สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!
ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!! วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน.. นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!? “อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?” เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ “นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…” “อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้” เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ “เอซ ไม่ลงไปรึไง?” เอซยกยิ้ม “กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน” วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่า อ่า..ให้ตายเถอะ!! เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ “นี่คงจะเป็นแกรนด์ดยุคโอเว่นใช่ไหมครับ ยินดีที่ได้พบ” “สายันห์สวัสดิ์ ดวงอาทิตย์ดวงน้อยแห่งจักรวรรดิมาเดลีน ข้าแกรนด์ดยุคโอเว่น และสตรีที่ยืนข้างท่านคือว่าที่แกรนด์ดัชเชสของข้า…” ไบรอันส่งยิ้มให้เลโออย่างเป็นมิตร เขาไม่ได้สนใจคำกล่าวของเลโอเลย “ข้าคิดว่าในอนาคตเราจะต้องได้ร่วมงานกันแน่นอน ข้าชอบคนเช่นแกรนด์ดยุคนะครับ ท่านดูเหมือนหมาบ้าดี…” เบลล่าถึงกับตกใจ เธอจ้องมองไปที่ใบหน้าของไบรอัน ไม่เคยมีใครกล้ายั่วโมโหเลโอมาก่อนและเขาถือเป็นคนแรกที่กล้ากล่าวว่าเลโอเหมือนหมาบ้า ตอนนี้คนในห้องจัดเลี้ยงเริ่มมองมาที่เธอและองค์รัชทายาทมาเดลีนแล้ว เบลล่าจึงเดินเข้าไปหาเลโอแล้วจับมือของเขาเบาๆ “ไปเต้นรำกันเถอะค่ะ…” เธอพยายามออกแรงดึงเลโอให้เดินออกมาจากตรงนั้น เพื่อไม่ให้เขามีเรื่องกับองค์รัชทายาทมาเดลีน “..มากับเขาได้ยังไง?” “บังเอิญเจอกันที่ทางเข้าพระราชวังค่ะ…” น้ำเสียงของเลโอ มันบ่งบอกว่าเขากำลังไม่พอใจ “กับองค์รัชทายาท ไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกนะ มีแต่เขาจะไปดักรอเจ้าที่หน้าพระราชวังเท่านั้น..เบลหากชายผู้นั้นอยากได้เจ้าเป็นพระชายา ข้าจะส่งทหารทั้งหมดของโอเว่นไปทำสงครามกับมาเดลีนเอง!!” ไปกันใหญ่แล้ว… “ที่รัก ข้าเพียงบังเอิญเจอเขา เขาอยากได้ข้าแล้วอย่างไร ข้าไม่ยินยอมสักอย่าง เขาจะมาบังคับอะไรข้าได้…” เบลล่ายกมือขึ้นมากอดคอเลโอเอาไว้ ก่อนที่เธอจะซบลงบนอกแกร่งของเขา “ข้ามิได้ตัวคนเดียว และคนรักของข้าก็เป็นถึงแกรนด์ดยุคที่แสนจะยิ่งใหญ่ของราชอาณาจักรนี้ “ เสียงเพลงบรรเลงในจังหวะที่หวานซึ้ง เลโอโอบกอดเบลล่าเอาไว้แนบอก “หากเจ้ากล่าวเช่นนั้น ข้าก็สบายใจ” เบลล่าถอนหายใจอย่างโล่งอก คนเช่นเลโอเขามิใช่คนที่จะปล่อยผ่านเรื่องที่เขาสงสัยไปง่ายๆ โดยเฉพาะเรื่องของเธอ เขาจะต้องส่งคนไปตามสืบเรื่องเกี่ยวกับองค์รัชทายาทมาเดลีนแน่นอน หลังจากเต้นรำกับเลโอเสร็จแล้ว เขาก็พาเธอขึ้นมาด้านบนเพื่อป้องกันไม่ให้มีใครมาขอเธอเต้นรำอีก พอมาถึงก็พบกับโคลด์และคิร่าที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว “เอซล่ะ เมื่อครู่เขายังอยู่ในห้องนี้..” “ไปกับองค์จักรพรรดิครับ ไปทักทายพวกคณะทูตของมาเดลีน” โคลด์กล่าวพร้อมทั้งลุกขึ้นมาโอบกอดและหอมแก้มเบลล่า ช่วงนี้เขาแทบจะมาอยู่ที่พระราชวังเลยก็ว่าได้ เพราะคิร่ามีอาการน่าเป็นห่วง นางเริ่มวิตกกังวลเรื่องต่างๆ มากขึ้นเขาจึงต้องมาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนของนาง เลยไม่มีเวลาไปหาเบลล่า!! “คิร่า เป็นยังไงบ้าง!!” เบลล่าเดินเข้าไปนั่งข้าคิร่า เธอยกมือขึ้นมาแตะหน้าท้องที่นูนขึ้นมาเบาๆ “เจ้าหลานตัวแสบ อย่ากวนท่านแม่เจ้านักเข้าใจไหม!” คิร่าหัวเราะเบาๆ “เขามีแรงเยอะมากทีเดียว เตะข้าทั้งวันทั้งคืนเลย” มีสาวใช้ยกแก้วนมอัลมอนด์เข้ามา “องค์จักรพรรดิให้หม่อมฉันนำนมอัลมอนด์มาถวายให้กับจักรพรรดินีเพคะ นี่เป็นของฝากจากคณะทูตของมาเดลีน มีประโยชน์มากกับสตรีที่กำลังตั้งครรภ์อีกทั้งยังช่วยให้ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า….” โคลด์ยื่นมือไปรับแก้วนมอัลมอนด์มา “เหตุใดถึงมีสองแก้ว ให้จักรพรรดินีดื่มมากขนาดนี้เลยหรือ?” “มิได้เพคะ อีกแก้วท่านดยุคเอเซล่าฝากมาให้ดัชเชสเมบิล….” “อ่า หมอนั่นนี่น่าหมั่นไส้จังนะ!!” โคลด์กล่าวพร้อมทั้งส่งแก้วนมให้คิร่าและเบลล่า เบลล่ารับแก้วนมมาดมก่อน เพราะเธอไม่เคยกินนมที่ทำมาจากถั่วมาก่อน..กลิ่นดูแปลกพอสมควร เธอยกแก้วนมขึ้นมาดื่มเพื่อลองชิมรสชาติ อื้ม! รสชาติไม่ได้แย่แฮะ หลังจากนั้นเบลล่าก็ยกแก้วนมขึ้นมาดื่ม “!!!!” “เพล้ง!!!” “อึก!!” เบลล่ารู้สึกร้อนที่คอเธอจึงรีบหันไปหาคิร่าที่กำลังยกแก้วขึ้นมาดื่มนม เธอรีบปัดแก้วในมือของคิร่าทิ้งไป!! เกิดเป็นความเงียบไปทั่วห้อง ทว่าเลโอไวกว่าใครเขารีบคว้าตัวของสาวใช้ที่ถือนมเข้ามาอย่างรวดเร็ว “!!!” “เบล!!” เบลล่ายกมือขึ้นมาปิดปาก ก่อนที่เธอจะกระอักเลือดออกมาคำโต ในอกของเธอพลันแสบร้อนขึ้นมาจนแทบจะหายใจไม่ออก!! เธอรีบหันไปมองคิร่าทันที ได้โปรดอย่างให้นางเป็นอะไร… เบลล่ารับรู้เพียงแค่สายตาที่แสนตกใจของคิร่าที่มองมาที่เธอ ก่อนที่เบลล่าจะสลบไป “ไปตามพระคาดินันมา!!! เร็ว!!” โคลด์รีบสั่งกับทหารองครักษ์หน้าห้อง เขาทรุดลงกับพื้นก่อนจะดึงเบลล่ามากอด คิร่าลุกขึ้นไปหาเบลล่าเช่นกันเพราะเธอรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนเหลือเกิน… แต่ทว่าเธอล้มลง…พร้อมทั้งกระอักเลือดออกมา โคลด์เบิกตากว้างด้วยความตกใจจนแทบสิ้นสติ เขาเห็นว่าเบลปัดแก้วทิ้งจากมือคิร่าไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเธอยังดื่มมันเข้าไป “ไม่ ไม่ ไม่!!! คิร่าเจ้าดื่มมันเข้าไปงั้นเรอะ!!” เลโอจัดการส่งตัวสาวใช้ผู้นั้นให้กับทหาร เขากัดกรามแน่นด้วยความโกรธแค้น “ไปตามองค์จักรพรรดิมา ทำเรื่องนี้ให้เงียบที่สุดอย่าให้คนที่งานล่วงรู้ นำนางไปขังที่คุกใต้ดิน หากว่านางตายหรือว่าเป็นอะไรไป ข้าจะตามฆ่าครอบครัวของทหารที่เฝ้ายาม เดี๋ยวข้าจะลงไปสอบปากคำนางด้วยตัวเอง!!” …….. “เหตุใดถึงได้คิดว่ามันจะง่าย….?” ใบหน้าที่งดงามขององค์หญิงแวนดี้กล่าวถามสามีของเธอ “ก็ ไม่เห็นว่ามันจะยาก เจ้าอยากเป็นเพียงแค่ดัชเชส หรือว่าอยากเป็นจักรพรรดินีล่ะ” เธอถอนหายใจ “ท่านพี่วัลโด้ก็เหมาะสมในตำแหน่งจักรพรรดิแล้ว ข้าไม่คิดจะลงเล่นเกมการเมืองนี้กับท่านหรอกนะ!!” แบรฮาร์ทหัวเราะเบาๆ “ข้าคือสามี และเจ้าคือภรรยา ข้าเข้าใจดีว่าการแต่งงานของเรานั้นมันไม่ได้แต่งงานด้วยความรัก แต่ช่วยเข้าใจหน่อยเถิดว่าข้ากำลังทำเพื่อเจ้าอยู่” แวนดี้ส่งยิ้มที่ดูน่าสมเพชให้กับแบรฮาร์ท “ท่านมิได้ทำเพื่อข้าเลย ท่านทำเพื่อเมเบโล่ต่างหาก มันต้องยิ่งใหญ่ขนาดไหนงั้นหรือแบรฮาร์ท เมเบโล่ต้องมีอำนาจขนาดไหนถึงจะทำให้ท่านพึงพอใจ!!” “มากเท่าไหร่ก็ไม่พอที่รัก ข้าถึงต้องขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิยังไงล่ะ!” แวนดี้ส่ายหน้าเบาๆ เธอรู้สึกเหนื่อยกับสามีที่ไร้สติเช่นนี้เหลือเกิน “หากไม่ช่วย ก็ทำเป็นมองไม่เห็นก็พอ หากเจ้ามาขัดขวางข้าไม่ยอมอยู่เฉยๆ แน่นอน…” แบรฮาร์ทเดินออกจากห้องไปทันทีที่กล่าวจบ “ท่านดูอารมณ์ไม่ดี…” แบรฮาร์ทยกยิ้ม เขาโอบกอดสตรีร่างบางที่ยืนรอเขาอยู่หน้าห้อง พร้อมทั้งพาเธอเดินออกมา “มีภรรยาที่ไร้หัวคิดเช่นนั้นจะให้ข้าอารมณ์ดีได้อย่างไรกัน เอลลี่วันนี้เจ้าดูงดงามกว่าทุกวัน” “ท่านคงจะลืมไปว่าวันนี้คือวันงานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน ข้าต้องเข้าร่วมงานสิ…” แบรฮาร์ทพาเธอเข้ามาในห้องก่อนที่ทั้งสองจะจูบกันอย่างดูดดื่ม “ท่านดยุค ข้าต้องไปงาน….” “วางใจเถิด งานวันนี้จะถูกยกเลิก…” “อื้อ!! จะยกเลิกได้ยังไงกันคะ “ แบรฮาร์ทฉีกถุงน่องสีดำของเธอจนมันขาดออกจากกัน “เพราะในพระราชวังตอนนี้คงจะกำลังวุ่นกับองค์จักรพรรดินีที่ถูกวางยาพิษ” “อ๊า!! แต่ถึงยังไงข้าก็ต้องไปที่งาน ไม่งั้นท่านแม่โกรธข้าแน่!!” เพราะเธอคือเอลลี่ สตรีที่ดัชเชสเมเบโล่จะผลักดันให้เป็นพระชายาขององค์รัชทายาทมาเดลีน “ไม่ต้องสนใจท่านแม่หรอกน่า ข้าจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลเมเบโล่แล้ว เชื่อฟังข้าและถ่างขาของเจ้าให้กว้างๆ ก็พอ!!” เอลลี่กัดปากล่างของเธอพร้อมทั้งมองไปที่แบรฮาร์ทอย่างเร่าร้อน “หากท่านแม่รู้ว่าท่านพี่เข้าห้องข้า จะเป็นยังไงนะ…?” แบรฮาร์ทหัวเราะ “เหตุใดต้องใส่ใจ เราไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ สักหน่อย ข้าสามารถใส่แก่นกายของข้าไปในรูร่านของเจ้าได้อย่างไม่ผิดศีลธรรมหรอกน่า…” เอลลี่หัวเราะ ก่อนที่เธอจะดึงแบรฮาร์ทมากดจูบอย่างแรง เธอเป็นเพียงสตรีที่เกิดจากบารอนจนๆ แกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เห็นว่าใบหน้าของเธองดงาม ท่านจึงชุบเลี้ยงเธอให้เป็นบุตรสาวบุญธรรม เธอคือเมเบโล่คนหนึ่งที่สามารถยืนในชนชั้นสูงได้อย่างมีเกียรติ ตั้งแต่ที่เธออายุได้สิบสามปีเธอก็ลักลอบมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพี่ชายในนาม จวบจนตอนนี้ถึงเขาจะแต่งงานกับองค์หญิงที่สูงศักดิ์แล้วแต่เราก็ยังไม่อาจหยุดความสัมพันธ์ลับๆ นี้ได้ ในมุมของเอลลี่เธอชอบความตื่นเต้นเร้าใจเช่นนี้มาก เพราะไม่รู้ว่าท่านแม่และพี่สะใภ้จะล่วงรู้เรื่องของเธอกับพี่ชายตอนไหน…. การร่วมรักกันทุกครั้งมันจึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเบลล่าตื่นขึ้นมากลางดึก ไบรอันยังคงโอบกอดเธอเอาไว้ ส่วนเลโอนอนอีกฝั่งนึกตอนที่ทั้งสองคนมาเจอกันไม่ออกเลย แต่รอยช้ำที่แก้มของไบรอันก็บอกเธอได้ดี ว่ากว่าเลโอจะยอมคงจะตกลงกันนานพอสมควรเธอลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะมองไปด้านล่าง เบลล่ามองฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่องอย่างไม่มีทีท่าว่าจะแล้งเธอไม่ชอบเวลาฝนตกเลย มันเหมือนกับว่าบรรยากาศรอบข้างมันเศร้ายังไงไม่รู้เลโอลุกขึ้นจากเตียง เขาเดินมาโอบกอดเธอจากด้านหลัง“นอนไม่หลับอีกแล้วงั้นหรือ ไปเจออะไรที่วิหารมา”เธอถอนหายใจ“ข้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ข้าเห็นมันจะเป็นจริงรึเปล่า แต่ในอนาคตที่ไม่รู้ว่าระยะเวลามันจะอีกแค่ไหน ข้าจะตาย…”เบลล่าสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดที่แน่นขึ้นของเลโอ เขาพรมจูบที่ต้นคอของเธอไล่ลงไปจนถึงไหล่“นั่น!..อาจจะมีอะไรผิดพลาด ข้าจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่!”เธอยกมือขึ้นมากุมหน้าเขาเอาไว้“ข้ารู้เลโอ ว่าท่านจะต้องปกป้องข้า ข้าก็ไม่คิดจะยอมรับโชคชะตาเช่นนั้นเหมือนกัน การที่อาเชอร์บอกเรื่องนี้กับข้าแสดงว่าเขาอยากให้ข้าเป็นคนแก้ปัญหา…”“ข้าจะช่วยแก้ปัญหาด้วย!”ไบรอันลุกขึ้น เขาเดินมาหาเบลล่าพร้อมทั้งเอาคางเกยไว้ที่ไหล่ของเธอ“ตอนที่เจ้า
ไบรอันมองเบลล่าอย่างเป็นห่วง เขายกมือขึ้นมาแตะที่หน้าผากของเธอเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอมันกำลังแดง จริงๆ ไม่ใช่แดงแค่หน้าแต่แขนและคอของเธอมันแดงไปหมด“เบล ข้าควรไปตามนักบุญด้านนอกมารักษาเจ้า”“โพชั่นที่อาเชอร์ทำ ไม่มีเวทมนตร์ใดที่สามารถรักษาได้ มีแต่ต้องรอให้มันหายไปเองเท่านั้น!”อาการของเธอดูน่าเป็นห่วงจนไบรอันรู้สึกไม่ดีเลย ใบหน้าที่งดงามของเธอมันบิดเบี้ยวเพราะเธอกำลังเจ็บปวด“ล็อกห้องนี้แล้วพาข้ากลับเมบิล…”ไบรอันอุ้มเธอขึ้นมาเขาพาเธอเดินออกไปพร้อมกับปิดห้องให้เรียบร้อย แล้วรีบอุ้มเบลล่าไปที่รถม้า“อื้อ!!”เขาวางเธอลงบนรถม้า ตอนนี้ใบหน้าของเธอมันชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อ“ข้าควรจะตามหมอมารักษาเจ้า”เบลล่าส่ายหน้า“ไม่ต้อง!! ไปตามเลโอมาก็พอ อึก!!”ความปรารถนากำลังโจมตีเธออยากหนักจนขาทั้งสองข้างมันกำลังสั่นเทา เบลล่าสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่จุดกึ่งกลางจนเธอจนต้องหนีบขาเข้าด้วยกัน คอของเธอมันแห้งผาดราวกับว่าเธอกำลังกระหายน้ำ“แกรนด์ดยุคเขาจะรักษาเจ้าได้ยังไง เขาไม่ใช่หมอสักหน่อย”เธอกำลังหงุดหงิด เขาจะถามอะไรมากมายนัก แค่ไปทำตามที่เธอสั่งมันยากนักรึไง!!ไบรอันเห็นตัวของเบลล่ากำลังสั่นเทา
เลโอดึงเบลล่าไปกอด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความกังวลมากมายจากสายตาของเธอ“เบล ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอะไรรออยู่ ข้าจะเป็นคนปกป้องเจ้าเอง อย่าได้กังวลไปเลย”เธอกำกุญแจในมือเอาไว้แน่น แล้วโอบกอดเลโอ“เลโอ ท่านทำให้ข้ามีแรงสู้ขึ้นมา หากว่าไม่มีท่านข้าอาจจะซื้อเรือสำเภาสักลำแล้วหอบเงินขึ้นเรือหนีไป…”เลโอพรมจูบที่ซอกคอของเธอเบาๆ“เจ้าแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคิดมากนะเบล ไม่อย่างนั้นตอนที่พบกันครั้งแรกเจ้าไม่กล้ารับงานที่ข้าสั่งไปทำหรอก”ใบหน้าที่งดงามของเบลล่ายกยิ้มขึ้นมา เกือบลืมไปแล้วว่าในตอนแรกเธอและเลโอคือเจ้านายและลูกจ้าง“ยังเจ็บตรงไหนอยู่รึเปล่า?”มือของเขานั้นเริ่มซุกซนจนเธอต้องยกมือขึ้นมาห้ามเอาไว้“ไม่เจ็บแล้วค่ะ แต่ข้ายังเหนื่อยอยู่มาก…”“เช่นนั้นก็นอนกันเถิด”เขากลืนความอยากลงคอไปแล้วโอบกอดเธอเข้ามาในอ้อมแขน เสียงฝนที่ตกอย่างหนักราวกับเสียงเพลงที่ขับกล่อมให้เขาและเธอเข้าสู้ห้วงนิทราอย่างรวดเร็วยามเช้าที่ไร้แสงตะวัน เธอลืมตาขึ้นมาโดยปราศจากเงาของเลโอ เบลล่าลุกขึ้นมาแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เช้านี้ฝนตกปรอยๆ พอเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาเกือบเที่ยงวันน่าแปลกที่วันนี้เธอไม่รู้สึกง่วงแล้ว เบ
เลโอยกมือขึ้นมากุมมือของเบลล่าเอาไว้ เขามองเธอด้วยสายตาแห่งความเจ็บปวด ถึงอาเชอร์จะช่วยรักษาเธอแล้วแต่อวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างมาก จะต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูตัวเองที่ห้องข้างๆ ก็ตึงเครียดไม่แพ้กัน ถึงจักรพรรดินีจะได้รับยาพิษไปในปริมาณเล็กน้อย แต่นั่นก็เพียงพอที่ทำให้เธอสูญเสียลูกคนแรกไป ถึงแม้จะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่สภาพจิตใจของคิร่าแย่มากทีเดียวงานเลี้ยงด้านล่างยังคงดำเนินต่อไปไม่มีการยกเลิก…“พระองค์ควรจะลงไปข้างล่าง…ซ่อนความเจ็บปวดและอ่อนแอในใจเอาไว้ให้มิดชิด อย่าให้คนที่กระทำรับรู้ว่าเรากำลังเจ็บปวด”เอซยกมือขึ้นมาตบไหล่ของวัลโด้เบาๆ วัลโด้มองมาที่เลโอที่พยักหน้าให้เขาเขาสูญเสียลูกคนแรกไป ในตอนนี้ขาทั้งสองข้าจะยืนไม่อยู่แล้วด้วยซ้ำ แต่หากว่าเขาอ่อนแอ คนด้านหลังจะอยู่ได้อย่างไร ตอนนี้เขาถือเป็นผู้นำของทุกคนวัลโด้ถอนหายใจเขายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดคราบเหงื่อและน้ำตาบนใบหน้า ก่อนจะเดินลงไปด้านล่างพร้อมราชเลขา“สภาพเราทุกคน มันดู…แย่ไปหมด คนพวกนั้นฉลาดมาก พวกมันไม่ได้โจมตีแค่ร่างกายแต่โจมตีที่จิตใจของเรา…”โคลด์ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา ทำไมมันถึงเกิดเรื่องกับเบลล่าและคิร่าซ้ำแล้วซ้ำ
สตรีใบหน้างดงามที่เข้ามา..นั่นคือภรรยาของเขาไม่ใช่รึไง!!ชายที่เธอควงแขนอยู่นั่นก็ไม่ใช่โคลด์ แล้วไอ้เวรนั่นเป็นใครกันวะ!!!วัลโด้สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก ในห้องพอเขามองตามสายตาของเลโอไปก็พบกับผู้ที่เดินเข้ามาในงาน..นั่นมันองค์รัชทายาทมาเดลีนไม่ใช่รึไง ข้างกายของเขาคือสตรีใบหน้างดงามที่คุ้นตา เบลล่า!?“อย่าบอกว่านั่นคือองค์รัชทายาท?”เลโอกล่าวถามพร้อมทั้งชี้ลงไปด้านล่าง วัลโด้พยักหน้า เขาส่งยิ้มจางๆ ให้เลโอ“นี่มันเป็นไปตามแผนของเราเลยไม่ใช่รึไง เป็นเบลล่าก็ถือว่า…”“อย่าได้พูดอะไรเช่นนี้ออกมาอีก และอย่ามาคิดใช้ภรรยาของข้าเป็นหมากในกระดานนี้”เลโอกล่าวจบก็รีบเดินไปหาเบลล่าด้านล่าง วัลโด้ยักไหล่พร้อมกับหัวเราะเบาๆ“เอซ ไม่ลงไปรึไง?”เอซยกยิ้ม“กับเบลข้าไม่ห่วงนางแล้วล่ะ เมื่อคืนได้พูดคุยอะไรกับนางหลายๆ อย่าง ก็พอเข้าใจได้ ตอนนี้พระองค์ต่างหากที่ควรลงไปห้ามแกรนด์ดยุค ไม่ให้เขาทำร้ายองค์รัชทายาทมาเดลีน”วัลโด้ชะงักพร้อมกับมองไปที่บันได เลโอกำลังเดินอย่างรวดเร็วไปหาเบลล่าอ่า..ให้ตายเถอะ!!เขามองไปที่ราชเลขาเพื่อสั่งให้วงดนตรีบรรเลงเพลง แล้วรีบเดินลงไปด้านล่างตามเลโอไปติดๆ“นี่คงจะเป็
องค์จักรพรรดิวัลโด้ถอนหายใจเมื่อเขาเห็นจดหมายในมือ เขารู้สึกรำคาญเมเบโล่ยิ่งนัก แกรนด์ดัชเชสผู้นั้นยื่นเรื่องให้เขารับหลานสาวของนางขึ้นมาเป็นสนมเอกปัญหาก็คือแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่สนิทกับท่านพ่อนี่แหละ!! เขาไม่อยากผิดใจกับคิร่าเลยจริงๆ นางกำลังตั้งครรภ์ด้วยเขาไม่อยากทำให้นางคิดมากเลย“หากไม่อยากรับสตรีผู้นั้นมาพระองค์ก็แค่หาทางสร้างพรหมลิขิตให้นางกับชนชั้นสูงสักคน…”เลโอกล่าวพร้อมกับวางกระดาษรายงานเรื่องงบประมาณลงบนโต๊ะ“อันที่จริงข้าส่งนางไปเป็นภรรยาน้อยของแกรนด์ดยุคโอเว่นก็ได้นี่นา”“หากไม่กลัวว่าพระองค์จะสูญเสียกำลังทางทหารไปก็ลองดู”“อ่า ล้อเล่นหน่อยก็ไม่ได้งั้นหรือ?”“ข้าแนะนำทางแก้ไปแล้ว สุดแต่พระองค์จะตัดสินใจเถิด…”เลโอและวัลโด้ถูกเลี้ยงมาด้วยกัน ทำให้เลโอไม่นึกกลัวองค์จักรพรรดิ และวัลโด้ก็ไม่ได้นึกโกรธคำกล่าวของเลโอเลยเพราะเขามองเลโอเป็นพี่ชายมาโดยตลอดเอซยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม“เมื่อเช้ากิลข้อมูลส่งข่าวมาว่าอาร์ชดยุคกูเรี่ยนเคลื่อนไหวแปลกๆ เมื่อคืนหลังจากที่เบลล่ากลับมา โดโนแวนตามดูต่อ ปรากฏว่าแกรนด์ดัชเชสเมเบโล่เข้าไปพบกับอาร์ชดยุคที่โรงแรม…”เลโอแย่งแก้วเหล้าในมือของเอซมาดื่มจ
อาร์ชดยุคกูเรี่ยนพาสตรีใบหน้างดงามทั้งสองขึ้นโรงแรมไป ดูไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าผิดสังเกต เบลล่าเรียกให้โดโนแวนมาเฝ้าอาร์ชดยุคต่อ ส่วนเธอจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ พอมาถึงเมบิลก็มีบัตรเชิญจากพระราชวังส่งมา เปิดอ่านก็พบว่าคิร่าเชิญเธอไปที่งานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทมาเดลีน เธอโยนบัตรเชิญนั้นไว้บนโต๊ะก่อนจะล้มตัวลงนอนบนโซฟา ไม่อยากไปเลยแฮะ…เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนที่จะชอบเข้าสังคมของชนชั้นสูงอยู่แล้ว เบลล่าพยายามหลีกเลี่ยงงานเข้าสังคมมาตลอด เพราะเธอคิดว่ามันไร้สาระ “ท่านหญิงคะ ดยุคเอเซล่ามาขอเข้าพบค่ะ” รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเบลล่าเธอไม่ทันจะลุกขึ้นเอซก็เดินเข้ามาใจห้องแล้ว เบลล่าอ้าแขนออกเพื่อโอบกอดเขา “คิดถึงจะบ้าอยู่แล้ว!!” เอซกล่าวพร้อมทั้งจูบลงบนผมของเบลล่าอย่างแรง “เหตุใดถึงมายามนี้ ท่านก็รู้ว่าการเดินทางยามค่ำคืนมันอันตราย บ้านเรือนของเรามิได้อยู่ในช่วงที่สงบ…” “ตั้งแต่ข้าย้ายเข้าไปที่เดเลี่ยน ในใจมันก็ไร้ซึ่งความหวาดกลัวใดๆ อีกแล้ว ที่นั่นอยู่ติดกับชายแดน ข้าศึกพร้อมจะบุกเข้ามาทุกเมื่อ ที่หายไปก็เพราะข้าต้องเฝ้าดูการก่อสร้างกำแพงเมือง โชคดีที่ท่านแกรนด์ดยุคโอเว่นส่งทหารไปช่วยเป
ด้านนอกหน้าต่างฝนกำลังตกอย่างหนัก ค่ำคืนที่มืดมิดไร้แสงจันทร์ มีเพียงเสียงของเม็ดฝนที่ตกลงมาแรง พร้อมกับเสียงครางแว่วหวานในห้องผ้าปูที่นอนที่ยับเยินและเปียกชุ่มบ่งบอกได้ดีว่าสตรีและบุรุษบนเตียงนั้นร่วมรักกันอย่างรุนแรงแค่ไหน“อื้อ!! ไม่ไหวแล้ว!!”“หึ ใครจะยอมให้เจ้าเสร็จสมกันที่รัก…”เขาดึงแก่นกายออกมาจากทางรักที่เปียกชุ่มของเธอ ผิวกายที่ขาวราวกับหิมะนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ใบหน้าที่งดงามของเธอมีสีหน้าเจ็บปวดและโมโหในเวลาเดียวกัน ดวงตากลมโตของเธอมองมาที่เขาอย่างหงุดหงิด แพรขนตายาวเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา…ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านใบหน้าของเธอมันช่าง สาแก่ใจเขายิ่งนัก!!ไม่บ่อยที่เขาจะรู้สึกสนุกกับการร่วมรักเช่นนี้ อาจจะเป็นเพราะเขาต้องการและเฝ้ามองเธอมาอย่างยาวนานเขายกมือขึ้นมาชักรูดตัวตนของเขา พร้อมทั้งส่งสายตายั่วยวนไปให้เธอ…จนกว่าฝนในค่ำคืนนี้จะหยุดตก เขาจะไม่ยอมหยุดทรมานเธอแน่!!!……..“ให้ตายเถอะ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะตั้งครรภ์ได้ไวขนาดนั้น มีเจ้าเด็กตัวอ้วนอยู่ในนี้ใช่ไหม?”คิร่าหัวเราะให้กับท่าทางที่ประหลาดใจของเบลล่า เธอเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว“ไม่ท้องสิ
อาเชอร์ก้มมองดอกกุหลาบสีขาวในมือ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ตอนนี้เป็นเวลาเย็นมากแล้วท้องฟ้าเริ่มจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำเขาออกจากบ้านไปตั้งแต่เมื่อวานตอนเที่ยง…หลังจากเข้าไปด้านในเธอก็คงจะด่าเขาเช่นเดิมไม่สิ อาจจะหนักกว่าทุกวันทว่าทันทีที่อาเชอร์เข้ามาภายในบ้านก็มืดสนิท เขายกมือขึ้นมาร่ายเวทย์เพื่อจุดตะเกียงที่ต่างๆ ในบ้านอาเชอร์วางดอกไม้เอาไว้บนโต๊ะ เขาเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อไปหาโจลี่“เจ้า..กินข้าวรึยัง?”เขากลืนน้ำลายลงคออย่างคนที่รู้สึกผิด…อาเชอร์นั่งลงบนเตียงข้างๆ โจลี่“วันนี้ลูกดิ้นรึเปล่า ยังแพ้ท้องอยู่ไหม….”เขาชะงักเมื่อเห็นดวงตาของเธอบวมช้ำราวกับว่าผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก“โจลี่…ข้าขอโทษ ข้าไปทำงานมา…”“ทำงาน!! ท่านก็อ้างแต่ว่าทำงานตลอด อาเชอร์ท่านหายไปหนึ่งวันโดยที่ไม่บอกกล่าวข้าเลย!!”เธอลุกขึ้นมา แล้วยกมือทุบเขาอย่างแรง อาเชอร์ไม่ได้ตอบโต้เขาทำเพียงนั่งนิ่งๆ เพื่อให้เธอได้ระบายอารมณ์จนกว่าเธอจะพอใจ“เหตุใดถึงไม่หลบการโจมตีของข้า…”“ก็ข้าผิดจริงๆ นี่นา เจ้าทุบตีข้าได้เลย ทุบตีได้จนกว่าเจ้าจะหายโกรธ”เธอเม้มปากแน่น อาเชอร์ยกมือขึ้นมา บรรจงเช็ดน้ำตาให้เ