LOGINปกป้องกดลิฟท์เลือกชั้นปลายทางด้วยหัวใจที่แสนว้าวุ่น เขาก้าวช้าๆ กลับไปยังห้องพักของตน เดินจากส่วนของห้องโถงล่วงเข้าไปยังห้องนอน ไฟภายในห้องถูกเปิดเอาไว้แล้วด้วยฝีมือของนลินรัตน์ ทำให้เขามองเห็นเรือนร่างและหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราของผู้หญิงแปลกหน้าชัดเจน แต่ความงดงามพวกนั้นไม่ได้ทำให้ปกป้องพอใจเลย
เขากำมือแน่น ขบกรามด้วยความโกรธในตอนที่ยืนมองร่างเปลือยบางซึ่งยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง เธอนอนหลับอุตุด้วยสีหน้าอิ่มเอิบใจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของเธอ ทำให้เขาต้องบาดหมางกับว่าที่เจ้าสาวรุนแรงแค่ไหน เขาอยู่ในลู่ทางมาตลอด ไม่เคยนอกใจคนรักเลย
แต่เพราะผู้หญิงแรดร่านคนนี้ที่ทำให้เขาพลาด!
“ตื่น!” เขาตวาดเสียงดังลั่น “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้! ลุกขึ้นสิ นี่เธอเป็นใครกันแน่ฮะ!”
ทว่าหญิงสาวยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ทำให้เขาต้องคลานเข่าขึ้นไปและเขย่าร่างเธอ แต่เมื่อยังคงนอนนิ่งเหมือนตาย มือหนาจึงเลื่อนขึ้นไปตบแก้มนวลผ่องขาวซีดแรงๆ เธอนิ่ง ไม่ไหวติง ทำให้เขาหัวใจเต้นรัว พยายามตั้งสติแล้วก้มลงแนบหูลงบนทรวงอกเปลือยเปล่าของเธอ
“แม่งเอ๊ย! นึกว่าโดนเปิดซิงจนตายคาเตียง!”
ปกป้องสบถอย่างฉุนเฉียวระคนโล่งใจ
ชายหนุ่มยังคงเขย่าร่างนั้นต่อ หวังจะปลุกให้ตื่นขึ้นมาคุยกัน แต่ในเมื่อเธอหลับลึกเสียเหลือเกิน เขาจึงก่นด่าอีกยกใหญ่แล้วยอมถอยห่างออกมา
นี่ก็ดึกแล้ว ถ้าเธอไม่ยอมตื่นขึ้นมาให้คำตอบก็ไม่เป็นไร เพราะพรุ่งนี้เช้าเขาจะเค้นความจริงจากปากของเธอเองว่านึกครึ้มใจอะไรถึงได้เอาความบริสุทธิ์มาประเคนให้เขากินฟรีจนถึงที่แบบนี้
ปกป้องกระแทกเท้าเดินออกไปจากห้อง ตั้งใจจะยึดโซฟาข้างนอกแทนเตียงนอน เขาไม่ได้หลับ แน่นอนว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคงข่มตานอนไม่ได้แน่ ลองพยายามโทรศัพท์ไปหานลินรัตน์จนนับครั้งไม่ถ้วน เธอก็ไม่ยอมรับสาย
หัวใจของปกป้องร้อนรุ่มเหมือนต้องไฟ หากไม่ติดว่านี่คือยามวิกาล เขาคงบุกตามไปจนถึงที่บ้านของเธอแล้ว แต่ก็ต้องห้ามใจไว้ เขาอยากอธิบายทุกอย่างให้เธอฟังเสียก่อน ไม่ใช่ต้องไปพูดคุยกันต่อหน้าผู้ใหญ่ทางฝั่งเธอให้เกิดความขุ่นใจกัน
“พี่พลาดจริงๆ เหนือ พี่ไม่เคยคิดจะนอกใจเหนือเลย พี่ขอโทษ...” เจ้าของร่างแกร่งเอนตัวนอนราบลงไปบนโซฟาตัวยาว ยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากแล้วพึมพำเบาๆ อีกไม่นานเขาและเธอก็จะควงแขนกันเข้าสู่ประตูวิวาห์แล้ว แม้ทั้งคู่จะต่างกันทั้งฐานะและชาติตระกูล แต่เขาก็ดีใจเสมอที่เธอเลือกรักเขา
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ปกป้องก็อดคิดไม่ได้ว่าหรือนี่อาจจะเป็นความตั้งใจของใครสักคนที่คิดจะทำลายเขา เพราะก่อนที่นลิตรัตน์จะมาคบหากับเขา เธอหักอกนักธุรกิจหนุ่มนามว่าอติเดชจนใจสลาย ต้องบินหนีไปหลบเลียแผลใจที่ต่างประเทศนานหลายเดือน
หรือว่า... คนที่นอนอยู่บนเตียงในห้องจะเป็นนางนกต่อที่ถูกส่งมา หากเป็นแบบนั้นจริงๆ แสดงว่าอติเดชคงรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเขาเลยทีเดียว...
ร่างที่ไม่มีอาภรณ์สวมใส่สักชิ้นเริ่มกระสับกระส่ายด้วยความเหน็บหนาว ความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นก่อนนี้มลายหายไปจนสิ้น เธอขยับเปลือกตาที่หนักอึ้งปรือขึ้นทีละน้อย แล้วรีบปิดลงเมื่อแสงสว่างจากไฟบนเพดานห้องส่องกระทบดวงตาเข้า ต้องใช้เวลาเกือบอึดใจหนึ่งเลยทีเดียวกว่าจะปรับให้คุ้นชินกับความสว่างจ้านั่นได้
สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือเนื้อตัวที่เปลือยเปล่าล่อนจ้อน เธอไม่ได้สวมอะไรเลย แม้แต่ผ้าห่มก็ยังหล่นไปกองอยู่บนพื้นข้างเตียงนอน หญิงสาวครางแผ่วเมื่อรู้สึกถึงแรงบีบรัดบนศีรษะ ในตอนที่ขยับตัวลุกขึ้น แต่ความปวดหนึบตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างทำให้เธอชะงักงัน หัวใจกระตุกวาบในตอนที่เริ่มนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป
“นี่มันอะไรกัน ทำไม...”
เสียงแหบโหยพึมพำ รีบสำรวจตัวเองแล้วพบว่ามีคราบเลือดแห้งกรังติดอยู่ ‘ตรงนั้น’
“ไม่นะ...” เธอยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ ไม่มีเวลาสำหรับสิ่งอื่นใดอีก ไม่แม้แต่จะยอมปล่อยให้ตัวเองร้องไห้ออกมาด้วยซ้ำ
ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลนรีบประคองตัวเองลงจากเตียง พยายามยืนหยัดให้ได้บนขาที่อ่อนแรงทั้งสองข้าง แล้วคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวม
แม้จะยังตกใจจนจัดการกับความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ทว่าเธอก็เกือบถอนหายใจออกมา เมื่อเห็นว่าอย่างน้อยคนทำก็ยังสวมถุงยางอนามัย
เธอไม่เห็นกระเป๋าสะพาย ไม่มีแม้กระทั่งโทรศัพท์ ไม่ยอมเสียเวลาตามหามันด้วยซ้ำ รีบก้าวออกมาจากห้องด้วยความกระวนกระวาย แต่เมื่อสายตามองไปเห็นร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา เธอก็ชะงักฝีเท้าลงเพียงแค่นั้น ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
ดูเหมือนเขาคงกำลังหลับสนิทเพราะดูไม่ได้สนใจอะไรเลยกับการที่ถูกเธอจ้องมอง เธอมองเห็นแค่เงา รู้จักเขาเพียงแค่รูปร่างโดยรวมเท่านั้น เพราะตอนนี้ภายในห้องโถงกว้าง มืดมิดเกินกว่าจะรู้ว่าผู้ชายที่ได้ความบริสุทธิ์ของเธอไปคือใคร
และเธอไม่สน ไม่อยากรู้ด้วยว่าเขาคือใคร รู้เพียงอย่างเดียวคือต้องรีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เธอยังมีเวลาอีกมากมายให้คร่ำครวญเสียใจ แต่มันไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ที่นี่
เธอก้าวออกไปด้วยความเจ็บปวดที่แทงลึกในอก ปลอบใจตัวเองซ้ำไปซ้ำมาว่าสุดท้ายแล้ว เรื่องคืนนี้ต้องถูกฝังลืม เธอจะยืนหยัดได้ใหม่ ก้าวต่อไปโดยไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในคืนนี้
หวังว่าเขาเองก็คงจะลืมมันด้วยเช่นกัน ป่วยการที่จะจดจำความสัมพันธ์ชั่วครั้งชั่วคืน ทั้งเขาและเธอจะจมจ่อมอยู่กับมันไม่ได้เด็ดขาด
ขอให้เขาและเธออย่าได้พบเจอกันอีกเลย!
ปกป้องหัวเสียแทบบ้า เมื่อสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนที่รุ่งอรุณเคลื่อนตัวมาเยือน เขารีบลุกจากโซฟา ก้าวยาวๆ ตรงไปในห้องนอนที่หลงเหลือเพียงแค่ภาพจำอันเร่าร้อนและความว่างเปล่าของเรือนร่างนั้นชายหนุ่มสบถหยาบคาย เตะประตูห้องซ้ำๆ ด้วยความโกรธ แม่สาวน้อยร่านสวาทนั่นตีปีกบินหนีไปแล้ว เขาจะไม่มีวันได้ความจริงจากปากของเธอแน่“ระยำเอ๊ย! พลาดซ้ำแล้วซ้ำอีกได้ยังไงวะ ไอ้ป้อง!”เขาก่นด่าตัวเอง ทิ้งตัวนั่งลงตรงขอบเตียงแล้วสอดนิ้วมือเข้าไปจิกผมแน่น ใบหน้าคมคายแดงก่ำ ยังคงก้าวผ่านความผิดพลาดไม่ได้จนต้องอัดกำปั้นรัวใส่ที่นอนไปจนเหนื่อยหอบ เขาตะโกนลั่น โกรธจัดจนคุมอารมณ์ไม่อยู่หลังเดินวนไปวนมา สงบสติอารมณ์อยู่นาน ปกป้องถึงได้พาตัวเองกลับลงไปข้างล่าง จัดการเช็กเอาต์ตรงเคาน์เตอร์แล้วรีบผลุนผลันออกไปเขายังไม่ได้ไปหานลินรัตน์ที่บ้าน แต่กลับไปที่บ้านแดนหทัยเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเสียก่อน เขาไม่พูดกับพี่ชายสักคำด้วยซ้ำ ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใคร กระนั้นอีกฝ่ายก็ยังไม่วุ่นวายไม่เลิก“เมื่อคืนทำไมไม่กลับบ้าน ฉลองวันเกิดเพลินหรือไง”ปิติผู้เป็นพี่ชายต่างมารดาที่ทำตัวเสมือนพ่อคนที่สองถามขึ้นนับตั้งแต่บุพก
ปกป้องกดลิฟท์เลือกชั้นปลายทางด้วยหัวใจที่แสนว้าวุ่น เขาก้าวช้าๆ กลับไปยังห้องพักของตน เดินจากส่วนของห้องโถงล่วงเข้าไปยังห้องนอน ไฟภายในห้องถูกเปิดเอาไว้แล้วด้วยฝีมือของนลินรัตน์ ทำให้เขามองเห็นเรือนร่างและหน้าตาจิ้มลิ้มพริ้มเพราของผู้หญิงแปลกหน้าชัดเจน แต่ความงดงามพวกนั้นไม่ได้ทำให้ปกป้องพอใจเลยเขากำมือแน่น ขบกรามด้วยความโกรธในตอนที่ยืนมองร่างเปลือยบางซึ่งยังคงหลับสนิทอยู่บนเตียง เธอนอนหลับอุตุด้วยสีหน้าอิ่มเอิบใจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของเธอ ทำให้เขาต้องบาดหมางกับว่าที่เจ้าสาวรุนแรงแค่ไหน เขาอยู่ในลู่ทางมาตลอด ไม่เคยนอกใจคนรักเลยแต่เพราะผู้หญิงแรดร่านคนนี้ที่ทำให้เขาพลาด!“ตื่น!” เขาตวาดเสียงดังลั่น “ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้! ลุกขึ้นสิ นี่เธอเป็นใครกันแน่ฮะ!”ทว่าหญิงสาวยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ทำให้เขาต้องคลานเข่าขึ้นไปและเขย่าร่างเธอ แต่เมื่อยังคงนอนนิ่งเหมือนตาย มือหนาจึงเลื่อนขึ้นไปตบแก้มนวลผ่องขาวซีดแรงๆ เธอนิ่ง ไม่ไหวติง ทำให้เขาหัวใจเต้นรัว พยายามตั้งสติแล้วก้มลงแนบหูลงบนทรวงอกเปลือยเปล่าของเธอ“แม่งเอ๊ย! นึกว่าโดนเปิดซิงจนตายคาเตียง!”ปกป้องสบถอย่างฉุนเฉียวระคนโล่งใจชายหนุ่
ต้นรักที่ปลูกและดูแลเอาใจใส่มาตลอดสองปีจนเติบโตเต็มที่ ผลิบานจนถึงเวลาที่ต้องเก็บเกี่ยว คืนนี้สาวพรหมจรรย์ตั้งใจจะมอบความบริสุทธิ์ให้แก่ชายคนรัก อีกไม่กี่เดือนทั้งคู่ก็จะแต่งงานกัน ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างที่ใฝ่ฝัน แต่เนื่องด้วยวันนี้คือวันเกิดของเขา เธอจึงตัดสินใจใช้ตัวเองผูกโบเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ที่เขาอยากได้มาตลอดนลินรัตน์ ชาตรี บีบมือที่เย็นเฉียบของตัวเองแน่น เมื่อแท็กซี่เลี้ยวเข้าไปจอดที่หน้าโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง หัวใจของหญิงสาวเต้นรัวไม่เป็นส่ำ ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น เพราะได้ยินมาจากเพื่อนสาวทั้งหลายว่าครั้งแรกเจ็บปวดไม่ใช่น้อย ถ้าเจอผู้ชายที่ไม่ใจเย็นนุ่มนวลก็อาจเข็ดหลาบไปอีกนาน แต่เธอเชื่อใจเขา มั่นใจว่าผู้ชายที่รักจะต้องทะนุถนอมเธอดุจแก้วที่ง่ายต่อการแตกร้าวแน่นลินรัตน์เปิดโทรศัพท์เข้าแอปพลิเคชันไลน์ ทวนดูอีกครั้งว่าชายหนุ่มนัดเธอไว้ที่ชั้นไหนและห้องใด พวงแก้มขาวผ่องแดงเรื่อขึ้นอีก เมื่อเห็นข้อความที่บอกว่าเขาจะรออยู่โดยไม่สวมสิ่งใดติดกายเลยสักชิ้น ประตูห้องไม่ได้ล็อกเอาไว้ด้วย ทันทีที่เธอเปิดเข้าไปทุกอย่างก็จะเริ่มต้นทันที เขาสัญญาว่าจะไม่เปิดไฟสว่างจ้าจนเธอประหม่าแน่นอน“เอาน่า อย่
น้ำสีอำพันถูกสาดลงคอครั้งแล้วครั้งเล่า ความแสบร้อนของแอลกอฮอล์ที่ลามไหลลงไปทำให้ใบหน้าคมคายดูเหยเกเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงช่วงเวลาอันหอมหวานที่ใกล้จะมาถึง เขาก็ยิ้มกริ่มและหัวใจเต้นรัวด้วยความพึงพอใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเกิดในวัยสามสิบปีเต็มของเขา แฟนสาวที่คบกันมานานจึงตัดสินใจว่าจะยอมมอบตัวเธอเพื่อเป็นของขวัญชิ้นโบแดง เขาอยากให้ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างงดงามและเป็นส่วนตัว ไม่มีสายตาของพี่ชายคอยจ้องมอง จึงไม่ได้นัดให้เธอไปพบที่บ้าน ทว่าขอให้มาสร้างช่วงเวลาดีๆ ร่วมกันที่โรงแรมหรูแห่งนี้แทนประตูที่เปิดเข้ามาแล้วตามด้วยเสียงก้าวเดินของรองเท้าส้นสูง ดึงความคิดของปกป้องให้กลับมาจดจ่ออีกครั้ง เขายิ้ม ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปปิดไฟในห้องให้มืดลง นั่นเพราะรู้ดีว่าแฟนสาวเป็นคนขี้อายมาก ครั้งแรกแบบนี้เขาไม่อยากให้เธอประหม่าจนล้มเหลว จึงเลือกที่จะปิดไฟจนเกือบหมด มองเห็นแค่เพียงเงาสลัวของร่างอรชรบอบบางเท่านั้น“ดื่มมาด้วยเหรอ ย้อมใจสินะ” เสียงห้าวทุ้มทักท้วง เขาไม่ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากตัวเธอ แต่การยืนหยัดที่ไม่มั่นคงทำให้ตีความได้ว่าเธอกำลังเมา ปกติเธอไม่ค่อยดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้มึนเมานัก แต่ครั้งน







