Share

คำพยากรณ์

last update Last Updated: 2025-07-01 20:41:17

ด้านสุขภาพนางมีฮัวตั่วเอ๋อ ด้านความเป็นอยู่ห้องสุขาที่นางอยากได้ก็มิได้จำเป็นสักเท่าใด ช่วงนี้นางอาศัยหลบไปใช้ห้องน้ำที่บ้านในมิติของนาง แต่คงต้องจัดการห้องสุขาในเรือนในเร็วๆ นี้ จะให้นางหลบเข้ามิติทุกครั้งก็ไม่ง่ายนัก เพียงแต่นางยังมิมีเวลาเชิญอนุมู่มาสนทนาเป็นการส่วนตัว ด้านชีวิตคู่และด้านการงานก็เป็นหัวข้อที่กำลังสนทนาอยู่ ด้านการเงินเมื่อจัดการเรื่องงานได้คงมีเงินตามมาได้เอง นางมิห่วงเรื่องเงินทุนเท่าใดนักเพราะนางมีอาหารสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูปจากในมิติ เพียงแต่สถานที่นี่สิ หลังจากไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง ตู้จินจินก็คิดว่าควรถามเพิ่มเติมเรื่องสถานที่ที่นางจะใช้ในการดำเนินกิจการ

“ข้าอยากรู้ว่ามีสถานที่ใดบ้างในต้าจินที่มีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะสำหรับทำเป็นภัตตาคาร” ในน้ำเสียงมีความกระตือรือร้น คล้ายว่าคล้อยหลังจากนี้ไปนางก็พร้อมที่จะเริ่มกิจการได้ทันที

“อีกมินานท่านจะได้รับหน้าที่ใหญ่ หากท่านทำได้ดีเรื่องสถานที่ท่านมิต้องกังวลอันใดเลย” กล่าวพลางสบตาทั้งยังส่งยิ้มให้กำลังใจ

“หน้าที่อันใด แล้วข้าจะทำได้หรือ นอกจากทำอาหารข้ายังทำอันใดได้อีกเล่า” ในน้ำเสียงนั้นเจือความกังวลจนไป๋เหลียนฮวามิต้องใช้ความสามารถใดก็ฟังออก

“ท่านปล่อยใจให้สบายเถิด ข้ามั่นใจว่ามิเกินความสามารถของท่าน กล่าวได้ว่าทุกสิ่งอันนั้นเพียงท่านพลิกฝ่ามือก็จะผ่านพ้นไป เอาเวลามาสนใจสามประการแรกที่เราสนทนากันค้างไว้เถิด” ตู้จินจินสังเกตได้ว่าสายตาของไป๋เหลียนฮวามิได้เคลื่อนจากการสบตาของนางเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นเหมือนกำลังใจอย่างดี ตู้จินจินรู้สึกว่านางมีความมั่นใจมาก ไม่ว่าหน้าที่นั้นจะเป็นอันใดนางก็มิได้มีความกังวล คล้ายดังว่าสิ่งที่ไป๋เหลียนฮวากล่าวนั้นเป็นสิ่งที่เป็นเช่นนั้นแน่นอนและจะมิเปลี่ยนแปลง

“ถ้าเช่นนั้น ปัญหาทั้งสามข้อนี้ข้าควรจัดการอย่างไร” แม้จะถามออกไปแล้ว ตู้จินจินก็ยังมองมิเห็นคำตอบ

“ประการแรก เรื่องในเรือนนั้น หากสิ่งใดมันมากเกินควรหรือเป็นสิ่งที่อยู่ผิดที่ผิดทาง ท่านก็จัดระเบียบเสียใหม่ ค่อยๆ ลดจำนวนลงไป อาจต้องใช้เวลาบ้างแต่ท่านก็จะมิได้อึดอัดคับข้องใจในการอยู่ร่วมกับสิ่งนั้นอีกต่อไป ประการที่สอง อันว่าความสัมพันธ์ของคนสองคนนั้นต้องใช้เวลา หากท่านมิหาเวลาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ แล้วเมื่อไหร่จะรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายหนึ่งเล่า แม้ว่าแคว้นต้าจินของเราจะเริ่มมีคู่แต่งงานที่มีการหย่าร้าง แต่ในกรณีของท่านนั้นเป็นไปมิได้ สามีท่านนั้นถึงแม้จะมีอนุมากมายแต่ยังมิมีนางในดวงใจ จะเป็นไรไปหากท่านจะเกี้ยวสามีตนเอง”

“ห๊า” ไป๋เหลียนฮวายังกล่าวมิจบ ตู้จินจินกลับร้องออกมาเสียงดังพร้อมทะลึ่งลุกขึ้นมาจากตั่งที่นอนเอนอยู่ แม้จะตกใจแต่ไป๋เหลียนฮวารีบปรับอารมณ์ นางส่งแก้วน้ำให้ตู้จินจินพร้อมทั้งกล่าว

“จิบน้ำให้สบายใจเสียก่อนเถิด มิต้องตกอกตกใจไป การเกี้ยวสามีตนเองมิได้เป็นเรื่องน่ารังเกียจและมิมีใครสามารถติติงท่านได้ ข้ามิได้ให้ท่านลวนลามสามีเสียหน่อย” หลังสิ้นเสียงตู้จินจินสำลักน้ำทันที

“แค่ก แค่ก ท่านหยุดกล่าวก่อนเถิด แค่ก” ตู้จินจินกล่าวด้วยท่าทางทุลักทุเล หากสตรีนางนี้ยังกล่าวต่อไปข้าคงหัวใจวายเป็นแน่ แค่ยิ้มจนเห็นฟันปี้หรูยังบ่นจนนางปวดหู หากเกี้ยวสามีจริงๆ ปี้หรูจะกล่าวเช่นไรหนอ

“ข้ากล่าวอันใดผิดไปหรือ หากท่านเป็นคุณหนูวัยเยาว์ยังมิปักปิ่นข้าคงมิกล้ากล่าว โบราณกล่าวไว้ว่า “จะมัดใจบุรุษ ก่อนอื่นต้องมัดกระเพาะบุรุษให้ได้ก่อน” ท่านยังกลัวสิ่งใดอีก” นอกจากส่งยิ้มสบตา ในแววตาที่อยู่ตรงหน้าตู้จินจินตอนนี้ยังมีแววทะเล้น มองไปคล้ายดวงดาวระยิบระยับ

“ข้าคิดว่าก็เป็นไปได้อยู่” แม้เสียงจะเบาไปนิดแต่ตู้จินจินก็ส่งยิ้มพร้อมตอบคำ เมื่อคิดถึงสิ่งที่สามีเคยกล่าวไว้กับนาง ‘ใช่สิ เขาเคยกล่าวว่าจะมารับมื้อเย็นเมื่อนางแข็งแรงพอที่จะปรุงอาหารได้ เช่นนั้นก็คงจะมิน่าเกลียดเท่าใดนัก’

“ต้องอย่างนี้สิคุณ เอ่อ ข้าควรเรียกท่านว่าฮูหยินสินะ แต่จากนรลักษณ์1ของท่าน ข้าควรจะเรียกว่าพระชายาเสียมากกว่า” แววตาที่ส่งมานั้นยังคงทะเล้นจนตู้จินจินอดใจไม่ให้ส่งยิ้มตอบกลับไปมิได้ แม้จะสงสัยว่านางรู้สถานะของตนได้อย่างไร

“หากท่านจะถามว่าข้ารู้ได้อย่างไรก็คงตอบได้แต่เพียงว่า เพราะข้าคือเทพธิดาพยากรณ์ไป๋เหลียนฮวาอย่างไรเล่า”

“อย่างนั้นท่านกล่าวถึงข้อต่อไปเถิด” เรื่องน่าเหลือเชื่อขนาดข้ามภพมาฟื้นขึ้นในร่างหญิงสาวคนหนึ่งโดยยังมีความทรงจำจากภพเดิมอยู่ยังเกิดขึ้นได้ เรื่องจำพวกตาวิเศษหรือสัมผัสพิเศษก็คงมีอยู่บ้างกระมัง ตู้จินจินมิได้ติดใจอันใด

“เรื่องของกิจการนั้น ท่านรองานใหญ่ที่ข้าบอกให้ผ่านไปก่อนเถิด จากนั้นทุกสิ่งจะเริ่มเข้าที่เข้าทางไปเอง” ไป๋เหลียนฮวารู้สึกว่าสตรีตรงหน้านางช่างหน้าสนใจเหลือเกิน ยามใดที่นางเอ่ยถึงเรื่องที่ผู้อื่นมิน่าจะทราบได้โดยง่าย หากเป็นผู้อื่นคงมีความสงสัยในสีหน้า ไม่ก็ซักถามออกมาตรงๆ ว่านางรู้ได้อย่างไร

1 นรลักษณ์    หรือที่คนไทยรู้จักในนาม โหงวเฮ้ง (Mien Shiang) คือ ศาสตร์ของการทำนายคุณสมบัติคนจากรูปลักษณ์ภายนอก (Chinese Physiognomy) โดยเฉพาะหน้าตา

ตอนที่ 20 สหายคนใหม่

“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ข้าก็มิรู้จะถามอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว เพียงแต่ข้ามีเรื่องจะเสนอกับแม่นางไป๋ มิทราบว่าท่านจะคิดเช่นไร” แววตาที่มองมายังไป๋เหลียนฮวานั้นแลดูมีความหวัง ซึ่งไป๋เหลียนฮวาเองก็อยากรู้ว่าสตรีตรงหน้าจะเสนอสิ่งใดต่อนาง

“ท่านลองเอ่ยมาดูเถิด หากมิเกินความสามารถข้าจะพิจารณาดู” ไป๋เหลียนฮวาได้แต่ตอบแบ่งรับแบ่งสู้เพราะมิรู้ว่าอีกฝ่ายจะเสนอสิ่งใด

“หากมิได้ทำให้ท่านลำบาก ข้าก็อยากจะขอเสนอตัวให้ท่านพิจารณารับเป็นสหายสักคนได้หรือไม่” ตู้จินจินรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นางมีความรู้สึกถูกชะตาในสตรีตรงหน้าและมีความรู้สึกไว้ใจ ทั้งยังมั่นใจว่านางสามารถคบหาสตรีตรงหน้าได้อย่างสบายใจอย่างแน่นอน

“โอ้ ได้สิ งั้นเราเลิกพยากรณ์ได้เลยสินะ ข้าจะได้มีเวลาทำความรู้จักกับท่านให้มากขึ้นอีกสักหน่อย” ไม่พูดเปล่า ไป๋เหลียนฮวาคว้ามือทั้งสองข้างของตู้จินจินมากุมไว้ในขณะที่ตู้จินจินนั้นตกใจจนปากอ้าตาค้างไปแล้ว

เมื่อรู้สึกตัวจากการเขย่ามือที่ถูกกุมไว้เบาๆ ตู้จินจินรีบหุบปาก ตามมาด้วยหัวเราะแก้เขิน นี่น่าตกใจเกินไปแล้วช่างเปลี่ยนอารมณ์ได้รวดเร็วเสียยิ่งนัก

“ขอโทษๆ ข้าอาจจะเสียงดังเกินไปข้าดีใจมากเกินไปหน่อย ทั้งๆ ที่ท่านตาสอนให้ข้ารู้จักเก็บอารมณ์แล้วเชียว” ไป๋เหลียนฮวารีบขอโทษขอโพย ด้วยความที่นางเองก็มิค่อยมีสหายเช่นกัน ในเมืองต้าจินนางมีเพียงบรรดาท่านป้าหญิงและพี่สาวที่เป็นหญิงหม้าย พี่ชายที่อดีตเคยเป็นกรรมกร แล้วก็เด็กๆ ที่เคยเป็นขอทานน้อยซึ่ฃตอนนี้นางสร้างโรงเรียนการกุศลให้พวกเขาได้ศึกษาเล่าเรียน นางจึงดีใจมากเกินไปเมื่อมีคนเอ่ยชวนให้เป็นสหาย

“ไม่เป็นไร ข้าเพียงตกใจนิดหน่อย แสดงว่าท่านยินดีเป็นสหายกับข้าใช่ไหม” ตู้จินจินอยากย้ำให้มั่นใจ

“ยินดีสิ ข้ายินดี ข้าขอแนะนำตัวเองก่อนเลย ข้าแซ่ไป๋ ชื่อเหลียนฮวา ปีนี้อายุ16 บิดามารดาสิ้นบุญไปเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้ข้ามีเพียงท่านป้า พี่สาว พี่ชาย และน้องๆ ที่ข้ายินดีมากที่เจ้าเสนอให้เป็นสหายกันนั้นเพราะข้ามิมีสหายแม้แต่คนเดียว ถ้าจะมีสนิทสนมอยู่บ้างก็เป็นผู้เข้ารับคำพยากรณ์บางคนที่พอจะคุยกันถูกคอและได้พบกันตามร้านน้ำชาหรือร้านอาหารซึ่งมีเพียงสามสี่คนเท่านั้น” กล่าวจบก็ส่งแก้วน้ำที่เติมจนเต็มให้ตู้จินจิน

“ท่านกล่าวได้ถูกแล้ว ข้าคือพระชายา แซ่ตู้ ชื่อจินจิน บ้านเดิมของข้าคือกรุง เอ่อข้าหมายถึงแคว้นสู่น่ะ ท่านคงรู้เรื่องการสมรสของข้ากับองค์ชายรองบ้างสินะ ข้างกายข้ามีเพียงนางกำนัลสองคน อ้อ ยังมีฮัวตั่วเอ๋ออีกคน นางเป็นทั้งแพทย์ประจำตัวและสหายที่ข้าเพิ่งเริ่มคบหาได้เพียงไม่นาน ท่านจะเรียกข้าว่าอาจินเช่นที่นางเรียกก็ได้” ตู้จินจินกล่าวหลังจากจิบน้ำไปครึ่งแก้ว

“ท่านอันใดกันเล่า เจ้าเรียกข้าว่าอาเหลียนเถิด และข้าก็จะเรียกเจ้าว่าอาจินตามที่เจ้าว่า” กริ๊ง กริ๊ง เสียงกระดิ่งดังขึ้นจากไหนมิทราบมันดังขึ้นเพียงเบาบางมิทำให้ตกใจแต่ก็เรียกความสนใจจากคู่สนทนาทั้งสองได้ ไป๋เหลียนฮวาขอตัวจากตู้จินจินเพื่อเดินไปมุมหนึ่งของห้องซึ่งแสงส่องไปมิถึง นางพยายามเพ่งมองแต่เสียงในห้องนี้สว่างรวมกันอยู่ตรงตั่งเอนที่นางนั่งอยู่เท่านั้น เมื่อทำอันใดมิได้นางจึงได้แต่มองไปรอบๆ เพื่อสังเกต ห้องพยากรณ์แห่งนี้นอกจากด้านบนที่นางเห็นเพียงดวงดาราที่นางรู้สึกคล้ายท้องฟ้าจำลองแล้วก็มิเห็นสิ่งใดเพิ่มเติมอีก ส่วนที่พื้นนั้นนางเพิ่งสังเกตได้ว่ามีภาพดอกบัว ใบบัวและเต่าน้ำ รวมถึงเหล่าปลาตัวเล็กตัวใหญ่แตกต่างกันไป นี่คงเป็นภาพจำลองของบึงบัวกระมัง ขณะที่นางกำลังคิดอยู่นั้นไป๋เหลียนฮวาก็เดินกลับมา แต่นางกลับดูมีท่าทีคล้ายอึดอัดใจจนตู้จินจินอดเอ่ยปากถามด้วยความห่วงใยมิได้

“เจ้าเป็นอันใดไปหรืออาเหลียน มิใช่ว่ารู้สึกเสียใจภายหลังที่ตอบรับเป็นสหายกับข้าหรอกนะ” แม้จะคิดว่ามิใช่แต่ก็มิวายอดกระเซ้า

“โธ่ อาจินเจ้าอย่าเย้าข้าเลย ข้ามิมีทางรู้สึกเช่นนั้นแน่ แต่ข้าเสียใจที่มิอาจสนทนาต่อกับเจ้าได้ หากเรายังมิจบการพยากรณ์ข้ายังจะมีข้ออ้างอยู่บ้าง แต่นี่เป็นอีกเรื่องนึงที่ข้าพอจะพยากรณ์ไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น เพียงแต่ข้ามิสามารถควบคุมเวลาได้” ไป๋เหลียนฮวายังคงมีท่าทีลำบากใจ

“มีอะไรก็บอกข้ามาเถิด หรือจะให้ข้าช่วยอันใดข้าก็ยินดี หากว่าข้าทำได้น่ะนะ” ตู้จินจินกล่าวกับสหายใหม่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงจริงจัง ด้วยนางคิดว่าสหายคงมีความลำบากเดือดร้อนอันใดเป็นแน่

“มิใช่อันใดหรอกอาจิน เพียงแต่ข้าอยู่สนทนากับเจ้าต่อมิได้เสียแล้ว เพราะท่านเจ้าเมืองได้มาขอพบข้าอย่างเร่งด่วนทั้งยังแจ้งว่าเป็นกิจสำคัญ ข้าหวังว่าเจ้าคงเข้าใจ” ไป๋เหลียนฮวาเฉลยด้วยใบหน้าผ่อนคลาย นางยินดีนักที่สหายคนแรกมีน้ำใสใจจริงจนเอ่ยปากจะให้ความช่วยเหลือเพียงแค่เห็นนางมีสีหน้ากังวลใจ

“ข้าเข้าใจ ป่านนี้นางกำนัลและสหายของข้าก็คงเริ่มเป็นห่วงข้าแล้ว แม้ว่าข้าจะมิแน่ในว่าข้าเข้ามาในห้องพยากรณ์นานเท่าใดแล้ว แต่หากพวกเขามองหาข้ามิเจอก็คงมิได้สบายใจนักหรอก” เมื่อมีเรื่องอื่นเข้ามาแทรกนางก็เพิ่งจะนึกถึงปี้หรูและฮัวตั่วเอ๋อ

“เช่นนั้นเจ้ารับหยกนี่ไว้เถิด เพียงเจ้าให้คนถือมันมาแจ้ง ข้าก็จะหาเวลาไปพบเจ้าทันที หรือหากเจ้าจะนัดเวลาเพื่อมาพบข้าก็เพียงแจ้งมากับคนส่งสารได้เช่นกัน” พร้อมกับพูด ไป๋เหลียนฮวาส่งหยกสีขาวนวลเงามันดั่งมันแพะ สัณฐานรูปหยดน้ำขนาดประมาณเหรียญสิบบาทในภพเดิมของนาง เมื่อใช้นิ้วสัมผัสจะรู้สึกถึงร่องรอยสลัก ยกขึ้นมาเพ่งดูเห็นเป็นภาพดอกบัวแรกแย้มดอกหนึ่ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ตอนพิเศษ

    เพื่อนร่วมรุ่นม.ต้นที่สนิทสนมและรักกันมาก จำนวน 4 คนพร้อมทั้งน้องสาวของเพื่อนอีกหนึ่งคนในกลุ่มที่อายุไล่เลี่ยกันทำให้พลอยสนิมสนมกับเพื่อนๆ ของพี่สาวไปด้วย ทั้ง 5 คนมีจุดร่วมกันอีกอย่างที่คนภายนอกไม่ทราบนั่นก็คือความความเคารพนับถือในท่านเทพไฉ่ซิงเอี๊ยะเทพเจ้าแห่งโชคลาภนั่นเองวันนี้ห้าสาวนัดรวมกันไปกินข้าวกลางวันที่ห้างดังแห่งหนึ่งในอำเภอเมือง หนุงหนิงที่พาอุ๊งอิ๊งลูกสาวจินไปประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนประจำจังหวัดแทนจินที่ติดประชุมผู้ถือหุ้นก่อนจะมารวมตัวกับทุกคน เป็นเหตุให้ได้เห็นนายเจนภพสามีจอมเจ้าชู้ของจินที่อ้างว่าป่วยต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพากิ๊กและลูกติดไปประชุม บังเอิญว่าลูกติดของผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนห้องเดียวกับน้องอุ๊งอิ๊งลูกสาวของจิน เธอเลยให้อุ๊งอิ๊งทำทีถามทางไปบ้านของเด็กคนนั้นและเอามาบอกให้จินฟังหลังทานข้าวเสร็จ เพราะกลัวเพื่อนจะไม่ได้กินข้าวกินปลา แต่กระนั้นจินก็รีบร้อนออกไปหาเจนภพตามที่อยู่นั้นทันทีที่หนุงหนิงเล่าจบเนื่องจากเธออนุญาตให้เจนภพสามีจอมเจ้าชู้มีภรรยาน้อยได้ตลอดขอเพียงให้บอกเธอ เธอจะได้พาเจ้าหล่อนไปตรวจร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และได้จ

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   มัลติเวิร์ส (Multiverse) ของอาจิน

    “ตั้งแต่วันที่ข้าฟื้นขึ้นมาก็พบว่ารอบๆ ตัวของข้าเปลี่ยนไป ข้าต้องใช้ชีวิตในร่างของใครอีกคนหนึ่ง ดีที่ได้รับการช่วยเหลือจากท่านเทพไฉ่ซิงเอี๊ยะที่ข้านับถือ และยังได้พบเจอสหายดีๆ ที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพกายและใจให้ข้าเช่นฮัวตั่วเอ๋อ และไป๋เหลียนฮวาที่ปรึกษาในการใช้ชีวิต รวมถึงหวงเฟิ่งและจินหลิงหลิง ทั้งสี่นางทำให้ข้าคิดถึงสหายสนิททั้งสี่ในภพเดิม และต้องไม่ลืมกล่าวถึงอาเม่ยที่ทำให้ข้าหายคิดถึงอุ๊งอิ๊งลูกสาวข้าที่มีวัยใกล้เคียงกับนาง ท่านตาบอกข้าว่าคำอธิฐานของข้าทำให้ข้าได้ย้อนกลับมาแก้ไขชะตาของตนเอง ข้าจึงมิได้เสียใจนักที่ตู้จินจินคนเดิมตายไปเพราะนางก็คือข้าและข้าก็คือนาง เพียงแต่นี่คงจะเรียกว่าว่า ‘อดีตชาติ’ คงมิได้ แต่มันน่าจะเรียกว่า มัลติเวิร์ส1 ที่มีตัวตนของเราอีกคนหนึ่ง ในโลกอีกใบหนึ่ง ซึ่งมีจุดกำเนิด แนวคิด วีถีชีวิต และจุดจบแต่งต่างกันไป และมิจำเป็นว่าต้องมีแค่หนึ่งหรือสองตัวตนเท่านั้น และแม้ว่าแต่ละตัวตนในแต่ละโลกจะต่างฝ่ายต่างดำรงชีวิตกันไปโดยไร้ซึ่งความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นในภพใดภพหนึ่งอาจส่งกระทบถึงภพอื่นๆ ไปด้วยได้เช่นกัน” หลังจากที่เล่าเรื่องราวโดยละเ

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ความลับของตู้จินจิน (2)

    “นังหนู นังหนูจิน อย่ามัวแต่นอนอยู่เลย สงสารสวามีเจ้าบ้างเถิด เคราะห์ครั้งสุดท้ายของเจ้าผ่านไปแล้ว” เสียงอ่อนโยนของเทพชราปลุกให้จินมีสติขึ้นมาในความฝัน “ท่านตาเจ้าขา ท่านตาช่วยหลานไว้ใช่ไหมเจ้าคะ หลานกราบขอบคุณเจ้าค่ะ” พร้อมคำพูดร่างแน่งน้อยกุลีกุจอลุกขึ้นยอบกายลงกราบแทบเท้าท่านเทพที่นางเคารพยิ่ง “คราวนี้นับว่าเป็นกุศลที่เจ้าช่วยหลีกเลี่ยงสงครามครั้งใหญ่ทำให้ผู้คนมากมายรักษาชีวิตไว้ได้ เรียกว่าเป็น ‘บุญรักษา’ อย่างแท้จริงก็ว่าได้” “เป็นเช่นนี้เอง ว่าแต่นี่หลานเข้ามาในมิติได้แถมยังพาสวามีมาได้อีกด้วย เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้เจ้าคะ ท่านตาเคยบอกหลานว่ามีเพียงหลานเองที่สามารถเข้าออกมิติแห่งนี้ได้” แม้ว่าจะดีใจที่พาสวามีหลบภัยเข้ามามิติได้แต่ก็ยังไม่วายสงสัยจนต้องตั้งคำถาม “ในภพเดิมของเจ้าก็มีคำกล่าวว่า ‘สามี-ภรรยา เหมือนดั่งคนคนเดียวกัน’ มิใช่รึ” เสียงตอบเรียบๆจากท่านเทพชราพาให้จินคิดตามและเมื่อคิดได้ว่า นางและเขาได้ผ่านการเข้าหอซึ่งถือว่าเป็นสามี-ภรรยากันแล้ว ใบหน้าเรียวพลันขึ้นสีแดงด้วยความขวยเขิน “ข้ามิได้หมายถึงเรื่องนั้น แต่หมายถึงการที่

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ความลับของตู้จินจิน (1)

    หลังสรุปผลการชิงธง และรับประทานมื้อเช้าอันอุดมสมบูรณ์ที่พระชายาตู้สั่งมาจากภัตตาคารชิมเมฆา แม้กับข้าวจะมีเพียงต้มจืดซี่โครงหมูกับผักกาดดองไว้ซดให้คล่องคอ และผัดกะเพราหมูสับไข่ดาวที่เติมได้ไม่อั้นครานี้การพรางตัวเป็นไปอย่างง่ายดายเพราะองครักษ์เงานั้นมีการฝึกแปลงโฉมกันอยู่ก่อนแล้ว ตู้จินจินให้ช่างแต่งหน้าจากคณะละครของไป๋เหลียนฮวามาสอนเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็เรียกได้ว่าไร้ที่ติ เป้สัมภาระถูกซุกซ่อนในหีบเสื้อผ้า อาหารแห้งปะปนกันทั้งจริงและหลอก อาหารทะเลตากแห้งและเกลือในปริมาณตามที่ได้รับอนุญาตถูกบรรจุไว้ในถังไม้ หรือแม้กระทั่งห่อกระดาษน้ำมันที่ตีตราว่าเป็นใบชา ด้านในกลับเป็นเกาเฟยคั่วบดในซองผ้ากับน้ำตาลอ้อยชนิดผงกองกำลังถูกแบ่งกลุ่มและพรางตัวเพื่อออกเดินทางแล้วแยกย้ายกันไปในรูปลักษณ์ต่างๆ โดยแบ่งกำลังออกเป็น 5 กลุ่ม ทำทีเป็นพ่อค้าบ้าง เป็นคณะละครที่กลับจากแคว้นต้าจินบ้าง ทุกกลุ่มเดินทางทั้งกลางวันกลางคืน เมื่อถึงเมืองชายแดนหลังออกเดินทาง 3 วัน จึงตั้งค่ายพักผ่อนให้เต็มที่ 2 วัน จากนั้นจึงเดินทางเข้าประชิดเป้าหมายคือค่ายโจรเผ่าปาสู่แผนการรบถูกวางและซักซ้อมกันไปแล้วในการฝึกพิเศษ ตู้จินจินถ

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ชิงธง (2)

    เมื่อทุกคนตื่นมารับประทานอาหารเย็นในยามโหย่ว เหตุการณ์ที่พวกเขารับรู้ได้ก็ยังไร้วี่แววการบุกหรือถูกบุกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยสิ้นเชิง ดีที่มื้อเย็นวันนี้เป็นอาหารปิ้งย่างที่ตู้จินจินให้ทางภัตตาคารชิมเมฆาส่งเนื้อสัตว์เสียบไม้สลับกับผักและผลไม้และมีน้ำหมักที่เอาไว้ทาไปย่างไปมาอีก 2 แบบ คือแบบเผ็ดมากและเผ็ดน้อย ส่วนคนที่ไม่เผ็ดนั้นคือเนื้อสัตว์แต่ละชนิดก่อนจะนำมาเสียบสลับกับผักผลไม้ที่ถูกหมักกับน้ำมันงาและเหล้าอย่างดีมาก่อนแล้ว “เจ้าว่าพวกเขาจะเริ่มบุกกันเมื่อใดหรือ” ฮัวตั่วเอ๋อที่ไม่ได้พักผ่อนยามบ่ายเอ่ยถามขึ้น และอีกหลายคนก็ยังจัดการงานในมือมิแล้วเสร็จ “หลังกลางยามโฉ่วไปแล้วกระมัง หากให้คำนวณตามหลักการของคนปกติ ช่วงนี้จะเป็นเวลาที่กำลังหลับลึกที่สุด แต่ว่าข้าก็มิอาจยืนยันได้เพราะพวกเขาผ่านการฝึกให้ต่างจากคนทั่วไป หากใครต้องการพักผ่อนก็ตามสบาย หากมีความเคลื่อนไหวข้าจะให้คนไปปลุกพวกท่านเอง” ตู้จินจินเองก็เพิ่งพักสายตาไปไม่นานเพราะมัวแต่ถูกก่อกวนจากพระสวามีก็รู้สึกง่วงอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะไม่ได้มีอะไรเกินเลยเพราะต่างก็เกรงใจดวงตะวันที่ยังไม่ตกดิน ทั้งยังมิได้พักอยู่ในจวน

  • ข้ามภพมาเป็นเมียหลวงยืนหนึ่ง   ชิงธง (1)

    “กลุ่มเลขคี่ประชุมด่วน” เสียงเรียกประชุมดังขึ้นกลางสวนผลไม้ในชมเมฆา แต่กลับไร้วี่แววของกำลังพลกลุ่มเลขคี่ที่ควรจะมารวมตัวกันเพื่อรับฟังการประชุม องค์ชายรองและพระชายามองหน้ากัน ในสายตามีรอยยิ้มน้อยๆ จนเมื่อหยางต้าซานหยิบนกหวีดทองเหลืองออกมาเป่าเป็นจังหวะสั้นยาวสลับกันสามครั้งจึงเริ่มมีกำลังพลทยอยกันมารวมกลุ่มจนครบทุกนายภายในเวลาเพียงชั่วอึดใจ แสดงให้เห็นได้ชัดถึงระเบียบวินัยและความมั่นคงในจิตใจของกำลังพลที่มิเชื่อคำสั่งของผู้ใดโดยง่าย “ทุกคนพรางตัวได้ดีมาก เรื่องบทลงโทษจึงละเว้นให้ แต่อย่าลืมว่าในยามศึกการลงโทษคือชีวิต คืนนี้ฝ่ายเลขคี่เลือกเป็นฝ่ายบุก ดังนั้นภารกิจที่พวกเจ้าได้รับคือ บุกไปชิงธงสัญลักษณ์ของฝ่ายเลขคู่มาให้ได้ก่อนฟ้าสาง โดยที่ต้องรักษาธงสัญลักษณ์ของฝ่ายตนเองเอาไว้ให้ได้ด้วย โดยทั้งสองฝ่ายต้องสร้างหอธงขึ้นมาในส่วนใดก็ได้ของค่ายพัก และภารกิจจะเริ่มเมื่อตะวันตกดิน นี่คือพลุสีเหลือง พวกเจ้าติดตัวไว้คนละ 1 ดอก หากชิงธงมาได้แล้วให้จุดพลุขึ้นทันทีแล้วภารกิจจะเป็นอันเสร็จสิ้น ส่วนแผนการทั้งหมดให้พวกเจ้าหารือกันเอง ครูฝึกและพวกข้าจะคอยสังเกตการณ์ ห้ามมิให้ถึงแก่ชีวิตและห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status