มือของเขาเริ่มนำพาให้นางจับแท่งหยกรูดขึ้นลง ยิ่งรูดเขาก็ยิ่งอ้าปากหอบหายใจ เสียงครางต่ำของเขาช่างน่าฟังจนประหลาด นางลองบีบแรงอีกนิดรูดเร็วขึ้นอีกหน่อย เขาเริ่มตัวโค้งงอ
ผ่านไปครู่หนึ่งเขาก็ดันหลังคอของนางและจูบปากของนางอย่างเรียกร้อง หลี่เฟิ่งเซียนที่เงอะงะต้องจับแท่งเนื้อใหญ่โตของเขารูดอย่างไม่รู้ความแล้ว จึงได้แต่อ้าปากให้เขาดูดลิ้นของนางแทน
“อื้อออ” เขาดูดแรงมากจนนางรู้สึกเจ็บปลายลิ้น แต่แล้วเขาก็อ้าปากหอบพ่นลมร้อนๆ พร้อมๆ กับที่แท่งเนื้อร้อนระอุของเขาพ่นน้ำขาวขุ่นออกมา เลอะมือของนางและเขาเต็มไปหมด ทั้งยังเลอะไปยังต้นขาของนางด้วย
หลี่เฟิ่งเซียนตื่นเต้นจนใจจะขาด สังเกตอาการสุขสมของเขา นางรู้สึกว่าที่เขาดูดปลายลิ้นของนางจนเจ็บก็สมเหตุสมผล เพราะเขาดูมีความสุขจนลืมเลือนทุกสิ่ง แม้แต่ลมหายใจของเขายังสั่นเครือน่าฟัง
“ขอโทษ ทำเจ้าเปื้อนแล้ว” เขาพักอยู่ครู่หนึ่งจึงเอ่ยออกมา และจูบหน้าผากของนางอย่างอ่อนโยน
“งดงามมาก” หลี่เฟิ่งเซียนชื่นชมสามีตามที่คิด สายตามองเขาอย่างหลงใหลและเมามาย
“หึ ..” เขายิ้มอย่างพึงพอใจดึงนางมาจูบอีกครั้ง
“ข้ายังไม่สุขสมมากพอหรอกนะ เจ้ายังไม่ให้ข้าแตะ..ตรงนี้ ตามที่เจ้าสัญญา” เขาพูดกระซิบที่หูของนาง และตั้งใจใช้ริมฝีปากของเขาแนบที่ใบหูของนางเบาๆ อย่างยั่วเย้า
“เจ้า..ต้องยั่วยวนข้ามากเช่นนี้ด้วยหรือ ข้าหลงเจ้าทุกวันนี้ยังไม่พอใจเจ้าอีกหรือ” นางสะดุ้งเบาๆ
ลู่มู่เฉินถอนใบหน้าออกมามองภรรยาที่ซื่อตรงของเขา
“หึ ฮ่าๆ ข้าน่ะหรือยั่วยวนเจ้า” เขาหัวเราะยิ้มกว้างจนเห็นแก้มบุ๋ม ถามนางอย่างไม่แน่ใจ เขาเพียงพูดสิ่งที่ต้องการเท่านั้น แต่เขาก็ดีใจมากที่นางรู้สึกว่าเขายั่วยวนนาง
“ข้าเคยแต่งตัวงดงามเพื่อยั่วยวนเจ้าแต่ไม่สำเร็จ ยามนี้ข้าเพียงพูดความในใจของข้า เจ้ากลับบอกว่าข้ายั่วยวนเจ้าหรือ” เขาถามยิ้มๆ
“ตอนนั้นสำเร็จ ตอนนี้เจ้ายืนเฉยๆ ก็สำเร็จอีกเช่นกัน ข้าต่อต้านเจ้าไม่ไหวหรอกนะ เพียงเจ้ายืนใกล้ๆ ข้าก็รู้สึกเมามายอย่างบอกไม่ถูก” นางก้มหน้าเขินอายยอมรับตามจริง
ลู่มู่เฉินดึงเสื้อของเขาที่กองอยู่ตรงเอวมาเช็ดคราบของเขาออกคร่าวๆ จับหน้านางมาจูบ
“ข้า รักเจ้าจนเจ็บหัวใจไปหมด ข้าต้องทำอย่างไรดี” เขาตัดพ้อ
หลี่เฟิ่งเซียนตาโต ตัวแข็งค้าง อ้าปากค้างตกใจ นางไม่คิดว่าจะมีวันที่เขาบอกรักนาง
“หึ ทำหน้าเช่นไรของเจ้ากัน” เขายิ้ม จูบนางไปทีหนึ่งอย่างรักใคร่
“บอกข้า คราวหลังรู้สึกอย่างไรก็บอกข้า ข้า..ข้าอยากรู้ทุกสิ่งของเจ้า หากเจ้าไม่พูด ข้าจะรู้ได้อย่างไร มู่เฉิน..มู่เฉิน ข้า..ข้าก็รักเจ้า รักมาก” เสียงของนางสั่นเครือไปหมด นางต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการพูด
“ขอรับ ข้าทราบแล้ว ข้ารักเจ้า รักผู้เดียว รักมาก” เขาพูดเสียงเครือ และเริ่มจูบนาง รู้สึกหวานล้ำในใจจนไม่อาจเก็บไว้ จงใจให้ปลายนิ้วชี้เขี่ยไปที่หูของนาง แม้นางจะสะดุ้งแต่เขาไม่หยุด กลืนกินริมฝีปากของนาง ทั้งเลียและดูดดึง มือรีบคว้าสิ่งที่เขาหลงใหลมานาน ปลายนิ้วไล้ไปทั่วใบหูอย่างตั้งใจ
ลู่มู่เฉินไม่อยากสนใจสิ่งใดนอกใจติ่งหูนุ่มๆ ของนาง เขาจูบและลูบคลำอย่างโหยหา ดื่มด่ำกับความลุ่มหลงไม่อาจถอนตัวนี้ แม้หลี่เฟิ่งเซียนจะตัวเหลวเป็นน้ำ เขาก็เพียงปล่อยมือจากใบหู ช้อนตัวของนางให้เกยอยู่บนตัวเขา และดันให้นางหันด้านข้างเพื่อเขาจะได้ขบเลียติ่งหูได้ถนัด
เขาดูดดุนปลายหูของนางเข้ามาในปาก ใช้ลิ้นเขี่ยติ่งหูนุ่มเล่นตามที่เฝ้าฝันมานาน
“อะ อะ” ร่างของหลี่เฟิงเซียนทนสายฟ้าที่ฟาดมาทุกครั้งที่เขาขบกัดหรือดูดเม้มที่ปลายหูไม่ไหว แม้เขาจะกอดนางอยู่ แต่นางก็ค่อยๆ ไถลลงไปด้านล่างเรื่อยๆ เพราะขาของนางสั่นสะท้านจนควบคุมให้ยืนไม่ไหว
ทั้งสองคนล้มตัวไปนอนบนพื้น ลมหายใจของนางถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ จนแทบหายใจเข้าออกไม่ไหว กลายเป็นก้อนเหลวก้อนหนึ่งที่เขากอดเอาไว้ดูดกิน มู่เฉินเห็นว่านางชักกระตุกเบาๆ เขาจึงยอมปล่อยริมฝีปากจากหูของนางครู่หนึ่ง
น้ำลายเฉอะแฉะเต็มข้างคอและใบหู แต่นางกลับจิกเท้านอนตะแคงอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ผลท้ออวบอูมของนางเริ่มหลั่งน้ำแห่งความสุขมากมายจนควบคุมไม่ได้อีกครั้ง
“เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าไหวหรือไม่” เขาถามเสียงสั่นแหบพร่าเช่นกัน
หลี่เฟิ่งเซียนอ้าปากพะงาบพะงาบพูดไม่ออก
“ข้าขอโทษ ข้าลืมตัวไป ข้า..ข้า” เขารู้สึกผิดและรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน
“ไม่ ข้า..ไม่ใช่ มันรู้สึกแปลกๆ ..มู่เฉิน..มู่เฉิน..ข้าไม่รู้ ..ข้า..ถูกสายฟ้า..ฟาด” นางส่งเสียงแหบแห้งอย่างน่าสงสาร พูดแต่ละคำอย่างยากลำบาก แต่เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เขารู้สึกดีใจและตื่นเต้นจนควบคุมไม่ได้
“เฟิ่งเอ๋อร์ คนดี ข้าจะพาเจ้าขึ้นสวรรค์ ให้เจ้าได้รับรู้อารมณ์ของความสุขสมจนกระอัก” เขากระซิบและงับเข้าที่ปลายหูของนางทันที
“อื้อออ อึก..อ้า” นางร้องออกมาไม่เป็นภาษา เพราะเขาเริ่มสอดใส่เสาสวรรค์แท่งใหญ่ใส่กลีบดอกไม้แฉะของนางทั้งที่นางนอนตะแคง เขาขบกัดที่ปลายหู เขาตั้งใจจะมอบความหฤหรรษ์ที่นางไม่รู้จักให้ พานางไปยังสรวงสวรรค์ที่นางไม่เคยสัมผัส
“อื้อ..อ้า” ทุกสิ่งที่เขาทำไปพร้อมๆ กับการดูดเม้มปลายหูทำให้นางคิดสิ่งใดไม่ออก ได้แต่อ้าปากชักกระตุกตามแรงดันที่เขาสอดใส่เข้ามา
ปกติเขาจะค่อยๆ สอดใส่และค่อยๆ ขยับ แต่ครั้งนี้เขาเองก็สุขสมจนลืมตัว ใช้แขนดันเข่าของนางขึ้นมา ม้วนนางเป็นก้อน แล้วกระทุ้งใส่นางอย่างรุนแรง ไม่ลืมกัดปลายหูและเลียดื่มติ่งหูที่เขาหลงใหล
ความรู้สึกของหลี่เฟิ่งเซียน นางกำลังระเบิดออกทุกครั้งที่เขากระทุ้งใส่นาง ลิ้นนุ่มและริมฝีปากของเขาที่ครอบครองปลายหูของนางยิ่งทำให้หัวของนางว่างเปล่า เขากระทุ้งเข้ามาทีหนึ่งนางก็ระเบิดครั้งหนึ่ง เขาขบกัดครั้งหนึ่งก็ทำให้นางสุขสมจนกระอักลืมเลือนความเป็นไปของโลกนี้ไปชั่วขณะหนึ่ง
“อ้า..อา ..อ้า” หลี่เฟิ่งเซียนส่งเสียงอย่างควบคุมไม่ได้ กำสองมือจนแน่น นางจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทำเสียงอย่างไร ในหัวนึกไม่ออกว่าต้องข่มกลั้นเสียงน่าอาย ได้แต่ปล่อยให้เขานำพานางไปยังสรวงสวรรค์ที่นางไม่รู้จัก
ฮูหยินรองรับรู้ว่าเขากำลังเล่นสนุกกับร่องชมพูของนาง แต่นางขยับตัวไม่ไหว ได้แต่อ้าปากร้อง อ้ะอ้ะ ตามปลายนิ้วมือของเขา เมื่อนางตัวสั่นใกล้จะแตกดับอีกครั้งเขาก็สอดใส่มังกรตัวเขื่อนเข้ามา กระแทกกระทั้นไม่กี่ทีนางก็สูดปากด้วยความเสียวสั่นสะท้านเขารู้ว่านางไปถึงฝั่งแล้ว จึงกระแทกรัวๆไม่ยั้งเพื่อพาตัวเองไปยังจุดที่นางพานพบบ้าง เขาจับสะโพกของนางไว้แน่น ปรนเปรอภรรยาเด็กด้วยแรงทั้งหมดของแม่ทัพใหญ่ เสียวซ่านจนไม่มีเวลาคิดว่านางจะรับความรุนแรงนี้ไหวหรือไม่เมื่อพายุความหฤหรรษ์หยุดลง สองสามีภรรยาต่างเหน็ดเหนื่อยแทบสิ้นใจ เขาก้มลงจูบปลอบประโลมภรรยาอย่างอ่อนโยน แต่ก็ขบคอระหงของนางจนเป็นรอยด้วย นางร้องเบาๆแต่เขาไม่ใส่ใจ อาจเพราะเขาไม่ได้เข้าหอมานานจึงมีความต้องการสูงมาก เขาพลิกตัวฮูหยินรองและขึ้นไปขย่มนางบนเตียงต่อไป“ข้าไม่อยากรักท่าน” เสียงอ่อนแรงของเซี่ยอิงเอ่ยขึ้นระหว่างที่เขากำลังกอดกกนางอย่างหลงใหล“เพราะเหตุใด” เขาถามเสียงกระเส่า ไม่ได้ใส่ใจมาก“เพราะข้าไม่อาจแย่งชิงท่านกับท่านหญิงเจียงที่แม่น้ำไน่เหอ นางจะโดดเดี่ยว นางรอท่านมานานมาก” หญิงสาวพูดถึงชีวิตหลังความตายที่คู่รักจะรอกันและกันเพื่อข
ปัง! แม่ทัพหลี่ตบลงไปบนโต๊ะอย่างแรง ฮูหยินรองสะดุ้งหลับตาแน่น แต่ไม่ขยับหนีไปไหน และทำแค่ก้มหน้ามากกว่าเดิม เขาหงุดหงิดอยู่สักครู่ คิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น “ต่อไปข้าจะเรียกเจ้าว่าอิงเอ๋อร์ เจ้าก็ควรเรียกข้าว่าท่านพี่ได้แล้ว อย่างไรข้าก็แต่งตั้งเจ้าเป็นฮูหยินของข้าแล้ว ไม่ใช่อนุ” เขาเสียงเบาลง“เจ้าค่ะ ..ท่านพี่” นางยังถือเสื้อในมือก้มหน้าอยู่ข้างเขาเช่นเดิม แต่หายดื้อแล้ว หลี่เหยาพอใจ จึงลุกขึ้นยืน กางแขนออกให้นางใส่เสื้อให้แต่เพราะนางตัวเล็กถึงจะพยายามเอื้อมมือเพื่อใส่เสื้อให้เขา ท่วงท่าในตอนนี้จึงคล้ายนางกอดเอวเขาอยู่ และเขารู้สึกว่ายังคงอยากกระแทกใส่นางอยู่ จึงโอบกอดนางไว้ในอ้อมแขน“ข้าจะเข้าหอกับเจ้า ให้บุตรแก่เจ้าสักคน เอาไว้วันหน้าหากข้าตาย เจ้าจะได้ไม่โดดเดี่ยว แม้เฟิ่งเซียนของข้าจะไม่ใจดำกระทั่งปล่อยให้เจ้าโดดเดี่ยว แต่อย่างไร หากเจ้ามีบุตรของเจ้าเองย่อมดีกว่า” เขาตัดสินใจ“ไม่เจ้าค่ะ!” นางปฏิเสธทันที เงยหน้ามองเขา ส่งสายตาแน่วแน่ว่านางไม่ต้องการจริงๆ “เพราะอะไร!” หลี่เหยาโกรธจนเส้นเลือดข้างหัวเต้นตุบๆ นี่เขาถึงขั้นเอ่ยปากจะเข้าหอ แต่นางกลับปฏิเสธแทบจะทันทีไม่ต้องคิดด้วยซ้
พอนางไม่หนีและหอบหายใจถี่ให้เขาพึงพอใจ เขาก็เริ่มเบามือและปรนเปรอความเสียวซ่านให้นางด้วยสองมือ หญิงสาวบิดตัวไปมาตามแรงบดขยี้ของฝ่ามือแกร่ง เขาขยับฝ่ามือให้เร็วขึ้นนางก็สั่นตามแรงขยับนั้น จนนางเริ่มทนความสุขสมที่เขาปรนเปรอไม่ไหว จึงเริ่มดิ้นไปมา อ้าปากส่ายหัวอย่างน่ารักน่าเวทนา แต่เขาก็ทำเพียงกอดนางแน่นขึ้น และเร่งให้นางไปสู่ยอดเขาแห่งความสุขสมเร็วขึ้นด้วยการขยี้สะบัดปลายนิ้วไปมาแรงขึ้น“อา อา ซี๊ดดดด...ฮะ...ฮา..” นางกระตุกและสุดปากอย่างควบคุมไม่ได้ หมดแรงอยู่ตรงหน้าอกของเขาหลี่เหยารู้สึกร้อนลวกตรงแท่งหยกที่ใกล้ปริแตกของตัวเอง เพราะมันแนบอยู่กับผิวลื่นๆของนาง แต่เขาไม่ใส่ใจ ทำเพียงจ้องมองร่างที่สั่นเทาอยู่บนอกด้วยความพึงพอใจ เขาเห็นแล้วว่านางสุขสมจนแทบไม่มีแรงขยับ ใบหน้าแดงก่ำ หายใจหอบเหนื่อย แต่เขาอยากกลั่นแกล้งนางให้มากขึ้นจึงเอ่ยออกไป“ลุกขึ้น อย่ามานอนอยู่บนตัวข้า”ร่างของฮูหยินรองลืมตามองเขาอย่างไม่เข้าใจว่าเขายังต้องการอะไรอีก เป็นเขาที่ดึงนางให้แนบกับอกแม้นางจะพยายามหนี ยามนี้กลับทำเป็นรังเกียจที่นางนอนบนอกนี่หรือแม้นางไม่พอใจ แต่ฮูหยินรองกลับกัดฟันจับขอบถังและพยุงขาสั่นๆให้ลุ
ระหว่างเดินทาง ท่านแม่ทัพไม่ได้จับแท่งเนื้อยัดใส่ปากนางอีก แต่ก็กอดนางนอนทุกคืน ก่อนจะนอนมักจะถอดเสื้อผ้าของนาง เล่นกับหน้าอกนุ่มนิ่มและยอดชมพูของนาง ทำจนนางตัวสั่นไปหมดเขาถึงจะพอใจ แรกๆฮูหยินรองรู้สึกอายมาก เพราะเขาจะทำเช่นนั้นและมองนางทุรนทุรายทรมานอย่างพึงพอใจ แต่หลังๆนางชักจะโมโหที่ถูกกลั่นแกล้งเสมอ จึงเริ่มไม่ยอมให้เขาจับหน้าอกเล่นแล้ว นางค้นพบว่าหากแกล้งบีบน้ำตาเขาจะเบามือขึ้น หรือไม่ก็ไม่รังแกนางอีกแต่ถึงอย่างไร แม่ทัพหลี่ก็ยังคงเป็นแม่ทัพหลี่ เขาไม่ปรานีฮูหยินรอง ไม่จับหน้าอก ไม่เขี่ยยอดถันของนางเล่น แต่กลับจับก้นสะโพกและเขี่ยกลีบดอกไม้ตรงหว่างขาของนางเล่นแทน ทำจนนางร้องไห้เอ่ยปากบอกว่าทนไม่ไหวแล้วเขาถึงจะหยุดมือ เขาบอกว่าเป็นการทำโทษที่นางไม่รู้จักปรนนิบัติสามีมาหลายปีฮูหยินรองแม้จะร้องในใจว่าเป็นเขาที่ไม่ยอมมองนาง ทำตัวเป็นน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง แต่ใครจะกล้าพูดออกไปกัน แค่เขามองด้วยสายตาไม่พอใจ นางก็ต้องยินยอมให้เขาทุกอย่างแล้วกระทั่งไปถึงชายแดน มีพื้นที่สะดวกมากขึ้น นางนอนอีกห้อง แม่ทัพหลี่นอนอีกห้อง ฮูหยินรองถึงได้หายใจหายคอนอนหลับได้บ้าง แต่เพียงผ่านไปไม่กี่คืน หลังจากท
เวลาท่านแม่ทัพโมโห บางครั้งน่ากลัวราวกับเทพอสนีบาตก็ไม่ปาน บางคราวเย็นยะเยือกจนไม่มีผู้ใดกล้าขยับ มีแต่ฮูหยินรองที่ต้องรองรับอารมณ์ร้ายของท่านแม่ทัพฮูหยินรองไม่อยากอยู่ใกล้ท่านแม่ทัพนัก แต่จนใจเพราะท่านแม่ก็ป่วยและชรา ส่วนคุณหนูใหญ่ ถูกท่านเขยขังตัวอยู่ในห้องหอตลอดเช้าค่ำ อย่างไรก็ต้องเป็นนางที่ได้ดูแลเขาเสมอ ก่อนหน้านั้นที่นางได้รับอนุญาตให้ดูแลท่านแม่ทัพ นางดีใจอย่างโง่งมที่ได้รับความไว้วางใจจากคุณหนูใหญ่แล้ว แต่ยามนี้นางเริ่มรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอันใด ท่านแม่ทัพน่ากลัวยิ่งฮูหยินรองเฝ้ารอให้ถึงเวลาที่ท่านแม่ทัพจะกลับไปยังชายแดน เฝ้ารอให้ช่วงเวลาอันแสนสงบของนางกลับมาอีกครั้ง แต่เมื่อใกล้ถึงเวลานั้นจริง ท่านแม่กลับจะให้นางไปอยู่ชายแดนกับท่านแม่ทัพ และดูคล้ายว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมด้วย ส่วนคุณหนูใหญ่ที่เคยขัดขวางนางกับท่านแม่ทัพเสมอถึงขั้นเห็นดีเห็นงาม ขอร้องให้ท่านแม่ทัพมาพูดดีกับนางด้วยฮูหยินรองยังจำได้ดี เรื่องของคืนนั้น เมื่อคุณหนูใหญ่อุตส่าห์ขอร้องท่านแม่ทัพให้พูด ‘คำพูดดีๆ’ กับนาง เมื่อนางเข้ามาในห้อง เขาไม่พูดสักคำ เอาแต่จ้องนางสายตาว่างเปล่า คราแรกฮูหยินรองยังนึกว่าเขา
หลังจากแม่ทัพหลี่และหลี่เฟิ่งเซียนออกมาจากวังหลวง เดินเข้าประตูจวนเข้ามาแล้ว แม่ทัพหลี่ถึงจะยอมแสดงความอ่อนแอออกมา เขามีทั้งแผลโดนแทงและแผลถูกเกาทัณฑ์ยิง สาหัสชนิดที่ถ้าเป็นผู้อื่นคงยืนอยู่ไม่ไหว แต่เขายังเสแสร้งว่าแข็งแกร่งยืนค้ำฟ้าในท้องพระโรงได้อยู่นานสองนานหลังจากมู่เฉินรักษาบาดแผลให้ท่านแม่ทัพแล้วก็กำชับฮูหยินรองว่าท่านแม่ทัพอาการสาหัสยิ่ง บาดแผลไม่ลึกถึงขั้นเอาชีวิตได้ แต่ท่านแม่ทัพคงหนีตายพร้อมแผลพวกนั้นมาหลายวัน ไม่มีเวลาดูแลรักษาให้ดี ตอนนี้แผลได้ติดเชื้อลุกลามไปมากแล้ว จำเป็นต้องมีคนดูแลใกล้ชิดคอยทำความสะอาดแผลให้ทุกครึ่งชั่วยามท่านแม่ทัพนอนหลับไปเพราะพิษบาดแผลและฤทธิ์ยาที่มู่เฉินจัดให้ ก่อนหลับไปท่านแม่ทัพรู้สึกชื่นชมเขยคนนี้มาก และชื่นชมตัวเองที่ตัดสินใจไม่ผิด จากนี้ถึงเขาจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ต้องห่วงลูกสาวแล้วกลางดึก แม่ทัพหลี่ได้ยินเสียงคนกระซิบกระซาบบางอย่าง ปลุกเขาให้ตื่นขึ้นมาท่ามกลางความวิงเวียนและรู้สึกอยากอาเจียน“เจ้าเบาเสียงลงอีก นายท่านเป็นทหารที่หูดีมาก เขาต้องคอยระวังตัวตลอดเวลาจึงทำให้หลับไม่สนิท ถึงเขาจะป่วยอยู่ แต่เจ้าอาจทำให้เขาตื่นได้” “ได้เจ้าค่ะ ..ท่