เวลาล่วงเลยมาสองเดือน ด้านนอกหน้าต่างมีพายุหิมะกำลังตกอย่างหนัก…
เบลล่าคิดว่าตอนนี้ชีวิตของเธอก็เหมือนกับพวกต้นไม้เหล่านั้นสินะ!! ต้องทนพายุหิมะที่กำลังพัดโหมกระหน่ำ เธออยู่ที่คฤหาสน์เมบิลหลังใหม่ คฤหาสน์สีเขียวอ่อนขนาดสามสิบห้อง..ถึงจะมิได้ใหญ่เท่ากับโอเว่นหรือเคนเนดี้ (กับริชแมนอย่าหาเอาไปเทียบ) แต่นี่ก็คือความพึงพอใจของเบลล่าแล้ว ที่ร้านตัดชุดของท่านแม่ก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก มากจนเบลล่ารู้สึกว่าเธอกลัว พายุจะพัดโหมกระหน่ำก็ต่อเมื่อคลื่นลมในทะเลสงบ และตอนนี้มันก็ราวกับว่าจะเป็นเช่นนั้น เพราะแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่มีความเคลื่อนไหวแปลกๆ ส่วนเรื่องสมรสพระราชทานนั้นมีอันต้องยกเลิกเพราะโจลี่ดันไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับอาเชอร์ เบลล่ายกยิ้ม นี่คงจะเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้เธอยิ้มได้ ทว่าพอปรายตาไปมองกระดาษกองเท่าภูเขาในห้องรอยยิ้มของเธอก็ค่อยๆ จางหายไป เธอใช้เวลาสองเดือนเต็ม ในการหาแผนการที่จะทำให้มิลาด้าหย่า แต่สตรีผู้นี้ก็ไม่มีจุดอ่อนใดๆ เลย… เธอถือครองทรัพย์สินของริชแมนเกือบจะทั้งหมด และมันถูกยักย้ายถ่ายเทเปลี่ยนชื่อไปในนามของแมรี่… หากว่าเธอไม่รีบทำอะไรสักอย่าง ริชแมนจะล่มสลายลง เรื่องเงินท่านเคาน์ริชแมนนั้นคงจะไม่ได้เป็นห่วง เพราะทรัพย์สินในนามเอเซล่าก็มากมายจนเกือบจะเท่าริชแมน แต่เขาไม่อาจที่จะทำใจดูความล่มสลายของริชแมนได้… ความยากเย็นมันอยู่ตรงที่แผนของสตรีผู้นั้นเฟอร์เฟคไปหมด เป็นครั้งแรกที่เบลล่าเจอคนที่เธอไม่อาจเอาชนะได้ มิลาด้าถือเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งมากจริงๆ “เบล ข้ามาเอาค่าจ้าง!!” เบลล่ากลอกตามองด้านบนอย่างเบื่อหน่าย “เหตุใดต้องมาเอาเอง..ปกติเจ้าจะส่งคนมา…” อาเชอร์ทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ก่อนที่เขาจะร้องไห้… “อย่าบอกว่านางด่าเจ้าอีกแล้ว?” “สตรีที่กำลังท้องอยู่ราวกับมีปีศาจมาสิงร่างเลยเบล!! โจลี่ด่าแถมยังทุบตีข้า! นางโทษว่าเป็นข้าที่ขืนใจนาง ทั้งๆ ที่คืนนั้นเราต่างก็ช่วยกันทำ!!” เบลล่ายกมือขึ้นมานวดที่ขมับของตัวเอง ปัญหาในชีวิตของเธอมันก็มากพอแล้ว เหตุใดเธอยังต้องมารับฟังปัญหาในชีวิตของพระเอกอีกนะ “นี่ค่าจ้างของเจ้า รีบกลับไปดูนางเถิด” “ไม่ คืนนี้ข้าจะขอนอนที่นี่!!” “ไม่ได้อาเชอร์ กลับไปหาโจลี่เดี๋ยวนี้!!” เบลล่ากล่าวพร้อมกับชี้ไปที่ประตู “…แม้แต่เจ้าก็ยังผลักไสข้า!!” “ฟังนะอาเชอร์ เจ้าควรจะกลับบ้านไปปรับความเข้าใจกับนาง นางเคยเป็นสตรีที่งดงาม วันนี้กลับไม่เป็นเช่นเคยเพราะนางกำลังตั้งครรภ์ลูกของเจ้า จากที่เคยทานอาหารต่างๆ ได้ ในตอนนี้เพียงแค่เห็นนางก็รู้สึกอยากอาเจียน…” “เหตุใดเจ้าถึงรู้เรื่องในบ้านข้าดีขนาดนี้!!” เบลล่าถอนหายใจ “ข้าก็เป็นสตรีเช่นกัน ทำไมข้าจะไม่รู้ห๊ะ!! หยุดทำตัวเป็นสามีห่วยแตกแล้วกลับไปง้อนางซะ!! ไอ้ทีตอนอยากได้นางมานี่หลอกล่อสารพัด แล้วพอได้นางมาแล้วเจ้ากล้าคิดจะทอดทิ้งนางงั้นเรอะ!!” “อะ!!..โอ๊ย!! อย่าตีข้า!!” เบลล่ายืนหายใจหอบเหนื่อย!! เพราะเธอกำลังทุบที่หลังของอาเชอร์อย่างแรง ให้ตายเธอดันเอาความโกรธทั้งหมดไปลงที่อาเชอร์ซะได้!!! อาเชอร์มองเบลล่าด้วยความรู้สึกผิด… “ข้า..ขอโทษ!!” “ไปขอโทษโจลี่นุ้น!!” อาเชอร์ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม… “ชีวิตข้าหลังจากรับโจลี่มาอยู่มันมิได้สวยงามอย่างที่คิดเอาไว้ ใบหน้าของนางยังคงงดงามเช่นเดิม แต่นางกลับด่าทอข้าทุกวัน ข้ารู้ดีว่านางยังตัดใจจากท่านดยุคไม่ได้…” เธอทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา แล้วแย่งแก้วเหล้าในมือของอาเชอร์มาดื่ม “ฟังนะอาเชอร์ หากว่าข้าเป็นนาง ข้าจะไม่แค่ด่าเจ้าแน่นอน แต่ข้าจะยกดาบขึ้นมาแทบไปที่ตัวเจ้าซ้ำๆ จนกว่าทุกส่วนของร่างกายเจ้าจะเต็มไปด้วยรูดาบของข้า!!” “เจ้าก็…กล่าวเกินไป!” “เจ้าไปล่อลวงนางตอนที่นางกำลังเมามายไร้สติ ถึงนางจะร่วมกันทำรักกับเจ้า แต่นางในตอนนั้นไม่มีสติ อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่านั่นเป็นแผนการของเจ้าที่ให้คนมากมายในงานบุกเข้าไปในห้องที่เจ้ากับนางกำลัง…กัน ตอนที่สมองทึบๆ ของเจ้าคิดแผนการออกมาเจ้าเคยคิดถึงชื่อเสียง คิดถึงเกียรติของนางบ้างไหม? ตอนนี้กลับกลายเป็นนางมีชีวิตอยู่อย่างสตรีที่ไร้เกียรติ นางเคยเป็นถึงดรุณีน้อยที่องค์จักรพรรดิเอ็นดูนะ…ชนชั้นสูงมากมายต่างก็ต้องการนางไปเป็นลูกสะใภ้” “ใครว่าข้าคิดเอง แผนการทั้งหมดดยุคโอเว่นเป็นคนคิดต่างหาก เจ้าควรจะไปด่าเขาแทนที่จะมาด่าข้า!!” เบลล่าชะงัก เธอมองที่อาเชอร์อย่างตกใจ “เขาไม่ได้บอกข้าด้วยซ้ำว่าจะพาคนมากมายเข้ามาในห้อง ข้าก็อายเป็นนะ ป่านนี้พวกชนชั้นสูงพวกนั้นเห็นก้นข้ากันหมดแล้ว!!” เธอถึงกับอ้าปากค้างกับคำกล่าวของอาเชอร์ “แล้วเขาก็ไม่ได้บอกด้วยว่านางจะท้อง!! เพราะว่าข้าไม่ได้คิดจะแต่งงานกับโจลี่เป็นเรื่องเป็นราวเช่นนี้ ข้าเพียงอยากจะเอาชนะใบหน้าที่อวดดีของนางเท่านั้น นี่ต้องเป็นแผนตลบหลังของดยุคโอเว่นเป็นแน่ ข้าเพียงแค่ชมว่าเจ้างดงามต่อหน้าเขาครั้งเดียวเอง ชีวิตอันแสนสุขของข้าเลยต้องเป็นเช่นนี้!!” เธอยกขวดเหล้าขึ้นมาดื่มอีกครั้ง ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา เธอควรจะต้องรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้กันฟะ!! แล้วหน้าของอาเชอร์ตอนนี้มันก็น่าตลกมาทีเดียว แต่เธอจะหัวเราะออกมาตอนนี้ก็จะดูเป็นการทำร้ายจิตใจเขาเกินไป “เหตุใดถึงได้ยกยิ้มเช่นนั้น!!” “ฮะ..ฮ่า!!! อาเชอร์ข้าขอโทษ ฮะ!! ฮ่า!!” ….. เอซมองหิมะที่กำลังตกลงมาผ่านหน้าต่างของรถม้า เขายกยิ้มขึ้นมาเพราะรู้สึกอบอุ่นหัวใจ เขากำลังนั่งรถม้าไปหาเบลล่า เพราะมีนัดกินข้าวกับเธอ ตอนนี้บางอย่างก็เริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้ว เอซเองก็เริ่มจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น ริชแมน เป็นเพียงแค่ชื่อเท่านั้น ต่อริชแมนล่มสลายลงไป เขาก็ยังคงมีชีวิตอยู่ ทุกธุรกิจของเอเซล่าในตอนนี้ก็กำลังก้าวกระโดดอย่างมาก นั่นหมายถึงต่อให้ไม่มีริชแมน เขาก็ยังคงมีเอเซล่าที่เขาสร้างเอาไว้… แล้วเหตุใดจะต้องทนทุกข์กับสตรีผู้นั้นอีก… เหตุใดจะต้องยึดติดกับความเจ็บปวดเหล่านั้น เขาไม่ได้ยอมแพ้ต่อมิลาด้า แต่เขาเลือกจะหยุดเพราะเขาต้องการรักษาความสุขของตัวเองเอาไว้ และความสุขหนึ่งเดียวที่เขาค้นพบก็คือเบลล่า… เขาตักเนื้อแกะใส่จานของเบลล่า พร้อมกับส่งยิ้มให้เธอ “หน้าของเจ้ากำลังแดง…” “อ่า..นั่นเพราะว่าข้าดื่มเหล้ามา” “แล้วเริ่มรู้สึกเมารึยัง อยากกลับเลยรึเปล่า?” เบลล่าส่งยิ้มให้เขา “น่าเสียใจที่ข้าต้องตอบว่าเหล้าเพียงหนึ่งขวดไม่มีความสามารถพอที่จะให้เบลล่าคนนี้เมา หากว่าข้าไม่เมา ท่านเคาน์ยังจะอยากไปส่งข้ารึเปล่าคะ?” “เบล ข้าจัดการให้เซอร์โรเจอร์ไปฝากเงินให้เจ้าแล้ว สิบล้านตามที่ตกลงกันเอาไว้…” “….แต่ว่างานของข้ายังไม่เสร็จ” “ไม่แล้วเบล..ข้าจะยอมปล่อยให้ริชแมนล่มสลาย..” วันนี้…มันจะมีเรื่องให้เธอตกใจเยอะเกินไปแล้ว!! “ข้าไม่อยากให้ท่านยอมแพ้..” “ข้ามิได้ยอมแพ้ แต่ข้าคิดว่าข้าเสียเวลามามากพอแล้ว กว่าสิบปีที่ข้าขึ้นเป็นผู้นำตระกลูริชแมน เด็กชายอายุสิบห้าที่ไร้เดียงสาต้องต่อสู้เพียงลำพัง..ข้าคิดว่าตัวเองสู้มาพอแล้ว ตอนนี้เอเซล่าก็กำลังไปด้วยดี ข้าจะปล่อยมือจากริชแมนแล้ว…เจ้าจะไปร่วมสร้างเอเซล่าด้วยกันกับข้าได้รึเปล่า…แต่เจ้าคงจะต้องคิดมากหน่อย เพราะเอเซล่านั้นไร้ยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นเพียงตระกลูพ่อค้าเล็กๆ เท่านั้น” “….หากว่าท่านตัดสินใจเช่นนั้น ข้าก็ยินดีด้วย ท่านจะได้ยิ้มออกมา ด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขจากหัวใจของท่าน” “เช่นนั้นคืนนี้..อยู่กับข้าได้รึเปล่า?” ให้ตายเถอะ!! เขาขอร้องเธอด้วยใบหน้าเช่นนั้นแล้วเธอจะกล่าวปฏิเสธออกไปได้ยังไง!! เธอตั้งใจว่าวันนี้จะไปบ่นเลโอสักหน่อย ที่เขาวางแผนให้อาเชอร์ต้องรับผิดชอบโจลี่เช่นนั้น แต่เธอก็ไม่อาจจะกล่าวปฏิเสธใบหน้าเช่นนี้ของท่านเคาน์ได้เลย!! อ่า..ตอนนี้เธอคงจะเป็นพวกที่หลงใหลรูปลักษณ์ไปเรียบร้อยแล้วสินะ! …… “มันออกจะแย่ไปสักหน่อยที่หัวใจของข้าในตอนนี้มันดันไม่เต้นแรงเมื่อยืนอยู่ข้างเจ้าแล้ว….” “….พระองค์เป็นคนบังคับให้ข้าแต่งงานแล้วเหตุใดถึงได้มากล่าวเช่นนี้” วัลโด้หลับตาลงก่อนจะถอนหายใจ “เจ้ามันน่าเบื่อมากกว่าที่คิด..” คิร่ากำมือแน่น เธออยากจะเดินไปตบหน้าเขาแรงสักที “เช่นนั้นท่านก็ยกเลิกงานแต่งนี้ซะ!!” “…ทุกอย่างถูกเตรียมการเอาไว้หมดแล้ว ไม่สามารถที่จะยกเลิก อีกอย่างอย่าลืมสิว่าการแต่งงานในครั้งนี้เคนเนดี้ได้ประโยชน์อย่างมาก…” “องค์รัชทายาท โชคดีที่ท่านกล่าวคำที่ท่านคิดมาตั้งแต่เนิ่นๆ อย่างน้อยในตอนนี้ข้าก็ยังไม่ได้รักท่าน เช่นนั้นนับจากนี้ต่อให้ท่านจะพาสตรีเข้ามากี่คนข้าก็จะไม่ขัดขวางท่าน เราจะใช้ชีวิตต่างคนต่างอยู่และข้าจะเป็นเพียงพระชายาในนามเท่านั้น!” วัลโด้ยกยิ้ม… “ดี..เจ้าเข้าใจง่ายเช่นนี้ก็ดีแล้ว…” เขาเดินออกมาจากห้องพร้อมกับยกมือขึ้นมากุมหัวใจ ไม่ได้รักเขางั้นหรือ เหตุใดถึงได้กล่าวเช่นนั้นออกมา!! ที่เขาต้องทำเป็นหมางเมินต่อเธอก็เพราะว่านี่คือแผนการของเอซ เพื่อปกป้องเธอเอาไว้…. ให้ตายเถอะ เขาควรจะส่งคนไปกำจัดสตรีผู้นั้นให้จบๆ ไปซะ!!เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ