LOGINอังวรีที่ซ้อนอยู่ถึงกับตกใจกับภาพตรงหน้าเธอได้ยินและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นเขามาพร้อมกับเธอตลอดทางถูกยิงตายต่อหน้าต่อตา มือเรียวยกขึ้นปิดปากตัวเองกดไว้แน่น ไม่ให้เสียงกรีดร้องของตัวเองเล็ดลอดออกไปได้ ดวงตาเบิกกว้างพร้อมหยาดน้ำตาไหลรินออกมา เวลานี้ทั้งตกใจและหวาดกลัวมาก ไม่เข้าใจว่าตัวเองกำลังเผชิญกับเรื่องอะไรอยู่
“แยกกันตามหาผู้หญิงนั่นให้เจอ มันต้องอยู่แถวนี้แหละ อย่าให้มันได้มีโอกาสได้พูดอีก” เสียงสั่งการดังสนั่นเหมือนจงใจให้เธอได้ยิน
-อะไรกันฉันต้องมาตายที่นี่เหรอเนี่ย-
อังวรีคิดหากย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่มาที่นี่เด็ดขาด พอมีจังหวะที่พวกมันเดินห่างไปไกลหญิงสาวจึงเดินหลบเข้าไปในป่าลึกขึ้นให้ห่างจากพวกนั้นให้ไกลที่สุด ตอนนี้ไม่มีอะไรติดตัวมาเลยจะกลับเต็นท์ไปเอาของก็ไม่ได้
ขาเรียวก้าวเดินเชื่องช้าเข้าไปในความมืดเรื่อย ๆ ทุกย่างก้าวค่อยๆวางเท้าลงให้เกิดเสียงเบาที่สุด สายตาเริ่มปรับแสงได้ก็พอเริ่มมองเห็นเลือนรางแต่ก็มืดจนน่ากลัวไปหมด
ถึงจะรู้ว่าไม่ปลอดภัยจากสัตว์ป่า ด้วยไม่มีทางเลือกเธอจำต้องเดินหน้าต่อไป ให้ห่างจากเสียงของกลุ่มคนพวกนั้น เมื่อรู้สึกว่าเดินเข้ามาลึกมากแล้วจึงหาที่ซ่อนตัว ไม่กล้าเดินเข้าไปลึกกว่านี้กลัวจะหลงป่าจนหาทางกลับไม่เจอ
อีกด้าน
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
“เสียงปืนจากไหนว่ะ คงไม่ใช่จุดชมวิวหรอกนะ”
พ่อเลี้ยงเขมแห่งไร่คิมหันต์ถามขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล เพราะเสียงปืนดังต่อเนื่อง แถมเสียงที่ได้ยินอยู่ไม่ไกลจากจุดที่อยู่เลย
“น่าจะเป็นจุดตั้งแคมป์บนเขาครับพ่อเลี้ยง”
“วันนี้มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปด้านบนมั้ย”
พ่อเลี้ยงหนุ่มถามด้วยสีหน้าเป็นกังวลว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับนักท่องเที่ยว
“นักท่องเที่ยวมีห้าคนครับ รวมเจ้าหน้าที่ของเราด้วยก็สิบคน ตอนนี้ทุกคนน่าจะถึงจุดกางเต็นท์กันเรียบร้อยแล้ว”
“เสียงปืนสี่นัด นักท่องเที่ยวมีห้าคน แล้วคนของเราด้านบนล่ะมีใครรายงานอะไรลงมามั้ย”
“ยังติดต่อใครไม่ได้เลยครับ”
“เอารถออก เตรียมคนเตรียมอาวุธไปให้พร้อม”
ลางสังหรณ์ของพ่อเลี้ยงหนุ่มไม่ดีเอาเสียเลย ว่าแล้วก็รีบบึ่งรถขึ้นเขาไปกับลูกน้องคนสนิทอีกคนทันที เป็นทางขึ้นเขาอีกฝั่งที่รถสามารถขึ้นไปได้จากไร่ มีเพียงคนในไร่เท่านั้นที่รู้
“พ่อเลี้ยง!”
วรุตผู้ช่วยหนุ่มอีกคนร้องห้าม แต่ไม่ทันพ่อเลี้ยงหนุ่มบึ่งรถออกไปแล้ว ก่อนหันไปสั่งลูกน้องที่เหลือด้วยความร้อนใจเป็นห่วงเจ้านาย
“พวกมึงไปรวมคนมาเร็วๆหน่อย พ่อเลี้ยงไปโน่นแล้ว”
คนงานในไร่ถูกเกณฑ์ให้มารวมตัวกันพร้อมอาวุธครบมือ เพื่อไปช่วยพ่อเลี้ยงบนเขา
ไร่คิมหันต์อยู่ในความดูแลของ เขม หรือพ่อเลี้ยงคิมหันต์ หนุ่มหล่อวัยสามสิบห้าปี ดีกรีนักศึกษาจบนอกอนาคตไกลที่ทั้งหล่อ รวยและเก่ง จนสาวๆในจังหวัดต่างพากันหมายปองอยากมาเป็นแม่เลี้ยงของไร่แห่งนี้ เขายอมละทิ้งความตั้งใจเดิมของตนเองที่จะสร้างธุรกิจในต่างแดน
เพราะเจอคนมากมายทำชีวิตวุ่นวายไม่รู้จบ ทุกคนที่เข้าหาหวังเพียงผลประโยชน์จากเขาเท่านั้น นั่นทำให้ช่วงหลังชายหนุ่มเริ่มไม่มีความสุขกับชีวิต
จึงผันตัวมาเป็นชาวไร่ชาวสวนรักษาสิ่งที่พ่อและแม่สร้างมาด้วยกันรวมถึงปกป้องคนงานในไร่ให้มีกินมีใช้ อยู่กันอย่างเป็นสุข ใช้ชีวิตเรียบง่ายในไร่คิมหันต์แห่งนี้
แต่ถึงจะรักความสงบมากเท่าไหร่ ชีวิตก็มักจะเจอเรื่องไม่คาดฝันอยู่เสมอ และเขาผู้ซึ่งยอมให้กับเรื่องที่ไม่ถูกต้องไม่ได้ ยิ่งหากมีใครหน้าไหนมารุกรานพื้นที่และคนของเขาด้วยแล้วยิ่งยอมไม่ได้
ด้วยเป็นพื้นที่ในเขตไร่ของตนเองทำให้พ่อเลี้ยงเดินทางไปถึงจุดหมายได้ในเวลาไม่นาน แสงเพลิงจากกองไฟส่องสว่างให้เห็น ภาพกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนตรงหน้า ดูก็รู้ว่าไม่ได้มาดีแน่ ๆ ใบหน้าหล่อคมหรี่ตาจ้องพินิจมองภาพตรงหน้า เห็นร่างคนสี่ร่างนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น คาดว่าทั้งหมดน่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ยังมีคนของเขาที่ถูกจับมัดเป็นตัวประกันให้พวกมันเค้นถาม
พ่อเลี้ยงคิมหันต์พยายามแง้มหูฟังว่าพวกมันกำลังทำอะไร จนพอจับใจความได้รู้ว่ามันกำลังตามหาคน ซึ่งหากเดาไม่ผิดต้องมีหนึ่งคนในกลุ่มนักท่องเที่ยวรอดไปได้ เขาเริ่มคิดแล้วคำนวณจากจุดที่พวกมันอยู่และจุดที่ตัวเองอยู่ก็พอจะเดาได้ว่าคนที่พวกมันตามหาหนีไปทางไหน
“เอาไงดีครับพ่อเลี้ยง” โชคดีลูกน้องคนสนิทถามเมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี
“โทรแจ้งตำรวจ แล้วรอคนอื่นอยู่ที่นี่ ถ้ามาถึงแล้วให้ ตามหาช่วยคนของเราที่เหลือคงซ่อนตัวกันอยู่แถวนี้ อีกส่วนแยกให้ตามไปจุดชมวิวด้านหลัง”
“แล้วพ่อเลี้ยงละครับ”
“ฉันจะเข้าไปช่วยคนก่อน คิดว่าหนีไปทางนั้นแน่ ส่วนมึงไอ้โชคระวังตัวด้วย”
“แต่...มันอันตรายมากนะครับ รอคนของเรามาก่อนแล้วไปพร้อมกันเถอะครับพ่อเลี้ยง”
“รอไม่ได้กลางคืนในป่าอันตราย ถ้าพวกนั้นเจอตัวก่อน นักท่องเที่ยวคนนั้นไม่รอดแน่”
“พ่อเลี้ยงครับมัน….”
ไม่ฟังคำทัดทานใดต่อ ขายาวแข็งแรงก้าวเดินตรงไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็วแต่ระมัดระวังรอบคอบทุกย่างก้าว ด้วยชำนาญพื้นที่ ในที่สุดก็เจอเป้าหมายที่หลบอยู่ไม่ไกลจากแสงไฟที่ส่องไปมาจากพวกนั้น
ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงหลังอังวรีติดต่อเพื่อนสนิทได้ พริมพาก็มาปรากฏตัวที่รีสอร์ต โดยมาพร้อมผู้กำกับแทนคุณที่อาสาพาเธอมาส่ง ระหว่างทางผู้กำกับหนุ่มได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พริมพาฟังบ้างแล้ว“คุณจะรอในรถก่อนมั้ย” ผู้กำกับหนุ่มถามเพราะคุ้นชินกับคนที่นี่“ไม่ค่ะ ฉันจะลงไปด้วย”“ครับ งั้นตามผมมา”“สวัสดีค่ะผู้กำกับมาหาพ่อเลี้ยงหรือคะ” มาริสากล่าวทักทาย“ครับ พ่อเลี้ยงอยู่มั้ย”“พ่อเลี้ยงประชุมอยู่ค่ะ”“แล้วคุณอิ้งค์อยู่ที่นี่หรืออยู่ที่บ้าน”“อยู่ที่นี่ค่ะ ในห้องทำงานพ่อเลี้ยง”“ห้องไหนคะ”พอรู้ว่าเพื่อนรักอยู่ที่นี่ พริมพารีบพูดแทรกถามด้วยความร้อนใจ มาริสามองหน้าผู้กำกับหนุ่มสลับมองหน้าหญิงสาวแปลกหน้า เพื่อขอความเห็น เมื่อผู้กำกับแทนคุณพยักหน้า มาริสาจึงพาทั้งสองไปหาอังวรีที่ห้องทำงานของพ่อเลี้ยง“ยัยอิ้งค์”“พริม”สองสาวโผเข้าสวมก่อนกันด้วยความโล
การที่คิมหันต์พาอังวรีมาเปิดตัวที่รีสอร์ตทำให้เหล่าพนักงานพากันคิดไปต่าง ๆนานาส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเธอคนนี้คือผู้หญิงของพ่อเลี้ยงแน่นอน เพราะพ่อเลี้ยงไม่เคยพาหรือควงผู้หญิงคนไหนมาที่นี่แบบนี้มาก่อน ยกเว้นรตาเพื่อนสาวคนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก“เห็นผู้หญิงสวยๆที่มากับพ่อเลี้ยงมั้ย พวกเธอว่าเป็นใคร”“จะเป็นใครไปได้ล่ะ ก็ว่าที่แม่เลี้ยงของไร่นี้ไง”“จะเป็นไปได้เหรอ”“เป็นไปได้อย่างมากเลยล่ะ พวกเธอเคยเห็นพ่อเลี้ยงพาสาวที่ไหนมาเปิดตัวแบบนี้มั่งมั้ยล่ะ นี่คนแรกเลยนะที่ได้ยืนใกล้แถมถูกพ่อเลี้ยงประคองอีกต่างหาก พูดแล้วก็อิจฉา”“พูดถึงก็ดูเหมาะสมกันดีนะ สวยน่ารัก แต่งตัวธรรมดาดูเป็นกันเองไม่ถือตัวเหมือนพ่อเลี้ยง”“แต่เห็นคนในไร่พูดกันว่าเป็นนักท่องเที่ยวในข่าวนะ”“จะเป็นใครก็ช่างอย่าไปอยากรู้กันนักเลย เรื่องของเจ้านาย แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว”หญิงสาวคนหนึ่งกล่าวเตือนเพื่อนร่วมงาน ให้สาวๆขี้เมาท์แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองเหตุการณ์ที่กลุ่มนักท่องเที่ยวถูกสังหารหมู่ บนจุดชมวิวเปิดใหม่ของไร่คิมหันต์ เป็นข่าวใหญ่โตดังไปทั่วประเทศ ออกข่าวทีวีช่องหลักทุกช่อง ถึงสำนักข่าวจะช่วยป
เป็นเวลาหลายวันแล้วที่อังวรีอาศัยอยู่ที่บ้านไร่แห่งนี้ ตอนนี้อาการของเธอดีขึ้นจนเกือบจะหายดี วันนี้หญิงสาวตั้งใจจะเดินลงไปชมรอบ ๆบ้านด้วยตนเองเสียหน่อย“คุณอิ้งค์ ทำไมเดินลงมาเองละคะ” ป่านทองถามเมื่อเห็นหญิงสาวเดินลงมาเอง“อิ้งค์ดีขึ้นมากแล้วค่ะป้าป่าน เลยอยากลองเดินด้วยตัวเองบ้าง”“แล้วนี่กำลังจะไปไหนคะ”“อิ้งค์อยากเดินดูรอบ ๆบ้านหน่อยค่ะ ยังไม่มีโอกาสได้ดูเลย”“ถ้าอย่างนั้นอย่าเดินไปไกลนะคะ เดี๋ยวหกล้มเป็นอะไรขึ้นมาพ่อเลี้ยงจะมาว่าป้าได้”“ค่ะ อิ้งค์จะระวังป้าป่านไม่ต้องกังวลไปนะคะ”เมื่อรับปากแล้วคนตัวเล็กก็เดินชมรอบ ๆบ้าน เป็นบรรยากาศที่ชาวคนเมืองอย่างเธอใฝ่หา อากาศบริสุทธิ์หายใจเข้าแล้วสดชื่นบ้านหลังนี้เป็นบ้านสวนสองชั้นครึ่ง ทรงสูงหลังไม่ใหญ่มาก ชั้นล่างมีห้องครัวเล็ก ๆ ห้องรับแขกและห้องทำงาน แต่ละชั้นเพดานยกสูงเป็นพิเศษทำให้ดูโปร่งโล่งสบาย ด้านบนเป็นพื้นที่ส่วนตัวมีเพียงห้องเดียวสำหรับไว้นอนเป็นห้องกว้างๆ มีพื้นที่ส่วนกลางสำหร
แสงแดดอ่อนยามเช้าส่องสว่างต้อนรับวันใหม่ แสงเหลืองทองกระทบใบหน้างาม ดวงตาโตกลมตื่นลืมตาขึ้น เห็นตัวเองนอนอยู่เคียงข้างเจ้าของบ้าน ก็พอเดาได้ว่าเมื่อคืนเขาและเธอผล็อยหลับไปด้วยกันทั้งคู่บนนี้ ร่างบางพยุงตัวเองลุกขึ้นหมายจะกลับห้องไปอย่างเงียบๆ แต่ก่อนหน้านี้บิดขี้เกียจเสียงดังไปหน่อยทำให้คนนอนข้างๆตื่นไปด้วย“นั่นคุณจะไปไหน”“จะกลับห้องค่ะ”“เดี๋ยวผมไปส่ง”“ฉันว่า ฉันพอเดินเองได้แล้ว คุณไม่ต้องอุ้ม...อุ๊ย!” ยังไม่ทันได้ปฏิเสธ พูดจบร่างน้อยก็ถูกคนตัวโตช้อนอุ้มขึ้นมาแล้ว“ไม่อยากหายแล้วกลับบ้านไว ๆหรือครับ เดินมากแผลจะยิ่งอักเสบเอานะ”“คุณคงอยากให้ฉันกลับแล้ว”“ผมหมายความว่า เดินมากแผลจะอักเสบ ให้ผมอุ้มดีกว่า ถ้าหายแล้วคุณจะอยู่ให้ผมอุ้มไปตลอดชีวิตเลยก็ยังได้ ผมไม่ติดอะไร”“ใครเขาจะอยู่ให้คุณอุ้มไปตลอดชีวิตกันเล่า”“ผมพูดเปิดทางไว้ เผื่อคุณสนใจ” พูดจบร่างสูงอุ้มพาคนในอ้อมกอด เดินลงไปส่งยังห้องนอน
เมื่ออีกฝ่ายเปลี่ยนเรื่องไปไกล คนอยากรู้ย้ำถามอีกครั้ง อังวรีมองจ้องสบตาเข้าไปในดวงตาคู่คม แววตาเขาเป็นประกายอยากรู้เรื่องเธอเสียเหลือเกิน จึงเอ่ยตอบไปให้หายสงสัย“ก็คงเพราะวันๆทำแต่งานมั้งคะ เลยไม่มีเวลาเจอใคร”“แล้วถ้าเจอคนมาจีบตอนนี้จะทำยังไงครับ”“ก็ต้องดูว่านิสัยเข้ากันได้มั้ย ที่สำคัญคนที่มาจีบต้องโสดจริง ฉันไม่อยากมีปัญหาทีหลังค่ะ”เธอเน้นในประโยคสุดท้ายน้ำเสียงจริงจัง บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นคนรักความสงบ ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ไม่ชอบเรื่องที่ควบคุมไม่ได้“แล้วคุณชอบคนที่อายุมากกว่าหรืออายุน้อยกว่า”“ชอบผู้ชายอบอุ่นค่ะ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ ปกป้องฉันได้สามารถอยู่ด้วยกันในเวลาที่ฉันต้องการได้ อายุไม่สำคัญถ้าเด็กกว่าแต่นิสัยไม่เด็กก็ใช้ได้”“แล้วมีคนมาจีบบ้างมั้ยครับ”“ก็มีบ้างค่ะ”“แล้วมีใครเข้าตาหรือยัง”“ยังค่ะ”อังวรียู่ปากใส่คนถาม คิ้วบางขมวดเพ่งมองอย่างสงสัยเมื่อคนตัวโตถามลึกเกินไปแล้ว“ถามเยอะขนาดนี้ อย่าบอกนะคะ ว่าคุณกำลังคิดจะจีบฉันน่ะ”ปากไวเท่าความคิดรู้ตัวอีกทีก็เปล่งคำถาม ถามกลับไปแล้
“สวยจังเลยนะคะ คุณคงขึ้นมาบนนี้บ่อย”“ก็ทุกครั้งที่มีเรื่องเครียด แค่ได้มาอยู่บนนี้ มันเหมือนได้หยุดเรื่องเครียดๆพวกนั้นไว้”“ถึงจะรู้ว่าปัญหาที่ทำให้เครียดยังอยู่เหรอคะ”“ครับ อย่างน้อยการได้อยู่กับตัวเองเงียบๆ มันก็ทำให้มีสติในการแก้ไขปัญหามากขึ้น”“วันนี้ก็ด้วยหรือคะ”“วันนี้ไม่ใช่ผม แต่เป็นคุณต่างหาก”คำตอบของพ่อเลี้ยงหนุ่มทำหัวใจดวงน้อยพองโต รู้สึกซาบซึ้งใจ ไม่คิดว่าเขาจะใส่ใจความรู้สึกของเธอมากถึงเพียงนี้“ขอบคุณนะคะ”“มาขอบคุณผมเรื่องอะไรครับ”“ทุกเรื่องเลยค่ะ ทุกเรื่องที่พ่อเลี้ยงทำให้ ขอบคุณมากจริงๆนะคะ”“คุณนี่ไว้ใจคนง่ายจังนะครับ”“ก็ไม่ง่ายนะ”“แต่คุณกำลังไว้ใจผม”“นั่นก็เพราะความรู้สึกมันบอกว่าเชื่อใจคุณได้ ถ้าคุณจะทำอะไรฉันก็คงทำไปตั้งนานแล้ว ไม่แบกคนแปลกหน้าที่ไม่เห็นหน้า ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ ลงจากเขามาหรอก แถมเลี้ยงดูให้อยู่อย่างสุขสบายแบบนี้อีกต่างหาก”“ผมอาจกำลังทำให้คุณตายใจอยู่ก็ได้”“พูดแบบนี้คือต้องให้ฉันระวังคุณไว้ใช่มั้ย” อังวรียิ้มกรุ้มกริ่ม“แต่ฉันสัมผัสได้ว่าคุณเป็นคนดี”“แล้วถ้าผมไม่ได้ดีอย่างที่คุณคิดล่ะ”“ดี ไม่ดีใครเป็นคนตัดสินล่ะคะ เรื่องแบบนี้ก







