Share

บทที่ 21 องค์รัชทายาท

Author: BigM00N
last update Last Updated: 2025-05-22 22:18:30

เมื่อหลี่ไท่หลงลงจากรถม้ามาแล้วได้พบกับรถม้าของจวนสกุลเฉินก็พลันชะงักไปครู่หนึ่งเช่นกันยิ่งเมื่อสายตาของเขาปะทะเข้ากับสาวน้อยสกุลเฉินคนนั้นก็อดส่งยิ้มให้นางอย่างฝืดเฝื่อนมิได้ ยิ่งเมื่อได้เห็นหลี่ถังหรูผู้เป็นน้องสาวต่างมารดาและคุณหนูสกุลหวังแล้วเขาก็อดหันไปมองสหายที่ชอบทำสีหน้าเคร่งขรึมอยู่เป็นนิจมิได้

“เจ้าคงรู้ว่านางมาที่นี่กระมัง จึงได้พยายามชักชวนข้ามาที่นี่” เมื่อเห็นสหายไม่ตอบหลี่ไท่หลงก็เดาะลิ้นออกมาแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“นางยังไม่ถึงวัยปักปิ่นเสียด้วยซ้ำ จะรีบร้อนสายสัมพันธ์ไปไย” แม้ว่าคนข้างหลังจะไม่ตอบแต่หลี่ไท่หลงผู้เห็นอกเห็นใจสหายเป็นอย่างยิ่งก็อดไม่ได้ที่จะเดินตรงไปหากลุ่มสตรีที่ยืนพูดคุยกันอยู่ตรงหน้า

“ข้าเห็นแก่เจ้าหรอกนะ หากข้าไม่ช่วยเจ้าด้วยท่าทีแข็งทื่อเช่นนี้ของเจ้าต่อให้วันหน้าเจ้าได้แต่งกับคุณหนูสกุลหวังแล้วก็ไม่แน่ว่าเจ้าจะสามารถสานสัมพันธ์กับนางได้อย่างราบรื่น” หลี่ไท่หลงเอ่ยออกมาเสียงเบาดุจกระซิบพลางคิดถึงสิ่งที่พวกนางพูดคุยกันในครั้งก่อน ทั้งที่หวังฮุ่ยหลิงรู้ว่าเซียวอวิ๋นหยวนนั่งฟังอยู่แต่นางกลับเอ่ยถ้อยคำเหล่านั้นออกมา นับว่าว่าที่ภรรยาของเซียวอวิ๋นหยวนผู้นี้เป็นคนที่ไม่ธรรมดาเลย

‘จะธรรมดาได้อย่างไร นางคบหาอยู่กับเฉินเจียวเจียวได้อย่าสนิทชิดเชื้อเช่นนี้ย่อมยากที่จะธรรมดา ใกล้ชาดย่อมเปื้อนแดงแม้แต่สตรีเบาปัญญาอย่างน้องเก้ายังได้เปลี่ยนไปทำให้ข้าไม่อาจจะดูแคลนได้อย่างแท้จริง’ หลี่ไท่หลงคิดในใจพลางเดินเข้าไปหาสตรีกลุ่มนั้นด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

“ถวายพระพรเสด็จพี่รัชทายาท คิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับท่านที่นี่นะเพคะ” หลี่ถังหรูเอ่ยพลางย่อกายคารวะทักทาย บรรดาสตรีที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของพวกนางก็ต่างพากันย่อกายถวายพระพรเช่นเดียวกัน

“คนเช่นข้าอยากไปก็ไปอยากมาก็มา เป็นเช่นนี้มาเนิ่นนานแล้วเจ้ายังไม่ชินอีกหรือ” หลี่ไท่หลงเอ่ยพลางหันไปมองสหายของตนแล้วก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเซียวอวิ๋นหยวนยังคงทำสีหน้าไร้อารมณ์อยู่เช่นเดิมเขาจึงได้ลอบทอดถอนใจออกมา

“หม่อมฉันก็หลงคิดว่าเสด็จพี่จะไปนั่งจิบน้ำชาชื่นชมคนงามขับขานบทกวีที่หอหลิงฟางเสียอีก คนเขาอุตส่าห์สร้างสถานการณ์เสียใหญ่โตเช่นนั้นแต่กลับไม่เสด็จไปช่างไร้น้ำพระทัยเสียจริง” เมื่อหลี่ถังหรูเอ่ยเช่นนี้หลี่ไท่หลงก็แค่นหัวเราะออกมา เขาไม่ได้เอ่ยอันใดนอกจากปรายสายตาไปมองเฉินเจียวเจียวครู่หนึ่งแล้วจึงได้หันไปเอ่ยกับเซียวอวิ๋นหยวนให้เข้าไปด้านในของโรงน้ำชาด้วยกัน

“เหตุใดองค์รัชทายาทจึงได้ทอดพระเนตรเจ้าด้วยสายตาไม่พอพระทัยเช่นนั้นเล่า” เฉินเจียวเหม่ยเอ่ยถามเฉินเจียวเจียวด้วยสีหน้าสงสัยแต่เฉินเจียวเจียวกลับหัวเราะออกมาแล้วหันไปเอ่ยอธิบายว่า

“ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ย่อมไม่พึงพอใจคนที่กล้าพูดจาข่มขู่เพื่อผลประโยชน์ของตนเองทั้งนั้นแหละ แม้แต่องค์รัชทายาทเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น” เมื่อเฉินเจียวเจียวเอ่ยเช่นนี้เฉินเจียวเหม่ยก็ยังคงมีสีหน้าสงสัยอยู่ดี หลี่ถังหรูที่ยื่นหน้ามาฟังพวกนางพูดคุยกันก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“เจ้าเอาแต่หมกตัวฝึกวิชายุทธ์กับท่านแม่ของเจ้าเลยทำให้พลาดเรื่องสนุกไปมากมาย มาเถอะเข้าไปดื่มชาด้วยกันแล้วข้ากับฮุ่ยหลิงจะเล่าเรื่องที่พวกเราลงมือทำก่อนหน้านี้ให้เจ้าฟัง” หลี่ถังหรูเอ่ยพลางคล้องแขนเฉินเจียวเหม่ยให้เดินเข้าด้านในของโรงน้ำชาด้วยกันโดยมีเฉินเจียวเจียวและหวังฮุ่ยหลิงเดินติดตามเข้าไปด้านในด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม

เป็นเพราะนานๆ ครั้งเฉินเจียวเหม่ยจะได้ออกมาข้างนอก ยามนี้เมื่อนางได้รับอนุญาตให้ออกนอกจวนย่อมจะมีเรื่องให้ได้พูดคุยกับสหายทั้งสองมากกว่าปกติ เฉินเจียวเจียวนั่งฟังด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม แต่แล้วเมื่อเห็นว่าด้านหลังของโรงน้ำชามีสระน้ำขนาดใหญ่ไม่รู้ว่าจะยังมีปลาอยู่หรือไม่นางจึงคิดอยากจะไปสำรวจดูสักหน่อย

“ข้าลงไปเดินเล่นสักครู่ พวกเจ้าพูดคุยกันไปก่อนนะ” เมื่อเฉินเจียวเจียวเอ่ยเช่นนี้บรรดาสหายก็ไม่มีผู้ใดเหนี่ยวรั้งนางเพราะรู้ดีว่าแท้จริงแล้วเฉินเจียวเจียวนั้นไม่ใช่คนที่ชอบอยู่นิ่ง

สายลมอันเหน็บหนาวพัดพาไอเย็นมากระทบใบหน้า ทำให้คนที่ชื่นชอบอากาศเย็นแบบเฉินเจียวเจียวรู้สึกสดชื่นยิ่งนัก แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นแต่น้ำในสระกลับยังไม่แข็งตัว เฉินเจียวเจียวชะโงกไปสำรวจอยู่ครู่หนึ่งเมื่อไม่เห็นวี่แววของสิ่งมีชีวิตนางก็ทอดถอนใจออกมาพลางถอยหลังกลับ

นางจดจำได้ว่าครั้งก่อนที่นางมาที่นี่คือหน้าร้อน ยามนั้นพี่ชายทั้งสามของนางยังอยู่ในเมืองหลวงพวกเขาเห็นปลาแหวกว่ายอยู่ในสระต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหากมาครั้งหน้าจะลองมานั่งตกปลาที่นี่ นางยังเคยหัวเราะและเอ่ยว่าคิดจะตกปลาได้ถามเจ้าของหอหรือยังว่าเขาจะยินยอมให้ตกปลาที่นี่หรือไม่ พี่ชายทั้งสามถึงกับหัวเราะออกมาแล้วท้าทายกันว่าผู้ใดจะเป็นคนไปเอ่ยปากกับเจ้าของหอว่าอยากจะมาตกปลาที่ เวลาผ่านไปเพียงพริบตากลับกลายเป็นว่าคนก็ไม่อยู่ส่วนปลาก็ไม่มีไปเสียแล้ว

“อย่าได้เข้าใกล้สระมากนัก พื้นตรงนั้นลื่นมากหากเจ้าตกลงไปคงจะเป็นเรื่องใหญ่” หลี่ไท่หลงเอ่ยเตือนออกมาเสียงเบา เหล่าสาวใช้และผู้ติดตามรีบคารวะเขาแล้วถอยหลังออกไปในระยะที่เหมาะสม

“ขอบพระทัยที่ทรงเอ่ยเตือนเพคะ” เฉินเจียวเจียวเอ่ยพลางจ้องมองเขาครู่หนึ่งแล้วจึงได้เอ่ยออกมาตามตรง

“ในครั้งนั้นหม่อมฉันต้องขออภัยด้วยนะเพคะที่ใช้ถ้อยคำและการกระทำบีบบังคับพระองค์เช่นนั้น” เมื่อเฉินเจียวเจียวเอ่ยเช่นนี้หลี่ไม่หลงก็หัวเราะออกมาเบาๆ

“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะรู้จักขออภัยด้วย” เมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้เฉินเจียวเจียวก็ขมวดคิ้ว

“พระองค์ทรงยังคงไม่พอพระทัยในตัวของในเรื่องที่หม่อมฉันเคยล่วงเกินพระองค์ใช่หรือไม่เพคะ” เมื่อเฉินเจียวเจียวเอ่ยถามตามตรงเช่นนี้หลี่ไท่หลงก็พยักหน้า

“เจ้าเคยรับปากกับข้าว่าจะไม่พูดเรื่องที่พบกับข้าที่วัดต้าฝู แต่ต่อมาทั้งน้องเก้าทั้งหวังฮุ่ยหลิงต่างก็รู้กันเรื่องนี้กันหมด” เมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้เฉินเจียวเจียวก็มีสีหน้าไม่สบายใจ นางจะเอ่ยปากขออภัยอีกครั้งแต่เขากลับยกมือขึ้นเพื่อห้ามปราม

“ช่างเถิดข้าเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าสตรีเช่นเจ้าจะรักษาสัจจะอยู่แล้ว เพียงแต่ทางที่ดีอย่าลืมกำชับทั้งน้องเก้าและหวังฮุ่ยหลิงให้ดีไม่เช่นนั้นไม่เพียงข้าที่จะเกิดอันตราย แม้แต่กับพวกเจ้าเองก็ยากจะหนีพ้น” เมื่อเขาเอ่ยเช่นนี้เฉินเจียวเจียวก็พลันขมวดคิ้ว

“พระองค์ทรงไม่พอพระทัยในตัวหม่อมฉัน ไม่ใช่สิที่จริงแล้วคงจะทรงไม่พอใจสตรีทุกคนเลยต่างหาก” เฉินเจียวเจียวเอ่ยถามพลางคิดถึงชาติที่แล้ว

หลังจากปราบปรามกบฏ สกุลจ้าวได้หลี่ไท่หลงก็บีบบังคับให้หลี่เซียวหลงฮ่องเต้สละราชบัลลังก์ แล้วแต่งตั้งหลี่เซียวหลงเป็นไท่ซ่างหวงย้ายออกไปอยู่พระราชวังฤดูร้อนที่ตั้งอยู่นอกเมือง ส่วนจ้าวซีอินอดีตชายาองค์รัชทายาทผู้ล่วงลับก็ถูกแต่งตั้งให้เป็นจ้าวฮองเฮา  ยามนั้นวังหลังของหลี่ไท่หลงฮ่องเต้ไม่มีสตรีที่เป็นเจ้านายอย่างแท้จริงอยู่เลยสักคน มีเพียงบรรดาไท่เฟยที่ไม่ได้ติดตามไท่ซ่างหวงออกไปอยู่พระราชวังฤดูร้อนเพียงเท่านั้นที่อาศัยอยู่

เมื่อคิดย้อนกลับไปแล้วอันที่จริงหลี่ไท่หลงเองก็มีส่วนที่ทำให้นางและหลินชิงเหมยต่อสู้กันอย่างดุเดือดในระยะหลัง ในบรรดาอ๋องที่เหลืออยู่ในยามนั้นโซ่วอ๋องนับว่าใกล้ชิดกับเขามากที่สุด เขาจึงได้บอกกับโซ่วอ๋องเป็นการส่วนตัวว่าหากบุตรชายคนแรกของโซ่วอ๋องเป็นชาย เขายินดีจะรับเป็นบุตรบุญธรรมและอบรมเลี้ยงดูเพื่อให้เป็นรัชทายาทในอนาคต ผู้ใดบ้างจะไม่อยากให้บุตรชายของตนได้เป็นใหญ่หลินชิงเหมยจึงทำทุกวิถีทางแย่งชิงการได้ปรนนิบัติสามีกับเฉินเจียวเจียวเพื่อที่ตนเองจะได้มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ก่อน ต่อสู้กันอย่ายากลำบากตั้งหลายปีสุดท้ายหลินชิงเหมยที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจกว่าก็สามารถเอาชนะไปได้

เพียงแต่ไม่รู้ว่าในยามนั้นบุตรที่แท้งไปของหลินชิงเหมยนั้นเป็นการแท้งบุตรจริงๆ หรือแค่เพียงแผนการที่กุขึ้นมาเพื่อที่จะกำจัดเฉินเจียวเจียวกันแน่ ยังไม่ทันได้ตรวจสอบนางก็ถูกหลี่ไท่หยางสั่งโบยจนตายไปพร้อมกับลูกในท้องของนางที่ถือกำเนิดโดยที่นางไม่รู้ตัวไปเสียแล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 72 บทส่งท้าย

    หลังเสร็จสิ้นงานเลี้ยงเฉินฮองเฮาจึงได้ปลีกตัวกลับตำหนักอันหนิงไปก่อนเหลือเพียงหลี่ไท่หลงฮ่องเต้ที่ทรงเรียกน้องชายเข้ามาตักเตือนเป็นการส่วนพระองค์โดยมีองค์ชายทั้งสองประทับอยู่ด้วย“จนถึงยามนี้แล้วเจ้าก็ยังคิดไม่ได้อีกหรือ น้องรองพระชายาของเจ้าผู้นี้แม้ว่าจะไม่ได้งดงาม รูปร่างก็ใหญ่โตแต่สิ่งที่นางมีเหนือผู้อื่นก็คือความจริงใจ แม้ว่าจะดุดันและไม่ช่างเอาอกเอาใจแต่เจ้าก็ไม่ต้องคอยระมัดระวังตัวและคอยคาดเดาอารมณ์ของนาง นางโกรธเจ้าก็รู้ นางโมโหเข้าก็แค่ถูกด่าหลังจากถูกโบยตีไม่กี่ทีนางก็กลับไปเป็นปกติแล้ว” หลี่ไท่หลงฮ่องเต้ทรงตรัสพลางถอนพระปัสสาสะออกมา“ในขณะที่คนงามส่วนใหญ่กลับซับซ้อนมากกว่านั้นภายใต้สีหน้ายิ้มแย้มของพวกนางมีความคิดมากมายซุกซ่อนอยู่ภายในใจ ข้าเชื่อว่าเจ้าไม่มีทางจะคาดเดาความคิดของนางได้แน่ น้องรองเจ้าโชคดีแล้วที่ได้โม่หลันเป็นพระชายา อย่าได้คิดหาเศษหาเลยแล้วทำให้ชีวิตของตนเองต้องตกต่ำอีกเลย” เมื่อหลี่ไท่หลงฮ่องเต้ทรงตรัสเช่นนี้โซ่วอ๋องที่คุกเข่าขอรับผิดอยู่ตรงหน้าก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ“เสด็จพี่! แล้วพระองค์ทรงไม่เคยหวั่นไหวบ้างเลยหรือ มีคนงามมาอยู่ตรงห

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 71 บัวขาวอีกหนึ่งดอก

    เฉินฮองเฮาแห่งแคว้นต้าเยียนทรงสิริโฉม เต็มเปี่ยมไปด้วยสติปัญญา ได้รับความรักและความให้เกียรติจากสวามีจนสตรีทั่วแคว้นต่างโจษจันกันไปจนทั่ว สตรีทุกนางล้วนริษยาในความพรั่งพร้อมและสมบูรณ์พูนสุขของพระนางนาง พระนางประสูติพระโอรสสองพระองค์พระธิดาหนึ่งพระองค์แม้ว่าจะทรงมีพระชันษามากแล้วความงามของพระนางก็ยังคงเป็นที่กล่าวขานถึง“นี่ใช้คำว่ารักและให้เกียรติได้อย่างไรกัน ต้องใช้คำว่ารักและเคารพมากกว่า” หลี่เทียนหลงองค์รัชทายาทแคว้นต้าเยียนเอ่ยกับพระอนุชาด้วยสุรเสียงแผ่วเบา“รักหรือไม่ข้าไม่แน่ใจ แต่เคารพและเกรงกลัวข้าขอยืนยันว่าเป็นความจริง เสด็จพี่ทรงทอดพระเนตรดูขุนนางที่ไม่รู้จักตายนั่นสิ พยายามจะยัดเยียดบุตรสาวโฉมงามให้เสด็จพ่อ แถมยังโอ้อวดว่าทั้งร่างกายและจิตใจบุตรสาวของเขาล้วนงดงามพิสุทธิ์หาผู้ใดเทียม ช่างไม่ดูเสียบ้างว่ายามนี้สีพระพักตร์ของเสด็จพ่อซีดเซียวเสียยิ่งกว่าไก่ในโถน้ำแกงเสียอีก” หลี่เทียนเฮ่าผู้เป็นองค์ชายรองเอ่ยกับพระเชษฐาด้วยน้ำเสียงซุกซน โดยไม่สนพระทัยหลี่เทียนหรูพระขนิษฐาพระองค์เล็กที่ในยามนี้หลบไปนั่งอยู่กับบรรดาสตรีในจวนผิงกั๋วกงแล้ว ค่ำคืนนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองเทศกาลหยวนเซี

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 70 เพลิงโทสะ

    หลังจากเสร็จสิ้นพิธีอภิเษกไปเพียงไม่กี่วัน เฉินเจียวเจียวก็ต้องสวมชุดไว้ทุกข์ให้แก่จ้าวไทเฮา แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่คาดเดาได้อยู่แล้ว แต่เพลิงพิโรธของหลี่เซียวหลงฮ่องเต้ผู้เป็นราชบิดาของสามีก็ยังทำให้นางอดใจสั่นไม่ได้“เจ้าลูกเลว! หากเจ้าไม่ส่งคนไปบอกยามนี้พระนางก็คงจะยังทรงดำเนินชีวิตได้ตามปกติ” พระสุรเสียงที่ทรงตรัสออกมาทำให้เฉินเจียวเจียวที่คุกเข่าอยู่ทางด้านข้างขององค์รัชทายาทไม่กล้าเงยหน้าขึ้น“ลูกก็แค่คิดว่าไม่ควรจะหลอกลวงพระนางอีกต่อไป”“ยังไม่สำนึกอีก! หลี่ไท่หลงนางคือเสด็จย่าของเจ้านะ นางคือแม้แท้ๆ ของข้า และก็เป็นนางที่ผลักดันจนข้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้จวบจนทุกวันนี้” ถ้อยคำนี้ของหลี่เซียวหลงฮ่องเต้ทรงเต็มไปด้วยกระแสอารมณ์อันเศร้าโศกและโกรธเกรี้ยว เฉินเจียวเจียวที่ก้มหน้าอยู่อดเหลือบมองสวามีของตนเองที่ยามนี้เงยหน้าขึ้นไปทุ่มเถียงกับพระราชบิดาของตนเองไม่ได้“แต่ก็เป็นพระนางที่วางแผนปลิดชีพพระมารดาของลูก เป็นพระนางที่ยึดครองพระราชอำนาจของเสด็จพ่อไปตั้งนานหลายปี แล้วก็เป็นพระนางที่สนับสนุนสกุลจ้าวให้ทะเยอทะยานและก้าวล้างพระราชอำนาจของเสด็จพ่ออยู่หลายครั้ง ลูกเข้าใจในความรักความผูกพัน

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 69 พระชายาองค์รัชทายาท

    พิธีอภิเษกขององค์รัชทายาทและคุณหนูใหญ่จวนผิงกั๋วกงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ บุรุษของจวนผิงกั๋วกงเดินทางเข้าเมืองหลวงพร้อมกันอีกครั้งเพื่อเข้าร่วมในพิธีครั้งนี้ เฉินเจียวเจียวแต่งกายอย่างดงามสวมมงกุฎหงส์และผ้าคลุมหน้าที่ปักลวดลายอันวิจิตรนั่งเกี้ยวเข้าวังหลวงอย่างยิ่งใหญ่ การแต่งงานในชาตินี้นับว่าเป็นการแต่งงานที่ยิ่งใหญ่กว่าในชาติที่แล้ว คนที่รอรับนางลงจากเกี้ยวก็ไม่ใช่คนเดิม นางจึงไม่กล้าตั้งความหวังต่อชีวิตการแต่งงานเท่าใดนัก ไม่คาดหวังก็ย่อมจะไม่ผิดหวัง เรื่องนี้นางสามารถเรียนรู้มาจากชาติที่แล้ว ในชาตินี้ชีวิตของนางจึงถูกเติมเต็มไปด้วยความสุข“ฮู่ว ในที่สุดก็ได้พบหน้ากันโดยไม่ต้องปีนกำแพงเสียที” องค์รัชทายาทเอ่ยหลังจากที่ใช่คันชั่งเปิดผ้าคลุมหน้าของนางแล้ว เขาจ้องมองนางอยู่ครู่หนึ่งด้วยสายตาอันแวววาว แล้วจึงได้เอ่ยถ้อยคำชื่นชมออกมาอย่างที่ควรจะเป็น“เจ้างามมาก” คำพูดประโยคนี้ของเขาทำให้นางอดยิ้มออกมาไม่ได้ฝ่าบาททรงประทานงานเลี้ยงฉลองให้แก่ผู้มาร่วมงานภายในวัง แต่เพราะเขามีฐานะเป็นถึงองค์รัชทายาทจึงไม่ต้องออกไปคารวะสุรามงคลให้แก่ผู้ใด ยามนี้ภายในห้องหอจึงมีเพียงเขาและนางเพียงเท่านั้น

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 68 ฝันร้ายของโซ่วอ๋อง

    พิธีปักปิ่นของคุณหนูใหญ่ของจวนผิงกั๋วกงถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในฐานะว่าที่พระชายาองค์รัชทายาท ย่อมมีเจ้าหน้าที่จากกรมพิธีการมาช่วยเหลือในการดำเนินพิธี เฉินเจียวเจียวนั่งอยู่ท่ามกลางเหล่าฮูหยินผู้เต็มไปด้วยโชคลาภทั้งหลายด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม พวกนางช่วยหวีผมให้พร้อมคำอวยพรอันเป็นมงคลปิ่นแรกที่ปักลงมาบนมวยผมคือปิ่นพระราชทานจากเฉียวกุ้ยเฟย ตามมาด้วยปิ่นของพระนางเต๋อเฟย และบรรดาพระสนมที่เฉินเจียวเจียวเคยพบ ฮูหยินผู้เฒ่าจวนผิงกั๋วกงและฮูหยินผู้เฒ่าจวนสกุลหยวนนำปิ่นมาปักลงบนมวยผมของเฉินเจียวเจียวด้วยตนเอง ต่อมาก็เป็นสตรีอาวุโสในจวนและสตรีอาวุโสที่มีความสัมพันธ์กันดีกับจวนผิงกั๋วกงเมื่อเสร็จสิ้นพิธีปักปิ่นเฉินเจียวเจียวก็ลูกขึ้นคารวะขอบคุณอย่างเต็มพิธีการสามครั้งแล้วจึงเข้าสู่งานเลี้ยง เฉินเจียวเหม่ยและเฉินเจียวมี่ที่ได้รับหน้าที่ถือพานใส่หวีและปิ่น ต่างรีบจับจูงนางกลับเรือนด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม มีคุณหนูจากหลายจวนที่มีความสัมพันธ์อันดีมาร่วมแสดงความยินดีด้วย แน่นอนว่าคนที่มาย่อมขาดหวังฮุ่ยหลิงและองค์หญิงเก้าหลี่ถังหรูไม่ได้เหตุการณ์ปราบกบฏสกุลเจ้าเกิดขึ้นเร็วกว่าในชาติที่แล้ว ในชาตินี้เซียว

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 67 พบหน้า

    เมื่อบ้านเมืองสงบสุขชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประชาก็กลับมาดำเนินไปตามปกติ เกิดแก่เจ็บตายล้วนเป็นไปตามยถากรรมของโลก ในเมื่อหลินชิงเหมยไม่สามารถทนรับความบอบช้ำของร่างกายไม่ไหว นางจึงได้ตายจากไปในที่สุด ในตอนที่นางจะตายนางยังเคยอดสงสัยไม่ได้ว่า หากนางไม่ทะเยอทะยาน หากนางไม่คิดจะร่วมมือกับสกุลจ้าวชีวิตของนางจะต้องจบลงเช่นนี้ไหม น่าเสียดายที่ต่อให้นางสงสัยมากเพียงใดก็ไม่อาจจะทำอันใดได้แล้วแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นแต่นางกลับรู้สึกอยู่ลึกๆ ว่า การตายเช่นนี้กลับดีมากแล้ว เพราะในความฝันของนาง นางเคยต้องเผชิญกับความตายที่น่ากลัวกว่านี้ ทั้งถูกทุบตี ทั้งถูกรุมย่ำยีแถมยังถูกทารุณกรรมจนไม่เหลือสภาพความเป็นคน อยากตายก็ไม่ได้ตาย ลืมตาขึ้นมาในแต่ละวันต้องร้องไห้ทุกครั้งที่พบว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่ การถูกโบยจนตายน่าจะเป็นการตายที่สวรรค์ปรานีสำหรับนางมากแล้ว นี่คือความคิดสุดท้ายในห้วงความนึกคิดของนาง ตอนที่โซ่วอ๋องมารับร่างที่ไร้ลมหายใจของนางจึงได้เห็นว่าแม้ในยามหลับบนใบหน้าของนางก็ยังมีรอยยิ้มประดับอยู่หลินชิงเหมยตายแล้ว โซ่วอ๋องจะทุกข์ใจหรือไม่เฉินเจียวเจียวไม่ได้ให้ความสนใจอีกแล้ว เรื่องราวในกาลก่อนราวกับ

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 66 โทษทัณฑ์

    สกุลจ้าวก่อกบฏต้องโทษประหารทั้งสกุล เหตุการณ์ในครั้งนี้ก่อให้เกิดความวุ่นวายอยู่ไม่น้อย แต่เพราะมีกองกำลังของสกุลหยวน สกุลเซียวและสกุลเฉินคอยตรึงกำลังอยู่จึงทำให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็สามารถเก็บกวาดคนสกุลจ้าวและผู้เกี่ยวข้องกับการก่อกบฏได้อย่างรวดเร็วและสะอาดหมดจดเฉินเจียวเจียวยืนมองลานประหารที่เจิ่งนองไปด้วยเลือดด้วยสีหน้าเย็นชา คนที่เคยผ่านความเป็นความตายมาแล้วเช่นนางย่อมไม่ได้รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์นองเลือดเช่นนี้มากนัก“เจ้าจะขอให้ไว้ชีวิตนางไปเพื่อเหตุใด” องค์รัชทายาทหลี่ไท่หลงที่ยามนี้บนใบหน้ามีแต่ความเหนื่อยล้าและเคร่งเครียดเอ่ยถามนางด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ“ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนสกุลหลิน เป็นบุตรสาวของท่านลุงทางฝั่งมารดาของหม่อมฉัน หากนางต้องโทษกบฏคนสกุลหลินก็คงจะถูกลากลงไปแปดเปื้อนกับนางด้วย มิสู้ทำให้นางกลายเป็นสตรีต้องโทษด้วยข้อหาวางแผนให้ร้ายผู้อื่น ล่วงเกินเบื้องสูงและให้การเท็จโทษทัณฑ์ของนางก็คงจะเบาบางลงมาก” คำพูดของเฉินเจียวเจียวทำให้องค์รัชทายาทหลี่ไท่หลงแค่นหัวเราะออกมา“หากไม่รู้อะไรก็คงจะคิดว่าเจ้ามีเมตตาต่อนาง แต่จากที่ข้ารู้โทษทัณฑ์ที่นางจะได้

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 65 โชคดี

    เช้าวันรุ่งขึ้นราชสำนักต้าเยียนก็เกิดความวุ่นวาย โม่เจาเจ้ากรมอาญาถวายฎีกาขอถอดถอนตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายขวาของจ้าวฉี ขุนนางในท้องพระโรงถูกแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ขุนนางส่วนใหญ่ต่างคัดค้านการถอดถอนตำแหน่งของจ้าวฉี แต่เมื่อเจ้ากรมอาญาโม่เจาแจกแจงความผิดอย่างละเอียดแล้วไม่ใช่แต่เพียงเสนาบดีฝ่ายซ้ายจ้าวฉีที่ควรถูกถอดถอน ยังมีขุนนางอีกไม่น้อยที่โยงใยและเกี่ยวข้องต่อการทุจริตหลี่เซียวหลงฮ่องเต้ทรงพิโรธอย่างหนัก ทั้งสั่งจับกุมทั้งสั่งจำคุกขุนนางที่มีความผิด ที่สำคัญทรงมีราชโองการปลดจ้าวฉีออกจากตำแหน่งอัครเสนาบดีฝ่ายซ้าย และสั่งให้กรมอาญาสอบสวนเรื่องที่จ้าวฉีซ่องสุมกำลังพล เหตุการณ์ในท้องพระโรงล้วนเป็นไปตามการคาดการณ์ของเฉินเจียวเจียวเกือบทั้งสิ้น แต่ที่นางคาดไม่ถึงก็คือจ้าวฉีไม่เพียงไม่ยินยอมรับราชโองการ แต่กลับป่าวประกาศออกมาว่าตนเองถูกใส่ร้ายจ้าวฉีไม่ยอมเข้าประชุมขุนนางในยามเช้าที่ท้องพระโรง แต่กลับพาครอบครัวหลบหนีออกไปอยู่นอกกำแพงเมืองตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว เขานำกองกำลังมาล้อมรอบเมืองหลวงเอาไว้แล้วประกาศต่อผู้อื่นว่าองค์รัชทายาทหลี่ไท่หลงต้องการแก้แค้นเขาด้วยเรื่องส่วนตัวโดยร่วมมือกับท่านเจ้ากรมอาญ

  • ข้ามาทวงแค้นแม่ดอกบัวขาว   บทที่ 64 แย่งชิงอำนาจ

    การตายของจ้าวซีเฉิงทำให้ทุกคนต่างพากันทอดถอนใจด้วยความเสียดาย โดยเฉพาะองค์รัชทายาทหลี่ไท่หลงที่ได้แต่ทอดถอนใจออกมาด้วยคิดเสียดายต่อการตัดสินใจด้วยอารมณ์ของคุณชายใหญ่ผู้นี้ จ้าวซีเฉิงคงจะคิดว่าขอแค่เพียงเขาตาย บิดาของเขาก็คงจะสามารถโยนความผิดทั้งหมดมาที่เขาถึงยามนั้นคนสกุลจ้างก็คงจะปลอดภัย เพียงแต่โทษกบฏนั้นย่อมไม่สามารถที่จะจบลงที่คนเพียงคนเดียวได้อยู่แล้ว“สตรีนางนี้ฝากกรมอาญาขังเอาไว้ก่อน อย่างน้อยก็ยังสามารถใช้นางเป็นพยานยืนยันว่าจวนสกุลจ้าววางแผนยุยงให้โซ่วอ๋องมีความแตกแยกกับข้า เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไรเล่าน้องรอง” ประโยคสุดท้ายองค์รัชทายาทหันไปเอ่ยกับโซ่วอ๋อง“เรื่องนี้กระหม่อมไม่มีความเห็นพ่ะย่ะค่ะ ในเมื่อมีพยานหลักฐานยืนยันว่านางทำผิดจริง กระหม่อมเองก็คงไร้หนทางจะช่วยเหลือนางแล้ว” โซ่วอ๋องเอ่ยพลางหลุบตาลง“ต่อให้เจ้าอยากช่วยก็คงจะไม่ได้ นางไม่ใช่สตรีไร้เดียงสาอย่างที่เจ้าคิดยามนี้เจ้าก็เห็นแล้ว หากปล่อยให้นางอยู่ข้างกายเจ้าชีวิตของเจ้าในวันหน้าคงยากที่จะสงบสุข” องค์รัชทายาทเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วจึงได้สั่งให้คนของกรมอาญาพาหลินชิงเหมยไปขังเอาไว้ก่อน ส่วนสาวใช้ของหลินชิงเหมยแ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status