Share

ปากหอยปากปู(2)

การกระทำของหว่านชิงก็ได้ทำให้ลูกสะใภ้ทั้งสองและลูกเขยต่างพากันงุนงงกับการกระทำเช่นนี้ เจ้าตัวเล็กสองคนเมื่อเห็นยายผู้ใจดีคำนับไปทางนั้นเด็กน้อยสองคนก็ทำตาม

เพราะพวกเขาคิดว่าจะต้องเกี่ยวกับน้าเหยาที่เป็นเทพธิดานางฟ้าอย่างแน่นอน ซูเหยาตัวต้นเรื่องก็ได้แต่ขอโทษแม่ของร่างนี้ในใจ

เมื่อเกวียนทั้งสองเล่มเดินไปไกลแล้ว มู่หานที่กำลังเหม่อมองเกวียนจากไป เมื่อเขาหันมาอีกทีก็ได้มีจักรยานมาจอดอยู่ด้านหลังของเขาแล้ว

“จะ..จักรยาน มาได้ยังไงครับ” มู่หานพูดตะกุกตะกัก ถามออกมาด้วยความสงสัยหน้าตาตื่น

“คุณขี่ ฉันจะนั่ง เมื่อใกล้ถึงหมู่บ้านก็ค่อยจอด” ซูเหยาไม่คิดจะอธิบายอะไรให้กับมู่หานฟังทั้งสิ้น แต่เมื่อถูกถามก็ต้องตอบ

“ฉันขอเจ้าแม่มาค่ะ คุณเชื่อไหม” ซูเหยาพูดออกมาอย่างใส่ซื่อ ตอนนี้มีอะไรก็อ้างชื่อเจ้าแม่ไปก่อนก็แล้วกัน

“ช..เชื่อครับ ถ้าอย่างนั้นเรารีบไปกันเถอะ เผื่อเจ้าแม่เปลี่ยนใจเอาจักรยานคืนคุณจะเหนื่อย” มู่หานรีบละล่ำละลักพูดกับภรรยา

โดยซูเหยาได้เอาหมวกออกมาให้มู่หานและตัวเองใส่ด้วยเป็นหมวกที่มีผ้าโปร่งปิดบังสายตาคนนอก มู่หานก็รับไปใส่แต่โดยดี

“คุณขี่เป็นแน่นะ ทำไมมันส่ายไปมาแบบนี้กัน” ซูเหยาถาม มู่หานออกมาเสียงดัง พร้อมกับที่เธอก็กอดเอวมู่หานแน่น

มู่หานที่โดนภรรยากอดเอว ก็รู้สึกว่าใบหน้าของเขาร้อนผ่าวมาก และมือของเขาที่จับมือบังคับจักรยานทั้งสองข้างก็ชื้นเหงื่อด้วยความตื่นเต้น หัวใจเต้นกระหน่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“คะ..คุณเชื่อผมนะ ผมไม่ทำให้คุณล้มไปกับผมอย่างแน่นอน” มู่หานพูดตะกุกตะกักออกมาเสียงสั่น

“คุณไม่สบายหรือเปล่า น้ำเสียงคุณสั่นพิกล” ซูเหยาที่ยังไม่รู้ตัว ว่าได้ทำให้สามีในนามเขินอาย จากการที่ถูกเธอโอบกอดถามออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร ผมสบายดี” มู่หานพยายามควบคุมอารมณ์ของตน แล้วตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงขึ้น

“ถ้าคุณไม่สบายคุณต้องรีบบอกฉันเลยนะ ฉันจะได้พาคุณไปหาหมอหรือหายาให้กิน” ซูเหยาก็พูดออกมา โดยที่ไม่รู้ว่าคำพูดที่เธอคิดว่าแสนธรรมดานั้น ได้ทำให้ใจของมู่หานฟูฟ่องไปแล้ว เพราะคิดว่าเธอเป็นห่วงเขามาก

ตอนนี้มู่หานเริ่มขี่จักรยานได้คล่องมากขึ้นแล้ว ซูเหยาจึงเริ่มสบายใจขึ้น แต่มือของเธอก็ยังคงโอบเอวของมู่หานต่อไป

“คุณเราใกล้จะถึงหมู่บ้านแล้ว” มู่หานบอกกับซูเหยาที่เอาหัวพิงหลังตนในยามนี้

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็จอดเถอะค่ะ เจ้าแม่จะได้เก็บจักรยานคืน และคุณก็คอยดูต้นทางด้วย” ซูเหยาเอานิ้วไขว้กันด้านหลังพูดออกมาหน้าซื่อตาใส

มู่หานเมื่อจอดจักรยานเรียบร้อย เขาก็สอดส่ายสายตาตามที่ภรรยาต้องการ แต่เมื่อเขาหันกลับมาอีกทีจักรยานที่เคยจอดอยู่ก็ได้หายไปแล้ว

ตอนนี้เขาเชื่อหมดใจแล้วว่า ภรรยาของเขาในตอนนี้ต้องเป็นเทพธิดามาเกิดในร่างของซูเหยาคนเดิมอย่างแน่นอน และยังได้มาเป็นภรรยาของเขาอีก

“ผมสัญญานะซูเหยาว่าผมจะปกป้องคุณให้ดี และจะไม่ให้ใครรู้ความลับของคุณอย่างแน่นอน” มู่หานพูดออกมาจากใจของเขา

และเมื่อเขาพูดจบฟ้าก็ผ่าเปรี้ยงลงมา ห่างจากที่เขาสองคนยืนอยู่ไม่มากนัก การกระทำแบบนี้ยิ่งย้ำเตือนมู่หานให้เชื่อได้อย่างหมดใจในสิ่งที่ตนคิดอีกครั้ง

“เป็นอย่างไรของขวัญจากระบบถูกใจไหมครับ” เสียงโมโนโทนดังขึ้นในหัวของซูเหยา ผู้ซึ่งยังไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้น

“คุณต้องปกป้องฉันมันก็ถูกแล้วนี่คะ เพราะคุณเป็นสามี”   ซูเหยาก็พูดออกมาด้วยความใสซื่อ

“ใช่ครับ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้คุณภรรยาก็เดินเข้าหมู่บ้านกับผมเถอะ ป่านนี้ผมว่าครอบครัวคุณน่าจะถึงที่ดินที่สร้างบ้านแล้ว” มู่หานพูดกับภรรยาคนใหม่ที่ดูเหมือนบางครั้งจะฉลาด บางครั้งก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย โดยเฉพาะเรื่องสามีภรรยากับเขา

“คุณนำไปเลยค่ะ ฉันเดินตามเอง” ซูเหยาที่หายจากอาการเมาเกวียนแล้ว พูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

ทั้งสองคนเดินเข้าไปในหมู่บ้านกันเรื่อยๆ จนมาถึงต้นไม้ใหญ่กลางหมู่บ้าน ที่มีบรรดาหญิงว่างงานขาเม้านั่งกันอยู่ซึ่งจิวเหลียนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

สาเหตุที่ซูเหยาจำหญิงผู้นี้ได้ ก็เพราะรูปร่างอันอุดมสมบูรณ์มีอันจะกินตามที่เจ้าตัวได้บอกไว้นั่นแหละ

“อัยยะ น้องสะใภ้คนงามทำไมหล่อนถึงไม่นั่งเกวียนมาพร้อมกับที่บ้านล่ะจ๊ะ หรือว่าหล่อนถูกคนที่บ้านรังเกียจกัน” จิวเหลียนผู้ไม่รู้จักหลาบจำ จีบปากจีบคอพูดออกมาพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะซูเหยาด้วยความสะใจ

“คุณจิวเหลียนคะ ฉันขอแนะนำด้วยความหวังดีนะคะ เรื่องบางเรื่องถ้าคุณไม่รู้ความจริงก็อย่าเที่ยวพูดไป เพราะบางทีเรื่องนั้นมันอาจจะย้อนกลับมาหาคุณ แล้วทำให้คุณหน้าแหกเอาได้

และฉันขอแนะนำอีกครั้งด้วยความหวังดีจากใจเลยนะคะ คุณเอาเวลาว่างไปนั่งเฝ้าสามีของคุณดีกว่าที่จะมายุ่งกับเรื่องของคนอื่น” ซูเหยาพูดกับจิวเหลียน แม้ว่าถ้อยคำที่พูดจะสุภาพแต่มันก็เสียดแทงคนฟังอยู่ไม่น้อย

“สามีคะ เราเดินกันต่อเถอะค่ะ ฉันไม่อยากสนใจคนปากหอยปากปู ที่มีปากก็พูดไปเรื่อย โดยไม่รู้อะไรจริงหรือเท็จ”  ซูเหยาเรียกมู่หานเสียงหวาน พร้อมกับจูงมือของมู่หานให้เดินไวขึ้น

มู่หานที่โดนภรรยาคนงามจับจูงก็เดินตามแต่โดยดีเหมือนกับเขาไม่ได้เดิน แต่เหมือนกับว่าเขาได้ลอยตามภรรยาอย่างไรอย่างนั้น มือภรรยาของเขาช่างนุ่มเสียจริง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่หก สามหนุ่มหล่อแห่งเมืองหลวงผู้แตกต่าง

    หนุ่มน้อยคนเล็กของครอบครัวเทียนที่ตอนนี้ได้ก้าวเท้าเข้าสู่การเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่ง คณะบริหารธุรกิจตามที่ตัวเองต้องการ เช่นเดียวกับชายหนุ่มผู้เป็นลูกชายคนโตของซูหลงที่ต้องการจะเป็นพ่อครัวอันดับหนึ่งตามรอยเท้าของคนเป็นพ่ออีกหนึ่งก็คือบุตรชายคนโตของครอบครัวเจียงสามที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่สมาชิกครอบครัวนี้ก็มีเพียงเจียงเจ๋อที่มีครอบครัว ซึ่งตอนนี้เจียงฮวนได้มีน้องสาวน้องชายมาเพิ่มอีกอย่างละหนึ่งทั้งสามคนมีบุคลิกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแต่ก็ยังคงสนิทกัน เนื่องจากทั้งสามมีอายุไล่เลี่ยกันเกิดก่อนหลังห่างกันไม่มากทำให้ได้อยู่ปีเดียวกันเทียนหยุนนั้นเป็นเหมืนเมฆตามชื่อล่องลอยอย่างอิสระ แต่ในเรื่องความรับผิดชอบเขามีเต็มร้อยเนื่องจากได้รับการฝึกฝนมาจากผู้เป็นแม่และพ่อในการทำงานซูตงที่แม้จะมีบุคลิกหนาวเหน็บตามชื่อแต่เมื่อไหร่ที่ได้ทำอาหารหรือขนมชายหนุ่มผมยาวผู้นี้จะมีความอ่อนโยนดุจสายน้ำคนสุดท้ายเจียงฮวนชายหนุ่มผู้มีความนิ่งมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเขาก็มักจะทำตัวนิ่งอยู่เสมอต้นเสมอปลาย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่ห้า สองพี่น้องผู้โดดเดี่ยว2

    ชายหนุ่มที่โดนหญิงสาวคนนี้กอดขาของตนเขาก็ตกใจ แต่เมื่อเห็นอาการอันสั่นเทาของหญิงสาวฮุ่ยหมิ่นก็รู้สึกเห็นใจผู้หญิงคนนี้ไม่น้อย ทำให้เขาก้มตัวลงไปจับไหล่บางของหญิงสาวด้วยมือทั้งสองข้าง“สหายตอนนี้คุณปลอดภัยแล้ว” เสียงอันอ่อนโยนของชายหนุ่มปลอบหญิงสาวที่ยังไม่ยอมลืมตาด้วยความเห็นใจเมื่อหญิงสาวผมสั้นได้ยินเสียงอันทุ้มนุ่มที่อยู่เหนือศีรษะของตนหญิงสาวก็ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ พร้อมกับลืมตามองสิ่งที่ตัวเองกอดอยู่ก็เห็นเป็นกางเกงสีเขียวของทหารฉินเซียวซานเมื่อเห็นแบบนี้หล่อนจึงได้ผละตัวออกทันทีก่อนที่ตัวเองเกือบจะนั่งลงไปกับพื้นหิมะโชคดีที่ว่าชายหนุ่มจับไหล่ของเธอเอาไว้ ทำให้หล่อนไม่นั่งจ้ำเบ้าลงไปบนพื้นอันเย็นเฉียบ“สหายระวัง” ฮุ่ยหมิ่นกล่าวออกมาเสียงดังด้วยความตกใจที่หญิงคนนี้อยู่ ๆ ก็ผละออกจากเขากะทันหันหญิงสาวผมสั้นเมื่อได้ยินเสียงของคนพูดหล่อนจึงได้แหงนหน้าของตนมองขึ้นไปด้านบน ทำให้ดวงตากลมโตของเธอสบกับดวงตาเรียวคมดุของคนเบื้องหน้าที่กำลังมองเธออยู่เช่นกันในช่วงเวลาที่คนทั้งสองกำลังสบตากั

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่ห้า สองพี่น้องผู้โดดเดี่ยว1

    หิมะตกหนักท่ามกลางฤดูหนาวอันโหดร้ายของปีที่ภัยพิบัติได้มาเยือนในเขตภาคเหนือของประเทศทำให้ทหารต้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อันห่างไกลการเดินทางไปช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้มู่ซือกับฮุ่ยหมิ่นที่ได้เลื่อนตำแหน่งไปด้วยกันเป็นทีมแรก ท่ามกลางหิมะกองสูงพวกเขาจะต้องเดินฝ่าเพื่อไปยังหมู่บ้านเบื้องหน้าที่มีคนติดต่อมาว่าได้ถูกหิมะถล่มหลังคา ทำให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมากและยังมีอีกหลายชีวิตที่ติดอยู่ภายใต้ซากหลังคาที่ถล่มทำให้หน่วยงานของพวกเขาจำเป็นต้องให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แต่การเดินทางฝ่าหิมะไม่ใช่เรื่องง่ายในระหว่างที่ทหารในกลุ่มของสองพี่น้องกำลังเดินทางพวกเขาก็ได้ยินเสียงของสุนัขป่าเห่ากรรโชกเสียงดังเหมือนข่มขู่อะไรบางอย่างด้านหน้าห่างจากพวกเขาไม่มากนัก ทำให้คนในกลุ่มพากันเร่งฝีเท้าของพวกตนให้เร็วขึ้น ท่ามกลางฝูงหมาป่าหกตัวที่ล้อมหญิงสาวสองคน หนึ่งในนั้นเป็นคนที่สองพี่น้องย่อมจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี“เจินเจินพวกเราจะทำยังไงกันดีจะไปตามคนมาช่วยดันจะมากลายเป็นอาหารหมาป่าเข้าเสียได้” เสียงหญิงสาวผมสั้นท่าทางทะมัดทะแมงกล่าวกับเพื

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สี่ กลิ่นคาวเลือดก่อเกิดรัก 2

    ภายนอกถ้ำที่โจรทั้งหกนั่งรอบกองไฟที่พวกมันก่อ บัดนี้ได้มีทหารกลุ่มหนึ่งกำลังโอบล้อมพวกมันตามที่เทียนเฉินได้คาดการณ์เอาไว้“ผู้กองหานพวกเราจะรอถึงเมื่อไหร่ครับ” มู่ซือถามกับครูฝึกของตนด้วยความร้อนใจ เนื่องจากเป็นห่วงน้องชายที่อาสาเป็นตัวประกัน“เกือบได้เวลาแล้วนายก็ใจเย็นลงสักหน่อยเถอะ นายต้องเชื่อใจเทียนเฉินสิ” คนที่เป็นทั้งครูฝึกและกำลังจะเป็นน้องเขยของคนตรงหน้ากล่าว“ผมทราบครับแต่นั่นน้องชายผมนะครับ หากผมใจร้อนป่านนี้ผมบุกเข้าไปแล้ว” คนเป็นว่าที่พี่เมียแย้งพวกเขาซุ่มดูพวกมันมาจะครึ่งคืนแล้วไม่เห็นวี่แววว่าโจรร้ายพวกนี้จะหลับสักที หานจ้านจึงได้นึกถึงสมุนไพรที่มีฤทธิ์ทำให้คนสลบออกมา“มู่ซือนายเอาเจ้านี่ไปเผาให้ควันไปทางพวกมันนะรับรองพวกมันหลับแน่ ไม่หลับก็อาจจะสะลึมสะลือใช้ระวังหน่อยก็แล้วกันผลงานน้องสาวนายเลยนะ” คนเป็นหัวหน้ากลุ่มกล่าวออกมาด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจมู่ซือแม้อยากจะพูดอะไรแต่เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมดังนั้นเขาจึงได้นำสหายร่วมรบไปกับตนอีกสองคนเพื่อไปทำตามคำสั่ง

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สี่ กลิ่นคาวเลือดก่อเกิดรัก 1

    ยามเย็นย่ำท่ามกลางป่าใหญ่ที่ปราศจากเสียงร้องของสัตว์ เทียนเฉินผู้ที่ได้ปลอมตัวเป็นหนึ่งในตัวประกันที่ถูกผู้ร้ายค้าอาวุธเถื่อนจับตัวมาพร้อมกับกลุ่มคนอีกสี่คนหนึ่งในนั้นมีหญิงสาวใบหน้ากลมดวงตาเรียวเล็กอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เทียนเฉินคิดว่าเด็กคนนี้บางทีน่าจะเป็นเด็กวัยมัธยมที่ถูกเจ้าชั่วพวกนี้จับมา“ลูกพี่อีกนานไหมกว่านายใหญ่จะมา” เสียงของหนึ่งในพ่อค้าอาวุธดังขึ้นขัดความคิดของเจ้าหน้าที่หนุ่มที่ตอนนี้แต่งตัวเหมือนคนทำงานในหน่วยงานวิจัยขององค์กรบางอย่างที่คนร้ายพวกนี้ต้องการตัว“นายก็รอหน่อยเถอะอีกไม่นานเจ้านายก็น่าจะมาแล้ว ว่าแต่ทำไมตัวประกันของเราถึงมีเด็กมาด้วยวะ” ชายหน้าบากที่ถูกเรียกว่าลูกพี่ถามกับลูกน้องที่มีอาวุธปืนอยู่ในมือหลังจากที่มองไปยังหญิงสาวร่างเล็กใบหน้ากลม“ก็ฉันเห็นว่าหล่อนอยู่กับเจ้าหน้าที่พวกนี้ก็เลยจับมาทั้งหมด แต่พี่ว่าหล่อนยังเป็นนักเรียนอยู่เหรอ หรือว่าจะปล่อยหล่อนไปเด็กขนาดนี้คงจะบอกตำรวจหรือทหารอะไรได้ไม่มากหรอก” คนพูดเป็นชายที่มีลูกสาวอยู่ในวัยมัธยมถามความเห็นกับลูกพี่ใหญ่“แกจะบ้าเหรอห

  • ซูเหยาเมื่อฉันกลายเป็นแม่เลี้ยงผู้โหดร้าย   ตอนพิเศษที่สาม แม่คุณจะรับฉันได้จริง ๆ เหรอ 2

    มิเชลรู้สึกว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นความฝันที่ไม่ใช่ความจริงหากเป็นความฝันหญิงสาวก็ไม่คิดอยากจะลืมตาตื่นชายหนุ่มที่ฉุดหญิงสาววิ่งมาไกลแล้วจึงได้รู้สึกเบาใจว่าไม่น่าจะมีคนตามพวกเขามาทัน เขาจึงได้ปล่อยข้อมือของหญิงสาวคนนี้ลง“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” หลังจากที่เขาปล่อยมือของตนแล้วชายหนุ่มก็มองหน้าหญิงสาวที่ตอนนี้แม้จะยังสวมแว่นตาอยู่แต่ด้วยการที่พวกเขาวิ่งกันมาไกลก็ยังพอเห็นใบหน้าอันแดงเรื่อจากแสงไฟทำให้ใบหน้านั้นดูน่ารักเทียนเฟยรู้สึกตกใจความคิดของตัวเองอยู่ไม่น้อยนี่เขาชมคนอื่นนอกจากน้องสาวของตน ทางด้านหญิงสาวที่กำลังรู้สึกเขินอายได้มองเห็นอาการเลิ่กลั่กของชายหนุ่มมาดนิ่งหล่อนก็หลุดยิ้มออกมาก่อนที่จะตอบชายที่อยู่ในความทรงจำออกไป“ฉันไม่เป็นไรค่ะแค่รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย” หญิงสาวรู้สึกเหนื่อยหอบตามที่ตนพูดไปจริง ๆ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ คุณพักอยู่ที่ไหนให้ผมไปส่งเถอะผู้หญิงเดินคนเดียวยามค่ำคืนน่าเป็นห่วง” เทียนเฟยกล่าวตามที่ตัวเองรู้สึก“คือฉันพักอยู่ที่...มันจะสะดวกสำหรับพี่หรือเปล่าคะ” หล่อนแทนตัว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status