องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอก
ปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย “หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…” เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ “อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา” “หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู” “อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?” “ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…” เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอด เอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม “เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…” เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจนหมด “อดีตแม่ยายกับอดีตลูกเขยพบกันงั้นหรือ?” วัลโด้กล่าวถามอย่างใช้ความคิด “สตรีแก่ผู้นั้นจะต้องวางแผนอะไรอีกแน่ ข้าว่าคงจะหนีไม่พ้นเรื่องการคัดเลือกพระชายาขององค์รัชทายาทมาเดลีน” เลโอกล่าวพร้อมกับวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ เอซมองที่เลโออย่างไม่พอใจที่กินเหล้าในแก้วของเขาจนหมด “โคลด์ไปไหนกัน?” เอซกล่าวถามอย่างสงสัยเพราะเขาไม่เห็นโคลด์เลย “อยู่กับจักรพรรดินี เขาเป็นห่วงน้องสาวมาก จนข้ารู้สึกเบาใจ อย่างน้อยในเวลาที่ข้าไม่อยู่ มาร์ควิสก็จะดูแลนางแทนข้า” วัลโด้กล่าวพร้อมกับยกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกดีใจ โคลด์เป็นพ่อค้าที่ไม่ถนัดเรื่องการเมืองเลยสักนิด โคลด์ก็เลยมุ่งเน้นไปที่การปกป้องคิร่า แทนการช่วยเขาคิดวางแผนการเมือง แค่นั้นก็ถือว่าดีมากๆ เพราะเวลาที่เขาตัดสินใจทำอะไรลงไปจะได้ทำได้เต็มที่โดยไม่ต้องเป็นห่วงด้านหลัง “เรื่ององค์รัชทายาทมาเดลีน จะมีปัญหาอะไรตามมารึเปล่า?” เอซกล่าวขึ้นมาอย่างเป็นห่วง พร้อมกับมองไปที่วัลโด้ “เขาเลือกจะมาที่นี่ เพื่อแต่งงานกับชนชั้นสูงสักคน ข้าไม่แน่ใจว่าเขาจะพาสตรีที่เลือก ไปเป็นสนมหรือว่าพระชายา แต่มันจะดีมากๆ หากสตรีผู้นั้นเป็นคนของเรา…” วัลโด้มองลงไปยังด้านล่าง มีชนชั้นสูงเริ่มทยอยเข้ามาแล้ว “เช่นนั้นเราก็ยิ่งปล่อยให้สตรีของเมเบโล่ถูกเลือกไม่ได้” เลโอกล่าวพร้อมกับลุกขึ้นมา “ใจจริงข้าอยากจะพาทหารของเราไปฆ่าล้างบางตระกลูที่น่ารังเกียจเช่นเมเบโล่ซะ!! ข้าเชื่อว่าพวกเขายังคงหวังลมๆ แล้งๆ ที่จะให้ดยุคแบรฮาร์ทขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ” ดยุคแบรฮาร์ทคือพระสวามีขององค์หญิงแวนดี้ น้องสาวของวัลโด้ หากพวกเขาสามารถดึงวัลโด้ลงจากตำแหน่งองค์จักรพรรดิได้ ดยุคแบรฮาร์ทก็จะได้ขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ เพราะเชื้อพระวงศ์ในตอนนี้มีเพียงองค์หญิงแวนดี้เท่านั้น หากแบรฮาร์ทขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิ เมเบโล่ก็จะมีอำนาจมหาศาลครอบคลุมทั่วทั้งจักรวรรดิ ตระกูลเมเบโล่รับเลี้ยงสตรีจากชนชั้นสูงที่เกิดในยศบารอนเยอะมาก เพื่อจะได้ใช้สตรีพวกนั้นไปแต่งงานกับตระกูลอื่น เป็นการขยายอำนาจของเมเบโล่ทางอ้อม “เราต้องรีบสร้างฐานความมั่งคงให้องค์จักรพรรดิมากกว่านี้ และการได้องค์รัชทายาทมาเดลีนมาเป็นพวกถือว่าเป็นคำตอบที่ดีที่สุด…” เอซกล่าวพร้อมทั้งส่งแก้วเหล้าให้วัลโด้ “ขอบคุณที่ร่วมต่อสู้เคียงข้างข้า ขอบคุณจริงๆ” วัลโด้กล่าวพร้อมกับรับแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่ม ไม่ว่ายังไง เขาจะต้องทำลายเมเบโล่ให้ได้!! …… “เบล ลูกควรจะลืมตาขึ้นมาได้แล้ว” เบลล่าลืมตาขึ้นมาก็พบกับท่านแม่ที่กำลังหวีผมให้เธออยู่ “ท่านแม่ ข้าพึ่งจะได้นอน” “ห้ามบ่นเด็ดขาด หน้าที่ของภรรยามิสามารถปฏิเสธได้ เอซขี่ม้าตั้งนานกว่าจะมาถึงเมบิล เจ้ามาร้องว่าเหนื่อยทั้งที่นอนเฉยๆ ได้ยังไง รีบตื่นให้เต็มตาจะได้มาแต่งหน้า” ท่านแม่ ควรจะเข้าข้างข้าไม่ใช่รึไง!! เหตุใดถึงไปเข้าข้างเอซแทนกันเล่า!! แล้วเมื่อคืนข้าก็ไม่ได้นอนเฉยๆ สักหน่อย!! “ข้าอยากให้ท่านแม่ไปด้วยนะคะ” ฮันน่ายกยิ้มให้กับความงอแงของลูกสาวเธอ “เอาไว้แม่คลอดน้องให้เจ้าแล้ว แม่จะไปงานเป็นเพื่อนเจ้านะ” เบลล่ายกมือขึ้นมาจับท้องที่เริ่มใหญ่ของท่านแม่ ทำไมรอบๆ ตัวของเธอถึงมีแต่คนท้องกัน แต่เบลล่าดีใจนะ ที่ท่านแม่กำลังจะมีน้องให้เธอ ท่านลุงเจคอปพาท่านแม่ไปซื้อบ้านอยู่ไม่ไกลจากคฤหาสน์เมบิลมากนักเพื่อที่ท่านแม่จะได้มาหาเธอได้สะดวก ในคราวแรกเธอชวนท่านลุงเจคอปมาอยู่ที่คฤหาสน์เมบิลแต่ท่านลุงปฏิเสธ อีกทั้งท่านแม่ก็ไม่อยากจะรบกวนเธออีกด้วยท่านแม่กับท่านลุงก็เลยย้ายไปอยู่ด้วยกัน “ข้าดีใจ ที่เห็นท่านแม่มีความสุขนะคะ ดีใจจริงๆ” ฮันน่ายกมือขึ้นมาลูบผมของเบลล่า “แม่ก็เช่นกัน แม่ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ได้แต่ภาวนาให้เจ้าใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้มีความสุขก็พอ” ความสุขมันอยู่ไม่ไกลจากเธอเลย โชคดีที่เธอมองเห็นและไขว่คว้ามันเอาไว้ได้ กว่าเบลล่าจะมาถึงงานเลี้ยงก็เป็นเวลามืดแล้ว รถม้าด้านหน้าพระราชวังก็เลยโล่งเพราะคนเข้างานกันไปจนหมดแล้วเธอสวมชุดสีชมพูอ่อน ในคราแรกท่านแม่จะให้เธอสวมชุดที่ฟูฟ่องแต่เบลล่ารีบปฏิเสธ เธอขอสวมเดรสรัดรูปแทนเพราะมันสะดวกต่อการใช้ชีวิตมากกว่า ท่านแม่ก็เลยตัดเย็บชุดเดรสสีชมพูเปิดไหล่มาให้ ที่ชายกระโปรงและตรงไหล่เป็นผ้าลูกไม้สีขาว ส่วนที่ตัวเดรสปักรูปดอกไม้เล็กๆ เอาไว้ มีแม่เป็นเจ้าของร้านตัดเสื้อนี่มันดีสุดๆ ไปเลย!! เบลล่ายกชายกระโปรงขึ้นมาเพื่อจะเดินเข้างาน “การพบกันครั้งแรกเรียกว่าบังเอิญแต่ครั้งที่สองนั้นเรียกว่าพรหมลิขิตนะครับ” เบลล่าเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงก็พบว่าเขาคือพ่อค้าที่ร้านเหล้าในคืนนั้น ทว่าวันนี้เขามิได้สวมเสื้อของพ่อค้าแต่เขาสวมชุดที่ดูเป็นทางการ ทรงผมถูกเซตขึ้นมาอย่างเรียบร้อยรับกับใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา เขายื่นแขนมาเพื่อให้เธอควงเขาเข้างาน “พ่อค้าเช่นท่าน มาทำอะไรที่งานเลี้ยงเช่นนี้กันคะ?” เขาหัวเราะเบาๆ “แล้วหญิงสาวชาวบ้านเช่นเลดี้ล่ะครับ มางานเลี้ยงเช่นนี้ได้ยังไง?” เบลล่าหัวเราะเบาๆ ก่อนที่เธอจะยกมือขึ้นควงแขนเขา “เช่นนั้นก็เหมาะที่จะเข้างานด้วยกันแล้ว หญิงสาวชาวบ้านกับพ่อค้า” เขาพาเธอเดินไปบนทางเดินที่ทอดยาวไปยังโถงจัดเลี้ยง “ไม่อยากจะกล่าวเช่นนี้เลยครับ แต่วันนี้เลดี้งดงามมาก…งดงาม จับใจ” “ขอโทษด้วยนะคะ ข้ามิใช่คนที่จะมาถ่อมตน และข้าก็รู้ตัวว่าตัวเองงดงามมากๆ ถือว่าเป็นโชคดีของท่านที่ได้ควงสตรีงดงามเช่นข้าเข้างาน” หัวใจของเขามันดันไปเต้นแรงกับคำพูดที่ดูไร้เยื่อใยของเธอซะแล้ว เขาพึ่งเคยเจอสตรีเช่นนี้เป็นครั้งแรก สตรีที่คิดเช่นไรก็กล่าวออกมาเช่นนั้น หรือว่าที่ผ่านมาสตรีทุกคนจะต้องสวมหน้ากากเข้าหาเขากันนะ..ก็เลยไม่มีสตรีใดกล้าปฏิเสธเขาสักคน “ข้าควรจะทราบชื่อของท่าน” “เลดี้กำลังสนใจข้าใช่ไหมครับ ?” “ใช่ค่ะ เพราะการแต่งตัวของท่านมันกำลังบอกข้าว่าท่านเป็นใคร…” เขาส่งยิ้มให้เธอ พร้อมทั้งยกมือขึ้นมาจับมือเธอที่กำลังควงแขนเอาไว้แน่น “อีกนิดเดียวจะถึงงานเลี้ยงแล้วครับ พอถึงงานท่านก็จะรู้เองว่าข้าเป็นใคร” เบลล่ามองสบตากับเขา ก่อนที่เธอจะปรายตามองไปทางอื่น ถึงจะพยายามปฏิเสธในใจแต่มันปฏิเสธไม่ได้เลย สวมชุดเช่นนี้จะเป็นใครไปได้นอกจากองค์รัชทายาทมาเดลีน เหตุใดเธอถึงไม่เอะใจตั้งแต่วันนั้นนะ ว่าพ่อค้าอะไรจะหล่อเหลาขนาดนั้น! “ข้าคิดว่า…” เบลล่าพยายามจะดึงมือที่ควงแขนเขาออก แต่เขากลับจับมือของเธอเอาไว้แน่น “หนีไม่ได้แล้วครับ ดัชเชสเมบิล” “น่าตกใจที่ท่านรู้จักชื่อข้า….” “น่าตกใจกว่าที่สตรีงดงามเช่นดัชเชส เป็นเจ้าของกิลข้อมูล นี่มันตรงสเป็คของข้าสุดๆ ไปเลย” เบลล่ายกยิ้ม “รู้เรื่องราวของข้าดีเช่นนี้ การพบกันที่ร้านเหล้าคงจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญสินะคะ…” เขาส่งยิ้มให้เธออย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกครับ หากอยากจะจีบสตรีที่ถูกใจ ก็ต้องลงทุนลงลงแรงสร้างพรหมลิขิตสักหน่อย” เธอเลิกคิ้วขึ้นมามองหน้าเขา “อ่า..หากรู้ว่าท่านลงทุนขนาดนี้ วันนี้ข้าน่าจะมาให้ช้าอีกหน่อย…” เขาหัวเราะชอบใจกับคำกล่าวของเธอ “แค่นี้ข้าก็รอดัชเชสนานมากแล้วครับ รู้ไหมว่าการมานั่งรอสตรีเพื่อเดินเข้างานพร้อมกันต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหน แล้วดัชเชสในวันนี้ก็มาช้ามากด้วย” “เรียกชื่อข้าเถอะค่ะ ว่าแต่ท่านยังไม่ได้บอกชื่อของท่านเลย?” “ไบรอัน มาเดลีน แต่หากว่าเรียกยาก เลดี้สามารถเรียกข้าว่าที่รักก็ได้ครับ” เบลล่าทำได้เพียงส่งยิ้มแห้งๆ ให้เขาเท่านั้น ไบรอันพาเธอเดินมาถึงหน้าโถงจัดเลี้ยง “การเดินเข้างานพร้อมท่าน จะทำให้ข้าดูเพ่งเล็งจากสตรีที่หวังจะเป็นพระชายา…” “เหตุใดต้องใส่ใจ การเข้างานพร้อมเลดี้มันทำให้ข้าปลอดภัยจากการรุมทึ้งของสตรีพวกนั้น” “สามีของข้าจะต้องไม่พอใจกับการกระทำของข้า ข้าไม่อยากมีปัญหากับคนรักนะคะ” “เบลล่า เจ้ายังไม่มีสามี อีกทั้งคนรักทั้งสามของเจ้าจะต้องเข้าใจแน่นอน แค่เพิ่มข้าไปอีกคนไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกน่า…” มีแน่! มันมีปัญหาแน่ๆ เพราะตอนนี้เธอดันเงยหน้าไปสบตากับเลโอที่ชั้นบนพอดี ฉิบหายแล้วไง!!เบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ