเข้าไปในห้องน้ำภายในตัว วักน้ำสาดหน้าตนเองให้สร่าง แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองตัวเอง จึงเห็นความหวามไหวในสีหน้าพอก้มลงมองเป้ากางเกง ก็เห็นว่ามันคับเด่นตุงแน่นอย่างชัดเจน“เวร” ชายหนุ่มสบถเสียงพร่า เขาหอบหายใจหนักหน่วง อาการเริ่มชัดเจนหลังจากผ่านมาร่วมหนึ่งชั่วโมง หลังจากให้การ์ดพยุงสาวเจ้าไปนอนบนเตียง เธอครางอ้อแอ้อยู่บนนั้นอยู่สักพัก พร่ำเพ้อละเมอไปเรื่อย ในขณะที่สามก๊กได้แต่นั่งสงบสติอารมณ์ เพื่อตรวจดูความผิดปกติของตัวเองความคับแน่นที่ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากช่วยตัวเองภายในห้องน้ำกว้าง มาเฟียหนุ่มในชุดสูทที่เริ่มไม่เรียบร้อยเหมือนเก่าถึงกับไปไม่เป็น เมื่อเสร็จไปสามน้ำ แต่กลับไม่ทำให้ความกำหนัดที่แล่นพล่านในกายนั้นลดลงเลย“บ้าเอ้ย ไอ้จิน” เขาสบถชื่อเพื่อนของตนเองออกมา จิณพรตนั้นถูกขนานนามว่าเป็นหมาบ้าแห่งเอเชีย เพราะมันเป็นคนที่มีประวัติดำมืด คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ภายนอกดูเหมือนเป็นมิตรขี้เล่น ใจดี
“ไอ้เหี้ยสาม กูรู้ว่ามึงเป็นพ่อพระ แต่ไม่ต้องมาพูดกับกู ถ้าไม่รีบกินก็ยกให้กู กูชอบ กูอยากได้ เท่าไหร่ก็ยอมจ่าย” สีหน้าของจิณพรตมีแววแห่งความหื่นกระหาย กระลิ้มกระเหลี่ยเด็กสาวที่ไม่บรรลุนิติภาวะอย่างออกนอกหน้า ขอถอนคำพูดที่ว่าไม่กินของเพื่อนแล้วกัน ถ้าเพื่อนให้ก็ยินดีเปิดอกรับ ไม่แปลกเพราะในเรื่องผู้หญิงจิณพรตนั้นเลือดเย็นไม่มีความเอ็นดูเมตตาใดๆ เคยถึงขั้นจับไปค้าประเวณีที่ต่างแดน คนที่จับงานพวกนี้ มีแต่คนใจแข็ง ใจเหี้ยมทั้งนั้นคงมีแต่สามก๊ก ที่ยังคงมั่นคงในอุดมการณ์ของตัวเอง ที่อยากจะธุดงค์ในป่า เป็นพระอาจารย์ที่เปี่ยมคุณธรรมเขารู้สึกไม่ชอบสายตาล่วงเกินของอีกฝ่ายที่มองเด็กสาว ไม่รู้เพราะความรู้สึกแบบไหน จึงล้วงปืนในกระเป๋ากางเกง แล้ววางใกล้ๆ มือของตนเองเป็นการขู่ใจ ในขณะที่บาร์เทนดี้หัวเราะคิกคัก ส่งแก้ววิสกี้ให้เขา“จะลองดูก็ได้” ออพิมแก้วไม่ได้รู้เรื่องราวที่ชายกำยำสองคนเขม่นกัน แต่ดูเหมือนว่าจิณพรตก็จะเกรงอกเกรงใจสามก๊กอยู่ในที เพราะถึงมันจะเป็นพ่อพระเข้าเส้น บ้าสวดมนต์จนถึงขนาดสวมสร้อยองค์ท้าวเวสสุวรรณ 100 ปีที่ผ่านพิธีปลุกเสกไปทำงานด้วย แต่เวลาที่ลงโทษหนอนก็โหดเหี้ยมเอาเรื่องเ
“เท้าคุณหนูไซส์ 35 หารองเท้าไซส์นี้ยากมากเลยค่ะคุณท่าน”“งั้นไว้ไปซื้อใหม่ ขึ้นมา” เขาหันไปออกคำสั่งกับพิมแก้วด้วยน้ำเสียงห้วนจัดตามนิสัย เด็กสาวเม้มกลีบปาก ก่อนที่จะยืนเหรอหราอยู่ตรงนั้น จนแม็คกี้ต้องเดินไปเปิดประตูรถอีกฝั่งให้“ขึ้นทางนี้ครับคุณหนู” ออพิมแก้วพยักหน้ารับพร้อมกับค่อยๆ เข้าไปในรถอย่างทุลักทุเล ประตูรถถูกปิดลงอย่างเรียบร้อย ในขณะที่สามก๊กเคลื่อนตัวรถออกไปอย่างรวดเร็วไม่นานนักก็มาถึงที่หมาย ทั้งสองคนนั่งไม่พูดไม่จากันตลอดทาง เพราะออพิมมัวแต่สนใจวิวข้างนอกที่แปลกตา ส่วนสามก๊กก็เอาแต่ท้าวคางบังคับพวงมาลัยข้างเดียวเคร่งเครียดอะไรเรื่อยเปื่อยบรรยากาศของคลับในช่วงเย็นนั้นยังคงไม่ค่อยมีใครเข้ามา สามก๊กไม่ได้ต้องการอินบรรยากาศ แค่ปรารถนาจะจิบแอลกอฮอล์ย้อมใจก็เท่านั้น ตรงหน้าคลับของจิณพรต เพื่อนของเขานั้นเต็มไปด้วยการ์ดคุมนับสิบด้านหน้า ซึ่งพอรถของสามก๊กขับมาจอดด้านหน้า พวกเขาก็พร้อมใจกันโค้งคำนับอย่างพร้อมเพรียง“ผมขับให้ครับท่าน” การ์ดคนหนึ่งเข้ามาเคาะกระจกเบาๆ เพื่อจะบริการขับรถไปจอดในที่จอดรถ Vip ให้เขา สามก๊กพยักหน้ารับ กำชับแว่นสายตาตอนที่เปิดประตูรถแหงนขึ้น แล้วการ์ดดำอ
คราวนี้เอมมิกาหน้าแตกดังเพล้ง ทั้งที่เด็กสาวคนนี้มีดีแค่ความสวยซึ่งอาจไม่มากไปกว่าเธอสักเท่าไหร่ แต่สามก๊กกลับหยามหน้ากันถึงขนาดนี้ ไม่อยากกลับมาควงหล่อนถึงขนาดต้องดึงคนบ้ามามีอะไรด้วย ตั้งตนให้มันแล้วเรียกว่าเมีย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ“แล้วสามจะต้องเสียใจ ที่คิดหักหน้าเอมด้วยอีเด็กสติไม่ดีนี่” เธอปรามาสอย่างฉุนเฉียว หมดมาดแม่ชีไปไหนทันใด ยิ่งเห็นว่าแม่เด็กสาวคนนั้นทำท่าจะหนีไปแต่กลับถูกสามก๊กรั้งเอวคอดกิ่วกลับมาทันควัน ก็ทำเอาหึงหวงหน้ามืดตามัวแทบควันออกหูทั้งที่สามเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ของเธอมาตลอดแท้ๆจำเอาไว้เถอะ นังพิมแก้ว!หลังจากพ้นจากหลังเอมมิกาไป สามก๊กก็ทรุดตัวลงไปนั่งบนโซฟา ทั้งๆ ที่ยังรั้งเอวคอดของพิมแก้วอยู่ จนทั้งคู่ล้มลงไปด้วยกัน“นี่ท่าน!” เธอทำท่าจะปรามาส หากแต่ฝ่ามือที่สั่นเทาของผู้ชายที่ดูเหมือนจะเข้มแข็งและน่ากลัวกลับทำให้เจ้าหล่อนชะงัก “... ท่านมิเป็นกระไรใช่หรือไม่”คำพูดหวังปรามาส จึงแปรเปลี่ยนไปเป็นเนื้อเสียงแห่งความเป็นห่วงแทน“เปล่า” เขาผละฝ่ามือออกจากเธอทันทีที่รู้สึกตัว ค่อยๆ เอื้อมมือขึ้นไปถอดแว่นตาออกอย่างเหนื่อยล้า ตลอดหลายปีที่เอมมิกาตามมารังควานจนนางบ
เอมมิกาเป็นสาวสังคมระดับสูงที่ชุบตัวมาจากเด็กเสี่ยในอดีต เธอมีความทะเยอทะยานสูง อาชีพเด็กเสี่ยไม่มีใครผิด ทุกคนต้องการหาความสะดวกสบายให้ชีวิตตัวเอง หากแต่เอมมิกานั้นกลับเปลี่ยนผู้ชายไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ถูกขัดใจ สามก๊กคืออดีตเพื่อนของเธอก่อนที่จะกลายเป็นสามีเก่าที่เคยมีลูกด้วยกันเอมมิกาทำแท้งเนื่องจากเธอไม่อยากมีลูก แต่พอพลาดท้องกับสามก๊ก เธอไตร่ตรองแล้วว่าไม่สามารถเป็นแม่คนได้จริงๆ จึงตัดสินใจกินยาขับเลือดตอนตั้งครรภ์ จนสามก๊กที่ถึงกับเล่นใหญ่ซื้อห้องให้ลูกคนแรกของเธอกับเขาถึงกับจมอยู่กับความเจ็บปวด เขาไม่ทำงานทำการและยึดติดกับลูกคนนี้มาก จึงทำให้ชีวิตในช่วงนั้นของสามก๊กตกต่ำ เอมมิกาจึงตีปีกไปจากเขาอย่างรวดเร็วสามก๊กเคยให้สัญญากับเธอว่า ไม่ว่าเธอกับเขาจะตกอยู่ในสถานะแบบไหน ความเป็นเพื่อนก็ยังอยู่เหมือนเดิม เขาเป็นคนที่อบอุ่นกับคนรัก แต่เพราะเธอไม่รู้จักพอ เอมมิกาจึงอยากมาขอโทษแต่เธอใช้วิธีขอโทษที่ผิดไปหน่อย เนื่องจากตัวเองมีความเอาแต่ใจจากการโดนเอาใจสูง ยิ่งกับสามก๊กที่เคยรักเธอแล้วด้วย เธอคิดว่าไม่ต้องทำอะไรมากหรอก แค่เห็นเธอเขาก็คงจะมานอนจูบแทบเท้าเธอแล้วก็สามก๊กน่ะเป็นสุนัขผู้
ชายหนุ่มส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่เดินเข้าไปหลบที่หลังม่านที่อยู่ใกล้บานหน้าต่างใหญ่ที่มองลงไปด้านล่างได้ถนัด เขาคิดว่าหล่อนคงไม่ก้าวเข้ามาก็ต่อเมื่อตนนั้นก้าวเข้าไปเอง จึงตัดสินใจขยับรองเท้าหนังจระเข้มันวาวเข้าใกล้หล่อนที่อยู่หลังผ้าม่าน“เฮือก!” เจ้าตัวเล็กสะดุ้งโหยง เอาหน้ามุดผ้าม่านหนาที่แทบจะปิดตัวเองไม่มิด จนโดนฝ่ามือหนาของสามก๊กดึงมันออก ปรากฏความงดงามเต็มตา ท่ามกลางแสงแดดจ้าที่สาดส่องเข้ามาผ่านบานหน้าต่างเด็กสาวนั้นสวยจนแทบปฏิเสธไม่ได้ว่ากระตุ้นโสตประสาทความรับรู้ทางเรื่องเพศให้ตื่นได้ดี เธอในชุดสายเดี่ยวคอเสื้อแหวกต่ำ ผ่าหน้าผ่าหลัง ผ่าขานั้นสวยจนไม่มีที่ติ พาลทำให้กายแกร่งของสามก๊กนั้นเกร็งเครียดการถุกกระตุ้นโดยที่รู้ตัวว่ามันจะไม่สำเร็จดั่งใจหวัง มันช่างทรมานเหลือเกินปึง!“อ๊ะ!” เสียงหวานหวีดร้องในลำคอเมื่อคนตัวใหญ่กว่ายันและดันเธอจนไปชิดกับบานหน้าต่างใหญ่ดังปึง แดดร้อนลามไล้แผ่นหลังนวลเนียนจนเธอหยีตา คุณสามหรี่ตาลงมองใบหน้าของหล่อนที่แต่งเติมเมคอัพไปเพียงน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูสวยพิฆาตสิ้นดี“อย่ามาว่ากูโหดร้ายแล้วกัน ในเมื่อเธอยั่วยวนกูก่อน” ริมฝีปากหยักลึกข
“สัตตบรรณไม่ต้อนรับมึงอีกต่อไปแล้วพิศุทธิ์” เขาพูดกับชายวัยกลางคนตรงหน้า ที่ถึงจะเคยมีศักดิ์เป็นอดีตคู่ค้าที่แสนดี แต่ถ้าหักหลังกันเมื่อไหร่ ความเป็นมิตรนั้นจะถูกพังทลาย เขาจะทรมานมันทุกทางเท่าที่จะทำได้ฝ่ามือนั้นกดมีดลงพร้อมเสียงกรีดร้องโหยหวนของพิศุทธิ์ แต่ก่อนที่ส่วนแหลมคมของมีดพกจะกดลงที่นิ้วชี้หยาบอ้วนของเขา เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้นรัวๆ สามครั้ง จนสามก๊กต้องหยุดมีดไว้กลางอากาศ โดยที่เกือบจะเฉียดเนื้อของชายผู้นั้นไปแค่เพียงไม่กี่เซน“วิลลี่ โทรศัพท์” เขาหันไปออกคำสั่งกับมือขวา ชายหนุ่มกำยำหัวโล้นส่งสมาร์ทโฟนราคาแพงให้นายตัวเอง ก่อนที่สามก๊กจะเลื่อนสลับหน้าจอทัชสกรีนเป็นรูปหน้ากล่องแชทไลน์แต่ก็แทบจะผงะไป ใจกระตุกอย่างรุนแรงเมื่อเด็กสาวที่หายไปร่วมสิบห้านาที กลับส่งรูปภาพวาบหวิวขยี้ใจมายั่วยวนเขาในเวลาสำคัญเสียนี่!รูปแรก นั้นเป็นรูปที่พอเร่งระดับเลือดลมให้สูบฉีดประมาณหนึ่ง เป็นรูปที่เธอยกกล้องเซลฟี่ถ่ายด้วยมือตัวเอง รอยยิ้มโก๊ะๆ ถูกเผยออกมา พร้อมกับหน้าอกหน้าใจที่ทะลักจากชุดวาบหวิวที่สามก๊กโปรดปรานราวกับจงใจรูปที่สอง เป็นรูปที่ทรวงอกกลมโตหกลงจากขอบเสื้อคอกว้างมากขึ้น ความข