LOGIN“หนูเบลเป็นคนขอร้องให้ข้ามาดูแลฮันน่า..”
“ท่านไม่ควรเรียกชื่อของท่านหญิงผู้สูงส่งแบบนั้นนะครับ” “นางเป็นคนอนุญาตให้ข้าเรียกเอง!!” “ถึงอย่างนั้นท่านก็ควรจะใช้หัวคิดของท่านไตร่ตรองถึงความเหมาะสม…” ฮันน่าถอนหายใจ เธอปวดหัวกับบุรุษทั้งสองนี่เหลือเกิน!! พวกเขาพูดคุยกันได้สามสี่คำก็จะชวนกันไปต่อยตีข้างนอก..เธอห้ามจนรู้สึกเหนื่อยที่จะห้ามแล้ว ถ้าหากพวกเขายังจะต่อยตีกันอีก ฮันน่าคิดว่าเธอปล่อยให้พวกเขาต่อยกันซะให้พอใจ โดยที่เธอจะไม่ห้ามอีกแล้ว!! ฮันน่ามองไปที่ด้านหน้าคฤหาสน์ก็พบว่ามีรถม้าที่ดูหรูหรามาจอดที่หน้าประตู เธอลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปดูแต่ชายที่ลงมาจากรถนั้นเดินเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็ว “เบลไม่สบายงั้นหรือครับ..” ฮันน่าส่งยิ้มให้บุรุษที่ดูจากการแต่งกายแล้วเขาน่าจะเป็นชนชั้นสูง “ข้าขึ้นไปดูมาแล้ว นางน่าจะอ่อนเพลีย….” “ข้าจะขึ้นไปดูนางครับ!!” เซ็ดดริกมองหน้าท่านดยุคอย่างอึ้งๆ..ตามธรรมเนียมแล้วบุรุษที่ยังไม่แต่งงานไม่ควรจะเข้าไปในห้องสตรี..นั่นถือเป็นการดูหมิ่นเกียรติสตรีผู้นั้นอย่างมาก “อ่า..นั่นอาจจะดูไม่เหมาะสม…..” “ข้าจะพาท่านแม่มาสู่ขอเบลไปเป็นดัชเชสทันทีที่นางอนุญาต งานแต่งของเราจะจัดงานสามวันสามคืนพร้อมกับเลี้ยงฉลองอย่างยาวนานอีกสามเดือน! ตระกูลโอเว่นจะไม่มีทางทำให้นางเสื่อมเสียเกียรติแน่นอนขอให้ท่านแม่วางใจได้เลยครับ!” หลังจากกล่าวจบเลโอก็เดินขึ้นบันไดไปทันทีโดยไม่รอให้ฮันน่าเอ่ยคำใด “ถะ..ถึงจะดูโผงผางไปบ้าง แต่ท่านดยุคนั้นรักเลดี้เบลล่าจริงๆ นะครับ” เซ็ดดริกส่งยิ้มจางๆ ให้ฮันน่า “หากว่าเป็นแบบนั้นข้าก็โล่งใจค่ะ…” “ปกติแล้วท่านดยุคไม่ใช้ความรุนแรงเลยครับ ท่านเป็นคนอ่อนโยนโดยเฉพาะกับเลดี้เบลล่าที่ท่านรัก…” “ผลัวะ!!!” “ใครมันกล้าทำอะไรเจ้าอีก!!!..เซ็ดดริกบอกว่าเจ้าไม่สบาย บอกมาสิว่าไอ้หน้าไหนมันกล้ามาแตะต้องเจ้า!!!” เสียงของเลโอดังลงมาจนถึงชั้นล่าง เซ็ดดริกยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมบนหน้าผาก ส่วนฮันน่าได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ กลับไปให้เซ็ดดริก “ความรักหนุ่มสาวก็เป็นเช่นนี้ ฮันน่าไม่ต้องเป็นห่วงนังหนูเบลหรอกน่า..เราไปดูผ้าไหมที่สั่งกันเถอะ วันนี้ต้องจัดของเข้าร้านด้วยนี่” “จริงด้วยสิ…เช่นนั้นฝากท่านเซ็ดดริกดู…” “ไปด้วยครับ ข้าจะไปด้วย!!” ฮันน่าเลิกคิ้วมองเซ็ดดริกก่อนที่เธอจะยกยิ้มเพื่อเป็นมารยาท “ค่ะ..ไป..ไปกันเถอะค่ะ!” บางทีฮันน่าก็คิดว่าเธอมาคนเดียวน่าจะดีกว่ามากับพวกเขาทั้งสองคน เพราะท่านเจคอปและท่านเซ็ดดริกยังคงเถียงกันไปตลอดทาง เบลล่ากลืนน้ำลายลงคอ ก่อนที่เธอจะยกยิ้มและลุกขึ้นไปหาเลโอ…เขาคงจะกำลังโกรธมากสินะที่เธอไม่ไปหาเขา แก้ตัวไปก็มีแต่ต้องเถียงกันไปเปล่าๆ เธอยกมือขึ้นมาโอบกอดเขาเอาไว้ก่อนจะก้มลงซบที่อกของเขา “อันที่จริงข้าไม่ได้ป่วยค่ะ” เลโอเลิกคิ้วมองใบหน้าของเบลล่าก่อนที่เขาจะอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพาไปที่เตียง “...ไม่อยากไปพบข้า?” “ใครจะไปคิดเช่นนั้นได้คะ…ข้าเพียงแค่อยากให้ท่านเลโอเป็นฝ่ายมาหาข้าบ้าง…” นี่เธอ…เรียกชื่อเขางั้นหรือ? เลโอรู้สึกว่าหัวใจของเขามันกำลังเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง ใจดวงน้อยของเขากำลังสั่นไหวเพียงแค่เธอเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่แว่วหวานของเธอ “ข้าชอบนะ…ชอบให้เจ้าเรียกชื่อข้า” เบลล่ายกยิ้ม…ที่จริงเธอกำลังนึกขำในใจ นี่มันราวกับว่าเธอสามารถกุมจุดอ่อนของดยุคโอเว่นเอาไว้ได้เลยแฮะ สิงโตตัวใหญ่กลายเป็นแมวเชื่องๆ ไปแล้ว.. เลโอวางเบลล่าไว้บนเตียงก่อนที่เขาจะลุกขึ้นถอดกระดุมเสื้อตัวเอง เบลล่ารีบลุกขึ้นมาจับมือของเขาเอาไว้ “ท่านพึ่งจะพังประตูห้องข้าไป…ยังจะกล้าทำเรื่องแบบนั้นอีกงั้นหรือคะ?” เลโอชะงัก เขามองไปที่เศษซากประตูที่เขาถีบเข้ามาอย่างหงุดหงิด!! “เช่นนั้นไปที่บ้านข้า!” “ข้ายังไม่ได้อาบน้ำ…” เลโออุ้มเบลล่าขึ้นมาโดยที่เขาไม่สนใจคำกล่าวใดของเธออีกแล้ว เขาพาเธอมาที่รถม้าก่อนจะบอกให้คนขับรถม้าเร่งความเร็ว… เขาโอบกอดและพรมจูบที่ซอกคอของเธอราวกับว่ากลิ่นกายของเธอคือยาวิเศษที่สามารถรักษาอาการคลุ้มคลั่งของเขาได้… “ท่านเลโอ..นี่บนรถม้านะคะ” เลโอยกมือขึ้นมากอบกุมที่หน้าอกของเธอเอาไว้ เขาถกชุดนอนสีขาวของเธอขึ้นมาพร้อมทั้งดึงกางเกงซับในของเบลล่าออก “ใครสนกัน…” เบลล่าคิดว่าเธอจะเลิกใช้รถม้าไปสักพัก เพราะเธอจะถูกรังแกทุกครั้งที่นั่งรถม้า!! เลโอนั่งลงที่พื้นเขามองใบหน้างดงามของเบลที่กำลังขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เขายกมือขึ้นไปกอบกุมที่หน้าอกข้างซ้ายของเธอ และจับมือของเธอมากุมที่หัวใจของเขาเช่นกัน “มันเต้นแรง…เฉพาะอยู่กับเจ้าเท่านั้น” เบลล่าถึงกับลมหายใจติดขัดเมื่อเลโอกล่าวคำที่มันดูราวกับว่าเขากำลังสารภาพรักเธอ เขากางขาของเธอออก…ก่อนจะเริ่มต้นชิมรสชาติที่หวานล้ำของเธอ… รถม้าเคลื่อนตัวไปช้าๆ อย่างไม่เร่งรีบ อีกทั้งพอถึงตลาดก็เคลื่อนตัวได้ช้าลงเป็นอย่างมาก เธอหอบหายใจแรงแต่ไม่กล้าส่งเสียงครางออกมาเพราะเธอกลัวว่าคนอื่นจะได้ยิน ลิ้นของเลโอนั้นร้ายกาจ มันตวัดเลียรอบๆ ก่อนจะมาเน้นตรงเม็ดเสียวของเธอ…เบลล่าทำได้เพียงยกมือขึ้นมาจับเส้นผมของเลโอเอาไว้ “อื้อ!!” เลโอสอดนิ้วเข้าไปด้านในช้าๆ…ขนาดของเธอยังคงเล็กไปอยู่ดีเมื่อเทียบกับขนาดของเขา ทั้งๆ ที่เธอผ่านการร่วมรักมาแล้วแต่ด้านในของเธอยังคงคับแคบจนน่าเป็นห่วงว่าเธอจะรับเขาเข้าไปได้ไหม… “เลโอ..ยะ..หยุดก่อน!” มีเสียงพูดคุยดังขึ้นโดยรอบเพราะเราอยู่ที่ตลาด…เบลล่านั้นหวาดกลัวว่าเขาจะทนไม่ไหวจนเผลอทำเกินเลยกว่านี้บนรถม้า…หากว่าเป็นเช่นนั้นเธอคงจะมิอาจเก็บกักเสียงไว้ได้อีก… “วางใจ ข้าเพียงจะทำให้เจ้าพร้อมเท่านั้นเอง” เขาเห็นความหวาดกลัวในแววตาของเธอ แสดงว่าลีลาเคาน์เคนเนดี้ห่วยมากสินะ…ถึงทำให้เธอไม่มั่นใจว่าเขาจะทำให้เธอมีความสุข เลโอแสยะยิ้ม ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าของเบลล่ามาจูบ… “อื้อ!!” ไม่ปล่อยไปแล้ว ปล่อยมือจากเธอไม่ได้อีกแล้ว…เขาไม่คิดว่าวันนี้เขาจะสามารถปล่อยเบลล่าไปได้อีกแล้ว ต่อให้ไฟไหม้หรือว่าพายุถล่มเขาก็ต้องครอบครองทั้งตัวและหัวใจของเธอให้ได้… รถม้าเคลื่อนตัวมาจอดที่หน้าคฤหาสน์โอเว่น เขาใช้เสื้อคลุมของเขาพันร่างของเบลล่าเอาไว้ก่อนจะอุ้มเธอเข้าไปในคฤหาสน์ “หากวันนี้มีใครมารบกวนการพักผ่อนของข้า ข้าจะตัดลิ้นมันผู้นั้นทิ้งเสีย!!!” เลโอกล่าวกับพ่อบ้านก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปในห้องนอน เบลล่ารู้สับอับอายจนเธอต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้ เขาวางเธอลงที่พื้นก่อนจะถอดสิ่งต่างๆ ที่ปกคลุมร่างกายของเธอออกมา มือของเขาจับจูงมือของเบลล่าไปที่อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ “เจ้าทำให้ข้ารู้ว่าการรอคอยมันช่างยาวนาน…” เธอยกยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นมาถูตัวให้เขา “ท่านทำให้ข้ารู้…ว่าการหลบหนีมันไร้ประโยชน์….” เลโอจับมือของเธอให้ไปจับที่ตัวตนของเขา “เหตุใดถึงคิดจะหลบหนี ต่อให้มีปีกเจ้าก็ไม่อาจจะบินหนีข้าพ้น” สองมือของเธอสัมผัสเบาๆที่ตัวตนของเขา…เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “เลโอนี่มัน…” “ข้าจะอ่อนโยน…เหตุใดต้องหวาดกลัว?” มือของเธอไม่สามารถที่จะกำมันมิด..เบลล่าคิดว่าเธอไม่อาจจะรับเขาเข้าไปแน่ๆ…ครั้งที่แล้วกับโคลด์เธอยังรู้สึกเจ็บเจียนตาย… “อย่าได้คิดเอาข้าไปเทียบกับคนห่วยแตกอย่างเคาน์เคนเนดี้…เบล เจ้าควรจะเชื่อใจข้าสิ” เขาพาเธอมาที่เตียง เลโอเช็ดตัวให้เธออย่างอ่อนโยน…อารมณ์ของเบลล่านั้นยังคงคุกรุ่นมาตั้งแต่บนรถม้า ส่วนล่างของเธอมันกำลังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่น… เลโออ้าขาของเธอออก เขาก้มลงไปดูดกลืนน้ำหวานเหล่านั้นอีกครั้ง เบลล่าขมวดคิ้วก่อนที่เธอจะหลับตาลง ร่างกายของเธอมันสั่นสะท้านกับทุกจังหวะที่ลิ้นของเขาขยับ “อ๊ะ!!..อื้อ!!” เขาทำเร็วและรุนแรงกว่าตอนอยู่บนรถม้าเยอะเลย ลิ้นของเลโอมันตวัดไปมาจนเธอต้องแอ่นเอวขึ้นไปรับสัมผัสของเขา… “อื้อ!! เลโอ!” เธอรู้สึกถึงนิ้วที่กำลังขยับด้านในได้ชัดเจน เลโอขยับนิ้วเร็วๆ พร้อมกับดูดเลียที่ด้านนอกจนเธอทนไม่ไหว…เบลล่าหายใจหอบเหนื่อยเพราะเธอพึ่งได้รับความสุขสมที่เลโอบรรจงมอบให้…. เลโอลุกขึ้น เขาจับตัวตนของเขาไปถูช้าๆ ที่ปากทางเข้าของเธอ “อย่าเกร็ง…” เขาออกแรงดันมันเข้าไป ให้มันหมุดเข้าไปด้านในช้าๆ…ด้านในของเธอกำลังแหวกรับตัวตนของเขาเข้าไปทีละนิด… เธอลืมตาขึ้นมามองหน้าของเลโอในมุมที่เธอนั้นไม่เคยเห็นมาก่อน…เขาในตอนนี้ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อนอย่างเคย แต่เขาเป็นคนอ่อนโยนจนเธอคาดไม่ถึงเลย และการรับเขาเข้ามา…มันไม่เจ็บปวดเลย นี่อาจจะเป็นเพราะว่าเขาปลุกความรู้สึกส่วนลึกของเธอเป็นเวลานาน ตั้งแต่อยู่บนรถม้า ในตอนนั้นเขาปลุกเร้าอารมณ์ของเธออย่าช้าๆ..แต่ในทุกครั้งที่เธอจะเสร็จสม เลโอจะหยุดทำ… เขาทำแบบนี้เรื่อยๆ จนเรามาถึงที่คฤหาสน์ เขาพึ่งจะยอมให้เธอเสร็จสมครั้งแรกเมื่อครู่ มันก็เลยทำให้ความปรารถนาในใจของเบลล่านั้นลุกโชนขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่… วันนี้เธอพ่ายแพ้ต่อเลโอจริงๆ…เธอไม่อาจต่อสู้เขาเลย ในหัวตอนนี้มันคิดอะไรไม่ออก… เธอรู้เพียงแต่ว่าเธออยากจะรับรู้ถึงเขามากกว่านี้ อยากให้เขาสัมผัสทุกส่วนของร่างกายเธอ อย่างให้เราเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน อยากให้สายตาที่อ่อนโยนของเขามองมาที่เธอผู้เดียว…เบลล่าลากอาเชอร์ขึ้นมานอนบนโซฟา เสื้อของเขาตอนนี้เปื้อนไปด้วยไวน์เบลล่าจึงจัดการถอดเสื้อของอาเชอร์ออกเธอตบหน้าอาเชอร์เบาๆ เพื่อเรียกให้เขาตื่นจะตายไหมเนี่ย!!“อาเชอร์!! นี่! รีบตื่นเร็วเข้า!!”“พรวด!!”“โป๊ก!!”อาเชอร์ลืมตาพร้อมกับลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนหน้าผากของเราชนกัน“เจ้าจะลุกขึ้นมาทำไมเร็วนักหนา!!”เบลล่ายกมือขึ้นมาลูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ“นี่เจ้าทำโพชั่นสีม่วงแตกงั้นหรือเบล!!”เบลล่าพยักหน้า อาเชอร์ถึงกับยกมือขึ้นมากุมขมับ“มันคือโพชั่นอะไรกัน?”อาเชอร์ยกมือขึ้นมาปิดจมูกเอาไว้ เขาในตอนนี้กำลังได้กลิ่นกายของเบลล่าอย่างชัดเจน“โพชั่น…ชนิดเดียวกันกับขวดสีแดง…”เบลล่ามองอาเชอร์ที่กำลังหน้าแดงด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย โพชั่นสีแดง โพชั่นปลุกอารมณ์งั้นเรอะ!!“แล้วเจ้าจะทำสีม่วงมาเพื่อ!! เจ้าทำโพชั่นชนิดนี้มากเกินไปแล้วนะอาเชอร์!!”“ก็มันขายดีนี่นา อีกอย่างสีแดงหมดข้าก็เลย…ใส่สีม่วงลงไปแทน อึ่ก!!”เบลล่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเพราะว่าตอนนี้ผิวของอาเชอร์เป็นสีแดงก่ำ เขายกมือขึ้นมาเพื่อปิดจมูกตัวเอง“อย่าบอกนะว่า…นี่เจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่รึไงแล้วทำไมถึงโดยโพชั่นตัวเองเล่นงาน…”
“ขอเชิญอัศวินทั้งสองเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้เลยครับ”อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งส่งยิ้มให้กับอัศวินทั้งสอง พวกเขามองหน้ากันพร้อมกับอึกอักแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่หลับตาลง เธอไม่มีทางยอมเสียลูกชายไปง่ายๆ แน่นอน และเธอก็ได้ส่งคนไปเชิญผู้ที่จะมาขัดขวางเรื่องราวพวกนี้“ข้าได้ยินว่าลูกสะใภ้ของข้าถูกใส่ร้าย ”ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่ออดีตองค์จักรพรรดิเดินเข้ามา วัลโด้หลับตาลงอย่างเจ็บปวด สุดท้าย…คนที่คอยช่วยเหลือเมเบโล่มาตลอดก็คือท่านพ่อสินะ!!“เอาล่ะๆ ไม่ต้องมากพิธี เจ้าทั้งสองคนใช่ไหมที่เป็นผู้ปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในชนชั้นสูง ทหารนำพวกมันทั้งสองคนไปประหาร โดยการแขวนคอ!!”“ไม่ใช่นะครับ!!! พวกเราถูกว่าจ้างมา ได้โปรด ดยุคแบรฮาร์ทเป็นคนว่าจ้างพวกเรา!!!”“ยังจะกล้าใส่ร้ายดยุคเมเบโล่อีกงั้นเรอะ!! ทหารยังไม่รีบพาพวกมันออกไปให้พ้นจากสายตาของข้าอีก!!”เบลล่าหลับตาลง วันนี้จะชนะก็เรียกได้ไม่เต็มปาก แต่ก็ถือว่าคิร่าได้เกียรติและชื่อเสียงของเธอคืนมา ส่วนดยุคแบรฮาร์ทชนชั้นสูงคนอื่นต่างรู้ดีว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น และใครคือคนที่ถูกและผิดอย่างน้อยที่สุดธุรกิจของเมเบโล่อาจจะเงียบไปสักพักเบลล่าหมุนตัวก่อน
เบลล่ามองจดหมายเชิญไปสอนมารยาทของเลดี้แอลลี่ เมเบโล่ในมือก่อนจะหัวเราะออกมาจดหมายถูกส่งมาในตอนที่อยู่เดเลี่ยน หากว่าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะเสียใจมากที่พลาดโอกาสเข้าไปในเมเบโล่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่ห้องหนังสือของคฤหาสน์เมเบโล่อีก เพราะว่าเธอล่วงรู้ถึงความลับอันดำมืดของเมเบโล่แล้ว“มีเรื่องให้อารมณ์ดีงั้นหรือคะ?”มาดามอิกกี้ส่งยิ้มให้เธอ วันนี้เบลล่าจ้างมาดามมาแต่งหน้าทำผมให้เธอ บอกตามตรงว่าตั้งแต่กลับมาจากเดเลี่ยนเธอยังไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เมบิลเลยไม่ชอบตัวเองที่หนีปัญหาเช่นนี้ แต่เธอแค่ของเวลาให้ตัวเองอีกหน่อย ท่านแม่ฆ่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ที่เดเลี่ยนไปมาก เธอไม่สมควรจะให้อภัยท่านแม่เรื่องการเอาคืนจะต้องทำแน่นอนแต่ว่าจะทำวิธีไหนแค่นั้นเองเบลล่ายกยิ้มให้มาดามอิกกี้“แน่นอนค่ะ วันนี้จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นแน่นอน”เพราะวันนี้คือวันพิจารณาคดียังไงล่ะ ปกติเบลล่าไม่ใช่คนที่ใส่ใจเรื่องการแต่งตัวแต่ในครั้งนี้จะต้องพิถีพิถันสักหน่อยไอ้เวรคนไหนที่มันกล้าด่าคิร่าในวันนั้น เธอจะลากคอมันลงมาเอง!!เบลล่าเดินเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ทุกสายตาต่างจับจ้องที่ใบหน้าแสนจ
เบลล่ายกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม เธอเอนหลังพิงรถม้าก่อนจะหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาทว่าอยู่ๆ ก็มีแสงสีทองสว่างจ้าจนเธอแสบตา พอรู้สึกตัวอีกทีก็ราวกับว่าเธอกำลังตกลงมาจากฟากฟ้า เธอตกลงที่พื้นหิมะแสนจะหนาวเย็น แต่เบื้องหน้าของเธอคือคิร่าที่กำลังร้องไห้และยกดาบขึ้นมาเตรียมที่จะแทงตัวเอง..เธอรีบไปแย่งดาบในมือของคิร่าออกมา“เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!!”คิร่าเม้มปากแน่นอ่า นี่จะต้องเป็นวัลโด้แน่นอนเขากล้าทำร้ายคิร่าจนเธอต้องถือดาบมาเตรียมที่ฆ่าตัวตายขนาดเลยงั้นเรอะ!!เธอลากคิร่าเข้ามาด้านใน“องค์จักรพรรดิอยู่ที่ไหน!!”“ในห้องทำงานค่ะดัชเชสเมบิล…”เบลล่าลากคิร่าให้เดินตามเธอขึ้นบันไดไปหาวัลโด้ คิร่าร้องไห้อย่างหนักในตอนแรกคิดว่าจะไม่ร้องไห้แล้วด้วยซ้ำแต่พอเห็นเบลน้ำตามันก็ไหลลงมาไม่หยุด“ผลัวะ!!”เบลล่าถีบประตูเข้าไปอย่างแรง เธอมองหน้าวัลโด้ที่กำลังทำงานอยู่ด้วยความเคร่งเครียด“เพี๊ยะ!!!”เบลล่าตบหน้าวัลโด้อย่างแรง เขามองที่เธอด้วยสายตาตกใจ พอๆ กับคิร่าที่มองเบลด้วยความช็อก!!“ท่านบอกว่าจะดูแลนางเป็นอย่างดี”เบลล่าปาดาบใส่หน้าของวัลโด้“หากว่าข้ามาไม่ทันนางคงจะตายไปแล้ว!!”วัลโด้ก้มมองดาบที่หล่น
บารอนเนสเอเลเกอร์ยื่นกระดาษให้คิร่า“หลักฐานทุกอย่างมันชี้ไปที่ดยุคแบรฮาร์ทค่ะ เขาต้องการขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเลยคิดหาทางกำจัดองค์จักรพรรดินีก่อน ”คิร่าเม้มปากแน่น เธอมองคำสารภาพของอัศวินที่เฝ้าหน้าห้องด้วยความเจ็บปวด“มีทางไหนบ้าง ทางไหนที่จะทำลายดยุคแบรฮาร์ทและเมเบโล่!!”รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหญิงชรา “พระองค์เป็นถึงองค์จักรพรรดินี แค่ใช้อำนาจสั่งสอนคนพวกนั้นเล็กน้อย ไม่น่าจะเป็นอะไรนะคะ ”“ข้าต้องทำเช่นไร!!”“ท่านก็แค่เอาหลักฐานทั้งหมดนี่ส่งให้กรมพิจารณาคดี พวกเขาก็จะเรียกดยุคแบรฮาร์ทมาไต่สวนหาความผิด”อ่า เรื่องมันง่ายดายอย่างนั้นเลยสินะ!! เพียงเท่านี้เธอก็จะสามารถแก้แค้นให้ลูกสาวได้แล้ว!!บารอนเนสเอเลเกอร์ก้มหน้าลงก่อนจะเดินจากไป เธอเดินออกไปจนถึงรถม้า ทว่ามีรถม้าไม่ประทับตรามาจอดเทียบรถม้าของเธอ“เรียบร้อยดีรึเปล่า?”“ค่ะ ข้าทำตามที่ท่านแกรนด์ดัชเชสสั่งทุกอย่าง”แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่ยกยิ้ม ก่อนจะโยนถุงเงินให้บารอนเนสเอเลเกอร์ แล้วจากไป..“ท่านแม่ยังจะเก็บนังเฒ่าสองหัวนั่นเอาไว้ใช้งานอีกหรือครับ นางกล้าหักหลังจักรพรรดินีเพราะเงิน วันข้างหน้านางอาจจะหักหลังท่านแม่….”“แบรฮาร์ท
เทรย์เวอร์จัดการซื้อคฤหาสน์ที่ใหญ่โตนอกเมือง เขายังคงโกหกสกาเล็ตว่าเขาเป็นเพียงชนชั้นสูง ยศเคาน์เท่านั้นทั้งสองคนแต่งงานและสาบานต่อหน้าพระเจ้าว่าเขาจะรักกันตลอดไปเทรย์เวอร์จัดการแบ่งเวลาในชีวิตของเขา เขากล่าวอ้างกับสกาเล็ตว่าต้องเดินทางไปทำงานในเมืองที่ห่างไกล เธออ่อนโยน งดงามและเข้าใจเขาโดยที่ไม่ต้องอธิบายใดๆสกาเล็ตไม่เคยโกรธเลยที่เขาต้องเดินทางไปทำงานนานๆ หรือบางทีอาจจะเป็นแรมเดือนอยู่กินกันมาแปดปี สกาเล็ตท้องและคลอดลูกคนแรกออกมาเป็นลูกชายที่แข็งแรงดี เทรย์เวอร์รู้สึกดีใจมาก…และเกิดเป็นความโลภในจิตใจขึ้นมา…เขาอยากจะพาลูกชายไปเป็นองค์รัชทายาท และในตอนนี้เขาทำได้เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น รอเวลาที่เขาจะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิฮาเดียน่าเดินทางไปทวงสัญญากับเทรย์เวอร์ที่ให้เขามานอนกับเธอเพื่อให้กำเนิดทายาทของเมเบโล่ เธอพาลูกสาวที่งดงามตามไปด้วย ความงดงามของฮันน่าสามารถตราตรึงใจเทรย์เวอร์ได้ไม่ยาก แต่เขาก็ยังคงมั่นรักในตัวของสกาเล็ตภรรยาของเขาแต่เพียงผู้เดียวสองปีต่อมาฮาเดียน่าคลอดลูกสาว เธอตั้งชื่อว่าแวนดี้ ฮาเดียน่าส่งแวนดี้เข้าไปเลี้ยงในพระราชวังให้เด็กน้อยผู้นี้เติบโตในฐานะองค์หญิ







