ร้านตัดเสื้อของท่านแม่ตกแต่งภายนอกและภายในเสร็จเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่สั่งของเข้าร้านเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นผ้าไหมหรือว่าเข็มและด้ายชนิดต่างๆ วันนี้เธอว่างงาน เบลล่าก็เลยตั้งใจจะไปแอบดูที่คฤหาสน์แม็คซิมัส เธอจะต้องจัดการเรื่องที่มันค้างคาในใจเสียก่อน!!
แค่ผ่านไปแอบๆ ดูก็พอ เธอมั่นใจว่าพอเห็นหน้าของท่านดยุคแล้ว เธอจะเดานิสัยใจคอของเขาได้ไม่ยาก วันนี้อากาศดี เพราะฉะนั้นเบลล่าเลือกจะเดินไปเรื่อยๆ ตามคำบอกกล่าวของเซ็ดดริดแล้ว คฤหาสน์แม็คซิมัสอยู่ไม่ไกล เธอใช้เวลาไม่นานก็มาถึงหน้าคฤหาสน์แม็คซิมัส เบลล่าเงยหน้าขึ้นมองคฤหาสน์ที่แสนจะใหญ่โตและงดงาม เท่าที่เธอให้เซ็ดดริกไปสืบความเป็นมาของท่านดยุคแบบคร่าวๆ เขาได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูลตั้งแต่อายุสิบห้า…เขาเป็นลูกคนเดียวและตระกูลแม็คซิมัสก็ร่ำรวยมากๆ เช่นนั้นเธอก็สามารถตัดเรื่องที่เขาจะมาหลอกเอาเงินของคิร่าออกไปได้เลย… จริงๆ แล้วเบลล่าไม่อยากจะมองผู้ชายทุกคนว่าจะเลวร้ายเช่นท่านพ่อของเธอเลย แต่มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ เพราะในวัยเด็กเธอเติบโตขึ้นมาท่ามกลางท่านพ่อที่เห็นแก่เงินและพี่ชายที่วันๆ กินแต่เหล้าและติดการพนันอย่างหนัก พอเห็นคฤหาสน์ที่ใหญ่โตของแม็คซิมัสแล้ว มันก็ทำให้เธอเบาใจลงไปได้เยอะทีเดียว คราวนี้ก็เหลือแค่เรื่องหน้าตาและเรื่องสตรีเท่านั้น!! ซึ่งเรื่องพวกนี้จะต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์ เบลล่าเดินผ่านไปเรื่อยๆ เธอก็เจอกับรถม้าตระกูลแม็คซิมัสที่เคลื่อนเข้าไปในคฤหาสน์พอดี!! นี่อาจจะเป็นโชคดีของเธอเลยก็ว่าได้เพราะเธออาจจะมีโอกาสได้เห็นหน้าของท่านดยุค เบลล่ากระชับหมวกปีกกว้างให้ลงมาปิดบังหน้าของเธอเอาไว้ก่อนจะเดินผ่านหน้าประตูคฤหาสน์ช้าๆ เธอปรายตามองบุรุษที่เดินลงมาจากรถม้า… ผมสีดำและร่างกายที่สมส่วน…ใบหน้าไม่ต้องพูดถึง ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก!! เบลล่ายกยิ้มก่อนจะเดินผ่านหน้าคฤหาสน์แม็คซิมัสอย่างอารมณ์ดี ดีแล้ว..ดีมากจริงๆ!! ทีนี้ก็เหลือเพียงเรื่องเดียวที่เธอต้องหาโอกาสทดสอบ นั่นก็คือเรื่องสตรี!! อยู่ๆ ก็มีสายลมพัดผ่านเบลล่าไปอย่างแรง ความแรงของลมได้หอบเอาหมวกของเธอปลิวไปด้วย เบลล่ารีบวิ่งไปเก็บหมวกที่หล่นอยู่ที่พื้น!! “บังเอิญจังเลยนะเบล!” เธอเงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกดีใจ เบลล่านั้นได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ กลับไปให้คิร่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” เธอรีบเดินเข้าไปถามคิร่าทันที “ท่านดยุคแม็คซิมัสส่งจดหมายขอหมั้นไปที่คฤหาสน์ ท่านพี่ก็เลยพาข้ามาเพื่อพูดคุยถึงกำหนดวันหมั้น” สาบานได้เลยว่าความรู้สึกของเบลล่าในตอนนี้มันราวกับว่ามีฟ้าผ่าลงมาที่หัวของเธอในเวลากลางวันแสกๆ!! นี่มันอะไรกัน!! “แล้วเจ้าก็เลยตกลง!! เจ้ารู้จักท่านดยุคดีแล้วงั้นเหรอ?” คิร่าส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน “มานี่สิ…ข้าจะเล่าให้ฟัง” คิร่าพาเธอเดินไปที่ร้านน้ำชาถัดจากคฤหาสน์ไปหน่อย “ตระกูลแม็คซิมัสต้องการให้ท่านพี่ไปลงทุนเรื่องถ่านหิน กลับกันท่านดยุคจะแลกกับให้เคนเนดี้ยืมที่ดินทำไร่สมุนไพร…” เบลล่ายกมือขึ้นมาจับมือของคิร่า “..บางทีข้าก็ไม่อาจเข้าใจคนที่มีเงินมากๆ เหมือนกันนะ ในเมื่อรวยขนาดนั้นแล้วยังจะอยากได้เงินไปทำอะไรอีก” เธอกล่าวพร้อมกับมองไปที่คิร่าด้วยความเป็นห่วง “มันเป็นเรื่องของความมั่นคงไงเบล..ถึงแม้การแต่งงานในครั้งนี้จะไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยว แต่มันก็รับประกันได้แน่นอนว่าข้าจะไม่ลำบาก และเคนเนดี้ก็จะมั่นคงขึ้นด้วย เมื่อข้าแต่งงานกับท่านดยุคข้าก็จะได้เป็นดัชเชสแห่งแม็คซิมัส….” “เจ้า..โอเคใช่ไหม?” “มีเรื่องอะไรให้ต้องคิดมากมายกัน ชนชั้นสูงไม่มีการแต่งงานเพราะความรักอยู่แล้ว ทุกคนต้องแต่งงานกับคนที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และท่านดยุคก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุดของข้าในตอนนี้” เบลล่ามองไปที่คิร่า นี่มันราวกับว่าเธอได้ยกภูเขาออกไปจากอก เรื่องที่เธอหนักใจมาตลอด จบลงอย่างง่ายดายเพราะคิร่าเป็นคนมีเหตุผล เธอเลือกที่จะทำสิ่งที่ควรทำ มากกว่าสิ่งที่อยากทำ และใบหน้าที่งดงามของคิร่าในตอนนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าเธอกำลังเสียใจเลย “กำหนดหมั้นคืออีกสองเดือนข้างหน้า ส่วนกำหนดงานแต่งคือปีหน้า” “ข้าขอยินดีกับเจ้าล่วงหน้าเลยนะ” จบ…จบลงแล้ว ทั้งภารกิจแรกของเธอและการแสร้งเป็นเพื่อนคิร่า ต่อจากนี้เธอก็คงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องไปที่เคนเนดี้อีกแล้ว ทุกอย่าง…จบลงสักที จบลงอย่างง่ายดาย “เหตุใดถึงทำหน้าเศร้าเช่นนั้น เบลเองก็ควรจะรีบแต่งงานมีสามีดีๆ สักคนสิ” เบลล่าหัวเราะเบาๆ “คิร่า…ข้านั้นไร้ประโยชน์ ถึงจะเป็นตระกูลเคาน์ก็จริง แต่เมบิลมิได้ยิ่งใหญ่เช่นเคนเนดี้ ข้าต่ำต้อยและก็จนมากๆด้วยผู้ชายดีๆ ที่ไหนเขาจะมาสนใจข้าล่ะ เจ้าพูดเองไม่ใช่รึไงว่าชนชั้นสูงส่วนใหญ่ก็แต่งงานเพราะผลประโยชน์ทั้งนั้น” “ถึงอย่างนั้นข้าก็มั่นใจ ว่าจะต้องมีคนดีๆ รอเจ้าอยู่อย่างแน่นอน!” เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า “เช่นนั้นวันนี้ข้าควรจะเข้าไปเก็บของที่คฤหาสน์เคนเนดี้” คิร่าส่งยิ้มให้เบลล่า “เบล เจ้ายังต้องสอนข้าจนกว่าข้าจะเรียนจบหลักสูตร อย่าได้คิดว่าจะออกจากเคนเนดี้ง่ายๆ ข้าต้องเรียนให้จบเสียก่อน เพราะจะต้องไปเรียนมารยาทของชนชั้นสูงอย่างละเอียดอีกครั้ง” “อ่า..อย่างนั้นเองเหรอ ข้าคิดว่าจะไม่ได้ไปสอนเจ้าแล้ว…” ทำไม ถึงดีใจกันนะ… ทำไมหัวใจมันถึงดีใจ แค่เพียงคิร่าพูดว่ายังต้องการให้เธอไปสอน…นั่นหมายความว่าเธอยังจะได้เป็นเพื่อนกับคิร่าไปอีกสักระยะใช่ไหม? “ไปเถอะ..ข้าจะแนะนำให้เบลรู้จักกับท่านดยุคโลเวล” เบลล่ายกยิ้ม ก่อนจะเดินตามคิร่าไปยังคฤหาสน์แม็คซิมัส ทุกก้าวที่เธอเดินเข้าไปมันทำให้หัวใจของเธอนั้นเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากๆ ก็คือมือของคิร่าที่จับจูงเธอเดินเข้าไปอย่างมั่นคง เราเดินมาเรื่อยๆ จนถึงห้องรับรอง คฤหาสน์แม็คซิมัสมีสีน้ำเงินทั้งภายนอกและภายใน ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็ดูหรูหรามากทีเดียว “ขออภัยที่หายไปโดยไม่ได้บอกกล่าวค่ะ พอดีข้าพบเบลโดยบังเอิญ….” ท่านเคาน์เคนเนดี้ส่งยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนเช่นเคย แต่ทว่าท่านดยุคนั้นไม่แม้แต่จะปรายตามองเบลล่าด้วยซ้ำ เธอนั่งลงข้างๆ คิร่า ก่อนจะยกยิ้มจางๆให้ท่านเคาน์ “ข้าไม่คิดว่าควรพาคนนอกเข้ามา ในการพูดคุยเรื่องสำคัญระหว่างเรา…” เบลล่ารู้สึกว่าหน้าของเธอมันกำลังชา ราวกับมีน้ำเย็นจัดสาดเข้ามา “เบลไม่ใช่..!!” เธอรีบฉุดแขนของคิร่าเอาไว้ “ข้า…ไปที่รอข้างนอกดีกว่า ที่ท่านดยุคกล่าวมาก็มีเหตุผล ขออภัยด้วยค่ะ เป็นข้าเองที่ดึงดันจะเข้ามาเพราะต้องการทำความรู้จักกับว่าที่คนรักของสหาย ขอให้ท่านดยุคให้อภัยในการเสียมารยาทของข้าครั้งนี้ด้วยค่ะ” เบลล่ายกยิ้มให้ดยุคแม็คซิมัสก่อนที่เธอจะเดินออกไป ให้ตายเถอะ!! ทำไมเธอสัมผัสได้ถึงความห่วยแตกของชายผู้นั้นกันนะ! เบลล่าถอนหายใจ บางทีเธอเองก็ควรจะมีสายข่าวที่เป็นของเธอเองบ้าง… นี่เป็นครั้งแรกที่เบลล่ารู้สึกว่าเธออยากจะเติบโตมากกว่านี้! ……. “รายงานมา….” “เลดี้ไปแอบดูที่คฤหาสน์แม็คซิมัส แล้วก็บังเอิญได้พบกับเลดี้เคนเนดี้พอดี….” เลโอเงยหน้าขึ้นมองเซ็ดดริก “นางรู้ที่ตั้งของคฤหาสน์แม็คซิมัสได้ยังไง?” เซ็ดดริกกำมือแน่น ก่อนจะเหลือบมองท่านดยุค “ข้า..เป็นคนบอกกับนางเองครับ?” “หึ!…นี่เจ้ากลายเป็นคนของเมบิลไปแล้วรึไง!! เซ็ดดริกเจ้าทำงานกับข้ามานาน ควรจะรู้ถึงนิสัยของข้า…อย่าได้ทำอะไรที่เกินคำสั่งอีก!” “ครับ” “ออกไปได้!!..บอกเบลให้มารับเงินด้วย ทางแม็คซิมัสจ่ายค่าจ้างมาเรียบร้อยแล้ว” เซ็ดดริกก้มหน้าลงก่อนจะเดินออกไป เขาถอนหายใจเล็กน้อย…ให้ตายเถอะหากเลดี้เบลล่าล่วงรู้ว่าเขานั้นรายงานทุกความเคลื่อนไหวของเธอให้กับท่านดยุครู้แล้วละก็ มีหวังเธอจะต้องโกรธเขาแน่ๆ แต่เขามีทางเลือกมากนักรึไง!! ได้แต่หวังว่าเธอจะโกรธเขาอย่างพอดีและไม่ไล่เขาออกจากเมบิล ใบหน้าของเซ็ดดริกขึ้นเป้นสีแดงระเรื่อ นั่นเป็นเพราะว่าเขายังอยากจะดูแลท่านฮันน่าต่ออีกสักหน่อย… …….. ถึงแม้อายุจะเลยเลขสามมานานแล้ว แต่ใบหน้าของฮันน่าก็ยังคงงดงามราวกับอายุยี่สิบต้นๆ…เธอรวบผมขึ้นมาก่อนจะเริ่มทำความสะอาดร้านตัดเสื้อของเธอ.. ใบหน้าที่งดงามของฮันน่ายกยิ้มอย่างมีความสุข “ช่างน่าขำที่เจ้าต้องมาทำงานชั้นต่ำเช่นนี้!” ฮันน่าเงยหน้าขึ้นมาก็พบใบหน้าที่เหี่ยวย่นของหญิงชรา เธอวางไม้ถูพื้นลงก่อนจะหยิบผ้ามาเช็ดที่เก้าอี้ “เชิญนั่งก่อนค่ะ…” หญิงชราถอนหายใจ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ราคาถูก “ข้าได้ยินว่าเจ้าหย่ากับแกริคแล้ว?” “ค่ะ…ข้าหย่ากับเขาได้ห้าเดือนแล้วค่ะ” “แล้วเหตุใดถึงไม่กลับไปที่เมเบโล่!!” เธอเงยหน้าขึ้นมองหญิงชราด้วยดวงตาที่รื้นไปด้วยน้ำตา “ลูกไม่อาจกลับไปหาท่านแม่ในสภาพเช่นนี้ได้…ไม่อาจที่จะเงยหน้ามองใบหน้าของท่านแม่ได้เต็มตา ชีวิตที่เลือกเดินผิดพลาดนั้น ลูกจะขอรับมันเอาไว้เอง” “เฮเลนตายแล้ว…ตอนนี้ที่คฤหาสน์เหลือเพียงแม่ที่ชราของเจ้ากับฮาร์ทเท่านั้น” ฮันน่าเม้มปากแน่น “ข้าได้ยินว่าเจ้ามีลูกสาว..ที่เกิดจากสายเลือดต่ำทรามของแลนเดอร์” “ค่ะ…นางเป็นเด็กน่ารักมากทีเดียว” “ฮันน่า…แม่จะยื่นข้อเสนอให้เจ้าครั้งสุดท้าย กลับไปที่เมเบโล่ ทิ้งสายเลือดที่โสโครกของแลนเดอร์ไปซะ แล้วไปแต่งงานกับแกรนด์ดยุคกูเรี่ยน เจ้าจะได้กลับไปใช้ชีวิตที่มีเกียรติ เจ้าจะได้เป็นท่านหญิงกูเรี่ยนและเมเบโล่ก็จะหนุนหลังเจ้า หากเจ้าให้กำเนิดลูกชาย เขาก็จะเป็นเด็กที่เกิดจากสายเลือดสูงส่งระหว่างเมเบโล่และกูเรี่ยน…” ฮันน่ากำมือแน่น!! “ท่านแม่ ลูกขอบคุณที่ท่านแม่ยังคงนึกถึงลูก แต่ลูกไม่อาจทอดทิ้งเบลได้ ท่านแม่เองก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือคะ ว่าคนเป็นแม่ไม่อาจจะทอดทิ้งเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองไปได้ ท่านแม่น่าจะเข้าใจลูกมากกว่าใคร แล้วเหตุใดถึงมาบังคับให้ลูกต้องทำในสิ่งที่ท่านแม่ยังทำไม่ได้” หญิงชรามองที่ฮันน่า ก่อนจะส่ายหน้า “ข้าไม่อาจทอดทิ้งเจ้าไป เพราะในตัวของเจ้ามีสายเลือดที่สูงส่งของเมเบโล่ แต่กับเด็กคนนั้นไม่ใช่! มันไม่เหมือนกัน” ฮันน่ายกมือข้นปาดน้ำตาก่อนจะยกยิ้มจางๆ ให้หญิงชรา “ลูกมิอาจทำตามที่ท่านแม่คาดหวังได้หรอกค่ะ ลูกมิต้องการกลับไปใช้ชีวิตในเมเบโล่อีกแล้ว” “ฮันน่า อย่างลองดีกับข้า เจ้ารู้ถึงอำนาจของเมเบโล่ดีกว่าใคร ข้าเลือกจะมาคุยกับเจ้า นั่นคือข้าเมตตาต่อเจ้ามากๆแล้ว อย่าให้ข้าต้องเลือกที่จะทำลายเจ้า….” “หากท่านแกรนด์ดัชเชสทำลายแม่ของข้า ข้าก็จะปกป้องท่านแม่ของข้าเองค่ะ” เบลล่าเดินเข้ามาก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาให้ท่านแม่ ในแววตาของหญิงชรานั้นมีความตกใจอยู่หลายส่วนที่เห็นหน้าของเบลล่า “สายเลือดโสโครกของแลนเดอร์!” เบลล่ายกยิ้มให้หญิงชรา “ข้าใฝ่ฝันที่จะได้เจอแกรนด์ดัชเชสมาตลอด เพราะข้าอยากจะรู้ว่าท่านเลี้ยงท่านแม่มายังไง ให้ท่านแม่เป็นคนที่อดทนมากขนาดนั้น แต่พอมาเจอท่านในวันนี้ข้าก็ไม่แปลกใจแล้ว…ท่านแม่คงจะต้องอดทนกับท่านมามากพอสมควร” หญิงชราลุกขึ้นจากเก้าอี้ก่อนจะหัวเราะ “ฮันน่า…ข้าผิดหวังที่เจ้าไร้ความสามารถในการอบรมบุตรสาวถึงเพียงนี้ แต่ข้าก็พอจะเข้าใจได้ว่าผลผลิตจากชายชั่วผู้นั้น ก็คงจะไม่ต่างจากพ่อเท่าไหร่” พอกล่าวจบหญิงชราก็เดินออกไปจากร้านทิ้งให้เบลล่ายืนมองอย่างโกรธแค้น!เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ