ทุกสายตาจับจ้องไปยังร่างที่กำลังตาเหลือกน้ำลายฟูมปาก แต่พยายามจับชายกระโปรงของหลี่เฟิ่งเซียนและขอร้องอย่างน่าสมเพช แต่หลี่เฟิ่งเซียนไม่แม้กระทั่งจะชายตามอง
"ฆ่าข้าเถิด..ข้า..ยอมแล้ว..เดือนหน้า..ที่งานล่าสัตว์..บนเชิงเขาทาง..ทิศ.."
"หยุดนะเจ้าคนสกปรก!!" หลงอี้ยังไม่ทันได้พูดข้อมูลสำคัญออกมาก็ถูกไทเฮาตะโกนขัดจังหวะเสียก่อน
"ใครก็ได้รีบพาเจ้าคนสกปรกนี่ออกไป ในเมื่อความผิดมันชัดเจนก็รีบเอาตัวไปตัดหัว" ไทเฮาสั่ง
แต่หลี่เฟิ่งเซียนกระโดดใช้หอกยาวค้ำพื้นไว้ เตะเท้าไปยังปลายดาบของทหารเฝ้าประตูที่อยู่ใกล้นางที่สุด ดาบเล่มนั้นลอยขึ้นฟ้าและตกลงมาปักข้างตัวไทเฮาอย่างแม่นยำ
"ใครกล้าเข้ามา ข้าจะไม่ไว้ชีวิต!!" นางประกาศกร้าว
"หลงอี้ รีบพูดออกมา ข้าจะสงเคราะห์ให้" หลี่เฟิ่งเซียนหันไปเจรจากับหลงอี้ที่ยามนี้นัยน์ตาขาวโพลน
"ทิศใต้..ถ้ำ..ขุดใหม่.."
"สามหาว หลี่เฟิ่งเซียน ข้าเห็นว่าเจ้าถือหอกของอดีตฮ่องเต้ จึงไม่ใส่ใจเอาความ แต่เจ้าถึงกับกล้าขว้างดาบหมายปองชีวิตของข้า ใครก็ได้รีบมาจับตัวนางออกไป" ไทเฮาเริ่มเก็บสีหน้าไม่อยู่
"ไทเฮา ข้อมูลที่หลงอี้พูดทำให้ท่านถึงกับเสแสร้งเป็นน้ำนิ่งไม่ได้แล้วหรือ" หลี่เฟิ่งเซียนพูด
ใบหน้าของไทเฮาบิดเบี้ยวโกรธจัดจนหน้าแดงมือสั่น แต่หลี่เฟิ่งเซียนไม่สนใจ นางหันมามองหลงอี้ และใช้หอกในมือแทงไปที่คอของหลงอี้ทันที!!
ลู่มู่เฉินบอกนางแล้วว่ายังเหลือข้อมูลบางอย่างที่เขายังสืบไม่ได้ เขาได้ข่มขู่หลงอี้ไว้แล้ว พิษในตัวหลงอี้จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนหลงอี้ทนไม่ไหวและต้องร้องขอความตายเท่านั้น
หน้าที่ของนางคือปกป้องไม่ให้ใครฆ่าหลงอี้ได้ และเมื่อหลงอี้บอกข้อมูลสุดท้ายแล้ว จะฆ่าเขาหรือปล่อยให้เขาถูกฆ่าก็ได้ทั้งนั้น แต่หลี่เฟิ่งเซียนคิดว่าถึงตัวนางจะไม่ใช่คนดี แต่นางรักษาคำพูด นางรับปากว่าจะฆ่าเขาเพื่อหยุดความทรมานให้ นางก็ทำ
"ถือว่าเจ้าได้รับเกียรติ ถูกประหารด้วยหอกศักดิ์สิทธิ์ของอดีตฮ่องเต้" หลี่เฟิ่งเซียนบอกกับร่างของหลงอี้ที่แน่นิ่ง เลือดตรงคอไหลกระฉูดเต็มพื้น
"หลี่เฟิ่งเซียน!! เจ้า..เจ้าถึงกับกล้าฆ่าขุนนางในท้องพระโรงเชียวหรือ" ไทเฮาชี้นิ้วสั่นๆ มาทางที่หลี่เฟิ่งเซียนยืนอยู่
"ทหารรีบมาลากตัวนางออกไปประหาร" ไทเฮาสั่ง ยามนี้คล้ายว่าจะเก็บความหวาดกลัวไว้ไม่อยู่แล้ว ไม่อาจสงบนิ่งอยู่เฉยๆ ได้อีก
"ใครกล้าก็เข้ามา!!" เสียงทรงพลังเสียงหนึ่งตะโกนกึกก้องจากด้านหลังของหลี่เฟิ่งเซียน
นางหันไปมอง แล้วน้ำตาก็ไหลอย่างห้ามไม่ได้
"ท่านพ่อ.." คุณหนูใหญ่เช่นนางร้องไห้ออกมา
เขาเดินมาถึงตัวลูกสาว รับหอกของอดีตฮ่องเต้เอาไว้ ความตึงเครียดและความหนักหนาทั้งหมดที่นางแบกเอาไว้ในช่วงหลายวันมานี้ คล้ายถูกรับไปพร้อมกับหอกนั่น ความไม่สบายใจและความกังวลถูกวางลงทันทีที่นางเห็นท่านพ่อของนาง เขายังไม่ตาย
แม่ทัพหลี่เหยาผู้ยิ่งใหญ่ เดินอกผายอย่างน่าเกรงขาม ไปทางหน้าบัลลังก์ แม้บนตัวจะเต็มไปด้วยบาดแผล บางรอยยังใหม่ๆอยู่ แต่เขายังคงดูทรงพลังอย่างที่ทุกคนในท้องพระโรงไม่กล้าจะหายใจแรง
"ท่านพี่.." แม้แต่ฮ่องเต้เองก็ลุกขึ้นยืน ขอบตาแดงน้ำตาคลอเต็มเบ้า แม่ทัพหลี่เพียงพยักหน้าให้เขา ในขณะที่ไทเฮาถึงกับหมดแรงทรุดตัวนั่งกับพื้น
"เจ้า ยังไม่ตาย" ไทเฮาพึมพำ
"ใช่แล้วไทเฮา ข้ายังไม่ตาย!" แม่ทัพหลี่เอ่ย จ้องตรงไปยังหญิงชราที่ยามนี้แทบไม่มีแรงทรงตัวให้ยืนอย่างสง่างามอีก
"ขันทีหลงอี้ซ่องสุมกำลังคิดจะก่อกบฏ ทั้งยังจับตัวลูกสาวของชาวบ้านมาสนองตัณหา ทำเรื่องวิปริตผิดธรรมชาติ ทำให้ราษฎรเดือดร้อน โทษประหารเก้าชั่วโคตร แต่ได้รับการอภัยโทษเพราะทำความดีชดใช้ความผิด ยอมเสี่ยงชีวิตเปิดเผยผู้อยู่เบื้องหลัง ตัดสินให้ประหารด้วยหอกของอดีตฮ่องเต้ เนรเทศครอบครัวไปสามพันลี้"
แม่ทัพหลี่ร่ายยาวความผิดของหลงอี้ที่ตายไปแล้ว ก่อนจะหันไปทางไทเฮามองด้วยสายตาเย็นชา
"ข้า ข้าถูกบังคับ ฮ่องเต้ถูกสวรรค์พิโรธ ข้าเพียงทำตามบัญชาสวรรค์" ไทเฮาพร่ำพูดตัวสั่น
"ท่านแม่ บัญชาสวรรค์มีเพียงโอรสสวรรค์ที่สามารถสนองรับ ผู้อื่น แม้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ถือว่าแอบอ้าง ท่านคิดคดทรยศต่อแผ่นดิน ขายท่านแม่ทัพของข้าให้กับพวกนอกด่าน ทั้งยังใช้ชีวิตของหลานสาวของท่าน พระสนมฟางหรงมาหลอกลวงข้า หวังให้ข้าลุ่มหลงอิสตรีจนไม่อาจทำงาน การกระทำของท่านเป็นได้เพียงกบฏ!" เสียงของฮ่องเต้เยียบเย็นจนน่าผวา
"เจ้าวางแผนให้ข้าติดกับดักนานแล้วสินะ ฮ่าๆๆๆ ข้ามันโง่นักที่เห็นเจ้าเป็นเพียงคนถ่อยที่ลุ่มหลงในกาม ข้ามันโง่นัก พวกเจ้าไม่เคยตัดขาดจากกัน โอรสสวรรค์อะไรกัน สามัญชนอะไรกัน แค่คนสารเลวและคนที่สารเลวมากกว่า" ไทเฮาด่าทอ หมดสิ้นท่าทางที่น่าเคารพนับถือ
ทุกอย่างเป็นแผนของไทเฮา นางแต่งกับอดีตฮ่องเต้เมื่อครั้งยังเป็นเพียงเด็กสาว เพราะตำแหน่งของตระกูลทำให้นางได้เป็นฮองเฮา แต่นางไม่เคยมีลูกแม้สักคน ต่อให้นางจะเกลียดเหล่าสนมมากเพียงใดนางก็ยังต้องเอาลูกของพวกนางมาเลี้ยง
นางเลือกเฟ้นคัดหาผู้ที่จะมารับตำแหน่งองค์รัชทายาท สุดท้ายนางเลือกฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเพราะเขาดูโง่ สนใจแต่ไล่ตามเกี้ยวหญิงสาว แม่ของเขาเป็นเพียงฉางสื่อ [1] อายุมาก มีศักดิ์เป็นสนมชั้นกลาง ติดตามอดีตฮ่องเต้ตั้งแต่ยังเป็นเพียงรัชทายาท แต่นางกลับมีลูกชายถึงสองคน
ต่อมาพี่ชายก็ถูกนางบีบบังคับให้ไปอยู่ชายแดน นางเลี้ยงดูน้องชายจนเชื่อฟังนางทุกคำ นางจึงส่งเสริมให้เขาได้เป็นรัชทายาท เพียงแต่นางไม่เคยรู้ว่าพี่ชายและน้องชายต่างรักกันมาก พวกเขาแม้จะอยู่ห่างไกลกันแต่ยังคงติดต่อหากันเสมอ
สุดท้ายเมื่อน้องชายได้ขึ้นครองราชย์ นางได้รับตำแหน่งไทเฮา แต่นางกลับถูกสองพี่น้องวางแผนจนต้องได้แต่ยอมรับชะตากรรม คนพี่ถึงกับเก่งกาจจนได้คุมกองทัพ ส่งเสริมให้อำนาจของฮ่องเต้แข็งแกร่งจนไม่มีผู้ใดกล้าต่อกร
[1] นางใน พระสนมชั้นกลาง
ฮูหยินรองรับรู้ว่าเขากำลังเล่นสนุกกับร่องชมพูของนาง แต่นางขยับตัวไม่ไหว ได้แต่อ้าปากร้อง อ้ะอ้ะ ตามปลายนิ้วมือของเขา เมื่อนางตัวสั่นใกล้จะแตกดับอีกครั้งเขาก็สอดใส่มังกรตัวเขื่อนเข้ามา กระแทกกระทั้นไม่กี่ทีนางก็สูดปากด้วยความเสียวสั่นสะท้านเขารู้ว่านางไปถึงฝั่งแล้ว จึงกระแทกรัวๆไม่ยั้งเพื่อพาตัวเองไปยังจุดที่นางพานพบบ้าง เขาจับสะโพกของนางไว้แน่น ปรนเปรอภรรยาเด็กด้วยแรงทั้งหมดของแม่ทัพใหญ่ เสียวซ่านจนไม่มีเวลาคิดว่านางจะรับความรุนแรงนี้ไหวหรือไม่เมื่อพายุความหฤหรรษ์หยุดลง สองสามีภรรยาต่างเหน็ดเหนื่อยแทบสิ้นใจ เขาก้มลงจูบปลอบประโลมภรรยาอย่างอ่อนโยน แต่ก็ขบคอระหงของนางจนเป็นรอยด้วย นางร้องเบาๆแต่เขาไม่ใส่ใจ อาจเพราะเขาไม่ได้เข้าหอมานานจึงมีความต้องการสูงมาก เขาพลิกตัวฮูหยินรองและขึ้นไปขย่มนางบนเตียงต่อไป“ข้าไม่อยากรักท่าน” เสียงอ่อนแรงของเซี่ยอิงเอ่ยขึ้นระหว่างที่เขากำลังกอดกกนางอย่างหลงใหล“เพราะเหตุใด” เขาถามเสียงกระเส่า ไม่ได้ใส่ใจมาก“เพราะข้าไม่อาจแย่งชิงท่านกับท่านหญิงเจียงที่แม่น้ำไน่เหอ นางจะโดดเดี่ยว นางรอท่านมานานมาก” หญิงสาวพูดถึงชีวิตหลังความตายที่คู่รักจะรอกันและกันเพื่อข
ปัง! แม่ทัพหลี่ตบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ฮูหยินรองสะดุ้งหลับตาแน่น แต่ไม่ขยับหนีไปไหน และทำแค่ก้มหน้ามากกว่าเดิม เขาหงุดหงิดอยู่สักครู่ คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น “ต่อไปข้าจะเรียกเจ้าว่าอิงเอ๋อร์ เจ้าก็ควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว อย่างไรข้าก็แต่งตั้งเจ้าเป็นฮูหยินของข้าแล้ว ไม่ใช่อนุ” เขาเสียงเบาลง“เจ้าค่ะ ..ท่านพี่” นางยังถือเสื้อในมือก้มหน้าอยู่ข้างเขาเช่นเดิม แต่หายดื้อแล้ว หลี่เหยาพอใจ จึงลุกขึ้นยืน กางแขนออกให้นางใส่เสื้อให้แต่เพราะนางตัวเล็กถึงจะพยายามเอื้อมมือเพื่อใส่เสื้อให้เขา ท่วงท่าในตอนนี้จึงคล้ายนางกอดเอวเขาอยู่ และเขารู้สึกว่ายังคงอยากกระแทกใส่นางอยู่ จึงโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน“ข้าจะเข้าหอกับเจ้า ให้บุตรแก่เจ้าสักคน เอาไว้วันหน้าหากข้าตาย เจ้าจะได้ไม่โดดเดี่ยว แม้เฟิ่งเซียนของข้าจะไม่ใจดำกระทั่งปล่อยให้เจ้าโดดเดี่ยว แต่อย่างไร หากเจ้ามีบุตรของเจ้าเองย่อมดีกว่า” เขาตัดสินใจ“ไม่เจ้าค่ะ!” นางปฏิเสธทันที เงยหน้ามองเขา ส่งสายตาแน่วแน่ว่านางไม่ต้องการจริงๆ “เพราะอะไร!” หลี่เหยาโกรธจนเส้นเลือดข้างหัวเต้นตุบๆ นี่เขาถึงขั้นเอ่ยปากจะเข้าหอ แต่นางกลับปฏิเสธแทบจะทันทีไม่ต้องคิดด้วยซ้
พอนางไม่หนีและหอบหายใจถี่ให้เขาพึงพอใจ เขาก็เริ่มเบามือและปรนเปรอความเสียวซ่านให้นางด้วยสองมือ หญิงสาวบิดตัวไปมาตามแรงบดขยี้ของฝ่ามือแกร่ง เขาขยับฝ่ามือให้เร็วขึ้นนางก็สั่นตามแรงขยับนั้น จนนางเริ่มทนความสุขสมที่เขาปรนเปรอไม่ไหว จึงเริ่มดิ้นไปมา อ้าปากส่ายหัวอย่างน่ารักน่าเวทนา แต่เขาก็ทำเพียงกอดนางแน่นขึ้น และเร่งให้นางไปสู่ยอดเขาแห่งความสุขสมเร็วขึ้นด้วยการขยี้สะบัดปลายนิ้วไปมาแรงขึ้น“อา อา ซี๊ดดดด...ฮะ...ฮา..” นางกระตุกและสุดปากอย่างควบคุมไม่ได้ หมดแรงอยู่ตรงหน้าอกของเขาหลี่เหยารู้สึกร้อนลวกตรงแท่งหยกที่ใกล้ปริแตกของตัวเอง เพราะมันแนบอยู่กับผิวลื่นๆของนาง แต่เขาไม่ใส่ใจ ทำเพียงจ้องมองร่างที่สั่นเทาอยู่บนอกด้วยความพึงพอใจ เขาเห็นแล้วว่านางสุขสมจนแทบไม่มีแรงขยับ ใบหน้าแดงก่ำ หายใจหอบเหนื่อย แต่เขาอยากกลั่นแกล้งนางให้มากขึ้นจึงเอ่ยออกไป“ลุกขึ้น อย่ามานอนอยู่บนตัวข้า”ร่างของฮูหยินรองลืมตามองเขาอย่างไม่เข้าใจว่าเขายังต้องการอะไรอีก เป็นเขาที่ดึงนางให้แนบกับอกแม้นางจะพยายามหนี ยามนี้กลับทำเป็นรังเกียจที่นางนอนบนอกนี่หรือแม้นางไม่พอใจ แต่ฮูหยินรองกลับกัดฟันจับขอบถังและพยุงขาสั่นๆให้ลุ
ระหว่างเดินทาง ท่านแม่ทัพไม่ได้จับแท่งเนื้อยัดใส่ปากนางอีก แต่ก็กอดนางนอนทุกคืน ก่อนจะนอนมักจะถอดเสื้อผ้าของนาง เล่นกับหน้าอกนุ่มนิ่มและยอดชมพูของนาง ทำจนนางตัวสั่นไปหมดเขาถึงจะพอใจ แรกๆฮูหยินรองรู้สึกอายมาก เพราะเขาจะทำเช่นนั้นและมองนางทุรนทุรายทรมานอย่างพึงพอใจ แต่หลังๆนางชักจะโมโหที่ถูกกลั่นแกล้งเสมอ จึงเริ่มไม่ยอมให้เขาจับหน้าอกเล่นแล้ว นางค้นพบว่าหากแกล้งบีบน้ำตาเขาจะเบามือขึ้น หรือไม่ก็ไม่รังแกนางอีกแต่ถึงอย่างไร แม่ทัพหลี่ก็ยังคงเป็นแม่ทัพหลี่ เขาไม่ปรานีฮูหยินรอง ไม่จับหน้าอก ไม่เขี่ยยอดถันของนางเล่น แต่กลับจับก้นสะโพกและเขี่ยกลีบดอกไม้ตรงหว่างขาของนางเล่นแทน ทำจนนางร้องไห้เอ่ยปากบอกว่าทนไม่ไหวแล้วเขาถึงจะหยุดมือ เขาบอกว่าเป็นการทำโทษที่นางไม่รู้จักปรนนิบัติสามีมาหลายปีฮูหยินรองแม้จะร้องในใจว่าเป็นเขาที่ไม่ยอมมองนาง ทำตัวเป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง แต่ใครจะกล้าพูดออกไปกัน แค่เขามองด้วยสายตาไม่พอใจ นางก็ต้องยินยอมให้เขาทุกอย่างแล้วกระทั่งไปถึงชายแดน มีพื้นที่สะดวกมากขึ้น นางนอนอีกห้อง แม่ทัพหลี่นอนอีกห้อง ฮูหยินรองถึงได้หายใจหายคอนอนหลับได้บ้าง แต่เพียงผ่านไปไม่กี่คืน หลังจากท
เวลาท่านแม่ทัพโมโห บางครั้งน่ากลัวราวกับเทพอสนีบาตก็ไม่ปาน บางคราวเย็นยะเยือกจนไม่มีผู้ใดกล้าขยับ มีแต่ฮูหยินรองที่ต้องรองรับอารมณ์ร้ายของท่านแม่ทัพฮูหยินรองไม่อยากอยู่ใกล้ท่านแม่ทัพนัก แต่จนใจเพราะท่านแม่ก็ป่วยและชรา ส่วนคุณหนูใหญ่ ถูกท่านเขยขังตัวอยู่ในห้องหอตลอดเช้าค่ำ อย่างไรก็ต้องเป็นนางที่ได้ดูแลเขาเสมอ ก่อนหน้านั้นที่นางได้รับอนุญาตให้ดูแลท่านแม่ทัพ นางดีใจอย่างโง่งมที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่แล้ว แต่ยามนี้นางเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอันใด ท่านแม่ทัพน่ากลัวยิ่งฮูหยินรองเฝ้ารอให้ถึงเวลาที่ท่านแม่ทัพจะกลับไปยังชายแดน เฝ้ารอให้ช่วงเวลาอันแสนสงบของนางกลับมาอีกครั้ง แต่เมื่อใกล้ถึงเวลานั้นจริง ท่านแม่กลับจะให้นางไปอยู่ชายแดนกับท่านแม่ทัพ และดูคล้ายว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมด้วย ส่วนคุณหนูใหญ่ที่เคยขัดขวางนางกับท่านแม่ทัพเสมอถึงขั้นเห็นดีเห็นงาม ขอร้องให้ท่านแม่ทัพมาพูดดีกับนางด้วยฮูหยินรองยังจำได้ดี เรื่องของคืนนั้น เมื่อคุณหนูใหญ่อุตส่าห์ขอร้องท่านแม่ทัพให้พูด ‘คำพูดดีๆ’ กับนาง เมื่อนางเข้ามาในห้อง เขาไม่พูดสักคำ เอาแต่จ้องนางสายตาว่างเปล่า คราแรกฮูหยินรองยังนึกว่าเขา
หลังจากแม่ทัพหลี่และหลี่เฟิ่งเซียนออกมาจากวังหลวง เดินเข้าประตูจวนเข้ามาแล้ว แม่ทัพหลี่ถึงจะยอมแสดงความอ่อนแอออกมา เขามีทั้งแผลโดนแทงและแผลถูกเกาทัณฑ์ยิง สาหัสชนิดที่ถ้าเป็นผู้อื่นคงยืนอยู่ไม่ไหว แต่เขายังเสแสร้งว่าแข็งแกร่งยืนค้ำฟ้าในท้องพระโรงได้อยู่นานสองนานหลังจากมู่เฉินรักษาบาดแผลให้ท่านแม่ทัพแล้วก็กำชับฮูหยินรองว่าท่านแม่ทัพอาการสาหัสยิ่ง บาดแผลไม่ลึกถึงขั้นเอาชีวิตได้ แต่ท่านแม่ทัพคงหนีตายพร้อมแผลพวกนั้นมาหลายวัน ไม่มีเวลาดูแลรักษาให้ดี ตอนนี้แผลได้ติดเชื้อลุกลามไปมากแล้ว จำเป็นต้องมีคนดูแลใกล้ชิดคอยทำความสะอาดแผลให้ทุกครึ่งชั่วยามท่านแม่ทัพนอนหลับไปเพราะพิษบาดแผลและฤทธิ์ยาที่มู่เฉินจัดให้ ก่อนหลับไปท่านแม่ทัพรู้สึกชื่นชมเขยคนนี้มาก และชื่นชมตัวเองที่ตัดสินใจไม่ผิด จากนี้ถึงเขาจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องห่วงลูกสาวแล้วกลางดึก แม่ทัพหลี่ได้ยินเสียงคนกระซิบกระซาบบางอย่าง ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความวิงเวียนและรู้สึกอยากอาเจียน“เจ้าเบาเสียงลงอีก นายท่านเป็นทหารที่หูดีมาก เขาต้องคอยระวังตัวตลอดเวลาจึงทำให้หลับไม่สนิท ถึงเขาจะป่วยอยู่ แต่เจ้าอาจทำให้เขาตื่นได้” “ได้เจ้าค่ะ ..ท่