[ บทที่ 13 ]
“คนที่ไม่ควรแตะต้อง”
“อึก... เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน!” ทันทีที่เข้ามาในห้องส่วนตัว ร่างสูงกำยำของบอสเหนือก็ถูกวางลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล พร้อมกับการจู่โจมที่รวดเร็วของบอดี้การ์ดคนโปรดที่เฝ้ารอเวลานี้มานาน
ใบหน้าของบอสหนุ่มถูกจับให้หันไปรับจูบที่ดุดัน ดิบเถื่อน และแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจของเทียนที่บดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างรุนแรงและเร่าร้อนราวกับจะแผดเผาร่างกายของเขาให้มอดไหม้เป็นจุล ในขณะเดียวกันครามเองก็มือไวพอๆกัน อีกคนอาศัยในตอนที่เขาถูกรสจูบของเทียนมอมเมาถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนหมดในระยะเวลาเพียงสั้นๆเท่านั้น
เฮือก!
กายแกร่งสะท้านเฮือกยามที่ยอดอกสีเข้มถูกดูดกลืนเข้าไปในโพรงปากของคราม เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากครางเบาๆในลำคอด้วยความเสียวซ่านเพียงเท่านั้น
บอสเหนือจูบตอบกลับไปอย่างร้อนแรงและเร่าร้อนไม่แพ้กัน แผ่นอกเองก็แอ่นเข้าหาตอบรับสัมผัสจากบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่ง ลิ้นเปียกชื้นตวัดไล้เลียยอดอกข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างก็ไม่ปล่อยให้ว่างเว้น มันถูกบดบี้ด้วยปลายนิ้ว สร้างความกระสันซ่านให้กับคนโดนกระทำจนต้องแอ่นหน้าอกเข้าหาอย่างเผลอไผล
“อ๊า!” ทันทีที่ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ บอสเหนือก็ส่งเสียงครางออกมาแทบจะทันที เทียนที่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองของเจ้านายก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นส่วนอ่อนไหวกลางกายที่ชูชันและเริ่มมีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมาจากส่วนปลายยอด
“ซี้ดดดดดดด เทียน!” บอสเหนือเบิกตาโพลง ผงกหัวขึ้นมองก็เห็นว่าเทียนกำลังใช้ริมฝีปากดูดกลืนท่อนลำของตนเองเข้าไปจนหมด เรียวลิ้นตวัดเน้นย้ำบริเวณส่วนปลายยอดมากเป็นพิเศษ เรียกเสียงครวญครางจากบอสเหนือได้เป็นอย่างดี
บอสเหนือที่ถูกจู่โจมจุดอ่อนไหวทั้งด้านบนและด้านล่างเริ่มหอบหายใจกระเส่าและรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆตามระดับของอารมณ์ที่เดือดพล่าน ทั้งหน้าอกและสะโพกแอ่นเข้าหาตอบสนองต่อการปรนเปรอของบอดี้การ์ดทั้งสองคนอย่างร่านร้อน ความเสียวซ่านจากการถูกโจมตีจุดอ่อนไหวทั้งสองทางเรียกเสียงครวญครางจากบอสเหนือได้อย่างง่ายดาย นิ้วมือนิ้วเท้าจิกเกร็งเพื่อระบายความซ่านเสียวที่ก่อตัวขึ้น
“อึก!” เทียนแทบจะหายใจไม่ออก เมื่อเจ้านายสวนสะโพกเข้าหารัวเร็วและรุนแรงจนส่วนปลายยอดชนเข้ากับคอหอยของตนเองซ้ำๆ แต่การกระทำนี้ก็ทำให้เขาได้รู้ว่าบอสใกล้จะไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว และตัวเขาก็ไม่คิดจะทรมานผู้เป็นนายมากไปกว่านี้ เรียวลิ้นสากตวัดไล้เลียไปตามความยาวของท่อนลำ ก่อนจะวกกลับไปบี้บริเวณส่วนปลายยอดซ้ำๆ จนเจ้าของท่อนลำในปากส่งเสียงครางต่ำด้วยความพึงพอใจ
“อา... จะแตก อึก! กูจะแตก!” บอสเหนือสูดปากครางด้วยความเสียวซ่าน มือใหญ่จับศีรษะของเทียนเอาไว้แน่น พร้อมกับสวนสะโพกเข้าหาริมฝีปากของอีกฝ่ายรัวเร็ว หน้าอกเองก็แอ่นรับสัมผัสจากครามที่ใช้ทั้งลิ้นและนิ้วปรนเปรอยอดอกสีเข้มทั้งสองข้างให้อย่างเอาใจ
“อืมมมมมมมม!” บอสหนุ่มครางยาวเป็นครั้งสุดท้าย สะโพกแกร่งแอ่นเข้าหาโพรงปากอุ่นร้อน พร้อมกันนั้นลาวาขุ่นข้นก็ทะลักทลายพวยพุ่งออกมาในปริมาณมาก ทว่าเทียนกลับไม่นึกรังเกียจ อีกทั้งยังกลืนของเหลวที่ถูกปล่อยเข้ามาในปากลงคอไปจนหมดทุกหยาดหยด
“ทำให้ผมหน่อยนะครับ บอส” ครามเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแหบพร่าบ่งบอกถึงอารมณ์ของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี บอสเหนือหลุบตาลงมองส่วนกลางกายของบอดี้การ์ดคนโปรดที่ขยายใหญ่พร้อมรบเต็มที่ก็ได้แต่ลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
มือใหญ่ของครามกดศีรษะของนายเหนือหัวสินธวานนท์ให้โน้มลงไปใกล้แท่งร้อนของตนเอง ก่อนที่เจ้านายจะใช้ลิ้นสากเลียไปตามความยาว กระทั่งหยุดลงบริเวณส่วนหัวแดงก่ำซึ่งเป็นจุดรวมสัมผัส เรียกเสียงครางต่ำจากเจ้าของลำร้อนได้เป็นอย่างดี
“อา... ดีครับ บอส อมเข้าไปลึกๆเลยครับ ซี้ดดดด” ครามสูดปากครางด้วยความเสียวซ่าน เมื่อบอสเหนืออ้าปากครอบครองส่วนกลางกายของตนเองเข้าไปจนหมด
เทียนที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ชายหนุ่มตัดสินใจลงไปเล่นกับรูด้านหลังที่เริ่มฉ่ำแฉะจากความต้องการของเจ้านาย ปลายลิ้นเลยเลียแต่เพียงภายนอก จนเจ้าของรูร้อนแข้งขาสั่นระริก อยากจะครางออกมาก็ทำไม่ได้ เพราะติดที่มีลำร้อนของครามอุดปากเอาไว้อยู่
“อืมมมมม... ดี ดีครับ บอส เลียตรงหัวแรงๆ- ซี้ดดดดด” ครามแหงนหน้าครวญครางไม่ขาดปาก มือใหญ่เผลอกดศีรษะของเจ้านายหนุ่มจนส่วนปลายของแท่งร้อนในโพรงปากชนเข้ากับคอหอยของบอสเหนือจนเกือบจะสำลัก
“อ่อก!” บอสเหนือตาลีตาเหลือกยกมือขึ้นดันท่อนขาแข็งแรงของครามเอาไว้แทบไม่ทันเมื่อรู้สึกได้ว่าท่อนลำในโพรงปากเข้ามาลึกมากจนเกินไป ขณะเดียวกันสะโพกก็แอ่นรับลิ้นเปียกชื้นที่สอดเข้าไปในโพรงคับแคบด้านหลัง มันตวัดระรัวอยู่ภายในเพียงตื้นๆ แต่สัมผัสเปียกชื้นที่ครูดถูไปทั่วผนังอ่อนนุ่มภายในก็ทำให้คนโดนกระทำเสียวซ่านแทบขาดใจ
“อา... พอก่อนครับ ผมยังไม่อยากแตกในปากบอส” ครามเอ่ยบอกเสียงพร่า พร้อมกับดันศีรษะของเจ้านายหนุ่มออกได้ทันก่อนที่เขาจะได้แตกคาปากของบอสจริงๆ
เทียนเองก็รับรู้ได้ถึงสิ่งที่ครามคิดถึงได้ผละออกจากรูร้อนที่ขมิบตอดรัดลิ้นเขาระรัวราวกับไม่อยากให้ผละจากไป ดวงตาคู่คมจ้องมองรูรักของบอสเหนือที่ขมิบตอดรัดอากาศจนเห็นเนื้อที่อยู่ด้านใน มันขมิบระรัวราวกับกำลังต้องการให้อะไรบางอย่างเข้าไปเติมเต็ม และครามก็ไม่รอช้าที่จะให้ในสิ่งที่บอสหนุ่มต้องการทันที
“อ๊า!” บอสเหนือหวีดครางออกมาดังลั่นเมื่อบอดี้การ์ดคนโปรดขยับมาซ้อนอยู่ด้านหลัง พร้อมกับกระแทกกายเข้ามาทีเดียวจนสุดความยาว ส่วนปลายของท่อนลำกระทบเข้ากับจุดกระสันภายในให้คนด้านหน้าเสียวซ่านจนดวงตาเหลือกลอย
“เสียวขนาดนั้นเลยเหรอครับ ดูหน้าบอสตอนนี้สิ” ครามจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มของเจ้านายผ่านกระจกบานใหญ่ที่มองเห็นทุกท่วงท่าและสีหน้าของพวกเขาอย่างชัดเจน
โดยเฉพาะกับบอสเหนือที่ตอนนี้มีสีหน้าร่านราคะเสียจนไม่เหมือนกับบอสเหนือในยามปกติที่ทุกคนพบเห็นเลยด้วยซ้ำ
“ทำหน้าแบบนั้น... อยากได้คxยของผมมากเลยสินะ ซี้ดดดดด” ครามพูดพร้อมกับสูดปากครางด้วยความเสียว เมื่อท่อนลำของเขาถูกตอดรัดระรัวจนแทบจะแตกคารู
“มึงก็ไม่น่าถามคำถามที่รู้ดีอยู่แล้วเลยนะ คราม” เทียนเอ่ยบอกกับเพื่อนสนิท เห็นสีหน้าของบอสเป็นแบบนี้แล้วมันก็ทำให้ตัวเขาแทบจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
“นั่นสินะ” ครามเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมุมปาก สะโพกแกร่งกระแทกกระทั้นด้วยจังหวะรัวเร็วเสียจนคนเป็นบอสหายใจหายคอแทบไม่ทัน สองมือใหญ่กำผ้าปูที่นอนแน่นและแทบจะดึงทึ้งจนมันขาดวิ่นคามือ สติทั้งหมดถูกทำลายลงแทบไม่เหลือชิ้นดี
เทียนที่เฝ้ามองปฏิกิริยาของเจ้านายหนุ่มอดรนทนไม่ไหว มือใหญ่เอื้อมลงไปกอบกุมลำร้อนของตนเองพร้อมขยับข้อมือรัวเร็ว ดวงตาคู่คมยังคงไม่ละสายตาไปจากใบหน้าร่านราคะของบอสหนุ่ม
“อา... บอส บอสครับ!” เสียงทุ้มครางเรียกชื่อเจ้านายไปพร้อมๆกับจังหวะการขยับข้อมือ การกระทำนั้นยิ่งทำให้สมองของบอสเหนือถูกย้อมไปด้วยสีขาวโพลน ดวงตาคมดุลอยเคว้งไร้จุดโฟกัส ทว่าสองหูยังคงได้ยินเสียงครางต่ำเรียกชื่อของตนเองย้ำๆจากบอดี้การ์ดคนโปรดทั้งสองคน
“ซี้ดดดดดด บอสรัดผมแน่นขึ้นนะครับ หรือจะมีอารมณ์เพราะเสียงครางเรียกชื่อบอสของเทียน ?” ครามเอ่ยกระซิบข้างใบหูของบอสหนุ่มด้วยน้ำเสียงแหบพร่า สะโพกยังคงขยับเข้าออกรัวเร็วส่งลำร้อนเข้าไปบดขยี้ยังจุดเสียวภายในกายครั้งแล้วครั้งเล่า
“อ๊า! อื้อ แรง แรงไป อะ อ๊า” บอสเหนือส่งเสียงครางไม่ขาดปาก ถึงปากจะบอกแบบนั้น แต่สะโพกกลับแอ่นรับการกระทำของคนที่ซ้อนอยู่ด้านหลัง ในขณะที่ดวงตาทั้งสองข้างมองสบเข้ากับลูกน้องอีกคนหนึ่งที่กำลังรูดรั้งแก่นกายของตนเองพร้อมกับครางเรียกชื่อเขาซ้ำๆ
“บอส! อึก บอส บอสครับ!” โพรงชื้นแฉะหดรัดท่อนลำของครามถี่รัว จนเจ้าของท่อนลำสูดปากครางด้วยความเสียวซ่าน รู้สึกได้ถึงผนังอ่อนนุ่มที่กระตุกเร่าๆเป็นสัญญาณว่าบอสหนุ่มใกล้จะไปถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
ครามที่รู้แบบนั้นก็ยิ่งหยัดกายเข้าออกรัวเร็วและลึกเสียจนคนโดนกระทำอ้าปากครางลั่นห้องอย่างไม่กลัวว่าจะมีใครผ่านมาได้ยิน กายแกร่งสีน้ำผึ้งบิดเร่าไปมาด้วยความเสียวซ่านแทบขาดใจ
“อ๊า! จะแตก อึก จะแตกแล้ว!”
“ซี้ดดดดด พร้อม พร้อมกันนะครับ”
ครามกระแทกกายเข้าออกอีกเพียงไม่กี่ครั้ง กายแกร่งสีน้ำผึ้งก็กระตุกเกร็งฉีดพ่นน้ำคาวข้นหนืดออกมาจนเลอะผ้าปูที่นอน พร้อมกันนั้นครามเองก็ปลดปล่อยเข้าไปในโพรงคับแคบจนล้นทะลัก
เทียนที่จับจ้องปฏิกิริยาของเจ้านายหนุ่มอยู่นานก็ทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน มือแกร่งขยับรูดรั้งท่อนลำของตนเองรัวเร็ว จนกระทั่งเดินทางมาถึงปลายทางสุดท้ายของห้วงอารมณ์ในที่สุด
พรึ่บ!
“อ๊า! เทียน” ยังไม่ทันได้พักหายใจหายคอดี ร่างกายที่ถูกกระตุ้นปรนเปรอจากบอดี้การ์ดคนโปรดก็ถูกผลักให้นอนราบลงบนเตียงนอนอีกครั้ง พร้อมกับรูร้อนที่เริ่มบวมแดงจากการถูกสอดใส่ถูกเติมเต็มอีกครั้งด้วยท่อนลำที่กลับมาขยายใหญ่อีกครั้ง หลังจากพึ่งปลดปล่อยไปเมื่อสักครู่นี้
“อ๊า อื้อ เบา เบาหน่อย!”
“ไม่ไหว แฮ่ก เบาไม่ไหวครับ บอส” เทียนไม่ได้อยากจะทำรุนแรงกับเจ้านาย แต่เพราะอดทนมาอย่างยาวนานเลยทำให้สติของเขาขาดผึงและเผลอกระทำรุนแรงกับเจ้านายของตนเอง
“อื้อ... ระแรง อึก แรงไป” บอสเหนือส่ายสะบัดใบหน้าไปมาจนเส้นผมแตกกระจายอยู่บนหมอนนุ่ม สองมือขยำผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
“ขอ ขอโทษครับ บอส อืมมมมม” ปกติแล้วเทียนมักจะเป็นคนหนึ่งที่เวลามีเซ็กส์กับบอสเหนือแล้วจะอ่อนโยนและทะนุถนอมเจ้านายของตนเองเป็นอย่างดี แต่ครั้งนี้ดูแตกต่างไปจากทุกๆครั้ง เพราะในสายตาของบอสหนุ่มในตอนนี้แล้ว...
เทียนในตอนนี้กลายร่างเป็นหมาป่าล่าเนื้อไปเสียแล้ว!
“เบามือกับบอสหน่อย ไอ้เทียน” ครามที่พึ่งกลับออกมาจากห้องน้ำ หลังจากปล่อยให้เทียนจัดการบอสเหนือเป็นคนต่อไปเอ่ยปรามเสียงเข้ม
“กูก็พยายามอยู่ แต่ว่า... อึก! กูทนไม่ไหว” เทียนเอ่ยบอกเสียงพร่า สะโพกแกร่งหยัดกายเคลื่อนไหวเข้าออกรัวเร็วให้ส่วนปลายยอดกระทบเข้ากับจุดไวสัมผัสภายในกายของบอสหนุ่มจนเขาแทบทนไม่ไหว นิ้วมือนิ้วเท้าต่างก็จิกเกร็งด้วยความกระสันซ่าน
“คราม อื้อ... คราม” บอสเหนือปรือตาขึ้นมองบอดี้การ์ดคนโปรดอีกคนหนึ่งด้วยแววตาเว้าวอน ทว่าสีหน้าและแววตาแบบนั้นประกอบกับเสียงครางเรียกชื่อเขามันยิ่งทำให้ครามแทบจะทนไม่ไหวไปอีกคนหนึ่ง ส่วนกลางกายที่สงบลงแล้วเริ่มกลับมาตื่นตัวอีกครั้งหนึ่ง
“อย่าบอกผมแบบนั้นสิครับ บอส” ครามขบกรามแน่น เขาไม่อยากเผลอทำรุนแรงกับบอสไปอีกคนหนึ่งหรอกนะ
“อ๊า! ทะเทียน ลึก อึก ลึกไปแล้ว!” บอสเหนือตาเหลือกค้าง สะโพกพยายามขยับหนีจากลำร้อนที่บดขยี้จุดกระสันในร่างกายเน้นย้ำ แต่ก็ถูกมือใหญ่ของเทียนคว้ากลับไปที่เดิม ไม่ยอมให้หนีไปโดยง่าย
“จะหนีไปไหนครับ บอส”
“มะมันเสียว ฮึก มากไป อื้อ มะมากไปแล้ว!”
“ผมรู้ว่าบอสชอบแบบนี้ ชอบไม่ใช่เหรอครับ แรงๆลึกๆแบบนี้!”
“อ๊า!” บอสเหนือส่ายหน้าไปมาบนหมอนนุ่ม สองมือปัดป่ายไปทั่วเตียงนอนขนาดใหญ่ราวกับไม่รู้ว่าควรจะวางมือไว้ตรงไหนดี
“อื้อ!” ครามที่จ้องมองสีหน้าและท่าทางยั่วยวนของเจ้านายอยู่นานทนไม่ไหว ชายหนุ่มขยับเข้าไปใกล้และบดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างรุนแรง สัมผัสดุดันดิบเถื่อนของบอดี้การ์ดคนโปรดทำให้บอสหนุ่มที่ไม่ทันได้ตั้งตัวแทบจะหายใจไม่ทัน ริมฝีปากเผยออ้าออกเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ครามสอดแทรกเรียวลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัดแลกน้ำลายอยู่ในโพรงปาก
รสจูบของครามร้อนแรงเสียจนบอสเหนือแทบจะตัวอ่อนระทวยไปกับสัมผัสนั้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะต้องผละออกมาส่งเสียงครางลั่น เมื่อบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งกระแทกกายเข้ามาลึกจนคนโดนกระทำแข้งขาสั่นระริก
“อ๊า! เทียน ลึก ฮึก มะมันลึก!”
“ซี้ดดดดดด ผมรู้ว่าบอสชอบแบบนี้ ดูสิ... ตรงนี้ของบอสมันรัดของผมแน่นเชียวนะ” เทียนสูดปากครางต่ำด้วยความเสียวซ่านไม่ต่างกัน ปลายนิ้วแตะสัมผัสเข้ากับช่องทางคับแคบด้านหลังที่หลั่งน้ำหล่อลื่นผสมปนเปไปกับคราบน้ำคาวที่ครามทิ้งเอาไว้เมื่อสักครู่นี้ออกมาไม่หยุด
“จะ อื้อ จะไม่ไหว อึก จะไม่ไหวแล้ว!” จุดกระสันถูกบดขยี้ครั้งแล้วครั้งเล่า จนบอสเหนือแทบจะทนไม่ไหว ท่อนลำด้านหน้าที่ไม่มีใครแตะต้องสั่นระริกและบวมเป่งใกล้จะระเบิดเต็มที
“อึก! คราม อื้อ ไอ้คราม!” บอสเหนือเบิกตากว้างส่งเสียงครางเรียกชื่อครามไม่หยุด สะโพกแกร่งแอ่นขึ้นรับสัมผัสจากโพรงปากอุ่นร้อนที่ครอบครองตัวตนของเขาเอาไว้ทั้งหมด ลิ้นเปียกชื้นตวัดไล้เลียไปตามความยาวของแท่งเนื้อในโพรงปาก ก่อนจะตวัดเลียเน้นย้ำบริเวณส่วนปลายยอดมากเป็นพิเศษเสียจนบอสหนุ่มขาสั่นด้วยความเสียวซ่าน
“อึก บอส บอสครับ!”
“อ๊า! จะแตก อื้อ จะแตกแล้ว อะ อ๊า!” บอสเหนือที่ถูกกระตุ้นเร้าจากทั้งด้านหน้าและด้านหลังหวีดครางลั่น ดวงตาคมดุเหลือกลอยไร้จุดโฟกัส สะโพกแอ่นรับการปรนเปรอจากทั้งสองทาง ปลายเท้าจิกเกร็งงองุ้มเข้าหากันด้วยความกระสันซ่าน
“ผมก็ใกล้ อึก ใกล้แล้วครับ อา...”
“แตก... อะ อ๊า แตก แตกแล้ว อ๊า!” บอสเหนืออ้าปากครางยาวจนน้ำลายไหลเลอะขอบปาก สะโพกแกร่งดีดเด้งเข้าหาโพรงปากอุ่นร้อนของครามที่ครอบครองตัวตนของเขาเอาไว้ ท่อนลำบวมเป่งภายในโพรงปากกระตุกพร้อมปลดปล่อยหยาดน้ำขุ่นข้นเข้าไปในโพรงปากของครามจนหมดทุกหยาดหยด
พร้อมกันนั้นร่างสูงใหญ่ของเทียนเองก็เร่งกระแทกกายบดขยี้จุดกระสันในกายของบอสเหนืออีกเพียงไม่กี่ครั้งก็ฉีดพ่นลาวาขุ่นข้นเข้าไปในโพรงคับแคบจนล้นทะลักออกมาด้านนอก
หลังจากได้ปลดปล่อยออกมาถึงสามครั้ง บอสเหนือก็ทิ้งกายลงนอนราบบนเตียงนอนกว้าง แผงอกกว้างสีน้ำผึ้งกระเพื่อมไหวด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากกิจกรรมรักบนเตียงเมื่อสักครู่นี้
“บอสครับ” ครามเอ่ยเรียกชื่อเจ้านายหนุ่มเสียงพร่า พร้อมกับเริ่มขยับกายเข้าไปคลอเคลียคนที่นอนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงหน้า ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไรมากไปกว่านี้ ใบหน้าหล่อเหลาก็ถูกดันออกมาด้วยมือแกร่งของผู้เป็นนายที่รู้ทันความคิดของตนเองดีว่ากำลังคิดอะไรอยู่
“กูรู้ทันความคิดมึงนะ คราม”
“ผมอยากได้อีก แค่ครั้งเดียวมันจะไปพออะไร”
“ให้กูพักก่อน- โอ้ย! ไอ้เทียน มึงเป็นหมาหรือไงวะ!” ยังพูดไม่ทันจบประโยคดีก็ต้องหันไปโวยวายใส่ใครอีกคนที่โน้มตัวลงมากัดไหล่ของเขาเต็มแรงจนขึ้นรอยฟัน
“อีกนะครับ... บอส” ดวงตาคู่คมจ้องมองเจ้านายของตนเองอย่างออดอ้อนเสียจนบอสเหนือถอนหายใจออกมาเสียงดัง
“เออ กูรู้อยู่แล้วว่าสำหรับพวกมึง... แค่ครั้งเดียวมันไม่พอ” สิ้นประโยคนั้น บอสเหนือก็เห็นประกายความดีใจผ่านทางแววตาของบอดี้การ์ดทั้งสองคน เหมือนเห็นหูกับหางส่ายไปส่ายมาด้วยความดีใจ
แน่นอนว่าหลังจากนั้น บอสเหนือก็แทบจะหมดเรี่ยวหมดแรงไปกับการถูกเคี่ยวกรำอยู่นานเกือบค่อนคืน กว่าพวกมันสองคนจะปล่อยให้เขาได้นอนก็ในตอนเกือบรุ่งสางของอีกวันหนึ่ง หรือก็คือในรอบสุดท้ายที่เขาบอกให้พวกมันพอและขู่ว่าถ้าพวกมันยังไม่พอจะไม่ยอมให้พวกมันเอาเขาอีกเป็นเดือน
นั่นแหละ... ทั้งครามและเทียนถึงได้ยอมหยุดและยอมปล่อยให้เขานอนพักแต่โดยดี
_
“คราม” เสียงเรียกชื่อในระยะใกล้ ทำให้เจ้าของชื่อที่พึ่งจะออกมาจากห้องนอนของบอสเหนือหันไปมอง
“พี่พฤกษ์”
“บอสล่ะ” คนมาใหม่เอ่ยถามหาเจ้านายของตนเอง แม้จะพอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้ก็ตาม
“ยังไม่ตื่นครับ นอนกอดกับไอ้เทียนอยู่บนเตียง”
“อืม”
“พี่มีอะไรกับบอสหรือเปล่าครับ หรือว่าวันนี้บอสมีงานที่ไหน” ครามเอ่ยถามขึ้น
“มีตอนเย็น ปล่อยให้บอสนอนไปก่อนก็ได้”
“ครับ งั้นผมขอตัวไปหาอะไรให้บอสทานก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวก่อน ไอ้คราม”
“ครับ ?” ครามหันไปมองบอดี้การ์ดรุ่นพี่ที่เอ่ยรั้งตนเองเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายดูเคร่งเครียดเสียจนเขาอดที่จะถามไม่ได้
“เป็นอะไรรึเปล่า สีหน้าพี่ดูเครียดๆนะ”
“งานตอนเย็นวันนี้ ใครเป็นคนตามไปคุ้มกันบอส”
“เหมือนจะเป็นไอ้เขมกับโชนนะพี่”
“งั้นเหรอ”
“มีอะไรรึเปล่าครับ”
“มึงไปด้วยได้มั้ยวะ สามคนยังไงก็ต้องดีกว่าสองคน” สิ้นประโยคนั้น ครามก็เหมือนจะเดาได้ทันทีว่าอะไรจะเกิดขึ้น
“มีคนจ้องจะทำร้ายบอสเหรอพี่”
“อืม งานครั้งนี้เป็นงานใหญ่ กูไม่อยากให้บอสมีอันตรายอะไร” เขาจะไม่กังวลเลย ถ้าหากว่างานนี้ไม่ใช่งานใหญ่ที่คนร้ายมักจะสามารถแฝงตัวเพื่อจัดการบอสของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
เพราะเป็นงานขนาดใหญ่นี่แหละ ศัตรูมันถึงได้คิดจะลอบเล่นงานบอสของพวกเขาผ่านงานใหญ่ในค่ำคืนนี้
“กูมีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับบอส”
“ลางสังหรณ์ของพี่แม่นยำจนน่ากลัวเลยนะ” ครามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เริ่มเป็นกังวล เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ลางสังหรณ์ของพี่พฤกษ์มักจะแม่นยำเกิน 90% เสมอ
นั่นแหละที่น่ากลัวและน่าเป็นกังวล
“กูถึงได้มาขอร้องมึงให้ไปกับสองคนนั้นด้วย”
“ได้ครับ แต่บอสจะไม่สงสัยเหรอพี่” เขาไม่ติดอะไรหรอกหากจะต้องตามไปคุ้มกันบอสอีกคน แต่กลัวว่าบอสเหนือจะสงสัยน่ะสิว่าทำไมถึงเพิ่มเขาเข้าไปอีกคนหนึ่ง
“ไม่สงสัยหรอก แค่เพิ่มมึงเข้าไปอีกคน”
“โอเคครับ แต่น่าจะให้พี่รามหรือพี่ปราบไปด้วยไม่ดีกว่าเหรอครับ” ในหมู่พวกเขาแล้ว คนที่ถนัดเรื่องการต่อสู้และใช้อาวุธมากที่สุดก็คือปราบกับรามนั่นแหละ
“พวกมันไม่ว่างน่ะสิ” พฤกษ์เอ่ยตอบคำถามนั้นกลับไป เขาไปถามสองคนนั้นมาแล้ว แต่พวกมันดันไม่ว่างพร้อมๆกันเสียได้
“ยังไงก็ขอฝากมึงด้วย กูเชื่อใจมึงนะ คราม” พฤกษ์ยกมือขึ้นตบบ่ากว้างของรุ่นน้องคนสนิทสองสามที
“ได้ ผมจะปกป้องบอสด้วยชีวิตของผมเลยครับ”
“ถ้าเป็นไปได้ กูก็ไม่อยากเสียใครไปเลยสักคน เพราะฉะนั้น...”
“……”
“มึงเองก็ต้องรอดกลับมาให้ได้เหมือนกันนะเว้ย คราม” พวกเขาอยู่ด้วยกันและผูกพันกันมาเนิ่นนาน ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากเสียใครไปเลยแม้แต่คนเดียว ถึงจะไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ แต่พวกเขาก็รักกันเหมือนดั่งพี่น้องที่เกิดมาจากท้องแม่เดียวกัน
“ครับ ผมจะรอดกลับมาให้ได้”
“ว่าแต่... พี่จะไปไหนเหรอ” ครามถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นชุดที่อีกฝ่ายสวมใส่อยู่ มันไม่เหมือนชุดอยู่บ้านเลยสักนิด
“จะออกไปจัดการอะไรนิดหน่อย”
“เรื่องหนอนที่อยู่ใกล้ตัวบอสนั่นน่ะเหรอ” พวกเขารู้ว่ามีหนอนบ่อนไส้อยู่ใกล้ตัวบอสเหนือมาโดยตลอด แต่พึ่งจะจับได้คาหนังคาเขาเมื่อไม่นานมานี้ แน่นอนว่าบอสเหนือเองก็รับรู้ว่ามีหนอนอยู่ใกล้ตัวถึงได้ปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเองโดยไม่คิดจะยื่นมือเข้ามายุ่ง
เพราะเชื่อใจและไว้ใจว่าพวกเขาจะสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องให้ถึงมือบอสของพวกเขา
“ใช่”
“ตอนนี้มันอยู่ที่ไหน”
“ถูกจับขังไว้ที่ห้องใต้ดิน”
“สภาพของมันล่ะ”
“กูกำลังจะไปดู ตอนนี้ไอ้โรมน่าจะกำลังง้างปากมันอยู่” สิ้นประโยคนั้น ครามก็พยักหน้ารับคำ ถ้าหากพี่โรมเป็นคนง้างปาก อีกไม่นานก็คงจะยอมปริปากสาวไปถึงตัวบอสใหญ่ได้ไม่ยาก
“น่าเสียดาย ผมเองก็อยากจะไปจัดการมันด้วยตัวเองเหมือนกัน”
“ไม่ต้องให้ถึงมือมึงหรอก แค่ไอ้โรมคนเดียวก็เอาอยู่แล้ว”
“ก็จริง”
“หน้าที่ของมึงในตอนนี้คือดูแลบอส รับผิดชอบการกระทำของตัวเองเมื่อคืนนี้ซะ”
“รู้แล้วล่ะน่า ก็กำลังรับผิดชอบอยู่นี่ไง” ครามเอ่ยบอกเสียงขุ่น เขาก็ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบสักหน่อย แค่อยากจะไปดูสภาพของไอ้คนที่มันคิดทรยศหักหลังบอสของพวกเขาเท่านั้น
อยากไปทำให้มันรู้ว่าบอสเหนือคือคนที่มันไม่สมควรแตะต้องมากที่สุด
“พี่พฤกษ์”
“เออ ว่าไง”
“ฝากจัดการมันแทนผมด้วยนะพี่”
“ไม่ต้องห่วงหรอก กูจะทำให้มันได้รู้...”
“……”
“ว่าการยื่นมือมาแตะต้องคนที่มันไม่สมควรจะแตะต้องมากที่สุด... ผลลัพธ์สุดท้ายมันจะเป็นยังไง”
[ บทที่ 16 ]“ล่มวิวาห์ (1)”ศกุนตลาได้รับสายด่วนจากบอสเหนือว่าต้องการพบหน้าเขาโดยด่วน เพราะแบบนั้นเขาถึงต้องยกเลิกตารางชีวิตทั้งหมดเพื่อมาหานายเหนือหัวของตระกูลสินธวานนท์โดยเฉพาะ แม้จะไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้อีกฝ่ายเรียกตัวเขาโดยด่วนแบบนี้มันเกิดจากอะไรกันแน่ก็ตาม“คุณศกุนตลา ทางนี้ครับ” ศกุนตลาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าคนที่มาต้อนรับตนเองก็คือหนึ่งในบอดี้การ์ดคนโปรดของบอสเหนือรู้สึกจะชื่อปราบล่ะมั้ง...“คุณเหนืออยู่ข้างในเหรอ”“ใช่ครับ บอสสั่งเอาไว้ว่าถ้าคุณมาให้พาขึ้นไปหาบอสได้เลย”“ได้บอกหรือเปล่าว่าทำไมถึงเรียกพบศาโดยด่วนแบบนี้” ศกุนตลาเอ่ยถามคนที่เดินนำอยู่ด้านหน้า เผื่อว่าตนเองจะได้รับคำตอบที่ต้องการ“ผมเองก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ รู้แค่ว่าถ้าคุณมาแล้วให้พาขึ้นไปหาบอสได้เลย”“งั้นเหรอ” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆกับคำตอบที่น่าผิดหวัง สองขาก้าวเดินตามเจ้าของร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำสนิทที่เดินนำอยู่ด้านหน้า มองจากด้านหลังยังเห็นถึงออร่าความหล่อเหลาที่แผ่กระจายออกมา ไม่แปลกใจเลยสักนิดที่เวลาอีกคนไปไหนมาไหนกับบอสเหนือแล้วมักจะมีสายตาจากบรรดาสาวสวยจ้องมองอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าเจ้าตัว
[ บทที่ 15 ]“พวกผมกลับมาแล้ว”เพล้ง!เสียงอะไรบางอย่างตกแตกดังออกมาจากห้องของเจ้านาย ทำให้ร่างสูงของโชนที่คอยเฝ้าอยู่หน้าห้องตลอดนับตั้งแต่ที่เขาสามารถพาบอสกลับมาถึงบ้านได้อย่างปลอดภัยรีบเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องของบอสด้วยความเป็นห่วง สีหน้าและท่าทางของบอสดูไม่ดีเสียจนเขาไม่กล้าปล่อยบอสเอาไว้คนเดียว แต่จะให้เข้าไปเฝ้าในห้องก็ดูจะเป็นไปได้ยาก เพราะฉะนั้นเขาจึงทำได้เพียงเฝ้าอยู่นอกห้องเท่านั้น“บอสครับ เป็นอะไรรึเปล่าครับ” เสียงทุ้มตะโกนถามเจ้านายด้วยความเป็นห่วง เขาแทบจะพังประตูห้องของบอสเข้าไปดูให้เห็นกับตาตัวเองแล้วด้วยซ้ำว่าบอสของเขาไม่ได้เป็นอะไร“บอสครับ” โชนร้องเรียกซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับอะไรกลับมาจากคนด้านใน“ถ้าบอสไม่ตอบ งั้นผมขออนุญาตเข้าไปนะครับ” โชนรั้งรอให้เจ้านายตอบกลับมาอยู่พักหนึ่ง พอไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมาก็ตัดสินใจหมุนลูกบิดประตูเข้าไปทันทีไม่ได้ล็อค ?บอดี้การ์ดหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ เมื่อบิดกลอนประตูเข้าไปแล้วพบว่าประตูมันไม่ได้ล็อค ทั้งๆที่ปกติบอสของเขาระวังตัวเองและคอยล็อคประตูอยู่ตลอด“บอส...” ดวงตาคู่คมเบิกกว้างขึ้นน้อยๆเมื่อได้เห็นสภาพของคน
[ บทที่ 14 ]"จุดจบของคนทรยศ”“บอส... บอสครับ” แรงเขย่าเบาๆปลุกให้คนที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนกว้างภายในห้องนอนขนาดใหญ่จำต้องเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้งขึ้นอย่างเชื่องช้า“อือ... เทียนเหรอ”“ครับ ตื่นมาทานข้าวทานยาก่อนนะครับ” เทียนเอ่ยบอกผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่ม“ปวดหัวจังวะ” บอสเหนือสบถออกมาด้วยความหงุดหงิด นอกจากจะปวดเนื้อปวดตัวร้าวระบมไปทั้งร่างกายแล้ว เขายังรู้สึกปวดหัวจนแทบจะระเบิดอีกต่างหาก“ครับ ดูเหมือนบอสจะมีไข้อ่อนๆด้วย” เทียนเอ่ยบอกเสียงเบาด้วยความรู้สึกผิด ส่วนหนึ่งก็เพราะความเอาแต่ใจของเขากับครามที่ทำให้บอสต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้“กูไม่ได้โกรธ เลิกทำหน้าหมาหงอยสักที” บอสเหนือเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาหงอยๆของหมาเด็กข้างกายทำหน้าแบบนั้นแล้วเขาจะไปโกรธลงได้ยังไงกันล่ะ“ผมขอโทษนะครับ ส่วนหนึ่งก็เพราะความเอาแต่ใจของพวกผม”“บอกแล้วไงว่าไม่ได้โกรธ จะโทษพวกมึงฝ่ายเดียวได้ยังไง” โทษแค่เทียนกับครามคงจะไม่ได้ เพราะเขาเองก็มีส่วนผิดที่ไม่ยอมห้ามปรามแบบจริงๆจังๆ อีกทั้งยังคล้อยตามไปกับสัมผัสเร่าร้อนของพวกมันเมื่อคืนนี้ ถ้าจะโทษพวกมันก็ต้องโทษเขาด้วยที่ไม่รู้
[ บทที่ 13 ]“คนที่ไม่ควรแตะต้อง”“อึก... เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน!” ทันทีที่เข้ามาในห้องส่วนตัว ร่างสูงกำยำของบอสเหนือก็ถูกวางลงบนเตียงนอนอย่างนุ่มนวล พร้อมกับการจู่โจมที่รวดเร็วของบอดี้การ์ดคนโปรดที่เฝ้ารอเวลานี้มานานใบหน้าของบอสหนุ่มถูกจับให้หันไปรับจูบที่ดุดัน ดิบเถื่อน และแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจของเทียนที่บดเบียดริมฝีปากลงมาอย่างรุนแรงและเร่าร้อนราวกับจะแผดเผาร่างกายของเขาให้มอดไหม้เป็นจุล ในขณะเดียวกันครามเองก็มือไวพอๆกัน อีกคนอาศัยในตอนที่เขาถูกรสจูบของเทียนมอมเมาถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนหมดในระยะเวลาเพียงสั้นๆเท่านั้นเฮือก!กายแกร่งสะท้านเฮือกยามที่ยอดอกสีเข้มถูกดูดกลืนเข้าไปในโพรงปากของคราม เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากครางเบาๆในลำคอด้วยความเสียวซ่านเพียงเท่านั้นบอสเหนือจูบตอบกลับไปอย่างร้อนแรงและเร่าร้อนไม่แพ้กัน แผ่นอกเองก็แอ่นเข้าหาตอบรับสัมผัสจากบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่ง ลิ้นเปียกชื้นตวัดไล้เลียยอดอกข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกข้างก็ไม่ปล่อยให้ว่างเว้น มันถูกบดบี้ด้วยปลายนิ้ว สร้างความกระสันซ่านให้กับคนโดนกระทำจนต้องแอ่นหน้าอกเข้าหาอย่างเผลอไผล“อ๊า!” ทันทีที่ริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ บอสเหนือก็ส่
[ บทที่ 12 ]“ชีวิตของพวกผมเป็นของบอส”ภายในห้องวีไอพีที่แสนกว้างใหญ่และหรูหรากลับมีเพียงร่างสูงกำยำของนายเหนือหัวตระกูลสินธวานนท์นั่งอยู่เพียงลำพัง ในมือแกร่งปรากฏแก้วน้ำสีอำพันที่พร่องลงไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ดวงตาคมดุเย็นชาเอาแต่จับจ้องแก้วใสในมืออยู่อย่างนั้น ราวกับว่าการจ้องมองจะทำให้ของเหลวภายในแก้วลดน้อยลงชายหนุ่มเฝ้ามองของเหลวสีอำพันภายในแก้วสีใสราวกับกำลังจมลงไปในห้วงความคิดของตนเอง ทว่าเสียงฝีเท้าหนักๆที่ดังเข้ามาในระยะใกล้มากขึ้นเรื่อยๆก็ทำให้คนที่นั่งอยู่เพียงลำพังภายในห้องกว้างขวางนี้ดึงสติของตนเองกลับคืนมาได้บานประตูที่ปิดสนิทถูกเปิดออก พร้อมกับการปรากฏตัวของใครบางคนที่บอสเหนือคุ้นแคยและรู้จักเป็นอย่างดีศกุนตลา ตัวท็อปเบอร์หนึ่งที่เขามักจะเรียกมาใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณเหนือ” เจ้าของร่างบอบบางเอ่ยขึ้น มือข้างหนึ่งดันบานประตูให้ปิดลง ในขณะที่ขาทั้งสองข้างก็ก้าวเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยังโซฟาใกล้เคียงกัน“นั่นสินะ เราไม่ได้เจอกันมานานแค่ไหนแล้วนะ” แม้ปากจะเอ่ยพูดกับคนมาใหม่ ถึงอย่างนั้นก็ยังคงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนา แต่ศ
[ บทที่ 11 ]“อย่าแต่งงานกับเขาเลย”“ผมขอร้องบอส... อย่าแต่งงานกับเขา อย่าแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นเลยนะครับ”บอสเหนือมองตอบสายตาคู่คมของบอดี้การ์ดหนุ่มที่จ้องมองมาด้วยสีหน้าและแววตาเว้าวอนอย่างไม่คิดจะปิดบัง น้ำเสียงที่เอ่ยออกมามันสั่นเครือเต็มไปด้วยคำขอร้องมากมายที่ส่งผ่านมาทางสีหน้าและแววตาทั้งหมด แล้วก็เป็นแววตาคู่นี้อีกเช่นกันที่ทำให้นายเหนือหัวสินธวานนท์ใจอ่อนยวบเป็นแววตาที่ทำให้เขาพ่ายแพ้ในทุกๆครั้งที่ได้มองสบตาคู่นี้“กูไม่ได้บอกสักคำว่าจะแต่งกับเขา” จริงๆแล้วเขาอยากจะแกล้งลูกน้องของตัวเองอีกสักหน่อย แต่ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าเขาไม่เคยเอาชนะสายตาคู่นี้ของรามได้เลยสักครั้งจากทึ่คิดจะแกล้งก็กลายเป็นว่าเขาใจอ่อนยวบแกล้งบอดี้การ์ดของตัวเองต่อไปไม่ลงจริงๆ“แต่บอสก็ยังมาลองชุดแต่งงานกับเขานี่ครับ” คนฟังแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่ไหว ใครมาเห็นเข้าคงยากที่จะเชื่อว่าบอดี้การ์ดตัวโตๆที่เก๊กขรึมทำหน้าเข้มอยู่ตลอดเวลาก็มีมุมน้อยอกน้อยใจเหมือนผู้หญิงแบบนี้ด้วยขนาดเขาเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน“ก็แค่มาลองให้มันจบๆ แม่จะได้เลิกยุ่งวุ่นวายกับกูสักที” บอสเหนือตอบกลับไปเสียงเรี