“ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยหรือครับ”
“ทำไม!! ยังห่วงใยเพราะนางคือน้องสาวเจ้ารึไง?” มิลาด้ากล่าวพร้อมกับโยนถุงเงินให้ซีโน่ “หากเราไม่รีบกำจัดนาง สตรีผู้นี้จะแว้งมากัดเราเป็นแน่!!” ซีโน่มองถุงเงินด้านหน้า เขาถอนหายใจก่อนจะเอื้อมไปหยิบถุงเงินนั้นมา “เช่นนั้น ก็ต้องกำจัดนางให้สิ้นซากไปเลยใช่ไหมครับ” มิลาด้ายกยิ้มอย่างพอใจที่เธอเห็นใบหน้าของซีโน่กำลังเปลี่ยนไป เธอเห็นความเคียดแค้นจากดวงตาของเขา มาจบเรื่องนี้กันเถอะ เบลล่า เจ้าควรจะหายไปตลอดกาลซะ!!! ……… ถึงเอซจะยอมแต่ว่าเธอไม่ยอม เธอจะทำให้มิลาด้ายอมหย่าออกจากริชแมนให้ได้!! รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเบลล่าเมื่อเธอได้ข้อมูลใหม่มาจากท่านลุงเจคอป “ข้ารู้สึกกลัวนะเวลาที่เจ้ายิ้มเช่นนั้น…” อาเชอร์กล่าวพร้อมทั้งหยิบองุ่นเข้าปาก “ได้เวลาทำงานให้ข้าแล้วอาเชอร์ เรื่องนี้ต้องอาศัยความหลอกลวงของเจ้าด้วยสิ!!” “หากเจ้าจ่ายให้ข้าในราคาที่เหมาะสมก็ไม่มีปัญหา” เบลลายกยิ้ม นี่คงจะถึงเวลาที่เธอจะต้องจัดการให้สตรีผู้นั้นรู้ซึ้งถึงการรวบรวมข้อมูลกว่าสองเดือนของเธอบ้าง!! และแล้ววันที่เบลล่ารอคอยก็มาถึง เธอนั่งอยู่ในห้องพิจารณาคดี ในห้องนี้มีคนจำนวนมาก ทั้งชนชั้นสูงและนักข่าวมากมายมารอทำข่าวเกี่ยวกับชนชั้นสูงที่ร่ำรวยที่สุดในจักรวรรดิ ตระกูลริชแมน ท่านเคาน์ยื่นหนั่งสือหย่ากับเคาน์เตสด้วยเหตุผลว่าเธอพยายามจะยักยอกทรัพย์สินของริชแมนและเธอนอกใจ กว่าเบลล่าจะยอมกล่อมให้เอซเขียนคำร้องก็ใช้เวลาหลายวันทีเดียว เพราะเขาตัดใจจากริชแมนไปแล้ว…แต่ว่าเธอไม่ยอม เพราะถึงจะเดินออกจากริชแมนไป ใบสมรสของเขากับมิลาด้าก็ยังคงอยู่ เขาไม่ควรจะหนีปัญหาแต่เขาควรจะทำทุกอย่างให้จบสิ้นไป… ข้างๆ ของเบลล่าคือเลโอ และโคลด์ พวกเขาเองก็มาเอาใจช่วยเบลล่าด้วย เสียงค้อนไม้ถูกเคาะขึ้นเป็นสัญญาณให้คนทั่วทั้งห้องเงียบเสียง “ตามที่เคาน์ริชแมนยื่นหนังสือหย่ากับเคาน์เตส มีเหตุผลว่านางยักยอกทรัพย์สินของริชแมนไปเป็นของแมรี่ เรื่องนี้ท่านเคาน์มีหลักฐานรึเปล่า?” ใบหน้าของมิลาด้านั้นไร้วี่แววของความวิตกกังวล เธอยังคงยืนอยู่ด้านหน้าด้วยท่าทีสบายๆ “มีครับ..” อาเชอร์เดินถือเอกสารไปส่งให้ผู้พิจารณาคดี “นี่เป็นหลักฐานการโอนเงินทั้งหมดของริชแมน จะเห็นว่าที่มีวงกลมสีแดงคือธุรกิจของริชแมนที่ถูกเปลี่ยนเป็นชื่อของแมรี่!!” เบลล่าถอนหายใจอย่างโล่งอก อาเชอร์ทำได้ดีกว่าที่เธอคิดเอาไว้จริงๆ “ข้าขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาค่ะ ข้ามิได้เปลี่ยนธุรกิจของริชแมนให้เป็นของแมรี่ แต่ธุรกิจเหล่านั้นเดิมทีเป็นของแมรี่อยู่แล้ว ในตอนที่ข้ามาอยู่ที่ริชแมนใหม่ๆ การเงินของตระกูลมิได้ดีเช่นนี้ ข้าจำต้องเอาธุรกิจในนามของแม่รี่มาเปลี่ยนเป็นของริชแมน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน…” สาวใช้ของมิลาด้าเดินเอาเอกสารที่เป็นหลักฐานไปยื่นให้ผู้พิจารณาคดี ในตอนนี้เบลล่าเริ่มนั่งไม่ติดแล้วให้ตาย!! “ข้าขอดูหลักฐานของเคาน์เตสได้ไหมครับ?” อาเชอร์กล่าวขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ ผู้พิจารณาคดีส่งเอกสารของมิลาด้าให้อาเชอร์ดู “เมื่อสิบสามปีที่แล้ว ธุรกิจสิ่งทอของแมรี่มีมูลค่าห้าพันเหรียญ ถูกโอนเข้ามาเป็นชื่อของริชแมน ตรงนี้เพราะท่านเคาน์มาซาลงทุนสร้างโรงทอขึ้นมาใหม่ แล้วยังอัดเงินลงทุนเข้าไปอีกกว่าเท่าตัวจึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นของริชแมนไม่ใช่หรือครับ” มิลาด้ายกยิ้ม “เหตุใดท่านถึงกล่าวเลอะเทอะเช่นนั้น หากว่าท่านเคาน์มาซาลงทุนจริงก็ควรจะมีหลักฐานสิคะ?” “อ่า..ข้ายังพูดไม่จบ อย่างพึ่งขัดสิครับ ในตอนนี้มูลค่าของโรงงานทอผ้าแห่งนี้มีมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านเหรียญ การที่เคาน์เตสจะกล่าวอ้างว่าแต่เดิมเป็นของแมรี่แล้วมาเอาธุรกิจนี้คืนไป ดูจะไม่เหมาะสมอยู่บ้างครับ” อาเชอร์เดินนำใบประกอบการไปยืนให้กับผู้พิจารณาคดี “ธุรกิจโรงทอผ้าของริชแมนที่เคยมีอยู่ถูกยุบมารวมกับที่นี่ที่เดียว…เงินลงทุนที่ริชแมนลงไปก็เพิ่มมากขึ้นด้วย” “หาหลักฐานขนาดนั้นมาจากไหนกัน?” เลโอกล่าวถามเบลล่า “เลโอ ท่านอย่าลืมสิคะว่าอาเชอร์คือนักบุญที่มีพลังเวทย์สูงส่งมากๆ บางอย่างก็ต้องโกงบ้างไม่ใช่รึไง!!” นี่นางย้อนเวลาไปเอาหลักฐานพวกนั้นมาเลยงั้นเรอะ!! “เพราะว่าวันนี้ข้าจะแพ้ไม่ได้ หากว่าวันนี้ข้าแพ้ ท่านเคาน์จะเสียริชแมนไป อีกทั้งมิลาด้าก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น คิร่าและเคนเนดี้ก็จะตกอยู่ในอันตราย…” โคลด์เอนตัวลงซบที่ไหล่ของเบลล่า “นี่เจ้ากำลังปกป้องข้าอยู่หรือ? ให้ตายเถอะข้าตกหลุมรักเจ้าอีกแล้ว” รอยยิ้มที่แสนอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าของโคลด์อีกครั้ง “นางก็บอกอยู่ว่านางปกป้องคิร่า เอาหัวออกไป!!!” เลโอผลักโคลด์ที่กำลังซบไหล่เบลล่าออกอย่างรวดเร็ว “เรื่องที่ทางฝั่งท่านเคาน์กล่าวมาก็มีเหตุผล!!” ทางผู้พิจารณาคดีเริ่มเอนเอียง “ข้าเข้ามาอยู่ในริชแมน ตั้งแต่อายุสิบห้าจนตอนนี้ข้าอายุสามสิบแล้ว กว่าสิบห้าปีที่อยู่ในริชแมน ข้านำพาตระกูลขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุดของราชอาณาจักร ทุกธุรกิจในนามของริชแมนเติบโตอย่างมาก ภายใต้การบริหารงานของข้า…แล้วพอถึงเวลาที่จะหย่าใจคอท่านเคาน์จะไม่ให้ข้า มีทรัพย์สินใดติดตัวเลยงั้นหรือคะ เรื่องสตรีหลังคฤหาสน์ข้าก็ไม่เคยมีปัญหา ข้าเป็นภรรยาที่ดีของสามีมาตลอด วันนี้จะหย่ากับข้าเพียงเพราะท่านไม่รักข้าแล้ว ดูจะโหดร้ายเกินกว่าข้าจะรับไหว…” อาเชอร์มองมาที่เบลล่า เธอกำมือแน่น!! จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด!! “การหย่าเพราะหมดรัก นั่นก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือครับ หากว่าหมดรักจะมาทนอยู่ด้วยกันทำไม?” เอซกล่าวขึ้นมาพร้อมกับมองไปที่ผู้พิจารณาคดี “ข้าไม่ได้คิดจะให้เคาน์เตสเดินออกไปจากริชแมนตัวเปล่า ทรัพย์สินทั้งหมดในนามของริชแมนจะถูกแบ่งครึ่ง เจ้าสามารถเอาไปได้เลย ขอเพียงเดินออกไปจากชีวิตข้าก็พอ!!!” ทั่วทั้งห้องพิจารณาคดีเงียบกริบ เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสของเอซ ที่เขากล่าวออกมานั้นมันคงจะหมดความอดทนแล้วจริงๆ เธอถอนหายใจพร้อมกับเดินลงมาด้านล่าง “ข้าคิดว่าถึงคิวของท่านแล้วค่ะ ท่านดยุคแม็คซิมัส….” โลเวลเงยหน้าขึ้นมองเบลล่า เขาถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นมา เบลล่าและอาเชอร์ไปหาเขาเมื่อวาน เพื่อยื่นข้อเสนอให้เขามาเป็นพยานให้เคาน์ริชแมนในวันนี้ เพื่อที่เขาจะได้มิลาด้ามาเป็นดัชเชส เขาไม่อยากจะหักหลังนางเช่นนี้แต่เขาเองก็ไร้ทางเลือก เพราะนางไม่ยอมหย่ากับเคาน์ริชแมนสักที “ข้าขอเป็นพยานให้เคาน์ริชแมนครับ!!” ใบหน้าที่ดูมั่นใจของมิลาด้าเรื่องเปลี่ยนไป…เธอมองที่โลเวลอย่างตกใจ “กล่าวมาได้เลยดยุคแม็คซิมัส…” “ข้ากับมิลาด้ารักกันครับ….” เกิดเป็นเสียงฮือฮาดึงขึ้นมาในห้องพิจารณาคดี “ข้าขอสาบานด้วยเกียรติแห่งแม็คซิมัสว่าคำที่ข้าจะกล่าวต่อไปนี้คือเรื่องจริงทั้งหมด…ข้าและมิลาด้าลักลอบคบกันมานานแล้วครับ นางตั้งครรภ์ลูกของข้าแต่ว่าทำแท้งไปครั้งหนึ่งเพราะว่านางยังไม่เคยร่วมเตียงกับท่านเคาน์ริชแมน นางก็เลยท้องไม่ได้ มิเช่นนั้นนางก็จะต้องถูกหย่า..” “ดยุคแม็คซิมัสท่านกล่าวคำใดออกมา!!” “มิลาด้า ยอมหย่ากับเคาน์ริชแมนเถอะนะ หย่ากับเขาแล้วมาเป็นดัชเชสให้ข้า!!!” หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ ต่างก็รายงานข่าวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทับซ้อนของเคาน์เตสริชแมนและดยุคแม็คซิมัส เบลล่าถอนหายใจพร้อมกับโยนหนังสือพิมลงบนโต๊ะ “วางใจ นางจะต้องมาถลกหนังหัวเจ้าแน่นอน!!” “เหตุใดนางถึงจะมาถลกหนังหัวข้าล่ะ ในเมื่อเจ้าเป็นคนยื่นเอกสารทั้งหมดของนางให้ผู้พิจารณาคดี…” อาเชอร์ส่ายหน้าเบาๆ “เพราะว่าเรื่องมันเกิดจากเจ้าไงล่ะ ความแค้นของสตรีนั้นยากลึกหยั่งถึง…” เขากล่าวพร้อมกับนอนลงบนโซฟา มิลาด่าหย่ากับเอซแล้ว และในตอนนี้ริชแมนก็ล่มสลายเป็นที่เรียบร้อย คฤหาสน์เก่าแก่ของริชแมนถูกประกาศขายอย่างรวดเร็ว ทุกธุรกิจภายใต้ชื่อของริชแมนขายไม่ออกและไร้คนซื้อเพราะข่าวลือเสียหายเกี่ยวกับเรื่องภายในคฤหาสน์ ราวกับว่าครั้งนี้เธอทำพลาดอย่างใหญ่หลวงเลย เพราะเธอไม่ได้คิดถึงเรื่องราวหลังจากการหย่าเลย ไม่ได้คิดถึงเลยว่าริชแมนจะเสื่อมเสียเกียรติลง “นี่ ลูกของข้าดิ้นแล้วด้วยนะ เมื่อเช้าเตะมือข้าใหญ่เลย!!” “อื้อ ยินดีด้วย เจ้าควรจะทำตัวให้สมกับเป็นพ่อคนและเป็นนักบุญหน่อยสิ!!” “จริงสิ ข้ามีเรื่องจะเตือนเจ้า…ช่วงนี้ระวังตัวเอาไว้หน่อยก็ดี ตัวเจ้าในอนาคตไม่ค่อยดีเท่าไหร่” “หมายความว่ายังไง?” “…มีคนกำลังพยายามจะฆ่าเจ้ายังไงล่ะ!!” “….” “ตกใจบ้างสิโว้ย!!! มีคนคิดจะฆ่าเจ้านะเฟ้ย!!” “ข้าคิดว่าข้าจะแต่งงาน…” “พรวด!!” อาเชอร์ที่ดื่มเหล้าอยู่ถึงกับพ่นออกมา “อย่างน้อยหากข้าไปอยู่ที่โอเว่น ข้าก็จะปลอดภัย” อาเชอร์ส่ายหน้า “ไม่ใช่ตอนนี้เบล ยังแต่งงานตอนนี้ไม่ได้เด็ดขาด” “อาเชอร์เจ้าควรจะบอกข้าว่าในอนาคตเจ้าเห็นอะไร?” เขาไม่ตอบอีกทั้งยังยกแก้วไวน์ขึ้นดื่ม “เจ้าจะเสียสิ่งที่รักที่สุดไป…ข้าบอกได้เท่านี้” เบลล่ามองไปที่หนังสือพิมพ์ที่วางอยู่… หากว่าเธอจะต้องสูญเสียสิ่งที่เธอรักจากคนพวกนี้ เช่นนั้นเธอก็จะลงมือจัดการพวกเขาก่อน… “อาเชอร์ข้ามีงานให้เจ้าทำ!!” …… อีกสามวันจะเป็นงานอภิเษกของคิร่ากับองค์รัชทายาท วันนี้คิร่าก็เลยมาลองชุดแต่งงานโดยการตัดเย็บของฮันน่า “นี่คือเกียรติสูงสุดในชีวิตของข้าเลยก็ว่าได้ ที่ได้ตัดชุดแต่งงานให้พระชายาสวมใส่” คิร่ายกมือขึ้นมาจับที่ชุดแต่งงานที่แสนจะงดงาม “เป็นชุดที่สวยมากๆ เลยค่ะ งานปักพวกนี้ช่างงดงามแปลกตา” “ฮันน่าใช้เวลาปักหนึ่งเดือนเต็ม นางอดหลับอดนอนเพื่อให้ได้ชุดแต่งงานที่งดงามเช่นนี้!!” จาคอปกล่าวพร้อมกับยกมือขึ้นมาปิดปากที่กำลังหาวนอน…ที่เขารู้ก็เพราะว่าเขาเป็นคนเฝ้าเธอทุกคืนยังไงล่ะ!! ใบหน้าของฮันน่าขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ เธอมองที่เจคอปอย่างเขินอาย คิร่ายกยิ้ม บรรยากาศระหว่างท่านแม่และท่านลุงของเบลล่านั้นราวกับว่าทั้งโลกนี้มีเพียงพวกเขาสองคน นี่มัน!! น่ารักดีนะ เบลล่าจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ของเธอแล้วเพราะว่ามีท่านลุงคอยดูแล.. เบลล่าเดินออกมาจากด้านในพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ “เบลแม่คิดว่าช่วงนี้เจ้าดื่มมากไปหน่อย…” เจคอปวางมือเอาไว้บนไหล่ของฮันน่าพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ “ปล่อยนางไปเถิด ช่วงนี้มีเรื่องให้นางต้องใช้ความคิดเยอะพอสมควร” ฮันน่าเม้มปากก่อนจะมองไปที่เบลล่าอย่างเป็นห่วง “เบล ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้าเยอะเลย!!” “อื้อ..ตามมาสิข้าจะพาเจ้าไปพบคนผู้หนึ่งด้วย…” เบลล่าวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะเธอส่งยิ้มให้ท่านแม่และท่านลุง ก่อนจะเดินออกไปด้านนอกร้านตัดเสื้อ วันนี้หิมะหยุดตกแล้ว ฤดูหนาวที่แสนยาวนานกำลังจะสิ้นสุดลง “จะพาข้าไปร้านเหล้าอีกรึไง?” เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า “ก็ไม่เชิง ข้ารู้ว่าตอนนี้เจ้ากำลังเครียด” คิร่าถอนหายใจ “วางใจข้าเถอะข้าไม่ได้รักองค์รัชทายาทหรอกน่า!!” “ผิดแล้วเจ้าต้องรักเขาให้มากๆ สิถึงจะถูก” “หมายความว่ายังไง?” เบลล่าส่งยิ้มให้คิร่า ก่อนที่เธอจะพาคิร่าเดินไปที่ร้านในตรอกซิดนีย์ที่ว่างเปล่าและไร้ผู้คน มีมีดถูกยกจ่อที่คอของเบลล่าพร้อมกับใบหน้าที่คุ้นเคยของซีโน่ “ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่เจ้าประมาทเลินเล่อจนไม่พาคนคุ้มกันติดตัวมา….” คิร่าจับมือของเบลล่าเอาไว้แน่น “ปล่อยพวกเราไปนะ ทหารของพระราชวังกำลังตามข้ามา!!” “เสียใจด้วยสาวน้อยหากทหารตามเจ้ามาจริงๆ พวกเขาก็คงจะเจอเพียงศพของสตรีผู้งดงามทั้งสองเท่านั้น….”เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ