“เป็นข้าที่โง่เขลาเอง เป็นข้าที่เข้าใจผิดคิดว่าฮูหยินของท่านหมออิ่นเป็นชู้รักของเจ้า แต่ตอนนี้ข้ารู้แล้ว ข้าขอโทษด้วย วันหลังข้าค่อยไปขออภัยนาง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะข้ารักเจ้ามาก จึงหึงหวงมาก เข้าใจหรือไม่”
“อืม..” เขากอดนางแน่นขึ้น รักคนในอ้อมกอดจนไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อคืนเขาคิดทั้งคืน คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเพราะเหตุใดนางถึงหย่ากับเขา ยืนโง่งมอยู่นานจนไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายยังคงทำตามคำพูดของนาง
ตอนรู้ว่านางหนีไปอยู่จวนอ๋องเยียนทั้งคืน เขามือสั่นจนทำอะไรไม่ไหว เมื่อเช้าถึงจะบังคับตัวเองให้ลุกขึ้นมาเก็บของได้ เมื่อครู่ตอนนางเข้ามา เขายังกลัวว่านางจะรีบไล่เขาให้เก็บของเร็วๆ แต่กลับกลายเป็นนางบอกเขาว่าหึงหวงเขากับอาจารย์หญิง เขาก็ไม่รู้ว่าโล่งใจเพียงใด รู้สึกเพียงว่าคล้ายกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“ข้าขอโทษ” หลี่เฟิ่งเซียนรับรู้ถึงหยดน้ำตาที่เปียกไหล่ของนาง เขายังกอดนางจนแน่น นางรู้สึกเจ็บจนหายใจไม่สะดวกแต่ไม่เอ่ยสักคำ
“อืม..” เขายังเอ่ยคำเดิม
หลี่เฟิ่งเซียนไม่รู้จะปลอบคนตัวใหญ่ที่กำลังร้องไห้อย่างไร
“เจ้าอยากได้อะไร บอกข้ามา ข้าให้ทุกอย่าง” นางจึงเสนอสิ่งของที่เขาต้องการ ทำตัวคล้ายชายแก่ที่กำลังเอาใจสาวน้อย
“ข้า..เป็น..ของเจ้า ...อย่า..อย่าทิ้งข้า” เขาพูดเบาลง เบาลง จนแทบกลายเป็นกระซิบ
“ได้ ข้าสาบาน” แม้คำพูดของนางจะเหมือนคำพูดของชายเจ้าชู้ที่เที่ยวเกี้ยวหญิงสาวไปทั่ว เที่ยวให้สัญญาพล่อยๆ กับทุกคน แต่เขาก็ยังดีใจอย่างโง่งม ต่อให้นางโกหกเขาก็ยังดีใจ เขาตั้งใจจะใช้ชีวิตที่เหลือรอดจากนี้เป็นทุกสิ่งให้นาง เขาสาบานในใจแม้ไม่ได้พูดออกมา
“เจ้าหายเศร้าหรือยัง ข้าไม่ดีเอง ข้าขอโทษ” หลี่เฟิ่งเซียนจับแก้มเขา ใช้สองมือเช็ดน้ำตาให้ลู่มู่เฉิน
เขาพยักหน้า มองนางยิ้มๆ นัยน์ตายังคงแดงก่ำมีน้ำตาคลอเบ้าน่าสงสาร หัวใจของนางทนไม่ไหวจึงจูบเขาเบาๆ เพื่อปลอบโยน แต่จูบไปจูบมาเขาก็เริ่มจูบตอบ ยังคงจูบอย่างหลงใหลต้องการครอบครอง เขารัดนางเข้าหาตัว นั่งลงพิงโต๊ะที่เขากำลังเก็บพวกหนังสือ เพื่อให้ความสูงของทั้งสองคนเท่ากัน
เขายื่นมือมาจับหลังคอของนางเพื่อจะได้จูบถนัดมากขึ้น มือของเขาเผลอไปโดนใส่ใบหูของนาง หลี่เฟิ่งเซียนจึงสะดุ้งชะงัก
“ขะ ขอโทษ ข้าไม่ได้ตั้งใจ” ตั้งแต่นางห้ามเขาจับหูของนาง เขาก็ไม่เคยแตะมันอีก ครั้งนี้เพราะอารมณ์รุนแรงเกินไปเขาไม่ทันระวังจึงเผลอไปโดน
“มะ ไม่เป็นไร ถ้าเจ้าชอบ ข้าจะยอมให้” หลี่เฟิ่งเซียนที่เริ่มเสียงแหบพร่าบอกเขา นางอยากเอาใจเขาเพื่อปลอบโยนเขา อยากให้เขามีความสุข แม้ว่าการยอมให้เขาสัมผัสตรงนั้นจะเป็นเรื่องที่มากเกินนางจะทานทน
“เอ่อ..คืนนี้ได้หรือไม่” เขาหลับตาใช้หน้าผากชนหน้าผากของนางต่อรอง เขากลัวว่าหากสัมผัสไปแล้วอาจทำใจปล่อยนางไม่ไหว หากมีคนมารู้เข้าว่าพวกเขาทำเรื่องเช่นนี้ทั้งที่ยังเช้าอยู่ นางอาจถูกมองไม่ดี ที่นี่ก็เป็นห้องหนังสือศักดิ์สิทธิ์ของท่านแม่ทัพอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องดี
แต่หลี่เฟิ่งเซียนยามนี้กำลังพลุ่งพล่าน นางไหนเลยจะยอมทนได้
“เมื่อก่อนเจ้าไม่เห็นสนใจว่าเช้าหรือมืด ..ข้าลงกลอนแล้ว” นางว่า
หลี่เฟิ่งเซียนจัดการดึงเชือกผูกเอวของเขา มู่เฉินได้แต่รีบกุมมือนางไว้อย่างตื่นตระหนกราวกับกระต่ายน้อย
“ข้าคิดถึงเจ้า อย่าดื้อได้หรือไม่” หลี่เฟิ่งเซียนใช้น้ำเสียงน่าเอ็นดูเกลี้ยกล่อมเขา
เขายังคงกุมข้อมือนางไว้ แต่ราวกับไม่มีแรงรั้งนาง ใบหน้าแดงก่ำ ปล่อยให้นางดึงเชือกผูกกางเกง นางจงใจแทรกขาของนางไปเบียดกับแท่งหยกที่กำลังแข็งตัวขึ้นเรื่อยๆ
เขาได้แต่กัดริมฝีปากปล่อยให้นางทำตามใจ เขาชอบเวลาที่นางทำท่าต้องการเขาเช่นนี้ หลี่เฟิ่งเซียนจึงดึงเสื้อผ้าของเขาออก เผยแผงอกที่ยามนี้มีเนื้อหนังและกล้ามเนื้อ แม้จะยังมีร่องรอยของการเคยมีแผลถลอก แต่ก็เห็นไม่ชัดแล้ว หลี่เฟิ่งเซียนจูบลงไปยังยอดอกของเขา
“อือออ” เขาส่งเสียงยินดีสั่นรัวออกมา ความเสียวซ่านรู้สึกดีที่วิ่งจากปลายลิ้นของนางผ่านจุกบนหน้าอกของเขาตรงไปยังท้องน้อย เขาสั่นเบาๆ นางพึงพอใจยิ่ง ถึงตลอดมานางจะนอนเฉยๆ ให้เขาจับนางพลิกไปมา แต่วันนี้อยากเอาใจเขาบ้าง นางจึงจำเอาสิ่งที่เขาทำกับนางมาใช้กับเขาเสียเลย
นางเลียช่วงอกขึ้นไปที่คอ เลียวนๆ และมีขบเม้มบ้าง อย่างที่เขาทำ มู่เฉินหลับตาปล่อยให้นางทำตามใจ นางจูบปลายคางของเขาที่วันนี้เริ่มมีตอหนวดขึ้นบ้างเล็กน้อย
หลี่เฟิ่งเซียนจึงชะงัก ถอยออกมามอง ใช้มือลูบตอหนวดสากๆ พวกนั้น
“เจ้าไม่ชอบหรือ ขอโทษด้วย วันนี้เกิดเรื่องหลายอย่าง ข้าลืมดูแล ทำให้เจ้าระเคืองหรือไม่” เขาพูดเสียงแหบพร่า แต่ยังคงห่วงใยความรู้สึกของนาง
“ไม่ ข้าชอบทุกสิ่งที่เป็นเจ้า เช่นนี้ก็ดี ดูเป็นชายชาตรี” นางเอ่ยชมและยื่นหน้าไปกัดเบา
“หึ คุณหนูใหญ่ เจ้าหยอกข้าหรือ” เขาขำขันกับการกัดของนาง
หลี่เฟิ่งเซียนยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น ยังใช้สองมือดึงเสื้อของเขาจนเลยพ้นไหล่ และกัดๆ ขบๆตามกระดูกไหปลาร้าไปที่ไหล่เขา
“เจ้าดูแข็งแรงขึ้นมากนะ” นางเอ่ยชม
“ข้ามีภรรยาที่ต้องเอาอกเอาใจ เพราะนางชอบคนรูปงาม ข้าจึงได้แต่ต้องพยายาม” มู่เฉินยิ้ม
เขาเริ่มหยอกล้อนางเล่นแล้ว หมายความว่าเขาหายโกรธแล้ว เขาอารมณ์ดีแล้วใช่หรือไม่ หลี่เฟิ่งเซียนดีใจ นางถอยออกมาเล็กน้อย รีบร้อนดึงเชือกผูกเอวของตัวเองบ้าง ยังไม่ทันที่เขากะพริบตานางก็ถอดเสื้อผ้าของตัวเองเสร็จแล้ว
หลี่เฟิ่งเซียนก้มมองเสาสวรรค์ลำใหญ่ที่ชูชันของเขา ใจนางเต้นแรงผิดปกติเมื่อนึกถึงคืนนั้นที่นางขึ้นคร่อมขืนใจเขา แท่งเนื้อร้อนนี่ถึงกับพ่นน้ำแห่งความสุขอย่างน่าดูชม นางคิดแล้วกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ตัดสินใจยื่นมือไปจับเสาสวรรค์ มู่เฉินไม่ขยับหนี กลับจ้องมองมือของนาง กัดฟันแน่น เฝ้ารอให้นางทำเช่นนั้น
“เฟิ่งเอ๋อร์” เสียงเขาสั่นรัว เขายื่นมือมาจับมือของนางไว้ทันที
“เจ็บหรือ” นางถาม แต่เขาส่ายหัว ใช้มือซ้ายดันหลังนางจนสองเต้าถูกเบียดกับอกกว้างของเขา มู่เฉินหอบหายใจถี่ แม้หลี่เฟิ่งเซียนไม่รู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร แต่ในใจนางรู้สึกว่าเขาช่างน่ารักยิ่งนัก
ฮูหยินรองรับรู้ว่าเขากำลังเล่นสนุกกับร่องชมพูของนาง แต่นางขยับตัวไม่ไหว ได้แต่อ้าปากร้อง อ้ะอ้ะ ตามปลายนิ้วมือของเขา เมื่อนางตัวสั่นใกล้จะแตกดับอีกครั้งเขาก็สอดใส่มังกรตัวเขื่อนเข้ามา กระแทกกระทั้นไม่กี่ทีนางก็สูดปากด้วยความเสียวสั่นสะท้านเขารู้ว่านางไปถึงฝั่งแล้ว จึงกระแทกรัวๆไม่ยั้งเพื่อพาตัวเองไปยังจุดที่นางพานพบบ้าง เขาจับสะโพกของนางไว้แน่น ปรนเปรอภรรยาเด็กด้วยแรงทั้งหมดของแม่ทัพใหญ่ เสียวซ่านจนไม่มีเวลาคิดว่านางจะรับความรุนแรงนี้ไหวหรือไม่เมื่อพายุความหฤหรรษ์หยุดลง สองสามีภรรยาต่างเหน็ดเหนื่อยแทบสิ้นใจ เขาก้มลงจูบปลอบประโลมภรรยาอย่างอ่อนโยน แต่ก็ขบคอระหงของนางจนเป็นรอยด้วย นางร้องเบาๆแต่เขาไม่ใส่ใจ อาจเพราะเขาไม่ได้เข้าหอมานานจึงมีความต้องการสูงมาก เขาพลิกตัวฮูหยินรองและขึ้นไปขย่มนางบนเตียงต่อไป“ข้าไม่อยากรักท่าน” เสียงอ่อนแรงของเซี่ยอิงเอ่ยขึ้นระหว่างที่เขากำลังกอดกกนางอย่างหลงใหล“เพราะเหตุใด” เขาถามเสียงกระเส่า ไม่ได้ใส่ใจมาก“เพราะข้าไม่อาจแย่งชิงท่านกับท่านหญิงเจียงที่แม่น้ำไน่เหอ นางจะโดดเดี่ยว นางรอท่านมานานมาก” หญิงสาวพูดถึงชีวิตหลังความตายที่คู่รักจะรอกันและกันเพื่อข
ปัง! แม่ทัพหลี่ตบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ฮูหยินรองสะดุ้งหลับตาแน่น แต่ไม่ขยับหนีไปไหน และทำแค่ก้มหน้ามากกว่าเดิม เขาหงุดหงิดอยู่สักครู่ คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น “ต่อไปข้าจะเรียกเจ้าว่าอิงเอ๋อร์ เจ้าก็ควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว อย่างไรข้าก็แต่งตั้งเจ้าเป็นฮูหยินของข้าแล้ว ไม่ใช่อนุ” เขาเสียงเบาลง“เจ้าค่ะ ..ท่านพี่” นางยังถือเสื้อในมือก้มหน้าอยู่ข้างเขาเช่นเดิม แต่หายดื้อแล้ว หลี่เหยาพอใจ จึงลุกขึ้นยืน กางแขนออกให้นางใส่เสื้อให้แต่เพราะนางตัวเล็กถึงจะพยายามเอื้อมมือเพื่อใส่เสื้อให้เขา ท่วงท่าในตอนนี้จึงคล้ายนางกอดเอวเขาอยู่ และเขารู้สึกว่ายังคงอยากกระแทกใส่นางอยู่ จึงโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน“ข้าจะเข้าหอกับเจ้า ให้บุตรแก่เจ้าสักคน เอาไว้วันหน้าหากข้าตาย เจ้าจะได้ไม่โดดเดี่ยว แม้เฟิ่งเซียนของข้าจะไม่ใจดำกระทั่งปล่อยให้เจ้าโดดเดี่ยว แต่อย่างไร หากเจ้ามีบุตรของเจ้าเองย่อมดีกว่า” เขาตัดสินใจ“ไม่เจ้าค่ะ!” นางปฏิเสธทันที เงยหน้ามองเขา ส่งสายตาแน่วแน่ว่านางไม่ต้องการจริงๆ “เพราะอะไร!” หลี่เหยาโกรธจนเส้นเลือดข้างหัวเต้นตุบๆ นี่เขาถึงขั้นเอ่ยปากจะเข้าหอ แต่นางกลับปฏิเสธแทบจะทันทีไม่ต้องคิดด้วยซ้
พอนางไม่หนีและหอบหายใจถี่ให้เขาพึงพอใจ เขาก็เริ่มเบามือและปรนเปรอความเสียวซ่านให้นางด้วยสองมือ หญิงสาวบิดตัวไปมาตามแรงบดขยี้ของฝ่ามือแกร่ง เขาขยับฝ่ามือให้เร็วขึ้นนางก็สั่นตามแรงขยับนั้น จนนางเริ่มทนความสุขสมที่เขาปรนเปรอไม่ไหว จึงเริ่มดิ้นไปมา อ้าปากส่ายหัวอย่างน่ารักน่าเวทนา แต่เขาก็ทำเพียงกอดนางแน่นขึ้น และเร่งให้นางไปสู่ยอดเขาแห่งความสุขสมเร็วขึ้นด้วยการขยี้สะบัดปลายนิ้วไปมาแรงขึ้น“อา อา ซี๊ดดดด...ฮะ...ฮา..” นางกระตุกและสุดปากอย่างควบคุมไม่ได้ หมดแรงอยู่ตรงหน้าอกของเขาหลี่เหยารู้สึกร้อนลวกตรงแท่งหยกที่ใกล้ปริแตกของตัวเอง เพราะมันแนบอยู่กับผิวลื่นๆของนาง แต่เขาไม่ใส่ใจ ทำเพียงจ้องมองร่างที่สั่นเทาอยู่บนอกด้วยความพึงพอใจ เขาเห็นแล้วว่านางสุขสมจนแทบไม่มีแรงขยับ ใบหน้าแดงก่ำ หายใจหอบเหนื่อย แต่เขาอยากกลั่นแกล้งนางให้มากขึ้นจึงเอ่ยออกไป“ลุกขึ้น อย่ามานอนอยู่บนตัวข้า”ร่างของฮูหยินรองลืมตามองเขาอย่างไม่เข้าใจว่าเขายังต้องการอะไรอีก เป็นเขาที่ดึงนางให้แนบกับอกแม้นางจะพยายามหนี ยามนี้กลับทำเป็นรังเกียจที่นางนอนบนอกนี่หรือแม้นางไม่พอใจ แต่ฮูหยินรองกลับกัดฟันจับขอบถังและพยุงขาสั่นๆให้ลุ
ระหว่างเดินทาง ท่านแม่ทัพไม่ได้จับแท่งเนื้อยัดใส่ปากนางอีก แต่ก็กอดนางนอนทุกคืน ก่อนจะนอนมักจะถอดเสื้อผ้าของนาง เล่นกับหน้าอกนุ่มนิ่มและยอดชมพูของนาง ทำจนนางตัวสั่นไปหมดเขาถึงจะพอใจ แรกๆฮูหยินรองรู้สึกอายมาก เพราะเขาจะทำเช่นนั้นและมองนางทุรนทุรายทรมานอย่างพึงพอใจ แต่หลังๆนางชักจะโมโหที่ถูกกลั่นแกล้งเสมอ จึงเริ่มไม่ยอมให้เขาจับหน้าอกเล่นแล้ว นางค้นพบว่าหากแกล้งบีบน้ำตาเขาจะเบามือขึ้น หรือไม่ก็ไม่รังแกนางอีกแต่ถึงอย่างไร แม่ทัพหลี่ก็ยังคงเป็นแม่ทัพหลี่ เขาไม่ปรานีฮูหยินรอง ไม่จับหน้าอก ไม่เขี่ยยอดถันของนางเล่น แต่กลับจับก้นสะโพกและเขี่ยกลีบดอกไม้ตรงหว่างขาของนางเล่นแทน ทำจนนางร้องไห้เอ่ยปากบอกว่าทนไม่ไหวแล้วเขาถึงจะหยุดมือ เขาบอกว่าเป็นการทำโทษที่นางไม่รู้จักปรนนิบัติสามีมาหลายปีฮูหยินรองแม้จะร้องในใจว่าเป็นเขาที่ไม่ยอมมองนาง ทำตัวเป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง แต่ใครจะกล้าพูดออกไปกัน แค่เขามองด้วยสายตาไม่พอใจ นางก็ต้องยินยอมให้เขาทุกอย่างแล้วกระทั่งไปถึงชายแดน มีพื้นที่สะดวกมากขึ้น นางนอนอีกห้อง แม่ทัพหลี่นอนอีกห้อง ฮูหยินรองถึงได้หายใจหายคอนอนหลับได้บ้าง แต่เพียงผ่านไปไม่กี่คืน หลังจากท
เวลาท่านแม่ทัพโมโห บางครั้งน่ากลัวราวกับเทพอสนีบาตก็ไม่ปาน บางคราวเย็นยะเยือกจนไม่มีผู้ใดกล้าขยับ มีแต่ฮูหยินรองที่ต้องรองรับอารมณ์ร้ายของท่านแม่ทัพฮูหยินรองไม่อยากอยู่ใกล้ท่านแม่ทัพนัก แต่จนใจเพราะท่านแม่ก็ป่วยและชรา ส่วนคุณหนูใหญ่ ถูกท่านเขยขังตัวอยู่ในห้องหอตลอดเช้าค่ำ อย่างไรก็ต้องเป็นนางที่ได้ดูแลเขาเสมอ ก่อนหน้านั้นที่นางได้รับอนุญาตให้ดูแลท่านแม่ทัพ นางดีใจอย่างโง่งมที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่แล้ว แต่ยามนี้นางเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอันใด ท่านแม่ทัพน่ากลัวยิ่งฮูหยินรองเฝ้ารอให้ถึงเวลาที่ท่านแม่ทัพจะกลับไปยังชายแดน เฝ้ารอให้ช่วงเวลาอันแสนสงบของนางกลับมาอีกครั้ง แต่เมื่อใกล้ถึงเวลานั้นจริง ท่านแม่กลับจะให้นางไปอยู่ชายแดนกับท่านแม่ทัพ และดูคล้ายว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมด้วย ส่วนคุณหนูใหญ่ที่เคยขัดขวางนางกับท่านแม่ทัพเสมอถึงขั้นเห็นดีเห็นงาม ขอร้องให้ท่านแม่ทัพมาพูดดีกับนางด้วยฮูหยินรองยังจำได้ดี เรื่องของคืนนั้น เมื่อคุณหนูใหญ่อุตส่าห์ขอร้องท่านแม่ทัพให้พูด ‘คำพูดดีๆ’ กับนาง เมื่อนางเข้ามาในห้อง เขาไม่พูดสักคำ เอาแต่จ้องนางสายตาว่างเปล่า คราแรกฮูหยินรองยังนึกว่าเขา
หลังจากแม่ทัพหลี่และหลี่เฟิ่งเซียนออกมาจากวังหลวง เดินเข้าประตูจวนเข้ามาแล้ว แม่ทัพหลี่ถึงจะยอมแสดงความอ่อนแอออกมา เขามีทั้งแผลโดนแทงและแผลถูกเกาทัณฑ์ยิง สาหัสชนิดที่ถ้าเป็นผู้อื่นคงยืนอยู่ไม่ไหว แต่เขายังเสแสร้งว่าแข็งแกร่งยืนค้ำฟ้าในท้องพระโรงได้อยู่นานสองนานหลังจากมู่เฉินรักษาบาดแผลให้ท่านแม่ทัพแล้วก็กำชับฮูหยินรองว่าท่านแม่ทัพอาการสาหัสยิ่ง บาดแผลไม่ลึกถึงขั้นเอาชีวิตได้ แต่ท่านแม่ทัพคงหนีตายพร้อมแผลพวกนั้นมาหลายวัน ไม่มีเวลาดูแลรักษาให้ดี ตอนนี้แผลได้ติดเชื้อลุกลามไปมากแล้ว จำเป็นต้องมีคนดูแลใกล้ชิดคอยทำความสะอาดแผลให้ทุกครึ่งชั่วยามท่านแม่ทัพนอนหลับไปเพราะพิษบาดแผลและฤทธิ์ยาที่มู่เฉินจัดให้ ก่อนหลับไปท่านแม่ทัพรู้สึกชื่นชมเขยคนนี้มาก และชื่นชมตัวเองที่ตัดสินใจไม่ผิด จากนี้ถึงเขาจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องห่วงลูกสาวแล้วกลางดึก แม่ทัพหลี่ได้ยินเสียงคนกระซิบกระซาบบางอย่าง ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความวิงเวียนและรู้สึกอยากอาเจียน“เจ้าเบาเสียงลงอีก นายท่านเป็นทหารที่หูดีมาก เขาต้องคอยระวังตัวตลอดเวลาจึงทำให้หลับไม่สนิท ถึงเขาจะป่วยอยู่ แต่เจ้าอาจทำให้เขาตื่นได้” “ได้เจ้าค่ะ ..ท่