Share

บทที่ 6

Author: เจียว่าง
เสิ่นซวงเหมียนกลับบ้านดึกมาก ระหว่างทางฝนก็ตกลงมา พอกลับถึงบ้านเธอก็เปียกโชกไปทั้งตัว

เมื่อเปิดประตู หยานหยุ่นโจวก็กลับมาถึงแล้ว เธอไม่ได้มองเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ตรงดิ่งขึ้นไปยังชั้นบน

ทันทีที่เดินถึงบันได เธอก็ถูกผ้าเช็ดตัวพันคลุมจากด้านหลัง

เสียงของ เหยานหยุ่นโจวที่แฝงด้วยความเป็นห่วงดังขึ้นว่า “ทำไมไม่ให้ผมไปรับล่ะ? เปียกหมดแล้วนะ”

ถ้าโทรเรียกแล้วคุณจะมาเหรอ? ความรู้สึกเย้ยหยันฉายวาบในดวงตาของเสิ่นซวงเหมียน เธอปัดมือเขาออกแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน

เธอไปอาบน้ำในห้องน้ำ พอออกมาก็เห็นหยานหยุ่นโจวถือขิงต้มอยู่ กำลังเป่าให้หายร้อนเพื่อนำมาให้เธอ

อันที่จริง หยานหยุ่นโจวเป็นคนมีความรับผิดชอบมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ดูแลเธอมานานกว่าสิบปีอย่างนี้ จนทำให้เธอสับสนระหว่างความรับผิดชอบกับความรัก

พอเห็นว่าเธอออกมา เขาก็ดึงเธอมานั่งที่ขอบเตียง ป้อนให้เธอทีละช้อน “ร้อนไหม? รีบดื่มนะ อีกไม่นานก็ถึงวันแต่งงานแล้ว ช่วงนี้ห้ามป่วยเด็ดขาด”

เสิ่นซวงเหมียนก้มหน้าดื่มจนหมดอย่างเงียบๆ มองแผ่นหลังที่เดินออกไปของเขา ในใจมีเพียงแต่ความว่างเปล่าราวกับตายด้าน

หยานหยุ่นโจว ตามที่คุณต้องการ จะไม่มีงานแต่งงานแล้ว....

วันถัดมา เสิ่นซวงเหมียนออกไปทำวีซ่าที่กรมตรวจคนเข้าเมือง ทันทีที่เดินออกจากห้องโถง เธอก็เจอกับหยานหยุ่นโจวและกลุ่มนักศึกษาหมอใต้บังคับบัญชาของเขา

หยานหยุ่นโจวมองสถานที่ที่เธอเดินออกมา แล้วคิ้วขมวดเล็กน้อยก่อนพูดว่า“คุณมาทำอะไรที่นี่?”

เธอตอบด้วยน้ำเสียงสงบว่า “มีคนในวงดนตรีจะไปต่างประเทศ ฉันเลยมาช่วยจัดการให้”

เขาไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะไม่ว่าจะคิดยังไง ก็ไม่มีทางนึกได้ว่าคนที่จะไปต่างประเทศนั้นคือเสิ่นซวงเหมียน

นักศึกษาหมอข้างหลังพูดขึ้น“วันนี้พวกเรามีงานเลี้ยงครับ ภรรยาอาจารย์หมอไปกับพวกเราด้วยนะครับ”

“ไปเถอะ เดี๋ยวค่อยกลับบ้านพร้อมกัน” หยานหยุ่นโจวก็พูดขึ้นเช่นกัน

สุดท้ายพวกเขามาถึงร้านหม้อไฟ เสิ่นซวงเหมียนเหลือบมอง หยานหยุ่นโจวทันที เพราะเมื่อก่อนเวลาที่เธออยากให้เขามากินหม้อไฟด้วย เขาจะปฏิเสธด้วยเหตุผลว่ากลิ่นแรง

“แปลกจัง อาจารย์หมอมาที่แบบนี้ได้ยังไง?” นักศึกษาหมอที่อยู่ข้างๆ กอดอกพูดว่า“ก็เพราะว่าเซี่ยหร่านหร่านชอบกิน ไม่ใช่แค่หม้อไฟนะ บะหมี่หอยขม หรือร้านข้างทาง ถ้าเซี่ยหร่านหร่านชอบ อาจารย์หมอก็จะไปเป็นเพื่อนเธอหมด”

เสิ่นซวงเหมียนก้มหน้าลง ยิ้มเยาะตัวเองเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร

พอเข้าไปในร้าน พวกเขาก็จัดให้หยานหยุ่นโจวกับเซี่ยหร่านหร่านนั่งด้วยกันทันที แล้วทำเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าเธอก็อยู่ด้วย อุทานว่า “อ๊ะ ขอโทษนะครับ ลืมไปว่าภรรยาอาจารย์หมอก็มาด้วย ปกติเวลานัดกินข้าว อาจารย์หมอจะนั่งกับหร่านหร่านตลอด ภรรยาอาจารย์หมอคงไม่โกรธพวกเรานะครับ?”

ความเจ็บปวดเล็กๆ ผุดขึ้นในใจ เธอส่ายหัวอย่างสงบแล้วไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม

จากฝั่งตรงข้าม เธอเห็นได้ชัดว่าหยานหยุ่นโจวผูกผ้ากันเปื้อนให้เซี่ยหร่านหร่าน จำรสชาติทั้งหมดที่อีกฝ่ายชอบแล้วผสมน้ำจิ้มให้ แม้ตัวเขาเองจะไม่กินหม้อร้อน แต่กลับลวกผักลวกเนื้อให้เธออย่างเอาใจ

เสิ่นซวงเหมียนกำตะเกียบแน่น ก้มหน้ามองชามตรงหน้าอย่างเหม่อลอย

หยานหยุ่นโจวพึ่งสังเกตว่าเธอเงียบผิดปกติ จึงคีบอาหารใส่ชามให้แบบลวกๆ และพูดว่า “กินเยอะหน่อย”

เมื่อเห็นบุกในชาม เธอก็ยิ้มขื่นๆ แล้วเขี่ยมันไปด้านข้าง

เสิ่นซวงเหมียนแพ้บุกมาตั้งแต่เด็ก ถึงขั้นเคยเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขากลับลืมมันไปหมดแล้ว

ตลอดมื้ออาหาร เธอก้มหน้าตลอด ไม่แม้แต่จะเงยขึ้นมองคนตรงข้ามแม้เพียงครั้งเดียว

จนกระทั่งเซี่ยหร่านหร่านเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “คุณเสิ่น สร้อยคอของคุณสวยมากเลยค่ะ ขอฉันดูใกล้ๆ ได้ไหม?”

เสิ่นซวงเหมียนจับสร้อยที่อกแน่น กำลังจะปฏิเสธ แต่คนที่นั่งข้างๆ กลับเอื้อมมาดึงสร้อยออกจากคอเธออย่างหยาบคาย

“ภรรยาอาจารย์หมอไม่ใจแคบหรอก เซี่ยหร่านหร่านดูได้เลย”

เธอยื่นมือไปขวาง มองหยานหยุ่นโจวแล้วพูดเสียงดังว่า “ไม่ได้!”

หยานหยุ่นโจวขมวดคิ้ว ไม่พอใจที่เธอขึ้นเสียง แล้วพูดกลับว่า“ก็แค่สร้อยเส้นหนึ่ง ให้เซี่ยหร่านหร่านดูมันผิดตรงไหน? ผมบอกคุณไว้ยังไง?”

เขากล้าพูดถึงเรื่องก่อนหน้านี้ได้ยังไง เสิ่นซวงเหมียนมองเขาที่กำลังจะรับสร้อยไปให้เซี่ยหร่านหร่านเธอรีบเอื้อมมือไปแย่งกลับ

เซี่ยหร่านหร่านเห็นดังนั้นก็ยื่นมือออกไปเหมือนจะปฏิเสธ แล้วพูดต่อ “ในเมื่อคุณเสิ่น ไม่เต็มใจ ก็ช่างมันเถอะค่ะอาจารย์หมอ”

แต่ทันทีที่พูดจบ สร้อยก็หลุดมือใครสักคน ร่วงลงไปในหม้อไฟ น้ำซุปกระเซ็นใส่มือพวกเขา

เสิ่นซวงเหมียนรีบจะคว้าสร้อย แต่ปลายนิ้วกลับแตะโดนก้นหม้อที่เดือดพล่าน ความเจ็บเดือดพล่านปวดร้าวเหมือนกับนิ้วขาด

ปกติแล้วในสถานการณ์แบบนี้หยานหยุ่นโจว จะรีบปฐมพยาบาลให้เธอ ด้วยความปวดหัวจนมึนงง เธอจึงมองหาเขาตามสัญชาตญาณ แต่กลับเห็นเขากำลังประคองมือของเซี่ยหร่านหร่านที่ถูกลวกจนแดง และเป่าบรรเทาอาการเจ็บปวดให้เธออย่างทะนุถนอม

พอเห็นว่าเซี่ยหร่านหร่านเจ็บจนเกือบร้องไห้ เขาก็รีบพาเธอไปโรงพยาบาลทันที โดยไม่เหลียวแลเสิ่นซวงเหมียนที่เจ็บจนแทบจะเป็นลมแม้แต่นิดเดียว

กว่าเธอจะตั้งสติได้ ร้านหม้อไฟก็ใกล้จะปิดแล้ว

เธอขอให้พนักงานช่วยงมสร้อยขึ้นมา พอเปิดล็อกเกตที่เปรอะเต็มไปด้วยคราบน้ำมัน ส่วนของเถ้ากระดูกข้างในกลับละลายหายไปกับน้ำซุปหมดแล้ว

เสิ่นซวงเหมียนทรุดลงนั่งกับพื้น กอดสร้อยไว้แนบอกสียงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วร้านหม้อไฟที่ว่างเปล่า จนกระทั่งเสียงของเธอแหบแห้งไปในที่สุด

ชาตินี้ เธอจะไม่มีวันให้อภัยหยานหยุ่นโจวอีกต่อไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 20

    ตอนที่เธอประคองพ่อเขาลงมาชั้นล่าง หยานหยุ่นโจวก็เดินเข้ามาในสภาพทุลักทุเล แล้วยืนมองเธออยู่ด้านล่างอย่างเหม่อลอยภาพเช่นนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน ก่อนหน้านี้เสิ่นซวงเหมียนก็เคยประคองพ่อของเขาลงมานับครั้งไม่ถ้วน ในความรู้สึกพร่าเลือน เขานึกไปเองว่าเธอได้กลับมาแล้ว เรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น และพวกเขายังมีอนาคตร่วมกันถ้าเป็นเมื่อก่อน เธอจะต้องมองเขาเป็นคนแรก แล้วยิ้มให้เขา พูดคุยด้วยความอ่อนโยน แต่ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมองเธอแรงแค่ไหน เสิ่นซวงเหมียนก็ทำเหมือนเขาเป็นเพียงธาตุอากาศทุกสิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นความจริงเธอจะไม่ย้อนกลับมา และพวกเขาก็ไม่มีวันข้างหน้าอีกแล้วความจริงข้อนั้นเหมือนใบมีดที่มองไม่เห็นแทงเข้ากลางอกของหยานหยุ่นโจว ทุกครั้งที่หายใจเจ็บแสบเหมือนหัวใจถูกฉีกออกทีละชิ้นในมื้ออาหารเย็น หยานหยุ่นโจวนั่งอยู่ตรงข้ามกับเสิ่นซวงเหมียน ดวงตาจับจ้องเธออย่างร้อนรน และคอยตักกับข้าวที่เธอชอบให้เป็นระยะแต่เธอไม่แม้แต่จะเงยหน้ามอง แต่กลับสนทนากับพ่อของเขาอย่างตั้งใจ อาหารที่เขาตักให้ เธอก็เลือกคีบออกไปใส่จานใส่เศษอาหารอย่างไม่ไยดีหลังอาหารเย็น เธอคุยกับพ่อเขาต่ออีกสักพักก่อนล่ำลา

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 19

    เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เห่อซิงเยว่ขับรถมาส่งเธอถึงหน้าบ้าน แต่คราวนี้เธอกลับรู้สึกว่าอะไรบางอย่างมันต่างออกไปตอนลงจากรถ เขายื่นกล่องของขวัญให้เธอ “ของขวัญวันเกิดครับ”ระยะทางจากประตูทางเข้าโครงการไปจนถึงชั้นล่างของอาคาร เธอเดินเร็วกว่าปกติเล็กน้อย เพราะอยากกลับบ้านไปแกะของขวัญเมื่อเดินไปถึงชั้นล่าง และเห็นหยานหยุ่นโจว เธอก็หยุดฝีเท้าลงทันทีเธอยืนอยู่ที่เดิมมองดูเขาอยู่ห่างๆ หยานหยุ่นโจวถือเค้กและของขวัญชิ้นหนึ่ง เดินตรงเข้ามาหาเธอเขายื่นของขวัญมาให้เธอด้วยท่าทีตื่นเต้น แล้วพูดเสียงแหบพร่าว่า “สุขสันต์วันเกิดนะ เสิ่นซวงเหมียน ผมเคยพูดไว้ ว่าวันเกิดของคุณทุกปี ผมจะอยู่ด้วยทุกครั้ง ดีนะที่ปีนี้ผมไม่พลาด”จริงอยู่ที่วันเกิดของเธอทุกครั้งในอดีต หยานหยุ่นโจวไม่เคยขาดแม้แต่ครั้งเดียว แม้จะยุ่งจนมีคิวผ่าตัดทั้งวัน เขาก็จะเจียดเวลามาฉลองวันเกิดให้เธอ แม้จะต้องแลกกับการผ่าตัดโต้รุ่งก็ตาม เขาก็ไม่เคยขาดแต่ทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว เสิ่นซวงเหมียนรับของขวัญมาตรงหน้า ก่อนที่หยานหยุ่นโจวจะได้แสดงความยินดี เธอก็โยนมันทิ้งลงในถังขยะข้างๆ อย่างไม่ไยดีสีหน้าของเขาซีดลงทันที หัวใจเห

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 18

    หลังจากไปส่งเห่อหลานกลับบ้านแล้ว เสิ่นซวงเหมียนก็เพิ่งได้กลับบ้านหลังจากอาบน้ำล้างหน้าเสร็จ เธอนอนลงบนเตียง พอนึกถึงคำว่ารักที่หยานหยุ่นโจวพูดออกมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาอีกครั้งการที่หยานหยุ่นโจวพูดคำว่ารักกับเธอนั้น ช่างเป็นการดูถูกคำๆ นี้เสียจริงวันรุ่งขึ้น ไม่มีตารางการแสดง และกำหนดการฝึกซ้อมเดิมก็ถูกยกเลิกไปด้วย เสิ่นซวงเหมียนอ่านประกาศในกลุ่ม แล้วโยนโทรศัพท์ไว้ข้างตัว มองเพดาน เธอพบว่าตัวเองไม่มีอะไรทำเลยนอกจากการฝึกซ้อมเพื่อการแสดงความว่างเปล่าเพิ่งโผล่ขึ้นมาไม่ทันไร เห่อซิงเยว่ก็โทรเข้ามา “วันนี้ไม่มีซ้อมใช่ไหมครับ เดี๋ยวผมไปรับนะ จะพาคุณออกไปเดินเล่นหน่อย”เสิ่นซวงเหมียนคิดว่าก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว จึงตกลง ลุกจากเตียงค่อย ๆ เตรียมตัว พอลงมาก็เห็นเห่อซิงเยว่รออยู่ด้านล่างเรียบร้อยเธอชะงักไปนิด แล้วรีบเดินไปนั่งเบาะข้างคนขับ “รอนานไหมคะ? ฉันน่าจะเร็วกว่านี้”เห่อซิงเยว่สตาร์ทรถอย่างไม่ใส่ใจแล้วพูดกลับว่า “สำหรับคุณ ผมมีความอดทนมาก จะลงมาเมื่อไหร่ก็ได้”ช่วงนี้เขามักพูดจาแบบมีนัยแบบนี้อยู่บ่อย ๆ เสิ่นซวงเหมียนก็เริ่มชินแล้ว เธอยิ้ม “ได้ค่ะ งั้นครั้งหน้าฉันนอนอ

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 17

    เสิ่นซวงเหมียนหยุดยืน หันกลับมา แล้วพูดเสียงเย็นชาว่า “พ่อคุณให้คุณมาตามฉันเหรอ?”เพราะนอกจากเหตุผลนี้ เธอก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออกแล้วหยานหยุ่นโจวได้ยินดังนั้นก็ตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนรีบอธิบายอย่างเร็วว่า “ไม่ใช่ ผมมาตามคุณเอง” “คุณต้องการอะไร?” เสิ่นซวงเหมียนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง แล้วพูดเสียงแข็งเมื่อเห็นท่าทีห่างเหินและระแวดระวังของเธอ ใจเขาเจ็บราวถูกมีดเฉือน ความขมขื่นเอ่อล้นไม่หยุดแววตาเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและคำวิงวอน “เสิ่นซวงเหมียน กลับไปกับผมเถอะ ผม…”“ยังอยากตอบแทนบุญคุณอีกเหรอคะ?” เสิ่นซวงเหมียนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา และพูดต่อ “ไม่จำเป็นแล้วค่ะ บุญคุณนั้นพวกคุณตอบแทนหมดแล้ว คุณไปเถอะ เราไม่ติดหนี้กันอีกต่อไป”พูดจบ เธอก็ก้าวผ่านเขาไป แต่กลับถูกมือใหญ่คว้าไว้“ไม่ใช่เรื่องตอบแทนบุญคุณ” เขารีบจับเธอไว้ราวกลัวจะหลุดหาย “ผมแค่อยากให้คุณกลับมา ผมมันโง่เอง จนเสียคุณไปถึงได้รู้ว่าความรู้สึกของตัวเองคืออะไร”เสิ่นซวงเหมียนฟังแล้วก็ขมวดคิ้วแน่น สัมผัสที่มือทำให้เธอรู้สึกไม่สบาย จึงใช้กำลังเล็กน้อยสะบัดออกหยานหยุ่นโจวรู้สึกฝ่ามือว่างเปล่า หัวใจเหมือนยุบลงไปกลางอก เจ็บราวถูกเข็มนับ

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 16

    เนื่องจากคนเยอะเกินไป จึงต้องแบ่งออกเป็นรถสองคันเสิ่นซวงเหมียนกับเห่อหลานนั่งรถของเห่อซิงเยว่ ส่วนคนอื่นก็เรียกแท็กซี่กันไปและเนื่องจากเธอเมารถเลยมานั่งเบาะข้างคนขับ ส่วนเห่อหลานที่อยู่เบาะหลังยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วพลางพูดว่า “ผู้ชายคนเมื่อกี้หล่อจังเลยค่ะ ถึงแม้จะดูซูบผอมไปบ้าง แต่ก็ปิดบังความหล่อไว้ไม่มิดเลย อยากได้ช่องทางติดต่อจังเลยค่ะเสิ่นซวงเหมียนไม่พูดอะไรสักคำ แต่เห่อซิงเยว่ที่สังเกตเห็นความเงียบของเธอ จึงหันไปพูดกับคนนั่งหลังว่า “เธอหุบปากไปเลย ผู้ชายที่เธอบอกว่าหล่อถ้าไม่ถึงร้อยคนก็คงเก้าสิบคนแล้วมั้ง? ไม่รู้ว่าตาเธอมองยังไง”ทันใดนั้นความสนใจของเห่อหลานก็ถูกดึงไปทันที ลืมเรื่องหยานหยุ่นโจวไปเลย แล้วก็หันมาปะทะปากกับเห่อซิงเยว่แทนเสิ่นซวงเหมียนมองเงาต้นไม้ที่ไหลผ่านอย่างรวดเร็วข้างนอกหน้าต่าง ใจของเธอเอาแต่คิดถึงเสียงเรียกของหยานหยุ่นโจวเมื่อครู่ในน้ำเสียงเขาไม่มีความตกใจเลย นั่นแปลว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แล้วเขามาตามหาเธอทำไมกันแน่?ตอนนี้เวลาผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เขากับเซี่ยหร่านหร่านก็น่าจะแต่งงานกันแล้วสิ ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งไม่ควรมาตามหาเธอเลยด้วยซ้ำคิด

  • คลื่นรักซัดรอยฝัน   บทที่ 15

    หลังผ่าตัดเสร็จ เสิ่นซวงเหมียนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอยู่ไม่กี่วันก็ออกได้แล้ว เสียงของกลับมาเป็นเหมือนปกติเหมือนเดิมด้วยโอกาสที่บังเอิญ เธอได้เข้าร่วมวงดนตรีวงหนึ่ง ซึ่งมีน้องสาวคนหนึ่งชื่อ เห่อหลาน ที่ชอบเกาะติดเธอมาก และเป็นคนชักชวนเธอเข้าวงด้วยเพราะเธอมีประสบการณ์อยู่แล้ว ไม่นานก็มีงานแสดงเล็ก ๆ ในบาร์เข้ามาหลังจากห่างหายเวทีไปหนึ่งปี การได้ขึ้นเวทีอีกครั้งทำให้เสิ่นซวงเหมียนรู้สึกราวกับว่าได้พบตัวเองกลับคืนมา รอยยิ้มของเธอก็เพิ่มขึ้นมามากหลังการแสดงจบ เธอยังเหมือนหลุดออกจากบรรยากาศนั้นไม่หมด เดินไปหลังเวทีแล้วก็ได้ยินเห่อหลานที่อยู่ข้าง ๆ ร้องเสียงดังว่า “พี่?! ทำไมมาที่นี่ล่ะคะ พี่ไม่เคยมาดูหนูเล่นเลยนี่?”เสิ่นซวงเหมียนมองพื้นตรงหน้าอย่างตั้งใจ ไม่ได้เงยหน้า จนกระทั่งได้ยินเสียงคุ้นเคยเอ่ยขึ้นว่า“สบายใจได้ ไม่ได้มาดูเธอหรอก”เธอชะงักไป ก่อนเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นเห่อซิงเยว่ยืนล้วงกระเป๋าอยู่ที่ทางเดิน หลังเอ่ยประโยคเมื่อครู่ ดวงตาที่งดงามของเขาก็เลื่อนไปหยุดที่เสิ่นซวงเหมียนเขาตอบกลับว่า “พี่มาดูสิว่าคนไข้ของพี่ฟื้นตัวเป็นยังไงบ้าง” และยิ้มมุมปากอย่างนุ่มนวลเห่อหลา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status