หน้าหลัก / วาย / ข้าไม่ใช่แบบที่เจ้าคิด / บทที่ 4 (3/3) : ไม่อยู่ในสายตา (3)

แชร์

บทที่ 4 (3/3) : ไม่อยู่ในสายตา (3)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-04 01:04:23

     “เหยียนชิงทำไมเจ้าถึงหายหน้าไปเลย ไม่ยอมติดต่อกลับมาหาพวกข้าบ้างเลยล่ะ” จิงเสี่ยวจางเอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกเขาทั้งสี่คนมานั่งร่ำสุราอยู่ที่สวนท้ายจวนคหบดีจิง โดยมีคนของเหรินเหยียนชิงมาร่วมวงกับพวกเขาด้วย

     “ข้ายุ่งน่ะพอดีต้องรับช่วงต่อจากท่านตา” เหรินเหยียนชิงตอบคำถามจิงเสี่ยวจาง จากนั้นเขาจึงแนะนำคนที่มากับเขาให้สหายได้รู้จัก

     “เออ...จริงด้วยข้ายังไม่ได้แนะนำให้พวกเจ้ารู้จักกับสองคนนี้เลย บุรุษผู้นี้มีนามว่าเพ่ยฉี ส่วนสตรีนางนี้มีนามว่าเพ่ยหยี ทั้งสองคนเป็นคนของสำนักคุ้มภัยที่อยู่ติดกับจวนข้า”

     “และก็เป็นว่าที่ฮูหยินของพี่เหยียนชิงด้วยเจ้าค่ะ” เพ่ยหยีเด็กสาววัยสิบสามหนาวเอ่ยขึ้นมาอย่างมาดมั่น

     “ขออภัยแทนน้องสาวของข้าด้วยนะขอรับ นางค่อนข้างจะแก่แดดไปหน่อยน่ะขอรับ” เพ่ยฉีชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดหนาวเอ่ยแก้ตัวแทนน้องสาวผู้ไม่รู้ความของตัวเอง เป็นเพราะนางเห็นเหรินเหยียนชิงใจดี ไม่เคยถือตัวและยังให้ความสนิทสนมกับพวกเขาราวกับพี่น้อง จึงทำให้น้องสาวของเขามักหลงลืมตัวเอาแต่ใจกับคนตรงหน้าอยู่บ่อยครั้ง

     “ก็ข้าชอบพี่เหยียนชิงนี่เจ้าคะ ข้าเลยขอจองเอาไว้ก่อนเจ้าค่ะ” เพ่ยหยีเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะนางชอบพี่ชายข้างเรือนผู้นี้ของนาง และยามนี้นางก็รู้สึกได้ว่านางกำลังจะมีคู่แข่ง

     “ขออภัยด้วยนะขอรับ ไปอาหยีไปนอนได้แล้วพวกคุณชายจะได้พูดคุยกัน” เพ่ยฉีพูดจบก็รีบดึงตัวน้องสาวของเขากลับห้องพักทันที

     “เสน่ห์แรงเหมือนกันนะเนี่ย...สหายของข้า” จิงเสี่ยวเจี้ยนเอ่ยเย้าเหรินเหยียนชิง

     “อาหยีนางยังเด็กน่ะ” เหรินเหยียนชิงตอบกลับอีกฝ่ายพร้อมกับยกสุราขึ้นมาดื่ม

     “แล้วพรุ่งนี้เจ้าจะกลับหมู่บ้านที่เมืองซือโฉวเลยหรือ?” จิงเสี่ยวเจี้ยนเอ่ยถามสหายต่อ

     “ใช่”

     “เหยียนชิงเจ้าดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเลยนะ” จิงเสี่ยวเจี้ยนพูดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางที่ดูสงบขึ้นของอีกฝ่าย

     “อืม...วันคืนแปรเปลี่ยน ทุกอย่างก็ย่อมต้องเปลี่ยนแปลง”

     “เหยียนชิง พรุ่งนี้ข้าขอไปกับเจ้าด้วยนะ ข้าจะได้ไปแวะตรวจงานโรงเตี๊ยมแถวนั้นด้วยเลย” จิงเสี่ยวจางพูดขึ้น หลังจากนั่งฟังแฝดผู้พี่พูดกับสหายมาได้สักพัก

     “แล้วงานที่นี่ล่ะอาจาง เจ้าเพิ่งกลับมาเองนะ” จิงเสี่ยวเจี้ยนเอ่ยขัดแฝดผู้น้องของเขา

     “เจ้าก็ดูแลไปสิอาเจี้ยน”

     “เจ้านี่แทบจะไม่อยู่ติดเมืองหลวงเลยนะ” จิงเสี่ยวเจี้ยนบ่นแฝดผู้น้องของเขาอย่างเหลืออด

     “ก็ข้าอยากไปเที่ยวจวนของเหยียนชิง และอีกอย่างข้าก็ต้องไปตรวจงานที่โรงเตี๊ยมในเมืองนั้นอยู่แล้วนี่”

     “หึ! อาจางเจ้าช่างมีเหตุผล” เหรินเหยียนชิงเอ่ยเย้าสหาย

     “ใช่ไหมล่ะ...” จิงเสี่ยวจางตอบรับคำเย้าของเหรินเหยียนชิงทันที

     จินเฟยหลงทำเพียงนั่งดื่มสุราเงียบ ๆ แล้วฟังสหายทั้งสามคนของเขาพูดคุยกัน เมื่อก่อนพวกเขาก็เคยนั่งร่ำสุรากันแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับรู้สึกแตกต่างไปจากทุกที เพราะที่ผ่านมาแม้เขาจะไม่ค่อยพูดแต่เหรินเหยียนชิงก็จะคอยหันมาซักถามหรือคอยหันมาให้ความสนใจกับเขา แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะหันมาสบตาหรือพูดกับเขาเลยสักคำ หลังจากที่อีกฝ่ายเข้ามาทักเขาที่โรงเตี๊ยม จากนั้นก็เหมือนเขาจะไม่อยู่ในสายตาของเหรินเหยียนชิงอีกเลย

     “เดี๋ยวก็เมาหรอก...คืนนี้เจ้าจะกลับไปนอนที่จวนหรือจะนอนค้างที่นี่กับพวกข้า หากเจ้าจะนอนที่นี่ข้าจะได้ให้คนไปจัดห้องพักรับรองเพิ่มให้เจ้า” จิงเสี่ยวเจี้ยนหันมาถามจินเฟยหลง

     “ค้างที่นี่ คืนนี้คงต้องขอรบกวนเจ้าแล้ว” จินเฟยหลงตอบกลับจิงเสี่ยวเจี้ยน จากนั้นเขาก็ยังคงนั่งฟังคนทั้งสามพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ เหมือนเดิม

     “ข้าเริ่มง่วงแล้ว ข้าคงต้องขอตัวก่อนนะ” เหรินเหยียนชิงเอ่ยขึ้น หลังจากนั่งดื่มสุราและพูดคุยกับสหายมาได้สักพัก

     “เดี๋ยวข้าไปส่งที่ห้องพัก อาเจี้ยน เฟยหลงข้าก็ขอตัวด้วยเลยแล้วกันนะ” จิงเสี่ยวจางพูดจบก็เดินนำเหรินเหยียนชิงออกไป

     “เดี๋ยวข้ามา” จินเฟยหลงเอ่ยกับจิงเสี่ยวเจี้ยนเมื่อเห็นสหายทั้งสองของเขาเดินห่างออกไป จนเลยระยะการได้ยิน

     “เหยียนชิง เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?” จิงเสี่ยวจางพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องพักรับรอง

     “ข้า! ข้าเป็นอะไรหรือ?”

     “ก็เรื่องเจ้ากับเฟยหลง”

     “เรื่องในตอนนั้นใช่หรือไม่...ข้าไม่ได้คิดอะไรแล้ว”

     “แต่ตอนนั้นเจ้า...” จิงเสี่ยวจางอยากจะถามออกมาตรง ๆ แต่เมื่อนึกไปถึงใบหน้าของสหายในยามนั้นขึ้นมาได้ เขาจึงเงียบปากของตัวเองลงทันที

     “ตอนนั้นข้าก็แค่สับสน แต่ตอนนี้ข้าไม่ได้คิดอะไรแล้ว เจ้าก็คิดมากไป”

     “ดีแล้ว เออ...พรุ่งนี้เจ้าจะออกเดินทางยามไหน?” จิงเสี่ยวจางรีบเอ่ยเปลี่ยนเรื่อง เมื่อเขามองเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า ดูเหมือนว่ายามนี้อีกฝ่ายคงไม่ได้รู้สึกสับสนอย่างที่พูดแล้วจริง ๆ เขาจึงเลิกถามถึงเรื่องราวที่ผ่านมา และอีกอย่างสหายทั้งสองของเขาโอกาสที่จะได้เจอกันอีก...ก็คงจะมีไม่มากแล้ว

     “เจ้าจะไปกับข้าจริง ๆ หรือ?”

     “ข้าพูดจริง”

     “อย่างนั้นข้าก็จะออกเดินทางปลายยามซื่อ (ยามซื่อ เวลา 9.00 – 10.59 น.) ก็แล้วกัน”

     “ได้ เจ้ารอข้าด้วยนะ”

     เหรินเหยียนชิงพยักหน้าให้กับสหาย ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องพักรับรอง ส่วนจิงเสี่ยวจางก็เดินไปยังเรือนพักของตัวเอง โดยที่ทั้งสองคนไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนมาแอบฟังเรื่องที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอยู่

     “ข้าขอตัวกลับจวน” จินเฟยหลงพูดขึ้นเมื่อเดินกลับมาถึงบริเวณที่จิงเสี่ยวเจี้ยนนั่งอยู่ ก่อนจะใช้วิชาตัวเบากลับจวนของเขาทันที

     “อ้าว! ไหนเจ้าบอกจะค้างที่นี่อย่างไรล่ะเฟยหลง?” จิงเสี่ยวเจี้ยนตอบกลับสหายยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็หายตัวออกไปจากจวนของเขาแล้ว

     “ท่านพ่อขอรับ ข้าจะออกเดินทางไปเมืองหลิ่งจูวันนี้เลยนะขอรับ” จินเฟยหลงเอ่ยขึ้นหลังจากรับสำรับเช้ากับผู้เป็นบิดาเสร็จ

     “ไม่ใช่เจ้าจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้หรอกหรือ?”

     “ข้ามีที่ต้องแวะด้วยขอรับ”

     “อืม...เฟยหลงเรื่องมงคลของเจ้ากับฮุ่ยหลิง พ่อมีไปพูดคุยกับอาหนิงให้เจ้าแล้วนะ หากได้ฤกษ์ยามเมื่อใด เดี๋ยวพวกพ่อจะบอกกับพวกเจ้าให้เตรียมตัวกันอีกที”

     จินเฟยหลงรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อได้ยินเรื่องที่บิดาพูด เขาจึงเผลอกำมือทั้งสองข้างของตัวเองจนแน่นขึ้น ก่อนที่เขาจะพยายามคลายมือออก แล้วหันกลับไปตอบรับคำพูดของผู้เป็นบิดา

     “ขอบคุณขอรับ”

     จากนั้นจินเฟยหลงก็คำนับให้กับผู้เป็นบิดา ก่อนจะเดินทางออกจากจวนพร้อมกับหยงหมิน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าไม่ใช่แบบที่เจ้าคิด   บทที่ 9 (1/2) : รับรู้ (1)

    ชิงหลวนคุนนอนไม่หลับ เขาจึงเดินออกมาจากห้องพักเพื่อไปนั่งรับลมที่ระเบียง แต่เมื่อเขาเดินไปถึง...เขาก็เห็นจินเฟยหลงนั่งอยู่ที่นั่นก่อนแล้ว “เฟยหลงเจ้าก็นอนไม่หลับเหมือนกันหรือ?” ชิงหลวนคุนเอ่ยถามพร้อมกับเดินเข้าไปนั่งข้างจินเฟยหลง จินเฟยหลงทำเพียงพยักหน้ารับคำของอีกฝ่าย ความจริงแล้วเขาออกมานั่งรับข้อมูลเรื่องครอบครัวของเหรินเหยียนชิงที่เขาให้ลูกน้องไปตามสืบมา ยามนี้มีหลายเรื่องของคนตัวเล็กที่เขาเพิ่งได้รู้ แล้วมันก็ทำให้เขารู้สึกตกใจไม่น้อยเลยทีเดียว “หากเจ้ายังไม่ง่วง อย่างนั้นพวกเรามานั่งร่ำสุราด้วยกันสักหน่อยดีหรือไม่?” “ดี” จินเฟยหลงตอบรับคำชวนของชิงหลวนคุนทันที เพราะยามนี้เขาก็รู้สึกอยากดื่มสุราเช่นกัน ซงหยวนกับหยงหมินที่เดินตามผู้เป็นนายออกมาจากห้องพักด้วย เมื่อได้ยินว่าผู้เป็นนายต้องการร่ำสุราพวกเขาจึงแยกตัวออกไปเตรียมของ

  • ข้าไม่ใช่แบบที่เจ้าคิด   บทที่ 8 (2/2) : หาใช่โรงเตี๊ยม! (2)

    จิงเสี่ยวจางที่รับฟังเหรินเหยียนชิงเล่าเรื่องร้านฝากขายมาได้สักพัก ในระหว่างนั้นเขาก็สังเกตได้ว่าอีกฝ่ายดูจะมีความสุขเมื่อได้พูดถึงเรื่องกิจการภายในครอบครัว จนเมื่อเขาเห็นว่าสหายน่าจะเล่าจบแล้ว เขาจึงคิดที่จะถามเรื่องครอบครัวของเจ้าตัวบ้าง เพราะเมื่อครู่เขาได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยถึงผู้เป็นบิดา แต่เมื่อวานเหรินเหยียนชิงบอกกับพวกเขาว่าเจ้าตัวอาศัยอยู่กับผู้เป็นตาในจวนตระกูลเหรินเพียงแค่สองคน แล้วก็ด้วยเพราะตอนที่อยู่ในสำนักศึกษาหลวง เจ้าตัวก็ไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวของตนเองให้พวกเขาฟังเลยสักครั้ง “เหยียนชิงข้าขอถามได้หรือไม่? แล้วตอนนี้ท่านพ่อกับท่านแม่ของเจ้า...” “ได้ ท่านพ่อของข้าได้จากข้าไปแล้ว ส่วนท่านแม่...เท่าที่ข้ารู้ ยามนี้นางก็ดูมีความสุขดี เดี๋ยวก่อนกลับจวนข้าพาเจ้าแวะไปชิมขนมร้านดังในเมืองซือโฉวดีกว่า ว่าแต่ช่วงบ่ายเจ้าจะไปตรวจโรงเตี๊ยมที่ไหน? หากข้าตรวจบัญชีร้านเสร็จทันข้าอาจจะไปกับเจ้าด้วยก็ได้” เหรินเหยียนชิงตอบคำถามของสหายเท่าที่เขาพอจะตอบได้ เพราะตัวเขาเองก็ไม่อยากพูดถึงเรื่

  • ข้าไม่ใช่แบบที่เจ้าคิด   บทที่ 8 (1/2) : หาใช่โรงเตี๊ยม! (1)

    “เฟยหลงไม่ใช่ว่าเจ้าออกมาจากเมืองหลวงตั้งแต่เมื่อสองวันก่อนหรอกหรือ? แล้วเหตุใดเจ้าเพิ่งจะมาถึงล่ะ?” ชิงหลวนคุนเอ่ยทักจินเฟยหลงทันที เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาในห้องสั่งการ ซงหยวนที่เห็นจินเฟยหลงเดินเข้ามาในห้อง เขาจึงก้มลงไปคำนับให้กับอีกฝ่าย ก่อนจะถอยออกไปเฝ้าหน้าห้องพร้อมกับหยงหมิน “ข้าแวะไปพักที่จวนของสหายในเมืองซือโฉวก่อนมาที่นี่” จินเฟยหลงตอบกลับอีกฝ่ายพร้อมกับเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ “เจ้าไปพักที่จวนสหาย!” ชิงหลวนคุนแปลกใจกับคำตอบของจินเฟยหลง เพราะตั้งแต่ที่เขารู้จักกับอีกฝ่ายมา หากไม่ใช่ค่ายทหารจินเฟยหลงก็จะกลับไปพักที่จวนของตัวเอง จะมีก็เพียงแค่ในวัยเยาว์ที่อีกฝ่ายได้เข้าไปพักที่สำนักศึกษาหลวง เพราะจินเฟยหลงจะไม่ยอมเข้าพักในที่ที่เจ้าตัวไม่วางใจ แม้แต่ในยามที่พวกเขาต้องออกไปทำงานนอกเมืองด้วยกัน อีกฝ่ายก็ยังเลือกนั่งร่ำสุราแทนการหาที่พักเลย นั่นก็ด้วยเพราะตำแหน่งและอำนาจในมือของจินเฟยหลง ยิ่งในยามนี้หากไม่ระวังตัว...ก็มีแต่จะต้องแลกด้วยชีวิตของเจ้า

  • ข้าไม่ใช่แบบที่เจ้าคิด   บทที่ 7 (2/2) : ต้องการอะไร (2)

    จินเฟยหลงเมื่อเดินเข้าไปในเรือนพักรับรอง เขาก็รีบเลือกห้องพักของตนเอง จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในห้อง ก่อนจะลอบออกมา...แล้วแอบสะกดรอยตามเหรินเหยียนชิงไปจนถึงหน้าเรือนพักของอีกฝ่าย จินเฟยหลงแปลกใจที่เหรินเหยียนชิงไม่ได้พักอยู่ที่เรือนใหญ่ แต่เจ้าตัวกลับพักอยู่ที่เรือนหลังเล็กท้ายจวน และหากเขาจำไม่ผิด...ตอนที่พวกเขามาถึงที่นี่ เหรินเหยียนชิงบอกกับพวกเขาว่าอีกฝ่ายอาศัยอยู่กับผู้เป็นตาในจวนแห่งนี้เพียงแค่สองคน แล้วคนอื่น ๆ ในครอบครัวของเหรินเหยียนชิงล่ะ? แล้วเหตุใด? ในเมื่อมีกันแค่สองคน อีกฝ่ายถึงเลือกมาพักอยู่ที่เรือนหลังนี้ผู้เดียว ยามนี้จินเฟยหลงเกิดคำถามเรื่องครอบครัวของเหรินเหยียนชิงขึ้นมาไม่น้อย เพราะตอนที่พวกเขาพักอยู่ด้วยกันที่เรือนพักในสำนักศึกษา อีกฝ่ายก็ไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวของเจ้าตัวให้เขาฟังเลยสักครั้ง และก็คงจะด้วยเพราะตัวเขาเองที่เป็นคนพูดน้อยและไม่ค่อยชอบซักถาม สงสัย...หลังจากนี้เขาคงต้องให้คนไปสืบเรื่องของเหรินเหยียนชิงมาให้เขาเสียแล้ว

  • ข้าไม่ใช่แบบที่เจ้าคิด   บทที่ 7 (1/2) : ต้องการอะไร (1)

    เช้าวันรุ่งขึ้นขบวนเดินทางขนาดย่อมที่นำโดยเหรินเหยียนชิงก็ได้เดินทางมาถึงจวนคหบดีเหริน... จินเฟยหลงมองไปที่จวนขนาดใหญ่ตรงหน้า สี่ปีที่ผ่านมายามใดที่เขาเดินทางผ่านมายังเมืองซือโฉว เขาก็มักจะคอยมองหาเหรินเหยียนชิงเพราะเขาไม่รู้ว่าจวนของอีกฝ่ายอยู่ที่ใด และที่จวนแห่งนี้เขาก็เคยมาแอบมองอยู่บ่อยครั้ง แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเลยสักครั้ง หากในตอนนั้นเขาไม่ทำเพียงแค่คอยมองหา ยามนี้พวกเขาก็คง... “เหยียนชิง ที่นี่คือจวนเจ้าหรือ?” จิงเสี่ยวจางถามขึ้นเมื่อพวกเขามาหยุดอยู่ที่หน้าจวนขนาดใหญ่หลังหนึ่ง “ใช่...ที่นี่คือจวนตระกูลเหริน ข้าอาศัยอยู่กับท่านตาที่นี่แค่สองคน พวกเราเข้าไปหาท่านตาของข้ากันเถิด” เหรินเหยียนชิงตอบรับคำพูดของสหายพร้อมกับชวนอีกฝ่ายเข้าไปในจวน “คุณชายเหรินขอรับ...พวกข้าคงต้องขอตัวกลับสำนักก่อนนะขอรับ” เพ่ยฉีพูดพร้อมกับก้มลงไปคำนับให้กับพวกเหรินเหยียนชิง

  • ข้าไม่ใช่แบบที่เจ้าคิด   บทที่ 6 (2/2) : ขอเลือกใหม่อีกครั้ง (2)

    เช้าวันรุ่งขึ้นจินเฟยหลงต้องรีบออกไปทำข้อสอบอีกหนึ่งวิชาที่เหลืออยู่ แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากเรือน เขาได้แวะเข้าไปดูเหรินเหยียนชิงในห้องพักของเจ้าตัว แล้วเขาก็ได้เห็นว่าตอนนี้อีกฝ่ายยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง สงสัยว่าเมื่อคืนคนตรงหน้าคงนอนไม่หลับเหมือนกันกับเขา เพราะเขาเองก็ไม่คิดว่าจิงเสี่ยวจางจะเข้ามาเห็นในสิ่งที่เขาทำเมื่อคืน หลังจากที่จินเฟยหลงทำข้อสอบวิชาสุดท้ายเสร็จ เขาก็รีบตรงไปยังบริเวณที่กลุ่มของพวกเขาได้นัดหมายเอาไว้ว่าจะมากล่าวลากัน ก่อนที่พวกเขาทั้งสี่คนจะต้องแยกย้ายกันไปในวันนี้ แล้วเมื่อจินเฟยหลงเดินมาถึงบริเวณที่นัดหมาย เขาก็เห็นเหรินเหยียนชิงกำลังถูกคู่แฝดสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอยู่ และก็ดูเหมือนว่าจิงเสี่ยวจางน่าจะเล่าเรื่องที่ได้เห็นให้กับแฝดผู้พี่ของเจ้าตัวฟังหมดแล้ว “เหยียนชิง เรื่องเมื่อคืน...” จิงเสี่ยวจางที่คิดจะถามเรื่องเมื่อคืนกับสหายตรงหน้า แต่เขาก็ยังไม่ทันได้เอ่ยคำถามจนจบประโยค อีกฝ่ายก็ชิงตอบคำถามของเขากลับมาเสียก่อน “ที่เจ้าเห็นมันไม่ใช่แบบที่พวกเจ้าคิด คือ...เมื่อคืนพวกเจ้าก็เห็นว่าเฟยหลงค่อนข้างที่จะเมาหนัก” “อืม...

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status