“หนูเบลเป็นคนขอร้องให้ข้ามาดูแลฮันน่า..”
“ท่านไม่ควรเรียกชื่อของท่านหญิงผู้สูงส่งแบบนั้นนะครับ” “นางเป็นคนอนุญาตให้ข้าเรียกเอง!!” “ถึงอย่างนั้นท่านก็ควรจะใช้หัวคิดของท่านไตร่ตรองถึงความเหมาะสม…” ฮันน่าถอนหายใจ เธอปวดหัวกับบุรุษทั้งสองนี่เหลือเกิน!! พวกเขาพูดคุยกันได้สามสี่คำก็จะชวนกันไปต่อยตีข้างนอก..เธอห้ามจนรู้สึกเหนื่อยที่จะห้ามแล้ว ถ้าหากพวกเขายังจะต่อยตีกันอีก ฮันน่าคิดว่าเธอปล่อยให้พวกเขาต่อยกันซะให้พอใจ โดยที่เธอจะไม่ห้ามอีกแล้ว!! ฮันน่ามองไปที่ด้านหน้าคฤหาสน์ก็พบว่ามีรถม้าที่ดูหรูหรามาจอดที่หน้าประตู เธอลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปดูแต่ชายที่ลงมาจากรถนั้นเดินเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว “เบลไม่สบายงั้นหรือครับ..” ฮันน่าส่งยิ้มให้บุรุษที่ดูจากการแต่งกายแล้วเขาน่าจะเป็นชนชั้นสูง “ข้าขึ้นไปดูมาแล้ว นางน่าจะอ่อนเพลีย….” “ข้าจะขึ้นไปดูนางครับ!!” เซ็ดดริกมองหน้าท่านดยุคอย่างอึ้งๆ..ตามธรรมเนียมแล้วบุรุษที่ยังไม่แต่งงานไม่ควรจะเข้าไปในห้องสตรี..นั่นถือเป็นการดูหมิ่นเกียรติสตรีผู้นั้นอย่างมาก “อ่า..นั่นอาจจะดูไม่เหมาะสม…..” “ข้าจะพาท่านแม่มาสู่ขอเบลไปเป็นดัชเชสทันทีที่นางอนุญาต งานแต่งของเราจะจัดงานสามวันสามคืนพร้อมกับเลี้ยงฉลองอย่างยาวนานอีกสามเดือน! ตระกูลโอเว่นจะไม่มีทางทำให้นางเสื่อมเสียเกียรติแน่นอนขอให้ท่านแม่วางใจได้เลยครับ!” หลังจากกล่าวจบเลโอก็เดินขึ้นบันไดไปทันทีโดยไม่รอให้ฮันน่าเอ่ยคำใด “ถะ..ถึงจะดูโผงผางไปบ้าง แต่ท่านดยุคนั้นรักเลดี้เบลล่าจริงๆ นะครับ” เซ็ดดริกส่งยิ้มจางๆ ให้ฮันน่า “หากว่าเป็นแบบนั้นข้าก็โล่งใจค่ะ…” “ปกติแล้วท่านดยุคไม่ใช้ความรุนแรงเลยครับ ท่านเป็นคนอ่อนโยนโดยเฉพาะกับเลดี้เบลล่าที่ท่านรัก…” “ผลัวะ!!!” “ใครมันกล้าทำอะไรเจ้าอีก!!!..เซ็ดดริกบอกว่าเจ้าไม่สบาย บอกมาสิว่าไอ้หน้าไหนมันกล้ามาแตะต้องเจ้า!!!” เสียงของเลโอดังลงมาจนถึงชั้นล่าง เซ็ดดริกยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมบนหน้าผาก ส่วนฮันน่าได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ กลับไปให้เซ็ดดริก “ความรักหนุ่มสาวก็เป็นเช่นนี้ ฮันน่าไม่ต้องเป็นห่วงนังหนูเบลหรอกน่า..เราไปดูผ้าไหมที่สั่งกันเถอะ วันนี้ต้องจัดของเข้าร้านด้วยนี่” “จริงด้วยสิ…เช่นนั้นฝากท่านเซ็ดดริกดู…” “ไปด้วยครับ ข้าจะไปด้วย!!” ฮันน่าเลิกคิ้วมองเซ็ดดริกก่อนที่เธอจะยกยิ้มเพื่อเป็นมารยาท “ค่ะ..ไป..ไปกันเถอะค่ะ!” บางทีฮันน่าก็คิดว่าเธอมาคนเดียวน่าจะดีกว่ามากับพวกเขาทั้งสองคน เพราะท่านเจคอปและท่านเซ็ดดริกยังคงเถียงกันไปตลอดทาง เบลล่ากลืนน้ำลายลงคอ ก่อนที่เธอจะยกยิ้มและลุกขึ้นไปหาเลโอ…เขาคงจะกำลังโกรธมากสินะที่เธอไม่ไปหาเขา แก้ตัวไปก็มีแต่ต้องเถียงกันไปเปล่าๆ เธอยกมือขึ้นมาโอบกอดเขาเอาไว้ก่อนจะก้มลงซบที่อกของเขา “อันที่จริงข้าไม่ได้ป่วยค่ะ” เลโอเลิกคิ้วมองใบหน้าของเบลล่าก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพาไปที่เตียง “...ไม่อยากไปพบข้า?” “ใครจะไปคิดเช่นนั้นได้คะ…ข้าเพียงแค่อยากให้ท่านเลโอเป็นฝ่ายมาหาข้าบ้าง…” นี่เธอ…เรียกชื่อเขางั้นหรือ? เลโอรู้สึกว่าหัวใจของเขามันกำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ใจดวงน้อยของเขากำลังสั่นไหวเพียงแค่เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่แว่วหวานของเธอ “ข้าชอบนะ…ชอบให้เจ้าเรียกชื่อข้า” เบลล่ายกยิ้ม…ที่จริงเธอกำลังนึกขำในใจ นี่มันราวกับว่าเธอสามารถกุมจุดอ่อนของดยุคโอเว่นเอาไว้ได้เลยแฮะ สิงโตตัวใหญ่กลายเป็นแมวเชื่องๆ ไปแล้ว.. เลโอวางเบลล่าไว้บนเตียงก่อนที่เขาจะลุกขึ้นถอดกระดุมเสื้อตัวเอง เบลล่ารีบลุกขึ้นมาจับมือของเขาเอาไว้ “ท่านพึ่งจะพังประตูห้องข้าไป…ยังจะกล้าทำเรื่องแบบนั้นอีกงั้นหรือคะ?” เลโอชะงัก เขามองไปที่เศษซากประตูที่เขาถีบเข้ามาอย่างหงุดหงิด!! “เช่นนั้นไปที่บ้านข้า!” “ข้ายังไม่ได้อาบน้ำ…” เลโออุ้มเบลล่าขึ้นมาโดยที่เขาไม่สนใจคำกล่าวใดของเธออีกแล้ว เขาพาเธอมาที่รถม้าก่อนจะบอกให้คนขับรถม้าเร่งความเร็ว… เขาโอบกอดและพรมจูบที่ซอกคอของเธอราวกับว่ากลิ่นกายของเธอคือยาวิเศษที่สามารถรักษาอาการคลุ้มคลั่งของเขาได้… “ท่านเลโอ..นี่บนรถม้านะคะ” เลโอยกมือขึ้นมากอบกุมที่หน้าอกของเธอเอาไว้ เขาถกชุดนอนสีขาวของเธอขึ้นมาพร้อมทั้งดึงกางเกงซับในของเบลล่าออก “ใครสนกัน…” เบลล่าคิดว่าเธอจะเลิกใช้รถม้าไปสักพัก เพราะเธอจะถูกรังแกทุกครั้งที่นั่งรถม้า!! เลโอนั่งลงที่พื้นเขามองใบหน้างดงามของเบลที่กำลังขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เขายกมือขึ้นไปกอบกุมที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอ และจับมือของเธอมากุมที่หัวใจของเขาเช่นกัน “มันเต้นแรง…เฉพาะอยู่กับเจ้าเท่านั้น” เบลล่าถึงกับลมหายใจติดขัดเมื่อเลโอกล่าวคำที่มันดูราวกับว่าเขากำลังสารภาพรักเธอ เขากางขาของเธอออก…ก่อนจะเริ่มต้นชิมรสชาติที่หวานล้ำของเธอ… รถม้าเคลื่อนตัวไปช้าๆ อย่างไม่เร่งรีบ อีกทั้งพอถึงตลาดก็เคลื่อนตัวได้ช้าลงเป็นอย่างมาก เธอหอบหายใจแรงแต่ไม่กล้าส่งเสียงครางออกมาเพราะเธอกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน ลิ้นของเลโอนั้นร้ายกาจ มันตวัดเลียรอบๆ ก่อนจะมาเน้นตรงเม็ดเสียวของเธอ…เบลล่าทำได้เพียงยกมือขึ้นมาจับเส้นผมของเลโอเอาไว้ “อื้อ!!” เลโอสอดนิ้วเข้าไปด้านในช้าๆ…ขนาดของเธอยังคงเล็กไปอยู่ดีเมื่อเทียบกับขนาดของเขา ทั้งๆ ที่เธอผ่านการร่วมรักมาแล้วแต่ด้านในของเธอยังคงคับแคบจนน่าเป็นห่วงว่าเธอจะรับเขาเข้าไปได้ไหม… “เลโอ..ยะ..หยุดก่อน!” มีเสียงพูดคุยดังขึ้นโดยรอบเพราะเราอยู่ที่ตลาด…เบลล่านั้นหวาดกลัวว่าเขาจะทนไม่ไหวจนเผลอทำเกินเลยกว่านี้บนรถม้า…หากว่าเป็นเช่นนั้นเธอคงจะมิอาจเก็บกักเสียงไว้ได้อีก… “วางใจ ข้าเพียงจะทำให้เจ้าพร้อมเท่านั้นเอง” เขาเห็นความหวาดกลัวในแววตาของเธอ แสดงว่าลีลาเคาน์เคนเนดี้ห่วยมากสินะ…ถึงทำให้เธอไม่มั่นใจว่าเขาจะทำให้เธอมีความสุข เลโอแสยะยิ้ม ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าของเบลล่ามาจูบ… “อื้อ!!” ไม่ปล่อยไปแล้ว ปล่อยมือจากเธอไม่ได้อีกแล้ว…เขาไม่คิดว่าวันนี้เขาจะสามารถปล่อยเบลล่าไปได้อีกแล้ว ต่อให้ไฟไหม้หรือว่าพายุถล่มเขาก็ต้องครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเธอให้ได้… รถม้าเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคฤหาสน์โอเว่น เขาใช้เสื้อคลุมของเขาพันร่างของเบลล่าเอาไว้ก่อนจะอุ้มเธอเข้าไปในคฤหาสน์ “หากวันนี้มีใครมารบกวนการพักผ่อนของข้า ข้าจะตัดลิ้นมันผู้นั้นทิ้งเสีย!!!” เลโอกล่าวกับพ่อบ้านก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องนอน เบลล่ารู้สับอับอายจนเธอต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ เขาวางเธอลงที่พื้นก่อนจะถอดสิ่งต่างๆ ที่ปกคลุมร่างกายของเธอออกมา มือของเขาจับจูงมือของเบลล่าไปที่อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ “เจ้าทำให้ข้ารู้ว่าการรอคอยมันช่างยาวนาน…” เธอยกยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นมาถูตัวให้เขา “ท่านทำให้ข้ารู้…ว่าการหลบหนีมันไร้ประโยชน์….” เลโอจับมือของเธอให้ไปจับที่ตัวตนของเขา “เหตุใดถึงคิดจะหลบหนี ต่อให้มีปีกเจ้าก็ไม่อาจจะบินหนีข้าพ้น” สองมือของเธอสัมผัสเบาๆที่ตัวตนของเขา…เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “เลโอนี่มัน…” “ข้าจะอ่อนโยน…เหตุใดต้องหวาดกลัว?” มือของเธอไม่สามารถที่จะกำมันมิด..เบลล่าคิดว่าเธอไม่อาจจะรับเขาเข้าไปแน่ๆ…ครั้งที่แล้วกับโคลด์เธอยังรู้สึกเจ็บเจียนตาย… “อย่าได้คิดเอาข้าไปเทียบกับคนห่วยแตกอย่างเคาน์เคนเนดี้…เบล เจ้าควรจะเชื่อใจข้าสิ” เขาพาเธอมาที่เตียง เลโอเช็ดตัวให้เธออย่างอ่อนโยน…อารมณ์ของเบลล่านั้นยังคงคุกรุ่นมาตั้งแต่บนรถม้า ส่วนล่างของเธอมันกำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่น… เลโออ้าขาของเธอออก เขาก้มลงไปดูดกลืนน้ำหวานเหล่านั้นอีกครั้ง เบลล่าขมวดคิ้วก่อนที่เธอจะหลับตาลง ร่างกายของเธอมันสั่นสะท้านกับทุกจังหวะที่ลิ้นของเขาขยับ “อ๊ะ!!..อื้อ!!” เขาทำเร็วและรุนแรงกว่าตอนอยู่บนรถม้าเยอะเลย ลิ้นของเลโอมันตวัดไปมาจนเธอต้องแอ่นเอวขึ้นไปรับสัมผัสของเขา… “อื้อ!! เลโอ!” เธอรู้สึกถึงนิ้วที่กำลังขยับด้านในได้ชัดเจน เลโอขยับนิ้วเร็วๆ พร้อมกับดูดเลียที่ด้านนอกจนเธอทนไม่ไหว…เบลล่าหายใจหอบเหนื่อยเพราะเธอพึ่งได้รับความสุขสมที่เลโอบรรจงมอบให้…. เลโอลุกขึ้น เขาจับตัวตนของเขาไปถูช้าๆ ที่ปากทางเข้าของเธอ “อย่าเกร็ง…” เขาออกแรงดันมันเข้าไป ให้มันหมุดเข้าไปด้านในช้าๆ…ด้านในของเธอกำลังแหวกรับตัวตนของเขาเข้าไปทีละนิด… เธอลืมตาขึ้นมามองหน้าของเลโอในมุมที่เธอนั้นไม่เคยเห็นมาก่อน…เขาในตอนนี้ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนอย่างเคย แต่เขาเป็นคนอ่อนโยนจนเธอคาดไม่ถึงเลย และการรับเขาเข้ามา…มันไม่เจ็บปวดเลย นี่อาจจะเป็นเพราะว่าเขาปลุกความรู้สึกส่วนลึกของเธอเป็นเวลานาน ตั้งแต่อยู่บนรถม้า ในตอนนั้นเขาปลุกเร้าอารมณ์ของเธออย่าช้าๆ..แต่ในทุกครั้งที่เธอจะเสร็จสม เลโอจะหยุดทำ… เขาทำแบบนี้เรื่อยๆ จนเรามาถึงที่คฤหาสน์ เขาพึ่งจะยอมให้เธอเสร็จสมครั้งแรกเมื่อครู่ มันก็เลยทำให้ความปรารถนาในใจของเบลล่านั้นลุกโชนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่… วันนี้เธอพ่ายแพ้ต่อเลโอจริงๆ…เธอไม่อาจต่อสู้เขาเลย ในหัวตอนนี้มันคิดอะไรไม่ออก… เธอรู้เพียงแต่ว่าเธออยากจะรับรู้ถึงเขามากกว่านี้ อยากให้เขาสัมผัสทุกส่วนของร่างกายเธอ อย่างให้เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน อยากให้สายตาที่อ่อนโยนของเขามองมาที่เธอผู้เดียว…เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ