แชร์

บทที่ 19 คำแนะนำของอ๋องเยียน

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-11 02:09:05

หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ ไม่อยากเชื่อว่าใครๆก็มองออก แต่นางไม่รู้ตัว นี่นางโง่เพียงนี้เชียวหรือ

“เจ้าไม่ชอบเขา แล้วสั่งทำกล่องเข็มให้เขาทำไมหรือ” นางยังคาใจ

“ท่านเป็นคนสัญญาว่าจะออกเงินสร้างสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ เขาบอกว่าอยากได้กล่องเข็มครบ 18 แบบ ข้าจึงไปสั่งร้านช่างในหมู่บ้านให้ ใช้เวลาหลายสิบวันกว่าจะเสร็จ วันก่อนช่างเอามาส่งแต่ข้าลืมบอกท่าน” ยู่ยี่อธิบาย

นางสัญญาไปเช่นนั้นจริงๆ นางรีบร้อนจะตามอ๋องเยียนไปขี่ม้าดูบึงใหญ่ จึงรับปากเขาไปส่งๆ จนนางก็ลืมไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากล่องเข็มนี้นางเป็นคนมอบให้เขา ไม่ใช่ยู่ยี่

หัวใจของหลี่เฟิ่งเซียนพองโต นางไม่ต้องแย่งชิงเขากับยู่ยี่ เขาไร้ญาติขาดมิตร ครอบครัวก็ไม่มี ขอเพียงนางรวบหัวรวบหาง เขาต้องเป็นของนางแน่ ถึงเขาจะน่าเกลียดมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยนัยน์ตาของเขางดงามมาก นางชอบนัยน์ตาของเขาที่ราวกับเก็บดวงดาวไว้ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืน

คิดแล้วนางก็หยุดตัวเองไม่ได้ อยากจะไปหาเขาตอนนี้เสียเลย 

หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปหาลู่มู่เฉิน ไม่สนใจว่ายามนี้ดึกมากเพียงใด ยู่ยี่ห้ามอย่างไรนางก็ไม่ฟัง นางเอากล่องเข็มไปด้วย นางอยากมอบให้เขาด้วยตัวเอง วิ่งไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องของเขา กำลังจะเคาะประตู

“เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ไปศึกษาต่อที่เมืองหลวง” เสียงท่านหมอพูด

“ขอบคุณท่านหมอที่ไว้ใจข้า เพียงแต่ข้า..” ลู่มู่เฉินเงียบไป

“เอาเถิด ตัดสินใจไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ข้าเพียงอยากให้เจ้ารักษาอาการแพ้พวกนี้เท่านั้น ข้าเองก็ไร้ความสามารถ อ่านตำรามาก็มากยังไม่เคยเห็นโรคเช่นเจ้า มีแต่ท่านหมอหลวงอิ่นที่ข้าหวังว่าเขาจะช่วยเจ้าได้ ข้าจึงคิดว่าถึงเขาจะมีฐานะสูงส่ง แต่อาจขอให้คุณหนูใหญ่หรือไม่ก็ท่านแม่ทัพช่วยเจ้าได้ แต่หากเจ้าไม่ยินดี ข้า..”

“เจ้าต้องไป!!” หลี่เฟิ่งเซียนพรวดพราดเข้าไปในห้องของลู่มู่เฉิน ทุกคนต่างตกใจ

“เจ้า เข้ามาในห้องข้าได้อย่างไร มันไม่ควร” ลู่มู่เฉินดุ

“ข้า..ข้าเอากล่องเข็มมาให้เจ้า” นางรีบหาเรื่องแก้ตัว แต่ลู่มู่เฉินขมวดคิ้วมองนางเป็นเชิงตำหนิ หลี่เฟิ่งเซียนได้แต่ก้มหน้าสลด

“ข้าจะช่วย เจ้าต้องไปรักษาตัว ข้าจะขอให้ท่านพ่อช่วย ส่วนกล่องเข็มนี่ข้าเป็นคนจ่ายเงิน เจ้าอย่าเรื่องมาก เอาไปใช้เถิด” หลี่เฟิ่งเซียนพูดจบก็รีบวางกล่องเข็มไว้และรีบออกจากห้องไป

“แค่กๆ อ้อ นี่ก็ดึกแล้ว ข้าควรกลับได้แล้ว” ท่านหมอแสร้งกระแอมไอและรีบขอตัวกลับเช่นกัน

รุ่งขึ้นหลี่เฟิ่งเซียนเข้าไปหาท่านแม่ทัพระหว่างที่เขากำลังคุยกับอ๋องเยียนโดยไม่สนใจสิ่งใด นางขอให้ช่วยส่งตัวลู่มู่เฉินไปรักษาตัวกับหมอหลวงอิ่น แต่ท่านแม่ทัพกลับปฏิเสธ

“เหตุใดไม่ได้ ท่านอยากให้เขาตายเร็วๆหรือ ยามนี้เขาใกล้ตายแล้ว หากมีหนทาง ท่านไม่คิดจะยื่นมือเข้าช่วยหรือ” หลี่เฟิ่งเซียนโวยวาย

“ไม่ใช่เช่นนั้น เพียงแต่หมอหลวงอิ่นเป็นคนประหลาด ก่อนมาอยู่ในวังหลวงเขาท่องเที่ยวไปทั่ว ฮ่องเต้ยังต้องขอร้องเขาอยู่หลายปีกว่าเขาจะยอมเข้าไปอยู่ในวัง ตอนนี้เขายังเป็นถึงหมอเทวดาอันดับหนึ่ง จะอยู่ๆให้เขารักษาคนนอกได้อย่างไร ต้องเป็นคนในวังหลวงเท่านั้นถึงจะได้รับการรักษาจากเขา” แม่ทัพหลี่ร่ายยาว

“ท่านเป็นถึงอ๋อง ขอให้เขามารักษาไม่ได้หรือ” หลี่เฟิ่งเซียนเสียงอ่อนลง

“หากเป็นตัวข้าย่อมได้ หรือตัวเจ้าก็ย่อมได้ แต่เขาไม่ได้” ท่านพ่อพูดเด็ดขาด นางจึงได้แต่คอตก รู้สึกไร้หนทาง

“ข้ามีวิธี ไม่รู้ว่าเจ้าอยากจะลองดูหรือไม่” จู่ๆอ๋องเยียนที่นั่งฟังเงียบๆมานานก็เอ่ยขึ้น

“ท่านมีวิธีหรือ พูดมาได้เลย ข้ายินดีลอง” นางดีใจรีบเข้าไปใกล้เขา จนอ๋องเยียนต้องถอยออกเล็กน้อย

“ข้ามีวิธีจริง แต่เรื่องนี้..ยังต้องให้ท่านแม่ทัพอนุญาตก่อน” อ๋องเยียนพูดไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วย

“ข้าจะตัดสินใจหลังจากได้ยินแล้ว” แม่ทัพหลี่พูด ไม่ยอมตกหลุมพราง

“หากว่า มู่เฉินแต่งเข้าตระกูลหลี่ เป็นลูกเขยแต่งเข้า เขาก็จะถือว่าเป็นคนของราชวงศ์ใช่หรือไม่” อ๋องเยียนค่อยๆพูดไปทีละประโยค คอยสังเกตสีหน้าของแม่ทัพหลี่ไปด้วย หากแม่ทัพหลี่โกรธหรือโวยวาย เขาจะได้หนีทัน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทั้งแม่ทัพและหลี่เฟิ่งเซียนต่างตัวแข็งราวกับหิน อ๋องเยียนกะพริบตาปริบๆ ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะค่อยๆรินชาใส่ถ้วย ค่อยๆยกขึ้นดื่มอย่างใจเย็น รอคอยให้สองคนนั้นได้สติ

แน่นอนว่าตระกลูหลี่เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ แม้จะไม่ได้ใช้ชื่อสกุลเดียวกับฮ่องเต้ แต่แม่ทัพหลี่คือพี่ชายสายเลือดเดียวกันกับฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน เขาเป็นผู้ที่ค้ำจุนบัลลังก์ของฮ่องเต้ให้ยังคงมั่นคง ฮ่องเต้รักและเคารพแม่ทัพหลี่อย่างที่สุด แต่ตัวแม่ทัพเองก็รักน้องชาย จึงไม่เคยเอาตัวเองไปอยู่ในเมืองหลวงนานๆ เพื่อที่เหล่าอำมาตย์ขุนนางจะได้ไม่สามารถยกเรื่องนี้มาทำให้ฮ่องเต้เดือดร้อน 

การที่หลี่เฟิ่งเซียนยังไม่ได้บรรดาศักดิ์เป็นท่านหญิงหรือองค์หญิง เป็นเพราะตัวแม่ทัพเองที่บ่ายเบี่ยงครั้งแล้วครั้งเล่า อ้างว่านางเป็นคนสารเลว ชอบมั่วบุรุษ ไม่มีคุณสมบัติของสตรีที่ดี ทางหนึ่งเพราะตัวหลี่เฟิ่งเซียนเป็นเช่นนั้นจริง อีกทางหนึ่งก็เพื่อป้องกันให้ลูกสาวคนเดียวของเขายังคงมีอิสรเสรี ทำตามที่นางต้องการได้ทุกเมื่อ ไม่ต้องมาคอยแบกภาระของราชวงศ์ในนามของท่านหญิงหรือองค์หญิง 

ฮ่องเต้ย่อมเข้าใจความรู้สึกของพี่ชายดี จึงไม่เคยบีบบังคับให้หลี่เฟิ่งเซียนเข้าวังเรียนรู้กฎเกณฑ์พวกนั้น ปล่อยให้นางทำเรื่องชั่วได้เท่าที่นางต้องการ ขอเพียงไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ทำเรื่องร้ายแรง ไม่ว่าเรื่องอะไรนางก็ยังคงได้รับการผ่อนปรนเสมอ

“ข้า ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานกับเขามาก่อน” หลี่เฟิ่งเซียนพูดออกมาในที่สุด

“ข้า..ข้า” นางอยากจะบอกว่าตัวเองชอบลู่มู่เฉินจริง แต่ไม่เคยนึกถึงเรื่องงานแต่ง พยายามแล้วก็ยังพูดออกมาไม่ได้ 

 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 22 เช็ดน้ำลาย

    “ข้าไม่เป็นไร มันหายแล้ว แต่มันไม่เหมือนเดิมแล้ว อย่างไรก็ยังต้องเป็นเช่นนี้เวลาอากาศหนาวมากๆ” เขาหลบตามองต่ำอธิบาย“เช่นนั้นเพราะหนาวหรือถึงได้เจ็บ” นางถาม ลู่มู่เฉินพยักหน้าหลี่เฟิ่งเซียนทำหน้าดุก่อนจะวิ่งไปที่เตียงดึงผ้าห่มมาห่อตัวเขาไว้“แล้วเจ้าหนีมานอนที่พื้นเพื่ออันใดกัน ต่อไปห้ามทำเช่นนี้อีก หากข้าเมาก็ต้องเรียกข้าให้เอาผ้าห่มให้เจ้า เข้าใจหรือไม่” นางดุลู่มู่เฉินพยักหน้ารับอีกครั้ง แต่ไม่กล้ามองนาง ไม่กล้าบอกนางว่ามือข้างนี้จะไม่หาย มันยังคงต้องเจ็บเช่นนี้ไปตลอดชีวิต แม้จะตัดทิ้งความรู้สึกเจ็บปวดที่ไม่มีอยู่จริงก็ยังเกิดขึ้น เวลานี้ก็ยังรู้สึกเจ็บมาก แต่อย่างไรก็ต้องทนต่อไป เขาไม่ต้องการให้นางไม่สบายใจแต่ห่มผ้าให้เขาแล้วนางก็ไม่ยอมไปไหน ยังคงนั่งมองเขา ทั้งยังกระเถิบมาใกล้ขึ้นจ้องมองเขาไม่วางตา ลู่มู่เฉินได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าเอ่ยคำพูด แต่แล้วนางก็ยกมือขึ้นมาเช็ดบางอย่างที่ข้างแก้ม“เจ้านอนน้ำลายไหลเปื้อนแก้มด้วย”“!!..” เขาตกใจรีบก้มหน้าไม่ยอมให้นางเช็ดคราบน้ำลาย“ชิ ทำเป็นเล่นตัว อย่างไรเจ้าก็แต่งกับข้าแล้ว เป็นหรือตายก็ต้องเป็นคนของข้า” หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกอารมณ์เสีย เมื

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 21 คืนเข้าหอ

    เขาจึงยังไม่ได้พูดคุยกับนางให้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำได้แต่คาดเดา เพราะเขาถามอ๋องเยียนก็แล้ว ท่านหมอก็ถามแล้ว แม้แต่แม่ทัพหลี่เขาก็พยายามถามแล้ว แต่ไม่มีผู้ใดตอบคำถามของเขา"ตาของเจ้างดงามมากจริงๆ ราวกับเก็บดวงดาวยามค่ำคืนไว้ทั้งท้องฟ้า" พูดแล้วนางก็ล้มใส่ตัวเขา หลับไปทั้งเช่นนั้น‘ความฝันที่เป็นได้เพียงความฝัน ห้ามคิดฝันเกินตัว มันต้องมีบางสิ่งทำให้ท่านแม่ทัพตัดสินใจเช่นนี้ นางต้องทำความผิดใดจนท่านแม่ทัพโกรธ จนต้องลงโทษนางให้แต่งกับคนอัปลักษณ์ใกล้ตายเช่นเขา’ ลู่มู่เฉินตักเตือนตัวเองเขามั่นใจว่างานแต่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะนางชอบเขา หรือเพราะดันมีคนรู้เข้าว่าเขาชอบนาง เขารู้ว่าต้องมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น นางจึงถูกบังคับให้แต่งกับเขาเขารู้ว่านางพูดชมเขาโดยไม่มีสิ่งใดลึกซึ้ง เพราะนางเป็นคนเช่นนั้น ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม พูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ เพียงแต่..ทุกครั้งที่นางพูดเช่นนี้ ในอกของเขายังคงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ ในท้องปั่นป่วนคล้ายมีผีเสื้อนับพันกำลังโผบินลู่มู่เฉินแอบยิ้มน้อยๆ งานแต่งนี้อาจต้องจบลงสักวัน เขาย่อมรู้ดี แต่ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นงานแต่งของเขากับนาง หากนางยังตื่นอยู่ เขาก็จะปั้น

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 20 งานแต่ง

    แม่ทัพหลี่หันหน้าแบบประหลาดมากมามองลูกสาว เขากะพริบตาไล่ความงุนงง สังเกตอาการของลูกสาวที่หน้าแดงกระวนกระวายทำสิ่งใดไม่ถูก จู่ๆเขาก็เข้าใจทุกอย่าง‘ข้าว่าแล้วเชียว เท่าที่จำได้ ไอ้หนุ่มนั่นเป็นคนเดียวที่ทำให้ลูกข้าเงียบได้ใช่หรือไม่ แต่มันดูแลลูกข้าได้แน่หรือ ถึงอย่างไรนางก็ดูจะชอบมันเข้าแล้วจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นนางเป็นเช่นนี้เลย’ แม่ทัพหลี่คิด ยิ่งคิดยิ่งตกใจ นี่เขาไม่เคยสังเกตเลยจริงๆ สุดท้ายเขาไม่พูดสิ่งใดแต่เดินดุ่มๆ ออกไปจากห้องโถงทันทีปล่อยให้หลี่เฟิ่งเซียนและอ๋องเยียนมองตามอย่างงุนงง ก่อนที่นางจะคิดบางอย่างได้และตะโกนออกไป“ท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขานะ!!” แล้วนางก็วิ่งตามแม่ทัพออกไป อ๋องเยียนค่อยๆพ่นลมออกมา รู้สึกโล่งอกที่คนถูกฆ่าไม่ใช่เขาลู่มู่เฉินกำลังช่วยเตรียมยาให้ทหารนายหนึ่ง ขาของเขาขาด ไม่ได้ทำแผลให้สะอาดแต่ต้น ยามนี้จึงทั้งบวมและเป็นหนอง“ลู่มู่เฉิน!!” แม่ทัพหลี่ตะโกนเรียกชื่อเขาแต่ไหล “หยุดนะท่านพ่อ ห้ามฆ่าเขาเด็ดขาด!” หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งตามหลังแม่ทัพหลี่มาติดๆ ตะโกนอย่างร้อนรนลู่มู่เฉินไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางคงก่อเรื่องอีกแล้ว เขาถอนหายใจ ยื่นห่อยาให้ทหารอย่างใจเย็น ก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 19 คำแนะนำของอ๋องเยียน

    หลี่เฟิ่งเซียนค่อยๆหันกลับไป กะพริบตาปริบๆ ไม่อยากเชื่อว่าใครๆก็มองออก แต่นางไม่รู้ตัว นี่นางโง่เพียงนี้เชียวหรือ“เจ้าไม่ชอบเขา แล้วสั่งทำกล่องเข็มให้เขาทำไมหรือ” นางยังคาใจ“ท่านเป็นคนสัญญาว่าจะออกเงินสร้างสิ่งที่เขาอยากได้ไม่ใช่หรือเจ้าคะ เขาบอกว่าอยากได้กล่องเข็มครบ 18 แบบ ข้าจึงไปสั่งร้านช่างในหมู่บ้านให้ ใช้เวลาหลายสิบวันกว่าจะเสร็จ วันก่อนช่างเอามาส่งแต่ข้าลืมบอกท่าน” ยู่ยี่อธิบายนางสัญญาไปเช่นนั้นจริงๆ นางรีบร้อนจะตามอ๋องเยียนไปขี่ม้าดูบึงใหญ่ จึงรับปากเขาไปส่งๆ จนนางก็ลืมไปแล้ว ดังนั้น ถือว่ากล่องเข็มนี้นางเป็นคนมอบให้เขา ไม่ใช่ยู่ยี่หัวใจของหลี่เฟิ่งเซียนพองโต นางไม่ต้องแย่งชิงเขากับยู่ยี่ เขาไร้ญาติขาดมิตร ครอบครัวก็ไม่มี ขอเพียงนางรวบหัวรวบหาง เขาต้องเป็นของนางแน่ ถึงเขาจะน่าเกลียดมากไปหน่อย แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยนัยน์ตาของเขางดงามมาก นางชอบนัยน์ตาของเขาที่ราวกับเก็บดวงดาวไว้ทั้งท้องฟ้ายามค่ำคืนคิดแล้วนางก็หยุดตัวเองไม่ได้ อยากจะไปหาเขาตอนนี้เสียเลย หลี่เฟิ่งเซียนวิ่งไปหาลู่มู่เฉิน ไม่สนใจว่ายามนี้ดึกมากเพียงใด ยู่ยี่ห้ามอย่างไรนางก็ไม่ฟัง นางเอากล่องเข็มไปด้วย นางอยาก

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 18 รู้ตัวว่าชอบเขา

    “แล้ว..เกิดอะไรขึ้น” แม่ทัพหลี่เบาเสียงลง กลัวจะทำให้ลูกสาวเสียงดังมากขึ้น“...ข้าก็ไม่รู้ เขาคงไม่อยากให้ข้าไปยุ่งกับเขา” นางตอบเบาลง“เหลวไหล ใครจะไม่อยากยุ่งกับลูกพ่อ” แม่ทัพหลี่รีบเอาใจ“มาๆ กินเยอะๆ เดี๋ยวพ่อไปถามให้ ถ้าเขาไม่ยอมพูด พ่อจะบังคับให้เขาพูดให้ได้” เขาหยิบอาหารใส่ถ้วยให้นาง เอาอกเอาใจลูกสาวเต็มที่“ไม่ต้อง ข้า..ข้าจะ ไปถามด้วยตัวเอง”หลี่เฟิ่งเซียนพอจะนึกบางอย่างได้ นางพาลู่มู่เฉินมาที่นี่ อ้างว่ามารักษาตัว แต่ไม่เคยถามว่าเขาอยากอยู่หรือไม่ ท่านพ่อของนางเป็นถึงแม่ทัพ หากเขาไม่เอ่ยปาก ผู้ใดจะกล้าออกไปจากที่นี่ บางทีลู่มู่เฉินอาจไม่อยากอยู่ที่นี่ เขาอาจรู้สึกไม่ต่างจากถูกคุมขังในกรงสุนัข เขาอาจอยากกลับไปหาครอบครัวสุดท้ายหลี่เฟิ่งเซียนตัดสินใจจะถามให้กระจ่าง นางตามหาเขาจนพบเขาอยู่ที่ห้องเก็บยา“ลู่มู่เฉิน ข้ามีเรื่องอยากถามเจ้า” หลี่เฟิ่งเซียนมาถึงก็ถามตรงๆ“..อืม” เขาหันมามองนางครู่หนึ่ง และหันไปยุ่งกับการตวงยาต่อไป“เจ้าอยากกลับบ้านของเจ้าหรือไม่”“ใครบ้างจะไม่อยากกลับบ้าน”เขาตอบตามจริง แต่นางรู้สึกบางอย่างในอกหนักอึ้ง“เจ้ามีบ้านหรือไม่ มีพ่อแม่ ภรรยา...หรือคนที่รอใ

  • คุณหนูใหญ่ได้สามีอัปลักษณ์   บทที่ 17 สั่นระริก

    ค่ำวันนั้นนางไปหามู่เฉินคนชั่วของนาง แต่ท่านหมอบอกว่าเขาไม่อยู่ออกไปอาบน้ำ หลี่เฟิ่งเซียนไปรอเขาที่ห้องของเขาอยู่นานเขาก็ยังไม่กลับ นางจึงบุกไปที่ห้องอาบน้ำ แต่เขาก็ไม่อยู่ที่นั่น หลี่เฟิ่งเซียนรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นางกลัวว่าเขาจะออกไปข้างนอกค่ายแล้วเกิดถูกจับตัวไปขายอีกครั้งหลี่เฟิ่งเซียนวิ่งกลับไปที่ห้องของนางเพื่อหยิบกระบี่ไปช่วยเขา แต่กลับพบเขากำลังนั่งปลอบใจยู่ยี่ที่ร้องไห้อยู่ นางมองเขากำลังใช้มืออีกข้างตบหลังยู่ยี่เบาๆ อย่างปลอบโยน จู่ๆ นางก็เกิดไม่กล้าเดินเข้าไปรบกวนพวกเขา ในใจของนางมีบางอย่างหนักอึ้งจนนางเองก็อธิบายไม่ได้หลี่เฟิ่งเซียนหอบกล่องใส่เข็มไปนั่งเหม่อมองดวงดาวบนท้องฟ้าที่ริมน้ำ เพราะนางไม่กล้าเข้าห้องของตัวเอง สายลมเย็นส่งเสียงหวีดเป็นบางครั้ง เสียงน้ำไหลกระทบก้อนหิน แม้จะหนวกหู แต่ช่วยให้นางสงบ ไม่ต้องได้ยินเสียงจี้ดๆ ที่ได้ยินในหูตั้งแต่เห็นสองคนนั้นนั่งด้วยกันยิ่งมืดดวงดาวยิ่งแจ่มชัด แต่จู่ๆ กลับมีแสงไฟใกล้นางมาทุกที หลี่เฟิ่งเซียนกลัวว่าจะมีคนร้ายมาแอบจับตัวนางไปอีก จึงรีบหลบหลังพุ่มไม้ แอบก่นด่าตัวเองในใจที่ไม่รู้จักระวัง มืดแล้วยังไม่ระวังตัว ถูกจับไป

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status