Home / วาย / #ความลับของบอสเหนือ (HAREM) / บทที่ 11 - อย่าแต่งงานกับเขาเลย

Share

บทที่ 11 - อย่าแต่งงานกับเขาเลย

Author: baby_ferin
last update Huling Na-update: 2025-06-13 20:43:15

[ บทที่ 11 ]

“อย่าแต่งงานกับเขาเลย”

“ผมขอร้องบอส... อย่าแต่งงานกับเขา อย่าแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเลยนะครับ”

บอสเหนือมองตอบสายตาคู่คมของบอดี้การ์ดหนุ่มที่จ้องมองมาด้วยสีหน้าและแววตาเว้าวอนอย่างไม่คิดจะปิดบัง น้ำเสียงที่เอ่ยออกมามันสั่นเครือเต็มไปด้วยคำขอร้องมากมายที่ส่งผ่านมาทางสีหน้าและแววตาทั้งหมด แล้วก็เป็นแววตาคู่นี้อีกเช่นกันที่ทำให้นายเหนือหัวสินธวานนท์ใจอ่อนยวบ

เป็นแววตาที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ในทุกๆครั้งที่ได้มองสบตาคู่นี้

“กูไม่ได้บอกสักคำว่าจะแต่งกับเขา” จริงๆแล้วเขาอยากจะแกล้งลูกน้องของตัวเองอีกสักหน่อย แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าเขาไม่เคยเอาชนะสายตาคู่นี้ของรามได้เลยสักครั้ง

จากทึ่คิดจะแกล้งก็กลายเป็นว่าเขาใจอ่อนยวบแกล้งบอดี้การ์ดของตัวเองต่อไปไม่ลงจริงๆ

“แต่บอสก็ยังมาลองชุดแต่งงานกับเขานี่ครับ” คนฟังแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว ใครมาเห็นเข้าคงยากที่จะเชื่อว่าบอดี้การ์ดตัวโตๆที่เก๊กขรึมทำหน้าเข้มอยู่ตลอดเวลาก็มีมุมน้อยอกน้อยใจเหมือนผู้หญิงแบบนี้ด้วย

ขนาดเขาเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน

“ก็แค่มาลองให้มันจบๆ แม่จะได้เลิกยุ่งวุ่นวายกับกูสักที” บอสเหนือตอบกลับไปเสียงเรียบ เขาแค่ไม่อยากมีปัญหากับมารดามากไปกว่านี้ หากวันนี้เขาไม่ยอมมาลองชุดแต่งงานตามที่แม่บอก อีกฝ่ายก็คงไม่เลิกยุ่งวุ่นวายกับเขาง่ายๆอย่างแน่นอน

“คุณหญิงคงไม่มีวันเลิกยุ่งวุ่นวายกับบอสจนกว่าจะเห็นบอสแต่งงานกับคุณแก้วกานดานั่นแหละครับ” คำพูดปกติเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่บอสเหนือที่รู้จักลูกน้องตัวเองมานานหลายปีกลับรู้สึกได้ถึงความประชดประชันในน้ำเสียงที่เอ่ยออกมา

“เลิกคิดเองเออเองได้แล้ว” บอสเหนือยกมือขึ้นผลักศีรษะของคนบนร่างเบาๆ นิสัยชอบคิดเองเออเองนี่มันเป็นเหมือนกันทั้งหมดเลยหรือไงกัน

“ไม่ว่ายังไงกูก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา โอเคมั้ย ?” บอสหนุ่มเอ่ยประโยคถัดมาที่ทำให้สีหน้าของคนฟังคลายความตึงเครียดลงเล็กน้อย

แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น...

“แต่คุณหญิง...”

“แม่ไม่มีวันบังคับกูได้หรอก”

“คุณหญิงอยากได้คุณแก้วกานดามาเป็นสะใภ้ของสินธวานนท์มาก แล้วก็ดูจะไม่ยอมให้บอสบ่ายเบี่ยงไม่ยอมแต่งงานง่ายๆ”

“ถ้าอย่างนั้นก็คงมีแต่ต้องยอมแต่งงานกับแก้วกานดาล่ะมั้ง”

“บอส!” รามเอ่ยเรียกเจ้านายเสียงเข้ม พร้อมโน้มใบหน้าลงไปกัดซอกคอของคนใต้ร่างแรงๆ จนคนโดนกระทำร้องโอดโอยออกมาทันที

“โอ้ย! ไอ้ราม มึงเป็นหมาหรือไงกัน” คนโดนกัดเอ่ยขึ้นเสียงขุ่น ไม่ว่าจะหน้าไหนๆก็มีนิสัยชอบกัดกันทั้งนั้น

“พวกผมไม่มีวันยอมให้บอสแต่งงานกับคนอื่นหรอก”

“แล้วถ้ากูต้องแต่งงานจริงๆ พวกมึงคิดจะทำยังไงกันล่ะ” คนถามเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมุมปาก อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าเขาต้องแต่งงานกับแก้วกานดาขึ้นมาจริงๆ หมาบ้าพวกนี้จะทำยังไงกันต่อไป

“ก็ลองดูครับ”

“……”

“ถ้าอยากให้งานแต่งงานล่มขึ้นมา บอสก็ลองไปแต่งงานกับเขาดู” สีหน้าและแววตาจริงจังไม่ได้ทำให้บอสเหนือนึกหวั่นกลัวเลยแม้แต่น้อย กลับชอบอกชอบใจที่เห็นว่าหมาที่ตนเองชุบเลี้ยงเอาไว้ดูจะหึงหวงเขามากเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก

หมามันก็ซื่อสัตย์กับเจ้าของจริงๆนั่นแหละ

“คิดจะล่มงานแต่งกูนี่... เตรียมตัวเตรียมใจรับผลของมันแล้วหรือยัง” บอสเหนือเอ่ยถามขึ้น คนแรกที่ควรจะระวังเอาไว้เลยก็คือแม่ของเขาเองนั่นแหละ คุณหญิงเนตรศิตางศุ์คงไม่ปล่อยคนที่ล่มงานแต่งงานของเขากับแก้วกานดาไปง่ายๆอย่างแน่นอน

“รอให้ถึงวันนั้นก่อนก็แล้วกันนะครับ แต่ที่แน่ๆพวกผมไม่มีวันยอมให้บอสไปแต่งงานกับคนอื่นอย่างแน่นอนครับ” สิ้นคำพูดนั้น คนฟังก็หัวเราะในลำคอ มือข้างหนึ่งยกขึ้นลูบศีรษะของหมาตัวโตที่ตนเองชุบเลี้ยงเอาไว้เบาๆ

“เป็นเด็กดีแล้วอยู่เงียบๆไปเถอะ พวกมึงน่ะ”

“บอสมีแผนแล้วเหรอครับ” รามเอ่ยถามขึ้น ดวงตาคู่คมจับจ้องไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเจ้านายที่ดูเหมือนจะมีแผนการอยู่ในใจแล้ว

“ก็คง... แผนเดียวกับที่พวกมึงคิดล่ะมั้ง”

“บอสหมายถึง...”

“เลิกถามมากแล้วก็ลุกออกไปจากตัวกูสักที” บอสหนุ่มเอ่ยบอกกับลูกน้องตัวเองเสียงเข้ม สองมือพยายามดันร่างที่ใหญ่กว่าเพียงเล็กน้อยออกไป

“ไม่สนใจจริงๆเหรอครับ” น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ดังออกมาจากปากของบอดี้การ์ดคนโปรด แน่นอนว่าบอสเหนือไม่ไว้ใจสายตาที่จ้องมองมาของรามเลยแม้แต่น้อย

“อะไร”

“เปลี่ยนบรรยากาศไงครับ ไม่อยากลองเอากันบนรถดูเหรอครับ” สิ้นประโยคนั้น ร่างของรามก็ถูกผลักออกอย่างแรงไปกระแทกเข้ากับประตูรถอีกฝั่งหนึ่ง

“กลับบ้าน!”

“ไม่อยากลอง-”

“ถ้ายังอยากเอากูอยู่ก็รีบไสหัวไปนั่งที่คนขับและพากูกลับบ้านสักที ไม่อย่างนั้นมึงจะไม่ได้เอาของๆมึงเข้ามาในร่างกายของกูแม้แต่ครั้งเดียว!” สิ้นคำประกาศิตของเจ้านาย รามก็รีบพาร่างกายสูงใหญ่ของตนเองกลับไปนั่งยังที่นั่งคนขับ ก่อนจะรีบออกรถพาเจ้านายของตนเองกลับบ้านแทบไม่ทัน

“บอสครับ”

“อืม”

“แล้วที่บอสบอกว่าแผนของบอสคือแผนการเดียวกันกับพวกผม...”

“แผนของพวกมึงคือการล่มงานแต่งงานของกูไม่ใช่หรือไง”

“มันก็ใช่ครับ หรือว่า...” รามมองสบสายตากับผู้เป็นนายผ่านทางกระจกมองหลัง

“ใช่ ถ้ากูต้องแต่งงานกับแก้วกานดาจริงๆก็คงมีแต่ต้องใช้แผนการนี้ไม่ใช่หรือไง”

“……”

“ถ้างานแต่งงานของกูกับแก้วกานดาเกิดขึ้นจริงๆ พวกมึงก็อย่าลืมช่วยกูล่มงานแต่งงานด้วยก็แล้วกัน”

_

“อื้อ... อะ อ๊า เบา ราม! เบาหน่อย!”

“อึก... บอส บอสครับ”

ร่างสูงของรามขยับกายเคลื่อนไหวอยู่เหนือร่างผู้เป็นนายนานนับหลายชั่วโมง ใบหน้าหล่อเหลาแหงนขึ้นสูดปากครางด้วยความเสียวซ่าน รูรักที่เต็มไปด้วยลาวาขุ่นข้นที่เขาปล่อยเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่ากระตุกตอดรัดท่อนลำของเขาถี่รัว ริมฝีปากพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังสีน้ำผึ้งที่เต็มไปด้วยร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของอย่างหลงใหลและรักใคร่

บอสเหนือหอบหายใจกระเส่า เสียงครวญครางที่เปล่งออกมาฟังดูแหบแห้งและแทบจะกลืนหายเข้าไปในลำคอจากการถูกเคี่ยวกรำมานานนับหลายชั่วโมงไม่ได้หยุดพัก ช่องทางด้านหลังที่ถูกสอดใส่ครั้งแล้วครั้งเล่าบวมแดงจากการถูกเสียดสีมาเป็นเวลานาน คราบน้ำกามมากมายที่ถูกปล่อยเข้าไปไหลล้นทะลักออกมาจนเลอะผ้าปูที่นอนเป็นทางยาว

ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลสินธวานนท์ไม่คิดว่าบอดี้การ์ดของตนเองจะอึด ถึก และทนได้ขนาดนี้ นับตั้งแต่กลับมาจากห้องลองชุดจนถึงตอนนี้ รามยังไม่หยุดการกระทำป่าเถื่อนราวกับสัตว์ร้ายที่จ้องจะขย้ำเหยื่ออยู่ตลอดเวลาเลยแม้แต่นิดเดียว แม้ว่าเขาจะพยายามบอกให้หยุดหรือพยายามห้ามปรามก็ไม่อาจห้ามความปรารถนาในส่วนลึกของรามได้ อีกทั้งเสียงของเขาคงจะไม่เด็ดขาดมากพอที่จะทำให้อีกฝ่ายยอมหยุดและปล่อยให้เขาได้พักผ่อนเสียที

“อ๊า! ลึก ละลึกไป” บอสเหนือตาเหลือกค้าง เมื่อท่อนลำภายในกายกระแทกลึกมากขึ้นกว่าเดิม

“ซี้ดดดดดด บอสอย่ารัดของผมขนาดนี้สิครับ” รามสูดปากครางด้วยความกระสัน โพรงเนื้อนุ่มตอดรัดลำร้อนของเขาระรัวจนเขาแทบจะเสร็จสมเสียเดี๋ยวนั้น

“อ๊า อื้อ ราม ราม! ระเร็ว อึก เร็วไปแล้ว!” คนข้างใต้บิดกายเร่าจนผ้าปูเตียงยับย่น จังหวะที่เพิ่มความเร็วมากขึ้นกว่าเดิมทำให้ชายหนุ่มอ้าปากครางออกมาดังลั่นห้อง สองมือขยำผ้าปูที่นอนจนแทบจะจิกทึ้งมันให้ขาดวิ่นคามือ

รามขบกรามเข้าหากันแน่น สะโพกแกร่งหยัดกายเข้าออกด้วยจังหวะรัวเร็วมากขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นสูง

“อ๊า! จะเสร็จ กูจะเสร็จแล้ว!” ดวงตาคมเข้มลอยคว้างไร้ซึ่งจุดโฟกัส สะโพกขยับเคลื่อนไหวเข้าหาท่อนลำที่กระแทกกระทั้นลงบนจุดกระสันภายใน เน้นย้ำจนคนโดนกระทำหวีดครางออกมาดังลั่น ใบหน้าคมเข้มเชิดขึ้นสูง นิ้วมือนิ้วเท้าจิกเกร็งเข้าหากันแน่น โพรงคับแคบกระตุกตอดรัดลำร้อนภายในถี่รัวเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าบอสเหนือใกล้จะไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างที่ใจต้องการ

“อีกนิด อึก… อีกนิดนะครับ” รามโน้มใบหน้าลงไปขบเม้มบริเวณซอกคอสีน้ำผึ้งของเจ้านาย ก่อนจะลากริมฝีปากไปหยุดอยู่บริเวณใบหู ลิ้นสากแหย่แยงเข้าไปในรูหูจนคนโดนกระทำส่งเสียงครางเครือออกมาด้วยความเสียวซ่าน

“อืออออออ” บอสเหนือหลับตาพริ้ม ใบหูก็เป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนที่แสนอ่อนไหวของเจ้าตัว และรามก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีถึงได้ชอบเล่นงานบริเวณใบหูของเจ้านายอยู่เสมอ

“จะ... อ๊า จะเสร็จ อึก จะเสร็จแล้ว!”

“ครับ ผมก็ใกล้... ซี้ดดดดด เสร็จพร้อมกันนะครับ” สิ้นประโยคนั้น รามก็เร่งขยับสะโพกเข้าออกรัวเร็วและรุนแรงเพื่อส่งทั้งตนเองและคนที่นอนบิดกายครวญครางอยู่ใต้ร่างไปให้ถึงจุดหมายปลายทางโดยเร็วที่สุด กระทั่งโพรงคับแคบตอดรัดท่อนลำของเขาแน่นจนเขาเสร็จสมในที่สุด เช่นเดียวกันกับบอสหนุ่มที่ร่างกายกระตุกเกร็ง พร้อมกับปลดปล่อยธารน้ำสีขาวขุ่นออกมาในปริมาณมากจนไหลเลอะผ้าปูที่นอนเป็นวงกว้าง

รามรอจนกระทั่งกายแกร่งของเจ้านายหายจากการกระตุกโดยแรงจากการเสร็จสมที่รุนแรงเมื่อสักครู่นี้จึงค่อยๆถอนร่างกายออกมา

รามถอนกายออกมาเป็นเวลาเดียวกันกับที่บานประตูห้องที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามันไม่ได้ถูกลงกลอนไว้อย่างที่เข้าใจถูกเปิดออก พร้อมกับร่างสูงกำยำของบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งที่ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้คนสองคนที่นอนหอบหายใจอยู่บนเตียงมากขึ้นเรื่อยๆ

“พี่ปราบ” รามเอ่ยเรียกชื่อบอดี้การ์ดรุ่นพี่เบาๆ แค่มองสบตาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร

รามหันไปหอมแก้มคนข้างกายที่สติยังไม่กลับเข้าที่ดีเบาๆหนึ่งครั้ง ก่อนจะค่อยๆผุดลุกขึ้นและเดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ระเกะระกะอยู่บนพื้นข้างเตียงมาสวมใส่

“เบาๆหน่อยนะพี่ บอสถูกผมเอาไม่ได้พักมาหลายชั่วโมงแล้ว” รามเอ่ยปากบอกคนอายุมากกว่าโดยไม่ได้หันกลับไปมองหน้า

“ก็พอจะรู้อยู่” ปราบเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ ดวงตาคู่คมจ้องมองไปยังร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบและรอยขบกัดมากมาย อีกทั้งท่าทีเหนื่อยอ่อนนั่นก็พอจะมองออกว่าบอสของเขาคงจะถูกรุ่นน้องของเขาเคี่ยวกรำอยู่นานเลยทีเดียว

“มีธุระต้องไปจัดการต่อไม่ใช่หรือไง มึงไปจัดการธุระของมึงให้เสร็จเถอะ” ปราบเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นบอดี้การ์ดรุ่นน้องยังคงรั้งรอไม่ยอมออกจากห้องไปเสียที

“ครับ” รามตอบกลับเพียงแค่นั้นก็ก้าวตรงไปยังบานประตูที่ถูกเปิดค้างเอาไว้ ทว่าร่างสูงของใครอีกคนที่ก้าวเข้ามามันทำให้เขาชะงักค้างและเผลอเบิกตากว้างด้วยความตกใจน้อยๆ

นี่อย่าบอกนะว่าพี่ปราบกับพี่พฤกษ์คิดจะ...

“โรมมันรอมึงอยู่ข้างล่างนะ ราม” พฤกษ์เอ่ยบอกคนที่กำลังทำสีหน้าตื่นตกใจอยู่ตรงหน้าตนเองด้วยน้ำเสียงขบขันน้อยๆ

ตกใจอย่างกับว่าพวกเขาไม่เคยทำกันแบบสามคนมาก่อน ทั้งๆที่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขามีเซ็กส์กันแบบสามคน

มากกว่านี้ก็ยังเคยมาแล้ว...

“พี่พฤกษ์ ผมว่า...” รามไม่ได้อะไรกับการมีเซ็กส์กันแบบสามคน แต่ครั้งนี้มันไม่ปกติ เพราะเขากับบอสเองก็มีเซ็กส์มาแล้วไม่ต่ำกว่าห้าชั่วโมง ถ้าหากบอสต้องรองรับของพี่ๆทั้งสองคนนี้เข้าไปอีก เขาไม่คิดว่าบอสจะรับไหวหรอกนะ

“ไม่ต้องห่วงหรอก พวกกูรู้ลิมิตบอสดี” พฤกษ์รู้ว่ารุ่นน้องคิดอะไรอยู่ถึงได้เอ่ยตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

“ถ้าบอสไม่ไหว พวกกูจะไม่บังคับฝืนใจบอส แบบนี้โอเคหรือยัง” เมื่อเห็นว่ารามยังคงไม่ยอมไปไหน พฤกษ์จึงเอ่ยประโยคที่ทำให้บอดี้การ์ดรุ่นน้องยอมพยักหน้ารับและก้าวออกจากห้องไปแต่โดยดี

เมื่อลับร่างสูงของราม พฤกษ์ก็จัดการปิดประตูห้องโดยไม่ลืมที่จะลงกลอนเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครเข้ามารบกวนเวลาของพวกเขาทั้งสามคน

“บอส” ปราบก้าวขึ้นไปบนเตียงที่มีร่างสูงกำยำของเจ้านายนอนหอบหายใจจากกิจกรรมร้อนแรงเมื่อสักครู่นี้ ดวงตาคมดุพยายามปรือขึ้นมองเจ้าของเสียงเรียกที่รับรู้ได้ในทันทีว่ามันคือเสียงของใคร

“มึงเองเหรอ ปราบ”

“ครับ ไอ้รามมันหนักมือกับบอสขนาดนี้เลยเหรอ” ปราบเอ่ยถามเสียงเรียบ ปลายนิ้วลากไปตามต้นขาแกร่งที่เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำกามของบอดี้การ์ดรุ่นน้อง ก่อนจะไปหยุดลงบริเวณช่องทางด้านหลังที่บวมแดง จนเจ้าของรูสะดุ้งน้อยๆกับสัมผัสที่มาโดยไม่ทันตั้งตัว

“อึก! ปราบ...” ใบหน้าคมเข้มบิดเบี้ยวไปด้วยความรู้สึกอันหลากหลาย สองขาแกร่งสั่นสะท้านน้อยๆยามที่นิ้วของปราบค่อยๆสอดเข้าไปในโพรงคับแคบ พร้อมกับควานหยาดน้ำขุ่นข้นที่รามปล่อยทิ้งเอาไว้ออกมา ผนังอ่อนนุ่มภายในที่ถูกครูดถูด้วยก้านนิ้วยาวทำให้คนโดนกระทำส่งเสียงครางเครือออกมาเบาๆผ่านลำคอด้วยความเสียวกระสัน

“อ๊ะ... ตะตรงนั้น อื้อ!” บอสเหนือส่งเสียงครางออกมาทันทีที่ปลายนิ้วไปแตะเข้ากับจุดนูนภายใน สองมือคว้าต้นแขนของบอดี้การ์ดหนุ่มเอาไว้พร้อมจิกเล็บลงบนต้นแขนเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ท่อนลำที่พึ่งสงบลงเริ่มขยายใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

“บอสชอบให้ผมถูตรงนี้แรงๆสินะครับ” ปราบยกยิ้มมุมปาก นิ้วที่ควงคว้านอยู่ภายในถูวนยังจุดเดิมซ้ำๆ จนคนโดนกระทำส่งเสียงครวญครางออกมาไม่ขาดสาย กายแกร่งของเจ้านายสั่นสะท้าน สะโพกเผลอยกขึ้นตอบรับสัมผัสจากนิ้วแกร่งที่ถูไถบริเวณจุดกระสันภายในกาย ปลายเท้าจิกเกร็งลงบนพื้นเตียงด้วยความเสียวซ่าน

“อึก... อะ อ๊า สะเสียว ตะตรงนั้น เสียว- อ๊า!” บอสเหนือหอบหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ สะโพกส่ายร่อนรับนิ้วที่เพิ่มเข้ามาเป็นสามนิ้วตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่ทันได้รู้ตัว จากที่คิดจะเอาของเหลวที่รามปล่อยทิ้งเอาไว้ออกมาให้ ตอนนี้กลายเป็นว่าปราบกำลังใช้นิ้วทั้งสามเพื่อส่งเจ้านายไปให้ถึงฝั่งฝันโดยเร็วที่สุด

“จะ... อะ อ๊า จะเสร็จ ฮึก! จะเสร็จแล้ว!” ดวงตาคมดุเหลือกขึ้นสูง สะโพกส่ายวนไปมาตอบรับการปรนเปรอด้วยนิ้วทั้งสามของปราบ ทว่าทั้งสองคนดูจะหลงลืมใครบางคนที่ยืนกอดอกมองดูอยู่นานสองนาน

พฤกษ์หรี่ตามองภาพของเจ้านายที่ร่อนสะโพกรับนิ้วทั้งสามของเพื่อนสนิทอย่างร่านร้อน แววตาที่จับจ้องไปยังผู้เป็นนายราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจ้องเหยื่อของตนเองอยู่ มุมปากยกยิ้มขึ้นน้อยๆกับภาพที่เห็น ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆก้าวขึ้นไปบนเตียงที่มีร่างสูงของเพื่อนสนิทคอยปรนเปรอเจ้านายด้วยนิ้วของตนเองอยู่ ใบหน้าคมคายโน้มเข้าหาท่อนลำที่กระตุกสั่นเป็นพักๆคล้ายจะปลดปล่อย ริมฝีปากอ้าออกเพื่อรับส่วนอ่อนไหวกลางกายของเจ้านายเข้าไปในโพรงปาก

“อ๊า!” เป็นวินาทีเดียวกันกับที่ปราบกระแทกนิ้วบดขยี้จุดกระสันภายในจนคนโดนกระทำส่งเสียงครางลั่น สะโพกแอ่นเข้าหาโพรงปากที่โอบรัดท่อนลำของตนเองเอาไว้ พร้อมกับที่ลาวาขุ่นข้นไหลทะลักออกมาจากส่วนปลายยอดฉีดพ่นเข้าไปในโพรงปากที่รองรับเอาไว้และกลืนมันลงไปด้วยความเต็มใจและไม่นึกรังเกียจเลยแม้แต่น้อย

ปราบไม่คิดรั้งรอให้เจ้านายได้พักหายใจหายคอดี ชายหนุ่มจับกายแกร่งของผู้เป็นนายพลิกคว่ำลงกับเตียง มือแกร่งเร่งถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนร่างกายเปลือยเปล่า พร้อมกับกระแทกกายเข้าไปบดขยี้จุดกระสันในร่างกายในครั้งเดียว

“อ๊า!” บอสหนุ่มตาเหลือกลอยทันทีที่บอดี้การ์ดคนโปรดหยัดกายเข้ามาทีเดียวจนสุด

“ซี้ดดดดด... บอสจะรัดของผมแน่นเกินไปแล้วนะครับ” ปราบสูดปากครางด้วยความเสียว เมื่อท่อนลำของตนเองถูกโอบรัดด้วยรูของเจ้านายที่ตอดรัดส่วนใหญ่โตภายในกายด้วยความกระหายอยาก

พฤกษ์เองก็ไม่คิดน้อยหน้า เขาที่ต้องทนมองสภาพของบอสที่เย้ายวนมาโดยตลอดแทบทนไม่ไหวกับภาพที่เห็น สองมือถอดเสื้อและกางเกงออกไปจนหมด ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ๆร่างของเจ้านายที่นอนพลิกคว่ำอยู่บนเตียง มือใหญ่เอื้อมไปคว้ามือข้างหนึ่งของบอสมากอบกุมท่อนลำที่แข็งขืนพร้อมออกรบเต็มที่ของตนเองอย่างอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป

“ช่วยผมหน่อยนะครับ บอส” สิ้นประโยคนั้น บอสเหนือก็พยักหน้ารับคำ พร้อมกับออกแรงขยับมือรูดรั้งปรนเปรอส่วนกลางกายให้กับพฤกษ์ ปลายนิ้วหมุนวนถูไถบริเวณส่วนปลายยอดให้คนโดนกระทำส่งเสียงครางต่ำออกมาด้วยความพึงพอใจ ในขณะที่ตนเองก็ต้องตาเหลือกค้างกับแรงกระแทกจากคนที่คร่อมทับอยู่เหนือร่าง จุดเสียวในกายถูกบดบี้ครั้งแล้วครั้งแล้วให้ต้องหวีดครางออกมาลั่นห้องอย่างไม่นึกอาย

“อ๊า! อื้อ... ปราบ อึก ละลึก ลึกไป อ๊า!” บอสเหนือส่งเสียงครางไม่ขาดปาก สะโพกแอ่นรับตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของคนด้านหลัง ในขณะที่มือก็ยังคงขยับปรนเปรอให้กับคนที่อยู่ด้านหน้า

พฤกษ์หรี่ตามองภาพร่านร้อนของเจ้านาย ชายหนุ่มอดใจไม่ไหวโน้มใบหน้าลงไปบดจูบรุนแรงและดิบเถื่อนปิดกั้นเสียงครางของเจ้านายโดยสมบูรณ์แบบ

บอสเหนือกำลังถูกมอมเมาด้วยรสจูบของพฤกษ์ หัวสมองถูกย้อมไปด้วยสีขาวโพลนจากทั้งรสจูบและลำร้อนที่กระแทกกระทั้นบดขยี้จุดกระสันภายในกายไม่ยั้งให้ต้องจิกปลายเท้าลงบนพื้นเตียงแน่น จะครางก็ทำไม่ได้เพราะริมฝีปากถูกบดเบียดเข้าหา มอบจูบที่คล้ายจะมอมเมาและดูดกลืนสติสัมปชัญญะทั้งหมดของบอสเหนือไปทีละน้อย

“อืม... บอส บอสครับ” ปราบหยัดกายเข้าออกครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงทุ้มเข้มครางเรียกชื่อเจ้านายครั้งแล้วครั้งเล่า ริมฝีปากพรมจูบไปทั่วแผ่นหลังกว้างสีน้ำผึ้งอย่างรักใคร่

“อ๊า! ปราบ อื้อ ระแรง แรงอีก อะ อ๊า!” ทันทีที่ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ บอสหนุ่มก็ส่งเสียงครางออกมาทันที

พฤกษ์ผละจูบออกมา ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นยอดอกสีเข้มทั้งสองข้างของเจ้านาย ลิ้นสากตวัดไล้เลียยอดอกข้างซ้าย ในขณะที่ข้างขวาก็ไม่ปล่อยให้ว่างเว้น มันถูกปรนเปรอด้วยเรียวนิ้วจนคนโดนกระทำแอ่นทั้งหน้าอกและสะโพกเข้าหาสัมผัสจากทั้งสองทาง

“อา... บอส บอสครับ ผมใกล้แล้ว ใกล้แล้วครับ!” บอสกระซิบบอกเจ้านายด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ยิ่งใกล้ถึงจุดหมายปลายทาง สะโพกแกร่งก็เร่งหยัดกายเข้าออกรัวเร็วและรุนแรงเสียจนคนใต้ร่างโยกไหวไปตามแรงกระแทกกระทั้น

“อ๊า อะ อ๊า ปราบ อื้อ ปราบ!” กระทั่งกายแกร่งของเจ้านายกระตุกเกร็ง พร้อมปลดปล่อยธาราขุ่นข้นออกมาจนเลอะผ้าปูที่นอนเป็นทางยาว ในขณะเดียวกันก็รับรู้ได้ถึงความอุ่นวาบภายในช่องท้อง บ่งบอกให้รู้ว่าปราบเองก็ไปถึงฝั่งฝันแล้วเช่นเดียวกัน

ปราบลอบมองสบตากับพฤกษ์ ก่อนจะพยักหน้าอย่างรู้กัน ลำร้อนที่ถูกถอนออกมาทำให้ช่องทางบวมแดงด้านหลังวูบโหวงอย่างน่าประหลาด ทว่ามันถูกปล่อยให้ว่างเว้นได้ไม่ทันไรก็ถูกแทนที่ด้วยท่อนลำแข็งขืนที่ร้อนผ่าวราวกับคีมเหล็กของใครอีกคน

“อ๊า!” เป็นอีกครั้งที่ดวงตาทั้งสองข้างของบอสเหนือต้องเหลือกขึ้นสูง เมื่อพฤกษ์กระแทกกายเข้ามาทีเดียวจนสุด

พฤกษ์ที่สะกดกลั้นอารมณ์ของตนเองมานานไม่รั้งรอให้บอสหนุ่มได้ปรับตัวหรือพักหายใจหายคอดี ชายหนุ่มกระแทกกายเข้าออกรัวเร็วและรุนแรงเสียจนคนโดนกระทำหวีดครางลั่น นิ้วมือนิ้วเท้าจิกเกร็งแน่น ริมฝีปากอ้าค้างจนน้ำลายไหลเลอะขอบปาก

“อ๊า! อื้อ อะ อ๊า พฤกษ์ ระแรง แรงไป- อ๊า!” ความเร็วที่เคลื่อนไหวเข้าออก จุดกระสันที่ถูกบดบี้ครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้บอสหนุ่มเสียวซ่านแทบขาดใจ

“อืม... บอส บอสครับ” พฤกษ์สูดปากครางต่ำด้วยความพึงพอใจ ดวงตาคู่คมทอดมองกายแกร่งของเจ้านายที่นอนบิดกายเร่าครวญครางอยู่ใต้ร่างด้วยความหลงใหลและรักใคร่ เพื่อนสนิทของเขาไม่ได้อยู่บนเตียงด้วยกันกับพวกเขาแล้ว แต่กลับออกไปยืนสูบบุหรี่อยู่ด้านนอกระเบียง ทิ้งให้เขาร่วมรักกับบอสอยู่บนเตียงเพียงสองคน และพฤกษ์ก็รู้ดีว่าปราบกำลังคิดอะไรอยู่ในตอนนี้

ก็คงไม่พ้นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบอสของพวกเขาอย่างแน่นอน

“พฤกษ์ มะไม่ ไม่ไหว ละลึก มันลึกไป- อ๊า!” ใบหน้าคมเข้มของบอสหนุ่มส่ายสะบัดไปมาด้วยความเสียวซ่าน ส่วนใหญ่โตภายในกายเข้ามาลึกเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นสะโพกแกร่งกลับแอ่นรับตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของบอดี้การ์ดคนโปรดอย่างร่านร้อน

“บอสชอบไม่ใช่เหรอครับ เวลาผมเข้าไปในตัวบอสลึกๆแบบนี้”

“อ๊า! อื้อ อะ อ๊า” ดวงตาคมดุเหลือกลอยไร้จุดโฟกัส มือทั้งสองข้างจิกทึ้งผ้าปูที่นอนจนแทบจะขาดวิ่นคามือ บอสเหนือแทบไม่หลงเหลือสติในการรับรู้อีกต่อไป

“อึก... อะ อา บอส บอสครับ ผมจะเสร็จ ผมจะเสร็จแล้ว”

“กะกูก็ใกล้- อื้อ อะ อ๊า” ทั้งเจ้านายและลูกน้องขยับเคลื่อนไหวร่างกายเข้าหากันด้วยความปรารถนาที่ลุกโชน จุดหมายปลายทางที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆทำให้พวกเขาบดเบียดร่างกายเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“อ๊า!”

“อืมมมมมม”

กระทั่งกายแกร่งของบอสหนุ่มกระตุกเกร็ง ส่วนปลายแดงก่ำฉีดพ่นลาวาขุ่นข้นพวยพุ่งออกมาเป็นทางยาว ขณะเดียวกันบอดี้การ์ดหนุ่มเองก็กระแทกกายเข้าไปเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปลดปล่อยความต้องการเข้าไปในโพรงคับแคบจนหมดทุกหยาดหยด

บอสเหนือที่ร่างกายเหนื่อยล้าจากการถูกเคี่ยวกรำมาอย่างยาวนานหลายชั่วโมงหมดสติไปในทันทีที่กิจกรรมบนเตียงของตนเองและบอดี้การ์ดหนุ่มจบลง

พฤกษ์ที่เห็นแบบนั้นก็ค่อยๆถอนกายออกมาจากร่างกายของเจ้านาย พร้อมกับประคองร่างของคนที่หมดสติไปด้วยความเหนื่อยล้าให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตูระเบียงดังขึ้นในวินาทีต่อมา

“ปราบ”

“บอสหลับไปแล้วเหรอ”

“ใช่ หมดสติไปแล้ว” พฤกษ์พยักหน้ารับพร้อมเอ่ยตอบคำถามของเพื่อนสนิท ดวงตาคู่คมหันไปมองผู้เป็นนายด้วยแววตารักใคร่ที่ไม่เคยมีใครได้รับมันไป นอกจากบอสเหนือเพียงคนเดียวเท่านั้น

“ปล่อยให้บอสได้พักผ่อนเถอะ พวกเราเอาเปรียบเขามากจนเกินไปแล้ว” ปราบเดินเข้าไปลูบศีรษะของเจ้านายเบาๆ ซึ่งถ้าหากเป็นเวลาปกติคงไม่มีวันทำแบบนี้กับคนที่อายุมากกว่าได้อย่างแน่นอน

“อืม”

หลังจากนั้นทั้งพฤกษ์และปราบก็ช่วยกันทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับบอสของพวกเขา ก่อนจะกลับมาล้มตัวลงนอนข้างกายของเจ้านายคนละข้างและโอบกอดร่างของคนตรงกลางเอาไว้อย่างทะนุถนอม

“บอสเป็นของพวกผม และพวกผมจะไม่มีวันยกบอสให้กับใครเด็ดขาด” พฤกษ์เอ่ยขึ้น ไม่ว่ายังไงเขาก็จะไม่มีวันปล่อยให้บอสต้องตกไปเป็นของใครหน้าไหนทั้งนั้น ปราบที่ได้ยินประโยคนั้นของเพื่อนสนิทก็ยิ่งโอบกอดร่างของเจ้านายให้แน่นขึ้น เพราะเขาเองก็คิดแบบเดียวกันกับพฤกษ์

“เพราะฉะนั้น... อย่าแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเลยนะครับ บอส”

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Pinakabagong kabanata

  • #ความลับของบอสเหนือ (HAREM)   บทที่ 16 - ล่มวิวาห์ (1)

    [ บทที่ 16 ]“ล่มวิวาห์ (1)”ศกุนตลาได้รับสายด่วนจากบอสเหนือว่าต้องการพบหน้าเขาโดยด่วน เพราะแบบนั้นเขาถึงต้องยกเลิกตารางชีวิตทั้งหมดเพื่อมาหานายเหนือหัวของตระกูลสินธวานนท์โดยเฉพาะ แม้จะไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายเรียกตัวเขาโดยด่วนแบบนี้มันเกิดจากอะไรกันแน่ก็ตาม“คุณศกุนตลา ทางนี้ครับ” ศกุนตลาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่มาต้อนรับตนเองก็คือหนึ่งในบอดี้การ์ดคนโปรดของบอสเหนือรู้สึกจะชื่อปราบล่ะมั้ง...“คุณเหนืออยู่ข้างในเหรอ”“ใช่ครับ บอสสั่งเอาไว้ว่าถ้าคุณมาให้พาขึ้นไปหาบอสได้เลย”“ได้บอกหรือเปล่าว่าทำไมถึงเรียกพบศาโดยด่วนแบบนี้” ศกุนตลาเอ่ยถามคนที่เดินนำอยู่ด้านหน้า เผื่อว่าตนเองจะได้รับคำตอบที่ต้องการ“ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ รู้แค่ว่าถ้าคุณมาแล้วให้พาขึ้นไปหาบอสได้เลย”“งั้นเหรอ” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆกับคำตอบที่น่าผิดหวัง สองขาก้าวเดินตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสนิทที่เดินนำอยู่ด้านหน้า มองจากด้านหลังยังเห็นถึงออร่าความหล่อเหลาที่แผ่กระจายออกมา ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่เวลาอีกคนไปไหนมาไหนกับบอสเหนือแล้วมักจะมีสายตาจากบรรดาสาวสวยจ้องมองอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าเจ้าตัว

  • #ความลับของบอสเหนือ (HAREM)   บทที่ 15 - พวกผมกลับมาแล้ว

    [ บทที่ 15 ]“พวกผมกลับมาแล้ว”เพล้ง!เสียงอะไรบางอย่างตกแตกดังออกมาจากห้องของเจ้านาย ทำให้ร่างสูงของโชนที่คอยเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอดนับตั้งแต่ที่เขาสามารถพาบอสกลับมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัยรีบเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของบอสด้วยความเป็นห่วง สีหน้าและท่าทางของบอสดูไม่ดีเสียจนเขาไม่กล้าปล่อยบอสเอาไว้คนเดียว แต่จะให้เข้าไปเฝ้าในห้องก็ดูจะเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นเขาจึงทำได้เพียงเฝ้าอยู่นอกห้องเท่านั้น“บอสครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ” เสียงทุ้มตะโกนถามเจ้านายด้วยความเป็นห่วง เขาแทบจะพังประตูห้องของบอสเข้าไปดูให้เห็นกับตาตัวเองแล้วด้วยซ้ำว่าบอสของเขาไม่ได้เป็นอะไร“บอสครับ” โชนร้องเรียกซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรกลับมาจากคนด้านใน“ถ้าบอสไม่ตอบ งั้นผมขออนุญาตเข้าไปนะครับ” โชนรั้งรอให้เจ้านายตอบกลับมาอยู่พักหนึ่ง พอไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาก็ตัดสินใจหมุนลูกบิดประตูเข้าไปทันทีไม่ได้ล็อค ?บอดี้การ์ดหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ เมื่อบิดกลอนประตูเข้าไปแล้วพบว่าประตูมันไม่ได้ล็อค ทั้งๆที่ปกติบอสของเขาระวังตัวเองและคอยล็อคประตูอยู่ตลอด“บอส...” ดวงตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นน้อยๆเมื่อได้เห็นสภาพของคน

  • #ความลับของบอสเหนือ (HAREM)   บทที่ 14 - จุดจบของคนทรยศ

    [ บทที่ 14 ]"จุดจบของคนทรยศ”“บอส... บอสครับ” แรงเขย่าเบาๆปลุกให้คนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนกว้างภายในห้องนอนขนาดใหญ่จำต้องเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นอย่างเชื่องช้า“อือ... เทียนเหรอ”“ครับ ตื่นมาทานข้าวทานยาก่อนนะครับ” เทียนเอ่ยบอกผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม“ปวดหัวจังวะ” บอสเหนือสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด นอกจากจะปวดเนื้อปวดตัวร้าวระบมไปทั้งร่างกายแล้ว เขายังรู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดอีกต่างหาก“ครับ ดูเหมือนบอสจะมีไข้อ่อนๆด้วย” เทียนเอ่ยบอกเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด ส่วนหนึ่งก็เพราะความเอาแต่ใจของเขากับครามที่ทำให้บอสต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้“กูไม่ได้โกรธ เลิกทำหน้าหมาหงอยสักที” บอสเหนือเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาหงอยๆของหมาเด็กข้างกายทำหน้าแบบนั้นแล้วเขาจะไปโกรธลงได้ยังไงกันล่ะ“ผมขอโทษนะครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะความเอาแต่ใจของพวกผม”“บอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธ จะโทษพวกมึงฝ่ายเดียวได้ยังไง” โทษแค่เทียนกับครามคงจะไม่ได้ เพราะเขาเองก็มีส่วนผิดที่ไม่ยอมห้ามปรามแบบจริงๆจังๆ อีกทั้งยังคล้อยตามไปกับสัมผัสเร่าร้อนของพวกมันเมื่อคืนนี้ ถ้าจะโทษพวกมันก็ต้องโทษเขาด้วยที่ไม่รู้

  • #ความลับของบอสเหนือ (HAREM)   บทที่ 13 - คนที่ไม่ควรแตะต้อง

    [ บทที่ 13 ]“คนที่ไม่ควรแตะต้อง”“อึก... เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน!” ทันทีที่เข้ามาในห้องส่วนตัว ร่างสูงกำยำของบอสเหนือก็ถูกวางลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล พร้อมกับการจู่โจมที่รวดเร็วของบอดี้การ์ดคนโปรดที่เฝ้ารอเวลานี้มานานใบหน้าของบอสหนุ่มถูกจับให้หันไปรับจูบที่ดุดัน ดิบเถื่อน และแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจของเทียนที่บดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างรุนแรงและเร่าร้อนราวกับจะแผดเผาร่างกายของเขาให้มอดไหม้เป็นจุล ในขณะเดียวกันครามเองก็มือไวพอๆกัน อีกคนอาศัยในตอนที่เขาถูกรสจูบของเทียนมอมเมาถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนหมดในระยะเวลาเพียงสั้นๆเท่านั้นเฮือก!กายแกร่งสะท้านเฮือกยามที่ยอดอกสีเข้มถูกดูดกลืนเข้าไปในโพรงปากของคราม เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากครางเบาๆในลำคอด้วยความเสียวซ่านเพียงเท่านั้นบอสเหนือจูบตอบกลับไปอย่างร้อนแรงและเร่าร้อนไม่แพ้กัน แผ่นอกเองก็แอ่นเข้าหาตอบรับสัมผัสจากบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่ง ลิ้นเปียกชื้นตวัดไล้เลียยอดอกข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างก็ไม่ปล่อยให้ว่างเว้น มันถูกบดบี้ด้วยปลายนิ้ว สร้างความกระสันซ่านให้กับคนโดนกระทำจนต้องแอ่นหน้าอกเข้าหาอย่างเผลอไผล“อ๊า!” ทันทีที่ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ บอสเหนือก็ส่

  • #ความลับของบอสเหนือ (HAREM)   บทที่ 12 - ชีวิตของพวกผมเป็นของบอส

    [ บทที่ 12 ]“ชีวิตของพวกผมเป็นของบอส”ภายในห้องวีไอพีที่แสนกว้างใหญ่และหรูหรากลับมีเพียงร่างสูงกำยำของนายเหนือหัวตระกูลสินธวานนท์นั่งอยู่เพียงลำพัง ในมือแกร่งปรากฏแก้วน้ำสีอำพันที่พร่องลงไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ดวงตาคมดุเย็นชาเอาแต่จับจ้องแก้วใสในมืออยู่อย่างนั้น ราวกับว่าการจ้องมองจะทำให้ของเหลวภายในแก้วลดน้อยลงชายหนุ่มเฝ้ามองของเหลวสีอำพันภายในแก้วสีใสราวกับกำลังจมลงไปในห้วงความคิดของตนเอง ทว่าเสียงฝีเท้าหนักๆที่ดังเข้ามาในระยะใกล้มากขึ้นเรื่อยๆก็ทำให้คนที่นั่งอยู่เพียงลำพังภายในห้องกว้างขวางนี้ดึงสติของตนเองกลับคืนมาได้บานประตูที่ปิดสนิทถูกเปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของใครบางคนที่บอสเหนือคุ้นแคยและรู้จักเป็นอย่างดีศกุนตลา ตัวท็อปเบอร์หนึ่งที่เขามักจะเรียกมาใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณเหนือ” เจ้าของร่างบอบบางเอ่ยขึ้น มือข้างหนึ่งดันบานประตูให้ปิดลง ในขณะที่ขาทั้งสองข้างก็ก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยังโซฟาใกล้เคียงกัน“นั่นสินะ เราไม่ได้เจอกันมานานแค่ไหนแล้วนะ” แม้ปากจะเอ่ยพูดกับคนมาใหม่ ถึงอย่างนั้นก็ยังคงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา แต่ศ

  • #ความลับของบอสเหนือ (HAREM)   บทที่ 11 - อย่าแต่งงานกับเขาเลย

    [ บทที่ 11 ]“อย่าแต่งงานกับเขาเลย”“ผมขอร้องบอส... อย่าแต่งงานกับเขา อย่าแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเลยนะครับ”บอสเหนือมองตอบสายตาคู่คมของบอดี้การ์ดหนุ่มที่จ้องมองมาด้วยสีหน้าและแววตาเว้าวอนอย่างไม่คิดจะปิดบัง น้ำเสียงที่เอ่ยออกมามันสั่นเครือเต็มไปด้วยคำขอร้องมากมายที่ส่งผ่านมาทางสีหน้าและแววตาทั้งหมด แล้วก็เป็นแววตาคู่นี้อีกเช่นกันที่ทำให้นายเหนือหัวสินธวานนท์ใจอ่อนยวบเป็นแววตาที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ในทุกๆครั้งที่ได้มองสบตาคู่นี้“กูไม่ได้บอกสักคำว่าจะแต่งกับเขา” จริงๆแล้วเขาอยากจะแกล้งลูกน้องของตัวเองอีกสักหน่อย แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าเขาไม่เคยเอาชนะสายตาคู่นี้ของรามได้เลยสักครั้งจากทึ่คิดจะแกล้งก็กลายเป็นว่าเขาใจอ่อนยวบแกล้งบอดี้การ์ดของตัวเองต่อไปไม่ลงจริงๆ“แต่บอสก็ยังมาลองชุดแต่งงานกับเขานี่ครับ” คนฟังแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว ใครมาเห็นเข้าคงยากที่จะเชื่อว่าบอดี้การ์ดตัวโตๆที่เก๊กขรึมทำหน้าเข้มอยู่ตลอดเวลาก็มีมุมน้อยอกน้อยใจเหมือนผู้หญิงแบบนี้ด้วยขนาดเขาเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน“ก็แค่มาลองให้มันจบๆ แม่จะได้เลิกยุ่งวุ่นวายกับกูสักที” บอสเหนือตอบกลับไปเสียงเรี

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status